ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

FRANKFURT (MarketWatch) -- The Ifo Institute on Thursday said its November index of German business confidence unexpectedly rose to 106.6 from 106.4 in October, ending a four-month streak of declines.

 

ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนับเป็นการดีดตัวขึ้นครั้งแรกใน

รอบห้าเดือน

สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 ราย เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 106.6 จุดในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 106.4 จุดในเดือนตุลาคม สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จะลดลงแตะ 105.2

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป เริ่มส่งสัญญาณของการชะลอตัว ในขณะที่วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในภูมิภาค โดยธนาคารกลางเยอรมนีระบุในรายงานประจำเดือนพ.ย.ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจของประเทศอาจชะลอตัวจนเกือบหยุดนิ่งในปีหน้า เนื่องจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาคส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของเยอรมนี พร้อมกับปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศปี 2555 มาอยู่ที่ 0.5 - 1% จากระดับ 1.8% ที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกันในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีได้เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งสุดท้าย ซึ่งยืนยันว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัว 0.5% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก

 

 

 

Economists had forecast the index to fall to 105.1.

 

The Munich-based institute's current conditions index was unchanged at 116.7, while the expectations index, which measures attitudes toward business prospects over the next six months, rose to 97.3 from 97.0. "The German economy is still performing relatively well despite the international turmoil," said Ifo President Hans-Werner Sinn. The index is based on around 7,000 monthly survey responses from frims in the manufacturing, construction, wholesale and retail sectors, the institute said.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ROME -- Italian consumer confidence unexpectedly rose in November, a sign that households are relieved by the arrival of a new technocrat government and an end to domestic political paralysis, official data showed Thursday.

 

รวมทั้งอิตาลี ที่ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพิ่มขึ้นโดยไม่คาดฝัน ที่ 96.5 ในเดือน 11 เปรียบเทียบ 93.3 ในเดือน 10

 

The consumer confidence index rose to 96.5 in November from 93.3 in October, national statistics institute Istat said. The October figure was revised up from 92.9.

 

Italians reported more optimism on all the subjects addressed in the monthly survey, especially the one regarding the "general economic climate," an Istat official said. Improved confidence was reported across all regions, Istat said.

 

The 3.2 point increase contrasted sharply with an expected 0.9 point drop, the average forecast of eight economists polled by Dow Jones Newswires.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จึงเป็นที่มาของสภาพตลาดหุ้นในยุโรป ที่ขานรับตัวเลขความเชื่อมั่น

European stock markets extended gains on Thursday after Germany's Ifo business confidence index unexpectedly rose, ending four straight months of declines.

 

The Stoxx Europe 600 index XX:SXXP +1.09% rose nearly 1% to 222.36, with banks and miners leading gains.

The German DAX 30 index DX:DAX +1.66% rose 1.5% to 5,541.91

the French CAC 40 index FR:PX1 +1.65% rose 1.6% to 2,867.02.

The FTSE 100 index UK:UKX +0.86% gained 0.6% to 5,171.88.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

LISBON -- A nationwide strike shut public services across Portugal Thursday amid growing discontent over austerity measures being imposed by the government in exchange for a EUR78 billion international bailout.

 

Schools were closed, while emergency health services were operating at reduced staff levels.

 

บริการสาธารณะและการคมนาคมในโปรตุเกสต้องชะงักงัน หลังเกิดการประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด

 

ประชาชนในโปรตุเกสต้องเผชิญกับการปิดให้บริการสาธารณะวันนี้ ขณะที่สหภาพแรงงานจัดการประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลพยายามปรับแผนเพื่อให้สนองตอบกับการได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติ 104,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้คนที่ต้องเดินทางได้รับผลกระทบ หลังจากกว่า 470 เที่ยวบินระหว่างประเทศถูกยกเลิก และราว 1 ล้านต้องเดินทางไปทำงานโดยปราศจากการให้บริการรถบัสหรือรถไฟ ขณะที่รถไฟใต้ดินในกรุงลิสบอนปิดบริการตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ สำนักงานรัฐบาล โรงเรียน การส่งไปรษณีย์ การเก็บขยะ และบริการสาธารณะอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

คณะรัฐมนตรีอินเดียพิจารณาปฏิรูประบบการค้าปลีก

 

