ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ประชาชน 1,000 คนประท้วงที่ร้าน “แอปเปิ้ล” ในจีน

 

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า คนงานราว 1,000 คนที่โรงงานทางใต้ของจีนที่ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ “แอปเปิ้ล” และ “ไอบีเอ็ม” ประท้วงในสัปดาห์นี้ นับเป็นเหตุประท้วงเรื่องข้อพิพาทด้านแรงงานล่าสุดที่เกิดขึ้นในจีน สื่อรายงานว่า ตำรวจหลายร้อยนายถูกระดมมารักษาความสงบเรียบร้อย หลังคนงานที่โรงงานผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในเมืองเซินเจิ้นผละงานออกมาปิดถนนหลวง เพื่อประท้วงชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยคนงานเหล่านี้ทำงาน 100-120 ชั่วโมงต่อเดือน และหลายคนได้รับบาดเจ็บระหว่าางการทำงาน อย่างไรก็ตาม การประท้วงยุติลงหลังบริษัทสัญญาว่าจะลดชั่วโมงการทำงานลง

 

 

เกาหลีเหนือข่มขู่จะโจมตีสำนักงานของผู้นำเกาหลีใต้

 

เกาหลีเหนือขู่วันนี้ว่า จะทำให้ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้กลายเป็น “ทะเลเพลิง” เพียง 1 วัน หลังเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบเต็มรูปแบบใกล้เกาะที่ถูกเกาหลีเหนือโจมตีเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ การซ้อมรบมีขึ้นเพื่อรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้ ทำให้ทหารเรือ 2 นาย และพลเรือน 2 คนเสียชีวิต

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้ที่ 8,165.18 จุด ลบ 149.56 จุด

**ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ที่ 17,935.10 จุด บวก 70.67 จุด

**ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลปิดวันนี้ที่ 1,795.06 จุด เพิ่มขึ้น 11.96 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

German DAX 30 index up 1.3% to 5,525.73

Hong Kong's H-share index closes with 1% gain

Hong Kong's Hang Seng Index ends 0.4% higher

French CAC 40 index up 1.1% to 2,855.75

FTSE 100 index up 0.6% to 5,168.97

Stoxx Europe 600 index opens up 0.4% to 221.26

 

เปิดตลาดยุโรป สถานการณ์ อยู่ในแดนบวก และ จะเล่นอยู่ตลาดเดียว วันนี้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

เมดเวเดฟขู่ส่งขีปนาวุธไปชายแดนอียูพร้อมถล่มระบบป้องกันนุกสหรัฐฯ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2554 10:58 น.

 

Share

 

 

 

 

ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟของรัสเซีย

 

       เอเอฟพี - ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟของรัสเซียขู่จะเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปไว้บริเวณชายแดนอียู เพื่อถล่มระบบป้องกันการโจมตีของสหรัฐฯ ซึ่งวางแผนติดตั้งในยุโรปตะวันออก ขณะที่วอชิงตันเมินคำขู่ ลั่นเดินหน้าระบบดังกล่าวตามแผน

       

       เมดเวเดฟกล่าวว่า รัสเซียเตรียมส่งขีปนาวุธอิสกันเดอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีพิสัยยิงไกลถึง 500 กิโลเมตรไปยังเขตคาลินินกราด ที่ติดชายแดนสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างโปแลนด์ และลิทัวเนีย รวมถึงพื้นที่ทางใต้ของประเทศ ซึ่งใกล้กับจอร์เจีย และตุรกี เพื่อใช้ในการกำจัดระบบป้องกันขีปนาวุธ

       

       ด้านวอชิงตัน โดยทอมมี วีเตอร์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่ระงับ หรือเปลี่ยนแปลงแผนการติดตั้งระบบดังกล่าวในยุโรป เว้นเสียแต่จะร่วมกับรัสเซียกำหนดปัจจัยความร่วมมือ ที่เป็นไปได้ระหว่างกัน

       

       "สหรัฐฯ เปิดกว้าง และโปร่งใส่กับรัสเซียเกี่ยวกับแผนระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป ที่สะท้อนภัยคุกคามจากอิหร่านที่ขยายตัวสู่พันธมิตรของเรา ซึ่งเรากำลังขัดขวาง" พร้อมยืนยันว่า แผนดังกล่าวจะไม่เป็นภัยต่อยุทธศาสตร์ของรัสเซีย

