ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับธนาคารกลางจีนเลี่ยงขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2553 09:49:24 น.

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับธนาคารกลางจีนที่ไม่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาทองแดงที่มีการซื้อขายล่วงหน้าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,212.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับขึ้น 9.29 จุด หรือ 0.33% แตะ 2,850.32 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,362.32 จุด บวก 199.41 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,748.64 จุด บวก 29.81 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,511.82 จุด บวก 4.54 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,749.60 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,182.38 ลบ 3.04 จุด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.2% แตะ 133.38 จุด เมื่อเวลา 10.17 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บวก 0.5% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากที่ราคาทองแดงในตลาดล่วงหน้าดีดตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนหุ้นริโอ ทินโต กรุ๊ป บวก 0.8% หุ้นนิปปอน สตีล คอร์ป พุ่ง 1.7% ในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนหุ้นเจเอฟอี โฮลดิ้งส์ พุ่ง 3.1%

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนไม่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นถือเป็นข่าวที่ค่อนข้างดี ซึ่งธนาคารกลางเองก็คงจะระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน

 

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พุ่งแตะ 4.4% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนพ.ย. ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 28 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.4%

[/ขอบคุณกะ รอเก็บตอน ย่อตัวพอมีให้เห็นไม้เนี่ย ติดตามต่อปายคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่

 

ตื่นมาฝนตก นอนต่อ น้องทองจะนอนนิ่งๆด้วยมั้ยเนี่ย

ขอตื่นเต้นๆหน่อย....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:rolleyes:

อะไรอยู่ในกะทะร้อนชอบข้่าวญี่ปุ่นมั้ก ๆ น่ากินจัง น้ำส้มก็ชื่นใจนะ

ถูกแก้ไข โดย raty

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว้าว...น่ากินจังเลยค่ะ..ใกล้เที่ยงแล้วด้วย..เห็นแล้วน้ำย่อยออกเลยค่ะ..

อ๊ะ!เกือบลืม.. ขอบคุณ อ.ทองใหม่นะคะ..เช้านี้อยู่ฝนก็ตก..รักษาสุขภาพด้วยนะค้าาาา

!thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเพิ่มเพดานสำรองกันเงินนอกทะลัก

 

Posted on Monday, December 13, 2010

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (ศ. 10 ธ.ค. 2553)

 

• ดุลการค้าระหว่างประเทศ (ต.ค.) ขาดดุล 38,700 ล้านดอลลาร์

• ราคานำเข้า (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือนก่อนหน้า

• ราคาส่งออก (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก่อนหน้า

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 74.2 จุด

 

 

โอบามาเรียกร้องคองเกรสไฟเขียวข้อตกลงลดหย่อนภาษี

 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบข้อตกลงเรื่องการลดหย่อนภาษีที่ได้มีการตกลงไว้กับพรรครีพับลิกัน เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

 

โอบามากล่าวผ่านทางสถานีวิทยุและสื่ออินเทอร์เน็ตเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวจะดีขึ้นหรืออ่อนแอลงก็ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ตอนนี้ก็อยู่ที่สภาคองเกรส ผมขอให้สมาชิกสภาทั้ง 2 พรรคให้การอนุมัติแผนการดังกล่าว

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โอบามาได้ประกาศว่า ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันสามารถตกลงกันได้เรื่องการขยายระยะเวลาในการใช้มาตรการลดหย่อนภาษีกับประชาชนที่มีรายได้ในทุกระดับต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี ขณะเดียวกันก็ขยายระยะเวลาในการใช้มาตรการให้สวัสดิการแก่ผู้ว่างงานแบบฉุกเฉินไปจนถึงปี 2554

ข้อตกลงกรอบการทำงานดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาจากผู้นำในสภาจากพรรคเดโมแครตบางรายที่เชื่อว่า โอบามาไม่ได้สู้อย่างเพียงพอ และการประนีประนอมของเขาอาจจะเป็นการตอกย้ำถึงชัยชนะที่เร็วเกินไป

 

 

จีนเพิ่มเพดานสำรองกันเงินนอกทะลัก

 

นายเฉิน ปินไค ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของรัฐบาลจีนกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ครั้งล่าสุด สะท้อนให้เห็นว่ามีเม็ดเงินสกุลต่างประเทศไหลเข้าสู่ประเทศจีนเป็นจำนวนมากในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลจีนต้องระบายสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบ

 

