ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Alan 1,136]

สวัสดีค่ะ คุณป๋า คุณDJ คุณเกี้ยมอี๋ คุณpasaya คุณluk คุณarthas คุณTflex gril คุณAiya คุณเหมยฯ และทุกๆท่าน

[Pete 15,187]

Draghi: Actions from governments must follow OMT

Tue, Sep 25 2012, 14:16 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (Córdoba) - The Outright Monetary Transactions program (OMT) has removed unfounded euro fears and eased market concerns, ECB President Mario Draghi said Tuesday. Speaking at a conference in Berlin, Draghi stated that ECB measures can only be a bridge to a more stable future; however, he said that OMT does not solve underlying debt crisis and government measures must follow.

 

Mr. Draghi reiterated that the euro is irreversible and that recent upturn in sentiment strengthens rather than weakens EU governments' commitments to reform.

 

ECB President said that he has "enormous respect for the Bundesbank", and many ECB members share similar concerns. He goes on saying that ECB actions don't represent financing states.

[namchiang 468]

แนะเลิกแทรกแซงค่าบาท-ชี้หมดทางสู้หลังเงินทะลักเข้าเพราะQE3 หวั่นแบงก์ชาติขาดทุนหนัก

วันพุธ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555, 06.00 น.

วิตกแบงก์ชาติขาดทุนหนัก หากเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท ชี้มีเงินทะลักเข้ามหาศาล หลังสหรัฐเทเงินเข้าระบบผ่านมาตรการ คิวอี 3 แนะเลิกพึ่งส่งออกได้แล้ว ด้านกระทรวงการคลัง ลดเป้าเติบโต จีดีพี หลังส่งออกดิ่งนรก แต่ยังดีมีการลงทุนและการบริโภคในประเทศช่วยประคอง เผยปี 2556 เจอภาวะศก.ซบเซาเล่นงาน ชี้ความขัดแย้งทั่วโลกเป็นปัจจัยลบที่ต้องเฝ้าระวัง

 

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ได้วิจารณ์บทความของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในหัวข้อ “สถานะทางการเงินของธนาคารกลางและนัยเชิงนโยบาย” ว่า เขามีข้อสงสัยที่ชวนคิดว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน (คิวอี) รอบ 3 ออกมา จะทำให้ฐานะการเงินของธปท.แย่ลงหรือไม่ นอกจากนี้ การที่งบดุลของ ธปท.มีฐานะที่แย่ลงกว่าเมื่อปี 7 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้น โดยการออกมาตรการคิวอีนั้น จะทำให้ความสามารถในการทำนโยบายการเงินของ ธปท.มีความยืดหยุ่นน้อยลงหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ ถือเป็นคำถามที่ควรต้องคิด

 

“การที่ธนาคารกลางสหรัฐออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบ 3 หรือ QE 3 โดยอัดฉีดเงิน 4-4.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน โดยไม่มีข้อจำกัดว่าสิ้นสุดเมื่อไหร่ จะส่งผลทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนมาก เนื่องจากมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย ซึ่งเชื่อว่า เงินทุนต่างชาติจะมาหาผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า เพราะดอกเบี้ยพันธบัตรของสหรัฐระยะ 2 ปี อยู่ที่ 0.25%ส่วนพันธบัตรไทยดอกเบี้ยสูงถึง 3%”

 

นายศุภวุฒิยังกล่าวด้วยว่า ถ้าดูตัวเลขการถือครองพันธบัตรไทยของผู้ลงทุนต่างประเทศในอดีตเคยมีเพียงแค่ 1 แสนล้านบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันยอดการถือครองดังกล่าวปรับขึ้นมาอยู่ที่ 7 แสนกว่าล้านบาท และหลังจากเฟดประกาศใช้คิวอี 3 ออกมา ยอดการถือครองส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 2 หมื่นล้านบาทจึงเป็นเครื่องยืนยันว่าดอกเบี้ยนโยบายไทยที่สูงกว่าต่างประเทศถือเป็นตัวดึงดูดให้เงินทุนไหลเข้า

 