       

       ทั้งนี้ โรมาเนีย และโปแลนด์ต่างยินยอมให้สหรัฐฯ เข้าไปติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในประเทศได้ ส่วนตุรกีก็ให้สถานที่ในการติดตั้งเรดาร์เตือนภัย แม้วอชิงตันจะย้ำว่าจุดประสงค์ของระบบนี้ก็เพื่อถล่มประเทศอันธพาลอย่างอิหร่านเท่านั้น แต่ทางมอสโกเชื่อว่าอาจพุ่งเป้าโจมตีประเทศตนเองด้วย

       

       ผู้นำรัสเซียเตือนว่า หากชาติตะวันตกยังมุ่งมั่นเดินหน้าแผนการดังกล่าว กองทัพรัสเซียจะส่งสรรพาวุธที่ทันสมัยไปยังเขตทางตะวันตก และตอนใต้ ซึ่งอาจทำลายพื้นที่ส่วนของยุโรป ที่ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผบช.น. เผย ความคืบหน้า คดีปล้นบ้านอดีตปลัดคมนาคม ย้ำ เชื่อว่าเงินที่ขโมยไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทแน่ ขัดกับเจ้าทุกข์ที่บอกว่าไม่ถึง ขณะผู้ต้องหายังหนี 3 คน "โก้" ยังอยู่ลาว นำเงินไปด้วย 15 ล. พร้อมประสาน ป.ป.ช. และ ปปง.

 

 

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้า คดีคนร้ายปล้นเงินสดจากบ้านพักของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า หลังจากที่ นายประพันธ์ เรืองเครือ เข้ามอบตัว และได้ให้การปฏิเสธวานนี้ แต่จากพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อได้ว่า นายประพันธ์ ได้รับเงินไปจริง ทำให้ในวันนี้ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจค้นจุดต้องสงสัยเพิ่มอีก 10 จุด ใน จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวด้วยว่า จากจำนวนเงินที่ยึดได้นั้น ทำให้เชื่อได้ว่าจำนวนเงินที่ถูกโจรกรรมไปมีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท อย่างแน่นนอน ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำให้การของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่บอกว่า

เงินหายไปเพียง 5 ล้านบาท เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียหายให้การเช่นนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป แต่ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกอดีตปลัดคมนาคมมาสอบปากคำเพิ่มเติม

อย่างแน่นอน แต่ต้องรอให้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงยึดเงินของกลางได้ทั้งหมดก่อน ส่วน ป.ป.ช. และ ปปง. จะข้ออายัดเงินที่เหลือเพิ่มหรือไม่นั้น เป็นอำนาจที่สามารถทำได้ หากเห็นว่าเงินที่ได้มานั้นเป็นการทุจริต

 

 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีรวม 3 ราย ซึ่งจากการสืบสวนยืนยันแล้วว่า นายวีระศักดิ์ เชื่อลี หรือ โก้ หัวหน้าแก๊ง ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศลาว พร้อมนำเงินสดติดตัวไปประมาณ 15 ล้านบาท ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ นามวงศ์ และ นายคำนวณ เมฆน้อย ยังคงหลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางฝั่งตะวันตกและปริมณฑลของไทย

 

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวด้วยว่า แม้เงินที่ถูกโจรกรรมไปนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. และ ปปง. ที่จะต้องตรวจสอบว่าได้มาจากการทุจริตหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการตั้งสมมุติฐานไว้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็น และให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ 2 หน่วยงานที่จะต้องตรวจสอบ แต่สำนวนการสอบสวนทุกหน่วยงานนั้นจะร่วมกันตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีอุปสรรค์ใดๆ ในการทำหน้าที่ด้วย

Link : http://www.innnews.co.th/วินัยเชื่อเงินปล้นอดีตปลัดคค-กว่า100ล้าน--323300_05.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อดีตนักรบกบฏลิเบีย ขึ้นเป็นรัฐมนตรีรักษาการสำคัญ หลายตำแหน่ง หลัง กัดดาฟี สิ้นอำนาจ