คณะรัฐมนตรีอินเดียจะตัดสินใจวันนี้เกี่ยวกับการเปิดภาคส่วนการค้าปลีกขนาดใหญ่สำหรับเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ของโลก เช่น วอล-มาร์ท และเทสโก้ เพื่อปฏิรูปบริการให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ยิ่งขึ้น ขณะที่ผู้ค้าต่างชาติหลายรายพยายามหลายปี เพื่อให้สามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าอินเดียได้โดยตรง อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรีจะหารือเกี่ยวกับข้อเสนอผ่อนคลายกฎระเบียบการค้าปลีกในการประชุมที่จะมีขึ้นในเวลา 19.30 น. วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ธ.ออมสิน ปรับมาตรการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หยุดคิดดอกเบี้ยและไม่ต้องชำระเงินต้นนาน 6 เดือน

 

ธนาคารออมสิน ปรับมาตรการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นเวลานาน โดยหยุดคิดดอกเบี้ยและไม่ต้องชำระเงินต้นนาน 6 เดือน พร้อมให้กู้เพิ่มตามความจำเป็น เพื่อฟื้นฟูอาชีพและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากเหตุน้ำท่วมที่ขยายวงกว้าง และมีระยะเวลานานหลายเดือน ธนาคารฯ จึงได้ปรับมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ด้วยการไม่คิดดอกเบี้ยและไม่ต้องชำระเงินต้น หรืองดคิดดอกเบี้ยระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน โดยจะพิจารณาตามสภาพความรุนแรงของผลกระทบของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งหลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ลูกค้าจะชำระเงินงวดในอัตราเท่าเดิม หรือจะขอปรับลดเงินงวด พร้อมกับขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ได้อีกไม่เกิน 1-2 ปี ตามเงื่อนไขที่ตกลง ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม โดยการให้สินเชื่อในลักษณะผ่อนปรนเงื่อนไขเป็นกรณีพิเศษอีกหลายประเภท ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าและประชาชนที่ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกมาก เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และซื้อสิ่งของเครื่องใช้ อุปโภคบริโภค

นายเลอศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสินเชื่อที่ธนาคารฯ ให้บริการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แก่ สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนช่วยภัยน้ำท่วม เป็นเงินกู้ตามความจำเป็นฉุกเฉินตามสภาพที่ได้รับผลกระทบ ในวงเงินรายละไม่เกิน 30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 8 ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 2 ปี ชำระเป็นรายเดือน โดยใช้เวลาอนุมัติไม่เกิน 5 วัน เพียงผู้กู้มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป มีความสามารถในการชำระเงินกู้ มีที่อยู่แน่นอนที่สามารถติดต่อได้ และมีอาชีพหรือมีรายได้ ใช้บุคคลค้ำประกัน 1 ราย ที่มีคุณสมบัติเดียวกันกับผู้กู้ ขณะที่ ลูกค้าเดิมสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนและประชาชนทั่วไป สามารถยื่นกู้เพื่อนำไปใช้จ่ายลงทุนใหม่ได้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR + ร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิม สามารถกู้เพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซมได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินกู้ตามสัญญาเดิมแต่ไม่เกิน 300,000 บาท ส่วนประชาชนทั่วไป สามารถกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ร้อยละ 3.45 ปีที่ 4-5 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR - 0.50 ต่อปี โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อและค่าบริการจัดทำนิติกรรมสัญญาให้ด้วย ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจและ SMEs ธนาคารฯ ได้ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปจากสัญญาเดิมไม่เกิน 1 ปี และสามารถขอกู้เพิ่มเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ไม่เกินรายละ 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR - 1.50 ต่อปี ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ยื่นความจำนงขอความช่วยเหลือตามมาตรการของธนาคารแล้วจำนวน 22,286 ราย วงเงินรวม 9,587 ล้านบาท

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมืองพัทยาชี้ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือแก้วิกฤติท่องเที่ยว

 

เมืองพัทยา ชี้ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือแก้วิกฤติท่องเที่ยว หลังพบนักท่องเที่ยวสูญหายจากการยกเลิกการเดินทางในช่วงไฮซีซั่น จากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ภาวะมหาอุทกภัย

นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาเมืองพัทยา กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในขณะนี้ว่า ต้องยอมรับว่าจนถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่พำนักในพื้นที่เมืองพัทยาส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเกินกว่า 50 % เป็นกลุ่มคนที่อพยพมาพักพิงจากปัญหาน้ำท่วม ขณะที่นักท่องเที่ยวหลักจากชาติต่าง ๆ นั้น กลับพบว่ามีปริมาณที่หายไป ขณะที่กลุ่มใหม่ ๆ ก็ไม่มีทีท่าที่จะเดินทางเข้ามาที่เมืองพัทยามากขึ้น เนื่องจากมีการประกาศเตือนจากนานาชาติกว่า 40 ประเทศ ถึงความไม่มั่นใจในศักยภาพการรองรับ เพราะมีปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก ซึ่งกรณีนี้ทำให้เมืองพัทยาได้รับผลกระทบไปด้วย

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเมืองพัทยา จึงได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมองค์กรภาคธุรกิจและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อหาแนวทางการแก้ไข ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยา โดยการนำของนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ทำหนังสือแจ้งผ่านไปยังสถานฑูตต่าง ๆ ประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า เมืองพัทยามีศักยภาพความพร้อมรองรับในทุกด้าน และไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของ ททท. นั้น ก็ได้ทำการยืนยันพร้อมแจ้งข้อมูลเหล่านี้ไปยังสำนักงานสาขาในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย ซึ่งคาดหวังไว้ว่าคงจะทำให้การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาดีขึ้น อย่างไรก็ตามจึงขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ออกสู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจในทิศทางที่ถูกต้องต่อไป

นายศิริชัย โสรเนตร ข่าว

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผบ.ตร.ระบุ หากสืบสวนหรือมีหลักฐานชัด ปลัดกระทรวงคมนาคม อาจเข้าข่ายความผิดให้การเท็จ

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ หากสืบสวนหรือมีหลักฐานชัด ปลัดกระทรวงคมนาคม อาจเข้าข่ายความผิดให้การเท็จ กำชับพนักงานสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมา

พลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม อาจเข้าข่ายให้การเท็จ จากกรณีที่ให้การในครั้งแรกว่า ถูกปล้นเงินไป 5 ล้านบาท ซึ่งขัดแย้งกับจำนวนเงินที่ยึดคืนมาได้ และข้อมูลที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง หากสืบสวนจนมีหลักฐานชัดเจนในภายหลัง นายสุพจน์ อาจต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวด้วย จึงกำชับให้พนักงานสอบสวน ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่กล่าวหา และไม่ให้การช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันด้วยว่า ในคดีนี้ไม่ใช่การวางหมากทางการเมือง เป็นเพียงการประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งฝ่ายสืบสวน ก็สามารถจับกุมคนร้าย และหาความเชื่อมโยงในขบวนการปล้นได้เกือบหมดแล้ว แต่เชื่อว่า ยังมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปล้นครั้งนี้อีก เนื่องจาก การสอบสวน นายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์ บุตรชายอดีตเลขานุการปลัดกระทรวงคมนาคม ยังให้การไม่หมด หรือมีเรื่องปิดบังอยู่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกรัฐมนตรี รอผลการหารือแก้น้ำท่วมของ "ยงยุทธ" กับ 7 ผู้ว่าฯ รับอาจรื้อบิ๊กแบ็กเพื่อระบายน้ำทั้งหมด ยึดเจรจาแก้ปัญหามวลชน

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างมวลชนในเรื่องคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก ว่า ต้องรอผลการประชุมของคณะทำงานน้ำฯ ร่วมกับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เนื่องจากในขณะนี้กระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางและทางกรุงเทพมหานคร ระบายน้ำได้มากขึ้น จึงต้องมีการวางแผนในการบริหารจัดการใหม่ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการรื้อบิ๊กแบ็กออกทั้งหมด หากทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำ แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงแนวทางการแก้ไขและผลกระทบที่มีต่อประชาชน ขณะที่การดำเนินการเจรจากับมวลชนที่มาเรียกร้อง จนมีการกระทบกระทั่งกันนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เนื่องจาก มีผู้แจ้งความดำเนินคดี และแนวทางปฏิบัติของรัฐบาลยังคงยึดการเจรจาเป็นหลัก แต่หากมีการละเมิดเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

