ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

และแล้ว การประชุมสหภาพยุโรป ก็มีแต่คำรับปากเท่านั้น เหมาะสมที่อยู่ในกลุ่มประเทศ NATO ( นาโต้ ในที่นี้คือ No Action Talk Only ) ซึ่งย่อมสร้างความกังวลเพิ่ม จากข่าวเชื่อมโยงข้างล่างนี้. คงต้องรอกรีซ ประสบความสำเร็จในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ฯ เป็นตัวตนในอันดับแรก ตามที่เขาบอกคือ ภายในอาทิตย์นี้ รู้

 

 

เอเอฟพี - ผู้นำเศรษฐกิจโลกพากันรุมอัด “ยูโรโซน” ในที่ประชุม “ดาวอส” โดยออกอาการไม่พอใจมากขึ้นที่เขตใช้เงินสกุลเดียวของยุโรปแห่งนี้ยังไม่มีวี่แววคลี่คลายปัญหาได้ โดยเฉพาะการเจรจาลดหนี้ของกรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุป สายตาทุกคู่จ้องจับซัมมิตอียูในวันจันทร์ (30) ว่าจะมีมาตรการรูปธรรมออกมาเสียทีหรือไม่

       

       ข้อกังวลเฉพาะหน้าคือการเจรจาลดหนี้ของกรีซที่ลากยาวตลอดสุดสัปดาห์ที่ผานมา และดูท่าว่าจะฉายเงาทะมึนครอบงำการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ในวันจันทร์ ซึ่งเดิมกำหนดไว้ให้เป็นวาระสำหรับอวดแผนการของทวีปนี้ในการก้าวให้หลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน

       

       ไม่เพียงเท่านั้น พวกเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศนอกยูโรโซนยังกำลังโจมตีว่ายุโรปไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาระยะยาวที่กำลังบ่อนทำลายเงินสกุลยูโร และจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้นสู่การรวมเศรษฐกิจยูโรโซน

       

       จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวระหว่างร่วมอภิปรายกับพวกเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการคลัง ในรายการหนึ่งของการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลดน์ เมื่อวันเสาร์ (28) ว่า การที่ยุโรปไม่สามารถจัดการกับปัญหาในประเทศชายขอบอย่างเช่นกรีซได้ กำลังส่งผลกระทบลุกลามไปทั่วเศรษฐกิจของยุโรปและเศรษฐกิจโลก

       

       ทางด้าน มาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา และประธานของ “คณะกรรมการเสถียรภาพการเงิน“ (Financial Stability Board) ผู้คุมกฎการธนาคารระหว่างประเทศ กล่าวว่าวิกฤตยุโรปทำให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกขาดหายไป 1% เมื่อปีที่แล้ว

       

       เจ้าหน้าที่ยุโรปและยูโรโซนที่ร่วมประชุมกับผู้นำธุรกิจและการเมืองใน WEF พยายามใช้เวลาตลอดสัปดาห์ที่แล้ว กระตุ้นให้ทุกฝ่ายมองในแง่ดีเกี่ยวกับการเจรจาหนี้

       

       แต่ขณะที่ WEF กำหนดปิดฉากลงในวันอาทิตย์ (29) อยู่แล้ว ผู้นำกรีซก็ยังคงตกลงกันไม่ได้กับเจ้าหนี้เอกชนเกี่ยวกับรายละเอียดแผนการลดหนี้ 100,000 ล้านยูโรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กรีซต้องถึงกับผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะสร้างปัญหาตามมาวุ่นวาย ถึงแม้เจ้าหนี้คาดหมายว่าคงจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

       

       ขณะเดียวกัน รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ฉบับวันศุกร์ (27) ที่ระบุว่า เยอรมนีต้องการให้รัฐมนตรีคลังยูโรโซนร่วมกันแต่งตั้งกรรมาธิการที่มีอำนาจวีโต้การตัดสินใจด้านงบประมาณของกรีซได้ภายในกรอบระยะเวลาหนึ่งนั้น ก็ได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่อทางการเอเธนส์เจ้าหน้าที่กรีซคนหนึ่งระบุว่า นี่เป็นเรื่องอธิปไตยของประเทศทซึ่งกรีซไม่มีทางยินยอม นอกจากนั้นหากจะเดินหน้าจริงๆ ก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาอียูก่อน

       