 

ความคืบหน้า การจัดตั้งรัฐบาลลิเบีย หลังจากสิ้นยุคเผด็จการ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ล่าสุด รัฐบาลเฉพาะกาลของลิเบีย ตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อย่างเป็นทางการ โดยคณะรัฐมนตรีเฉพาะกาล 24 คน มีอดีตนักรบกบฏ ขึ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีหลายตำแหน่ง โดยกำหนดการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเฉพาะกาลของลิเบีย ต้องถูกเลื่อนช้าออกไปเล็กน้อย เนื่องจาก ทางการลิเบีย เพิ่งจับกุมตัว นายซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี ลูกชาย กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย ได้ก่อนหน้านี้

Link : http://www.innnews.co.th/อดีตนักรบกบฏลิเบีย-นั่ง-รมต-เพรียบ--323195_04.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

24 พย. 2554 15:16 น.

 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวบ้าน จากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี พร้อมด้วย โดยมี นายยงยุทธ หาญเกียรติกล้า และนายสุชาติ ชัยมงคลภักดิ์ แกนนำ ตัวแทนชุมชนด้านหลังหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในบริเวณพื้นที่กว่า 500 ไร่ มีผู้อยู่อาศัยจำนวน 3,500 ครัวเรือน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และมีชาวบ้านจำนวน 100 คน ของผู้ได้รับความเดือดร้อน จากแนวคันกั้นกระสอบทราย ฝั่งตลาดรังสิต ตลาดติละพรพัฒน์ ตลาดสุชาติ รังสิต ทั้ง 3 ตลาดกินบริเวณพื้นที่กว่า 500 ไร่ ลุยน้ำระดับความสูง 1 เมตร ออกมาจากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีมารวมตัวกันบริเวณตรงข้ามที่ทำการเทศบาลนครรังสิต พร้อมโปสเตอร์ ข้อความ “ในหมู่บ้าน 200 ปี ยังท่วม 1.20 เมตร น้ำเน่า น้ำท่วมมา 1 เดือน 1 สัปดาห์แล้ว” และ "200 ปี ทุ่งหมาเมิน"

 

จากนั้นได้มีการใช้เครื่องโทรโข่ง กล่าวโจมตี การบริหารจัดการกู้น้ำของเทศบาลนครรังสิต และกรมชลประทาน ที่นำแนวกระสอบทรายมากั้น เฉพาะฝั่งตะวันตกของ ถนนรังสิต-ปทุมธานี ส่งผลให้ฝั่งตะวันออกของถนน และชุมชนหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีมีระดับต่างมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 เซนติเมตร โดยขอให้ผู้บริหารเทศบาลหรือเจ้าหน้าที่ออกมาทำความตกลงตามข้อเรียกร้องขอให้ทำการรื้อแนวกระสอบทรายออกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ถึงเวลา 11.00 น.โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทำการเจรจา กลุ่มชาวบ้านจึงพากันเดินข้ามฝั่งและทำการรื้อแนวกระสอบทรายตั้งแต่ปาก ซอย 7 ปากทางเข้า สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถึงซอย 1 หน้าตลาดรังสิต ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร โดยไม่มีหน่วยงานใดขัดขวาง กระทั่งระดับน้ำบนถนนรังสิต-ปทุมธานี เหนือแนวกระสอบทราย ได้ทะลักไหลเข้าทั้ง 3 ตลาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำบนถนน และในตลาดเสมอกัน

 

ด้าน ดร.เดชา กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มชาวบ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี รื้อแนวกระสอบทรายออก เพราะความไม่เข้าใจ โดยช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเชิญแกนนำร่วมประชุมทำความเข้าใจในแผนการกู้สถานการณ์น้ำ ที่เริ่มจะลดลง โดยข้อเท็จจริง ได้ดำเนินการเป็นวงกว้างทั้ง 2 ฝั่งชุมชน โดยใช้รถแบ็กโฮปิดล้อมคันดิน ตั้งแต่ริมถนนพหลโยธินขาออก ซอยโรงงาน โฮย่าเลนส์ อ้อมขึ้นไปด้านหลังชุมชน 200 ปี บริเวณเมน 3-4 เป็นคันดินที่ล้อมยากจึงขอเวลา 3-4 วันซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลดลงวันละ 3 เซนติเมตร ตามข้อมูลสถิติของกรมอุทกศาสตร์ ซึ่งระดับน้ำจะหนุนสูงสุดวันที่ 31 พฤศจิกายน ก็จะเป็นรอบระดับน้ำทะเลลดลง

