ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

 

ความได้เปรียบน่าจะเกิดจาก รอขึ้นมาที่ื $1456 แล้วแทง Short มากกว่าที่จะไปแทง Short ในตอนนี้ มั่งครับ แค่บ่นนะ

:)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวข้อสอบภาค ก (กพ.) 700 ข้อ เอาไว้ฝึกทำ ถ้าทำชุดนี้ได้ก็สอบได้

http://www.testthai1.com/read.php?tid=357

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเที่ยงค่ะทุกคน

โชคดีกันถ้วนหน้านะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดา ยามบ่ายกล่าวว่า ..................................... เกรงใจ แต่ให้แนวทางเดียว คือ ลดลง แต่เพื่อความปลอดภัย ตั้ง Stop Loss

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับคุณป๋า ไม่ทราบว่าวันนี้คุณป๋ามีแนวทางการเล่นอย่างไรบ้างครับ

 

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 29.35/37 แข็งค่าจากช่วงเช้า จากแรงขายดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 17:48:11 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้ที่ระดับ 29.35/37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.59/61 บาท/ดอลลาร์

 

"ปิดตลาดวันนี้เงินบาทแข็งค่าลงมาจากแรงขายดอลลาร์ของ Offshore มีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ ไม่มีข่าวอะไรมากดดัน"นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 29.25-29.45 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

*ปัจจัยสำคัญ

- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.90/93 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 99.02/04 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3143/3144 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3086/3088 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,614.15 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด, +0.81% มูลค่าการซื้อขาย 56,711.32 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 528.51 ลบ.(SET+MAI)

- นายกรัฐมนตรี เรียกคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ หารือความชัดเจนของมาตรการแก้ปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทและแนวทางการช่วยบรรเทาผลกระทบภาคส่งออก

 

- พาณิชย์ เผย 4 เดือนแรก ธุรกิจส่งออก จดทะเบียนเลิกกิจการแล้ว 127 ราย เหตุขาดทุนหนัก จี้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย หรือหามาตรการแก้ปัญหาที่ชัดเจน

 

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่าสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นในอัตรา 3.4% ต่อปี ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอัตรา 8% ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอลง

 

- รัฐสภาอิตาลีอนุมัติแผนเศรษฐกิจประจำปี 2556 โดยวางกรอบนโนบายที่ส่งเสริมการขยายตัวและมาตรการต่างๆในการฟื้นเศรษฐกิจที่ชะงักงันของอิตาลี ซึ่งแผนเศรษฐกิจและการเงินของอิตาลีกำหนดให้รัฐบาลดำเนินการปฏิรูปที่สอดคล้องตามพันธสัญญากับสหภาพยุโรป (อียู)

 

- นักวิเคราะห์คาดการส่งออกของจีนจะชะลออัตราการขยายตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อมาตรการควบคุมกระแสการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อเก็งกำไร ซึ่งทางการได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ เริ่มก่อให้เกิดผลที่ชัดเจน

 

- สถาบันการเงินแห่งเกาหลีใต้ (KIF) คาดว่า งบประมาณพิเศษของเกาหลีใต้จะช่วยเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2556 ได้อีก 0.11% พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผลบวกดังกล่าวอาจประเมินได้ในปี 2557

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 8 พฤษภาคม 2556 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 16:51:37 น.

กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,448.28—1,458.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,410 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 230 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,640 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 695 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 6 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 701 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น.ของวันที่ 08/05/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 9 พฤษภาคม 2556

สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่ามูลค่าการค้าต่างประเทศเดือนเมษายนของจีนขยายตัว 15.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าเดือนมีนาคมที่ระดับ 12.1% มูลค่าการนำเข้าและส่งออกโดยรวมในเดือนเมษายนอยู่ที่ 3.5596 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้รายงานของสำนักงานศุลกากร ระบุว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าต่างประเทศขยายตัวทั้งสิ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 8.36 ล้านล้านหยวน ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนเป็นแรงหนุนในตลาดทองคำ เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆของโลก ประกอบกับ ราคาทองคำได้ปัจจัยบวกจากยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นเกินคาด และความต้องการพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสที่อยู่ในระดับสูงในการประมูล แต่อย่างไรแล้วตลาดทองคำแทบไม่มีความเชื่อมั่นที่จะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเงินลงทุนยังคงหลั่งไหลออกจากกองทุน ETF ทองคำ ซึ่งกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำใหญ่ที่สุดในโลกได้ปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาณดังกล่าวแสดงถึงแรงซื้อที่ชะลอตัวลง ขณะที่นายจอห์น พอลสันมหาเศรษฐีชื่อดัง ในธุรกิจเฮดจ์ฟันด์มียอดขาดทุนอย่างมากในกองทุนทองคำเดือนเมษายน โดยกองทุนทองคำของนายจอห์น พอลสันมียอดสูญเสีย 27 % ในเดือนเมษายน และส่งผลให้ยอดสูญเสียของกองทุนนี้อยู่ที่ 47 % นับตั้งแต่ต้นปีนี้ยังคงสร้างมุมมองเชิงลบต่อภาพรวมในตลาดทองคำเบื้องต้นทางวายแอลจีประเมินแนวรับบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้จะเกิดแรงดีดตัวขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,472-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนได้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะอ่อนลงสู่แนวรับถัดไปบริเวณถัดไปที่บริเวณ 1,427 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,472-1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมาเพื่อสร้างฐานของราคา โดยประเมินแนวรับที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวหากราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,427 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดดีดตัว

