ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

บันทึกประชุมบอร์ดบีโอเจชี้ กรรมการเสียงแตกเคาะเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ภายในสองปี ห่วงผลกระทบจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ล่าสุดปรับสูงขึ้นที่ สุดในรอบปี ต่อต้นทุนการระดมเงินและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

บันทึก ประชุมบอร์ดบีโอเจเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ชี้ กรรมการเสียงแตกเคาะเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ภายในสองปี โดยกรรมการบางส่วนมีความเป็นห่วงผลกระทบจากความผันผวนของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ล่าสุดปรับสูงขึ้นที่สุดในรอบปี ต่อต้นทุนการระดมเงิน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่อีกด้านหนึ่ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับสูงขึ้นนี้ ก็อาจสะท้อนว่าตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะขยับสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่บีโอเจต้องการ อย่างไรก็ดี กรรมการยังมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลไกการส่งผ่านนโยบาย เนื่องจากต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ และความเชื่อมั่นของประชาชนเป็นหลัก

 

การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบ แทนพันธบัตร ซึ่งทำให้ราคาปรับลดลงนั้น ส่งผลเสีย ต่อภาคธนาคารพอควร เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในรูปพันธบัตร ต้นทุนดอกเบี้ยที่สูง ขึ้นยังทำให้ต้นทุนการชำระหนี้แพงขึ้น ซึ่งนับเป็นผลเสียต่อญี่ปุ่นเนื่องจากขณะนี้มีปริมาณ หนี้สูงถึง 2 เท่าของจีดีพี

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 เม.ย. บีโอเจ ได้ช็อคตลาดครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อพลิก ฟื้นเศรษฐกิจและฉุดเงินเฟ้อเข้าเป้าที่ 2% ให้ได้ภายในสองปี ส่งผลให้ความผันผวน ในตลาดการเงินสูงขึ้น และต่อมา ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 เม.ย. กรรมการได้โหวตให้ เดินหน้านโยบายต่อ อีกทั้งได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อใหม่ โดยคาดการณ์ว่า จะสามารถทำให้เงินเฟ้อเข้าเป้าได้ในครึ่งหลังของปี 2559 ซึ่งกรรมการสองท่านมองว่า เป็นประมาณการที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ติดอยู่กับภาวะเงินฝืดถึง 15 ปี

 

ทั้ง นี้ ในวันพุธที่จะถึงนี้ บีโอเจจะจัดประชุมกับนักลงทุนในตลาดการเงิน เพื่อทำความเข้าใจ ร่วมกันเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งบีโอเจหวังว่า เมื่อผนวกกับการเดินหน้าเข้าทำ ธุรกรรมในตลาดเงิน จะทำให้ความไม่แน่นอนและความผันผวนต่างๆ ในตลาดบรรเทาลง ได้บ้าง

 

ที่มา : money channel (วันที่ 28 พค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งนักวิเคราะห์ยามบ่ายกล่าวว่า ช่วงเช้าถึงคอนนี้ ราคาทองยังนิ่งแทบไม่ได้ไปไหนไกล รอเพียงตลาดยุโรปและตลาดสหรัฐฯ ที่หยุดยาวไป 3 วัน เริ่มทำงานวันแรก คงได้มีการเคลื่อนไหวให้น่าตื่นตาตื่นใจ ถึงแม้ว่า สัญญานระดับราย H4 จะดูไม่ดีก็ตาม แต่การขยับขึ้นหน้าสามารถเกิดขึ้นได้ในทันใด จากแรงกระตุ้นจากขาใหญ่ อย่างไรก็ตาม คนที่เล่นเกมส์ไวไว Gold Future หรือ Gold Spot ต้องมีจุด Stop Loss เสมอ เผื่อผิดทาง จึงให้แนวทางดังนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*"กิตติรัตน์"เตรียมออกประกาศกระทรวงคลังดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกให้สมดุล

 

 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังเตรียมแก้ไขประกาศกระทรวงฯ โดยอยู่ระหว่างการส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกให้มีความสมดุลเหมาะสม อยู่ในอำนาจที่ รมว.คลังจะสามารถดำเนินการได้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมหากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกก็สามารถดำเนินการได้ทันที จากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีกฎหมายในลักษณะนี้ไว้

