ธนบัตร ประเทศต่างๆ ในโลกใบนี้

[Pete 15,187]

สาระหน้ารู้ ทั้งเรื่องประเทศ และ รูปแบบหน้าตา ธนบัตรที่ใข้กันทั่วโลก

ถูกแก้ไข เมษายน 27, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

##สาระน่ารู้##

ถาม : คุณรู้หรือไม่ว่าธนบัตรไทยที่มีมูลค่าบนธนบัตรมากที่สุดคือธนบัตรอะไร?

ตอบ : ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคลวันราชาภิเษกสมรส และวันบรมราชาภิเษกครบ ๕๐ ปี

มูลค่าบนธนบัตร คือ 500,000 บาท

 

รายละเอียดธนบัตรที่ระลึกเนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคลวันราชาภิเษกสมรส และวันบรมราชาภิเษกครบ ๕๐ ปี

ภาพประธานด้านหน้า : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คู่กับพระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตราอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. คู่กับตราอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. และภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ภาพประธานด้านหลัง : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ และพระฉายาสาทิสลักษณ์ ในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส

ขนาด : 12.6 x 20.5 เซนติเมตร

วันประกาศออกใช้ : ลงวันที่ 26 เมษายน 2543

จ่ายแลก : วันที่ 8 พฤษภาคม 2543

จัดพิมพ์ 2 แบบ รุ่นราคา 50 บาท และ 500,000 บาท

 

ขอบคุณภาพประกอบและเนื้อหาจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย

[Pete 15,187]

##แนะนำธนบัตรน่าสะสม##

ธนบัตรไทย แบบที่ 10 ฉบับราคา 100 บาท รุ่นปี พ.ศ. 2511 ภาพหลังเรือสุพรรณหงส์

ออกใช้วันที่ 16 พ.ค. 2511

ขนาด 8.7 x 14.5 ซม. หมวดอักษร ข1- ข493

ลายเซ็น เสริม วินิจฉัยกุล และ พิสุทธิ์ นิมมานเหมินทร์

 

รหัสสินค้า THA-79

สภาพใหม่ ยังไม่เคยผ่านการใช้งาน (UNC)

[Pete 15,187]

วันที่ 13 ตุลาคม 2554 มีงานอภิเษกสมรส ที่สื่อมวลชนหลายๆประเทศทั่วโลกให้ความสนใจ รวมไปถึงประชาชนชาวไทยก็ให้ความสนใจงานอภิเษกสมรสนี้ไปด้วย

 

โดยงานพิธีนี้จัดขึ้นที่เมืองพูนาคา ของประเทศภูฏาน เป็นพิธีอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และ เจตซัน เปมา หญิงสามัญชน (ปัจจุบันทรงเป็นพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน)

ท่ามกลางรอยยิ้มแห่งความยินดีของพสกนิกรชาวภูฏานที่เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน

 

และในวันที่ 15 ตุลาคม 2554 ได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสขึ้น ณ สนามกีฬากลางกรุงทิพมู ให้ประชาชนได้ยลโฉมพระราชินีองค์ใหม่กันอย่างเป็นทางการ ในพิธีเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสของกษัตริย์จิกมี่

มีการแสดงระบำพื้นเมืองและศิลปะดนตรีประจำชาติภูฏานตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงบ่าย ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานนับหมื่นคนที่นั่งอยู่เต็มอัฒจันทร์สนามกีฬากลาง ซึ่งในงานนี้ กษัตริย์จิกมี่ได้ทรงร่วมเต้นรำร่วมกับ

คณะนักแสดงด้วย แต่นั่นก็ยังไม่เรียกเสียงฮือฮาจากพสกนิกร เท่ากับวินาทีที่ทรงได้รับการร้องขอให้แสดงความรักต่อพระราชินีเจตซัน เปมา ด้วยการจุมพิต และทำให้พสกนิกรต่างยิ้มกว้างกับภาพที่ได้เห็น ขณะที่กษัตริย์จิ๊กมี

