meng166 131 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ขอบใจหลายๆที่ให้ข้อคิด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
NongRee 4,028 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 (มีการแก้ไข) ข้อคิดเล็กๆ สำหรับคนติดดอย แท่ง หรือ ออนไลน์ หลายๆท่านในวงการทอง ไม่มากก็น้อยต้องเคยสัมผัสดอยอันหนาวเย็น อดทนฝึกฝนฝึกใจรอคอยการกลับมาของมูลค่าทอง สำหรับท่านที่ดอยสูงปรื๊ด ก็ต้องอดทนเฝ้ารออย่างทรหด และเหน็ดเหนื่อยในบางครา ด้วยเพราะยึดติดที่มูลค่า ณ ตอนที่ เราซื้อมานั่นเอง มูลค่าที่ซื้อ หรือดอย ณ ตอนนั้น คือ กลลวงทางจิตใจ ถ้าเราขายออกมาซะที่ราคาถูกกว่า จะรับไม่ได้ โธ่! ซื้อมาตั้ง 27,000 บาท จะให้ขายที่ราคา 25,000 บาทเนี่ยนะ ขาดทุนชัดเจนเห็นๆ แต่เราลืมอะไรไปหรือป่าว? เพราะความเคยชินสามารถเล่นกล ลวงใจคนมานักต่อนัก เราจึงลืมไปว่า ทองที่เคยซื้อ ราคา 27,000 ซื้อทองได้ 1 บาท แล้ววันหนึ่ง ทองลง ราคา 25,000 ก็ซื้อทอง ได้ 1 บาทเช่นกัน อันแน่ะ เริ่ม งง ยัยนี่ต้องการจะบอกอะไร อิอิ เอาล่ะในนามของนักสืบ คินดิอิจิ (ว่าไปนู่น) จะขอเปิดเผยกลลวงจิตใจอันนี้เอง ข้อที่ 1. สมมติว่าทองเป็นขาลง เราจะเอาทองมูลค่า 1 บาทที่ราคาสูงปรี๊ด !!!! เก็บไว้บนหิ้งบูชาอยู่ใย ลืมราคามันทิ้งไปซะ และจงเอามันมาเล่นขาลง - เมื่อดูแนวทางจากกูรูหลายๆท่าน ศึกษามั่นใจ มันเป็นขาลงแน่นอน ขาย! - และเมื่อราคามันมาหยุดที่แนวรับ ซื้อ! (-"-) แล้วไง...ขายแล้ว ซื้อในราคาที่ต่ำกว่า ขาดทุนกว่าเดิมไหม? เรามาดูกัน กรณีที่ 1 ซื้อดอยครั้งแรก 27,000 เก็บไว้บูชา ไม่ขาย ไม่ขาดทุน กรณีที่ 2 ซื้อดอยครั้งแรก 27,000 เอามาขายที่ 25,000 บาท แล้วช้อนซื้อกลับที่ราคาทอง 24,000 บาท ถามว่า กรณีที่ 2 เราได้กำไร 1,000 บาท แล้วขาดทุนจาก ดอย 27,000 หรือไม่? ตอบให้ก็ได้ว่า ทองราคา 24,000 บาท ก็ได้ทองกลับมาก้อนเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนการเก็บไว้บูชาบนหิ้งแบบกรณีที่ 1 เด๊ะๆ (เพราะขายแล้วซื้อกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ขายขาด) แต่...ได้กำไรติดมือมา 1,000 บาท ฉะนั้น ขาดทุนหรือกำไร ? อิอิ ข้อที่ 2. ทองเคยผ่านมาหลายราคา ตั้งแต่ 400 ถึง 27,000 บาท มูลค่าเงินอาจน้อยหรือมากตามเหตุปัจจัย แต่น้ำหนักทองเท่าเดิม ถ้าเราตัดกลลวงของราคาที่ยึดติดจิตใจออกไปได้ จะไม่มีคำว่าดอย สำหรับทอง ขอเพียงแค่ ขายเมื่อมีแนวโน้มที่ราคาจะร่วง แค่นั้น ! เพราะ กำไร เกิดจากการ ซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายไป ไม่มีใครได้กำไรจากการซื้อราคาที่สูงกว่า