ร่วมแสดงความคิดเห็น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

[Kamolthun 224]

สวัสดีครับชาว ThaiGOLD ทุกท่าน ช่วงนี้เรื่องเด่นประเด็นร้อนคงจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. นี้ (บ้านเราประมาณ 7 พ.ย. เช้า ๆ) ซึ่งแน่นอนว่าผลของการเลือกตั้งก็จะถูกเอามาเป็นประเด็นในการลงทุน

 

โอกาสนี้จึงขอเปิดกระทู้เกาะกระแส กูรู-กูไม่รูท่านไหนมีข้อมูล หรือความเห็นส่วนมาช่วยกันแชร์ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ ^^,

[singlegirl 612]

อยากถามว่าทำไมรอบนี้จึงเลือกตั้งในวันธรรมดาคะ ทำไมไม่จัดเลือกตั้งในวันหยุดเหมือนรอบที่ผ่านๆมาคะ

[kumponys 14,098]

อยากถามว่าทำไมรอบนี้จึงเลือกตั้งในวันธรรมดาคะ ทำไมไม่จัดเลือกตั้งในวันหยุดเหมือนรอบที่ผ่านๆมาคะ

 

สงสัยคนอาจจะตกงานมากแล้ว จัดวันธรรมดาก็ไม่มีปัญหาละมั๊งครับ

[กิบเก๋ 48]

ถ้าหากว่า รอมนี้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง น้องทองคงจะร่วงกระจุยกระจายหาที่เกาะไม่ได้ด้วยหรือไม่ค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นต้องบอกว่า คงต้องลาวงการนี้แน่ๆๆค่ะ (ไม่อยากคิด) ติดไว้เยอะค่ะ

[singlegirl 612]

สงสัยคนอาจจะตกงานมากแล้ว จัดวันธรรมดาก็ไม่มีปัญหาละมั๊งครับ

ขอบคุณคำเฉลยของอาจารย์มากค่ะ :53

[vanta 249]

555555 แวะมาขอขำ...คำตอบเฮียกัมอีกคน

ไม่รู้ว่า...จะแสดงความคิดเห็นยังไง....

ขอก๊อป...เอาคำพูดของพี่ชายเจ๊แว่นที่เปิดร้านอาหารอยู่อเมริกามา20 กว่าปีมาให้อ่านเล่นๆแล้วกันนะคะ..คุณกมละธัญสุดหล่อ....อิอิ

 

สองเดือนก่อนคะแนนนำรอมนีย์ห่างแต่ตอนนี้ข่าวว่าสูสีกันสุดๆบางครั้งฟังเขาพูดปราศรัยหรือหาเสียงคำพูดประโยคบางคำไม่รู้ว่าทำไมคนระดับผู้นำมันถึงพูดมาได้ขนาดนี้ดูเหมือนเป็นคนมีปมด้อยมีความโกรธแค้นอะไรอยู่ในใจยังไงยีงงั้นวันนี้ก็หลุดออกมากล่าวคือเขาไปหาเสียงมีคนฟังแน่นขนัดเขาเอ่ยชื่อรอมนี่ย์คนฟังก็โห่ขึ้นมาโอบามาบอกว่า No,no อย่าโห่ไปโหวตไปโหวตเพื่อแก้แค้นแก้แค้นทำไมต้องแค้นคิดเองว่าคนพูดแบบนี้มีจิตใจเป็นคนอย่างไรคนที่เขาไปลงคะแนนเลือกตั้งก็เพราะเขารัก...เพื่อประเทศชาติไม่ใช่แค้น

 