 

ดร.เดชา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังต่างระดับสูงกว่าน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ 27 เซนติเมตรและยังมีน้ำที่ไหลบ่าข้ามทางรถไฟมาตั้งแต่ รังสิต ถึง นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เป็นระยะทางยาว 9 กิโลเมตร ซึ่งบางตำแหน่งต่างระดับ 14 เซนติเมตร โดยน้ำจากภายในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต ก็มีระดับเดียวกับน้ำในครองรังสิตประยูรศักดิ์ หากตามแผนเดิม เมื่อกั้นแนวกระสอบทรายเสร็จทั้งหมด ระดับน้ำเจ้าพระยาก็จะครบรอบระดับน้ำทะเลลดลง ไม่ข้ามทางรถไฟมาอีก เราก็ทำการเร่งระดมสูบออก พื้นที่ก็จะแห้งพร้อมกัน ชาวบ้านไม่เข้าใจ ว่าทำไม เราไม่ทำให้ให้แห้งภายใน 10 วัน ก็เพราะว่าพอสูบออกทางประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ น้ำก็ยังไหลวนข้ามทางรถไฟมาอีก เสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งจากนี้ไปอีก 7 วัน พอถึง วันที่ 1 ธันวาคม ไปแล้วน้ำทะเลไม่หนุน ระดับน้ำก็ลงไปเอง ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญชาวบ้านที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังการชี้แจงแนวทางและจะมีการจัดเรือออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจการทำงานอีกด้วย

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

24 พย. 2554 13:55 น.

 

 

รายงานสภาพน้ำท่วมขังในเขต บก.น.7 ถนนสายหลักที่มีน้ำท่วมขัง ได้แก่

 

1. ถนนจรัญสนิทวงศ์ ไม่มีน้ำท่วมขัง เปิดการจราจรตามปกติ, อุโมงค์บางพลัดเปิดการจราจรตามปกติ (เปิด 23 พ.ย. 54ด้านขาเข้า 16.00น. ขาออก 17.00น.)

2. ถนนสิรินธร ปากซอยรุ่งประชา - ต่างระดับสิรินธร ยังมีน้ำเอ่อล้นออกมาช่องซ้ายเล็กน้อย เปิดการจราจรตามปกติ

3. ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไม่มีน้ำท่วมขัง เปิดการจราจรตามปกติ

4. ถนนอรุณอัมรินทร์ ไม่มีน้ำท่วมขัง เปิดการจราจรตามปกติ

 

5. ถนนบรมราชชนนี 5.1 จากต่างระดับถนนราชพฤกษ์ - ถนนพุทธมณฑลสาย 2 (สน.ตลิ่งชัน - สน.ธรรมศาลา) เปิดการจราจรตามปกติ ขาออกช่องทางด่วนถนนแห้งไม่มีน้ำท่วมขัง ช่องคู่ขนานปากทางวัดมะกอก 5 - 10 ซมฒ 200 เมตรและบริเวณสถานีขนส่งกรุงเทพ 10 - 20 ซม. 200 เมตร, บริเวณเบี่ยงเข้าถนนกาญจนาฯและถนนพุทธมณฑลสาย 2 มีน้ำขัง 5 - 10 ซม. 100 เมตร , ขาเข้า ช่องทางด่วนถนนแห้งไม่มีน้ำท่วมขัง ช่องคู่ขนาน 5 - 10 ซม.เป็นช่วง ๆ 5.2 จากพุทธมณฑสาย 2 - สาย 3 (สน.ธรรมศาลา) ทั้งขาเข้าและขาออก 30 - 40 ซม. ระยะทาง 4.7 กม. ปิดการจราจร 5.3 พุทธมณฑสาย 3 - คลองทวีวัฒนา ทั้งขาเข้าและขาออก 40 - 60 ซม. ระยะทาง 3 กม. ปิดการจราจร

 

6. ถนนราชพฤกษ์ ไม่มีน้ำท่วมขัง เปิดการจราจรตามปกติ วงเวียนพระราม 5 เขตสภ.บางกรวยยังมีน้ำท่วม 30 - 40 ซม.

