เดาทองจากกราฟ โดยน้าเคน

[pat9999 0]

ขอบคุณค่ะ

[chang6 0]

ขอบคุณมากครับ

[npktrader 1]

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ น้าเคน

อยากได้รายละเอียดแบบนี้แหละครับ แต่ไม่รู้ไปหาที่ไหน

[bbeem 71]

ขอบคุณค่ะน้าเคน

[patcharin 51]

ขอบคุณอ.เคนคร้า

[poppapat 8]

ขอบคุณครับน้าเคน

[ToNy 107]

สวัสดีครับทุกท่าน

Thanks: ฝากรูป

*USA:สหรัฐสะดุดเพิ่มเพดานหนี้ หลังสภาผู้แทนฯเลื่อนโหวตร่างกม."โบห์เนอร์"

 

วอชิงตัน--29 ก.ค.--รอยเตอร์

 

การแก้ปัญหาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังคงไม่มีความคืบหน้า

หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้ประกาศ

เลื่อนการลงมติต่อร่างกฎหมายปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณฉบับของนาย

จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนฯ ออกไป โดยไม่มีกำหนด ขณะใกล้

เส้นตายวันที่ 2 ส.ค. หลังจากเห็นว่ายังขาดคะแนนเสียงอยู่อีก 4 เสียง

ที่จะทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากสภา

ทั้งนี้ แต่เดิมนั้น สภาผู้แทนฯมีกำหนดลงมติในเวลา 17.45 น.-

18.15 น. วานนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือ 04.45 น.-05.15 น.เช้านี้

ตามเวลาไทย แต่ได้มีการเลื่อนออกไป โดยยังไม่ได้มีการกำหนดเวลา

ประชุมใหม่เพื่อลงมติแต่อย่างใด

นายโบห์เนอร์หวังพยายามผลักดันแผนการของเขาให้ผ่านความเห็น

ชอบของสภาคองเกรสเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ แต่มีแนวโน้มว่าเสียง

สนับสนุนและเสียงคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้อาจอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายของนายโบห์เนอร์ได้เสนอโครงการ 2 ขั้นตอน

เพื่อปรับลดงบประมาณรายจ่ายและปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราว และจะดำเนินการ

เช่นนี้อีกครั้งหนึ่งในปีหน้า โดยแผนของเขาเริ่มต้นด้วยการปรับเพิ่มเพดานหนี้

1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 2 ส.ค. และปรับลดงบรายจ่ายลงในระดับ

1 ล้านล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้น

หลังจากนั้นในช่วง 6-7 เดือนข้างหน้า สมาชิกสภาคองเกรส

และปธน.บารัค โอบามาก็จะต้องมาหารือในเรื่องแนวทางการประหยัด

งบเพิ่มเติมของสหรัฐ โดยอาจจะมาจากการปรับโครงการสวัสดิการสังคม

หรือการปฏิรูปกฎหมายภาษี เพื่อที่สหรัฐจะได้ปรับเพิ่มเพดานหนี้งวดที่สอง

ถ้าหากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติแผนการของนายโบห์เนอร์

การแก้ไขวิกฤติหนี้สหรัฐก็จะประสบกับความคืบหน้า หลังจากที่ความล่าช้า

ในเรื่องนี้ได้สร้างความกังวลต่อตลาดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดวิตก

ว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่มีเงินเหลือใช้ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆในสัปดาห์หน้า

ก่อนหน้านี้ ปธน.โอบามาขู่ที่จะวีโต้ร่างกฎหมายของนายโบห์เนอร์

และวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาก็ประกาศว่า

จะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี การผ่านความเห็นชอบ

จากสภาผู้แทนราษฎรจะส่งผลให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความชอบธรรม และจะกลาย

เป็นส่วนสำคัญในการเจรจาต่อรองที่คาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงเส้นตายในวันที่

2 ส.ค.