ชิมิๆ ข้อที่ 3. หากยังฝังใจสลัดไม่หลุดว่า... เราซื้อมาที่ 27,000 หักลบส่วนต่างของ ราคาที่ขายไป 25,000 ต่างกันตั้ง 2,000 บาท ยังขาดทุนนะ? กรณีนี้เก็บขาดทุนไว้ในใจ แล้วเอากำไรจากส่วนต่างที่ซื้อกลับมาได้ เช่นที่ 24,000 บาท กำไร เกิดขึ้น 1,000 บาท เอาไปลบที่่่่่่ขาดทุน เหลือ 1,000 บาท ให้ใจชื้น ราคาทองยังไม่วิ่งขึ้นไปที่ 27,000 แต่ก็ลดการขาดทุนได้อีก 1,000 บาท ข้อที่ 4. ขายราคาเท่าไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าเราซื้อมาแพงกว่าที่ขายหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงราคาทองกำลังขาลง ขายก่อน แล้วตัดสินใจซื้อที่แนวรับไว้ก่อน สมมุติที่ราคา 24,500 บาท จากนั้นค่อยรอขายตอนรีบาวน์ แต่...ว่าซื้อถูกแล้วนะ ดันมีถูกอีกทองยึกยักไม่ยอมรีบาวน์ร่วงลงต่อ และแนวโน้มมีโอกาสร่วงได้ระยะทางไกลนิดนึง สมมติ ราคาขายหล่นมาอยู่ที่ 24,300 บาท ต่างกัน สองร้อยแน่ะ เสียดายละซี่ อิอิ อยากบอกว่าขายเถอะ ถ้ามีแนวโน้มลงไปได้อีก อย่าไปคิดว่าเงินหายไป 200 บาท เพราะกำไร ขาดทุนไม่ได้เกิดจาการขาย แต่เกิดตอนที่ซื้อกลับ ( อันนี้เป็นกรณีของนักลงทุนระยะยาว หรือนักลงทุนที่ติดดอยยาวๆ ) ฉะนั้น ถ้ามั่นใจว่าราคาจะลง ไปมากกว่าที่ขายไป ขายได้ทุกราคาแบบไม่ต้องคิด ^ ^ อย่าให้อะไรมาลวงใจว่า ซื้อแล้วติดดอยแถมดอย เพราะถ้าเราปล่อยดอยทิ้ง ดอยก็อยู่กับเราไม่ได้ อย่าไปร้องบอกดอยว่าปล่อยฉันลงไปนะ ขณะที่ตัวเองกอดดอยซะแน่นเลยนะ อิอิ ดอยนะ ไม่ใช่ ณเดช หรือ ญาญ่า จะได้กอดไม่ปล่อยเลย หุหุ ได้กำไรอย่างไร เรามาซูมดูกัน 1. ซื้อ 24,500 บาท (ความจริงไม่ต้องสนใจมันเลยก็ได้ ว่าซื้อมาเท่าไร เพราะมันเป็นแค่การปิดทำกำไรจากรอบที่แล้วของเราเท่านั้น) 2. ขาย 24,300 บาท เพราะมองตลาดออกว่ามันจะลงต่อ (ตรงนี้สำคัญ! เราต้องวิเคราะห์เป็น ดูแนวโน้มดูทิศทาง จากกูรูต่างๆ แล้ว เราต้องมาประมวลผลต่อเอง หัดและฝึกวิเคราะห์ มองภาพรวมนักลงทุน และเจ้ามือรายใหญ่ ในเมื่อเรารักจะเล่นทอง เราต้องรู้นิสัยของทองด้วย ) 3. ซื้อกลับคืนได้ที่ราคา 24,000 บาท " กำไร 300 บาท ได้มาอยู่ในกระเป๋า " 4. ราคาร่วงต่ออีก (จะร่วงไปไหน) ดูแนวโน้มต่อ ถ้ามั่นใจว่ายังลงไม่สุด ขายซะ แต่ถ้าลงสุดแล้วอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องซนจ้า 5. ขายอีก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าลงแน่ ขายที่ 23,800 บาท 6. ลงจริงๆด้วย ซื้อกลับได้ที่ 23,500 บาท "กำไร 300 บาท ได้มาอยู่ในกระเป๋าเพิ่มอีก" สรุป กรณีที่ซื้อ ได้ในราคาที่ต่ำกว่าขายในทุกๆรอบ จะไม่เห็นการขาดทุน เพราะราคาทอง มันไม่ได้สูงมากเท่าตอนที่เราซื้อครั้งแรก แต่ราคาถูกกว่าเดิม เราใช้เงินน้อยลงในการซื้อรอบใหม่ ทำให้เราได้กำไรเสมอจากการขายที่ราคาเท่าไรก็ได้ ถ้ามันจะลง ...