ก็ทรงมีท่าทีเขินอายเป็นอย่างมาก นับเป็นบรรยากาศแห่งความสุข ความประทับใจที่ชาวภูฏานจดจำไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว :-)

[Pete 15,187]

ฟาโรห์ทุตอังค์อามุน หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม ฟาโรห์ตุตันคามุน (อังกฤษ: Tutankhamun) ประสูติ: 1341 ปีก่อนคริสตกาล, ทิวงคต: 1323 ปีก่อนคริสตกาล

ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เพียง 10 ชันษา เป็นฟาโรห์อียิปต์พระองค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์ที่ 18 เสวยราชย์ระหว่าง 1333-1324 ปีก่อนคริสตกาล

ตุตันคามุนสิ้นพระชนม์เมื่อ 18 ชันษาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์โดยสังฆราชอัย (ภายหลังพบว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรค

มาลาเรีย) ซึ่งต่อมาสถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์สืบราชสมบัติ และด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ของกษัตริย์พระองค์น้อย ทำให้ทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก

ที่สำคัญหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคามุนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติ

ศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย

แต่นับเป็นข้อดีเพราะเมื่อในการขุดค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน พบว่ามีทองคำและของมีค่ามากมาย เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็น

ของกษัตริย์ จึงรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ และทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

 

กรุสมบัติ ฟาโรห์ ตุตันคามุน ถือว่าเป็น หนึ่งใน กรุสมบัติโบราณ ที่ล้ำค่าที่สุดในโลก เท่าที่มนุษย์มีการค้นพบ และยังหลงเหลือถึงปัจจุบัน โดยทรัพย์สมบัติที่มีการค้นพบ

มีดังต่อไปนี้

- เฟอร์นิเจอร์ และหีบ

- หน้ากากทองคำ ของ ฟาโรห์ตุตันคามุน

- หีบพระศพไม้ ปิดทองคำเปลว ตกแต่งด้วยหินล้ำค่า และกระจก

- แท่นบูชาไม้ ปิดทองคำเปลว

- เพชร พลอย และเครื่องประดับ

- รูปปั้น รูปสลัก ต่างๆ

 

มีคำล่ำลือถึงคำสาปของนักบวชอียิปต์โบราณที่สลักไว้ในสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน เพราะหลักจากการขุดค้นพบสุสานดังกล่าว ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขุดค้นสุสาน

ของฟาโรห์ตุตันคามุน ก็มีการล้มหายตายจากไปแบบพิศวงต่างๆนาๆ โดยข้อความจารึกแปลได้ว่า “มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์”

[Pete 15,187]

##สถานที่ท่องเที่ยว##

กุ้ยหลิน (Guilin) เป็นเมืองอันสงบตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหลีเจียงเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในแง่ความงดงามมาแต่อดีต ฮั่นหยู ปราชญ์ในราชสมัยราชวงศ์ถังเคยกล่าวกวีไว้บทหนึ่งว่า "แม่น้ำนี้งดงามราวสายเข็มขัดไหมสีมรกต ส่วนภูผานั่นเล่าเป็นดั่งจุฑามณีสีหยก" ไม่เพียงเท่านั้น ชาวจีนเองต่างก็ยอมรับในความงามของกุ้ยหลิน จนมีคำกล่าวที่ว่า "ซื่อไหว้เถาหยวน" ซึ่งหมายความว่า "เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ"

 

พื้นที่ของเมืองกุ้ยหลินโดยรอบประกอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ที่ผ่านการกัดกร่อนของกาลเวลาเกิดเป็นรูปร่างแปลกตามากมาย มีภูเขาหินน้อยใหญ่กว่า 27,000 ยอด รวมถึงแมกไม้ สายธารและถ้ำอันตระการตา นับเป็นความอัศจรรย์ที่ธรรมชาติบรรจงสรรค์สร้างขึ้น ชาวจีนต่างยอมรับว่ากุ้ยหลิน คือ สถานที่ที่งดงามที่สุดในเมืองจีน ว่ากันว่า หากจิตรกรท่านใดไม่เคยมาเยือนกุ้ยหลิน จิตรกรท่านนั้นก็ไม่สามารถที่จะเขียนภาพวาดภูเขาที่สวยงามได้