ปธน.โอบามากล่าวว่า เขาไม่สามารถยอมรับแผนของนายโบห์เนอร์

ได้ เพราะจะเพิ่มอำนาจการกู้ยืมของกระทรวงการคลังสหรัฐจนถึงต้นปีหน้า

เท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกสภาคองเกรสต้องกลับมาโต้เถียงกันเรื่องเพดาน

หนี้อีกครั้งในปี 2012 ขณะที่สหรัฐจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงปลายปี

ถ้าหากร่างกฎหมายของนายโบห์เนอร์ไม่ผ่านความเห็นชอบจาก

สภาผู้แทนราษฎร วิกฤตการณ์ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น และจุดสนใจจะมุ่งไป

ที่ร่างกฎหมายฉบับของนายแฮร์รี รีด ผู้นำวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต แต่ร่าง

กฎหมายดังกล่าวอาจเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากสมาชิกสภาผู้แทน

ราษฎรพรรครีพับลิกันกลุ่มที ปาร์ตี้

ร่างกฎหมายของนายรีดจะส่งผลให้สหรัฐสามารถปรับลดยอดขาดดุล

งบประมาณลงได้ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลา 10 ปีโดยไม่ต้องปรับขึ้น

ภาษี

นายรีดกล่าวว่า แผนการของนายโบห์เนอร์ไม่มีทางที่จะผ่านความเห็น

ชอบจากวุฒิสภาที่ประกอบด้วยสมาชิก 100 ที่นั่ง โดยวุฒิสมาชิก 53 ราย ซึ่งประกอบ

ด้วยวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต 51 ราย และวุฒิสมาชิกอิสระ 2 ราย ได้ลงนาม

ในจดหมายที่ส่งถึงนายโบห์เนอร์ โดยระบุในจดหมายว่าพวกเขาจะไม่สนับสนุน

แผนการของเขา

อย่างไรก็ดี นายโบห์เนอร์อาจมีอำนาจในการเจรจาต่อรองมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากร่างกฎหมายของเขาผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยเสียงโหวต

อย่างต่ำ 217 เสียง แต่ถ้าหากร่างกฎหมายของเขาไม่ผ่านความเห็นชอบ นาย

โบห์เนอร์ก็จะมีสถานะอ่อนแอลงและอาจสูญเสียตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร

ในอนาคต

ผู้ช่วยพรรคเดโมแครตกล่าวว่า พวกเขาหวังว่าแผนการของนายรีด

จะได้รับเสียงสนับสนุนมากยิ่งขึ้น ถ้าหากแผนการของนายโบห์เนอร์ไม่ผ่าน

ความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา

นักวิเคราะห์แสดงความเชื่อมั่นว่าจะมีการประนีประนอมกันในเรื่องนี้

บริษัทยูเรเชีย กรุ๊ประบุว่า "เรายังคงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง

ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้โดยไม่เกิดวิกฤตการณ์ เพราะทั้งสองฝ่าย

ได้ยื่นข้อเสนอที่มีเนื้อหาตรงกันในหลายส่วน และเปิดโอกาสให้มีการประนี

ประนอมกัน"

นายรีดกล่าวว่า เขาสามารถดัดแปลงร่างกฎหมายของเขาได้อย่าง

ง่ายดาย เพื่อผนวกองค์ประกอบในร่างกฎหมายของนายโบห์เนอร์เข้ามาไว้

ด้วยกัน ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกฎหมายของนายรีดได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งสอง

พรรคในวุฒิสภา โดยถ้อยแถลงนี้บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่จะมีการ

ประนีประนอมกัน

นายแมกซ์ บอคัส วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตกล่าวว่า "จะมีการ

ร่วมมือกันในระดับที่มากพอ เพื่อจะได้มีการผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้มี

การปรับขึ้นเพดานหนี้ และมีการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ"

ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าแผนการของทั้งสองฝ่ายมีบางจุดที่เหมือนกัน

แผนการของนายรีดไม่ได้ครอบคลุมถึงการปรับขึ้นภาษี และจุดนี้

คือจุดหลักที่ใช้ในการดึงดูดเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้