       ขณะเดียวกัน อมาเดอู อัลตาฟาอี โฆษกคณะกรรมาธิการด้านกิจการเศรษฐกิจของยุโรป กล่าวย้ำว่า คณะกรรมาธิการยึดมั่นกับการส่งเสริมความสามารถในการตรวจสอบ ทว่าการตัดสินใจสำคัญๆ ที่มีผลต่อพลเมืองและสถาบันของประเทศ ยังต้องเป็นความรับผิดชอบอย่างสมบูรณ์ของรัฐบาลกรีซ

       

       การเจรจาลดหนี้ที่ยืดเยื้อกำลังบ่อนทำลายความพยายามในการควบคุมวิกฤตและค้ำจุนประเทศในยูโรโซนที่มีเศรษฐกิจใหญ่กว่า รวมทั้งสร้างความขัดเคืองต่อบรรดาผู้นำจากประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ

       

       โรเบิร์ต เซลลิก ประธานธนาคารโลก กล่าวยกย่องธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่เพิ่มสภาพคล่องเพื่อให้แบงก์ในภูมิภาคเข้าซื้อพันธบัตรคลังเพิ่ม แต่เตือนว่า นี่เป็นเพียงมาตรการซื้อเวลาเท่านั้น อีซีบีจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และโลกกำลังรอดูว่า ซัมมิตอียูในวันจันทร์จะมีข้อตกลง “มาตรการการคลัง” ใหม่ในยุทธศาสตร์การลดการขาดดุลงบประมาณออกมาหรือไม่

       

       ขณะที่ คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ไม่มีประเทศใดมีภูมิคุ้มกันจากสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะวิกฤตยูโรโซนจะส่งผลกว้างไกลทั่วโลก พร้อมเรียกร้องชาติสมาชิกไอเอ็มเอฟอุดหนุนเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ไอเอ็มเอฟมีเงินทุนเพียงพอรับมือกับภาระที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น

       

       ออสบอร์น แม้ประกาศว่ายินดีมากที่อังกฤษไม่ได้เข้าร่วมระบบเงินสกุลเดียว แต่เขาก็แสดงความหวังว่า ยุโรปจะเอาชนะปัญหาได้ นอกจากนั้นเขายังโจมตีอาการลังเลของเยอรมนี พร้อมกล่าวว่า ยูโรโซนจำเป็นต้องถ่ายโอนทางการคลังอย่างถาวรระหว่างสมาชิกที่แข็งแรงกว่ากับสมาชิกที่อ่อนแอกว่า เพื่อทำให้ระบบสกุลเงินเดียวได้ผล

       

       ขุนคลังเมืองผู้ดีทิ้งท้ายว่า ยุโรปต้องทำให้อีซีบีเป็นผู้ปล่อยกู้แหล่งสุดท้าย รวมหนี้เข้าด้วยกันผ่านพันธบัตรยูโรหรือการถ่ายโอนงบประมาณโดยตรง

 

ที่มา :ASTVผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณน้อง จ๋าาาาาาาา +50(ราคาแฟร์) น๊า แล้วบ่ายๆขออีก 50(เพราะคนไปซื้อเยอะเลยบวก) ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ :32

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ใช่ครับ ปล่อยของ ไม่ได้แปลว่าทองลง อาจจะมีย่อบ้างเล็กน้อย แต่แทรนด์ยาวทั้งเดือนแห่งความรักนี้ ยังขึ้นอยู่ เดาว่าเดือนนี้ 1850 อาจจะได้เห็นครับ ปล่อยไปเพื่อย่ออาจซื้อใหม่ แล้วที่สำคัญ... จำนวนน้องๆที่ชอบ สตอเบอร์รี่ในเยลลี่ ร้าน โอปองแปงนั้น เพิ่มจำนวนขึ้น ร้องเรียกว่า อร่อยจัง ซื้อมาทุกวันน๊าคร้าาาา :87

เด็กขายของ ถามว่า สตอเบอรรี่ในเยลลี่ รสชาด เปรี้ยว หรือ หวาน หรือว่า พอรวมๆ เข้าด้วยกัน วิปครีม+เยลลี่+สตอเบอรี่ = Visit ( เยี่ยม อิอิ ) ครับ

บังเอิญเห็น แต่ไม่เคยทาน เพราะเข้าใจว่า สตอเบอรี่ เปรี้ยว คงไม่หวานเจี๊ยบเหมือน น้ำหวาน HBB สีแดง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนกำลังพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการระลอกใหม่เพื่อควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงเกินไป หลังจากที่มาตรการที่ได้มีการนำมาใช้เมื่อปีที่แล้วสามารถทำให้ราคาที่อยู่อาศัยลดลงมาได้