ดังนั้น ธปท. ต้องติดตามสถานการณ์การไหลเข้าของเงินทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 30 เดือน หรือถึงกลางปี 2558 เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจยังมีความเสี่ยง เนื่องจากไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเงินทุนจำนวนมากจะไหลเข้าเมื่อไหร่ ดังนั้นภาคเอกชนที่ไปกู้เงินจากต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าในประเทศไทย ต้องระวังความผันผวนของค่าเงินดังนั้น ควรซื้อประกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า ส่วนผู้ฝากเงินมีแนวโน้มที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จากการที่ธนาคารพาณิชย์แข่งขันระดมเงินฝากอย่างต่อเนื่อง

 

นายศุภวุฒิกล่าวอีกว่า ไม่เห็นด้วยที่ธปท.จะเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง เพราะจะยิ่งสร้างปัญหาขาดทุนให้กับงบดุลของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันงบดุลของ ธปท. มีขนาดใหญ่มากแตกต่างจากเมื่อปี 2551 หาก ธปท. ยังเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง จะกระทบต่อความยืดหยุ่นของนโยบายและการออกนโยบายการเงินมีข้อจำกัด แม้ว่า ที่ผ่านมาธปท. จะเข้ามาดูแลค่าเงินบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก แต่ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องลดการพึ่งพาการส่งออกและหันมากระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ

 

“เลิกตั้งเป้าหมายว่าหากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือจีดีพี โต 4.5% การส่งออกต้องขยายตัวถึง 3 เท่า ของจีดีพี หรือ โต 15% เพราะหากประเทศไทยยังให้การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็ต้องอุ้มผู้ส่งออกต่อไป แม้ว่ามีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว”

 

ขณะที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หลังจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 4.5% หรือทำรายได้ประมาณ 18,000-19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมคาดการณ์ว่า จะขยายตัว 12.8% ทำให้ต้องขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นปีแรกที่ 0.5% นับว่ายังเป็นการขาดดุลแบบมีคุณภาพ เพราะเป็นการนำเข้าสินค้าเพื่อการผลิต จึงปรับเป้าหมายจีดีพีปีนี้จาก 5.7% เหลือ 5.5%

 

ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความเข้มแข็งเพราะอัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.6% นับว่าว่างงานต่ำมาก อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.7% ในช่วงสิ้นปี แม้รายได้รัฐบาลจะลดลง แต่สิ้นปียังคาดว่าเงินคงคลังยังมากกว่า 500,000 ล้านบาท ทำสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือนสิงหาคม 2555 มีจำนวน 170,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.9 เท่า ของภาระหนี้ต่างประเทศ แม้ต่างชาติมีปัญหาดึงเงินกลับยังรองรับการถอนเงินกลับได้ถึง 3 เท่า และมาตรการ QE3 จะทำให้เงินทุนไหลเข้ามาหาผลตอบแทน ส่งผลต่อทุนสำรองอาจเพิ่มสูงถึง 1.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ฐานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) 14.9% สูงจากมาตรฐาน 8.5 หนี้เอ็นพีแอลของระบบ 2.5%

 

นายสมชัยกล่าวว่า จากสภาพคล่องส่วนเกินของระบบที่มีอยู่ 2.13 ล้านล้านบาท ยังรองรับการกู้เงินเอกชน และ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลเพื่อเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานในปีหน้า โดยในปีนี้การบริโภคภาคเอกชนจะเป็นตัวหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสูงมากตั้งแต่ปี 2547 โดยขยายตัว 5.2% จากปี 2554 ขยายตัว 1.3% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 14.1% จากปีก่อนขยายตัว 7.2% การลงทุนภาครัฐขยายตัว 8.1% จากปีก่อนขยายติดลบ-8.7%

 

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2556 ยังต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากการเติบโต 3.6% ในปี 2555 จะขยายตัวได้ 4.1% ในปี 2556 โดยไทยขยายตัว 5.2% สหภาพยุโรปจากขยายตัวติดลบ -0.9% ปรับเพิ่มเป็นขยายตัว 0.5% ในปี 2556 จีน ขยายตัว 7.8% ในปีนี้ และปรับเพิ่มเป็น 8.5% ในปี 2556 ขณะที่สหรัฐขยายตัว 2.2% และขยับเพิ่มเป็น 2.4% ในปีหน้า แต่ยังต้องระวังปัจจัยเสี่ยงหลายด้านในปีหน้า จากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างจีนกับญี่ปุ่นความรุนแรงของความขัดแย้งทางศาสนาของสหรัฐ และชาวมุสลิมในสหรัฐ อาจเป็นปัญหาแพร่กระจายไปทั่วโลกได้

