ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 40.26 จุด ขานรับยอดขาดดุลการค้าสหรัฐร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 06:55:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขานรับยอดขาดดุลการค้าสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังจากตัวเลขส่งออกพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการขยายโครงการลดหย่อนภาษี

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 40.26 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 11,410.32 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.40 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 1,240.40 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 20.87 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 2,637.54 จุด

 

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 975 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.2% ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.8%

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงยอดขาดดุลการค้าประจำเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 13.2% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 4.46 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยยอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขการนำเข้าปรับตัวลดลง

 

ขณะที่ธอมสันรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 74.2 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 71.6 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.504 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.33% เมื่อวานนี้

 

ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการขยายโครงการลดหย่อนภาษี แม้มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนแสดงความไม่พอใจกับการขยายโครงการดังกล่าวก็ตาม

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน ซึ่งโอบามามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า การขยายโครงการลดหย่อนภาษีจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.5-1% ในปีหน้า

 

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ปิดบวกหลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทกำลังวางแผนเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 17% ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ปิดบวก 1.9% หลังจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอนุมัตให้นำหุ้นเน็ทฟลิกซ์เข้าเทรดในดัชนี S&P 5000

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นนิวยอร์ก ไทม์ส หุ้นอีสแมน โกดัค และหุ้นออฟฟิส ดีโปท์ ปิดลบเมื่อคืนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดร่วง $7.90 หลังจีนเพิ่มเพดานสำรองแบงค์พาณิชย์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 07:44:56 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจีนจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงด้วย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,384.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,372.70 - 1,393 ดอลลาร์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 21.2 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 28.605 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ ปิดที่ 4.1120 ดอลลาร์/ปอนด์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,675.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 8.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 732.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวานนี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.เป็นต้นไป เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน

 

นักลงทุนกังวลว่า จีนอาจจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อและควบคุมปริมาณการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และทำให้ความต้องการโลหะมีค่า รวมถึงทองคำ ลดน้อยลงด้วย

 

ทั้งนี้ จีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้เลื่อนกำหนดการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคจากวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. เป็นวันเสาร์ที่ 11 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจครั้งนี้แล้ว

 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกันหลายวัน นับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปฏิทินข่าวท่องเที่ยวประจำวันนี้(11 ธันวาคม 2553)

ข่าวท่องเที่ยว ThaiPR.net -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 08:00:00 น.

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--อินโฟเควสท์

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553

12.00 น. - 12.00 น. เทศกาลกินปลาทูและของดีเมืองแม่กลอง ณ สมุทรสงคราม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปฏิทินข่าวกิจกรรมประจำวันนี้(11 ธันวาคม 2553)

ข่าวบันเทิง ThaiPR.net -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 08:00:00 น.

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--อินโฟเควสท์

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553

08.30 น. - 16.30 น. วาโซ่ เทรนนิ่ง จัดอบรม ในหัวข้อ ความปลอดภัยในงาน

 

ซ่อมบำรุง ณ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์

08.30 น. - 16.30 น. วาโซ่ เทรนนิ่ง จัดอบรม ในหัวข้อ การบริหารและ การ

 

จัดระบบเอกสาร ณ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์

17.00 น. จุดประกาย คอนเสิร์ต ซีรีส์ #42 'Saturday Jazz

 

Fever' สาวสะดุ้ง แบนด์ VS OMAH ณ ศูนย์วัฒนธรรมฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปฏิทินข่าวหน่วยงานราชการประจำวันนี้(11 ธันวาคม 2553)

ข่าวปฏิทิน ThaiPR.net -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 08:00:00 น.