แผนของนายรีดยังปรับลดงบรายจ่ายลงในระดับที่มากกว่าแผนของนายโบห์เนอร์

ด้วย

ทางด้านนายโบห์เนอร์ได้รีบเร่งปรับปรุงข้อเสนอแบบ 2 ขั้นตอน

ของเขา โดยเขาเคยกล่าวว่าร่างกฎหมายของเขา จะส่งผลให้งบประมาณ

รายจ่ายลดลง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในเวลา 10 ปี แต่บทวิเคราะห์พบว่า

ร่างกฎหมายนี้จะทำให้งบรายจ่ายลดลงน้อยกว่าตัวเลขดังกล่าว 3.50

แสนล้านดอลลาร์

แผนใหม่ของนายโบห์เนอร์จะส่งผลให้มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้

9 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครอบคลุมความจำเป็นในการกู้ยืมเงินของรัฐบาล

สหรัฐจนถึงเดือนพ.ย. 2012

ทำเนียบขาวระบุว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นทางเลือกอื่นใดนอกจากการ

บรรลุข้อตกลงในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐภายในกำหนดเส้นตาย

วันที่ 2 ส.ค. เพื่อที่สหรัฐจะได้สามารถชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ต่อไป

ถึงแม้สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับเพิ่มเพดานหนี้จากระดับ

14.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน แต่สหรัฐก็อาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

ลงจากขั้นสูงสุด ถ้าหากสภาคองเกรสไม่ออกมาตรการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ

ลงในระดับที่มากพอ โดยการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืม

ของสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และจะกระทบนักลงทุนทั่วโลก

ผู้นำสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน และผู้นำวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต

พยายามแสวงหาจุดยืนร่วมกันในขณะนี้ แต่ความยุ่งยากเกี่ยวกับแผนการของทั้งสองฝ่าย

อาจส่งผลให้การประนีประนอมไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย--จบ--

 

ขอบคุณข่าวจากรอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง

 

มาดูกราฟกันต่อ

 

วันนี้ข่าวยาวไปซักหน่อยแต่อยากให้เข้าใจว่ามันเกิดไรขึ้นเมื่อคืน

ราคาเมื่อคืนหลุดแนวรับ 1612 ลงมาใกล้ระดับ 1600 แ้ล้วจึงเกิดแรงซื้อกลับ

แต่สังเกตว่าเมื่อราคาหลุดกรอบแชแนลสีเขียวออกมาแล้วแตก็ยังไม่สามารถวิ่งกลับเข้าไปในกรอบได้อีก

มุมมองว่าราคาจะลงต่อ จึงยังไม่ถูกขจัดไป ส่วนตัว มองว่าหากยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือ 1620 ราคาก็ยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อ

วันนี้มองราคาในกรอบสีส้มที่วางไว้ หากราคาขึ้นไปทะลุกรอบนี้ และกลับขึ้นยืนเหนือเส้นกรอบสีเขียวได้

ก็แนะนำว่าซื้อตามจะดูปลอดภัยกว่ามาเสี่ยงเข้าตรงนี้ แต่ถ้าจะเอาปลอดภัยจริงๆ

ก็อยู่รอฟังข่าวของเมกาว่ามันจะปรับเพดานหนี้และลดรายจ่ายภาครัฐได้เท่าไหร่ดีกว่า

วันนี้ใครอยากเสี่ยง รอเปิด S เมื่อทดสอบ 1616 แล้วไม่ผ่าน แล้วคัตลอสทิ้งเมื่อราคาทะลุ 1620 ครับ

 

ทองแท่ง - ร้องเพลงรอไปก่อน อย่าใจร้อน ไว้ลงมา 1600 ค่อยเริ่มสะสมนิดหน่อย

 

ที่ว่ามาผมเดา !ee

!01 !01 !01

[กิตติคุณ 236]

ขอบคุณครับ

[wong53 10]

ขอบคุณครับ น้าเคน

[sss 1]

ขอบคุณน้าครับ

[happy-go-lucky 5]

!thk !thk !thk

[คนที่คุณก้อรู้ว่าใคร 2]

!031 สวัสดีจ้าน้าเคน ฝนตกตลอดๆดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

[Nicky 43]

ขอบคุณครับ

 

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ น้าเคน และทุกท่าน

[คนที่คุณก้อรู้ว่าใคร 2]

!031 วันนี้น้าเคนมามั๊ย มารอน้าเคนจ้า..

