ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

สวัสดีครับพี่ใหญ่ ไม่ได้เข้าทักซะนาน นั่งอ่านย้อนหลังแล้วครับ สงสัยพี่ใหญ่คงมั่นใจเรื่องขาใหญ่

ชอบพาแหกโค้งบ่อยๆ นี่แหละ เลยไม่ค่อยเชื่อเครื่องมือที่ใช้ดูอยู่ทุกวัน ส่วนผมก็ตัดขาดทุนออกมา

ครึ่งนึงครับ ก็เลยเจ็บน้อยหน่อย

 

น้อมรับผิด เพราะไปแหกกฎฯ ของตัวเอง เส้นแดงอยู่บน เส้นแดงอยู่ล่าง จริงอย่างที่คุณ GB2514 กล่าวทุกประการ

[Pete 15,187]

เงินบาทปิด 31.01/03 แข็งค่าจากช่วงเช้า มีแรงขายดอลล์ช่วงท้ายตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 17:41:34 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.01/03 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 31.17/18 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

"ระหว่างวันเงินบาทไปทำนิวไฮที่ระดับ 31.20 บาท/ดอลลาร์...ช่วงท้ายตลาดมีแรงขายดอลลาร์ในตลาด offshore มาก ทำให้ปรับตัวลงมาเร็ว" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าหากไม่มีปัจจัยใหม่ เงินบาทมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอ่อนค่าได้อีก เนื่องจากมาตรการชะลอ QE ที่เฟดประกาศออกมาไม่น่าจะหาข้อยุติได้ง่ายๆ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ระหว่าง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์

 

"ช่วงนี้ range ประมาณ 20 สตางค์ทุกวัน หากหลุด figure อาจลงไปแตะ 30.80 บาท/ดอลลาร์ก็ได้" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.48 เยน/ดอลลารื จากระดับ 97.11/15 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3224 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3237/3239 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,400.50 จุด ลดลง 1.69 จุด, -0.12% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 79,035.17 ล้านบาท

 

- นายลูอิส มาเรีย ลินเด ผู้ว่าการธนาคารกลางสเปน คาดเศรษฐกิจสเปนอาจจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากเศรษฐกิจหดตัวลงหนักสุดในช่วงปลายปี 55

 

- นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุการที่ดัชนีตลาดหุ้นของไทยยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนตื่นตัวกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอมาตรการ QE เท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงแค่สถานการณ์ระยะสั้น เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 14 มิ.ย.อยู่ที่ 176.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 7 มิ.ย.56 ที่ 176.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 14 มิ.ย. อยู่ที่ 23.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 7 มิ.ย.56 อยู่ที่ 23.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 14 มิ.ย.56 อยู่ที่ 5,393.1 พันล้านบาท จาก 5,408.4 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.56

 

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 56(ต.ค.55-พ.ค.56) มีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,278,188 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 180,619 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.5 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,687,216 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 115,406 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 409,028 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 122,578 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 531,606 ล้านบาท

 

- นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุยังไม่จำเป็นต้องมีการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นในขณะนี้ เนื่องจากขนาดของตลาดในปัจจุบันค่อนข้างใหญ่ และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากมีการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นก็ต้องมีขนาดที่ใหญ่มาก ทั้งนี้ มองว่าแม้ภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้จะปรับตัวลดลงและผันผวนมาก แต่ก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมาจากปัจจัยที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ออกมาส่งสัญญาณแนวโน้มที่จะมีการชะลอหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มฟื้นชัดเจนตัว ส่งผลให้นักลงทุนมีการถอนเงินทุนออกไปตั้งหลักเพื่อรอลงทุนครั้งใหม่

 

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.875% เพิ่มขึ้น 0.040% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 0.48 จุด ปิดที่ระดับ 142.10 ในตลาดหุ้นโตเกียว

 

- นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการ UNCTAD ระบุการเคลื่อนย้ายเงินทุนในขณะนี้สร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องควรระมัดระวัง แต่ยังเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังได้เฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว โดยมองว่าขณะที่สหรัฐมีแนวโน้มจะประกาศยกเลิกมาตรการ QE หรือมาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบนั้นจะทำให้เงินจากประเทศไทยจะกลับเข้าไปอยู่ที่ยุโรปและสหรัฐมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น

 

- บรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนต่างเห็นพ้องกับลักษณะสำคัญของกลไกที่จะทำให้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป(ESM) สามารถเพิ่มทุนโดยตรงแก่ธนาคารที่ประสบปัญหาได้ เนื่องจากปัจจุบันกองทุนให้ความช่วยเหลือทางการเงินถาวรของยูโรโซนไม่สามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ธนาคารที่ประสบปัญหาในเขตยูโรโซนได้โดยตรง และมีเพียงประเทศที่เป็นเจ้าของธนาคารที่ประสบปัญหาเท่านั้นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 130 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,100 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,308.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 14.06 ดอลลาร์สหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

 

[Pete 15,187]

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 21 มิถุนายน 2556 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 16:59:27 น.

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--PRDD

สภาวะตลาดวันที่ 21 มิถุนายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,302.30—1,270.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 19,150 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,140 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 630 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 21/06/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 24 มิถุนายน 2556

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องหลังจากประธานธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และ เฟดก็จะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า ทั้งนี้ นายเบอร์นันเก้ ยืนยันว่า เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะเริ่มปรับลดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันในตลาดทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้ความน่าลงทุนในตลาดทองคำลดลง เพราะทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวปรับตัวลดลงผกผันกับสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหลังจากลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ ทางกองทุนทองคำ SPDR ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยังคงมีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย โดยมีถือครองทองคำในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยถือครองทองคำต่ำกว่าระดับต่ำ 1,000 ตัน ตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนมุมมองที่เป็นลบในตลาดทองคำมากยิ่งขึ้นประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลว่าราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามคุณสมบัติสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนเคย อย่างไรก็ตามวายแอลจีอยากแนะนำว่า ควรติดตามประเด็นการเคลื่อนย้ายเงิน ว่าจะไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยแหล่งใด เพราะในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนต่างขายทองคำออกมาโดยมีสาเหตุมาจากการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำ ทั้งนี้นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าหากไม่มีปัจจัยหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง การขยับขึ้นของราคาทองคำคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัวของราคาทองคำในลักษณะ Technical Rebound หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,305-1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อโดนประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,260 หรือ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวนอย่างมาก และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,310 หรือ 1,323 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,270 (18,640บาท) 1,260 (18,500บาท) 1,250 (18,350บาท)

แนวต้าน 1,310 (19,230บาท) 1,323 (19,430บาท) 1,330 (19,530บาท)

GOLD FUTURES (GFM13)

แนวรับ 1,270 (18,800บาท) 1,260 (18,650บาท) 1,250 (18,500บาท)

แนวต้าน 1,310 (19,390บาท) 1,323 (19,580บาท) 1,330 (19,680บาท)

SILVER FUTURES (SVM13)

แนวรับ 19.35 (620บาท) 19.05 (608บาท) 18.80 (601บาท)

แนวต้าน 20.20 (644บาท) 20.80 (663บาท) 21.15 (673บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

[Pete 15,187]

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกมีการทำ Technical Rebound ขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ US$1,280-1,290 ต่อออนซ์ (Gold spot) หลังปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังคำแถลงการณ์ของประธาน FED เกี่ยวกับ QE ซึ่งส่งผลให้มีแรงขายออกมาเกือบทุกสินทรัพย์รวมถึงทองคำ โดยกลับไปถือเงินสด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เทียบสกุลเงินหลัก ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ทางด้านยุโรป รัฐมนตรีคลังยูโรโซนตกลงให้กองทุน ESM สามารถเข้าลงทุนในธนาคารพาณิชย์ที่มีปัญหาได้ ซึ่งจะทำให้วิกฤตการเงินในยุโรปมีการผ่อนคลายลง ค่าเงินบาทไทยยังคงอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 31.00 บาท ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศ ทางด้านกองทุนSPDR ลดการถือครองทองคำลง 4.21 ตัน สู่ระดับ 995.35 ตัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2009