เหตุการณ์ Sep 12 โอบามาออกทีวีแถลงว่าเหตุเกิดเพราะ vdo ลงยูทูปดูหมิ่นและแอนตี้ศาสนาอิสลามที่ไปปลุกให้เกิดการประท้วงขั้นรุนแรงพูดเป็นเชิงว่าไม่ใช่เกิดจากการกระทำของผู้ก่อการร้ายวันต่อมา Sep 13 นางฮีลารี่ (รมต.) ต่างประเทศออกทีวียืนยันว่าต้นเหตุเกิดจากvdo บอกว่ารัฐบาลเมกาไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้นแถมยังประนามผู้สร้างvdo Sep 14 นายคานีย์โฆษกประจำทำเนียบรัฐบาลก็แถลงข่าวต่อนักข่าวกล่าวโทษ vdo ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการการทำของผู้ก่อการร้าย 2วันต่อมาSep 16 นาง Susan Rice ราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติออกรายการทีวี 5 net work ยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเพราะ vdo ไม่ได้เป็นการวางแผนของผู้ก่อการร้ายเหมือนกัน Sep 17 นาง Victoria Nuland โฆษกต่างประเทศของฮีลารี่ก็ออกแถลงการณ์พูดแบบเดียวกันต่อมาอีกสองวันเหตุการณ์ที่ชาวบ้านสงสัยว่า vdo นั้นมาก็ผ่านมาหลายเดือนทำไมต้องมาประท้วงในวัน 911 และทำไมผู้ประท้างมีอาวุธสงครามจรวดระเบิดดูข่าวแล้วมันน่าจะธรรมดาน่าจะมีเบื้องหลังอะไรมากกว่านั้นความก็แตกเมื่อคณะกรรมการธิการสภาเปิดการไต่ส่วนเมื่อนาย Matthew Olsen ผู้อำนวยการการป้องกันผู้ก่อการร้ายแห่งชาติตอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีหลักฐานชี้ว่าเป็นการวางแผนและก่อเหตุของผู้ก่อการร้ายส่วน vdo นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเวลานานมากว่า 8 วันแต่โอบามายังลอยหน้าลอยตาเฉยแถมไปกล่าวในการประชุมผู้นำสหประชาชาติยังบอกว่าเหตุการณ์นั้นเพราะ vdo อีกแถมอีก (แถมเยอะจัง) ยังไปออกรายการดังพบปะประชาชนของช่อง 7 สี(เมกา) มีสาวทั้งแก่และไม่แก่ทำรายการร่วมกัน 5 คนล้อมหน้าล้อมหลังรุมสัมภาษณ์ประธานาธิบดีเนื้อหอมเช่นไปเที่ยวไหนมากินข้าวอร่อยไหมแต่มีสาวคนหนึ่งถามเรื่องเผาสถานทูตท่านโอบามาตอบหน้าตาเฉยว่ายังรอรับรายงานการสอบสวนยังบอกว่าเพราะ vdo เป็นต้นเหตุอีก

 

 

Oct 10 การไต่สวนเหตุการณ์ของคณะกรรมการในเรื่องนี้เขามีอำนาจาเรียกเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาให้ปากคำเข้ามาสอบสวนหาความจริงดูถ่ายทอดทางทีวีได้เหมือนกับมีการขึ้นศาลแต่ไม่ได้กล่าวหาว่าความผิดใครถูกถ้าใครผิดจริงมีหลักฐานเขาจะส่งให้อยัยการสั่งฟ้องทางอาญาทีหลังเขาสอบสวนเพราะเป็นเรื่องใหญ่มีทูตตายเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปีและชาวเมกันอีกสามพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ตายและประชาชนสมควรรู้ความจริงเป็นหน้าที่ของผู้ใดหน่วยงานไหนต้องรับผิดชอบไม่ปล่อยวางให้บานปลายเพื่อจะหาทางวางมาตราการไม่ให้เกิดขึ้นอีกแล้วความก็แตกเมื่อต่างฝ่ายต่างโยนความผิดให้กัน CIA หน่วยราชการลับให้การว่ารู้เรื่องตั้งแต่ 24 ช.ม.แรกว่าเป็นการก่อเหตุและวางแผนล่วงหน้าของผู้ก่อการร้ายถามคนนี้ไปถามคนนี้มาสรุป vdo ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะวันเกิดเหตุทูตซึ่งสนิทสนมคุ้นเคยมีส่วนที่ช่วยชาวลิเบียปลดแอกหลังจากที่ถีบก๊อดดาฟี่จอมเผด็จการลงจากบัลลังก์หลังจากดูกล้องวงจรปิดคืนวันเกิดเหตุตอนสองทุ่มหลังจากไปประชุมกับชาวบ้านมาเขาก็ขับรถมาส่งที่หน้าประตูเหตุการณ์ตั้งแต่เช้าก็ปกติพอตีสองมีกลุ่มผู้ถืออาวุหนักมาล้อมยิงและถล่มสถานทูตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็แหกปากตะโกนว่าถูกโจมตีๆโทรแจ้งตำรวจแจ้งทางการรัฐบาลลิเบียและยังโทรแจ้งมาทำเนียบ

