ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

On Sunday, the House of Representatives will meet in a previously-unscheduled session. “It is not yet clear what sort of action the House will take, but we can reasonably assume that a Republican-sponsored plan to avert the fiscal cliff will be put to a vote”, wrote UBS analyst Gareth Berry, pointing that the Dec 31 meeting could continue until Jan 2. การประชุมอาจมีลากยาวไปถึงปีหน้า

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อยูโรเริ่มอ่อนค่า จังหวะที่ทองจะขึ้นย่อมมี ในตอนนี้

 

 

Italy 10-y Bond Auction increase to 4.48% vs 4.45%

Fri, Dec 28 2012, 10:25 GMT | FXstreet.com

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอ ให้ ปีหน้า ทุกท่าน มีสุขภาพแข็งแรง และ มีโชคมีลาภ ทุกท่าน นะครับ กำไรกันทุกคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณป๋า คุณarthas และทุกท่านมากๆนะคะ :01

 

HAPPY NEW YEAR 2013 ขอให้ทุกท่านมีความสุข สมปรารถนานะคะ

ให้ มีแต่ความเฮงๆๆ รวยๆๆ ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:031 เจตนาเพียงแค่เรากดเข้ากระทู้ ทิศทางทอง--ตอน thaigold2 เพื่อดูคำอวยพรที่ส่งให้ อ.ทองใหม่เมื่อเช้า..แต่กลับเจอข้อความนี้ส่งมาทาง PM เมื่อซักครู่..พี่พ้องน้องเพื่อน..มีความเห็นว่าอย่างไรกับข้อความนี้คะ.. :01

image-21C4_50DD79E1.jpg

เพสตืไว้แต่เช้า คงไม้นึกเพิ่งอ่าน ตะกี้นี้หรอกนะ ฉันรังเกียจเธอไง

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ ป๋า ซ้อ อัยยา เจ้ กัปตัน นุ่น น้ำใส น้ำหวาน ลักษณ์ arthas และคนที่ไม่ได้เอยนาม HAPPY NEW YEAR 2013 ขอให้ทุกท่านมีความสุข

ถูกแก้ไข โดย metha

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ ป๋า ซ้อ อัยยา เจ้า กัปตัน นุ่น น้ำใส น้ำหวาน ลักษณ์ arthas และคนที่ไม่ได้เอยนาม HAPPY NEW YEAR 2013 ขอให้ทุกท่านมีความสุข

 

สวัสดีปีใหม่ อาเม ขอให้มีความสุขเหมือนกันน๊า :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานสถานการณ์ล่าสุดในตอนนี้ ก็มีแต่หมายกำหนดการของ วิปรัฐบาล และ วิปฝ่ายค้าน จะพบปะคุยต่อรองกัน ในเวลาตี 3 เวลาไทย ซึ่งต่างฝ่ายก็ยังไม่มีการต่อรองอย่างเป็นส่วนตัวเลย ข้อตกลงต่างๆ ก็ยังทางใครทางมัน เพื่ออะไรก็ไม่รู้ ? นักลงทุนฯ ก็เริ่มมองเห็นถึงความเสี่ยงที่จะมีการเก็บภาษีเพิ่มบ้างแล้ว จากรายงานความเขื่อมั่นของอเมริกันชนที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าลืมนะครับว่า ไม่ได้มีแค่ หน้าผาการคลัง ( การปรับเพิ่มภาษี และ ลดลงของเงินสวัสดิการ รวมทั้งงบประมาณรายจ่าย ) แต่ลามไปถึง เพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่วิปฝ่ายค้านฯ คงไม่ยอมตกลงกับโอบามา ง่ายๆ

 

The session will begin on Sunday Dec. 30 at 1830 EST (but FX markets in Asia will have already been open for over 5 hours by then). It is not yet clear what sort of action the House will take, but we can reasonably assume that a Republican-sponsored plan to avert the fiscal cliff will be put to a vote.

 

Cantor did not seem especially optimistic about meeting the Dec. 31 cliff deadline however, adding that this special session could continue until Jan. 2. Elsewhere, US President Obama has cut short his holiday and is due to host a White House meeting at 1500EST on Friday with Democratic and Republican leaders. Meanwhile the USDJPY continues to grind higher mostly indifferent (so far) to the US political calendar. The pair traded up to a new 28-month high of 86.64 overnight.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลิปเปอร์เผยกองทุน ETF หุ้นดึงดูดเม็ดเงินลงทุนสูงในสัปดาห์ล่าสุด

 

 

 

 

บริษัทลิปเปอร์ในเครือธอมสัน รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ว่า นักลงทุน ในสหรัฐเลือกที่จะลงทุนในกองทุน ETF หุ้น และกองทุนรวมสำหรับหุ้นในตลาดเกิดใหม่ ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันพุธที่ 26 ธ.ค.