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13) ปิดที่ระดับ 19,160 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,997 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2556 ขนาด 10 บาท (GF10M13) ปิดที่ระดับ 19,160 บาท ปริมาณการซื้อขาย 5,522 สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การส่งสัญญาณการชะลอมาตรการในอนาคตของประธาน FED ส่งผลราคาสินทรัพย์ทุกประเภทปรับตัวลง ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลง ภาวะตลาดที่ผันผวนกดดันให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์ สะท้อนผ่านทิศทางค่าเงินดอลลาร์เทียบสกุลเงินหลักที่ปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ราคาทองคำยังเผชิญทั้งแรงขายและแรงกดดันจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทไทยกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำในประเทศผ่านการอ่อนค่าของค่าเงินบาท

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

 

[ariya 1,481]

ขอเจ้บ้าง กระทาชายนายหนึ่งต้องไปทำงานทีซาอุ ด้วยความห่วงเมีย จึงสั่งว่าน้องจะมีอะไรกะใครพี่ไม่ว่าแต่ขออย่างนึงให้ใส่เม็ดมะขาม

ลงในกระบอก 1 เม็ดแทน 1 ครั้ง ผ่านไป 2 ปี พอกลับมาบ้าน ชายนายนั้นรีบไปที่ต้นมะขามเพื่อดูว่า มีเม็ดมะขามอยู่มากขนาดไหน

ปรากฎว่าไม่มีเลยสักเม็ด แต่มีแต่เงืนอยู่ร้อยกว่าบาทแทน ด้วยความสงสัยจึงรีบกลับบ้านไปถามเมีย

 

อยากทราบว่าเงินมาจากไหนใครตอบได้บ้าง

[Pete 15,187]

คืนนี้ ไม่มีรายงานออกจากสหรัฐฯ จึงขึ้นอยู่กับ ค่าเงินดอลล์สหรัฐ จะอ่อนค่าลงหรือไม่ จากการขายทำกำไร ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองปรับขึ้น แต่ถ้าดอลล์ยังคงจะแข็งค่า ราคาทองก็คงวนเวียนแถวๆ 1299-1302 ก่อนสักพัก

[Pete 15,187]

ขอเจ้บ้าง กระทาชายนายหนึ่งต้องไปทำงานทีซาอุ ด้วยความห่วงเมีย จึงสั่งว่าน้องจะมีอะไรกะใครพี่ไม่ว่าแต่ขออย่างนึงให้ใส่เม็ดมะขาม

ลงในกระบอก 1 เม็ดแทน 1 ครั้ง ผ่านไป 2 ปี พอกลับมาบ้าน ชายนายนั้นรีบไปที่ต้นมะขามเพื่อดูว่า มีเม็ดมะขามอยู่มากขนาดไหน

ปรากฎว่าไม่มีเลยสักเม็ด แต่มีแต่เงืนอยู่ร้อยกว่าบาทแทน ด้วยความสงสัยจึงรีบกลับบ้านไปถามเมีย

 

อยากทราบว่าเงินมาจากไหนใครตอบได้บ้าง

100 บาท คือเงินที่เมียขายเม็ดมะขามได้ไง 555

[auntnextdoor 4,268]

คืนนี้ ไม่มีรายงานออกจากสหรัฐฯ จึงขึ้นอยู่กับ ค่าเงินดอลล์สหรัฐ จะอ่อนค่าลงหรือไม่ จากการขายทำกำไร ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองปรับขึ้น แต่ถ้าดอลล์ยังคงจะแข็งค่า ราคาทองก็คงวนเวียนแถวๆ 1299-1302 ก่อนสักพัก

