ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เอามาปลอบใจชาวดอยครับ

กลับไปอ่านบทความใน CDC เมื่อ ต.ค.ปี55

การพิมพ์ธนบัตรครั้งใหญ่ของ QE3 กำลังจะเริ่มต้นแล้ว ไม่มีทางที่นักการเมืองจะเลิกพิมพ์เงินมาแจกประชานิยม ประชาชนโง่เขลาเห็นแก่ตัวต้องการเพียงเงินเล็กน้อยเฉพาะหน้านิดเดียว ประเทศชาติจะพังพินาศน์เรือหายอย่างไรไม่มีใครใส่ใจ โลกกำลังเป็นอย่างนี้ โลกไม่เป็นอย่างอื่น ทุกรัฐบาลจะพิมพ์เงินเพิ่มแน่นอน ทองคำจะขึ้นแน่นอน

 

ราคาทองคำปรับตัวลงมาประมาณ $60 การปรับตัวครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อทองคำเข้าซื้อ สำหรับผู้ที่ซื้อแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร อีกไม่นานทองคำก็จะปรับตัวขึ้นต่อไปอีก ทองคำจะราคาตกลงเป็น downtrend ได้ทางเดียวคือเมื่อนักการเมืองเลิกเลว

 

ตราบใดที่ประชาชนยังเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อยเฉพาะหน้า ไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ตราบนั้นย่อมมีนักการเมืองเลว หน้าด้านขี้โกง เข้ามาซื้อเสียง เป็นใหญ่ บริหารประเทศชาติให้พินาศน์เรือหาย เราไม่มีทางแก้ไข เพราะเราใช้เงินทั้งหมดจ้างทหารมารักษาประเทศ จ่ายเงินไปแล้วปีละหลายแสนล้านบาท แต่ทหารไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้นักการเมืองทำลายล้างประเทศชาติต่อไป เหมือนประชาชนที่เห็นแก่ตัวในนโยบายประชานิยม ทหารก็เห็นแก่ตัวแค่งบซื้ออาวุธและความอยู่รอดในตำแหน่งเฉพาะหน้า ความล่มสลายชองชาติกำลังก่อตัวขึ้นแล้ว ในช่วงชีวิตของพวกเราต่อจากนี้ไป เราจะได้พบกับความน่ากลัวของ Inflation ค่าครองชีพจะสูงขึ้น ประชาชนทั้งชาติจะยากจนลง สิ่งที่จะคงคุณค่าได้อย่างแท้จริงมีเพียงที่ดินเพื่อการเกษตรและทองคำ

 

 

อ่านดูแล้วหวังว่าระยะยาวทองคำจะยังคงคุณค่าไว้ได้ แม้ว่าตอนนี้จะเน่าสนิท

ที่ดีใจได้อีกอย่างคือสงสัยว่าตอนนี้นักการเมือง(ประเทศไหนไม่ทราบ)คงจะเป็นคนดีกันหมดแล้วครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวว่า เขามองว่า ระดับ $132x เป็นจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากนี้จะเป็นขาขึ้น

ไป 1315 แล้วครับ

เกรงว่าจะหลุด 1300 หรือไม่อย่างไร

รอบนี้แม่บ้านชาวจีนจะมาต่อคิวซื้ออีกไหม

หรือว่าจะเข็ดแบบว่า ซื้อถูกแล้ว ยังมีถูกกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาปลอบใจชาวดอยครับ

กลับไปอ่านบทความใน CDC เมื่อ ต.ค.ปี55

การพิมพ์ธนบัตรครั้งใหญ่ของ QE3 กำลังจะเริ่มต้นแล้ว ไม่มีทางที่นักการเมืองจะเลิกพิมพ์เงินมาแจกประชานิยม ประชาชนโง่เขลาเห็นแก่ตัวต้องการเพียงเงินเล็กน้อยเฉพาะหน้านิดเดียว ประเทศชาติจะพังพินาศน์เรือหายอย่างไรไม่มีใครใส่ใจ โลกกำลังเป็นอย่างนี้ โลกไม่เป็นอย่างอื่น ทุกรัฐบาลจะพิมพ์เงินเพิ่มแน่นอน ทองคำจะขึ้นแน่นอน

 

ราคาทองคำปรับตัวลงมาประมาณ $60 การปรับตัวครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อทองคำเข้าซื้อ สำหรับผู้ที่ซื้อแล้วก็ไม่ต้องทำอะไร อีกไม่นานทองคำก็จะปรับตัวขึ้นต่อไปอีก ทองคำจะราคาตกลงเป็น downtrend ได้ทางเดียวคือเมื่อนักการเมืองเลิกเลว

