ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

:: รายงานออกมาดีเกืนคาด ยูโรเลยร่วงเนอะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวรับแนวต้าน ของคืนนี้. Supports: 1384, 1368, 1347

Resistances: 1393, 1403, 1418

 

http://www.fxstreet.com/technical/forex-forecasts/todays-gold-forecast/2013/05/24/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ คงต้องเชียร์ให้ทะลุขึ้นเกิน $1400 ให้ได้

 

http://www.fxstreet.com/technical/analysis-reports/forex-ichimoku-cloud-analysis-and-forecast/2013/05/24/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แรงซื้อเยอะๆ หน่อย จะได้ผ่านทะลุ ต้านฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

$1393 โอมต้านฯ แตก magician.gif

:upstrong: :upstrong: :upstrong: ถูกแก้ไข โดย Alan

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นสหรัฐฯ-ทอง-น้ำมัน ปิดลบ

 

 

25/05/2013 , 07:32

Filed under breakingnews, เศรษฐกิจ

Leave a Comment

 

 

 

%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%991.jpg

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมลบเล็กน้อย จากผลกระทบดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ดิ่งลงกว่าร้อยละ 7 และก่อนหน้าวันหยุดยาวของสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่ น้ำมันไนเม็กซ์ ลดลง 10 เซนต์ ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลงอีก 5.20 ดอลลาร์

ปิดการซื้อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดผสมแดนลบ ผลกระทบจากดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ดิ่งลงกว่าร้อยละ 7 และก่อนหน้าวันหยุดยาวของสหรัฐฯ โดย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.60 จุด หรือ +0.06 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 15,303.10 จุด แนสแดค ลดลง 0.28 จุด หรือ -0.01 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 3,459.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.91 จุด หรือ -0.06 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,649.60 จุด

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์สหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ -0.11 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 94.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วน เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 20 เซ็นต์ ปิดที่ 102.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐฯ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ หรือ -0.37 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,386.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

U.S. Stocks

See After-Hours Trading

Data as of 5:16pm ET

Friday’s Close:

Dow+8.6 15,303.10 +0.06%

Nasdaq-0.28 3,459.14 -0.01%

S&P-0.91 1,649.60 -0.06%

Oil (Light Crude)

July 2013 contract

$ / barrel Floor 94.15 -0.10 -0.11%

Gold

June 2013 contract

$ / troy ounce 1,386.60 -5.20 -0.37%

 

http://www.isnhotnews.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟรหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม เส้นสัญญานฯ สองเส้นหัวชนกัน ก็จะถือว่ายังไง นอกจากถือว่า ยังไม่ตัด จ้องมองกันต่อไป แต่ระวังจ้องมากแล้วจะเป็นลม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในกราฟรหัส 5,35,9 ที่เป็น Signal ว่า " เข้าได้หรือยัง ออกได้หรือยัง " มักจะมาก่อน 12,26,9 มันก็จ่อกัน ทั้ง เส้นแดง และเส้นดำ หรือ คุณฯ คิดว่ายังไง ?

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในส่วนของกราฟ 7,5,2 เส้นแดงก็ยังเหนือกว่าเส้นดำ ต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯทรงตัวก่อนวันหยุดยาว ทองคำลงเล็กน้อย blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2556 05:29 น.

 

blank.gif 556000006531901.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีท ทรงตัวเมื่อวันศุกร์(24) ก่อนหน้าวันหยุดยาวทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติก ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังหลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นดิ่งลงหนักในวันพฤหัสบดี(23) ส่วนทองคำปิดลบเล็กน้อย หลังพบความต้องการถือครองโลหะมีค่าชนิดนี้ลดลง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 10 เซ็นต์ ปิดที่ 94.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 20 เซ็นต์ ปิดที่ 102.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

บ็อบ ยอว์เกอร์ จากบริษัทมิซูโฮะ ซีเคียวริตี ระบุว่าความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันวานนี้(24) เป็นผลมาจากนักลงทุนเตรียมสำหรับวันหยุดยาวจนถึงวันจันทร์(27) ทั้งในสหรัฐฯและอังกฤษ ซึ่งตลาดนิวยอร์กและลอนดอน จะปิดทำการ

