ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

:lol: :lol: ขอบคุณค่ะเดี๋ยวตอนเย็นโหวตนะคะ :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ

 

Horapa20080823_171007.gif

น้ำเต้าหู้เพื่อสุขภาพสักนิดไหมคะ :wub:

น่ากินจังเยย.....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!01 ขอบคุณกราฟครับ คุณทองใหม่ มีตาแป๊ะน้ำมันด้วย รอเข้าน้ำมัน ต่อไป แต่น้องทองสิมันน่านัก... !_18

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิตยสาร TIME ยกผู้ก่อตั้ง Facebook เป็นบุคคลแห่งปี 2010

 

Posted on Thursday, December 16, 2010

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พ. 15 พ.ค. 2553)

• ดัชนีราคาผู้บริโภค (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า

• ประสิทธิภาพการผลิต (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า

• อัตราการใช้กำลังการผลิต (พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 75.2%

• ดัชนีตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 16 จุด

• สต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 9.9 ล้านบาร์เรล

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤ. 16 พ.ค. 2553)

• ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

• ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

• ดุลบัญชีเดินสะพัด (Q3/2010) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

 

 

นิตยสาร TIME ยก Mark Zuckerberg เป็นบุคคลแห่งปี 2010

 

เจ้าของเรื่องราวตัวเอกในภาพยนตร์ชื่อดัง “The Social Network” ถูกยกย่องให้ขึ้นรับตำแหน่งบุคคลแห่งปี 2010 โดยหัวนิตยสารระดับตำนานของสหรัฐฯ อย่าง Time เมื่อMark Zuckerberg สามารถปลุกปั้นระบบใหม่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ไปจนถึงการมีอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในยุคสมัยนี้

 

นิตยสาร TIME ยกย่องให้ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งเว็บไซท์สังคมออนไลน์ชื่อดัง Facebook ให้เป็นบุคคลแห่งปี ด้วยเหตุผลที่ทางบรรณาธิการบริหาร นาย Richard Stengel ที่เขียนถึง Zuckerberg ว่า บริการของเขาได้ช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ไปจนถึงการเปลี่ยนนิยามของคำว่า “สิทธิส่วนบุคคล” จนทำให้ในปัจจุบัน Facebook มีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคนแล้ว

 

Zuckerberg วัย 26 ก่อตั้งเว็บสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เมื่อปี 2004 หรือเมื่อสมัยที่เขายังเรียนอยู่เพียงปีสองที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

 

ก่อนที่จะขยับขยายเครือข่ายของตนออกนอกรั้วมหา’ลัย จนธุรกิจเติบใหญ่และแซงหน้าเว็บ MySpace ของบริษัท News Corp. ที่เคยเป็นผู้นำทางด้านนี้เมื่อสองปีที่แล้ว

 

ผู้ก่อตั้ง Facebook รายนี้ยังได้ขึ้นมานั่งในตำแหน่งที่ 35 ของเศรษฐีชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดใน 400 อันดับแรกประจำปีนี้ของนิตยสาร Forbes ซึ่งยังได้มีการวัดว่ากระเป๋าสตางค์ของ Zuckerberg มั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาถึง 245% มาอยู่ที่ 6,900 เหรียญแล้ว จนถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่สูงสุดในการจัดอันดับประจำปีด้วย

 

สำหรับผู้ที่ถูกเสนอชื่อในตำแหน่ง “Person of the Year” รอบล่าสุดนี้ ประกอบไปด้วย ผู้ก่อตั้งเว็บไซท์ชื่อกระฉ่อน WikiLeaks นาย Julian Assange, ผู้วิจารณ์ในรายการทอล์คโชว์ชื่อดัง นาย Glen Beck, นักร้องขวัญใจของหลายๆ คน อย่าง Lady Gaga, และสุดท้ายก็คือ Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple

 

 

เมอร์ริล ลินช์คาดเศรษฐกิจโลกปีหน้าขยายตัว 4%

 

แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช เปิดเผยในรายงาน "2011 Year Ahead" ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวปานกลางที่ 4% ในปี 2554 และคาดว่าวงจรการซื้อขายที่คึกคักในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งเริ่มตั้งตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เรื่อยมานั้น ยังไม่สิ้นสุดลง

 

รายงานของ แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช ระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีอัตราการขยายตัวที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและนโยบายที่แตกต่างกัน โดยคาดว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีส่วนช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากกว่า 1 ใน 3

 

เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ช คาดว่า สภาพคล่องส่วนเกินจะเป็นเหตุให้ราคาหลักทรัพย์ทั่วโลกสูงขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะเดียวกันคาดว่าในปีหน้านั้น รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะปรับตัวขึ้นปานกลาง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และถือเป็นปีราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้นด้วย

 

"เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัวจากภาวะวิกฤต ซึ่งเราเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฟื้นตัวในปี 2554 และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวปานกลางเมื่อเทียบกับในปี 2553" อีธาน แฮร์ริส หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ชกล่าว

 

 

มูดี้ส์ขู่ลดอันดับเครดิตสเปน

 