 

 

ทั้งนี้ ลิปเปอร์จัดทำรายงานรายสัปดาห์โดยรวบรวมข้อมูลมาจากกองทุน ETF และกองทุนรวมที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ โดยตัวเลขของ ETF มักสะท้อนพฤติกรรม การลงทุนของนักลงทุนสถาบัน ในขณะที่ตัวเลขของกองทุนรวมมักสะท้อนพฤติกรรมการ ลงทุนของนักลงทุนรายย่อย

 

 

ลิปเปอร์ระบุว่าในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ธ.ค. ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้าย สำหรับการรายงานตัวเลขนี้ในปีนี้ นักลงทุนนำเงิน 2.53 พันล้านดอลลาร์เข้ามาลงทุน ในกองทุน ETF หุ้นซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ แต่สูงกว่าเงินลงทุนที่ไหล เข้าสู่กองทุนรวมหุ้น ซึ่งดึงดูดเงินลงทุนได้เพียง 508 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด

 

 

ถึงแม้กองทุนรวมหุ้นดึงดูดเงินไหลเข้าได้เพียง 508 ล้านดอลลาร์ การไหล เข้าในครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกหลังจากกองทุนรวมหุ้นมีเงินไหลออกติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงเงินไหลออก 6.43 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ธ.ค.

 

 

กองทุนรวมที่ถือครองหุ้นนอกสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นในตลาดเกิดใหม่ดึงดูด เงินไหลเข้าได้ 1.26 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ธ.ค. และปริมาณ เงินดังกล่าวช่วยบดบังเงินไหลออก 751 ล้านดอลลาร์จากกองทุนรวมที่ถือครองหุ้นสหรัฐ และส่งผลให้กองทุนรวมหุ้นทั้งหมดมียอดเงินไหลเข้าในสัปดาห์ล่าสุด

 

 

กองทุน ETF หุ้นและกองทุนรวมหุ้นมียอดเงินไหลเข้ารวมกัน 3.03 พันล้าน ดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด

 

 

นายแมทธิว เลอมิเยอซ์ นักวิเคราะห์ของลิปเปอร์กล่าวว่า "ตลาดเกิดใหม่ ยังคงเป็นกลุ่มที่ดึงดูดเงินไหลเข้าได้อย่างแข็งแกร่งไม่ว่าตลาดจะเป็นเช่นใด"

 

 

กองทุนตราสารหนี้ดึงดูดเงินไหลเข้าได้ 936.3 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด หลังจากมีเงินไหลออก 1.6 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ธ.ค. โดย กองทุนรวมตราสารหนี้ดึงดูดเงินไหลเข้าได้ 1.81 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด และ ตัวเลขนี้ช่วยบดบังยอดเงิน 872.2 ล้านดอลลาร์ที่ไหลออกจากกองทุน ETF ตราสารหนี้

 

 

หากนับตลอดทั้งปี 2012 กองทุนตราสารหนี้ก็ดึงดูดเงินไหลเข้าได้มากกว่า กองทุนหุ้น โดยกองทุนตราสารหนี้ที่ต้องเสียภาษีดึงดูดเงินไหลเข้าได้ 2.973 แสนล้าน ดอลลาร์ในปี 2012 ซึ่งครอบคลุมปริมาณเงิน 2.558 แสนล้านดอลลาร์ที่ไหลเข้าสู่กองทุน รวมตราสารหนี้ และ 4.145 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ตราสารหนี้ในปี 2012

 

 

กองทุนหุ้นดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิได้เพียง 1.356 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2012 ถึงแม้ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น 13% ในปีนี้ ทั้งนี้ กองทุน ETF หุ้น ดึงดูดเงินไหลเข้าได้ 1.009 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2012 แต่กองทุนรวมหุ้นมียอดเงินไหล ออก 8.731 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2012

 

 

กองทุน DoubleLine Total Return Bond Fund มียอดเงินไหลเข้า 268.8 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ธ.ค. ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดา กองทุนตราสารหนี้

 

 

กองทุนตราสารหนี้เกรดน่าลงทุนคุณภาพสูงได้รับความนิยมในสัปดาห์ล่าสุด โดยดึงดูดเงินไหลเข้าได้ 712.5 ล้านดอลลาร์ แต่กองทุนตราสารหนี้ที่ให้อัตราผล ตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงสูงมีเงินไหลออก 354.9 ล้านดอลลาร์

 

 

กองทุนตลาดเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำมีเงินไหลเข้า 1.82 หมื่นล้าน ดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด หลังจากมีเงินไหลออก 9 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 ธ.ค.