ขาวแต่ไม่มีคำตอบผลก็คือถูกยิงถูกถล่มนานกว่า 5 ชั่วโมงความตายความพินาศก็ปรากฏเหตุตอนรุ่งสางผู้ก่อการร้ายเผ่นหนีไปแล้วมีชาวบ้านมามุงล้อมดูนับพันบ้างสะใจร่วมประสมโรงดังเหตุการณ์ที่เห็นจากข่าวทางทีวีข่าวยังว่าต่อไปว่ามีเหตุการณ์ระเบิดรั้วรอบสถานทูตก่อนหน้านั้น 2 ครั้งถูกขู่ลงทางเฟสบุคว่าจะกลับมาจัดการขั้นเด็ดขาดแล้วมันก็มาจริงๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รายงานให้นางฮิลารีกระทรวงต้นสังกัดและมีเอกสารยืนยันว่ามีการขอหน่วยรักษาความปลอดภัยเพิ่มมาตลอดถึง 12 ครั้งแต่ก็ไม่เคยได้รับการเหลียวแลและใส่ใจจากรัฐบาลโอบามามาวันนี้โอบามาก็พยายามโยนเรื่องว่าเป็นเพราะฮีลารีฮีลารี่ก็โยนว่าหน่วยข่าวกรองของ CIA อ้าวแล้วกันสิท่านทีฆ่าบินดาเลนรับหน้าเวลาเสียโยนกลองความจริงโอบามากับฮีลารี่เขากินแหนงแคลงใจกันมาก่อนต่างฝ่ายต่างด่ากันขรมตอนที่สมัครเป็นตัวแทนของพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแต่ที่โอบามาชวนมาร่วมรัฐบาลเพราะมันทำให้เขาดูมีภาพพจน์ดีขึ้นนั่นเองสรุปโอบามาพยายามปกปิดเบี่ยงเบนรอให้หลังเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยว่ากันทหารที่ออกไปรบเจ้าหน้าที่ที่ไปทำหน้าที่เสี่ยงตายแต่มีผู้นำที่ไม่เคยสนใจรับผิดชอบสนแต่จะออกไปหาเสียงสมควรไหมที่ประชาชนจะเลือกให้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหมายเหตุในการโต้วาทีไบเดนถูกถามกลับตอบว่าไม่มีใครบอกเราว่าต้องการหน่วยรักษาความปลอดภัยเพิ่มข่าววันนี้ออกโจมตีเรื่องโกหกนี้ยังมีอีกหลายสิบเรื่องที่โกหกแต่นักข่าวที่เชียร์โอบามาไม่พูดสักแอะทีรอมนี้ย์เขาพูดนโยบายยังไม่ได้เป็นรัฐบาลกลับออกมาโจมตีเขาว่าโกหกนับสิบๆช่องนี่แหละอเมริกาหมู่หรือจ่าอีก 24 วันก็คงรู้

อนึ่งตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกาจะรักษาตำแหน่งแม่ทัพตามรัฐธรรมนูญ

อย่างนี้ต้องบอกเป็นถึงประธานาธิบดียังไม่รู้ตูเป็นกระเหรี่ยงไทยอาศัยอยู่ในอเมริกาเองแท้ๆรู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว 555

 