Link : http://www.innnews.co.th/นายกฯรับอาจรื้อBigBagระบายน้ำทั้งหมด--323326_01.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮั่วเซ่งเฮง ไห้บริการ ซื้อขายทองคำแท่งวันนี้ ถึงเวลา 22.00 น. เนื่องจากไม่มีราคาทองคำต่างประเทศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ กทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ 1 เมตร ส่งผลให้พื้นที่ บก.น.9 อาทิ ทวีวัฒนา ภาษีเจริญ และ เพชรเกษม มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น

 

 

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ในขณะนี้ยังมีพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาอุทกภัยอยู่หลายจุด อาทิ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2, 3 และ 7 โดยเฉพาะที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากได้เปิดประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ เพิ่มเป็น 1 เมตร ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั้งทวีวัฒนา ภาษีเจริญ และถนนเพชรเกษม ทั้งเส้น ยังมีระดับน้ำที่ท่วมสูงอยู่ ขณะที่การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยนั้น ทางตำรวจนครบาลได้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและนำอาหารจากครัวของรัฐบาลจากศูนย์ต่างๆ มื้อละ 1 แสนกล่อง ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย

 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้สั่งการให้นำกำลังตำรวจในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ให้มาช่วยตรวจตราดูแลทรัพย์สินและบ้านเรือนของประชาชนที่ยังคงถูกน้ำท่วมขังอยู่

 

Link : http://www.innnews.co.th/บก-น-9-อ่วม-หลังเปิดปตร-คลองมหาสวัสดิ์--323304_05.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554

ปิดตลาดที่ระดับ 980.50 จุด บวก 3.63 จุด (+0.37%)

 

ดัชนี SET 100 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,489.58 จุด บวก 7.27 จุด (+0.49%)

ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 686.66 จุด บวก 3.35 จุด (+0.49%)

ดัชนี MAI ปิดวันนี้ที่ระดับ 263.47 จุด บวก 0.33 จุด (+0.13%)

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเมื่อเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.37/31.39

 

กลุ่ม                 ปริมาณซื้อ (ลบ.)    %     ปริมาณขาย  (ลบ.) % สุทธิ (ลบ.)

 

สถาบัน                       671.57   4.17    741.32      4.60    -69.75

นักลงทุนต่างประเทศ   3,464.07 21.51   3,890.98   24.16   -426.91

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 3,156.77  19.60  2,767.68    17.19   389.09

นักลงทุนทั่วไป          8,812.46  54.72  8,704.89    54.05   107.57

 

 

 

ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 980.50 บวก 3.63 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 16,105

ล้านบาท

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 15:31:49 น.

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณภูมิ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมแล้วว่าจะขอลาออกจากกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ได้แก่ ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประธานกรรมการรฟท. และกรรมการการบินไทย ภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้

 

 

 

โดยครั้งแรกจะขอลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตนได้ขอร้องให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกระยะ เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการแทน ซึ่งการลาออกครั้งนี้ถือเป็นการแสดงสปิริตของนายสุพจน์เอง ตนไม่ได้เข้าไปกดดันแต่อย่างใด

 

ขณะที่ นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ. การบินไทย (THAI) กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม พ้นจากตำแหน่งกรรมการการบินไทย หลังจากที่นายสุพจน์ถูกไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แจ้งข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ ทุจริต และแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือในความซื่อสัตย์สุจริตจากพนักงานและผู้ถือหุ้น

 

นายเกรียงศักดิ์ อยู่คง รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า เมื่อนายสุพจน์ถูกกล่าวหาในทางทุจริตก็น่าจะต้องเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมามีแต่ข่าวว่านายสุพจน์ลาออกจากประธานกรรมการเท่านั้น โดยการลาออกนั้นจะทำให้กระบวนการตรวจสอบกรณีที่นายสุพจน์ถูกกล่าวหาต่างๆ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ หากพนักงานรฟท.มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะได้กล้าเปิดเผยชี้แจงข้อมูล

 

--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 14:50:53 น.