 

 

นายเลอมิเยอซ์กล่าวว่า กองทุนตราสารหนี้เกรดน่าลงทุน "ยังคงเป็นตัวเลือก ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากที่สุดในช่วงที่ตลาดมีความวิตกกังวล"

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตร.มีนบุรีรวบโจรวิ่งราวทองในห้างดังได้ทันควัน

 

 

 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ อินทรพงษ์ รอง ผกก.ป.สน.มีนบุรี ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายธงชัย จันทร์กำเนิด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.10 ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยรามคำแหง 194 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี กทม.

 

พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกปฎิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเมืองมีนว่า มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำ ภายในร้านทองออโรล่า สาขาห้างบิ๊กซีร่มเกล้า ถ.ร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าสกัดจับตามแผนเผชิญเหตุ จนพบผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีมาทางปากซอยรามคำแหง 194 จึงเข้าทำการจับกุมได้พร้อมของกลาง และสังเกตว่าผู้ต้องหานั้นได้มีการสวมใส่รองเท้าวิ่งไว้ด้วยขณะก่อเหตุ และขณะที่ได้รับแจ้งเหตุจนถึงขั้นตอนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ร้ายได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที เท่านั้น

 

ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ พูลทรัพย์ อายุ 25 ปี พนักงานร้านทองออโรล่า กล่าว่า ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ทำทีเข้ามาขอดูทองคำหนัก 2 บาท ตนจึงได้หยิบทองออกมาวางไว้บนถาดจำนวน 5 เส้น ต่อมาตนได้สังเกตเห็นผู้ต้องหามีที่พิรุธ เพราะระหว่างที่เลือกทองอยู่นั้นผู้ต้องหาได้หันไปมองด้านหลังอยู่ตลอดเวลา ตนจึงพยายามทยอยเก็บทองเข้าตู้โชว์ตามเดิม แต่ระหว่างที่ตนหันหลังเก็บทองเข้าตู้อยู่นั้น ผู้ต้องหาได้ปืนตู้กระจกพร้อมเอื้อมมือเข้ามาหยิบทองที่แขวนไว้ในตู้โชว์ ตนจึงได้คว้าขอมือคนร้ายเอาไว้ แต่คนร้ายก็สะบัดหลุดพร้อมวิ่งหลบหนีออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐดิ้นเฮือกสุดท้ายเจรจาหาทางออกหน้าผาการคลัง

 

 

ผู้นำสหรัฐและสมาชิกสภาคองเกรสจะเจรจากันรอบสุดท้ายเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลัง

ก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีและตัดลดรายจ่ายจะเริ่มบังคับใช้วันปีใหม่ท่ามกลางความวิตกว่าจะหลีก

เลี่ยงวิกฤติครั้งนี้ไม่ได้แล้ว

 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่รีบกลับจากฉลองคริสต์มาสที่ฮาวายถึงกรุงวอชิงตันเมื่อวาน

มีกำหนดเจรจากับแกนนำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในสภาคองเกรส ที่ทำเนียบขาวช่วง

บ่าย 3 โมงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือ ตี 3 พรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงที่จะ

หลีกเลี่ยงมาตรการขึ้นภาษีและการตัดลดรายจ่ายพร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค.นี้ ที่จะทำให้เงิน

กว่า 6 แสนล้านดอลลาร์หายไปจากระบบเศรษฐกิจ

 

แต่นายแฮร์รี รีด ประธานวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวานยอมรับ

ว่า สหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะหน้าผาการคลัง พร้อมกับกล่าวโทษว่านายจอห์น เบอห์เนอร์ ประธาน

สภาผู้แทนราษฎร ไม่ยอมเรียกส.ส.ที่แยกย้ายกันกลับบ้านหลังสภาปิดสมัยประชุม กลับมาทำงาน

เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แต่ล่าสุดมีรายงานว่าเบอห์เนอร์เรียกส.ส.เข้าประชุมวันอาทิตย์นี้จนถึง

วันอังคารหน้า ก่อนถึงวันเปิดสมัยประชุมของสภาชุดใหม่ 3 ม.ค.

