ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

พร้อมพงศ์แจ้งความแกนนำปชป.แทนทักษิณ

ข่าวการเมือง วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 11:11น.

 

รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อทนายความ แจ้งความเอาผิด "อภิสิทธิ์ - สุเทพ" และพวก ข้อหาหมิ่นประมาทอดีตนายกฯ กรณีหาว่าอยู่เบื้องหลังคนชุดดำ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทีมทนายความ เดินทางมายัง สน.ลุมพินี หลังได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้แจ้งความดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ข้อหา หรือฐานกระทำความผิด ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณี ร่วมจัดงาน "เดินหน้าผ่าความจริง ใครบงการมัจจุราชชุดดำสั่งฆ่าประเทศไทย" ที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม

 

โดยมีการพูดบนเวทีว่า มีการวางแผนให้เกิดความสูญเสียช่วงเมษายน - พฤษภาคม 2553 โดยใช้ชีวิตประชาชนเป็นเครื่องมือ และ นายสาธิต ได้กล่าวหาใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังชายชุดดำ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไม่มีพยานหลักฐาน เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง ที่กล่าวอ้างลอยๆ เท่านั้น ทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังหลงเชื่อ ซึ่งเป็นการลดความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ

 

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบอำนาจให้แจ้งความดำเนินคดี กับ นายกษิต ภิรมย์ กับพวกในข้อหาเดียวกัน กรณีกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจรอีกด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โบรกฯคาดตลาดปรับตัวได้จับตากนง.ถกดบ.

ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:50น.

 

นักวิเคราะห์ คาด ตลาดปรับตัวได้ จับตาเยอรมัน ช่วยสเปน - ผลประชุมผู้นำยุโรป - กนง. ถก ดบ. บ่ายวันนี้ ให้แนวรับ 1,270 - 1,280 จุด ต้าน 1,295 - 1,306 จุด

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ ว่า ตลาดจะปรับตัวได้ แต่จะไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,295 จุด หลังจากเมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปิดตลาดเป็นบวกอย่างแข็งแกร่ง แต่มีปัจจัยสนับสนุนเพียงเล็กน้อย โดยในสหรัฐฯ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน สูงกว่าที่คาด และผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ยังสูง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เยอรมันพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือฉุกเฉินกับสเปน แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และจะต้องรอผลการประชุมผู้นำยุโรปในวันที่ 18 - 19 ตุลาคมนี้

ในขณะที่ปัจจัยในประเทศ ต้องจับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันนี้ และคาดว่าผลของการประมูล 3G จะไม่มีผลต่อตลาดแล้ว จนกว่าจะมีการลงทุน ซึ่งในวันนี้ให้แนวรับที่ 1,270 - 1,280 จุด และแนวต้านที่ 1,295 - 1,306 จุด

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ ทุกคน

วันนี้ว่างแล้ว พร้อมแล้วค่ะ ทุกคนพร้อมยังคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หนี้สเปนป่วนราคาทองคำอีกระลอก บลจ.กสิกรไทย ชวนนักลงทุนพลิกวิกฤตชิงจังหวะสะสม K-GOLD เข้าพอร์ต

 

 

บลจ. กสิกรไทย คาดหนี้ยุโรปหั่นราคาทองคำอีกรอบ หลังความกังวลหนี้สเปนผลักดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ากดดันราคาทอง ชวนนักลงทุนทยอยสะสมกองทุนทองคำเข้าพอร์ต แย้มปัจจัยบวกระยะยาวเพียบ เชื่อหนุนโอกาสทองคำปรับตัวขึ้นอีก แนะกลยุทธ์เทรดทำกำไรระยะสั้น ชูค่าธรรมเนียมถูกเอาใจขาเทรดเพียง 0.08% พร้อมสะดวกซื้อขายออนไลน์ผ่าน K-Cyber Invest

 

 

 