ถูกป่ะ ^ ^ สวัสดีค่ะ kungnang ขอบคุณที่แชร์ความคิดเห็นร่วมกันค่ะ พี่น้องรี ขอเสริมนิดนะค่ะว่า การเล่นขาลง หรือ Cutloss เมื่อติดดอย นั่นต้องใช้พลังใจอย่างสูง เพราะ 1. ต้องตัดสินใจในการตัดขายขาดทุน โดยต้องคิดว่าราคาที่ขาย เมื่อขายไปแล้วสามารถซื้อกลับได้อีก มองแนวโน้มออกพอสมควร (ทองลงต่อแน่ๆ ผู้ลงทุนควรคิดให้ถึ่ถ้วนก่อน เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ทำทันที ) 2. กรณีทองลงต่อจริง อย่างตัวอย่างข้างต้น ถือว่า ตัดสินใจถูก หรือโชคดี เมื่อทองลงต่อควรดูแนวรับ เพื่อหาจังหวะซื้อกลับ ข้อควรระวังคือ จิตใจของตัวเรา ที่ต้องเลือกระหว่าง คำว่า ซื้อกลับ หรือ รอให้ลงต่ออีก สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะเมื่อทองลงถึงระดับหนึ่งจะเข้ามุมเพื่อเลือกว่า ขึ้น หรือ ลง ต่อเช่นกัน (เหมือนมีชีวิต) น้องทองอาจดีดขึ้นเพื่อลงต่อ หรือดีดขึ้นกลับตัว (จุดนี้ สำคัญมาก เพราะถ้าเราลังเล อาจตกขบวนถาวร หรือขาดทุนจริง) ขอให้น้องๆ โชคดีนะค่ะ พี่น้องรี งบหมดแล้ว ฮุ ฮุ ขอนิ่งสยบเคลื่อนไหวดีกว่า ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2012 โดย NongRee 6 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
NongRee 4,028 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 (มีการแก้ไข) เกือบลืมบอกไป ถ้าถามว่า...ราคาวันนี้ 1677 Us = 24,400 บ. ควรขายไหม พี่น้องรีแนะนำให้ดูแนวรับพี่กูรู 1665 Us ตัวพี่น้องรี ขายไปตอน 24,900 บ. x 25 ยังไม่ได้ซื้อกลับ เพราะเอาเงินไปซื้อบ้านแทน (ขายไปขาดทุน ถ้ามีงบ จะซื้อกลับราคาวันนี้ 20-25 บ.) อยากบอกเหมือนเดิมค่ะน้องๆ ว่า การตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง อย่าเลียนแบบใคร หรือตามคนอื่นตลอด ทำสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร ก็ยอมรับและยินดีรับประสพการณ์ เพื่อวางแผนการลงทุนใหม่ในอนาคต ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2012 โดย NongRee 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
jewjang40 5,712 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 การตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง อย่าเลียนแบบใคร หรือตามคนอื่นตลอด ทำสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร ก็ยอมรับและยินดีรับประสพการณ์ เพื่อวางแผนการลงทุนใหม่ในอนาคต ขอบคุณคะคุณNongRee อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