 

ขณะนี้สองพรรคยังขัดแย้งกันในเรื่องมาตรการลดภาษีสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช

หมดอายุสิ้นปีนี้ที่จะทำให้ต้องขึ้นภาษีสู่ระดับปกติคิดเป็นเงิน 536,000 ล้านดอลลาร์ โดยเดโมแครต

อยากให้ขึ้นภาษีกับคนรวยที่มีรายได้ 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป แต่พรรครีพับกันอยากให้ขึ้นภาษีกับ

คนที่มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป นอกจากนี้ในส่วนมาตรการตัดลดรายจ่ายกระทรวงกลาโหม

และอีกหลายกระทรวงรวม 1 แสนล้านดอลลาร์ สองพรรคถกเถียงกันในประเด็นการตัดลดสวัสดิการ

ต่างๆ

 

มาตรการขึ้นภาษีและการลดรายจ่ายเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่จะพยายามลดยอดขาด

ดุลงบประมาณมหาศาล และหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงวิกฤติการคลังครั้งนี้ ก็อาจทำให้เศรษฐกิจ

สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พายุหิมะถล่มสหรัฐตาย 16

 

 

พายุหิมะพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ทำให้มีหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์

ในบางพื้นที่และมีพายุทอร์นาโดด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 รายแล้วและการคมนาคมในช่วง

หลังเทศกาลคริสต์มาสหยุดชะงัก

 

หลายรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเผชิญหิมะและฝนตกหนักและลมกระโชกแรง

ตั้งแต่คืนวันพุธถึงวันพฤหัสบดี โดยบางแห่งในรัฐแมสซาชูเสตต์มีหิมะตกวัดได้ 30 ซม. และ

เมืองลิตเติลร็อค ในรัฐอาคันซอส์ กลับมีหิมะตกหนักวัดได้ 23 ซม.มากที่สุดในรอบ 86 ปีของ

เมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีหิมะตกในรัฐเมน เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชียร์ และเพนซิลเวเนีย รวมถึง

พื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศแคนาดาด้วย และยังมีรายงานเกิดพายุทอร์นาโดมากถึง 34

ลูกในหลายรัฐของสหรัฐ เช่น เท็กซัส หลุยเซียนา อลาบามา และมิสซิสซิปปี้ ทำให้บ้านเรือนได้รับ

ความเสียหาย

 

พายุหิมะยังทำให้มีผู้เสียชีวิตในหลายรัฐรวม 16 รายแล้ว โดยบางคนเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้

หักโค่นลงมาทับหรืออุบัติเหตุบนถนนลื่น และประชาชนหลายแสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะ

ที่นครนิวยอร์ก นายกเทศมนตรีได้เรียกร้องให้ประชาชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้นานสองเดือนเนื่องจาก

พายุแซนดี้ อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงในช่วงอากาศหนาวจัดขณะนี้ นอกจากนี้พายุยังส่งผลให้

เที่ยวบินกว่า 3,000 เที่ยวในหลายพื้นที่ถูกยกเลิกนับตั้งแต่วันคริสต์มาสเป็นต้นมา

 

รัฐมิสซิสซิปปี้และอลาบามาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว และรัฐอินเดียน่าต้องใช้รถเกือบ 600

คนออกกวาดหิมะตามถนนสายต่างๆ และแนะนำให้ประชาชนพยายามอยู่แต่ในบ้านเพื่อความ

ปลอดภัย

 

ขณะที่พยากรณ์อากาศคาดว่า พายุฤดูหนาวระลอกใหม่จะพัดปกคลุมแถบนิวอิงแลนด์ และ

โอไฮโอในช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ทีจะทำให้มีหิมะตกหนักมากขึ้น

 

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=664305&lang=T&cat=&key=

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเดินหน้าปรับโครงสร้างภาษีใหม่ในปีหน้า

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2555 14:57น.