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการ QE3 ได้ปรับตัวจากระดับสูงสุดของปีที่ 1,794 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์เมื่อต้นเดือนตุลาคมลงมาถึงจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ระดับ 1,735 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เมื่อต้นสัปดาห์ และแม้ว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1730 - 1750 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ผู้ลงทุนสามารถทยอยเข้าลงทุนกับกองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) เพื่อโอกาสทำกำไรจากปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวได้

 

 

 

“ปัจจัยที่ทำให้ราคาลงมาในช่วงนี้ เกิดจากปัญหาหนี้ในยุโรป ที่เริ่มเกิดความกังวลในปัญหาหนี้ของสเปนขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากตลาดคาดว่าสเปนจะต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากทางธนาคารกลางยุโรป ในขณะที่สเปนเองออกมายืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็น จึงทำให้เกิดความไม่แน่นอนและส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และผลักดันดอลลาร์สหรัฐฯให้แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ ประกอบกับแรงขายทำกำไรหลังจากราคาปรับขึ้นมาต่อเนื่องนับตั้งแต่ QE3 จึงทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาอยู่ในจุดที่น่าทยอยเข้าลงทุน โดย บลจ. กสิกรไทยยังคงมองว่า ในระยะยาว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงมีแนวโน้มที่อ่อนค่าลงจากการใช้มาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ จะยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาทองคำในระยะสั้น อาจจะอ่อนตัวลงได้อีกระหว่างทางตามข่าวสารเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นอ่อนไหวในภูมิภาคยุโรปซึ่งยังคงมีข่าวเกี่ยวกับปัญหาหนี้ออกมาเป็นระยะๆ และจะกดดันราคาทองคำลงมา แต่เมื่อมีข่าวดีก็จะผลักดันราคาทองคำขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำขึ้นลงเป็นรอบๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อ-ขายทำกำไรระยะสั้น (Trading) จากการขึ้นลงของราคาทองคำได้ ทั้งนี้ บลจ. กสิกรไทย ยังคงเชื่อมั่นในราคาทองคำในระยะยาว โดยคาดว่าราคาทองคำปลายปี 2556 น่าจะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,900 – 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยยังคงผันผวนขึ้นลงเป็นรอบๆ ระหว่างทาง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนเข้าซื้อขายทำกำไรได้” นายนาวินกล่าว

 

 

 

ด้านปัจจัยบวกจากทิศทางในตลาดโลก นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น โดยมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เห็นได้จากปริมาณทองคำที่ถือครองโดยกองทุน ETF ทองคำทั่วโลกในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ เพิ่มขึ้นมาที่ 2,554 ตัน ถือเป็นสถิติสูงสุด และสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังเป็นบวกต่อราคาทองคำแม้ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำจะอยู่ในระดับสูงมาก ขณะเดียวกันปริมาณทองคำที่เข้าซื้อเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนสิงหาคม 2555 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 251.80 ตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 25% แสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางทั่วโลกยังเชื่อมั่นในมูลค่าของทองคำ และคาดว่าแนวโน้มในระยะยาวจะยังคงเข้าถือครองทองคำเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน

 

 

 

สำหรับกองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) ของบลจ. กสิกรไทย เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ พร้อมนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงสุดไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2551 มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 11 ครั้ง คิดเป็นอัตรา 3.25 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) เป็นกองทุนรวมทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2555 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 19,285.20 ล้านบาท ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายเพื่อโอกาสทำกำไรระยะสั้นได้โดยผ่านธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือช่องทางการลงทุนทางอินเทอร์เน็ตผ่าน K-Cyber Invest (บริการลงทุนในกองทุนรวมทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย) ทาง www.kasikornasset.com ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เพียง 0.08%

 

 

 