 

ตราบใดที่ประชาชนยังเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อยเฉพาะหน้า ไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ตราบนั้นย่อมมีนักการเมืองเลว หน้าด้านขี้โกง เข้ามาซื้อเสียง เป็นใหญ่ บริหารประเทศชาติให้พินาศน์เรือหาย เราไม่มีทางแก้ไข เพราะเราใช้เงินทั้งหมดจ้างทหารมารักษาประเทศ จ่ายเงินไปแล้วปีละหลายแสนล้านบาท แต่ทหารไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้นักการเมืองทำลายล้างประเทศชาติต่อไป เหมือนประชาชนที่เห็นแก่ตัวในนโยบายประชานิยม ทหารก็เห็นแก่ตัวแค่งบซื้ออาวุธและความอยู่รอดในตำแหน่งเฉพาะหน้า ความล่มสลายชองชาติกำลังก่อตัวขึ้นแล้ว ในช่วงชีวิตของพวกเราต่อจากนี้ไป เราจะได้พบกับความน่ากลัวของ Inflation ค่าครองชีพจะสูงขึ้น ประชาชนทั้งชาติจะยากจนลง สิ่งที่จะคงคุณค่าได้อย่างแท้จริงมีเพียงที่ดินเพื่อการเกษตรและทองคำ

 

 

อ่านดูแล้วหวังว่าระยะยาวทองคำจะยังคงคุณค่าไว้ได้ แม้ว่าตอนนี้จะเน่าสนิท

ที่ดีใจได้อีกอย่างคือสงสัยว่าตอนนี้นักการเมือง(ประเทศไหนไม่ทราบ)คงจะเป็นคนดีกันหมดแล้วครับ

โดนใจที่ซ๊ :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรียนคุณป่า ทิพย์เข้าไป3ไม้เเล้ว คงมีดอยเป็นของตัวเองแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะทุกคน

ทองร่วงกระจายทะลุทุกแนวรับเลย

เอาไงดีหว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::

ป๋าไลน์คุยกันดีกว่า ไลน์ลงใหม่อีกแล้ว ป๋าหายไปอยากส่งขำขันไปให้อ่านป๋าไลน์มาหาหน่อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๋าไลน์คุยกันดีกว่า ไลน์ลงใหม่อีกแล้ว ป๋าหายไปอยากส่งขำขันไปให้อ่านป๋าไลน์มาหาหน่อย

เห็นแล้วครับ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.12/15 คาดอ่อนค่าต่อ มองกรอบพรุ่งนี้ 30.90-31.38

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 17:50:43 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.12/15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.03/05 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงในวันนี้มาจากกรณีถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ออกมาส่งสัญญาณทยอยลดมาตรการ QE ภายในสิ้นปีนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อได้ เพราะดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.90-31.38 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.99/98.02 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 96.42/43 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3193/3195 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3268/3270 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,402.19 จุด ลดลง 35.51 จุด, -2.47%

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 6,356.25 ลบ.(SET+MAI)

- นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า เงินทุนเคลื่อนย้ายจะไหลออกมากขึ้น หลังจากเฟดเตรียมปรับลดระดับของมาตรการ QE แต่ธปท.จะติดตามการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการเคลื่อนไหวแรงและเร็วจนกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ ธปท.พร้อมดูแลตามความเหมาะสมต่อไป

 

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า เฟดอาจจะยุติการซื้อพันธบัตรในปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นสอดคล้องกับคาดการณ์ นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมิ.ย.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 520 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,230 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,322.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 56.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

- ขณะที่ราคาทองคำในประเทศผันผวนตลอดทั้งวัน โดยวันนี้ราคาปรับขึ้น-ลงถึง 15 ครั้ง จากช่วงเช้าทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 19,750 ขณะที่ล่าสุดช่วงเย็นทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 19,150 ลดลงในวันเดียวถึง 800 บาท

 

- ด้านนายกสมาคมค้าทองคำ เผยสถานการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงบ่ายวันนี้เกิดจากการทุบราคาของกองทุนต่างชาติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับค่าเงินบาทที่ผันผวนเป็นแรงหนุนให้สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ), คณะกรรมาธิการยุโรป และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หรือกลุ่มทรอยก้า จะยุติการหารือด้านนโยบายกับรัฐบาลกรีซชั่วคราวในเรื่องการให้เงินช่วยเหลือประเทศ หลังจากที่การดำเนินงานที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เด๋วส่งไรไปให้อ่าน เด๋วคนขอเป็นเพื่อนบานเลย

ถูกแก้ไข โดย เกี้ยมอี๋

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะตลาด Gold Future By GT Wealth Management 20 มิ.ย. 56 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 17:11:37 น.

กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างหนักล่าสุดอยู่บริเวณ US$1,300 ต่อออนซ์ (Gold spot) โดยเป็นการปรับลดลงหลังคำแถลงการณ์ของประธาน FED ที่จะมีการลดมาตรการ QE ในปลายปีนี้ และยุติในกลางปีหน้า หากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ทำให้มีแรงขายในทุกสินทรัพย์รวมถึงทองคำ ทางด้านยุโรป ดัชนีPMI ของเยอรมนีและภูมิภาคยุโรปยังไม่เห็นการฟื้นตัวแม้จะมีการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรต่อ โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสองและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยหากออกมาดีกว่าที่คาด อาจกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงต่อ แต่ราคาทองคำในประเทศยังได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ 31.11 บาทต่อดอลลาร์ โดย ธปท. เผยว่า จะปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามกลไกตลาดแต่พร้อมเข้าดูแลหากมีความผันผวน ทางด้าน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 2.10 ตัน สู่ระดับ 999.56 ตัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2009

 

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13) ปิดที่ระดับ 19,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,211 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 ขนาด 10 บาท (GF10M13) ปิดที่ระดับ 19,120 บาท ปริมาณการซื้อขาย 4,765 สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า หลังผลการประชุม FOMC เมื่อวานทำให้ความชัดเจนเรื่องแนวทางการกำหนดนโยบายของ FED มีมากขึ้น แม้จะยังคงมาตรการทั้งดอกเบี้ยต่ำและ QE ตามเดิม แต่การส่งสัญญาณการชะลอมาตรการในอนาคตก็เพียงพอให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลง แต่ประเมินว่าการอ่อนตัวลงของราคาสินทรัพย์หลังจากนี้จะชะลอลงเนื่องจากราคาตอบรับข่าวการชะลอมาตรการมาสักพักแล้ว โดยอนาคตตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ขณะค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อหลังผ่าน 31 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกสมาคมค้าทองคำ แนะนักลงทุนรอดูความชัดเจน หลังราคาทองผันผวนหนัก

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 16:46:11 น.

นายกสมาคมค้าทองคำ เผยสถานการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงบ่ายวันนี้เกิดจากการทุบราคาของกองทุนต่างชาติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับค่าเงินบาทที่ผันผวนเป็นแรงหนุนให้สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

 

"ทองร่วงลงมามากเพราะกองทุนฯ สร้างกระแสข่าวว่าราคาทองคำจะลงต่อ ทุกคนเลยกลัว แล้วก็ทุบราคาลงมา...วันนี้ลงแรงมาก ภายใน 15 นาที ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงถึง 8 ครั้ง" นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

 

 

นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า อยากแนะนำให้นักลงทุนหยุดทำการซื้อ-ขายเพื่อรอดูความชัดเจนสัก 2-3 วันก่อนให้แน่ใจว่าแนวโน้มราคาจะไปในทิศทางใด อย่าไปตื่นตระหนกต่อกระแสข่าว

 

"นักลงทุนอย่าเพิ่งตกใจหรือต่นเต้นกับกระแสข่าว อย่าเพิ่งซื้อ-ขายช่วงนี้ แล้วหยุดดูสักพักก่อน เพราะช่วงนี้คงคาดเดาลำบาก" นายจิตติ กล่าว

 

ทั้งนี้ ราคาทองประจำวันที่สมาคมฯ ประกาศครั้งแรกเมื่อเวลา 09.28 น. ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 19,650.00 ขายบาทละ 19,750.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,359.32 ขายบาทละ 20,150.00 ซึ่งลดลงจากวานนี้(19 มิ.ย.) บาทละ 200

 

หลังจากนั้นก็ทยอยปรับขึ้นอีก 2 ครั้งรวมเพิ่มขึ้นบาทละ 100 แต่หลังจากเวลา 11.53 น.ราคาทองได้ทยอยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมลดลงบาทละ 700 โดยราคาล่าสุดปรับเมื่อเวลา 16.42 น. ราคาทอง รับซื้อ บาทละ 19,150 ขายออก บาทละ 19,250 ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,874.20 ขายออก บาทละ 19,650 โดยเป็นการปรับครั้งที่ 13 ของวัน