 

Credit: Blueplanet@Pantip.com

[Pete 15,187]

##แนะนำธนบัตรน่าสะสม##

ธนบัตรงานถวายเพลิงพระบรมศพเจ้าสีหนุ ฉบับราคา 1,000 เรียล ซึ่งทางประเทศกัมพูชาเพิ่งได้จัดพิมพ์ขึ้นมาแจกจ่าย และทางเราได้รีบแลกมาให้ท่านนักสะสม ได้เลือกไปสะสมก่อนใคร

ถูกแก้ไข เมษายน 27, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

##บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลก##

เจงกีส ข่าน (Genghis Khan) จักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้พิชิต ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล เดิมมีนามว่า "เตมูจิน" (Temüjin) ตามสถานที่เกิดริมฝั่งแม่น้ำโอนอน

มีช่วงชีวิตอยู่ราว พ.ศ.1705 - 1770 เมื่ออายุได้ 13 ปี ได้เป็นผู้นำแทนบิดาที่เสียชีวิต ดิ้นรนต่อสู้รบกับเผ่าต่างๆ อยู่หลายปี และพิชิตชนชาติต่างๆได้ จนในปี พ.ศ.1749

เปลี่ยนชื่อเป็น "เจงกีส ข่าน" เจงกีส แปลว่า "เวิ้งสมุทร, มหาสมุทร” (ซึ่งเปรียบได้ว่า เจงกีส ข่าน มีความยิ่งใหญ่ ดั่งเวิ้งมหาสมุทรนั่นเอง) ต่อมาในปี พ.ศ.1754 กองทัพ

ของเจงกีส ข่าน สามารถรบพุ่งชนะหลายครั้ง จนยึดครองจีนตอนเหนือ และดินแดนอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ทะเลดำไปจนจดมหาสมุทรแปซิฟิก

 

เจงกีส ข่าน ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการทหารที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก

[Pete 15,187]

##แนะนำธนบัตรน่าสะสม##

ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2533 ใช้แบบพิมพ์ธนบัตรไทยแบบที่ 13 ลายน้ำเป็นพระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี คู่กับเลขไทย ๙๐ ซึ่งมีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ ใต้ลายน้ำมีคำว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ๙๐ พรรษา

[auntnextdoor 4,268]

ไว้มาอ่านเป็นความรู้ ขอบคุณค่ะ

[Pete 15,187]

##สาระน่ารู้ : นครวัด มรดกโลกแห่งเสียมเรียบ##

นครวัด (เขมร: អង្គរវត្ត ,อังกฤษ: Angkor Temple) เป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยเป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เมืองพระนคร"

 

เมืองพระนครได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ซึ่งตั้งแต่ปีที่ลงทะเบียนเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2547 เมืองพระนครได้ถูกจัดให้เป็นแหล่งมรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตราย

[Pete 15,187]

##สาระน่ารู้ : ปราสาทบายน ศาสนสถานแห่งนครธม##

ปราสาทบายน (เขมร: ប្រាសាទបាយ័ន ,อังกฤษ: Prasat Bayon) เป็นปราสาทหินของอาณาจักรเขมร อยู่ในบริเวณของใจกลางนครธม สร้างขึ้นเป็นวัดประจำสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ก่อสร้างในราวปี พ.ศ. 1724-พ.ศ. 1763 หลังจากที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7ทรงได้ชัยชนะจากการขับไล่กองทัพอาณาจักรจามปา นับเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้างและความหมาย เนื่องจากผ่านความเปลี่ยนแปลงด้านศาสนาและความเชื่อมาตั้งแต่คราวนับถือเทพเจ้าฮินดู และพุทธศาสนา อาคารมีลักษณะพิเศษ เนื่องจากส่วนของหอเป็นรูปหน้าหันสี่ทิศ จำนวน 49 หอ ปัจจุบันคงเหลือเพียง 37 หอ ลักษณะโดยทั่วไปจะมี 4 หน้า 4 ทิศ แต่บางหออาจมี 3 หรือ 2 แต่บริเวณศูนย์กลางของกลุ่มอาคาร จะมีหลายหน้า ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะพยายามนับว่ามีกี่หน้า