 

"มันก็แค่สวนทางกับที่ปรับขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี" เขากล่าว "นักลงทุนออกจากที่มั่นและสละเรือก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์"

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(24) ปิดทรงตัว แสดงถึงการลงทุนอย่างระมัดระวัง หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี(23) ดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ดิ่งลงกว่าร้อยละ 7 และก่อนหน้าวันหยุดยาวของอเมริกา

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.60 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,303.10 จุด แนสแดค ลดลง 0.28 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,459.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,649.60 จุด

 

แม้วานนี้(24) ดัชนีนิเคอิ จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.9 แต่ด้วยตลาดหุ้นยุโรปยังขยับลงต่อเนื่อง เป็นผลให้นักลงทุนในวอลล์สตรีท ต้องจับตาอย่างระมัดระวัง และขานรับเพียงเล็กน้อยต่อข้อมูลอันสดใสเกี่ยวยอดค่ำสั่งซื้อสินค้าคงทนของ สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(24) ปิดลบเล็กน้อย ด้วยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ กระทบต่ออุปสงค์ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯทรงตัวก่อนวันหยุดยาว ทองคำลงเล็กน้อย

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2556 05:29 น.

 

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีท ทรงตัวเมื่อวันศุกร์(24) ก่อนหน้าวันหยุดยาวทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติก ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังหลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นดิ่งลงหนักในวันพฤหัสบดี(23) ส่วนทองคำปิดลบเล็กน้อย หลังพบความต้องการถือครองโลหะมีค่าชนิดนี้ลดลง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 10 เซ็นต์ ปิดที่ 94.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 20 เซ็นต์ ปิดที่ 102.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

บ็อบ ยอว์เกอร์ จากบริษัทมิซูโฮะ ซีเคียวริตี ระบุว่าความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันวานนี้(24) เป็นผลมาจากนักลงทุนเตรียมสำหรับวันหยุดยาวจนถึงวันจันทร์(27) ทั้งในสหรัฐฯและอังกฤษ ซึ่งตลาดนิวยอร์กและลอนดอน จะปิดทำการ

 

"มันก็แค่สวนทางกับที่ปรับขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี" เขากล่าว "นักลงทุนออกจากที่มั่นและสละเรือก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์"

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(24) ปิดทรงตัว แสดงถึงการลงทุนอย่างระมัดระวัง หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี(23) ดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ดิ่งลงกว่าร้อยละ 7 และก่อนหน้าวันหยุดยาวของอเมริกา

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.60 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,303.10 จุด แนสแดค ลดลง 0.28 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,459.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.91 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,649.60 จุด

 

แม้วานนี้(24) ดัชนีนิเคอิ จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.9 แต่ด้วยตลาดหุ้นยุโรปยังขยับลงต่อเนื่อง เป็นผลให้นักลงทุนในวอลล์สตรีท ต้องจับตาอย่างระมัดระวัง และขานรับเพียงเล็กน้อยต่อข้อมูลอันสดใสเกี่ยวยอดค่ำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(24) ปิดลบเล็กน้อย ด้วยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ กระทบต่ออุปสงค์ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000062582

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จับตาเฟดเลิกกระตุ้นเศรษฐกิจ หวั่นฉุดตลาดหุ้น-ทองปั่นป่วน

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2556 เวลา 00:00 น.

206674.jpg

ตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกกลับมาแดงเถือกอีกครั้ง!!! หลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ส่งสัญญาณว่าจะเลิกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ผสมโรงกับความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนซบเซา จากการที่ดัชนีพีเอ็มไอในเดือน เม.ย. ลดลงต่ำกว่า 50 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี สะท้อนถึงการหดตัวในภาคอุตสาหกรรมจีน

 