 

นายเจียง เหว่ยซิน รัฐมนตรีกระทรวงที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้ทำการเชื่อมต่อฐานข้อมูลที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลใน 40 เมืองใหญ่ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นับเป็นมาตรการล่าสุดในการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา จีนได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ การขึ้นค่าดาวน์บ้าน และการจำกัดจำนวนบ้านที่สามารถซื้อได้

 

เมืองส่วนใหญ่ในจีนมีข้อห้ามซื้อบ้านหลังที่สองหรือสาม แต่ยังไม่มีการจำกัดจำนวนที่อยู่อาศัยที่สามารถซื้อได้ในเมืองต่างๆ

 

นายจาง ตง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอสังหาริมทรัพย์แห่งมหาวิทยาลัย Central South University กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ที่กว้านซื้อที่อยู่อาศัยตามเมืองต่างๆได้ และยังเป็นการวางรากฐานการเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ

 

นายจาง ต้าเหว่ย ผู้บริหารบริษัท Centaline ซึ่งเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ว่า รัฐบาลจะเก็บภาษีผู้ที่มีบ้านหลายหลังในเมืองต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) – (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยุโรปกับวิกฤตกรีซซ้ำซาก'วินัยการคลัง'ยังเป็นของแสลง

โดย...ธนพล ไชยภาษี

 

ปิดม่านลงไปแล้วสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ครั้งที่ 16 ภายในรอบ 2 ปีเท่านั้น กับวาระฉุกเฉินเร่งด่วนของปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน ที่เรื้อรังมานานเกือบจะ 3 ปีเต็ม

 

หนึ่งในประเด็นสำคัญจากที่ประชุมหนนี้ที่นับเป็นก้าวเริ่มต้นสำคัญของยุโรป คือ ชาติสมาชิกเห็นพ้องที่จะร่วมลงนามในสนธิสัญญาสร้างวินัยการคลังของชาติสมาชิก หรือ Fiscal Pact ที่ปรากฏร่างเนื้อหาออกมาเป็นระยะๆ

 

โดยที่แต่ละประเทศสมาชิกจำเป็นต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของชาติเพื่อให้สอดรับกับสนธิสัญญาใหม่ดังกล่าว ซึ่งจะเปิดประตูให้ส่วนกลางของสหภาพยุโรปเข้าแทรกแซงระบบการคลังของชาติสมาชิกได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับใช้มาตรการลงโทษประเทศสมาชิกที่ใช้จ่ายเกินตัวหากใช้เงินมือเติบปล่อยให้ขาดดุลงบประมาณเกินกว่า 3% ก็อาจจะถูกลงโทษจากส่วนกลางได้

 

แน่นอนว่าข้อตกลงนี้ถือเป็นการสร้าง “สหภาพยุโรป” ในมิติใหม่ ที่จะเป็นการรวมกลุ่มที่มีวินัยทางการคลังมากขึ้น และที่สำคัญนอกเหนือจากจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดปัญหาหนี้ขึ้นมาซ้ำซ้อนอีกในอนาคต ข้อตกลงใหม่นี้ยังจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ไม่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสำเร็จในเบื้องต้นของการประชุมในครั้งนี้กลับแฝงไปด้วยความไม่แน่นอนของการรวมกลุ่มของยุโรป เมื่ออังกฤษยืนยันไม่ลงนามในข้อตกลงนี้ด้วยเสียงไม่พอใจอย่างหนักที่เห็นว่า “ยุโรปกำลังล้วงตับละเมิดอธิปไตยการคลังของชาติสมาชิก” หนำซ้ำยังชวนให้สาธารณรัฐเช็กไม่ร่วมในข้อตกลงดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

การลงนามในสนธิสัญญา Fiscal Pact จึงเป็นเรื่องของสมาชิกส่วนใหญ่ 25 ประเทศเท่านั้นที่ไม่ใช่สมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ อนาคตของอังกฤษและเช็กต่อไปนั้น ยังไม่มีใครทราบว่าผลจากการไม่ร่วมลงนามในครั้งนี้จะส่งผลต่อระบบการคลังและความช่วยเหลือต่อทั้งสองประเทศในอนาคตจะเป็นเช่นไร

 

 

นั่นคือหนึ่งในรอยร้าวที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังของการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปในครั้งนี้

 