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า มูดี้ส์อาจจะปรับลดอันดับเครดิตขั้น Aa1 ของสเปน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืม ตัวเลขขาดทุนในภาคธนาคาร และยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล

 

แคทริน มูห์บรอนเนอร์ นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์กล่าวในรายงานวันนี้ว่า "สเปนจำเป็นต้องระดมทุนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะระดมทุนสำหรับรัฐบาลกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรัฐบาลระดับภูมิภาค และภาคธนาคารด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้สเปนประสบปัญหาความตึงเครียดในการระดมทุน ส่วนอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะยังคงอยู่ในกรอบ "Aa" บนสมมติฐานที่ว่าสเปนยังไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือจากภายนอก"

 

การแสดงความคิดเห็นของมูดี้ส์มีขึ้นก่อนที่รัฐบาลสเปนจะนำพันธบัตรล็อตสุดท้ายสำหรับปีนี้ออกจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค. 53)

 

เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มูดี้ส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลงสู่ระดับ Aa1 จาก Aaa นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุดของสเปนลงเมื่อเดือนพ.ค. และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับเครดิตขั้นสูงสุดของสเปนลงเมื่อเดือนม.ค.2552 ทั้งนี้ ปัจจุบันเอสแอนด์พีให้อันดับความน่าเชื่อถือสเปนที่ AA ขณะที่ฟิทช์ให้อันดับความน่าเชื่อถือสเปนที่ AA+

 

 

ออสเตรเลียไม่ขวางการควบรวมตลาดหุ้นออสเตรเลีย-สิงคโปร์

 

คณะกรรมการกำกับดูแลการแข่งขันและผู้บริโภคของออสเตรเลียเผยว่า จะไม่ขัดขวางการควบรวมกิจการระหว่างตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (เอเอสเอ็กซ์) และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (เอสจีเอ็กซ์) ซึ่งจะกลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีมูลค่ารวม 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 249,000 ล้านบาท)

 

คณะกรรมการฯ แถลงว่า การควบรวมดังกล่าวจะไม่ทำให้การแข่งขันลดลง เอสจีเอ็กซ์จะไม่แข่งกับเอเอสเอ็กซ์เรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์และบริการชำระเงิน แต่จะแข่งขันกันเรื่องจดทะเบียนหลักทรัพย์อย่างจำกัด ข้อตกลงนี้ต้องการสร้างตลาดหลักทรัพย์ระดับภูมิภาคขึ้นมาแข่งขันกับฮ่องกง

 

ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และการลงทุนในต่างประเทศของออสเตรเลีย รวมทั้งธนาคารกลาง และจะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

ข้อเสนอควบรวมกิจการจากสิงคโปร์จุดประเด็นการเมืองร้อนแรงในออสเตรเลีย ส.ส.อิสระไม่พอใจเรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของสิงคโปร์ อีกทั้งเห็นว่าออสเตรเลียจะเสียเปรียบ นายบ๊อบ บราวน์ หัวหน้าพรรคกรีน ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลประกาศจะขัดขวางในสภาหากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าออสเตรเลียได้ประโยชน์จากการให้ต่างชาติควบรวมกิจการ ด้านผู้บริหารของเอเอสเอ็กซ์ยืนยันว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้นและหลากหลายขึ้น ขณะที่บริษัทจดทะเบียนจะมีค่าใช้จ่ายลดลง เป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย.

 

 

UN แนะเอเชียกำหนดนโยบายคุมกระแสเงินทุน

 

เอเชียควรร่วมกันหามาตรการควบคุมเงินทุน เนื่องจากการที่เอเชียเป็นทวีปที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดในโลกนั้นได้ดึงดูดให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามามากขึ้น จนอาจส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ และกระตุ้นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

 

คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ กล่าวในรายงานที่เปิดเผยว่า "มาตรการดังกล่าวควรมีการนำไปใช้ในระดับภูมิภาค เนื่องจากไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถดำเนินมาตรการดังกล่าวได้เพียงลำพังโดยไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ ผลกระทบจากการหลั่งไหลของกระแสเงินทุนต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นในทันทีกับหลายประเทศในเอเชีย คือ การแข็งค่าของสกุลเงิน"

 

สกุลเงินสำคัญของเอเชียต่างปรับตัวแข็งค่าขึ้นในปีนี้ทุกสกุลเงิน ยกเว้นเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่ผูกติดกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงไทยและอินโดนีเซีย ต้องเร่งควบคุมการหลั่งไหลของเงินทุน เนื่องจากสกุลเงินที่แข็งค่าอาจสร้างความเสียหายต่อภาคการส่งออกของเอเชีย เนื่องจาก กระแสเงินทุนไหลเข้าเหล่านี้จะเปิดช่องให้เกิดการเก็งกำไร

 

ด้านธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียระบุว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนควรหาความเป็นไปได้ในการร่วมมือด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับภูมิภาค เพื่อควบคุมกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างมีประสิทธิภาพและปรับสมดุลด้านปัจจัยที่หนุนการขยายตัวให้ดียิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีน อินเดีย เกาหลีใต้ และอินโดนีเซียจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 7% ในปี 2554 จากที่คาดการณ์ไว้ 8.3% ในปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแรงในยุโรปและเอเชียส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ด้านการส่งออก