 

http://www.naewna.com/business/23678

[Pete 15,187]

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

[Pete 15,187]

 

http://www.fxstreet.com/technical/market-view/the-trend-trader-for-forex/2012/09/26/

[Pete 15,187]

 

Oil & Gold (XAU) Gold rallied to $1770 before reversing back to support at $1760 and technically negative trade. OIL/USD is under pressure tracking US stocks lower to below $91 and in striking distance of the key $90 a barrel.

 

[Pete 15,187]

ปภ.เตือนอีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก1-2วันนี้

ข่าวสังคม วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ.2555 9:45น.

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน อีสานตอนล่าง กลาง ตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ในระยะ 1-2 วันนี้

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอเตือนให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทางน้ำไหลผ่าน เตรียมความพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก ที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในระยะ 1-2 วันนี้ (วันที่ 26-28 กันยายน 2555) โดยติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร โดยบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเล ให้ระวังคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือ เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ในระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน 2555 ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ดังกล่าว จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับมิสเตอร์เตือนภัย เฝ้าระวังภัยในระยะนี้เป็นพิเศษ รวมถึง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดภัย

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำ ได้ทางเว็บไซต์ www.waterforthai.com ติดต่อแจ้งเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง พร้อมขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

[Pete 15,187]

Good Morning News 26 กันยายน 2555

26 กันยายน 2555

บลจ.บัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางการลงทุน

 

General News

 

          • G20 เห็นพ้องว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณของประเทศพัฒนาแล้วทำได้เพียงซื้อเวลาไม่ให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น และรัฐบาลในแต่ละประเทศยังจำเป็นต้องกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้มากขึ้นกว่านี้

 

          • รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า หากมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่...บรรลุเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด กรีซควรเลือกใช้ช่องทางกู้เงินเพิ่มจาก ธ.กลางยุโรป (ECB) เพื่ออุดช่องว่างทางการเงินในปีต่อๆ ไป

 

          • ECB และ บุนเดสแบงก์ของเยอรมนี อยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้องตามกฏหมายของโครงการซื้อพันธบัตรใหม่ของ ECB ทั้งสัดส่วนและระยะเวลาว่าขัดต่อสนธิสัญญาของสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ที่จะไปให้เงินอุดหนุนการลดยอดขาดดุลของรัฐโดยตรง

 

          • IMF เรียกร้องให้ยูโรโซนสร้างเอกภาพในภาคธนาคาร และเร่งดำเนินการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปตามแผนที่ได้ประกาศไว้ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ สหรัฐก็เป็นความเสี่ยงใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกันจากการที่ต้องควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า

 

          • โจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล กล่าวว่า ยูโรโซนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบหนี้ที่สมาชิกก่อไว้ในอดีต เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะทั้งหลาย และต้องสร้างเอกภาพของภาคสถาบันการเงินด้วยการใช้ระบบประกันเงินฝากเพื่อป้องกันการแย่งกันระดมเงินฝาก ไม่เช่นนั้นประเทศที่อ่อนแออยู่แล้วจะยิ่งอ่อนแอลงไปอีก และทั้งระบบก็จะล่มสลาย

 

          • อาร์เจนตินามีเวลา 3 ด.เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจาก IMF หลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เป็นจริง โดยต้องปรับปรุงคุณภาพตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

 

          • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ในเดือน ก.ย.และทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยการปรับตัวขึ้นของราคาบ้านและตลาดหุ้นต่างช่วยหนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่งผลให้ภาคครัวเรือนเพิ่มการใช้จ่ายซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่อัตราว่างงานที่ยังคงสูงกว่าระดับ 8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในวงจำกัดยังฉุดรั้งการขยายตัว

 

          • ธ.กลางจีน ตัดสินใจอัดฉีดสภาพคล่อง 290 พันล้านหยวน (46 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ภาคธนาคารผ่านการซื้อคืนตราสารหนี้อายุ 7 วัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับแต่ปี 2004 เพื่อรองรับความต้องการเงินสดที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาว

 

          • IMF คาดว่า มาตรการของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะเป็นความช่วยเหลือในระยะสั้น แต่ในระยะยาวต้องกระตุ้นการบริโภคและอุปสงค์ในประเทศ เพื่อแทนที่การขยายตัวของการส่งออกที่ชะลอลง

 

          • จีนเริ่มขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการขอสัมปทานที่ดินเพื่อปลูกพืชวัตถุดิบ เช่น ยางพารา และมันสำปะหลัง ขณะที่ ลาว กัมพูชา รวมถึงบางประเทศได้เปิดรับการลงทุนของจีนด้วยการขยายอายุสัมปทานที่ดินจากเดิม 70 ปี เป็น 99 ปี ทำให้บริษัทสัญชาติจีนกว่า 100 แห่ง เข้ารับสัมปทานที่ดินแล้วกว่า 6 ล้านไร่

 

          • จีน-ญี่ปุ่น เตรียมเจรจาคลี่คลายความตึงเครียดกรณีข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะเตียวหยู (เซ็นโกกุ) อีกครั้ง หลังทั้ง 2 ฝ่ายประสบความล้มเหลวจากการเจรจาวานนี้ โดยจีนชี้ว่าการซื้อหมู่เกาะเตียวหยูโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง

 

          • ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานวิจัยภาคเอกชนญี่ปุ่น 18 แห่ง คาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) อาจลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปและจีน รวมถึงความต้องการรถยนต์ที่น้อยเกินคาด

 

          • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือน ก.ย.ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แม้คาดว่าเงินเฟ้อได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2010 ไปแล้วก็ตาม เนื่องจากผู้ บริโภคคาดว่าเศรษฐกิจและความเป็นอยู่จะย่ำแย่ลง ขณะที่ IMF คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 3.0% ในปีนี้ ชะลอตัวลงจาก 3.6% ในปีที่แล้ว หลังภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้สกัดอุปสงค์สินค้าส่งออกของเกาหลีใต้

 

          • ธ.กลางสิงคโปร์ (MAS)สั่งการให้ ธ.พาณิชย์ ทบทวนวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าที่ไม่มีการส่งออก (NDF) เพื่อปกป้องความเป็นเอกภาพของระบบการเงิน และให้รายงานความผิดปกติใดๆ ในทันทีที่พบเห็น กับให้ดำเนินการด้านวินัยที่เหมาะสมต่อพนักงานที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกตินั้นๆ (เป็นการทบทวนเพิ่มเติมต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์สิงคโปร์ (Sibor) และอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์อื่นๆ)

 

          • ก.พาณิชย์ของไทย ยังคงเป้าส่งออกในปีนี้ว่าจะขยายตัวได้ 15% เนื่องจากคาดว่าจะมีคำ สั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้ามากขึ้น แม้ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปยังเป็นปัจจัยลบกดดันการส่ง ออกของไทยในปีนี้ โดยจะประชุมกำหนดยุทธศาสตร์ส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า ซึ่งหากสามารถทำให้มูลค่าการส่งออกต่อเดือนในช่วงเหลือของปีในระดับ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อาจทำให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปีนี้โตได้อีก 4-5%

 

          • ก.คลัง ปรับลดเป้า GDP ปีนี้ลงเหลือ 5.5% จากเดิม 5.7% เนื่องจากการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวลดลงเหลือเพียง 4.5% อย่างไรก็ตาม การบริโภคยังเติบโตสูงสุดนับจากปี 2547 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 5.2% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนยังเติบโตเป็นประวัติการณ์ที่ 14.1%

 

          • ไทยจะเปิดตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตแบบสมัครใจในเดือน ต.ค.2557 และจะเริ่มปรึกษากับผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศเพื่อขอความสนับสนุนสำหรับโครงการนี้ โดยจะยื่นข้อเสนอภายในสิ้นปีเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่รขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่จีน เกาหลีใต้ และเวียดนามต่างก็มีแผนที่จะเปิดโครงการตลาดคาร์บอนแบบภาคบังคับ

 

Equity Market

 

          • SET Index ปิดที่ 1,287.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,856 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 814 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และพาณิชย์ ส่งผลให้ดัชนี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3

 