ไม่เพียงเท่านั้น ท่ามกลางภาพรอยยิ้มของการถ่ายภาพหมู่ผู้นำยังแฝงไปด้วยความตึงเครียดอีกด้านหนึ่งเมื่อที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะ “เอายังไง” กับเงินช่วยเหลือกรีซงวดต่อไป ที่ยืนพื้นอยู่ที่ 1.3 แสนล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กรีซกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด

 

หากพิจารณากันถึงเงื่อนไขของเงินช่วยเหลือก้อนที่ 2 จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่จะมอบให้กับกรีซเป็นก้อนที่ 2 มูลค่าดังกล่าวนั้น อียูได้วางเงื่อนไขไว้หลักๆ 2 ข้อ คือ

 

หนึ่ง เจ้าหนี้ ซึ่งคือบรรดาสถาบันการเงิน ธนาคาร และเอกชนอื่นๆ จำเป็นที่จะต้องร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาหนี้กรีซที่เกิดขึ้นด้วย โดยความช่วยเหลือก้อนที่ 2 จะต้องไม่ใช่เงินจากสหภาพยุโรป (ซึ่งก็คือเงินภาษีของชาวยุโรป) และเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟเพียวๆ เท่านั้น โดยจะต้องมีส่วนจากการลดหนี้ของเจ้าหนี้ด้วย ซึ่งหมายความว่า ภาคเอกชนจำเป็นต้องรับมือกับการยอมที่จะต้องลดมูลค่าสินทรัพย์ของตัวเองลงด้วย

 

นั่นคือที่มาของการเจรจาระหว่างกลุ่มผู้แทนเจ้าหนี้ (พีเอสไอ) กับผู้แทนฝ่ายรัฐบาลกรีซ ที่ยืดเยื้อมาเป็นสัปดาห์ที่ 2

 

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขในข้อนี้กำลังจะผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว เมื่อปรากฏข่าวออกมาว่าฝ่ายเจ้าหนี้และกรีซสามารถได้ข้อตกลงเบื้องต้นลดหนี้กรีซได้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยพันธบัตรกรีซที่เจ้าหนี้ถือครองอยู่มูลค่าทั้งสิ้น 2.06 แสนล้านยูโรนั้น จะได้รับการแลกเปลี่ยนเป็นพันธบัตรตัวใหม่ ซึ่งจะมีมูลค่าน้อยกว่า 60% ของพันธบัตรเดิม

 

พันธบัตรตัวใหม่ของกรีซนั้นจะมีกำหนดชำระคืนที่ยาวนานกว่าเดิม และจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 4% (พันธบัตรเดิม 5%) ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับกรีซลงจากเดิมที่ราว 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น และเมื่อพันธบัตรกรีซถึงเวลาครบกำหนดชำระคืนก็จะมีมูลค่าที่กรีซต้องจ่ายอยู่ที่ 1.03 แสนล้านยูโร หรือครึ่งหนึ่งของมูลค่าหนี้ทั้งหมดในปัจจุบัน นั่นคือเงื่อนไขแรก

 

ส่วนเงื่อนไขที่ สอง นั้น เพื่อแลกกับความช่วยเหลือก้อนที่ 2 นี้ กรีซจำเป็นที่จะต้องมีความเคลื่อนไหวในหลายๆ ด้านเพื่อสร้างความมั่นใจว่ากรีซจะรัดเข็มขัดอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น

 

ไม่ว่าจะเป็นการตัดลดจำนวนข้าราชการของรัฐลงเพื่อแก้ปัญหารายจ่ายสวัสดิการดินพอกหางหมู ขายทอดกิจการของรัฐออกไปเพื่อหารายได้เพิ่ม ดำเนินนโยบายลดปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐอย่างจริงจัง และที่สำคัญที่สุด กรีซต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจมากไปกว่านี้

 

เงื่อนไขข้อที่ 2 นี้ถือว่าเป็น “ยาขม” สำหรับฝ่ายการเมืองในกรีซ ไม่ว่าจะเป็นขั้วรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ที่ใช้นโยบายประชานิยมเพื่อหวังผลทางการเมืองมาอย่างเคยตัว เช่น การดำเนินนโยบายเพิ่มจำนวนข้าราชการและลูกจ้างของรัฐต่อเนื่องมาหลายปีโดยใช้สวัสดิการที่ข้าราชการของรัฐมาเป็นเครื่องมือหลอกล่อผู้มีสิทธิออกเสียง เป็นต้น

 