7. ถนนกาญจนาภิเษก 7.1 จาก สะพานคลองมหาสวัสดิ์ - ต่างระดับฉิมพลี (สน.ตลิ่งชัน) ไม่มีน้ำท่วม 7.2 ต่างระดับฉิมพลี (สน.ตลิ่งชัน) - ต่างระดับเพชรเกษม (บก.น.9) ช่องทางด่วนไม่มีน้ำท่วม ช่องคู่ขนานมีน้ำท่วม 10 - 20 ซม.เป็นช่วง ๆ เปิดการจราจรตามปกติ รถเล็กใช้ความระมัดระวัง 7.3 จากคลองมหาสวัสดิ์เข้าในเขตสภ.บางกรวย จ.นนทบุรี 30 - 50 ซม. ปิดการจราจร

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

24 พย. 2554 13:43 น.

 

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ศปภ.กล่าวว่า ในการแก้ปัญหานั้น ศปภ.ก็พยายามลงไปพูดคุยในหลายพื้นที่ ทั้งพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและยังไม่เกิดความขัดแย้ง ขณะที่กรณีขัดแย้งส่วนใหญ่ก็จะเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนกับการดำเนินการของศปภ.และรัฐบาลที่อาจล่าช้าซึ่งตนได้นำเรื่องนี้เรียนต่อพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.หลายกรณีแล้วหลังจากที่ได้รับข้อร้องเรียนมา ซึ่งท่านดำเนินการอย่างดีที่สุดที่จะประสานหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมแก้ไขปัญหา ก็คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีซึ่งศปภ.ได้แสดงความจริงใจที่จะลงพื้นที่แก้ปัญหาด้วยความรวดเร็วแบบบูรณาการ อย่างไรก็ดีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่พฤติกรรมการเลียนแบบ แต่เป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนได้รับความสนใจและใส่ใจจากจนท.ของรัฐ และศปภ.ให้มากขึ้นซึ่งเป็นสิทธิ์ของประชาชนรับไม่ได้ที่น้ำเน่า น้ำไม่ลดแล้วไม่มีใครเข้าไปดูแล ซึ่งยอมรับว่าบางพื้นที่เราอาจเข้าไม่ถึงจริงๆ

 

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวกรณีที่ชาวบ้านพื้นที่ีจ.นนทบุรีและปทุมธานีออกมาประท้วงว่า ศปภ.อยากจะเรียนไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ปทุมธานีและนนทบุรี และหลายพื้นที่ที่ยังได้รับความเดือดร้อนว่าการชุมนุมร้องเรียนหรือการเสนอข้อเรียกร้องต่าง ๆ นั้นเป็นสิทธิ์ แต่อยากขอว่าการชุมนุมเพื่อดำเนินการใด ๆ ก็ตามที่จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรดำเนินการ เพราะจะทำให้มีกระบวนการที่ต่อเนื่องไปซึ่งฝ่ายตำรวจพยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจและศปภ.ก็พยายามที่จะลงไปในพื้นที่ให้เร็วที่ี่สุดที่จะรับข้อเรียกร้องมาพิจารณาดำเนินการ ซึ่งบางเรื่องสามารถดำเนินการได้ด้วยความรวดเร็ว แต่บางเรื่องอาจต้องใช้เวลา

 