kungnang17 36 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 (มีการแก้ไข) ใช่ค่ะ ดูแนวโน้ม สำคัญที่สุด คือ เราต้องซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า จุดที่น่าเสี่ยงขายเลยไปแล้วค่ะ ใครที่คิดทำจริงๆ ควรรอรอบหน้า เพราะตอนนี้ถ้าลง ก็อาจลงไม่มากก็ได้ค่ะ แต่เอามาลงไว้ เป็นอีกแนวทางค่ะ ที่เพิ่งมาโพสต์เพราะเพิ่งเข้าใจ แต่มันไม่ทันเวลาจริงๆ ขอบคุณ คุณ น้องรี ที่มาช่วยแนะนำ ไม่ให้ใครเข้าใจผิดด้วยนะคะ ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2012 โดย kungnang 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
jewjang40 5,712 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ใช่ค่ะ ดูแนวโน้ม สำคัญที่สุด คือ เราต้องซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า จุดที่น่าเสี่ยงขายเลยไปแล้วค่ะ ใครที่คิดทำจริงๆ ควรรอรอบหน้า เพราะตอนนี้ถ้าลง ก็อาจลงไม่มากก็ได้ค่ะ แต่เอามาลงไว้ เป็นอีกแนวทางค่ะ ที่เพิ่งมาโพสต์เพราะเพิ่งเข้าใจ แต่มันไม่ทันเวลาจริงๆ ขอบคุณ คุณ น้องรี ที่มาช่วยแนะนำ ไม่ให้ใครเข้าใจผิดด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เอาใจช่วยนะคะ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
NongRee 4,028 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ใช่ค่ะ ดูแนวโน้ม สำคัญที่สุด คือ เราต้องซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า จุดที่น่าเสี่ยงขายเลยไปแล้วค่ะ ใครที่คิดทำจริงๆ ควรรอรอบหน้า เพราะตอนนี้ถ้าลง ก็อาจลงไม่มากก็ได้ค่ะ แต่เอามาลงไว้ เป็นอีกแนวทางค่ะ ที่เพิ่งมาโพสต์เพราะเพิ่งเข้าใจ แต่มันไม่ทันเวลาจริงๆ ขอบคุณ คุณ น้องรี ที่มาช่วยแนะนำ ไม่ให้ใครเข้าใจผิดด้วยนะคะ Khun Kungnang เก่งมากค่ะ อธิบายได้ละเอียดมากเลย ยกตัวอย่างได้ดี ชอบที่สุดคือ ประโยคนี้ " ดูแนวโน้ม สำคัญที่สุด คือ เราต้องซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า" ให้ได้ โดยถือทองเท่าเดิม และมีเงินในมือเพิ่มขึ้น โอกาสอาจมาบ่อย แต่โอกาสที่ดีที่สุดนาน นานมาครั้ง จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปสัมนากับไทยโกลด์ เฮียกัม พี่ซีซ่าร์ คุณคิด จะเน้นสอนเรื่องการวางแผนการลงทุน ครั้งที่ 2 ถึงได้เรียนกราฟค่ะ 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