โดยเฉพาะเมื่อกรีซจะเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งในราวช่วงฤดูร้อนของปีนี้

 

ดังนั้น เงื่อนไขข้อที่ 2 จากสหภาพยุโรปนั้น นอกเหนือจากที่จะทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากกลุ่มสหภาพแรงงานและข้าราชการของรัฐมาโดยตลอดที่กำลังเสี่ยงต่อการตกงาน และเสี่ยงกับรายได้ที่จะหดหายไปในยามที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังฝืดเคืองอย่างหนักเช่นนี้ เงื่อนไขข้อนี้ยังจะเป็นการลดบทบาทและอิทธิพลของพรรคการเมืองต่างๆ ในกรีซลงอีกไม่น้อยด้วย

 

แต่นั่นก็เป็นมาตรการเพื่อการสร้างความมั่นใจของยุโรปว่า เงินช่วยเหลือที่จะปล่อยให้กับกรีซนั้นจะไม่ได้เป็นการ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” และปัญหาหนี้ของกรีซจะไม่เรื้อรังต่อไป

 

ถึงขนาดกับที่ทางด้านเยอรมนี พี่ใหญ่ที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดของยูโรโซน ถึงกับเสนอให้สหภาพยุโรปแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่หรือองค์กรเข้าไปดูแลการตัดสินใจด้านนโยบายของกรีซทีเดียว แต่ก็ได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากกรีซเช่นกันว่าแนวทางดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกรีซอย่างชัดๆ

 

ปัญหาความเชื่อมั่นในวิกฤตหนี้ยูโรโซนจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการรวมกลุ่มแก้ปัญหาของบรรดาผู้นำประเทศเท่านั้น แต่เหนืออื่นใดที่สุด กรีซเองต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับโลกด้วยเช่นกันว่าจะแก้ปัญหาของตัวเองอย่างจริงจัง

 

ดังที่ โวล์ฟกัง ชอยเบล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ที่กล่าวอย่างไม่ไว้หน้าว่า...

 

“เงินมากเพียงใดก็ไม่อาจจะช่วยกรีซได้หากกรีซยังคงดีแต่พูด ไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที!”

 

ทีมา  ; ข่าวราคายาง(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณเด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ เป็นเพราะเงินทุนเคลื่อนย้ายเริ่มไหลเข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นช่วงๆก็เป็นไปตามที่ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ คือ ในช่วงที่มีข่าวดีเข้ามา นักลงทุนก็จะกล้าเพิ่มลงทุนที่มีความเสี่ยง(Risk On) แต่ถ้ามีข่าวร้ายนักลงทุนจะลดการลงทุนที่มีความเสี่ยง (Risk Off) ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนควรมีการดูแลความเสี่ยงค่าเงินบาทที่ดี เพราะธปท.จะดูแลแทรกแซงค่าเงินบาทเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม เงินทุนไหลเข้าจากบริษัทประกันที่จะมาจ่ายชดเชยความเสียหายน้ำท่วมในช่วงต้นปีนี้ยังไม่เห็นเข้ามาเพิ่ม และเมื่อเทียบปริมาณที่ไหลเข้ามากับปีที่ผ่านมายังถือว่าไหลเข้ามาน้อย แต่คาดว่าเงินประกันภัยน้ำท่วมน่าจะไหลเข้ามาเพิ่มเติมอีกในปีนี้

 

"นักลงทุนต้องดูแลความเสี่ยงเอง บริหารจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายมันมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่จะเกิดเฉพาะค่าเงินบาทของไทย แต่เกิดกับทุกประเทศทุกสกุลเงิน เนื่องจากเงินทุนไหลเคลื่อนย้ายมันไหลเข้าและออกเร็วในเกือบทุกประเทศในภูมิภาค ฉะนั้น นักลงทุนที่เกี่ยวข้องค่าเงินต้องระวังความเสี่ยงให้ดี" นางผ่องเพ็ญกล่าว

 

นางผ่องเพ็ญกล่าวต่อว่า การดูแลของธปท.จะดูแลเท่าที่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องเข้าก็ต้องเข้า คือ วันไหนค่าเงินบาทผันผวนมาก วันไหนวิ่งเร็วแข็งค่าเร็วหรืออ่อนค่าเร็ว ธปท.ก็จำเป็นต้องเข้าดูแล แต่หลักการต่อไป คือ ธปท.จะดูแลน้อยลง

 