[kenjung 6,800]

สวัสดีครับทุกท่าน

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก

 

วิตกเศรษฐกิจหนุนราคาพันธบัตรปิดพุ่ง-- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นในวันจันทร์

ขณะที่แนวโน้มที่เป็นปัญหาสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกได้เพิ่มความต้องการพันธบัตร

รัฐบาล ส่งผลให้ผลตอบแทนร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 8 เดือน ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ

10 ปีปิดเพิ่มขึ้น 13/32 มาที่ 103-07/32 โดยมีผลตอบแทน 2.747% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ

30 ปีปิดพุ่งขึ้น 24/32 มาที่ 105-01/32 โดยมีผลตอบแทน 4.081%

 

ฟรังก์สวิส,ดอลล์แข็งค่าขณะตลาดวิตกศก.โลกชะลอตัว -- ฟรังก์สวิสพุ่งขึ้นในวันจันทร์

และดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ยังคงมีอุปสงค์สำหรับสกุลเงินที่ปลอดภัยจาก

ความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และแนวโน้มการปรับลดอันดับความ

น่าเชื่อถือของสหรัฐ ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 77.260 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 76.730 เยน

ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4246 ดอลลาร์ และ 110.06 เยน เทียบกับระดับปิดวันศุกร์ที่ 1.4395 ดอลลาร์

และ 110.50 เยน

 

ตัวเลขภาคการผลิตอ่อนแอกดน้ำมันดิบปิดลบ 81 เซนต์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วง

หน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน โดยราคาน้ำมันปรับขึ้น

ในช่วงแรก ก่อนจะร่วงลงในช่วงต่อมา หลังจากสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีภาค

การผลิตของสหรัฐที่อ่อนแอ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.อ่อนลง 81 เซนต์ หรือ 0.85%

มาปิดตลาดที่ 94.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ทองร่วงลง,จับตาสภาคองเกรสโหวตเพดานหนี้ -- ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดร่วงลง

ในวันจันทร์ หลังจากการบรรลุข้อตกลงในการปรับขึ้นเพดานหนี้ของสหรัฐกดดันราคาทองให้ดิ่งลง

จากสถิติสูงสุด อย่างไรก็ดี ราคาทองได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อ

การเติบโตอย่างเชื่องช้าในภาคการผลิตของสหรัฐ โดยความกังวลดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้า

ซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิด

ร่วงลง 9.50 ดอลลาร์ ที่ 1,621.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิด

ร่วงลง 79.70 เซนต์ ที่ 39.309 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบ

เดือนต.ค.ปิดบวก 9.30 ดอลลาร์ ที่ 1,784.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบ

เดือนก.ย.ปิดบวก 1.80 ดอลลาร์ ที่ 829.50 ดอลลาร์/ออนซ์--จบ--

 

ขอบคุณข่าวจากรอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง

 

มาดูกราฟซะหน่อย

 

เมื่อวานคอมฯเจ๊ง ไม่มีกราฟดูกว่าจะซ่อมเสร็จก็นานโข เลยไม่ได้มาลงบทวิแคะเดากราฟให้ดู

วันนี้มาดูกันหน่อย หลังจากที่ราคาเหวี่ยงเป็นรถไฟเหาะตีลังกา กระจุยกระจายกันแล้ว

วันนี้ให้รอดูราคาย่อลงมาใกล้แนวรับแถว 1608 ก็เสี่ยงเปิด L ดูครับ มันจะติดขอบเส้นแชแนลพอดี

ซึ่งถ้าราคา ณ จุดนั้นรับไม่อยู่ก็ดูท่าว่าจะเรื่องใหญ่ละครับงานนี้

 

ทองแท่ง - ใครมีของถือลุ้น ใครไม่มีรอย่อมาแนวที่ว่าแล้วเริ่ทะยอยเก็บครับ

 

ที่ว่ามาผมเดา !ee