“สำหรับผู้ลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณพร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2555 และโปรโมชั่นพิเศษจาก บลจ.กสิกรไทย สามารถทยอยลงทุนในกองทุนเค โกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KGDRMF) ได้ โดยกองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนและนโยบายป้องกันความเสี่ยงเช่นเดียวกับกองทุน K-GOLD เพียงแต่มุ่งสะสมโอกาสรับผลตอบแทนไว้ให้ผู้ลงทุนในระยะยาว จึงไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนมีโอกาสติดตามสภาวะตลาดก็สามารถเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวลงเช่นนี้ แล้วเลือกสับเปลี่ยนกองทุนไปยังกองทุน RMF อื่นๆ ของ บลจ. กสิกรไทยที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าได้เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นและได้โอกาสรับผลตอบแทนที่พึงพอใจแล้ว โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนกองทุนแต่อย่างใด” นายนาวินกล่าวในที่สุด

 

 

 

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน K-GOLD และ KGDRMF ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

 

 

 

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล คู่มือภาษี นโยบายลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุน และเอกสารเกี่ยวกับกองทุน K-GOLD และ KGDRMF ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน K-GOLD และ KGDRMF มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมี

 

 

 

นโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ เงื่อนไขส่งเสริมการขายกองทุนเป็นไปตามที่ บลจ. กสิกรไทยกำหนด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเย็นค่ะ คุณป๋า คุณเกี้ยมอืี๋ คุณpasaya คุณarthasและทุกท่าน :Hi

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะ ท่านเด็กขายของ แบบนี้เราต้องเปลี่ยนด่าน เป็น 1746 หรือเปล่าคะ

 

:17 :17 :17 :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 2.75%แต่ไม่ใช่การส่งสัญญาณเข้าสู่ขาลง

 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 17 ต.ค.55 มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 2.75% โดยเตรียมปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 55 และ ปี 56 ตามการส่งออกที่ทำได้ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งจะมีการแถลงในวันศุกร์หน้า แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง

 

 

ปตท.-บางจากฯลดราคาน้ำมัน 50 สต./ลิตรยกเว้นเบนซิน 91-ดีเซล มีผลพรุ่งนี้

 

บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลงลิตรละ 50 สตางค์ ยกเว้นเบนซิน 91 และดีเซลยังคงเท่าเดิม โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้(18 ต.ค.55) เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกของ ปตท.และบางจากฯในสถานีบริการน้ำมันเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ลิตรละ 43.55 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 37.63 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 35.18 บาท, E85 ลิตรละ 21.78 บาท, E20 ลิตรละ 33.18 บาท และดีเซลลิตรละ 29.79 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิดตลาด 30.58/60 อ่อนค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อยหลังกนง.ปรับลดดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 17 ตุลาคม 2555 17:44:33 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.58/60 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 30.61/63 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(อาร์/พี) ลงอีก 0.25% ต่อปี มาอยู่ที่ 2.75%ต่อปี ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวอ่อนตัวลงมา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.56-30.67 บาท/ดอลลาร์

 

"ทรงตัวตลอดทั้งวัน แต่หลังมีข่าวแบงค์ชาติประกาศลดดอกเบี้ยเหลือ 2.75% เงินบาทก็อ่อนตัวลงนิดหน่อย" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.74/75 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 78.80/85 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3115 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3101/3103 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะอยู่ระหว่าง 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์ มีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่า โดยปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจ ได้แก่ ผลจากการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ

 

--อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 17 ตุลาคม 2555 โดย YLG

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 17 ตุลาคม 2555 16:58:15 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,746.55 — 1,752.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 25,520 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,400 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,017 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,004 บาท

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.42 น.ของวันที่ 17/10/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 18 ตุลาคม 2555