NongRee 4,028 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 (มีการแก้ไข) ฝากกราฟให้ดูก่อนนะค่ะ ถ้าว่างจะมาแจม เน้นพิจารณารูปที่ 3 กับรูปที่ 4 นะค่ะ ขอตัวไปทำงานต่อก่อนค่ะ See U again naka ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2012 โดย NongRee 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
kungnang17 36 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 Khun Kungnang เก่งมากค่ะ อธิบายได้ละเอียดมากเลย ยกตัวอย่างได้ดี ชอบที่สุดคือ ประโยคนี้ " ดูแนวโน้ม สำคัญที่สุด คือ เราต้องซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่า" ให้ได้ โดยถือทองเท่าเดิม และมีเงินในมือเพิ่มขึ้น โอกาสอาจมาบ่อย แต่โอกาสที่ดีที่สุดนาน นานมาครั้ง จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปสัมนากับไทยโกลด์ เฮียกัม พี่ซีซ่าร์ คุณคิด จะเน้นสอนเรื่องการวางแผนการลงทุน ครั้งที่ 2 ถึงได้เรียนกราฟค่ะ ขอบคุณค่ะ ชมเกินไปแล้ว อิอิ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Ohshikung 80 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ขอบคุณมากค่ะคุณพี่น้องรี สู้ ๆ เหมือนเดิมค่ะ อิอิ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
fung 40 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ขอบคุณครับคุณพี่น้องรี อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
คนขายกระเพาะปลา 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ.............. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
DonJuan 4,685 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 (มีการแก้ไข) ข้อคิดเล็กๆ สำหรับคนติดดอย แท่ง หรือ ออนไลน์ หลายๆท่านในวงการทอง ไม่มากก็น้อยต้องเคยสัมผัสดอยอันหนาวเย็น อดทนฝึกฝนฝึกใจรอคอยการกลับมาของมูลค่าทอง สำหรับท่านที่ดอยสูงปรื๊ด ก็ต้องอดทนเฝ้ารออย่างทรหด และเหน็ดเหนื่อยในบางครา ด้วยเพราะยึดติดที่มูลค่า ณ ตอนที่ เราซื้อมานั่นเอง มูลค่าที่ซื้อ หรือดอย ณ ตอนนั้น คือ กลลวงทางจิตใจ ถ้าเราขายออกมาซะที่ราคาถูกกว่า จะรับไม่ได้ โธ่! ซื้อมาตั้ง 27,000 บาท จะให้ขายที่ราคา 25,000 บาทเนี่ยนะ ขาดทุนชัดเจนเห็นๆ แต่เราลืมอะไรไปหรือป่าว? เพราะความเคยชินสามารถเล่นกล ลวงใจคนมานักต่อนัก เราจึงลืมไปว่า ทองที่เคยซื้อ ราคา 27,000 ซื้อทองได้ 1 บาท แล้ววันหนึ่ง ทองลง ราคา 25,000 ก็ซื้อทอง ได้ 1 บาทเช่นกัน อันแน่ะ เริ่ม งง ยัยนี่ต้องการจะบอกอะไร อิอิ เอาล่ะในนามของนักสืบ คินดิอิจิ (ว่าไปนู่น) จะขอเปิดเผยกลลวงจิตใจอันนี้เอง ข้อที่ 1. สมมติว่าทองเป็นขาลง เราจะเอาทองมูลค่า 1 บาทที่ราคาสูงปรี๊ด !!!! เก็บไว้บนหิ้งบูชาอยู่ใย ลืมราคามันทิ้งไปซะ และจงเอามันมาเล่นขาลง - เมื่อดูแนวทางจากกูรูหลายๆท่าน ศึกษามั่นใจ มันเป็นขาลงแน่นอน ขาย! - และเมื่อราคามันมาหยุดที่แนวรับ ซื้อ! (-"-) แล้วไง...