" ธปท.มีบทบาทในการเข้าดูแลตลาดการเงินเท่าที่จำเป็น เพราะถึงที่สุดค่าเงินบาทอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้น มันก็มีคนได้ประโยช์และเสียประโยชน์ทั้งนั้น ดังนั้น นักลงทุนต้องหาโอกาสและบริหารจัดการเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของค่าเงินแข็งหรืออ่อนค่าด้วยตัวเอง "

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

ปล. ต้องอ่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ส่งผลให้รอบสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน โดยแนวโน้มระยะสั้น อยู่ในกรอบ 1,710 — 1,750 คลาสสิก โกล์ดฯ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,710 — 1,750 นักลงทุนระยะสั้นปิดทำกำไร และรอเปิด Long เล่นรอบใหม่บริเวณแนวรับ แนวโน้มระยะกลาง อยู่ในกรอบ 1,550 — 1,800 แนวโน้มระยะยาว อยู่ในกรอบ 1,550 – 1920

 

นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,731 — 1,735 USDต่อออนซ์ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมเหมือนเมื่อวาน โดยในช่วงบ่ายราคาลงไปทำ low ระหว่างวันบริเวณ 1,715.70 เมื่อมีข่าวว่าการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนยังไม่บรรลุข้อตกลงได้ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป ทำให้มีความกังวลว่าการเจรจาอาจมีความล่าช้าเป็นผลให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่บริเวณ 1.30 USDต่อยูโร มีผลทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาน้ำมันปรับลดลง แต่ในช่วงเช้าวันนี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานมาอยู่ที่ระดับ 1.316 USDต่อยูโร และราคาทองคำปรับขึ้น เป็นผลมาจากการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป โดยประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ยอมรับให้มีการใช้มาตรการรัดเข็มขัดตามข้อเสนอของเยอรมัน ซึ่งได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้นในการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรป

 

โดยดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียเปิดบวกในช่วงเช้าวันนี้ และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับบวกขึ้น และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเป็นบวก รับข่าวผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป และข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซเมื่อนายกรัฐมนตรีของกรีซออกมากล่าวว่า จะเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนให้สำเร็จภายในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน ตามข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งมีข่าวดี และข่าวร้ายสลับกัน นอกจากนี้ราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับค่าเงิน USD และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศออกมาค่อนข้างมาก กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวรับ 1,710 / 1,700 และแนวต้านบริเวณ 1,750/1,760 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระหว่างวันคาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,720/1,710 และมีแนวต้านบริเวณ 1,740/1,745 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,710 — 1,745 นักลงทุนเปิดสถานะ Long บริเวณ 1,715 ปิดทำกำไรเมื่อถึงแนวต้านบริเวณ 1,745 แล้วรอราคาย่อตัวเข้าเปิด Long ใหม่บริเวณแนวรับ 1,720/1,710

 

ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ การเจรจาระหว่างเจ้าหนี้ภาคเอกชนและรัฐบาลกรีซ การเข้าซื้อทองคำของ SPDR โดยเมื่อวันศุกร์ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจำนวน 9.98 ตัน การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ค่าเงิน USD และค่าเงินยูโร สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2011 ราคาบ้านเดือน พ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขประมาณการขั้นต้นสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2011 วันศุกร์ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนธ.ค

 

ด้านราคาโลหะเงินปิดที่ 33.53 USDต่อออนซ์ ปิดลดลง 0.26 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.04 — 34.02 ishares silver trust ซื้อโลหะเงินเพิ่มขึ้น 98.25 ตันรวมถือจำนวน 9,608.95 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.7/31.6 แนวต้านบริเวณ 34.3/35.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.6 — 35.3 SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,271.09 ตัน

 

กลุ่มบริษัท คลาสสิก โกลด์ ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมานาน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุนรวมไปถึงการจัดสัมมนาฟรี!! ทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง www.classicgoldfutures.go.th กลุ่มบริษัท Classic Gold Futures อนาคตทอง เรามองขาด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Last train to VENE ครับ

 

เวเนซุเอล่าขนทอง15ตันกลับปท.

