ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

Europe stocks retreat after rally

3:02a

Germany's DAX 30 index 0.5% lower at 8.440.52

3:01a

France's CAC 40 index opens 0.7% lower at 4,021.50

3:01a

U.K.'s FTSE 100 index opens 0.5% lower at 6,727.05

3:00a

Stoxx Europe 600 index opens down 0.3% at 307.38

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามบ่ายค่ะทุกคน

ป๋าเปลี่ยนรูปโพรไฟล์ไม่คุ้นเลย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 16:50:58 น.

กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--PRDD

สภาวะตลาดวันที่ 29 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,380.75—1,390.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 19,930 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 190 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,740 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 675 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 2 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 677 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.26 น.ของวันที่ 29/05/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 30 พฤษภาคม 2556

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมของสหรัฐแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ราคาบ้านในเดือนมีนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี รายงานดังกล่าวบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้รัฐบาลสหรัฐปรับลดการใช้จ่ายลงก็ตาม ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ได้กดดันราคาทองคำ โดยเมื่อราคาทองคำขยับขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ขณะที่แรงกดดันเพิ่มมากขึ้นเมื่อสกุลเงินยูโรร่วงลง หลังความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ว่าอีซีบี อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่แดนลบ ทั้งนี้สมาชิกหลายท่านของคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงความเห็นว่า อีซีบีควรจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากจำเป็น ขณะที่กองกษาปณ์ของสหรัฐจะกลับมาขายเหรียญทองคำอเมริกันอีเกิลขนาดเล็กอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวของกองกษาปณ์สหรัฐในครั้งนี้ บ่งชี้ว่ากระแสซื้อเหรียญทองคำได้ชะลอตัวลงแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของประเทศไทย(กนง.)มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.75% มาอยู่ที่ 2.50% หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ โดยสกุลเงินบาทอ่อนค่าขึ้นตอบรับมาตราการดังกล่าว สำหรับวันนี้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำตลาดโลกยังมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,398-1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนในประเทศ แนะนำติดตาตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นดันราคาทองคำในประเทศให้ขึ้นด้วย

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,398 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,373 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,373 (19,580บาท) 1,365 (19,470บาท) 1,356 (19,340บาท)

แนวต้าน 1,398 (19,940บาท) 1,408 (20,090บาท) 1,417 (20,210บาท)

GOLD FUTURES (GFM13)

แนวรับ 1,373 (19,760บาท) 1,365 (19,640บาท) 1,356 (19,510บาท)

แนวต้าน 1,398 (20,110บาท) 1,408 (20,260บาท) 1,417 (20,390บาท)

SILVER FUTURES (SVM13)

แนวรับ 21.90 (665บาท) 21.60 (656บาท) 21.15 (642บาท)

แนวต้าน 22.75 (690บาท) 23.10 (701บาท) 23.45 (711บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 16:07:00 น.

29 พ.ค.56 นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เปิดเผยผลการประชุม กนง. ที่มีต่อเนื่อง 2 วันคือวันที่ 28 พ.ค.และวันนี้ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

 

เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจในกลุ่มยูโร ยังคงอ่อนแอ แต่ความเสี่ยงลดลงบ้างเศรษฐกิจจีนและเอเชียขยายตัวต่ำกว่าคาด ส่งผลให้การฟื้นตัวของการส่งออกไทยล่าช้ากว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่น เริ่มได้รับผลทางบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนการส่งออกและการบริโภค ที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ภาวะการเงินโลกยังคงมีความผันผวนสูง ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายทุนเข้าสู่ภูมิภาคและอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

 

 

 

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ของปี 2556 ขยายตัวต่ำกว่าคาดจากอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อแรงส่งของเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ โดยเฉพาะหากมีความล่าช้าในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ด้านแนวโน้มการส่งออกก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจภูมิภาคโดยเฉพาะจีนที่ขยายตัวชะลอลง ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อน้อยลงจากปัจจัยด้านต้นทุน แต่สินเชื่อและหนี้ภาคครัวเรือนยังขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง

 

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงขยายตัว เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐาน ในเกณฑ์ดี แต่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดมาก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินจึงสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ แต่ภายใต้ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินที่ยังมีอยู่ คณะกรรมการฯ จึงมีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.75 เป็นร้อยละ 2.50 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจไทยและความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน รวมทั้งเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายที่เหมาะสมตามสถานการณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 16:29:51 น.

