ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

By Ruth Mantell

WASHINGTON (MarketWatch) - Existing-home sales rose 4% in November to a seasonally adjusted annual rate of 4.42 million,

ขายเพิ่มขึ้น 4%. ตัวเลขปรับเป็น 4.42 ต่อปี

 

the National Association of Realtors reported Wednesday. Economists were looking for a gain from the prior month, echoing other recent positive housing data.

 

The median price of homes in November fell 3.5% to $164,200 from the prior year. ราคาบ้านลดลง 3.5%

 

Housing inventory in November fell 5.8% to 2.58 million existing homes, a seven-month supply.

[Pete 15,187]

By: Jamie Coleman.

ตัวเลขของประเทศเบลเยี่ยม ดีขึ้น

 

All they needed was a government, apparently. Consumer confidence bumped up earlier this week and now business confidence has improved, up to -10.6 in December from 12.2 in November.

[Pete 15,187]

10:30a

U.S. crude supply down 10.6 mln barrels: EIA

10:30a

U.S. gasoline supply falls 400,000 barrels: EIA

10:30a

U.S. distillate supply falls 2.4 mln barrels: EIA

 

[renhuun 0]

Sideway. กลับไปที่ 1,63x เดาเอานะครับ เพราะ ตัวเลขสหรัฐฯ วันนี้ไม่ดี USD อ่อนลง แล้วถึงแม้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง แต่ก็ตามคาด

ค่าเงินยูโรที่ตอนนี้ หล่นมาพอสมควรแล้ว จากหัวค่ำ น่าจะกระเตื้องขึ้นมาได้ เงินก็มีแล้ว สภาพคล่องน่าจะเกิด แต่อัฐยายซื้อขนมยาย ก็ยังดีกว่าไม่มีแผนอะไร

ออกมา

 

เดาเอาประสา คนมีดอย อยากลงดอยครับ

5555 ผมก็มีดอยเหมือนกันครับ ขอบคุณค้าบบบบบบ

[Pete 15,187]

“The good news is a lot more banks will be well funded throughout the next three years. They need to place the money short term and will be buying bonds in European sovereign countries, obviously,” said Christian Tegllund Blaabjerg, chief Economist at FIH Erhvervsbank.

 

“But on the flip side of the coin, it also signals a lot more banks than originally thought need capital and that is negative news,” he said. “It sort of implies the banking sector is far worse off than originally expected.”

[jewjang40 5,712]

ราตรีสวัสดิ์คุณเด็กขายของ พรุ่งนี้เจอกันนะคะบ้ายบาย

[kh.sathit 13]

มีดาราลูกครึ่งฝรั่งรุ่นเกือบ40ตอบน้องข่าวบันเทิงที่ถามว่าทำไมดูหน้าอ่อน(ทั้งที่ไว้หนวดเบอร์0)

เธอให้นอนประมาณ4ทุ่มตื่นตี5สวดมนต์แล้วดื่มน้ำต่อด้วยexerciseตามถนัดเข้าห้องน้ำ...

พอดีตลาด london ใกล้ปิดพอดีตามอ่านกันแค่นี้ก่อน กด***ให้ครับ

 

ขอบคุณคุณเด็กขายของ บ๊ายบายครับ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[Pete 15,187]

Forex Flash: Short EUR can work either with risk off/on - UBS

Wed, Dec 21 2011, 23:13 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (Barcelona) - The price action following the LTRO (heavy euro selling) will encourage the idea that a weak EUR can be part of the solution for the Eurozone (as a function of huge ECB balance sheet expansion) rather than a reflection of the problem, so says Geoffrey Yu, FX analyst at UBS.

ฝรั่งเรียกขายแผนของ ECB ว่า " heavy euro selling " ทุ่มเงินเข้าตลาดอย่างแรง ซึ่งจะทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า โดยคิดว่า เป็นหนทางแก้ไขปัญหายูโรโซน หรือชลอความรุนแรงให้เบาบางลง นักลงทุนเลยมุ่ง " short " Euro

 

“Our view remains that short EUR can work either with risk off due to policymakers failing or risk on due to easy monetary policy and a breakdown of the correlations between risk and EUR. The main difference is that the negative outcome involves extreme risk reversal skews being justified but the positive one (for risk) involves a slower and steadier trajectory downward for EUR” Mr. Yu observed.