 

รายงานของยูเอ็นระบุว่า "เพื่อเป็นการชดเชยในสิ่งที่อาจสูญเสียไป เราจำเป็นต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาคเพื่อกำหนดมาตรการนี้ขึ้น เพื่อให้ภาคการส่งออกได้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีอุปสงค์ขยายตัวแข็งแกร่ง"

 

 

โพลล์ระบุชาวจีนมองราคาสินค้าแพงเกินไป

 

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จำนวนประชาชนชาวจีนที่พอใจราคาสินค้าในปัจจุบันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามควบคุมราคาสินค้าก็ตาม

 

ข้อมูลดังกล่าวได้จากการสำรวจความเห็นประชาชนชาวจีนจำนวน 20,000 คนใน 50 เมืองทั่วประเทศในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

 

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยผ่านแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ว่า ดัชนีความพอใจราคาสินค้าของประชาชนปรับตัวลดลงแตะ 13.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2542 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มทำการสำรวจ

 

ผู้ตอบแบบสอบถาม 73.9% กล่าวว่าราคาสินค้าในปัจจุบันสูงเกินกว่าจะรับได้ หรือเพิ่มขึ้น 15.6% จากไตรมาส 3 ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 61.4% เชื่อว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจนเข้าสู่ไตรมาสต่อไป

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดระดับเงินเฟ้อ พุ่ง 5.1% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพฤศจิกายน ทำระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือน

 

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 75.5% เห็นว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันสูงเกินไป ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจราคาบ้านในปี 2552 ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถาม 43.3% เชื่อว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะสูงขึ้นอีก หรือเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

 

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ของจีนขยายตัว 0.3% ในเดือนพฤศจิกายนจากเดือนตุลาคม แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม

 

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 45.2% กล่าวว่าพวกเขาจะลงทุนมากขึ้นในอนาคต ส่วนผู้ตอบแบบสอบถาม 37.6% ตั้งใจจะฝากเงินในธนาคาร และมีเพียง 17.3% ที่เผยว่าจะบริโภคมากขึ้น

 

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ซีเคียวริตี้ ไทม์ รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า ธนาคารกลางจีนอาจยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจกระตุ้นให้มีกระแสเงินเก็งกำไรไหลเข้าสู่ตลาดจีนมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนอาจปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค. ซึ่งนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้จีนชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีกระยะหนึ่ง

 

 

BofA ชี้เงินเอเชีย-หยวนยังมีมูลค่าที่ดี

 

นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า สกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงสกุลเงินหยวนของจีน ยังคงมีมูลค่าที่ดี แม้นักวิชาการและนักการเมืองบางกลุ่มในสหรัฐตำหนิว่าเงินหยวนของจีนมีมูลค่าต่ำเกินจริงก็ตาม

 

ทิโมธี เจมส์ บอนด์ นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ฮ่องกงในระหว่างการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกปี 2554 ว่า สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรํฐ แต่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมาที่เมอร์ริล มองว่า สกุลเงินในเอเชียยังมีมูลค่าที่ดี สำหรับสกุลเงินหยวนนั้น เมอร์ริลคิดว่าเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าที่ดี และอาจจะแข็งค่าขึ้นราว 3-4%

 

บอนด์กล่าวว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ไม่ได้ให้น้ำหนักกับการที่หลายฝ่ายถกเถียงกันเรื่องมูลค่าของสกุลเงินหยวน เนื่องจากสกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่จีนยกเลิกนโยบายการผูกติดสกุลเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐในปี 2548

 

นอกจากนี้ การถกเถียงเรื่องมูลค่าของเงินหยวนยังไม่มีผลต่อมุมมองของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ที่ว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

บอนด์กล่าวว่า แม้จีนและสหรัฐจะสามารถตกลงกันได้ในอนาคตว่า จีนจะปรับยอดเกินดุลการค้าให้ลดลงเหลือ 4% ของตัวเลขจีดีพี แต่ก็เชื่อว่าจีนจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวมากนักในเรื่องการปรับค่าเงินหยวน

 

นอกจากนี้ บอนด์กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมาถึงจุดเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญ จากเดิมที่เศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งและมีเงินเฟ้อต่ำ มาเป็นเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวน้อยลงและมีเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตรา 10.5% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำอย่างเหลือเชื่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เชียร์ลง ค่ะ !21 จะได้ออกซะทีติด S นานมากค่ะ !_cd

ขอบคณอาจารย์ ทองใหม่ สำกราฟตาแปะ และข่าวสาร ประจำวันค่ะ !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เชียร์ลง ค่ะ !21 จะได้ออกซะทีติด S นานมากค่ะ !_cd

ขอบคณอาจารย์ ทองใหม่ สำกราฟตาแปะ และข่าวสาร ประจำวันค่ะ !thk

ขอบคุณกราฟตาแป๊ะมากๆ ครับ

CV

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...