ข่าวทุกข่าวต้องกรองไม่ว่าสื่อไหนประเทศใดยิ่งในโลกปัจจุบันข่าวมั่วและไม่มั่วหาได้ง่ายในเวปเมื่อวานนี้หญิงเหล็กแห่งเมกานางฮีลารี่ออกมารับหน้าตาเฉยว่าตนเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการโจมตึสถานทูตแต่ชายอกสามศอกโอบามายังตีลูกเซ่ออยู่ข่าวนี้ไม่กรองเพราะฉันคิดเองนายคลินตันและฮีลารีสองผัวเมียมีส่วนสำคัญช่วยนายโอบามาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีและเป็นผู้มีแผนทางการเมืองล้ำเลิศคงคิดว่าตอนนี้โอบามาตกที่นั่งลำบากมีสิทธิตกเก้าอี้แอ่นอกยอมรับผิดชอบเพื่อให้ดูดีและหวังว่าตนมีสิทธิที่จะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งอเมริกาส่วนพวกลิ่วล้อบางครั้งฉันก็เอือมระอากับคำตอบเช่นพยายามโทษกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าเสนอนโยบายตัดงบรักษาความปลอดภัยอ้าวไม่รู้หรอกหรือว่าอย่างไหนควรตัดหรือไม่ไม่มีงบเพิ่มแล้วทำไมเอาเงิน 7 แสนเหรียญไปสร้างสนามฟุตบอลล์ให้นักโทษก่อการร้ายที่อ่าวกัวตานาโมที่โอบามาเต๊ะท่าเซ็นต์อย่างเอาจริงดูเข้มขรึมสั่งปิดในปีแรกแต่ 4 ปีมาแล้วก็ยังปิดไม่ได้เพราะปิดแล้วจะเอานักโทษไปไว้ไหนหลังทำเนียบที่โอบามาทำงานอยู่ท่านว่าดีไหมนักโทษบางคนที่ปล่อยไป 100% กลับไปร่วมแกงค์กลับมาก่อการร้ายอีกแทบทุกราย

 

 

ข่าวล่าจากการสำรวจความคิดของชาวมะกันถามว่าถ้าโอบามากลับเข้ามาอีกทำประเทศล่มจมประเทศไหนในโลกที่ท่านคิดว่าน่าย้ายไปอาศัยอยู่ที่สุดเมื่อก่อนคำตอบก็คือประเทศเพื่อนบ้านคานาดาแต่เที่ยวนี้ไม่ติด 1

 

ใน 5 อันดับ 5 คือ Hong Kong, อันดับ 4 ได้แก่ Burmuda, 3 Camen Island, แต่นแต้นอันดับที่ 2 ชื่อคุ้นๆได้แก่ Thailand และอันดับหนึ่ง Singapore. โอโห เอเซียติดตั้ง 3 ประเทศ 555.