นอกจากนี้ นายเฉินระบุว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะประกาศขึ้นค่าเงินหยวน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยของจีนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและประเทศอื่นๆ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีเม็ดเงินสกุลต่างประเทศทะลักเข้าสู่ประเทศจีนจำนวนมาก

 

นายหลิว กีหยวน นักวิเคราะห์จากบริษัท กีลู่ ซิเคียวริตีส์กล่าวว่า การประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองสภาพคล่องครั้งล่าสุดจะสามารถดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบธนาคารจีนได้มากถึง 3 แสนล้านหยวน

 

นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของจีนพุ่งขึ้นถึงจุดที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่า จีนจะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมเงินเฟ้อ

 

ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวันศุกร์ (10 ธ.ค. 53) โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นการประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองครั้งที่ 6 ในปีนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยเงินกู้จำนวนมากของธนาคารพาณิชย์

 

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศประจำเดือนพ.ย.ปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 564,000 ล้านหยวน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 587,700 ล้านหยวน แต่ยังสูงกว่าระดับของเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ 2 แสนกว่าล้านหยวนอยู่มาก

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนพ.ย. ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 28 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.4% ส่วนดัชนี CPI โดยรวมในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 3.2% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่กำหนดไว้สำหรับปี 2553 ที่ระดับ 3%

 

 

จับตาตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ หลังห้างร้านโชว์ยอดขายดีเกินคาด

 

นักวิเคราะห์ยังฝากความหวังไว้กับตัวเลขค้าปลีกในสหรัฐฯ ที่ทางการจะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ หลังจากที่หุ้นในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวปรับตัวขึ้นมาใกล้จะ 30% แล้วนับตั้งแต่ต้นปี

 

ตลาดกำลังรอลุ้นข่าวดีที่กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลข retail sales ที่อาจปรับตัวขึ้นอีก 0.6% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งจะเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

 

ในเวลาเดียวกับที่หลายคนต่างมีความหวังหลังจากที่เห็นเชนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ชื่อดัง เช่น ห้าง Macy’s และร้านในเครือของบริษัท Target ที่ต่างออกแคมเปญดึงดูดลูกค้า ด้วยการเสอนส่วนลดในระหว่างเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ในฐานะที่เป็นด่านทดสอบกำลังซื้อผู้บริโภคด่านแรกของฤดูกาลช็อปปิ้งปลายปี

 

ผู้ประกอบการค้าปลีกยังน่าจะได้รับอานิสงส์จากความมั่นใจของประชาชนที่เพิ่มขึ้น เมื่อดูจากรายงานที่ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนล่าสุด ที่จัดทำโดย Thomson Reuters ร่วมกับมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

ตัวเลขขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ก็คือ ตลาดหุ้นที่บวกสดใส พร้อมๆ กับข่าวความพยายามของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในการตกลงกับทางฝั่งพรรครีพับลิกันให้เดินหน้าคงอัตราภาษีในระดับต่ำต่อไป

 

มีข้อมูลระบุว่า ห้าง Target และ Costco Wholesale จุดพลุธุรกิจค้าปลีกส่งท้ายปี ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้นเกินหน้าบรรดาคู่แข่งต่างๆ ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าวัยรุ่นแบรนด์ดัง อย่าง Abercrombie & Fitch และ J.C. Penny ที่เป็นห้างใหญ่อีกราย ก็เปิดเผยยอดขายที่ดีเกินคาดเช่นกัน

 

และไม่ใช่แค่ห้างร้านประเภทดีพาร์ทเมนท์สโตร์ที่ขายดิบขายดีในช่วงปลายปีเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ผู้ขายปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านรายใหญ่ อย่าง Home Depot ที่ล่าสุดตัดสินใจออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรของทั้งปีขึ้น หลังจากที่เห็นดีมานด์มีเข้ามามากในช่วงไตรมาส 4 โดยเฉพาะสินค้าในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงอุปกรณ์จำพวกก๊อกน้ำ

 

 

ความเชื่อมั่นผู้ผลิตญี่ปุ่นหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยระบุว่าดัชนีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ -5.0 จุด ร่วงจากไตรมาส 3 ที่ระดับ +7.1 จุด ทำสถิติลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส หลังจากอุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลง

 