" การชุมนุมร้องเรียนต่าง ๆ อย่าทำเรื่องที่ผิดกฎหมายซึ่งตำรวจไม่ค่อยสบายใจ แต่เราจะใช้หลักรัฐศาสตร์ให้มากที่สุดในการที่จะเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจ เป็นสื่อกลางที่จะนำข้อร้องเรียน ข้อทุกข์ร้อนให้ศปภ.และรัฐบาลได้พิจารณาต่อไป" พล.ต.อ.พงศพัศ รองผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ศปภ. กล่าว และว่า ส่วนกลุ่มที่ประท้วงปิดทางด่วนโทลล์เวย์เราพยายามทำความเข้าใจพูดคุย และวันนี้ก็จะพูดคุยทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งประชาชนในหมู่บ้่านเมืองเอก และมหาวิทยารังสิตที่ได้รับความทุกข์เป็นเวลานานจากอุทกภัยครั้งนี้ศปภ.พยายามอย่างเต็มที่จะระบายน้ำและทำทุกวิถีทางที่จะนำน้ำท่วมขังนั้นออกไปให้เร็วที่ี่สุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

24 พย. 2554 15:38 น.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่า 7 จังหวัดประกอบด้วย กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร และฉะเชิงเทรา โดยมีอธิบดีกรมชลประทาน และ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ร่วมหารือการหาทางออกแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาในการประชุมนานถึงสองชั่วโมง ซึ่งแต่ละจังหวัดได้สะท้อนปัญหา ให้ที่ประชุมรับทราบ และในตอนท้ายของการปรชุม นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนจะรับบูรณาการประสานกับทุกจังหวัดเพราะขณะนี้เหลืออีกไม่กี่จังหวัดที่ถูกน้ำท่วม โดยก่อนวันที่ 5 ธ.ค. ตนจะทำสุดชีวิต ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แม้น้ำจะยังไม่แห้งก็ตาม ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การแก้ปัญหาหากหารือด้วยเหตุผล ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพระหากเปิดโอกาสให้คุยกันก็มีทางออกร่วมกัน

 

ซึ่งภายหลังการหารือ ทั้งหมดได้ยืนคล้องแขนจับมือกัน เพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าคล้องแขนแล้วน้ำจะลดหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า "ก็ต้องลดซิ"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

24 พย. 2554 12:29 น.

 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจกรณีที่จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยระบุว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า คงห้ามกันไม่ได้เพราะเป็นความชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย แต่เรื่องนี้ตนได้พูดไว้เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี 2552 ว่า หากใครเห็นด้วยขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะขาดในการเลือกตั้ง วันที่ 23 ก.ค. 2554 ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ส.ส. 265 คนถือว่าเกินกึ่งหนึ่งแล้วยังไม่เรียกว่าชนะขาดอีกหรือ เลือกตั้งรอบหน้าต้อง 300 เสียงอย่างนั้นหรือ ตรงนี้ถือว่าเป็นประชามติในตัวของมันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำเพื่อคนคนเดียว แต่เพื่อความปรองดองของคนในชาติ และหลังจากนี้ไปใครมาถามตนก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะพูดไปมันก็จะซ้ำซาก

 

“คุณกล่าวหาว่าเราไม่จงรักภักดี กล่าวหาว่าเราทุจริตคอรัปชั่น กล่าวหาเราต่างๆ นานา แต่วันนี้ประชาชนเขาไม่เชื่อในสิ่งที่คุณกล่าวหา แล้วแบบนี้ยังไม่ละอายอีกหรือ ไม่คำนึงถึงคนส่วนใหญ่ที่เขาเลือกพวกผมมาบ้างหรือ และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปคุยกันในพรรค เพราะมันยังไม่ถึงเวลา จะขอปราบยาเสพติด ดำเนินคดีกับผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนก่อน จากนั้นค่อยยกเรื่องนี้มาทำ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะไม่มีกรณีเปรียบเทียบ คนที่ฆ่าคนนั้นมันเป็นคนเลว แล้วก็อย่ามาอ้างเรื่องนิติรัฐ นิติธรรม ก็คุณปล้นอำนาจรัฐไป ผมไม่ใช่คนที่ตกใจง่ายหรอก” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนที่เลือกพวกตนมานั้นก็เพราะสิ่งนี้ และเชื่อว่าจะไม่มีม็อบชนม็อบแน่นอน เพราะเรื่องนี้ตนพูดชัดเหลือเกินตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งในทุกเวทีปราศรัยว่าถ้าเราชนะแล้วจะทำอะไร ไม่ได้มาพูดตอนที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีแล้ว และก็ไม่ใช่ว่าไปงุบงิบหาเสียงแล้วมาทำในสิ่งที่ไม่ได้พูด และตนก็ไม่ได้ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่ทำให้คนส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อได้รู้ความจริงแล้วก็จะถอยกันหมด ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการคืนเงินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณนั้นมันคนละเรื่องกันเลย พยายามโยงให้สับสน พวกนี้มันต้องสับขาหลอกบ่อยๆ