ส่วนเรื่องสื่อ 80% ที่นี่เชียร์โอบามาตลอดบางครั้งก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทั้งๆที่นโยบายบริหารประเทศไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจการสร้างงานพลังงานและอื่นๆของรัฐบาลโอบามาล้มเหลวมาตลอดแต่ 1 เดือนที่ผ่านมาโพลบอกว่าโอบามายังนำอยู่ถึง 11 แต้มเลยลองทำการบ้านดูว่าที่เราได้ฟังมาว่าไม่ดีมันจริงแท้แค่ไหนวันก่อนได้ดูดีเบทรอบสองคราวนี้โอบามามามุมแดงเป็นฝ่ายรุกไม่ว่ารอมนีย์พูดอะไรจะเน้นคำว่าไม่จริง ( not true) ตลอดเวลาดูเหมือนโอบามาจะทำคะแนนดีขึ้นให้ตัวเองได้แต่ก็ทำอะไรรอมนีย์ไม่ได้ถนัดเพราะผลงานตัวเลขที่รอมนีย์เอามาพูดเป็นเรืองจริงเสียมากกว่าโอบามามีแต่พูดว่าถ้าเอานโยบายของรอมนีย์ประเทศนี้จะถอยแย่ลงไปกว่านี้อีกเราถอยไม่ได้แล้วโอบามาเน้นพอมาถึงเรื่องเผาสถานทูตกลับคำยืดอกว่าตัวเองรับผิดชอบรอมนีย์ว่าไม่พูดความจริงตั้งแต่ทีแรกว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายโอบามาเถียงว่าพูดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ (Sep 12) ซึ่ง TV เอาเทปมาเปิดให้ดูก็ไม่ได้พูดอย่างนั้นโกหกหน้าตาเฉยซ้ำพีธีกรครั้งแรกและคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เป็นผู้หญิงกลับพูดเข้าข้างว่าโอบามาว่าได้พูดว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้ายซึ่งไม่ใช่หน้าที่เสียมารยาทและไม่สมควรทำโดยเด็ดขาดแถมยังสอดแทรกขัดจังหวะรอมนีย์ถึง 28 ครั้งขัดโอบามา 9 ครั้งโอบามาได้เวลาพูดมากกว่า 3 นาทีและที่ดูน่าเกลียดก็คือคนที่เข้าไปฟังเขามีกฏกติกาห้ามส่งเสียงเชียร์และตบมือแต่เมียโอบามานั่งตบมือเชียร์ผัวตัวเองอยู่คนเดียวภาพหลุดมาให้คนดูหน้าทีวีหน้าตาเฉยคราวที่แล้วนายไบเดนหัวเราะและพูดขัดจังหวะถึง 82 ครั้งไรอันพูด 41 นาทีตกนาทีละ 2 ครั้งสื่อเมืองไทยก็ลอกข่าวจากสื่อที่เชียร์โอบามาเช่น CNN (น้ำเน่าดังทั่วโลกแต่คนมะกันเขาไม่ดูกันหรอก) หรือนิวยอร์คทามเรทติ้งตกต่ำกำลังจะเจ้งเพราะปัจจุบันเขาอ่านทางเวปกันมากกว่าแล้วเบี่ยงเบนข่าวไทยจึงไม่เป็นกลางเท่าที่ควรจะเป็นวันนี้โพลกลับให้รอมนีย์นำโอบามาอยู่ถึง 6 แต้ม (51% - 45%)เชื่อว่าไม่น่าจะจริงตอนนี้สูสีกันน่าดูและในอดีตอีก 2 อาทิตย์ถึงวันเลือกตั้งใครที่มีเปอร์เซนต์เกิน 50 จะเป็นผู้ชนะแต่ฉันว่าถ้ารอมนีย์ชนะโอบามาไม่ได้ทั้งที่ล้มเหลวแต่ว่าคนชอบ ก็ควรจะยุบพรรคทิ้งเสียจะดีกว่า

 

เช้าวันต่อมาพิธีกรหญิงคนนั้นออกมาขอโทษ ที่เถียงแทนโอบามาซึ่งคนทั้งประเทศเขารู้ว่าโอบามาพยายามปิดบังประชาชนเรื่องเผาสถานทูตซึ่งไม่ใช้วิสัยของผู้นำ

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 5, 2012 โดย vanta

[Kamolthun 224]

555 อาจจะจริงอย่างที่คุณกำพลว่าครับ

 

ขอเล่นง่าย ๆ เอาบทความที่เขียนไว้มาแปะเลยละกันครับ ของจริงลงหนังสือพิมพ์ทันหุ้นวันพรุ่งนี้ครับ "

 

จุดตัดสินทิศทางการเมืองสหรัฐฯ เหยี่ยวมาแรงหรือพิราบครองเก้าอี้

 

เรื่องร้อนวันนี้คงไม่พ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 ดังนั้น “เศรษฐศาสตร์ตู้แดง” จึงขอกลับมาที่ประเด็นนี้อีกครั้ง ที่จริงประเด็นนี้ผมเคยเขียนไว้ในบทความหลายฉบับก่อนหน้าแต่ที่ผ่านมาก็พยายามแตะในมุมของผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนและผลกระทบต่อทองคำในระยะสั้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจ ดังนั้นวันนี้ผมจะขอนำเสนอมุมมองในระยะกลางและระยะยาวตามข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่และแน่นอนต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ผู้นำที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปดำเนินตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้จริงทุกประการ

 