[Pete 15,187]

Australia's S&P/ASX 200 opens down 0.6% at 4,114.20

ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เปิดมาแบบลดลง 0.6% กดดันค่าเงินดอลล์ออสเตรเลีย เช้านี้

[Pete 15,187]

Source: Reuters

 

Italian Prime Minister Mario Monti faces a confidence vote on Thursday that he called to speed up final approval of a 33-billion-euro ($43 billion) austerity package aimed at restoring market confidence in the euro zone's third-biggest economy.

นายกฯ อิตาลี จะเผชิญการลงมติไว้วางใจ วันนี้ ที่ซึ่งเขาได้เลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้นในการอนุมัติครั้งสุดท้าย ของวงเงิน 33 พันล้านยูโร เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นในตลาดการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโร

 

FXstreet.com (Córdoba) – The rating agency, Standard and Poor’s downgraded Hungary’s debt grade from BB+ to BBB-, with negative outlook. “The negative outlook reflects our view that there is at least a one-in-three possibility of a downgrade over the next year if we see that Hungary's fiscal or external performance deteriorates,” said S&P in a statement.

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เอสแอนด์พี ปรับลดเครดิต ประเทศฮังการี จาก BB+ มาเป็น BBB- มุมมอง ลบ

[กบจ๊า 70]

ค่าเงินยูโรอ่อน. งั้นทองก้อร่วงซิ. เศร้า

[Pete 15,187]

กังวลเศรษฐกิจถดถอยกระจายทั่วยูโรโซน-แบงก์ขอเงินกู้ฉุกเฉินอีซีบี4.89แสนล้านยูโรฉุดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปซึม

วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554AAAขนาดตัวอักษร| |

 

ตัวเลขเศรษฐกิจของอิตาลีล่าสุดติดลบ 0.1% ในเดือน ก.ย. นับเป็นครั้งแรกนับจากปี 2552 ได้ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดภาวะถดถอยลุกลามทั่วทั้งยุโรประลอกใหม่ ท่ามกลางคำร้องขอเงินกู้ฉุกเฉินอีซีบีอีก 4.89 แสนล้านยูโรจากแบงก์ยุโรป ฉุดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปผันผวนและมีความเปราะบางมากขึ้น โดยที่ดาวโจนส์ปิดตลาดไร้ทิศทางเหตุหนี้ยุโรป และกำไรออราเคิลหดตัวลง เช่นเดียวกับหุ้นยุโรปติดลบใกล้เคียง 1% สวนทางราคาน้ำมันไนเม็กซ์ ทะยานขึ้น 1.43 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 98.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองร่วงลง 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,613.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ขณะที่ฟิทช์ เริ่มหั่นอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารฝรั่งเศส 4 แห่ง รวมทั้งโซซิเอเต เจเนอราล เป็นลบ พร้อมประกาศจับตาธนาคารอิตาลี 7 แห่งและธนาคารสเปน 8 แห่ง

 

หุ้นสหรัฐปิดตลาดไร้ทิศทางหลังออราเคิลแจงผลกำไรรายไตรมาสอ่อนแอฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทรุดแต่ดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (21 ธ.ค.) ขยับขึ้นแค่ 4 จุด ไม่ถึง 0.1% ที่ 12,107 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 2.42 จุด หรือ 0.2% ปิดตลาดที่ 1,243.72 ส่วนดัชนีแนสแด็ก ร่วง 25.76 จุดหรือ 1% ปิดตลาดที่ 2,577.97

 

ด้านฟากฝั่งยุโรปย่อตัวลง โดย FT100 ติดลบ 0.55% CAC40 ฝรั่งเศส ร่วง 0.82% และ DAX เยอรมัน ลดลง 0.95%

 

ทั้งนี้ ราคาหุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วงลงไปเกือบ 14% หลังจากบริษัทซอฟท์แวร์ ใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า ยอดขายและผลกำไรรายไตรมาสของบริษัท ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากลูกค้าชลอแผนซื้อฐานข้อมูล โปรแกรมซอฟท์แวร์ และระบบคอมพิวเตอร์

 

ส่วนราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 หลังจากตัวเลขของทางการบ่งชี้ว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองในสหรัฐในรอบสัปดาห์จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม ลดลงต่ำกว่าที่คาด 10.6 ล้านบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบส่งมอบล่วงหน้าเดือนกุมภาพันธ์ ทะยานขึ้น 1.43 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 98.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ราคา 107.71