"ที่ต้องดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออก เพราะปัจจุบันมีเงินทุนไหลเข้าออกสูงกว่าเมื่อวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 ถึง 3 เท่า ซึ่งขณะนั้นมีเงินทุนไหลเข้า 2 ล้านล้านบาท แต่พอขณะนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้ามามาก สถานการณ์ต่างจากเดิม เพราะยุคนั้นมีสภาพคล่องสูง แต่ขณะนี้การไหลเข้าสูงเกินไป ทำให้ค่าเงินแข็งค่า" นายกิตติรัตน์ ระบุ

รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คณะรัฐมนตรีได้รับทราบในวันนี้ คือ กรอบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2556 ที่เป็นการบูรณาการการทำงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่มีปัญหาฟองสบู่เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้รวบรวมมาตรการต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค คือ นโยบายการเงิน การคลัง และการบริหารนโยบายเศรษฐกิจจุลภาค ใน 8 ด้าน เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ SMEs เป็นต้น

ที่ผ่านมา การบริหารเศรษฐกิจมหภาค และจุลภาคมีความไม่สอดคล้องกัน ซึ่งทำให้มีปัญหาดังเช่นในต่างประเทศ ดังนั้นจึงต้องดูแลให้สอดคล้องกัน โดยประเด็นนี้ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ซึ่งหลังจากนี้จะมีมาตรการระยะกลาง และระยะยาวต่อไป

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า หลังจากที่ครม.รับทราบกรอบเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2556 แล้ว ได้มอบหมายให้แต่ละส่วนราชการกลับไปดำเนินการและรายงานความคืบหน้าผลการปฏิบัติงานให้ครม.รับทราบทุกสัปดาห์ และทำรายงานเสนอประจำทุกเดือนด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเศรษฐกิจของไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยรัฐบาลจะชี้แจงเรื่องนี้ในระหว่างการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในวันพรุ่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ต้องดูแลไม่ให้สูงกว่าคู่แข่งและคู่ค้า อีกทั้งต้องอยู่ในระดับที่ทำให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ และทำให้เกิดการออม แต่การจะให้ระบุลงไปว่าอัตราแลกเปลี่ยนควรอยู่ที่ระดับใดนั้นคงไม่สามารถทำได้ ขณะที่มาตรการการคลังจะต้องดูแลเรื่องการบริหารรายรับ-รายจ่ายของประเทศให้มีประสิทธิภาพ มีวินัย รวมทั้งการออมภาคครัวเรือน

ด้านนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีขอให้กระทรวงพาณิชย์เน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าชายแดนให้โตขึ้น 30% จากปัจจุบันที่มีมูลค่าอยู่ 9 แสนล้านบาท เพื่อจะได้นำมาชดเชยกับเศรษฐกิจในด้านอื่นที่ไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวรับแนวต้านของค่ำคืนนี้

 

แนวรับ : 1381.25, 1,369.70

แนวต้าน : 1,389.84, 1,392.85, 1,397.30, 1,404.50, 1,416.20, 1,427.90

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 30.01/03 อ่อนค่าหลังคลังเล็งออกประกาศดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออก

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 พฤษภาคม 2556 17:33:05 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 30.01/03 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.90/92 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

วันนี้เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 30 บาท หลังจากช่วงบ่ายมีข่าวนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ออกมาระบุว่าจะแก้ประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีผลในการดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกให้มีความสมดุล อันถือเป็นการเตรียมความพร้อม หากหน่วยงานที่รับผิดชอบเห็นว่ามีความจำเป็นต้องดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที

 

"วันนี้เหตุที่บาทลงไปแตะ 30 บาท น่าจะเป็นเพราะหลังจากมีข่าวที่รมว.คลัง บอกว่าจะแก้กฎกระทรวงเพื่อเตรียมประกาศใช้ดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออก และอีกส่วนหนึ่งเป็นความกังวลว่าพรุ่งนี้ กนง.จะลดดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน ให้กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 29.85-30.10 บาท/ดอลลาร์

 

*ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.08 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์/ยูโร

- SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,619.57 จุด เพิ่มขึ้น 26.47 จุด(+1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 51,250.72 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,749.35 ลบ.(SET+MAI)

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ เห็นชอบกรอบการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยปี 2556 เพื่อให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพและขยายตัวได้อย่างน้อย 5% และเพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ออกมาระบุว่าจะแก้ประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีผลในการดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกให้มีความสมดุล อันถือเป็นการเตรียมความพร้อม หากหน่วยงานที่รับผิดชอบเห็นว่ามีความจำเป็นต้องดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที

 

- ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุว่า บางประเทศที่มีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวนำมากกว่าอัตราดอกเบี้ยนั้น ทำให้ควบคุมได้ยาก และเห็นว่าแนวคิดแบบนี้จะมีความโปร่งใสน้อยกว่าการใช้นโยบายการดูแลที่ให้อัตราดอกเบี้ยเป็นตัวนำ

 

พร้อมให้พิจารณาข้อมูลย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 52 จนถึงปัจจุบัน จะพบว่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 52-53 แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น แต่มูลค่าการส่งออกของไทยยังสามารถเติบโตได้สูงถึงปีละกว่า 20%

 

- นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง และธปท.ล้วนมีความกังวลและตระหนักดีถึงปัญหาเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ดังนั้น แต่ละฝ่ายต่างก็ต้องทำหน้าที่ และดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากจำเป็น ธปท.ก็ต้องเข้าแทรกแซงเพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปรับตัวได้ ถ้าไม่แทรกแซงเงินบาทก็จะแข็งค่ามากเกินไปเหมือนในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และหากสถานการณ์จำเป็นก็จะใช้มาตรการที่เตรียมไว้

 

- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวว่า ทิศทางเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงที่เหลือปีนี้ เนื่องจากคาดว่าหลายประเทศยักษ์ใหญ่ ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรปน่าจะยังดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

 

- นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันพรุ่งนี้ควรจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% หากไม่สามารถลดได้ถึง 1% ตามที่ภาคเอกชนเสนอ เพราะมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลดีทำให้ค่าเงินบาทมีสถียรภาพ

 

- นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แสดงความเป็นห่วงว่า แม้ กนง. จะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา แต่ก็อาจจะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ทุกฝ่ายตั้งความหวังไว้ โดยเฉพาะในส่วนของภาคการลงทุนและการส่งออกที่เป็นฟันเฟืองของเศรษฐกิจที่อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้เต็มที่ หากธนาคารพาณิชย์ที่ทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคเอกชนไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย

 

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% แตะ 306.62 จุด เมื่อเวลา 8.08 น.ตามเวลาลอนดอน

 

- คืนนี้ สหรัฐฯจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และดัชนีราคาบ้าน ซึ่งคาดกันว่าราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นมากที่สุดในรอบหลายปี

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 90 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,890 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,394.34 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 9.74 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

- คณะกรรมการกำหนดโนบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ยืนยันว่าบีโอเจจะไม่ดำเนินมาตรการทางการเงิน"ที่แข็งกร้าว"ในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% อย่างแน่นอน เนื่องจากเป้าหมายดังกล่าวควรใช้ควบคู่ไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะตลาด Gold Future และ SET50 Future By GT Wealth Management 28 พ.ค. 56 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 28 พฤษภาคม 2556 17:36:01 น.

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าระดับ US$1,380 ต่อออนซ์ (Gold spot) อีกครั้ง หลังเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางในช่วงเช้า โดยหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการเพิ่มขึ้น และการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ ECB ว่า ECB ยังสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงไม่ฟื้นตัว โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งหากออกมาดีกว่าที่คาด อาจเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองคำต่อเนื่อง ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯก่อนการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ 1,016.16 ตัน

 

 

ดัชนี SET50 ในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปิดที่ 1,072.57 จุด ปิดเพิ่มขึ้น 19.07 จุด โดยสามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,060 จุดได้ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์หลายฝ่ายว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในการประชุม กนง.ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ บวกกับการเพิ่มขึ้นหลังจากการปรับฐานของดัชนีที่เกิดขึ้นในสองวันที่ผ่านมา โดยติดตามการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13) ปิดที่ระดับ 19,740 บาท ปริมาณการซื้อขาย 762สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 ขนาด 10 บาท (GF10M13) ปิดที่ระดับ 19,740 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,043 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน (S50M13) ปิดที่ระดับ 1,075.80 จุด ปริมาณการซื้อขาย 22,803 สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะเคลื่อนไหวแบบ sideway สักระยะ โดยรอความชัดเจนเรื่องของมาตรการ QE ของสหรัฐฯ และทิศทางของตลาดหุ้นอีกครั้ง การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทำให้การย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นอาจจะชะลอลง ส่วนทิศทางเงินบาทน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในวันพรุ่งนี้หลังประชุม กนง. โดยเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ยลงจริงน่าจะทำให้เงินบาทกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือ 30 บาทต่อดอลล่าณ์สหรัฐฯ อีกครั้ง และเป็นผลดีต่อราคาทองคำในประเทศ

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 28 พฤษภาคม 2556 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 28 พฤษภาคม 2556 17:05:42 น.