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติในวันนี้ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ถือว่าน้อยเกินไป และช้าเกินไป แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวน่าจะทำให้เงินบาทไม่แข็งค่าขึ้นไปอีกในระยะสั้น แต่ในระยะยาวก็ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งกระทรวงการคลังจะประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เพื่อดูแลในเรื่องนี้

 

 

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวรับแนวต้าน ประจำค่ำคืนนี้

 

แนวรับ : 1384, 1380, 1373, 1367, 1360

แนวต้าน : 1387, 1393, 1399.5, 1406

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดร่วง 17.96 จุด Sell on fact หลัง ธปท. ลด ดบ. - หุ้นทั่วโลกส่อแววพักฐาน

 

 

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,601.61 จุด ลดลง 17.96 จุด(-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 61,256.61 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับตัวลงหลังแบงก์ชาติประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด ทำให้เกิด Sell on fact และพอจบเรื่องกนง.แล้วตลาดฯก็หันไปแกว่งตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีแนวโน้มพักฐาน จากประเด็นมาตรการ QE ที่เป็นตัวหนุนทำให้เกิดการปรับพอร์ต อีกทั้งยังมองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นด้วย ส่วนตลาดภูมิภาควันนี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วตลาดในยุโรปอยู่ในแดนลบยกแผงหลังขึ้นไป 2 วันที่ผ่านมาทำให้เกิดแรงขายทำกำไร พรุ่งนี้ตลาดฯคงยังโดนแรงกดดันจาก Sell on fact พร้อมให้แนวรับ 1,590 แนวต้าน 1,612 จุด

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,601.61 จุด ลดลง 17.96 จุด(-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 61,256.61 ล้านบาท

 

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,624.87 จุด และดัชนีแตะจุดต่ำสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,599.92 จุด

 

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 244 หลักทรัพย์ ลดลง 449 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 133 หลักทรัพย์

 

 

 

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงหลังจากที่แบงก์ชาติได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ทำให้เกิด Sell on fact

 

อีกทั้งเมื่อจบเรื่องของกนง.แล้ว ตลาดฯก็หันไปเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงของการพักฐาน จากประเด็นมาตรการ QE ที่เป็นตัวหนุนทำให้เกิดการปรับพอร์ตเกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้หุ้นมีความผันผวน ในทิศทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไร และจากการที่มองเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้น ก็อาจทำให้มีการปรับพอร์ต และมีการปิด position ในบางส่วนได้

 

 

ดังนั้นจึงมองว่าเมื่อตลาดฯรีบาวน์ขึ้นก็น่าจะเป็นโอกาสที่จะขายทำกำไรออกมา สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเปิดเทรดในช่วงบ่ายต่างก็อยู่ในแดนลบกันยกแผงหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไป 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นแค่การขายทำกำไร

 

"ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะของการขายปรับพอร์ต แต่ก็ต้องใช้เวลา"นายอดิศักดิ์ กล่าว

 

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(30 พ.ค.)นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังโดนแรงกดดันจาก Sell on fact พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด แนวต้าน 1,612 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,644.79 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท ลดลง 0.20 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,337.96 ล้านบาท ปิดที่ 343.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,328.54 ล้านบาท ปิดที่ 92.25 บาท ลดลง 2.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,191.71 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท ลดลง 0.10 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,749.43 ล้านบาท ปิดที่ 281.00 บาท ลดลง 10.00 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเยอรมนีพุ่งเกินคาด 21,000 รายในเดือนพ.ค.

 

 

สำนักงานแรงงานเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 21,000 ราย จากเดือนเม.ย. ซึ่งมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ 6.9%

 

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนนี้ เนื่องจากภาวะตลาดแรงงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ปรับตัวอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปกติแล้ว ฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่ตลาดมีการฟื้นตัว

ทางด้านผู้อำนวยการสำนักงานระบุว่า ตลาดแรงงานเยอรมนียังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ยอมรับว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ตลาดแรงงานปรับตัวย่ำแย่กว่าปีก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

German CPI (MoM)

 

Actual:0.4%

Forecast:0.2%

Previous:-0.5%

Importance: Currency:EURSource Of Report:Federal Statistical Office Germany (Release URL)

OverviewChartHistory

The German Consumer Price Index (CPI) measures the changes in the price of goods and services purchased by consumers.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the EUR, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the EUR.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

German CPI (YoY)

Actual:1.5%

Forecast:1.3%

Previous:1.2%

Importance: Currency:EURSource Of Report:Federal Statistical Office Germany (Release URL)