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,440 (20,000บาท) 1,427 (19,820บาท) 1,417 (19,680บาท)

แนวต้าน 1,472 (20,450บาท) 1,480 (20,560บาท) 1,494 (20,760บาท)

GOLD FUTURES (GFM13)

แนวรับ 1,440 (20,190บาท) 1,427 (20,010บาท) 1,417 (19,870บาท)

แนวต้าน 1,472 (20,640บาท) 1,480 (20,750บาท) 1,494 (20,950บาท)

SILVER FUTURES (SVM13)

แนวรับ 23.45 (685บาท) 23.10 (674บาท) 22.85 (667บาท)

แนวต้าน 24.20 (707บาท) 24.45 (714บาท) 24.90 (727บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะตลาด Gold Future และ SET50 Future By GT Wealth Management 8 พ.ค. 56 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 17:31:54 น.

กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบ US$1,450-60 ต่อออนซ์ หลังจากคืนวานนี้ปรับตัวลงกว่า 1% โดยปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำมาจากการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างสหรัฐฯและยุโรป สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดความน่าดึงดูดของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ อีกทั้งการปรับลดหน่วยลงทุนของกองทุน ETF ทองคำ และการลดการถือครองทองคำของกองทุน SPDR ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุน SPDR รายงานการขายทองคำอีก 4.51 ตัน มาถือครองที่ระดับ 1,057.79 ตัน ราคาทองคำดูเหมือนจะไม่สะท้อนปัจจัยบวกจากการดำเนินมาตรการผ่อนคลายพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งจากสหรัฐฯและยุโรปเท่าใดนัก ทางด้านเกาหลีใต้ได้อนุมัติวงเงิน 5.33 ล้านวอน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ที่ 2.75% ค่าเงินบาทแข็งค่าใกล้ 29.35 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อแทรกแทรงการแข็งค่าของค่าเงินบาทไทย

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13) ปิดที่ระดับ 20,310 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,644สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 ขนาด 10 บาท (GF10M13) ปิดที่ระดับ 20,310 บาท ปริมาณการซื้อขาย 4,033 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน (S50M13) ปิดที่ระดับ 1,075.50 จุด ปริมาณการซื้อขาย 17,504สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ากองทุนขนาดใหญ่ยังคงขายอย่างต่อเนื่อง อย่าง SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ถือครองทองคำสูงสุดในโลกระบายทองคำในช่วงปีนี้กว่า 20% สะท้อนมุมมองของผู้ถือหน่วยลงทุน อีกทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโลก สะท้อนจากการปรับขึ้นทำจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นหลักอย่างสหรัฐฯและยุโรป ซึ่งเป็นแรงกดดันความน่าดึงดูดของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ขณะที่การซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเชื่อว่าจะชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ค่าเงินบาทเริ่มกลับแข็งค่าอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะยังผันผวนในกรอบกว้าง ๆ เนื่องจากมาตรการดูแลค่าเงินยังไม่ชัดเจน

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MBA Mortgage Applications (WoW)

 

Actual:7.0%

Forecast:

Previous:1.8%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Mortgage Bankers Association (Release URL)

OverviewChartHistory

Mortgage Bankers Association (MBA) Mortgage Applications measures the change in the number of new applications for mortgages backed by the MBA during the reported week.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Resistance: 1454.71 strong/1468.21 moderate/1484.07 minor

Support: 1438.85 moderate/1425.35 minor/1409.49 minor. แนวรับแนวต้านน่าจะใช้อันนี้ โดยมีจุดรับที่ 1438

 

Supports: 1442, 1425

Resistances: 1458, 1470, 1490

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โพลล์รอยเตอร์คาดธนาคารจีนชะลอการปล่อยกู้ในเดือนเม.ย.

 

 

จีนจะเปิดเผยตัวเลขการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ประจำเดือน เม.ย.ในวันที่ 10-15 พ.ค. โดยมีแนวโน้มว่า ธนาคารพาณิชย์จีน อาจปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 8 แสนล้านหยวน (1.23 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนเม.ย. ลดลงจากระดับ 1.06 ล้านล้านหยวนในเดือนมี.ค.