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,378.48—1,395.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 19,740 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,820 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 670 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 7 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 677 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.45 น.ของวันที่ 28/05/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 29 พฤษภาคม 2556

เศรษฐกิจโดยรวมของฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของยูโรโซน หดตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ได้สะท้อนผ่านภาวะถดถอย และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเกิน 10% ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศสในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงแตะ 79 จาก 83 ในเดือนที่ผ่านมาทั้งนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2551 ได้กดดันสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงซึ่งส่งผลบต่อราคาทองคำ โดยการซื้อขายในตลาดทองคำยังคงมีทิศทางอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาจุดยืนของเฟดที่มีต่อการชะลอมาตรการกระตุ้นเศราฐกิจ โดยความวิตกกันว่าเฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดไว้และในที่สุดแล้วการถอนมาตรการกระตุ้นดังกล่าว จะมาพร้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อราคาอ่อนตัวลงยังคงมีแรงรับซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ ขณะเดียวกันราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ระบุว่าธนาคารกลางหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงรัสเซียและคาซัคสถาน ได้เพิ่มการถือครองทองคำในเดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนที่ราคาทองดิ่งต่ำสุดในรอบ 2 ปี เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,398 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,378-1,373 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,408 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,398 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,378-1,373 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ในส่วนนักลงทุนระยะยาวคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,378 (19,490บาท) 1,373 (19,370บาท) 1,365 (19,240บาท)

แนวต้าน 1,398 (19,840บาท) 1,408 (19,990บาท) 1,417 (20,110บาท)

GOLD FUTURES (GFM13)

แนวรับ 1,378 (19,640บาท) 1,373 (19,530บาท) 1,365 (19,400บาท)

แนวต้าน 1,398 (20,000บาท) 1,408 (20,140บาท) 1,417 (20,270บาท)

SILVER FUTURES (SVM13)

แนวรับ 21.95 (659บาท) 21.50 (645บาท) 21.15 (635บาท)

แนวต้าน 22.65 (680บาท) 23.00 (690บาท) 23.45 (704บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

S&P/CS HPI Composite - 20 (YoY)

 

Actual:10.9%

Forecast:10.2%

Previous:9.3%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Standard & Poor's (Release URL)

OverviewChartHistory

The S&P/Case-Shiller House Price Index measures the change in the selling price of single-family homes in 20 metropolitan areas.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD,while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

S&P/CS HPI Composite - 20 (MoM)

 

Actual:1.4%

Forecast:0.7%

Previous:0.3%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Case Shiller (Release URL)

OverviewChartHistory

The Case-Shiller index prices are measured monthly and tracks repeat sales of houses using a modified version of the weighted-repeat sales methodology proposed by Karl Case and Robert Shiller and Allan Weiss. This means that, to a large extent, it is able to adjust for the quality of the homes sold, unlike simple averages. As a monthly tracking index, Case-Shiller Index has long lag time. Typically, it takes about 2 months for S&P to publish the results, as opposed to 1 month for most other monthly indices and indicators. A higher than expected number should be taken as positive to the USD, while a lower than expected number as negative.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

CB Consumer Confidence

 

Actual:76.2

Forecast:71.0

Previous:69.0

Importance: Currency:USDSource Of Report:Conference Board (Release URL)

OverviewChartHistory

Conference Board (CB) Consumer Confidence measures the level of consumer confidence in economic activity. It is a leading indicator as it can predict consumer spending, which plays a major role in overall economic activity. Higher readings point to higher consumer optimism.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Richmond Manufacturing Index

 

Actual:-2

Forecast:2

Previous:-6

Importance: Currency:USDSource Of Report:Federal Reserve Bank of Richmond (Release URL)

OverviewChartHistory

The Richmond Manufacturing Index rates the relative level of business conditions including shipments, new orders, and employment. A level above zero on the index indicates improving conditions; below indicates worsening conditions. The data is compiled from a survey of about 100 manufacturers in the Richmond area.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งบอกว่า ถึงเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย $1375

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...