Fixed Income Market

 

          • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วง -0.03% ถึง 0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 5 วัน และ 12.8 ปี มูลค่ารวม 71,000 ล้านบาท

 

          • ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ไม่เห็นด้วยที่ ธปท. จะเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ภาวะเงินทุนไหลเข้า เพราะจะยิ่งสร้างปัญหาขาดทุนให้งบดุลของ ธปท.และกระทบต่อความยืดหยุ่นของนโยบายการเงิน ทำให้การออกนโยบายมีข้อจำกัดเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า แนวโน้มเงินบาทจะแข็งค่าและผันผวนมากขึ้นอย่างไม่มีข้อจำกัดว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เนื่องจาก FED อาจอัดฉีดเม็ดเงินไปจนถึงกลางปี 2558 หรืออีกประมาณ 30 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

Gold Corner

 

          • IMF เผยว่า เกาหลีใต้ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองขึ้นเกือบ 16 ตัน สู่ระดับ 70.44 ตันในเดือน ก.ค. เช่นเดียวกับ ปารากวัย ซึ่งเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองในเดือน ก.ค.จากระดับไม่กี่พันออนซ์ สู่ระดับมากกว่า 8 ตัน และมีแนวโน้มต่อเนื่องที่ธนาคารกลางต่างๆ จะเข้าถือครองทองแท่งมากขึ้น

 

        [size=6-2  • ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทองคำอยู่ในภาวะฟองสบู่หรือไม่ นั้น Michael Lewis ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Deutsche Bank ชี้ว่า ....

 

          การจะดูว่าทองคำแพงเกินไปหรือไม่นั้นให้เปรียบเทียบราคาทองคำกับราคาสินทรัพย์ประเภทอื่น ซึ่งในปัจจุบันราคาทองคำก็ยังไม่ได้สูงมากนัก (แนวคิดของ Michael Lewis คือตั้งสมมติฐานว่า ทองคำสามารถรักษาอำนาจซื้อไว้ได้ จึงเปรียบเทียบผลตอบแทนของราคาสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ กับราคาทองคำในปัจจุบันด้วยสถิติราคาในอดีต) และได้คาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ $2,000/oz. โดยระบุว่าจะมาถึงในเร็วๆ นี้ ในขณะที่ CitiBank คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง $2,500 ภายใน 6 เดือนข้างหน้า

 

          นอกจากนี้ ความต้องการของรัฐบาลที่จะรักษาอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะทำให้ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจาก 1.ปัญหาขาดดุลการคลังของสหรัฐ เพราะรัฐบาลไม่อยากลดสวัสดิการต่างๆ และ 2.การใช้นโยบาย QE ซึ่ง 2 อย่างนี้ล้วนแต่จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ลดลง และเกิดประโยชน์ต่อราคาทองคำ[/size]

 

Guru Corner

 

          Musawer Mansoor Ijaz (นักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายปากีสถาน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ Crescent Investment Management LLC ใน New York) กล่าวว่า ......

 

          “ไม่มีเรื่องทำถูกหรือทำผิด ไม่มีเรื่องแพ้ตลาดหรือชนะตลาดเลย ถ้าทำเงินได้มันก็แปลว่าคุณเข้าใจและคิดในทางเดียวกับผู้เล่นในตลาด ถ้าเสียเงินก็เพราะคุณคาดเดาพฤติกรรมในตลาดผิด มันก็มีอยู่แค่นี้เอง ไม่มีทางคิดเป็นอื่น”

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

September 26, 2012

รายงานข่าวช่วงเช้า จาก TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC

 

TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC

 

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายตลาดเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,766.4 เหรียญ/ออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 20% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 250 วัน

 

การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ทางสหรัฐ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2554 และเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ได้ดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อบ้าน

 

ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยานของสหรัฐอยู่ที่ 70.3 ในเดือนกันยายน มากกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 63.1 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 61.3 ในเดือนสิงหาคม โดยทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน สะท้อนให้เห็นว่ายอดการใช้จ่ายภาคเอกชนซึ่งมีสัดส่วนสูงที่สุดในเศรษฐกิจสหรัฐนั้น มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง

 

ตลาดทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากข่าวในช่วงระหว่างวัน ได้แก่ การที่ไอเอ็มเอฟมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีใต้และปารากวัยได้เพิ่มการสำรองทองคำในเดือนกรกฎาคม โดยเกาหลีใต้เพิ่มการสำรองทองคำเดือนกรกฎาคม 16 ตัน ซึ่งเกาหลีใต้ได้เพิ่มการสำรองทองคำเป็นสองเท่าภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี หลังจากได้กลายเป็นผู้เข้าซื้อทองคำที่มากที่สุดในปี 2011 ในขณะที่ปารากวัยก็มีการเพิ่มการสำรองทองคำจากระดับไม่กี่พันออนซ์มาอยู่ที่ระดับมากกว่า 8 ตันในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ในปีนี้ธนาคารกลางต่างๆ เพิ่มการสำรองทองคำสุทธิ 262.1 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 203.4 ตันในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2011 ผ่านกองทุน ETFs ที่ ณ ขณะนี้มียอดถือครองทองคำทั้งสิ้น 74.1 ล้านออนซ์

 

ซิตี้กรุ๊ปได้เพิ่มระดับการคาดการณ์ราคาทองคำสำหรับปี 2013 สู่ระดับ 1,749 เหรียญ/ออนซ์ จากระดับ 1,695 เหรียญ และยังได้ยกระดับการคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1,680 เหรียญ จากระดับ 1,645 เหรียญ

 

กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการสำรองทองคำสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยนับตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา กองทุน SPDR เพิ่มการสำรองทองคำติดต่อกันอย่างต่อเนื่องจากระดับ 1,289.416 ตัน เพิ่มการสำรองทองคำรวมกันจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 41.915 ตัน มาอยู่ที่ระดับ 1,331.331 ตัน

 

ข่าวทางด้านยุโรป สเปนยังคงเป็นที่จับตาของตลาด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ แม้ว่าสเปนจะยังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการ ซึ่งนักลงทุนในตลาดต่างก็เชื่อว่า เป็นแค่เพียงช่วงนี้เพราะในท้ายที่สุดสเปนก็ต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินอยู่ดี นอกจากนี้การประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของสเปนแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง เนื่องจากรัฐบาลมีการเตรียมแผนมาตรการรัดเข็มขัดงบประมาณสำหรับปี 2013 ที่จะมีการประกาศในวันพฤหัสบดีนี้

 

นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้เสนอแผนการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อช่วยสเปน และกล่าวว่า ณ ขณะนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะดำเนินการตัดสินใจทางนโยบายด้วยตนเอง และรัฐบาลของสหภาพยุโรป ไม่ใช่ธนาคารกลาง ต้องใช้มาตรการทางปัจจัยพื้นฐานเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้ในภูมิภาค โดยเขาคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในปีหน้า และรัฐบาลต้องดำเนินการทันที

 

นายคริสทอส สไตคูราส รัฐมนตรีคลังของกรีซกล่าวว่า กรีซควรเลือกใช้ช่องทางกู้เงินเพิ่มจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่ออุดช่องว่างทางการเงินในปีต่อๆไป ถ้าหากมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่บรรลุเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด

 

ทางด้านอินเดีย การเริ่มต้นเทศกาลในอินเดียได้เริ่มกระตุ้นปริมาณความต้องการทองคำ ซึ่งเมื่อวานราคาทองคำภายในประเทศมีการปรับตัวลดลงจากการเข้าซื้อบางส่วน โดยนายอาเจย์ คูมาร์ จากคีเดียร์ คอมโมดิตี้ส์ กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลงและเริ่มมีปริมาณความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล

 

 

[noijaa 12]

ขอบคุณมากนะคะ คุณเด็กขายของ มีข่าวสารให้ครบทุกรสเลย

ถ้าว่างจะเข้ามาอ่านประจำ ขอให้มีลำใยกันทุกคนนะคะ

[Anna 567]

แจ้งเพื่อนๆเพ่ือทราบ

 

 

อัยยาเจ้าคิดเจ้าแค้น อิอิ

[พลอยสีสวย 88]

แจ้งเพื่อนๆเพ่ือทราบ

 

 

อัยยาเจ้าคิดเจ้าแค้น อิอิ

แค้นใครค่ะ คุณหมออัยยา