OverviewChartHistory

The German Consumer Price Index (CPI) measures the changes in the price of goods and services purchased by consumers.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the EUR, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the EUR.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 19:14:57 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 85 จุด หรือ 0.6% แตะที่ 15,288 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ลดลง 0.6% ที่ระดับ 1,644.7 จุด เมื่อเวลา 7.38 น.ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตร

 

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 10.9% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปี ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งสู่ระดับ 76.2 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดอาจชะลอการซื้อพันธบัตร

 

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) นั้น อาจจะมีขึ้นในการประชุมในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า ซึ่งจะขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค การใช้จ่ายของภาคเอกชน และข้อมูลด้านการจ้างงานของสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 30.19/21 อ่อนค่าหลังกนง.ลดดบ. ส่วนทิศทางพรุ่งนี้ขึ้นกับแรงซื้อดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 17:54:46 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.19/21 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.08/10 บาท/ดอลลาร์ ปิดตลาดเย็นนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.50%

 

 

 

ส่วนทิศทางเงินบาทวันพรุ่งนี้ต้องดูว่าจะมีแรงซื้อดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนอยู่หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรีเทลที่ไม่สามารถ book forword ได้ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้า Corporate จะปิด forword ไปหมดแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือน

 

"แรงซื้อดอลลาร์ปลายเดือนอาจจะไม่มาก เพราะลูกค้า Corporate ส่วนใหญ่ปิด forword ไปหมดแล้วตั้งแต่กลางเดือน ดังนั้นแรงซื้อดอลลาร์อาจจะยังไม่มาก แนวต้านที่ 30.25 ต้องดูว่าคืนนี้จะผ่านหรือไม่ ต้องดูราคาทองคำด้วย เพราะช่วงหลังหุ้นของสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างดี เฮดจ์ฟันอาจจะปิด position ทองคำไปถือหุ้นแทน ทองคำอาจโดนเทขาย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บาทอ่อนค่าได้" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทวันพรุ่งนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์

 

ส่วน THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ 30.1910 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดวันนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.12 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2885 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2853 ดอลลาร์/ยูโร

 

- SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,601.61 จุด ลดลง 17.96 จุด(-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 61,256.61 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,544.90 ลบ.(SET)

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติเอกฉันท์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2.75% มาสู่ระดับ 2.50% หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตั้งแต่เดือน ต.ค.55 ทั้งนี้ กนง.จะติดตามข้อมูลพัฒนาการเศรษฐกิจ ความเสี่ยงเสถียรภาพการเงิน และเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด โดยพร้อมจะปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

 

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง มองว่า กนง.ลดดอกเบี้ยน้อยเกินไปและช้าเกินไป แต่เห็นว่ายังดีกว่าไม่ทำอะไร ทั้งนี้เชื่อว่าจากการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ในระยะสั้นเงินบาทไม่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น แต่ในระยะยาวยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งกระทรวงการคลังจะประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อดูแลในเรื่องนี้

 

- นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า ธนาคารจะพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1-2 วันนี้ หลังจากกนง.วันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%

 

- องค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ(OECD) เผยภาวะถดถอยในยุโรปถือเป็นความเสี่ยงที่จะคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนเป็นหดตัว 0.6% จากที่หดตัว 0.5% ในปี 2555 ขณะเดียวกันประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเร็วขึ้นในปี 2557 โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะยังคงแซงหน้าเศรษฐกิจในยูโรโซน

 

- สำนักงานแรงงานเยอรมนี เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนพ.ค.56 เพิ่มขึ้น 21,000 ราย จากเดือนเม.ย.56 ซึ่งมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ 6.9%

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Physical Demand and “Smart Money” Positioning

 

The quick drop last month in gold prices has prompted physical buying in Asia, the Middle East, U.S. and Europe. This has offset the outflow from the gold-backed ETP products which reached 441 tonnes year-to-date, compared to the net inflows in the past two years of 476 tonnes. However, the physical demand has slowed. As of 28 May, the gold premiums have declined to about $3 to $3.50 an ounce in India compared to $10 to $12 earlier in May while the premiums dropped by a half to $3 in the past week in Hong Kong. The U.S. gold coin sales have normalized to about 52koz month-to-date versus 209.5koz in April. The CFTC reported that the managed money accounts have reduced their combined net-long positions in gold to 35,686 contracts for the week ending 21 May, the lowest level since September 2009. However, the producers, processors and merchants in gold, called the “Smart Money”, pushed the net commercial combined positions to -67,821 contracts, the most bullish level since the gold price bottomed in October 2008. This may signal that the gold prices are bottoming.

 

http://www.fxstreet.com/technical/forex-forecasts/gold-and-silver-daily-predictions/2013/05/29/02/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...