 

ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลก ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลงไป 4 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 1,613.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ฟิทช์ลดเรทติ้งแนวโน้มเครดิต4แบงก์ฝรั่งเศส

 

ฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำโลก สัญชาติสหรัฐ ระบุว่า ได้ทบทวนแนวโน้มเสถียรภาพเป็นลบแก่ธนาคาร โซซิเอเต เจเนอราล กรุ๊ป บีพีซีอี ธนาคารเด็กเซีย เครดิต โลคัล และธนาคารเลอ แบงก์ โพสเทล ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือมากที่สุดหลังจากที่ประกาศลดแนวโน้มเรตติ้งพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นลบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีขึ้นหลังจาก ฟิทช์ ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสที่ AAA แต่ได้ทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของฝรั่งเศสเป็น"ลบ" จากระดับ"เสถียรภาพ" โดยให้เหตุผลเรื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ในยูโรโซน

 

นอกจากนี้ ฟิทช์ ซึ่งถือเป็น1 ใน 3 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือโลก ยังจัดให้ธนาคาร 7 แห่งของอิตาลีอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ ส่วนธนาคารของสเปน 8 แห่งจัดในอยู่ในกลุ่ม"เรทติ้งที่ต้องจับตามองเชิงลบ"

 

เศรษฐกิจยุโรปชลอตัวฉุดส่งออกญี่ปุ่นร่วง2เดือนติด

 

ยอดส่งออกญี่ปุ่นเดือนพ.ย.ดิ่งส่งผลขาดดุลการค้าสองเดือนติดต่อกันผลพวงจากเศรษฐกิจยุโรปชลอตัวเพราะวิกฤติหนี้สาธารณะ

 

กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยตัวเลขส่งออกประจำเดือนพ.ย.ร่วงลง 4.5% ทำให้ประเทศขาดดุลการค้าถึง 684.73 พันล้านเยน (8.79 พันล้านดอลลาร์) ถือเป็นการขาดดุลประจำเดือนพ.ย.ที่มากที่สุดและเป็นการขาดดุลสองเดือนติดต่อกัน เนื่องจากยอดสั่งซื้อสินค้าจากประเทศในแถบยุโรปลดลงเพราะวิกฤติหนี้สาธารณะ

 

นอกจากนี้ ปัจจัยลบอื่นๆ ที่ทำให้ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่นลดลงคือ ปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่ในไทย และการแข็งค่าของเงินเยน ประกอบกับญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบแผ่นดินไหวและสึนามิ

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่น ระบุว่า ตัวเลขได้ดุลการค้ากับยุโรปของญี่ปุ่นร่วงลงไปเหลือ 2.759 หมื่นล้านเยน โดยยอดส่งออกไปยังภูมิภาคดังกล่าวลดลง 4.6% ร่วงลงต่ำสุดสำหรับเดือนพ.ย. นับตั้งแต่เดือนม.ค. ปี 2522 เมื่อเริ่มมีการบันทึกข้อมูลในส่วนนี้ โดยตัวเลขได้ดุลการค้าน้อยที่สุดจากยุโรปคือ 2.68 หมื่นล้านเยน ในช่วงเดือนมกราคมปี 2552

 

ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 5.2 ล้านล้านเยน ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ส่วนใหญ่สินค้าส่งออกที่ลดลงจะเป็นสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชิพคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนวิดีโอ

 

วันเดียวกันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศหยุดชะงักเพราะการชลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บีโอเจ ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระหว่างศูนย์และ 0.1%

 

"กิจกรรมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่กำลังผงกหัวขึ้นหยุดชะงักชั่วขณะ เพราะผลพวงจากภาวะการชลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และการแข็งค่าของเงินเยน "บีโอเจ ระบุหลังเสร็จสิ้นประชุมหารือด้านนโยบายสองวัน

 

HSBCขายแบงก์ในญี่ปุ่นให้เครดิต สวิส

 

HSBC ขายธุรกิจธนาคารสำหรับลูกค้าสถาบันในญี่ปุ่นให้เครดิต สวิส มูลค่า 2.7 พันล้านดอลล์

 

เอเอฟพี รายงานว่า ธนาคารเอชเอสบีซี ได้ขายธุรกิจธนาคารสำหรับลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าสถาบันในญี่ปุ่นให้แก่เครดิต สวิส ด้วยมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อลดต้นทุนและหันมาเน้นธุรกิจที่ทำกำไรให้แก่ธนาคารเป็นหลัก