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปนที่ Baa3 โดยคงแนวโน้มในเชิงลบ ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนสอดคล้องกับของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ซึ่งจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนอยู่ที่ BBB- ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนที่ว่า สเปนจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ "ขยะ" เป็นหนุนต่อสกุลเงินยูโรป และราคาทองคำ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของกรีซ กับคณะผู้แทนของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับการลดรายจ่ายรอบใหม่จำนวน 1.35 หมื่นล้านยูโร สำหรับปี 2556-2557 นั้นดำเนินมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน โดยปราศจากข้อสรุป และดูเหมือนจะเผชิญกับปัญหา หลังจากการประชุมนายกรัฐมนตรีสของกรีซกับสองผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล เกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ในการรับความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมนั้นปิดฉากลงโดยไม่มีข้อสรุป แต่อย่างไรก็ตามวายแอลจีมีมุมมองว่า การอ่อนตัวลงของราคาทองคำโดยเฉพาะขยับลงมาในบริเวณ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งประเมินว่าหากราคาไม่สร้างจุดต่ำสุดใหม่ และราคาสามารถขึ้นมายืนเหนือบริเวณ 1,763 ดออลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านในบริเวณ 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,720 - 1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,731 (25,090บาท) 1,720 (24,930บาท) 1,710 (24,790บาท)

แนวต้าน 1,763 (25,560บาท) 1,772(25,690บาท) 1,780 (25,810บาท)

GOLD FUTURES (GFV12)

แนวรับ 1,731 (25,250บาท) 1,720 (25,090บาท) 1,710 (24,950บาท)

แนวต้าน 1,763 (25,720บาท) 1,772(25,850บาท) 1,780 (25,960บาท)

SILVER FUTURES (SVV12)

แนวรับ 32.65 (1,004บาท) 32.30 (993บาท) 31.85 (980บาท)

แนวต้าน 33.50 (1,030บาท) 33.85 (1,041บาท) 34.20 (1,052บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 1.07% รีบาวน์ตามภูมิภาคหลังปัจจัยนอกปท.เอื้อ/กนง.ลดดอกเบี้ยหนุน

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 17 ตุลาคม 2555 17:44:26 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,301.28 จุด เพิ่มขึ้น 13.79 จุด(+1.07%) มูลค่าการซื้อขาย 38,029.30 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,301.50 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,290.30 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 346 หลักทรัพย์ ลดลง 211 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 161 หลักทรัพย์

 

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวน์ขึ้นหลังพักตัวไปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่รีบาวน์ขึ้น หลังจากมีความคาดหวังว่าสเปนจะขอเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงิน และกรีซก็จะได้รับความช่วยเหลือต่อเนื่อง แต่จริง ๆ ตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้น ด้านสหรัฐฯก็มีการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ในช่วงหลังออกมาดีขึ้น

 

อย่างไรก็ดีตลาดฯยังคงรอปัจจัยใหม่เข้ามา และตลาดฯยังมีความคาดหวังกับการประชุมอียูในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะความคืบหน้าของสเปน และกรีซ นอกจากนี้ยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละประเทศด้วย

 

สำหรับการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.เป็นผลวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เต็ม ๆ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเช่าซื้อ และกลุ่มยานยนต์ด้วย

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(18 ต.ค.)นายสมชาย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบหากยังไม่ผ่านแนว 1,302 จุด ดังนั้น นักลงทุนสามารถที่จะซื้อได้เมื่อราคาอ่อนตัวลง พร้อมให้แนวรับ 1,295-1,290 จุด แนวต้าน 1,302-1,315 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,846.06 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,725.32 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,158.10 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,142.77 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,088.74 ล้านบาท ปิดที่ 314.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย R/P 0.25%

ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 17:08น.

 

กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.75% มีผลทันที รับมือเศรษฐกิจโลก

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ว่า ที่ประชุม มีมติ 5 : 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2.75 โดยให้มีผลทันที หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ภาวะความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ เศรษฐกิจโลก ยังอ่อนแอ และมีความเสี่ยงสูง จึงควรใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก และรักษาแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ ที่อาจจะอ่อนแอลงในระยะต่อไป ในขณะที่ กรรมการ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากเห็นว่า แรงส่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจ อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรอดูความชัดเจนในระยะต่อไปได้ และยืนยันว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลง

 

กนง. มองเศรษฐกิจปีหน้าชะลอ โตได้4.6%

ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 18:11น.