ต้ากง โกลบอล เครดิต บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีน ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับ BB+ จากเดิมที่ BBB+ โดยให้แนวโน้มอันดับเครดิตเชิงลบ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการคลังของประเทศย่ำแย่ลง

 

ต้ากงระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการคลังของโปรตุเกสตกต่ำลงอีก นับตั้งแต่ที่บริษัทได้ปรับลดอันดับเครดิตของโปรตุเกสจาก A- สู่ระดับ BBB+ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

ต้ากงยังคาดการณ์ด้วยว่า การขยายทางเศรษฐกิจของโปรตุเกสจะลดลง 1.7% ในปีนี้ และ 3.5% ในปี 2555

 

"เศรษฐกิจของโปรตุเกสไม่สามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในระยะกลาง หากไม่มีการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างและระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยพื้นฐาน" ต้ากงระบุ

 

นอกจากนี้ ต้ากงคาดการณ์ว่า สัดส่วนการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลโปรตุเกสในทุกระดับจะอยู่ที่ 5.6% ในปี 2555 และจะยังคงอยู่เหนือระดับ 3% ในระยะกลาง

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 13:18:02 น.

สัญญาณเตือนวิกฤติหนี้ดังสั่นหวั่นไหวในฝรั่งเศส ต่อจากไอร์แลนด์ โปรตุเกส กรีซ อิตาลี และ เสปน ขณะที่หลายฝ่ายวิตกกังวลมากขึ้นว่าวิกฤติหนี้สินอาจจะลุกลามไปยังประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อีกหลายประเทศในยุโรป สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับภาวะฉุกเฉินที่รุนแรง

 

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงบประมาณขาดดุลที่สูงขึ้นและการลงทุนในประเทศที่เผชิญกับวิฤตหนี้สินที่มีต่อธนาคารของฝรั่งเศสนั้น ทำให้ฝรั่งเศส ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากและยังจุดชนวนให้ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นไปอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสม

 

หลังจากที่ต้องเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างสูงในตลาดต่างๆที่มีความผันผวน ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จึงพยายามควบคุมผลตอบแทนด้วยการเข้ามาซื้อพันธบัตร แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อตลาดที่ซบเซา โดยความตึงเครียดในระดับสูงกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ นับว่า เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 เดือน

 

นายเรมี เลอ เบลลี นักวิเคราะห์การเงินจาก อินเวสทีร์ กล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่า วิกฤติหนี้กำลังลุกลามมายังฝรั่งเศส อีกทั้งยังมีการประกาศอีกหลายครั้งถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศลง รวมไปถึงต้นทุนในการระดมทุนที่สูงขึ้น"

 

รัฐบาลภายใต้การนำของนายซาร์โกซีย์ดำเนินการผิดพลาด และเสียโอกาสในการปรับปรุงด้านการเงินของประเทศ ในขณะที่มีการนำเสนอมาตรการรัดเข็มขัดครั้งที่ 2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายเบลลีระบุ

 

"แผนดังกล่าวควรจะครอบคลุมถึงเรื่องการออมวงเงินสูงกว่า 7 พันล้านยูโร (9.34 พันล้านดอลลาร์) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป? คงต้องเป็นอีซีบีที่จะเป็นฝ่ายตัดสินใจ" นายเบลลีกล่าวเสริม

 

ฝรั่งเศสเรียกร้องให้อีซีบีดำเนินการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม หลังจากที่ต้องตกอยู่ภายใต้ภาวะตลาดโลกที่ผันผวนและงบประมาณที่ขาดดุล  แต่อย่างไรก็ตาม เยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ปฏิเสธที่จะใช้ธนาคารกลางยุโรปเป็นแหล่งเงินกู้สุดท้าย โดยยืนยันว่า การจัดระเบียบด้านการคลังเป็นหน้าที่ของรัฐบาลของแต่ละประเทศ

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างเยอรมนีและฝรั่งเศสในเรื่องบทบาทของอีซีบี อาจทำให้ความเคลื่อนไหวในการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะที่รุนแรงขึ้นต้องหยุดชะงัก และมีผลกระทบถึงอันดับความน่าถือของยูโรโซน

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถาบันจัดอับดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ กล่าวเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสและภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอาจจะเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของประเทศ

 

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสำหรับปีหน้าลงสู่ระดับ 1% จากการคาดการณ์ในเบื้องต้นที่ 2.25% ส่วนในเรื่องงบประมาณขาดดุล รัฐบาลต้องการลดยอดขาดดุลงบประมาณลงมาอยู่ที่ระดับ 4.5% จากที่ได้คาดการณ์เอาไว้ที่ 5.7% สำหรับปีนี้

 

บทวิเคราะห์โดย อูนิซซี โซเนีย จากสำนักข่าวซินหัว

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...