 

จีน ตั้งเป้ามีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 8% พร้อมเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างทางภาษีใหม่ในปีหน้า

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สำนักบริหารภาษีอากรแห่งชาติของจีน (SAT) กำหนดเป้าหมายการขยายตัวรายได้จากภาษี ในปี 2013 ไว้ที่ 8% ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของปีนี้เล็กน้อย เพราะ 11 เดือนที่ผ่านมา ของปีนี้ จีนมีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 9.8% หรือคิดเป็น 9.36 ล้านล้านหยวน

พร้อมกันนี้ จีนจะเดินหน้าปฏิรูปโครงส้รางทางภาษีใหม่ ด้วยการผลักดันโครงการนำร่องทดแทนภาษีธุรกิจด้วย

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และขยายขอบเขตของโครงการนำร่องในปีหน้าด้วย

 

นอกจากนี้ จะมีการพิจารณา และใช้นโยบายภาษีอื่นๆ ที่ช่วยหนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ การ

บริโภคในประเทศ รวมถึง พัฒนาและใช้นโยบายภาษีที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเกิดใหม่ด้วย

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=425121

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 28 ธันวาคม 2555 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2555 17:12:56 น.

กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 28 ธันวาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,660.45 — 1,665.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG13 อยู่ที่ 24,310 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,320 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG13 อยู่ที่ 929 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 923 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.05 น.ของวันที่ 28/12/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 2 มกราคม 2556

ธนาคารกลางจีนยืนยันจะรักษาเสถียรภาพทางการเงินและป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในระบบและในภูมิภาค โดยใช้นโยบายการเงินอย่างรอบคอบและมีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม นอกจากนี้จะปรับนโยบายเพื่อหวังผลในระยะยาวและตรงจุดมากขึ้นในปี 2556 หลังจากก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ย รวมทั้งปรับลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การที่รัฐบาลจีนให้คำมั่นสัญญาดังกล่าวได้สร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ส่งผลเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ ซึ่งจีนเป็นผู้บริโภคทองคำอับดับต้นของโลก ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่สดใสมากนัก อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ความกังวลภาวะ fiscal cliff และ เพดานหนี้สาธารณะสหรัฐ ยังคงสร้างความผันผวนในตลาดทองคำ แต่อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ประกาศใช้มาตรการ QE4 โดยระบุว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรอบใหม่ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ไปจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 6.5% ยังเป็นปัจจัยบวกสำหรับทิศทางราคาทองคำในระยะยาว โดยการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมามีการดีดตัวขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อนที่ปรับตัวลงอย่างหนักแต่กลับไม่มีแรงดีดตัวขึ้นเลย ทำให้วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานของราคาทำให้เห็นแรงดีดของราคาขึ้นมาได้ ซึ่งนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงยังคงแนะนำให้ทยอยเข้าลงทุนบางส่วนหลังจากช่วงวันหยุดของเทศกาลปีใหม่และควรตั้งจุดทำกำไรและตัดขาดทุนให้ชัดเจนเพื่อควบคุมความเสี่ยงในการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,678 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ราคาอาจอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง แต่หากสามารถยืนเหนือแนวต้านได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,685 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากราคาหลุดแนวรับที่บริเวณ 1,644 หรือ 1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงว่าราคาทองคำอาจจะมีการปรับฐานต่อ โดยราคาอาจปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,644 (23,810บาท) 1,635 (23,680บาท) 1,620 (23,460บาท)

แนวต้าน 1,678 (24,310บาท) 1,685 (24,410บาท) 1,698 (24,600บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG13)

แนวรับ 1,644 (24,080บาท) 1,635 (23,940บาท) 1,620 (23,730บาท)

แนวต้าน 1,678 (24,570บาท) 1,685 (24,670บาท) 1,698 (24,860บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG13)

แนวรับ 29.55 (913บาท) 29.20 (902บาท) 28.75 (888บาท)

แนวต้าน 30.55 (943บาท) 30.90 (954บาท) 31.35 (968บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 30.64/66 ยังทรงตัวต่อเนื่อง นลท.จับตาการแก้ปัญหา fiscal cliff

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม 2555 17:31:58 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.64/66 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกันกับช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.64-30.66 บาท/ดอลลาร์

 

“ค่าเงินบาททรงตัว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็มีแรงซื้อดอลลาร์ในตลาดช่วงใกล้สิ้นเดือน แต่ก็มีแรงดึงกันอยู่ในตลาดทำให้บาททรงตัว" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมของสหรัฐฯ เรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลัง(fiscal cliff) ซึ่งก็ได้มีการคาดการณ์กันว่า การหารือดังกล่าวจะเสร็จไม่ทันสิ้นเดือนนี้ และจะยังคงยืดเยื้อไปถึงต้นปี 56

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 85.73/76 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 85.71/76 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3268/3270 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3230/3232 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...