 

การขายธุรกิจในญี่ปุ่นเป็นการขายกิจการครั้งล่าสุดของเอชเอสบีซี นับตั้งแต่เอชเอสบีซี ประกาศมาตรการลดต้นทุนดำเนินการครั้งใหญ่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง การประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้ 3.5 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2556 และการลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลง 3 หมื่นคน

 

นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ซึ่งถือเป็นธนาคารรายใหญ่สุดในยุโรป ยังระบุด้วยว่า นอกจากขายธุรกิจธนาคารสำหรับลูกค้าสถาบันในญี่ปุ่นให้แก่เครดิต สวิส เอจี แล้วยังขายให้แก่ เครดิต สวิส ซิเคียวริตี้ส์ (เจแปน) จำกัดด้วย ซึ่งมูลค่ารวมของสินทรัพย์ทั้งหมด นับจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2554 คือ 2.7 พันล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ คาดว่า การขายกิจการครั้งนี้ ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากคณะผู้คุมกฏระเบียบจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า

 

อย่างไรก็ตาม เอชเอสบีซี ยืนยันว่า ญี่ปุ่น ยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับธนาคาร ซึ่งมีฐานดำเนินงานในกรุงลอนดอน และธนาคารได้เข้ามาตั้งสาขาในฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2408 และที่ผ่านมาธนาคารก็ให้ความสำคัญกับธุรกิจธนาคารในเอเชียมาโดยตลอด

 

[Pete 15,187]

อีซีบีปล่อยไม้เด็ดอัดฉีด20ล้านล. http://goo.gl/SSbr2

22 ธันวาคม 2554 เวลา 06:53 น. |เปิดอ่าน 8 | ความคิดเห็น 0

 

แบงก์พาณิชย์แห่กู้เสริมสภาพคล่อง คาดบอนด์อิตาลี-สเปนได้อานิสงส์

 

อีซีบีปล่อยไม้เด็ดเปิดประมูลเงินกู้ก้อนโตสุดในประวัติศาสตร์ เสริมสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์

 

ธนาคาพาณิชย์ทั่วยุโรปแห่เข้าประมูลเงินกู้ก้อนโตจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ปล่อยกู้มากถึง 4.89 แสนล้านยูโร (ราว 20.04 ล้านล้านบาท) โดยมีระยะกู้นาน 3 ปีเมื่อวานนี้ จุดกระแสความหวังว่ายุโรปอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตการเงินได้โดยอีกทั้งเงินกู้เหล่านั้นอาจจะถูกนำไปช่วยซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปน ด้วย

 

มีธนาคารพาณิชย์ถึง 523 แห่ง ที่เข้าร่วมยื่นประมูลเงินกู้จากอีซีบีในครั้งนี้ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่ามากที่สุดในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐเมื่อวานนี้

 

การปล่อยกู้ ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในความพยายามครั้งล่าสุดของอีซีบีเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ของยูโรโซน และถือว่าเป็นการปั๊มเงินเข้าสู่ระบบครั้งใหญ่ที่สุดของอีซีบีด้วย ซึ่งมากกว่าเมื่อครั้งที่ปล่อยกู้ระยะ 1 ปี ในปี 2009 ซึ่งมีมูลค่า 4.5 แสนล้านยูโร

 

คาดว่าการปล่อยกู้ราคาถูก และมีระยะยาวครั้งนี้ จะส่งผลกระทบด้านบวกในหลายๆ ด้าน นอกเหนือจากจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสภาพคล่องของภาคธนาคารพาณิชย์เองแล้วก็ยังจะกระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนมากขึ้น ซึ่งเป็นสองชาติรายใหญ่ของยุโรปที่ถูกจับตาอย่างหนักว่าอาจจะต้องเจอกับวิกฤตหนี้เป็นรายต่อไป

 

อีกทั้ง ในที่สุดมาตรการดังกล่าวอีซีบี ก็จะช่วยสยบความวิตกกังวลองตาดทุน และคลายภาวะตึงเครียดให้กับค่าเงินยูโร

 