ขายแล้ว ซื้อในราคาที่ต่ำกว่า ขาดทุนกว่าเดิมไหม? เรามาดูกัน กรณีที่ 1 ซื้อดอยครั้งแรก 27,000 เก็บไว้บูชา ไม่ขาย ไม่ขาดทุน กรณีที่ 2 ซื้อดอยครั้งแรก 27,000 เอามาขายที่ 25,000 บาท แล้วช้อนซื้อกลับที่ราคาทอง 24,000 บาท ถามว่า กรณีที่ 2 เราได้กำไร 1,000 บาท แล้วขาดทุนจาก ดอย 27,000 หรือไม่? ตอบให้ก็ได้ว่า ทองราคา 24,000 บาท ก็ได้ทองกลับมาก้อนเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนการเก็บไว้บูชาบนหิ้งแบบกรณีที่ 1 เด๊ะๆ (เพราะขายแล้วซื้อกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ขายขาด) แต่...ได้กำไรติดมือมา 1,000 บาท ฉะนั้น ขาดทุนหรือกำไร ? อิอิ ข้อที่ 2. ทองเคยผ่านมาหลายราคา ตั้งแต่ 400 ถึง 27,000 บาท มูลค่าเงินอาจน้อยหรือมากตามเหตุปัจจัย แต่น้ำหนักทองเท่าเดิม ถ้าเราตัดกลลวงของราคาที่ยึดติดจิตใจออกไปได้ จะไม่มีคำว่าดอย สำหรับทอง ขอเพียงแค่ ขายเมื่อมีแนวโน้มที่ราคาจะร่วง แค่นั้น ! เพราะ กำไร เกิดจากการ ซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายไป ไม่มีใครได้กำไรจากการซื้อราคาที่สูงกว่า ชิมิๆ ข้อที่ 3. หากยังฝังใจสลัดไม่หลุดว่า... เราซื้อมาที่ 27,000 หักลบส่วนต่างของ ราคาที่ขายไป 25,000 ต่างกันตั้ง 2,000 บาท ยังขาดทุนนะ? กรณีนี้เก็บขาดทุนไว้ในใจ แล้วเอากำไรจากส่วนต่างที่ซื้อกลับมาได้ เช่นที่ 24,000 บาท กำไร เกิดขึ้น 1,000 บาท เอาไปลบที่่่่่่ขาดทุน เหลือ 1,000 บาท ให้ใจชื้น ราคาทองยังไม่วิ่งขึ้นไปที่ 27,000 แต่ก็ลดการขาดทุนได้อีก 1,000 บาท ข้อที่ 4. ขายราคาเท่าไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าเราซื้อมาแพงกว่าที่ขายหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงราคาทองกำลังขาลง ขายก่อน แล้วตัดสินใจซื้อที่แนวรับไว้ก่อน สมมุติที่ราคา 24,500 บาท จากนั้นค่อยรอขายตอนรีบาวน์ แต่...ว่าซื้อถูกแล้วนะ ดันมีถูกอีกทองยึกยักไม่ยอมรีบาวน์ร่วงลงต่อ และแนวโน้มมีโอกาสร่วงได้ระยะทางไกลนิดนึง สมมติ ราคาขายหล่นมาอยู่ที่ 24,300 บาท ต่างกัน สองร้อยแน่ะ เสียดายละซี่ อิอิ อยากบอกว่าขายเถอะ ถ้ามีแนวโน้มลงไปได้อีก อย่าไปคิดว่าเงินหายไป 200 บาท เพราะกำไร ขาดทุนไม่ได้เกิดจาการขาย แต่เกิดตอนที่ซื้อกลับ ( อันนี้เป็นกรณีของนักลงทุนระยะยาว หรือนักลงทุนที่ติดดอยยาวๆ ) ฉะนั้น ถ้ามั่นใจว่าราคาจะลง