ลักษณทางสถาปัตยกรรมของบายนก็เช่นเดียวกับเรื่องความเชื่อ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงมาในหลาย ๆ สมัย กษัตริย์ในยุคหลัง ๆ พบว่าเป็นการง่ายกว่าที่จะปรับปรุงวัดแห่งนี้ แทนที่จะรื้อสร้างใหม่เช่นที่ทำกัน และใช้เป็นวัดประจำสมัยต่อเนื่องกันมา

 

**เรื่องน่ารู้**

รูปแกะสลักหน้าบนปราสาทบายน สันนิษฐานว่าจะเป็นพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพระพุทธศาสนามหายาน ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด และเป็นบุคลาธิษฐานแห่งมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง เรื่องราวของพระอวโลกิเตศวรปรากฏอยู่ทั่วไปในคัมภีร์สันสกฤตของมหายาน อาทิ ปรัชญาปารมิตาสูตร สัทธรรมปุณฑรีกสูตร และการัณฑวยูหสูตฺร

[Pete 15,187]

##สาระน่ารู้ : สัตว์ตระกูลอูฐ##

อูฐ (อังกฤษ: camel; อาหรับ: جمليات, ญะมัล) เป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูง สามารถอาศัยโดยไม่ต้องกินอาหารหรือน้ำเลย 2 สัปดาห์ เพราะมีไขมันสะสมไว้ในหนอกและร่างกายเก็บรักษาน้ำได้เป็นอย่างดี จึงสามารถอยู่ในที่ทุรกันดารเช่นทะเลทรายได้เป็นอย่างดี กินอาหารประเภทใบไม้ในทะเลทราย ตัวโตเต็มที่มีความสูงถึงบ่าประมาณ 1.85 เมตร และหนอกสูงอีก 75 เซนติเมตร ความสามารถ วิ่งได้เร็ว 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบกน้ำหนักได้ 150-200 กิโลกรัม อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลงได้จาก 34 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืนมาเป็น 41 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน

 

สัตว์ที่จัดอยู่ในตระกูลอูฐมีอยู่ 6 ชนิดด้วยกันคือ

1.อูฐหนอกเดียว (Arabian camel) เป็นอูฐที่มีถิ่นที่อยู่ในออสเตรเลียและตะวันออกกลาง

2.อูฐสองหนอก (Bactrian camel) มีถิ่นที่อยู่ในแถบเอเชีย

3.ลามา (llama) มีถิ่นที่อยู่ในอเมริกาใต้

4.อัลปากา (alpaca) มีถิ่นที่อยู่ในอเมริกาใต้

5.บีกูญา (vicuña) มีถิ่นที่อยู่ในอเมริกาใต้

6.กวานาโก (guanaco) มีถิ่นที่อยู่ในอเมริกาใต้

 

**เรื่องน่ารู้**

บรรพบุรุษของสัตว์ตระกูลอูฐ มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือในยุคอีโอซีน ราว 40-45 ล้านปีที่แล้ว มีชื่อว่าโพรทีโลปัส (Protylopus) มีขนาดเท่ากระต่าย ต่อมาวิวัฒนาการจนตัวเท่าแพะ มีลำคอยาวเมื่อ 35 ล้านปีที่แล้ว และเมื่อ 3-5 ล้านปีที่แล้วได้เดินทางลงอเมริกาใต้ (วิวัฒนาการเป็นลามา) แอฟริกาและเอเชีย (วิวัฒนาการเป็นอูฐ) ทำให้สัตว์ตระกูลอูฐในทวีปอเมริกาเหนือสูญพันธุ์ไป