“มาตรการครั้งนี้ใหญ่กว่าที่คาดกันไว้ที่ 3 แสนล้านยูโร สภาพคล่องในระบบธนาคารถือว่าเพิ่มขึ้นมากในขณะนี้” แอนนาลิซา ปิแอซซา นักวิเคราะห์จากนิวเอดจ์ สตราเตอร์จีกล่าว

 

กระนั้นก็ตาม ก็ยังไม่เป็นที่มั่นใจมากว่า ธนาคารพาณิชย์จะนำเงินกู้ไปซื้อพันธบัตรอิตาลีและสเปนหรือไม่ ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดี นิโคลาส์ ซาร์โกซี ได้เรียกร้องให้ภาคธนาคารเร่งเสริมทุน ลดความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร และนำไปปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจเสียก่อน

ถูกแก้ไข ธันวาคม 22, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

เตือนบ้านใหม่ถมหนีน้ำส่อก่อปัญหา

21 ธันวาคม 2554 เวลา 12:14 น. |เปิดอ่าน 856 | ความคิดเห็น 1

 

ผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์เตือนบ้านสร้างใหม่ถอสูงหนีน้ำอาจ่อปัญหาในระยะยาวโดยเฉพาะกับชุมชนข้างเคียง

 

แนวทางการออกแบบบ้านหลังน้ำท่วม เลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านให้ฟื้นคืนมา โดยทุกรายทั้งแนวราบ แนวสูง ล้วนมองเรื่องการถมที่ดินให้สูงขึ้นจากมาตรฐานปกติที่ทำอยู่ในปัจจุบันอีก 1-1.5 เมตร ซึ่งจะอาศัยระดับน้ำสูงสุดในครั้งนี้เป็นเกณฑ์ใหม่ นั่นหมายถึงที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ๆ จะสูงจากถนนขึ้นไปอีก แต่ในอีกมุมหนึ่งการแก้ปัญหาลักษณะนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับชุมชนข้างเคียง

 

กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ในมุมของผู้ประกอบการก็คงต้องถมที่ดินให้สูงขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคยังเชื่อมั่นว่าหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่อีกจะได้ผลกระทบน้อยที่สุด แต่แนวทางนี้จะกระทบกับชุมชนรอบข้างหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเช่นกัน ถ้าโครงการใหม่ๆ ทุกโครงการต่างคนต่างทำให้ตัวเองอยู่ในพื้นที่ที่สูงขึ้น โครงการรอบข้างจะกลายเป็นพื้นที่รับน้ำแทนหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ชุมชนรอบข้างไม่พอใจ เกิดการทะเลาะกัน ก็สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหาด้วยแนวทางนี้มันไม่จบ

 

รัฐบาลจึงควรเร่งประกาศนโยบายแผนงานจัดการน้ำท่วมระยะยาวออกมาให้เร็วที่สุดและชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจ ผู้ประกอบการก็มั่นใจ ไม่ต้องโหมถมดินให้สูงเกินความจำเป็นไป ซึ่งเชื่อว่าความชัดเจนจากภาครัฐจะเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการประกาศพื้นที่รับน้ำต้องพิจารณาให้ดี จะตัดสินใจอย่างไร พื้นที่ฝั่งนนทบุรีที่ครั้งนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักทั้งที่เป็นพื้นที่สูง จึงไม่ควรระบุให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่รับน้ำในอนาคต

 

 

 

 

ส่วนพื้นที่รับน้ำด้านตะวันออกที่พื้นที่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับผลกระทบเลย เพราะปัจจุบันกลายเป็นโซนอุตสาหกรรม มีสนามบินสุวรรณภูมิจะจัดการอย่างไร เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดเพี้ยน เพราะผู้บริโภคจะมองว่าจะหันไปเลือกซื้อบ้านในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมครั้งนี้ ความต้องการจะถูกย้ายไปทางฝั่งตะวันออกมากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วน้ำท่วมครั้งนี้ทิศทางน้ำผิดไปจากธรรมชาติ จะใช้น้ำท่วมครั้งนี้เป็นมาตรฐานในการเลือกทำเลที่การันตีว่าน้ำไม่ท่วมไม่ได้

 

ห้ามถมสูง รัฐต้องคุมน้ำได้

 