ไปมากกว่าที่ขายไป ขายได้ทุกราคาแบบไม่ต้องคิด ^ ^ อย่าให้อะไรมาลวงใจว่า ซื้อแล้วติดดอยแถมดอย เพราะถ้าเราปล่อยดอยทิ้ง ดอยก็อยู่กับเราไม่ได้ อย่าไปร้องบอกดอยว่าปล่อยฉันลงไปนะ ขณะที่ตัวเองกอดดอยซะแน่นเลยนะ อิอิ ดอยนะ ไม่ใช่ ณเดช หรือ ญาญ่า จะได้กอดไม่ปล่อยเลย หุหุ ได้กำไรอย่างไร เรามาซูมดูกัน 1. ซื้อ 24,500 บาท (ความจริงไม่ต้องสนใจมันเลยก็ได้ ว่าซื้อมาเท่าไร เพราะมันเป็นแค่การปิดทำกำไรจากรอบที่แล้วของเราเท่านั้น) 2. ขาย 24,300 บาท เพราะมองตลาดออกว่ามันจะลงต่อ (ตรงนี้สำคัญ! เราต้องวิเคราะห์เป็น ดูแนวโน้มดูทิศทาง จากกูรูต่างๆ แล้ว เราต้องมาประมวลผลต่อเอง หัดและฝึกวิเคราะห์ มองภาพรวมนักลงทุน และเจ้ามือรายใหญ่ ในเมื่อเรารักจะเล่นทอง เราต้องรู้นิสัยของทองด้วย ) 3. ซื้อกลับคืนได้ที่ราคา 24,000 บาท " กำไร 300 บาท ได้มาอยู่ในกระเป๋า " 4. ราคาร่วงต่ออีก (จะร่วงไปไหน) ดูแนวโน้มต่อ ถ้ามั่นใจว่ายังลงไม่สุด ขายซะ แต่ถ้าลงสุดแล้วอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องซนจ้า 5. ขายอีก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าลงแน่ ขายที่ 23,800 บาท 6. ลงจริงๆด้วย ซื้อกลับได้ที่ 23,500 บาท "กำไร 300 บาท ได้มาอยู่ในกระเป๋าเพิ่มอีก" สรุป กรณีที่ซื้อ ได้ในราคาที่ต่ำกว่าขายในทุกๆรอบ จะไม่เห็นการขาดทุน เพราะราคาทอง มันไม่ได้สูงมากเท่าตอนที่เราซื้อครั้งแรก แต่ราคาถูกกว่าเดิม เราใช้เงินน้อยลงในการซื้อรอบใหม่ ทำให้เราได้กำไรเสมอจากการขายที่ราคาเท่าไรก็ได้ ถ้ามันจะลง ...ถูกป่ะ ^ ^ ขอเสริมสักหน่อยนะครับ ผมเคยพูดคุยกับคนที่เล่นออนไลน์และเล่นทองแท่งหน้าร้าน การเล่นตัดขาดทุนลงมาเพื่อซื้อที่ราคาถูกกว่า หลายท่านเวลาผ่านไป ทองอาจจะเท่าเดิมหรือน้อยลง(กรณีซื้อกลับไม่ได้ถูกกว่า เพราะไม่มีใครเก็งแม่นว่าจะลงขนาดไหน) แต่ที่แน่ๆ เงินที่เอามาลงทุนของหลายๆท่านจะน้อยลงไปเลยทีเดียวครับ หากทองไม่ขึ้นมาให้ขายที่ราคาเท่าดอยหรือสูงกว่าดอย ยกตัวอย่างเช่น มีท่านหนึ่งมีเงินทั้งหมด 30,000 บาท ดันเข้าซื้อทอง ณ ราคา 27,000 บาท ได้ทองแท่งมา 1 แท่ง(มูลค่า1บาททอง) จะเหลือเงินทอนอีก 300 นะครับ จากนั้นทองลงต่ำมาถึงราคาบาทละ 25,000 บาท ก็ได้ตัดขายขาดทุนไป ตรงนี้น้อยคนนักจะรู้ว่าทองลงไปอีกมากน้อยขนาดไหน ยกเว้นเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วพูดได้ เชื่อกราฟก็ไม่ได้ทั้งหมด เพราะไม่เคยลงถึง หรือตรงแนวรับพอดีสักที ส่วนมากถูกกว่าที่ขายสัก 2-3 ร้อยก็ซื้อกลับกันแล้ว แต่ก็เอานะครับ สมมุติซื้อได้ที่ราคา 24,000 บาท ก็ได้ทองมา 1 