[Pete 15,187]

##สาระน่ารู้ : วาฬหลังค่อมยักษ์ใหญ่แห่งแปซิฟิก##

วาฬหลังค่อม หรือ วาฬฮัมแบ็ก (อังกฤษ: Humpback whale; ชื่อวิทยาศาสตร์: Megaptera novaeangliae) เป็นวาฬขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของวาฬทั้งหมด น้ำหนักตัวอาจถึง 45 ตัน มีความยาว 25 เมตร พบกระจายพันธุ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือราว 10,000 - 25,000 ตัว ในปี 2008 เป็นวาฬที่หากินด้วยการกรองด้วยแผ่นบาลีนกว่า 800 แผ่นที่ขากรรไกรด้านบน กลืนกินสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น เคย, แพลงก์ตอน เป็นวาฬที่รู้จักการหาอาหารร่วมกัน เช่น การไล่ต้อนฝูงปลา เป็นต้น โดยจะกินอาหารมากถึงวันละ 1 ตัน วาฬหลังค่อมเพศเมียตกลูกทุก 2-3 ปี มีระยะเวลาตั้งท้องนาน 11 เดือน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกวาฬจะกินนมจากแม่เป็นปริมาณ 100 แกลลอนทุก ๆ วัน

 

**เรื่องน่ารู้**

- วาฬหลังค่อมแม้จะอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแต่ก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

- วาฬหลังค่อมมีการสื่อสารกันด้วยเสียงที่ซับซ้อนซึ่งมีการแตกต่างกันอย่างน้อย 34 เสียง ซึ่งได้ยินไปไกลได้ถึง 161 กิโลเมตร และอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง

- วาฬหลังค่อมชอบกระโดดขึ้นเหนือน้ำ และยกหางขึ้นเหนือน้ำ เป็นภาพที่น่าประทับใจสำหรับผู้พบเห็น

[Pete 15,187]

## สาระน่ารู้ : โจรสลัดโซมาเลีย ##

การขนส่งทางทะเลนอกชายฝั่งประเทศโซมาเลียต้องประสบปัญหาการปล้นสะดมทางทะเลจากโจรสลัดอย่างหนัก และไม่มีความปลอดภัยในพื้นที่

นอกชายฝั่งนี้อีกต่อไป...

 

เริ่มตั้งแต่น่านน้ำ ประเทศแทนซาเนีย ผ่านทะเลอาหรับ อ่าวเอเดน ไปจนถึงน่านน้ำประเทศโอมาน ขยายวงกว้างจนเกือบถึง เกาะมัลดีฟส์

และประเทศอินเดีย รวมพื้นที่ทางในการปล้นสะดมของโจรสลัดกินพื้นที่กว่า 1 ล้าน 6 แสน ตารางกิโลเมตร สร้างความเสียหายต่อ

ระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

 

โดยสาเหตุสาคัญมาจากภายหลังสงครามกลางเมืองของโซมาเลีย ทำให้ชาวโซมาเลียผันตัวเองมาเป็นโจรสลัด โดยเฉพาะชาวประมง มีการเกิดปัญหา

น้ำเน่าเสียในน่านน้ำโซมาเลีย และการทำประมงจากเรือลากอวนขนาดใหญ่ของต่างประเทศ บีบบังคับให้ชาวประมงผันตัวเองมาเป็นโจรสลัด คอยดักปล้นเรือ

ที่ผ่านมายังน่านน้ำนี้ จนลุกลามขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบัน

 

แม้ในปัจจุบันจะมีความร่วมมือกันของหลายๆชาติเพื่อปราบปรามโจรสลัดในน่านน้ำโซมาเลีย แต่ก็ยังไม่สามารถปราบปรามให้โจรสลัดหมดไปได้

ทำได้เพียงหันความสนใจของโจรไปยังพื้นที่อื่น...