งานนี้เลยกลายเป็นประเด็นร้อนที่ฉุดให้ตลาดหุ้นทั้งในสหรัฐ และเอเชีย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ร่วงระเนนระนาดแบบไม่เป็นท่า เช่น ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ระหว่างวันลดลงหนักถึง 48.51 จุด ก่อนดีดตัวกลับมาปิดตลาดลดลง 23.81 จุด หรือ 1.46% จุด ขณะที่ญี่ปุ่น ร่วงลงถึง 1,143.28 จุด หรือ 7.32% ซึ่งลดลงมากสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์โอซากา ประกาศระงับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าของดัชนีนิเกอิ เนื่องจากดัชนีดิ่งลงอย่างรุนแรง ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ร่วงลงถึง 591.40 จุด หรือ 2.54% เป็นต้น ทำเอานักลงทุนขาขวิดพลิกกลยุทธ์การลงทุนแทบไม่ทัน

 

การออกมาแถลงของ ’เบน เบอร์นันเก้“ ประธานเฟด ครั้งนี้ ถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามอง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกระแสข่าวออกมาเป็นระลอกว่า สหรัฐจะยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น และไม่จำเป็นต้องพิมพ์แบงก์เพิ่มเพื่อมาอุ้มเศรษฐกิจต่อไป

แต่การส่งสัญญาณรอบนี้กลับเป็นประเด็นที่ทำให้หลายคนต่างฉงน งงงวยกับถ้อยแถลงดังกล่าวพอสมควร และทำให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดหุ้น เพราะในช่วงแรก “เบน เบอร์นันเก้” ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสในช่วงค่ำตามเวลาประเทศ ไทยว่า นโยบายการเงินกำลังช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น และเฟดจำเป็นต้องเห็นสัญญาณเพิ่มมากขึ้นที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้ดีดตัวขึ้นมากกว่านี้ ก่อนชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางคนก็ออกโรงสนับสนุนให้ลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเดือน มิ.ย.นี้

 

แม้ถ้อยแถลงที่ว่า... ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนมากนัก แต่หลายฝ่ายได้วาดภาพไปแล้วว่าเฟดจะยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ... และนั่นก็หมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวได้เองแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการใด ๆ ที่จะเข้ามาพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้โงหัวอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักลงทุนต่างตื่นตระหนกเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นออกมากันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นไทยที่ถึงแม้เปอร์เซ็นต์การลดลงจะไม่ถลาลงลึกเหมือนประเทศอื่นในเอเชีย แต่ก็หลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้

 

เพราะอย่าลืมว่าเงินทุนต่างชาติที่ไหลทะลักเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องนั้น มาจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบของประเทศต่าง ๆ และเมื่อเงินหรือสภาพคล่องล้นระบบ ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ ทั้งสหรัฐและยุโรปยังง่อนแง่น ประเทศไทยและเอเชียจึงกลับมาเนื้อหอมเป็นที่น่าสนใจเสาะแสวงหาโอกาสทางการลงทุนของต่างชาติ

 

เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัว ก็คงถึงเวลาที่เงินร้อนซึ่งเคยไหลเข้ามาลงทุนในไทยจะถอนสมอเรือ และถอนทัพการลงทุน เพื่อหอบเงินกลับประเทศ และสิ่งที่จะตามมาติด ๆ ซึ่งสะท้อนได้เร็วที่สุดคือ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ลดลงอย่างหนัก แม้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไทยจะยังเหมือนเดิมและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ตาม

 

สอดคล้องกับความเห็นของบรรดาผู้คร่ำหวอดในแวดวงตลาดหุ้น อย่าง “เทิดศักดิ์ ทวีธีระรรม” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่าความกังวลเรื่องเฟดจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น ถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างวิตกกังวลกันถ้วนหน้า และฉุดให้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลง จากก่อนหน้านี้ที่ดีดตัวขึ้นแรงและเร็ว

 

เช่นเดียวกับ “กวี ชูกิจเกษม” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย บอกว่า การที่หุ้นไทยเริ่มปรับลดลงแรงนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพร้ส์ เพราะที่ผ่านมาเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในไทยเป็นเงินร้อน ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนต่างชาติที่เคยนำเงินมาลงทุน ก็จะเทขายทำกำไร เพื่อถอนเงินลงทุนออกไป