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา ทันหุ้น

 

 

การถอยมาตรการ QE ของเฟด...ปัจจัยหลักยังขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

 

ประเด็นสำคัญ

 

§ มติการประชุมเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ที่ร้อยละ 0.0-0.25 และวงเงินซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือน สอดคล้องกับที่ตลาดคาด แต่สิ่งที่ผิดคาด ก็คือ ถ้อยแถลงหลังการประชุมจากประธานเฟด ที่สะท้อนถึงช่วงเวลาที่ชัดเจนของจุดเริ่มชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE ในช่วงปลายปี 2556 นี้ และจุดสิ้นสุดของมาตรการ QE ภายในช่วงกลางปี 2557

§ มองไปข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดแนวทางการดำเนินการของเฟด ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้อง และ/หรือดีกว่าที่เฟดได้ประเมินไว้แล้ว ก็คาดว่า เฟดน่าจะเดินหน้าชะลอมาตรการ QE ตามกรอบเวลาที่วางไว้ในการประชุมรอบนี้ แต่หากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความอ่อนแอ เฟดก็คงต้องปรับแผนการถอยมาตรการ QE ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

§ สำหรับไทยแล้ว คงต้องเตรียมรับมือกับทิศทางการเคลื่อนย้ายเงินทุน และสภาพแวดล้อมทางการเงินที่คงจะทยอยเปลี่ยนแปลงไป

แม้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 18-19 มิ.ย. 2556 ออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่กรอบร้อยละ 0.00-0.25 และวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือมาตรการ Quantitative Easing (QE) ไว้ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือนตามเดิม[1] อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผิดจากที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ ก็คือ ถ้อยแถลงหลังการประชุมจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่สะท้อนถึงช่วงเวลาที่ชัดเจนของการถอยออกจากมาตรการ QE ...

 

 

 

สัญญาณจากผลการประชุมเฟด...ภาพการถอยมาตรการ QE ชัดเจนมากขึ้น

 

 

 

§ แม้ตลาดจะเตรียมระวังสัญญาณชะลอมาตรการ QE แต่ถ้อยแถลงของประธานเฟดก็ตอกย้ำภาพให้ชัดเจนมากขึ้น โดยประธานเฟด กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอและสอดคล้องกับที่ได้ประเมินไว้ เฟดก็อาจจะเริ่มทยอยลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE ในช่วงปลายปี 2556 นี้ และจะดำเนินการต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2557 โดยอาจสามารถยุติมาตรการ QE ได้ประมาณในช่วงกลางปี 2557 ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาที่อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ลดต่ำลงจนเข้าใกล้ร้อยละ 7.0 จากร้อยละ 7.6 ในปัจจุบัน แต่กระนั้น เฟดก็ยังคงกล่าวย้ำว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะปรับตัวลงไปที่ร้อยละ 6.5 หรือต่ำกว่า ขณะที่ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 2.5

 

ทั้งนี้ มุมมองและประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเฟดในการประชุมรอบนี้ มีภาพที่เป็นเชิงบวกมากขึ้น โดยเฟดคาดว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะปรับตัวลงไปมีค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 6.5-6.8 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 และจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องไปที่ร้อยละ 5.8-6.2 ในช่วงไตรมาส 4/2558 ขณะที่ เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจขยายตัวประมาณร้อยละ 3.0-3.5 ในปี 2557 และร้อยละ 2.9-3.6 ในปี 2558 ซึ่งเป็นทิศทางที่สะท้อนการฟื้นตัวจากปี 2556 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2.3-3.6

 

§ เฟดยังคงย้ำว่า การชะลอซื้อพันธบัตรไม่ใช่การส่งสัญญาณคุมเข้ม และอาจมีการปรับเปลี่ยนแนวทางสำหรับมาตรการ QE ได้ในระยะข้างหน้า โดยเฟดกล่าว หากพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอว่าที่คาด เฟดก็อาจจะพิจารณาหยุดกระบวนการถอยออกจากมาตรการ QE โดยอาจจะพักช่วงเวลาการลดวงเงินซื้อพันธบัตรต่อเดือน หรืออาจจะกลับมาเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE อีกครั้ง ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าว สะท้อนว่า เฟดก็น่าจะยังคงประเมินพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนข้างหน้าอย่างระมัดระวังต่อไป