ต้องเรียนก่อนว่าทั้งสองท่านมีเป้าหมายกว้าง ๆ ที่เหมือนกันโดยเฉพาะในประเด็นเศรษฐกิจ ต่างเพียงวิธีการที่อาจจะดูแตกต่างกันในหลายแง่มุม แต่ถ้าสรุปรวมให้พอเข้าใจแล้วอาจจะบอกได้ว่าวิธีการของโอบามานั้นละม่อมมากกว่า ในขณะที่รอมนีย์มาแบบฮาร์ดคอร์ โดยเป้าหมายหลักคือการสร้างงานให้ประชาชนสหรัฐฯ การฟื้นเศรษฐกิจสหรัฐฯและรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งให้คงอยู่กับสหรัฐฯ ต่อไป ส่วนปัญหาด้านการคลังก็ต้องหาทางออกที่ยอมรับได้โดยเน้นเป้าหมายระยะยาว ผลระยะสั้นที่กังวลเรื่อง Fiscal Cliff นั้นอย่างที่เคยเรียนไปแล้วว่าถ้ามิตต์ รอมนีย์เป็นประธานาธิบดีท่านต่อไปผลที่ออกมาน่าจะดีกว่า เนื่องจากจะทำให้รีพับลิกันครองสภาล่างส่งผลให้การผ่านนโยบายภาษีที่เป็นที่กังวลกันทำให้ได้ง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าขณะที่นโยบายภาษีส่วนใหญ่ที่ใช้นั้นก็จะสอดคล้องกับนโยบายเดิมที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชตั้งไว้ (Bush Tax Cut)

แต่ถ้าว่ากันในระยะกลางและระยะยาวไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีปัญหาที่ต้องเจอคือปัญหาทางการคลัง แนวทางที่ต้องเลือกเดินต่างสร้างปัญหาในระยะยาวทั้งสิ้น กล่าวคือถ้ามีการลดมาตรการภาษีลงจริงสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือทำให้สหรัฐฯ สามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้นความว่าประมาณ 5-6 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อปี แต่ก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเช่นกันซึ่งจากการประเมินก็อยู่ในช่วงที่ค่อนข้างกว้างมาก ในกรณีที่เลวร้ายอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับไปสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ขณะที่การต่ออายุมาตรการก็จะทำให้รายจ่ายของรัฐดำเนินต่อไป ซึ่งทั้งสองพรรคมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเพดานหนี้ตามกฏหมายขึ้นอีกในอนาคต นั่นหมายความว่าการก่อหนี้จะยังไม่สิ้นสุด ซึ่งเมื่อเทียบกันระหว่างภาษีที่เก็บเพิ่มขึ้นกับเศรษฐกิจที่ถดถอยลงจะได้คุ้มเสียหรือไม่

 

เมื่อมองถึงสาระสำคัญด้านภาษีที่มีความต่างกันก็ต้องยอมรับว่าถ้าโอบามาได้ขึ้นรับต่ำแหน่งรอบที่ 2 ผลที่ตามมาน่าจะกระทบต่อตลาดการลงทุนในสหรัฐฯ ไม่น้อย เพราะโอบามาจะจัดเก็บภาษีสำหรับการลงทุนเพิ่มขึ้น นี่ยังไม่รวมการเก็บภาษีจากความมีฐานะดีในสัดส่วนที่สูงกว่าปัจจุบันซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับตลาดทุน ขณะที่รอมนีย์ให้ประโยชน์ด้านภาษีแบบเท่าเทียมกว่าแต่มีแผนว่าจะยกเลิกมาตรการประกันสุขภาพของโอบามา (ซึ่งจะผูกพันกับรายจ่ายรัฐอีกยาวนาน) ในมุมนี้มิตต์ รอมนีย์อาจจะมีแต้มต่อมากกว่า

 

แต่ถ้ากลับมาพิจารณาถึงนโยบายด้านการเงินรอมนีย์ โจมตีนโยบายของ FED หลังออก QE3 อย่างหนักทำให้คาดกันว่าถ้าเขาขึ้นรับตำแหน่งแล้วนโยบาย QE3 อาจจะอยู่ไม่นานเท่าที่ควร อย่างไรก็ดีประเด็นนี้ผมมองว่าตราบเท่าที่ QE3 ยังมีประโยชน์และสนับสนุนนโยบายของเขาก็อาจจะยังไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องยกเลิกในทันที ส่วนในด้านการค้าระหว่างประเทศแน่นอนว่าด้วยวิธีที่แข็งกร้าวกว่าของรอมนีย์น่าจะทำให้การดำเนินการยากลำบากกว่าวิธีของโอบามาที่เน้นการเจรจาในเวลาโลกมากกว่าการกดดันทางการค้า