 

9ab9kij5f757afe6f6acb.jpg

ทองคำเที่ยวสุดท้ายของ เวเนซุเอล่า มูลค่า 9 พันล้านดอลล่าร์ ที่ถอนออกจากธนาคารต่างชาติ ถูกเก็บไว้ที่ธนาคารกลางแล้ว

 

31 ม.ค. 55 ทองคำเที่ยวสุดท้ายของเวเนซุเอล่า มูลค่า 9 พันล้านดอลล่าร์ หรือราว 270,000 ล้านบาท ที่ถูกถอนออกจากสถาบันการเงินของต่างประเทศ ถูก นำไปเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของเวเนซุเอล่าแล้วเมื่อวันจันทร์ โดยนายเนลสัน เมอเรนเตส ผู้ว่าการธนาคารกลางของเวเนซุเอล่า เปิดเผยว่า ทองคำจำนวน 15 ตัน เที่ยวสุดท้ายนี้ ทำให้จำนวนทองคำทั้งหมดที่ถูกส่งกลับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มีจำนวนทั้งสิ้น 176 ตัน

 

 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ได้ประกาศแผนการถอนทองคำสำรองปะมาณ 233 ตัน ที่ฝากไว้ที่ธนาคารในสหรัฐและยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งนายเมอเรนเตส ไม่ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงจำนวนทองคำที่ถอนออกจากสถาบันการเงินในต่างประเทศ เพียงแต่ระบุว่า ปัจจุบัน 85 เปอร์เซ็นต์ของทองคำสำรองที่เคยฝากไว้ในต่างประเทศ ได้กลับมาอยู่ที่เวเนซุเอล่าแล้ว

สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล ได้เผยแพร่ภาพของขบวนรถหุ้มเกราะภายใต้การคุ้มกันของทหาร ในช่วงที่ทองคำถูกขนย้ายจากสนามบินไปยังธนาคารกลาง แต่นายเมอเรนเตส ไม่ได้เปิดเผยว่า ทองคำเที่ยวสุดท้ายนี้เดินทางมาจากที่ใด และยังมีสถาบันการเงินในประเทศใดที่มีทองคำสำรองของเวเนซุเอล่าอยู่ และในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์พากันตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้

ประธานาธิบดีชาเวซ ได้กล่าวว่า การเอาทองคำมาเก็บไว้ในเวเนซุเอล่า จะช่วยปกป้องประเทศจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเล่นงานสหรัฐและยุโรป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เต้น"เตรียมลงพื้นที่ดูปัญหาราคายาง ยันถึง 120 บ.แน่ (01/02/2555)

"เต้น"ยันราคายางถึง 120 บาทแน่ พร้อมหนุน พรบ.ยาง แก้ไขปัญหาระยะยาว ชงพัฒนากิจการสหกรณ์ให้เป็นวาระแห่งชาติ

 

เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2555 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหายางพารา ว่า ขณะนี้ตนได้เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาศักยภาพยางพารา ซึ่งวานนี้ (30ม.ค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส) ได้ประชุมบอร์ดกำหนดหลักเกณฑ์ ซึ่งตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ เพื่อที่จะร่วมกันพิจารณาหลักเกณฑ์ในการกำหนดให้สถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ พร้อมจัดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำให้ทุกโครงการมีความชัดเจน ซึ่งตั้งใจจะทำให้โครงการนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรชาวสวนยางพารา

 

ผู้สื่อข่าวถาม จะมีการลงพื้นที่ไปดูปัญหายางพาราหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง และผู้รับผิดชอบในแต่ละหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว ก็มีแผนที่จะลงพื้นที่เพื่อพบปะรับฟังความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเกษตรกร หรือสมาชิกสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ

 

นอกเหนือจากเรื่องยางพารา ก็มีความคิดว่าจะต้องพัฒนากิจการสหกรณ์ให้มีความเติบโต แข็งแรง ควบคู่กันไปด้วย ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายราชการที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียด จะดำเนินการให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้สอดรับกับปีสหกรณ์สากล ตนเห็นว่ามีความเชื่อมโยง เป็นอุดมการณ์เดียวกันกับระบอบประชาธิปไตย แล้วกิจการสหกรณ์มีความเติบโต ทั้งในเรื่องฐานสมาชิก และในเรื่องเงินทุนหมุนเวียนอย่างมหาศาลในประเทศไทย ในเวลานี้ถ้ามีการจัดการอย่างเป็นระบบ จะทำให้จะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างดี

 