 

 

 

 

 

โดยสรุป สัญญาณเกี่ยวกับการชะลอมาตรการ QE ในช่วงปลายปี 2556 (และน่าจะมีจุดสิ้นสุดในช่วงกลางปี 2557) ที่ค่อนข้างชัดเจนข้างต้น เมื่อผนวกเข้ากับสัญญาณอ่อนแอเพิ่มเติมของเศรษฐกิจจีน (ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นสำหรับเดือนมิ.ย.2556 ที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 48.3 จาก 49.2 ในเดือนพ.ค. ตอกย้ำภาพถดถอยของกิจกรรมในภาคการผลิตเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน) ก็ส่งผลทำให้ตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลกเคลื่อนไหวในกรอบที่รุนแรงมากขึ้น โดยตลาดหุ้นเอเชียเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ตามหลังการดิ่งลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วงหลังการประชุมเฟด ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ทะยานแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย (ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์) โดยในส่วนของเงินบาทนั้น อ่อนค่ากลับมาทดสอบระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ฯ อีกครั้ง นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ก็ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน สวนทางทิศทางราคาน้ำมันและทองคำในตลาดโลกที่ร่วงลงอย่างหนัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้สัญญาณจากเฟดจะสะท้อน “ช่วงเวลา” ของการชะลอมาตรการ QE ที่ค่อนข้างชัด อย่างไรก็ดี สิ่งที่ตลาดจะต้องรอความชัดเจนและประเมินต่อไป ก็คือ “ระดับของการลดวงเงิน” เข้าซื้อพันธบัตรต่อเดือน ซึ่งยังคงขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า ดังนั้น แม้กระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับการถอนมาตรการ QE จะกระตุ้นให้ตลาดเงิน-ตลาดทุนตอบสนองข่าวในช่วงแรก ด้วยการกลับเข้าซื้อเงินดอลลาร์ฯ พร้อมๆ กับเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สินทรัพย์เสี่ยง ตลอดจนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ แต่ก็คงต้องยอมรับว่า การปรับตัวของตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลก ยังอาจต้องเผชิญกับความผันผวนตามกระแสความคาดหวังของตลาดที่ย่อมต้องการรายละเอียดของการถอนมาตรการ QE ที่ชัดเจนมากขึ้นจากเฟด

มองไปข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดแนวทางการดำเนินการของเฟด ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้อง และ/หรือดีกว่าที่เฟดได้ประเมินไว้แล้ว ก็คาดว่า เฟดน่าจะเดินหน้าชะลอมาตรการ QE ตามกรอบเวลาที่วางไว้ในการประชุมรอบนี้ แต่หากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความอ่อนแอ เฟดก็คงต้องปรับแผนการถอยมาตรการ QE ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ดังนั้น ความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก็น่าจะมีกรอบที่ผันผวนมากขึ้น

 

ซึ่งสำหรับหลายๆ ประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยแล้ว โจทย์ที่ต้องเตรียมรับมือในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ก็คือ ทิศทางการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระบวนการถอย QE ของเฟดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะสถานการณ์ดังกล่าว จะมีผลเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงิน และระดับสภาพคล่อง (รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) ในประเทศ ซึ่งย่อมเพิ่มความซับซ้อนให้กับการดำเนินนโยบายการเงินของธปท. ขณะที่ สำหรับภาคเอกชนแล้ว (ทั้งผู้ที่ต้องการระดมทุนใหม่ และ/หรือต้องการ Rollover หนี้ก้อนเดิม) ก็คงต้องเตรียมวางแผนการระดมทุนให้สอดคล้องกับสภาพตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากตลาดเริ่มหาคำตอบเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการคุมเข้มทางการเงินของสหรัฐฯ ด้วยการปรับลดขนาดงบดุลของเฟด และ/หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds (หลังจากยืนที่ระดับใกล้ศูนย์มาตั้งแต่ปลายปี 2551) แม้ว่า ระดับความเพียงพอของสภาพคล่องในระบบการเงินไทย จะยังไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวลมากนักในช่วงใกล้ๆ นี้ก็ตาม

 

ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

http://www.thunhoon.com/highlight/132879/132879.html

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:01 ขอบคุณค่ะ

 

:38ลงแรงกว่าที่คาด !!!!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เด๋วส่งไรไปให้อ่าน เด๋วคนขอเป็นเพื่อนบานเลย

ขอบคุณที่บอกครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...