 

"ณรงค์ชัย" เผย กนง.มองเศรษฐกิจปีหน้าชะลอตัว คาด GDP ปี 56 โต 4.6% ขณะที่ส่งออกปี 55 โตเต็มที่ 5%

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 2.75 ต่อปี เนื่องจากคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้า มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.7 แต่ล่าสุดประเมินว่า จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 4.6 เท่านั้น และเป็นการส่งสัญญาณให้ภาคตลาดทราบว่า ทาง กนง.ต้องการผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน เพื่อกระตุ้นการลงทุน และไม่ให้เศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดการณ์

อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้นั้น ไม่ได้มาจากความกังวลในเรื่องแรงกดดันของเงินเฟ้อ ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ ยังคงตั้งเป้าไว้ที่เดิม ว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 5.7 แต่ภาคการส่งออกในปีนี้เชื่อว่า จะขยายตัวอย่างไม่เป็นที่คาดการณ์ไว้ของหลายฝ่าย แม้ทาง กระทรวงพาณิชย์ จะมองอย่างไร ก็เชื่อว่า การส่งออกของประเทศไทยในปีนี้ จะขยายตัวแค่ร้อยละ 5 เท่านั้น

 

 

ธปท. เชื่อ จีดีพี ปีนี้ โต 5.7%

ข่าวเศรษฐกิจ วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 17:59น.

 

ธปท. เชื่อ จีดีพี ปี 55 ขยายตัวได้ 5.7% ขณะที่ ปี 56 อาจลดลง มองเศรษฐกิจโลกยังเสี่ยง กระทบส่งออก

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ (GDP) ในปีนี้ จะยังสามารถขยายตัวได้ ร้อยละ 5.7 ส่วน GDP ในปีหน้า อาจปรับตัวลดลง จากที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เดิม เนื่องจาก เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูง จากมาตรการผ่อนคลายทางการคลังของสหรัฐฯ ที่ใกล้หมดอายุ และการแก้ไขวิกฤติหนี้ ของกลุ่มสหภาพยุโรป ที่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยเศรษฐกิจโลก อาจส่งผลต่อการส่งออกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ทำให้กำลังการผลิตเพื่อการส่งออกลดลง และเห็นว่าจะส่งผลไปถึงการส่งออกปีหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณและสวัสดีค่ะ คุณเด็กขายของ คุณเกี้ยมอี๋ คุณArthas คุณpasaya คุณพลอยสีสวย และทุก ๆ ท่าน :01 :01 :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

[quote name=(^_^).เฟิร์ส.(^_^)' timestamp='1350467516' post='359088]

สวัสดีคะ ท่านเด็กขายของ แบบนี้เราต้องเปลี่ยนด่าน เป็น 1746 หรือเปล่าคะ

 

:17 :17 :17 :17

เดาว่า ไม่จำเป็นหรอกครับ ! ค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงมาเรื่อยๆ นักปั่นทองสหรัฐฯ คงไม่ยอมให้ใครซื้อของได้ราคาพิเศษ และจากรายงานหัวค่ำ ก็ยังดูดีอยู่

 

MBA Mortgage Applications (WoW)

Actual -4.2%

Forecast

Previous -1.2%

Mortgage Bankers Association (MBA) Mortgage Applications measures the change in the number of new applications for mortgages backed by the MBA during the reported week.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามค่ำค่า พักเลียแผลไป ตอนนี้ค่อยมาวี๊ดว๊ายกระตู็ฮู้ใหม่ :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามค่ำค่า พักเลียแผลไป ตอนนี้ค่อยมาวี๊ดว๊ายกระตู็ฮู้ใหม่ :uu

 

เจ้มาแระ.

 

1.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...