ขอบคุณค่ะ มันก็วนๆจริงๆแหละ

[Pete 15,187]

ข่าวชิ้นนี้ เขากล่าวทำนองว่า ถ้า Fed กล่าวถูกถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ Summer ปีนี้ของสหรัฐฯ จะเต็มไปด้วยรายงานที่ดีตลอด Summer นี้

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

โปรดเช็คร้านของทองของท่านฯ เพราะอาจปิดทำการ หรือ ขายราคาแบบแปลกๆ ให้รอบคอบก่อนการเดินทางจะไปซื้อไปขายในวันเสาร์และอาทิตย์

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดดีดขึ้น $5.8 จากแรงซื้อเก็งกำไร

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 08:32:47 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จากการที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,292 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ขยับขึ้น 13.6 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 19.959 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ไต่ขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,369.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 674.75 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้เนื่องจากมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา หลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากนายเบอร์นันเก้ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้

 

เบอร์นันเก้กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์พุ่งต่อเนื่องหลังเฟดส่งสัญญาณชะลอซื้อบอนด์

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 07:59:36 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจเริ่มลดขนาดการซื้อพันธบัตรในปลายปีนี้

 

 

เงินดอลลาร์แข็งค่า 0.44% แตะที่ 97.700 เยน/ดอลลาร์ จากระดับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 97.270 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่า 0.78% ที่ระดับ 0.9341 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 0.9269 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์

 

เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.67% แตะ 1.3130 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.3218 ดอลลาร์/ยูโร ด้านเงินปอนด์ปรับตัวลดลง 0.55% ที่ระดับ 1.5423 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.5508 ดอลลาร์/ปอนด์

 

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งขึ้น 0.49% ที่ 0.9241 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 0.9196 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มค่าขึ้น 0.19% แตะ 0.7770 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.7755 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

 

เมื่อคืนนี้สหรัฐไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้นตลาดยังคงขานรับข่าวที่ว่า ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ พร้อมกับกล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

IMF ย้ำกรีซได้รับเงินช่วยเหลือแน่นอนหากเดินหน้าตามแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 22:09:34 น.

ยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยกรีซมั่นใจได้ว่า จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดต่อไปตราบใดที่กรีซยังคงเดินหน้าตามโครงการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

 

เจเรน ดีเซลโบลม หัวหน้าฝ่ายรัฐมนตรีคลังยุโรปิน กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญของยุโรปตั้งใจว่า จะสรุปผลการทบทวนความคืบหน้าในการปรับลดงบประมาณของกรีซครั้งล่าสุดภายในเดือนก.ค.นี้

 

การออกมายืนยันดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง อันเนื่องมาจากการตัดสินใจปิดกิจการสถานีวิทยุและโทรทัศน์สาธารณะโดยรัฐบาลเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ส่งผลให้มีการระงับการจ้างงาน 2,600 ตำแหน่ง

 

การตัดสินใจดังกล่าวทำให้พรรคร่วมรัฐบาลของนายกฯกรีซตัดสินใจถอนตัวออกจากรัฐบาล

ทั้งนี้ มาตรการรัดเข็มขัดเป็นเงื่อนไขสำหรับการรับเงินช่วยเหลืองวดใหม่ภายใต้โครงการช่วยเหลือวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร หรือ 1.72 แสนล้านดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

 

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดดีดตัว 41.08 จุด หลังร่วงหนักสองวันติดต่อกัน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 07:10:41 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 41.08 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 14,799.40 จุด ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 4.24 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 1,592.43 จุด และดัชนี NASDAQ ลดลง 7.39 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 3,357.25 จุด

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าเฟดจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า

 

อย่างไรก็ดี ตลาดฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าตลาดร่วงลงมากเกินเหตุในช่วง 2 วันก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันนักลงทุนก็เริ่มทำใจได้แล้วว่า ไม่ช้าก็เร็วเฟดจะต้องชะลอและยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในที่สุด

 

ทั้งนี้ สหรัฐไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--