 

 

ในขณะที่รัฐบาลจีนพยายามจำกัดการปล่อยสินเชื่อให้แก่บางภาคเศรษฐกิจ และภาคโรงงานของจีนก็ได้ปรับลดปริมาณการกู้เงินลง เนื่องจากประสบ ปัญหากำลังการผลิตสูงเกินไป

 

 

นักเศรษฐศาสตร์ 27 รายในโพลล์รอยเตอร์คาดวา ปริมาณเงิน M2 ของจีนอาจมีอัตราการขยายตัว 15.5 % ต่อปีในเดือนเม.ย. โดยชะลอตัวลงเล็กน้อยจากระดับ 15.7 % ในเดือนมี.ค. จีนไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ ในปีนี้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขนี้อาจอยู่ที่ 8.5-9.0 ล้านล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้นจากยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2012 ที่ 8.2 ล้านล้านหยวน โดยมีจุดประสงค์เพื่อหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนให้เติบโตขึ้น 7.5 %

 

 

ในปีนี้ตามที่ทางการจีนตั้งเป้าหมายไว้ ธนาคารกลางจีนตั้งเป้าหมายในการทำให้ปริมาณเงิน M2 เพิ่มขึ้น

13 % ต่อปีในปีนี้ โดยธนาคารกลางจีนใช้จุดยืนในการดำเนินนโยบาย การเงินแบบผ่อนคลายในช่วงที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุน การเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน

 

รัฐบาลจีนได้เปิดเผยมาตรการใหม่ในการลดความร้อนแรงของ ภาคอสังหาริมทรัพย์ และได้ดำเนินขั้นตอนในการจำกัดการปล่อยกู้ แก่รัฐบาลระดับท้องถิ่นที่มีหนี้สินสูงในช่วงที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์ เพื่อสกัดกั้นความเสี่ยงทางการเงิน

 

 

ความต้องการกู้เงินจากธนาคารอาจลดลงในเดือนเม.ย. ขณะที่ ภาคการผลิตของจีนประสบปัญหากำลังการผลิตสูงเกินไป โดยเป็นผล จากอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาดโลก

 

 

นายตงหมิง ซี นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร OCBC กล่าวว่า "การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ และการเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อใน ไตรมาสแรก มีแนวโน้มที่จะจำกัดความต้องการกู้เงิน และการที่เงินฝาก ลดระดับลงอย่างมาก ก็อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของธนาคาร ในการอนุมัติสินเชื่อใหม่ด้วย"

 

 

นายซีกล่าวว่า "เราคิดว่าจุดสนใจมีแนวโน้มที่จะหันเหออกจาก นโยบายเศรษฐกิจมหภาค และมุ่งไปยังนโยบายระดับจุลภาคในการ ดำเนินการปฏิรูปเพื่อแก้ไขปัญหากำลังการผลิตที่สูงเกินไป" ธนาคารพาณิชย์จีนปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.06 ล้านล้านหยวน ในเดือนมี.ค. โดยพุ่งขึ้น 70 % จากเดือนก.พ. ส่วนปริมาณ

การระดมทุนทางสังคมทั้งหมด ซึ่งถือเป็นมาตรวัดสภาพคล่องใน เศรษฐกิจจีนในวงกว้าง ทะยานขึ้นสู่ 2.54 ล้านล้านหยวนใน เดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่า 2 เท่าของระดับในเดือนก.พ.

 

 

เศรษฐกิจจีนเติบโต 7.7 % ต่อปีในไตรมาสแรก โดยชะลอตัว ลงจากระดับ 7.9 % ในไตรมาส 4 ของปี 2012 ซึ่งการชะลอตัว ลงนี้เกิดขึ้นถึงแม้ว่าสินเชื่ออยู่ในภาวะเฟื่องฟู และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า เม็ดเงิน จำนวนมากที่ไหลเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลในการกระตุ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจตามที่ต้องการ แต่อาจทำให้เกิดความเสี่ยง ด้านเงินเฟ้อและความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

 

การปล่อยกู้ทางธนาคารพาณิชย์ยังคงครองส่วนแบ่งใหญ่ใน ระบบการเงินจีน และธนาคารพาณิชย์ก็ปล่อยกู้ตามคำสั่งของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ดี การระดมทุนโดยใช้ช่องทางนอกงบดุลกำลังได้รับความนิยม มากยิ่งขึ้น ในขณะที่จีนปรับลดมาตรการควบคุมลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และดำเนินการปฏิรูปเพื่อเน้นกลไกตลาด ผลการสำรวจคาดว่า สินเชื่อคงค้างของธนาคารจีนมีแนวโน้ม ขยายตัว 14.9 % ในเดือนเม.ย.ปีนี้เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกัน ในปีก่อน

 

 

นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะทำให้นโยบาย การเงินอยู่ในภาวะเป็นกลาง โดยอาจมีการปรับรายละเอียดในนโยบาย เล็กน้อยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับสกัดกั้นความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และความเสี่ยงด้านอสังหาริมทรัพย์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้านสองแตกแล้วป๋า :uu :uu

Resistance: 1454.71 strong/1468.21 moderate/1484.07 minor

Support: 1438.85 moderate/1425.35 minor/1409.49 minor. แนวรับแนวต้านน่าจะใช้อันนี้ โดยมีจุดรับที่ 1438

 

สองทุ่มเองนะ เจ้ฯ ตลาดสหรัฐฯ ยังไม่เปิดเลย มีแต่ชาวสวน (ทางลง) ยุโรปฯ ตอนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...