 

ไม่เฉพาะตลาดหุ้นเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ หากสหรัฐเลิกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาด แต่ยังสร้างความผันผวนให้กับตลาดทองคำในประเทศด้วย เพราะการกำหนดราคาทองคำของไทยนั้นต้องอิงกับตลาดต่างประเทศ

 

ซึ่งในเรื่องนี้ “จิตติ ตั้งสิทธิภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ ยอมรับว่า การที่ราคาทองคำในประเทศและตลาดโลกแกว่งตัวผันผวน เป็นผลจากการปล่อยข่าวต่าง ๆ ที่เข้ามาทุบราคาทองคำให้ปรับลดลง ซึ่งเมื่อสหรัฐออกมาระบุว่าจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นแรงผลักดันให้ราคาปรับเพิ่มขึ้น แต่หากเมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นและมีการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง จะเป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาทองปรับลดลง

 

“การแถลงของเฟดได้ผล เพราะทำให้ราคาทองแกว่งตัวผันผวน ซึ่งยอมรับว่าการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของเฟดจะมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง และถือเป็นหน้าม้าของกองทุน เป็นการพูดแบบไม่รับผิดชอบ ดังนั้น หากทุกคนตามกระแสก็จะทำให้ราคาทองปรับลดลง หรือเป็นการช่วยทุบราคาทอง แต่หากไม่ตามกระแสราคาทองคำก็มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งปีนี้มองว่าราคาทองจะไม่ต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณบาทละ 18,000 บาทแน่นอน แต่ปี 57 ราคาทองคำจะปรับลดลงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดีขึ้น และไม่มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการพิมพ์แบงก์เข้ามาในระบบเพิ่มเติม”

 

ขณะที่ “บุญเลิศ สิริภัทรวณิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออสสิริส จำกัด ที่มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ช่วงนี้ราคาทองคำจะแกว่งตัวขึ้นลงตามข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากมีข่าวว่าเฟดจะชะลอหรือหยุดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณและทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงโดยตรง เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเมื่อมีข่าวว่าจะมีการปั๊มเงินเข้าสู่ระบบ ราคาทองคำก็ปรับเพิ่มขึ้นได้ แต่พอมีข่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐดีและหยุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาก็ปรับลดลง ซึ่งหากมีการหยุดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจริง จะทำให้แรงเก็งกำไรทองคำชะลอตัวลง และทองเข้าสู่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง

 

จะเห็นได้ว่าทั้งสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น และสินทรัพย์ที่เรียกว่ามีความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดอย่างทองคำ ต่างต้องขึ้นกับนโยบายต่าง ๆ ของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ หรือแม้แต่กลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงยากที่จะปฏิเสธได้ว่าเศรษฐกิจของต่างประเทศมีผลกับระบบเศรษฐกิจของไทยไม่มากก็น้อย

 

แม้เวลานี้... ยังไม่มีใครออกมาระบุอย่างชัดเจนว่าเฟดจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป และหยุดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้เมื่อใดกันแน่! แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือนักลงทุนทั่วโลกต่างตื่นตระหนกและหวาดวิตกคิดกันไปต่าง ๆ นานา จึงต้องรีบใช้จังหวะนี้เทขายหุ้นออกมา เพราะกลัวว่าหากถึงเวลาที่เฟดหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจจริงอาจถอนตัวไม่ทัน และต้องติดค้างอยู่บนหอคอยสูง

 

แต่หากมองในมุมกลับกันการที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอย่างหนักถือเป็นการร่วงรับข่าวไปก่อนหน้า และเมื่อเฟดประกาศออกมาชัดเจนแล้วดัชนีหุ้นไทยอาจไม่ดำดิ่งก็เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้นักลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและทองคำต้องตั้งสติให้ดี และเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนให้มากขึ้น เพราะตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจน ความผันผวนและความเสี่ยงก็จะมาคู่กับการลงทุนเสมอ!!!.

 

ขวัญหทัย แนวหล้า

 

http://www.dailynews.co.th/businesss/206674

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...