 

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ แต่ท่านได้ยินตนพูดปราศรัยในทุกเวทีอยู่แล้ว อย่าไปโยงกับท่าน ให้ท่านแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปเถอะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

European stock markets got off to a firmer start on Thursday,

in the absence of U.S. markets, which are closed for the Thanksgiving Day holiday.

 

The Stoxx Europe 600 index XX:SXXP +0.55% rose 0.4% to 221.28, led by mining stocks such as Rio Tinto PLC UK:RIO +2.12% RIO -0.48% , up 1.1%. Siemens AG DE:SIE +0.48% SI -0.29% , up 1% after Societe Generale added the group to its SG Premium list.

 

The French CAC 40 index FR:PX1 +1.09% rose 1% to 2,852.08

the German DAX 30 index rose 1.1% to 5,513.74.

The FTSE 100 index UK:UKX +0.02% rose 0.2% to 5,149.71.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“ธงทอง” เริ่มสอบ “สุพจน์” รวยผิดปกติ ศุกร์นี้ “สุกำพล” ลั่นต้องจบใน 30 วัน พร้อมเรียกประชุมด่วนส่วนราชการ เพื่อถกด้านธรรมาภิบาลบ่ายวันนี้ หลังคดีฉาวที่เกิดขึ้น ได้สร้างภาพลักษณ์เสียหายต่อกระทรวงคมนาคม อย่างมาก

 

นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ กล่าวว่า โดยระเบียบราชการต้องตั้งข้าราชการระดับเดียวกับผู้ที่ถูกกล่าวหา คือ ระดับซี 11 ขึ้นมาสอบ แต่ในส่วนนี้เป็นเพียงการพิจารณา ว่า จะต้องดำเนินการสอบวินัยกับนายสุพจน์ หรือไม่ หากตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิด ก็ต้องเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป โดยจะมีการเชิญเจ้าตัวมาให้ข้อมูล โดยคาดว่าจะเริ่มกระบวนตรวจสอบได้ภายในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2554 นี้

 

นายธงทอง กล่าวต่อว่า ไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องตรวจสอบแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระ แต่ก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอวิจารณ์ตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัยความผิดปกติของคดี เพราะจะกลายเป็นว่าคณะกรรมการมีการตั้งธงไว้แล้ว

 

พล.อ.อ.สฺกำพล สฺวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้ให้เวลาคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งขึ้น อย่างน้อย 30 วัน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงคดี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทวงคมนาคม ร่ำรวยผิดปกติ

 

“หลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายสุพจน์ ร่ำรวยผิดปกติ จะให้เวลาคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงคมนาคม ชุดที่มี นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นจะพิจารณาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจดำเนินการขั้นต่อไป”

 

ส่วนกรณีที่การสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.นั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่า ให้เป็นอำนาจสอบสวนขององค์กรอิสระ

 

ส่วนกรณี สายมัดเงินที่รัดเงินของกลางนั้น ถูกเบิกมาจากธนาคารทหารไทย เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 นั้น จะทำให้กระทรวงคมนาคมต้องตรวจสอบย้อนไปหรือไม่ว่าช่วงนั้นมีการอนุมัติ เกี่ยวโครงการใดบ้าง พล.อ.อ.สุกำพล ระบุว่า จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

 

ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่ายวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกประชุมด่วนหัวหน้าหน่วยงาน เรื่องธรรมาภิบาล เพื่อกำชับข้าราชการในสังกัด ให้รักษาภาพลักษณ์การปฏิบัติหน้าที่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นขณะนี้ นับว่าส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์กระทรวงคมนาคมมาก

ถูกแก้ไข โดย GB2514

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...