เมื่อถามว่า วางกรอบเรื่องราคายางพารา 120 บาทได้เมื่อไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการวางกรอบ แต่คิดว่าหลังจากมาตรการของรัฐบาล ซึ่งมีการผ่าน ครม.เมื่ออังคารที่แล้ว มีผลปฎิบัติคงไม่นานนัก ราคายางน่าจะอยู่ที่ 120 บาทได้ ทั้งนี้ เมื่อมาตรการดังกล่าวเริ่มปฎิบัติ ตนจะติดตามประเมินผลโดยละเอียด เพื่อที่จะปรับและพัฒนาให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ราคายางพาราขึ้นมาอีก มาตรการถือเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ ซึ่งเป็นการแก้แค่เฉพาะหน้า ส่วนในระยะยาวก็เป็นเรื่องพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา และรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน แต่จะเดินหน้าผลักดันแน่นอน

 

ที่ีมา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ (วันที่ 31 มกราคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 327,949 เยน ถือเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน เมื่อเทียบเป็นรายปี   ทั้งนี้  กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารของญี่ปุ่นได้ปรับทบทวนการประเมินโดยรวมในเชิงบวก โดยระบุว่า การใช้จ่ายเกือบทรงตัว เมื่อเทียบกับการประเมินครั้งก่อนที่ระบุว่า การใช้จ่ายกำลังหยุดปรับตัวลง

 

 

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 61.1 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 68 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ลิน ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดกล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถดถอยลงอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะลดลงไปสู่ระดับเดียวกับเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรับ หลังจากจีดีพีไตรมาส 4/2554 ขยายตัวเพียง 2.8% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3% และจีดีพีตลอดทั้งปี 2554 ขยายตัวเพียง 1.7% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับ 3% ของปี 255

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ที่ร่วงลงมากเกินคาดของสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง 20.81 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 12,632.91 จุด และยังฉุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย

 

 

ที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.   ทั้งนี้ ESM จะเริ่มดำเนินการเร็วกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ในช่วงแรกราวหนึ่งปี  และจะทำหน้าที่แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)  ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราวที่เคยให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ไอร์แลนด์และโปรตุเกส

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายฟรังซัวส์ ฟิยอง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2555 จากเดิมคาดไว้ที่ 1.0% มาอยู่ที่ 0.5% โดยระบุว่าจะช่วยให้ประเทศทบทวนภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้  แต่อย่างไรก็ดี นายฟิยองคาดว่า ภายในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจะกลับมาเติบโตได้อีก โดยเฉพาะฝรั่งเศส           ก่อนหน้านี้รัฐบาลฝรั่งเศสได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไปแล้วจาก 1.75% มาอยู่ที่ 1.0% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสในปีนี้จะเติบโตเพียง 0.2% เท่านั้น

 

 

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานในสังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนธ.ค. 1.2001 ร้อยล้านบาร์เรล ลดลง 5.4% เมื่อเทียบกับปี 2553 ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

 

การนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางคิดเป็นสัดส่วน 83.1% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดของญี่ปุ่น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลง 1.6%

 

ซาอุดิอาระเบียยังคงเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมัน  27.55 ล้านบาร์เรล ลดลง 1.6% ตามด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อยู่ในอันดับ 2 ที่  27.55 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.9% และอันดับ 3 การตาร์ 14.09 ล้านบาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการนำเข้าเมื่อปีก่อน

 

ขณะที่ยอดผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของญี่ปุ่นในเดือนธ.ค. อยู่ที่ 17.14 ล้านกิโลลิตร (1 กิโลลิตรเท่ากับ 6.29 บาร์เรล) ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6

 

สำหรับยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในญี่ปุ่นอยู่ที่ 19.59 ล้านกิโลลิตร เพิ่มขึ้น 2.7% สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครั้งที่ 1 09:29:00 รับซื้อ 25400 ขายออก 25500 อ้างอิง Spot 1738.50 ค่าเงินบาทเช้านี้. 30.99 บาท

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold bounce continuing but running out of fuel

Tue, Jan 31 2012, 19:36 GMT | Forex Live

 

By: Adam Button

 

Fresh afternoon highs at $1738, just shy of the 61.8% retracement of today's fall. Gold will struggle to break $1750 until the next QE3 headlines hit.

 

ปล. ข่าวนี้ แค่ให้รับรู้เท่านั้น ไม่มีความประสงค์ให้ตื่นตระหนก : ทองดีดขึ้นแต่ เครื่องบินคุณกัปตัน Donjuan. น้ำมันหมด แล้วเขาก็บอกว่า หยุดแค่ US$1,750 ตรงนี่แหละ จนกว่า จะมี QE3

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.youtube.com/watch?v=y7dS39-6klg

 

ฝากให้ คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา คุณน้อง ในสมาคมฯ ชมดาว ขอรับ :Dh

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...