แท่ง(มูลค่า1บาททอง) พร้อมเหลือเงินอีก 1,000 บาทนะครับ เอา 300 บาทที่เหลือตอนแรกมารวมจะได้ 1,300 บาท ใช้ไหมครับ สรุปตอนนี้มีทอง 1 บาท และเงินสด 1,300 บาทนะครับ ถ้าหากจำเป็นต้องขายทอง ณ ตอนนั้น ที่ราคานั้น ราคายังไม่ขึ้น รีบใช้เงิน อะไรก็แล้วแต่ ขายทองได้บาทละ 24,000 บาท(สมมุติว่าร้านใจดีรับซื้อราคาเดิมหรือทองอาจขึ้นมา 100บาท) ขายได้เงินมา 24,000 บาท + เงินที่เหลืออีก 1,300 บาท ได้เท่ากับ 25,300 บาท เงินหายไปเยอะนะครับจากเงินต้น 30,000 บาท ............. ประเด็นนี้ดูดีๆ ถ้าขายตัดดอยแล้วมาซื้อกลับราคาต่ำ แต่ตอนนั้นดันจำเป็นต้องใช้เงิน ขายทองตอนนั้นเลยจะขาดทุนนะครับ ต้องขายในราคาเท่าดอย หรือราคาดอย ลบ กำไรที่ขายตัดดอยนะครับ ......... ใช่ไหม แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะทองจะขึ้น หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินตอนไหน ลองพิจารณาให้ดีนะครับ ขายตัดดอยขาดทุนลงมาซื้อได้ถูก แน่ใจหรือว่าได้ราคาถูกจริง(ทุกครั้ง) ถ้าซื้อแพงกว่าก็เท่ากับขาดทุนเพิ่มคือต้องเพิ่มเงินซื้อทองเท่าเดิมนะครับ แล้วสุดท้ายก็ต้องไปขายราคาเกือบดอยอยู่ดี(ยกเว้นตัดขายซื้อต่ำได้หลายรอบๆจนกำไรที่ได้เอาไปลบดอบลงมาได้) ต้องไม่ลืมว่าเราลงทุนทอง เพราะต้องการคงมูลค่าของเงิน(ธนบัตร) เอาไว้ สุดท้ายเราต้องขายทองเอาเงินมาซื้อของ(ยกเว้นอนาคตให้ทองซื้อของได้ทั่วไป) ลองพิจารณาดูนะครับ ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2012 โดย DonJuan 4 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 เอาภาพร้านกาแฟในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง มาฝากพี่น้องรีคร่าาาา เผื่อมีไอเดียทำโลโก้ ขอบคุณคุณ kungnang เสนอไอเดียการแก้ปัญหาติดดอยนะคร้าาาา ความจริงทองมันก็เป็นธรรมดาของมันอย่างนั้น แต่ใจเราต่างหากที่ติดดอย หากตัดใจขายได้ คำว่าดอยก็ไม่มีสำหรับเรา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ngoodin 12,920 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 7, 2012 เอาเพลงมาฝากคอกาแฟที่ซื้อไว้ที่ 1900 เหรียญ แล้วไม่ยอมกระโดดดอยทนถือจนถึงวันนี้คร่า อยู่บนดอยมีความสุขมาก แต่ ม่ายมีอะไรเลย มีแต่น้ำใจ๋ กับทองที่อยู่บนหิ้งซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่จะทำเงินให้เราได้อีก เสียดายเดี๊ยนเดินดูทั่วเชียงใหม่แล้ว หาบ้านพี่น้องรีม่ายยักกะเจอคร่า ไม่งั้นคงไปปลูกต้นไม้ให้พี่น้องรีสักต้น อิอิ http://www.youtube.com/watch?v=f2NaIzu0GS0 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น