ฮิโรอิชิ ชิราอิชิ นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ ซิเคียวริตีส์ (เจแปน) กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นหดตัวลงเนื่องจากผลกระทบในด้านบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มลดน้อยลง และฉุดรั้งอุปสงค์ภายในประเทศให้ชะลอตัวลงด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบ่งชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุสาหกรรมของญี่ปุ่นวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนโดยเฉลี่ย 9.5% ในปีงบการเงิน 2553 ซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.ปีหน้า สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัว

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตัวเลขเศรษฐกิจที่บีโอเจใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย และเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด

 

 

โอเปคคงโควตาการผลิตน้ำมันที่ระดับเดิม

 

ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ประกาศคงระดับการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิม ขณะที่ซาอุดิอาระเบียได้สนับสนุนให้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศของโอเปคนี้ช่วยคลายความกังวลให้กับผู้ใช้น้ำมันที่วิตกว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจจะเคลื่อนตัวเหนือระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 100 ดอลลาร์ได้ และหากเป็นเช่นนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคระบุว่า ประเทศพัฒนาแล้วยังคงต้องรับภาระกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ต่ำลง การบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซา และอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

 

นายอาลี อัลไนมี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์นั้น เป็นราคาที่เหมาะสม และดีสำหรับผู้บริโภค

 

กลุ่มโอเปค ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้อีก 200,000 บาร์เรล/วัน เป็น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น นอกจากนี้ สภาพอากาศหนาวเย็นในทวีปยุโรปยังส่งผลให้ปริมาณการใช้ฮีทติ้งออยล์เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค.

 

โอเปคคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 จะอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟวิเคราะห์ ให้ดูกราฟประกอบ

ก่อนเปิดสถานะควรดูแนวโน้มว่าขึ้นหรือลง หากแนวโน้มขึ้นเปิดสถานะL หากราคาขึ้นถึงH3 หากต้านอยู่ ให้ปิดสถานะL เปลี่ยนเปิดสถานะS แต่หากราคาทะลุด่าน

H3แตก ให้ถือLต่อ ถ้าราคาถึงH4ให้ทยอยออกหรือปิดL แต่ถ้าชอบเสี่ยงก็ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายที่H5

หากเปิดSไว้ก่อน ราคาไปที่L3 หากรับไว้อยู่ ให้ปิดSแล้วเปิดL หากL3แตกให้ถือSต่อ ราคาถึงL4ให้ทยอยปิดS แต่ถ้าชอบเสี่ยงให้ถือSต่อ โดยมีเป้าหมายที่L5

post-237-080032300 1292217589.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟวิเคราะห์ ให้ดูกราฟประกอบ

ก่อนเปิดสถานะควรดูแนวโน้มว่าขึ้นหรือลง หากแนวโน้มขึ้นเปิดสถานะL หากราคาขึ้นถึงH3 หากต้านอยู่ ให้ปิดสถานะL เปลี่ยนเปิดสถานะS แต่หากราคาทะลุด่าน

H3แตก ให้ถือLต่อ ถ้าราคาถึงH4ให้ทยอยออกหรือปิดL แต่ถ้าชอบเสี่ยงก็ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายที่H5

หากเปิดSไว้ก่อน ราคาไปที่L3 หากรับไว้อยู่ ให้ปิดSแล้วเปิดL หากL3แตกให้ถือSต่อ ราคาถึงL4ให้ทยอยปิดS แต่ถ้าชอบเสี่ยงให้ถือSต่อ โดยมีเป้าหมายที่L5

post-237-072846500 1292217612.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟวิเคราะห์ ให้ดูกราฟประกอบ

ก่อนเปิดสถานะควรดูแนวโน้มว่าขึ้นหรือลง หากแนวโน้มขึ้นเปิดสถานะL หากราคาขึ้นถึงH3 หากต้านอยู่ ให้ปิดสถานะL เปลี่ยนเปิดสถานะS แต่หากราคาทะลุด่าน

H3แตก ให้ถือLต่อ ถ้าราคาถึงH4ให้ทยอยออกหรือปิดL แต่ถ้าชอบเสี่ยงก็ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายที่H5

หากเปิดSไว้ก่อน ราคาไปที่L3 หากรับไว้อยู่ ให้ปิดSแล้วเปิดL หากL3แตกให้ถือSต่อ ราคาถึงL4ให้ทยอยปิดS แต่ถ้าชอบเสี่ยงให้ถือSต่อ โดยมีเป้าหมายที่L5

+1ขอบคุณคร๊าบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...