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--อินโฟเควสท์

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553

10.00 น. งานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9 ณ สวนหลวง ร.9

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 40.26 จุด ขานรับยอดขาดดุลการค้าสหรัฐร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2553 06:55:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขานรับยอดขาดดุลการค้าสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังจากตัวเลขส่งออกพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการขยายโครงการลดหย่อนภาษี

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 40.26 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 11,410.32 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.40 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 1,240.40 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 20.87 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 2,637.54 จุด

 

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 975 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.2% ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.8%

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงยอดขาดดุลการค้าประจำเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 13.2% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 4.46 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยยอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขการนำเข้าปรับตัวลดลง

 

ขณะที่ธอมสันรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 74.2 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 71.6 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.504 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.33% เมื่อวานนี้

 

ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการขยายโครงการลดหย่อนภาษี แม้มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนแสดงความไม่พอใจกับการขยายโครงการดังกล่าวก็ตาม

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน ซึ่งโอบามามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า การขยายโครงการลดหย่อนภาษีจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.5-1% ในปีหน้า

 

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ปิดบวกหลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทกำลังวางแผนเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 17% ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ปิดบวก 1.9% หลังจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอนุมัตให้นำหุ้นเน็ทฟลิกซ์เข้าเทรดในดัชนี S&P 5000

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นนิวยอร์ก ไทม์ส หุ้นอีสแมน โกดัค และหุ้นออฟฟิส ดีโปท์ ปิดลบเมื่อคืนนี้

 

ขอบคุณมากๆๆ เลยครับ อ. ทองใหม่, วันหยุดยังมีข่าวสารมาบอกกันด้วยครับ ขอคารวะจริงๆๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:) อ.ทองใหม่คะ ขอบคุณสำหรับข่าวสารค่ะ :wub: :wub:

วันหยุดนี้ อ.ทองใหม่ไปเที่ยวที่ไหนบ้างไหมคะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่า ไม่ทราบว่าวันนึ้มีกราฟตาแป๊ะมั๊ยคะ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณอ.ทองใหม่สำหรับข่าวสารคร้า em0009.gif em0009.gif cd08785a.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12月10日18:04 中国人民银行上调银行存款准备金率0.5个百分点

At 18:04 on 10 December the People's Bank of China raised bank reserve ratio by 0.5 percentage points

At 18:04 วันที่ 10 ธันวาคม ธนาคารประชาชนจีนเพิ่มขึ้นอัตราเงินสำรองธนาคารอีก 0.5 %

!01 !gd แล้วท่าน ทองใหม่ คิดว่าจีนจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมั้ยภายในเดือนนี้ หลังจาก

ขึ้นอัตราเงินสำรองของะนาคารไปแล้ว

 

ส่องอนาคตนโยบายการเงินจีน

ส่องอนาคตนโยบายการเงินจีน พร้อมพลิกแผนหวังสกัด "เงินเฟ้อ"

 

 

 

 

 

 

การปรับแนวทางนโยบายของ "จีน" อยู่ในความสนใจของโลกทุกครั้ง เช่นเดียวกับครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนประกาศว่า จะคงนโยบายการคลังเชิงรุกต่อไป แต่จะปรับนโยบายการเงินจากที่เคยผ่อนคลายมาเป็นการดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง รอบคอบ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ชี้ชัดว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือ การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ มากกว่าการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้แถลงการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังระบุว่า จีนจะทำให้นโยบายเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และมีเป้าหมายเฉพาะมากขึ้น หรือหมายความว่า ผู้กำหนดนโยบายจะดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อตอบสนองกับบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

 

 

หากมองในเรื่องเงินเฟ้อนั้น พบว่าเมื่อเดือนตุลาคมดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน พุ่งขึ้นไปถึงระดับ 4.4% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี ส่วนราคาอาหาร ทะยานแรงถึง 10.1% ในปีนี้

 

ลี เตากุย ที่ปรึกษาของธนาคารจีน เผยว่า ทางการจีนอาจสั่งให้ธนาคารเพิ่มการกันสำรองเงินสดอีก เพื่อรับมือเงินทุนไหลเข้า และคุมการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร

 

ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% ในเดือนนี้ และอีก 0.75% ในปีหน้า อีกทั้งจะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก

 

สอดคล้องกับความคิดเห็นของ ปา ซูซง รองผู้อำนวยการทั่วไปของสถาบันวิจัยทางการเงินของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของจีน ที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ว่า จีนน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น เมื่อดูจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพภายใต้นโยบายทางการเงินใหม่ที่รอบคอบ โดยเป้าหมายคือ การขจัดป?ญหาอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่เป็นลบของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในระยะกลางและระยะยาว มากกว่าจะเน้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะสั้น

 

นอกจากนี้จีนน่าจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อคุมซัพพลายเงินในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงมีสูง ทั้งนี้คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนจะอยู่ที่ระดับ 4-5% ในปีหน้า

 

 

เว็บไซต์มาร์เก็ตวอตช์ชี้ว่า จีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาเงินเฟ้อ ณ ขณะนั้นรุนแรงแค่ไหน เพราะหลังจากที่จีนปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมอีก 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 5.56% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.5% แต่พบว่าอัตราดอกเบี้ยแท้จริงของจีนยังคงติดลบอยู่ และหากเทียบกับประเทศอย่างอินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้แล้ว จะพบว่าประเทศเหล่านั้นล้ำหน้าจีนในแง่ของวัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

 

สวนประเด็นของค่าเงินหยวน พบว่า นับตั้งแต่จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวได้มากขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนเป็นต้นมา หยวนแข็งค่าขึ้นแล้ว 2.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประเมินว่า หยวนจะแข็งค่าเป็น 6.2 หยวนต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปีหน้า

 

 

ด้าน เซิง ซงเชิง หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์และสถิติของธนาคารกลางจีน แสดงความคิดเห็นผ่านไฟแนนเชียล นิวส์ หนังสือพิมพ์ของธนาคารกลางจีนว่า การแข็งค่าขึ้น ทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของหยวนจะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาผู้บริโภคในจีน

 

แต่ในอีกด้านหนึ่ง บริษัทโบรกเกอร์อย่างซีแอลเอสเอมองว่า ปัญหาเงินเฟ้อยังไม่ได้เลวร้ายนัก และสถานการณ์ปัจจุบันคล้ายคลึงกับในช่วงปี 2550-2551 ที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่จีนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียควรจะให้ความสนใจมากขึ้นคือฟองสบู่สินทรัพย์

 

โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งธุรกิจที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากเติบโตสูงมากตามแรงของการปล่อยกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวต่อไปของจีนที่อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อคุมอัตราเงินเฟ้อ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ฟองสบู่สินทรัพย์จะแตก พร้อมสร้างหนี้เสียให้กับภาคธนาคาร อีกทั้งจะดึงดูดเงินร้อนที่เข้ามา เก็งกำไรในตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างจีนด้วย

 

ด้านเขตเศรษฐกิจและสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสภาพคล่องและการเติบโตของจีน จะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของแดนมังกรอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าจีนจะบริหารจัดการ "soft landing" ได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยซีแอลเอสเอ วิเคราะห์ว่า ประเด็นเงินเฟ้อของจีนเป็นความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการค้าคอมโมดิตี้ของออสเตรเลีย เพราะภาคเหมืองแร่ และดอลลาร์ออสเตรเลียได้อานิสงส์อย่างมากจากการเติบโตของจีน เช่นเดียวกับราคาสินค้าคอมโมดิตี้ตั้งแต่เหล็กกล้าไปจนถึงอาหารพื้นฐาน ที่ต่างขยับขึ้นเพราะความต้องการจากจีน หรืออาจสามารถนับรวมไปถึง "ทองคำ" ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนจีนเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า ปีนี้ นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า หรือเป็นกว่า 209 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรก ดังนั้น การค้าใน ปีหน้าจะต้องมองหาสินทรัพย์ที่จีนยังไม่ได้ซื้อและไม่ต้องการขาย

 

 

 

*********************

ประชาชาติธุรกิจ

ถูกแก้ไข โดย bmw2770

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...