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) อาจจะคุมเข้มเรื่องการถมที่ดินมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพื้นที่สูงต่ำมากเกินไป อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ให้มุมมองว่า แนวคิดในการคุมเข้มเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ แต่ถ้าจะห้ามไม่ให้ประชาชนถมที่ดินสูงขึ้น รัฐก็ต้องมีแผนในการป้องกันน้ำที่ดีเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องถมสูงมากขึ้น ก็จะปลอดภัยจากน้ำท่วมในอนาคต

 

นอกจากนี้ การสร้างถนนเส้นทางใหม่ๆ ของภาครัฐก็มีการถมสูงขึ้น ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้เห็นชัดเลยว่าหลายพื้นที่ถนนสูงกว่าบ้านเรือนผู้อยู่อาศัยเดิม เมื่อเกิดน้ำท่วม ถนนไม่ท่วม แต่บ้านเรือนประชาชนกลายเป็นพื้นที่รับน้ำแทน สำหรับการถมที่ดินต่างๆ ปัจจุบันกฎหมายไม่ได้ระบุตายตัวว่าห้ามสูงเกินเท่าไร เพียงแต่ต้องมีการขออนุญาตตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 ซึ่งแนวทางที่เหมาะสมอาจใช้วิธีการถมที่ดินในระดับหนึ่ง ไม่ให้สูงขึ้นเยอะมาก แต่ทำกำแพงกั้นน้ำ และรั้วรอบโครงการที่มิดชิดให้ปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัย และกระทบกับชุมชนข้างเคียงน้อยที่สุด

 

แนวราบหันทำแนวสูงไม่ใช่ง่าย

 

ด้านแนวโน้มการปรับตัวของผู้ประกอบการหลังจากเจอวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่รอบนี้ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรกล่าวว่า เชื่อว่าหลายค่ายคงต้องปรับตัวด้วยการลงทุนแบบกระจายทำเล กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจคอนโดมิเนียมเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่เชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยหลักของสังคมไทยที่อยู่กันเป็นครอบครัว เฉลี่ยอยู่ที่ 4.1 คน ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ เพราะห้องชุดในราคา 2 ล้านบาท ก็มีพื้นที่เพียง 30 ตารางเมตร ไม่สอดรับกับความต้องการที่แท้จริง

 

ส่วน ธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การปรับจากธุรกิจบ้านแนวราบมาสู่คอนโดมิเนียมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ดินหายาก ราคาสูง ข้อจำกัดก็เริ่มสูงขึ้น ทั้งแนวโน้มของผังเมืองใหม่ที่บีบให้ทำคอนโดมิเนียมในเมืองยากขึ้น กฎเหล็กสิ่งแวดล้อมก็จะบีบให้คอนโดมิเนียมให้ความสำคัญกับการป้องกันน้ำท่วมด้วยเช่นกัน ทางฝั่งแบงก์ก็เข้มในการปล่อยสินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหม่ หรือรายเล็ก ทำให้คนที่จะเข้าสู่สนามคอนโดมิเนียมได้จะต้องมีสภาพคล่องในมือไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อ 1 โครงการ

 

แนะคนกรุงอย่าตื่นตระหนก

 

จุมพล สำเภาทอง รองปลัด กทม. กล่าวว่า ไม่อยากให้ภาคประชาชนและภาคเอกชนตื่นตกใจกับเรื่องน้ำท่วมในอนาคตมากเกินไป แต่อาจจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เพราะเชื่อว่าทุกภาคส่วนต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยในส่วนของ กทม. ก็มีโครงการเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วม แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ กทม. เพราะ กทม.ทำเพียงจังหวัดเดียวไม่ได้ ถ้าพูดเรื่องฟลัดเวย์ ก็ต้องเป็นฟลัดเวย์ใน 7-8 จังหวัดรอบๆ ไม่ใช่ทำแค่ กทม.อย่างเดียว

 

นอกจากนี้ คนกรุงต้องปรับแนวคิดใหม่ ต้องยอมให้น้ำเข้าพื้นที่ กทม.บ้าง และปรับประตูน้ำที่เข้าสู่ กทม.ใหม่ ตรงไหนเป็นคอขวดก็ต้องระเบิด และมีพื้นที่ส่งน้ำลงสู่ทะเลให้เร็ว ซึ่งเชื่อว่าหลายโครงการที่เคยนิ่งๆ ไปนาน เช่น การขยายคลองต่อจากคลองทวีวัฒนาเพื่อส่งน้ำลงทะเล ระยะทาง 15 กิโลเมตร คงต้องมีการปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง