ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ว่า แนวโน้มผลการประชุมคงไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่คงที่ ตัวเลขบางตัวก็ออกมาดี แต่บางตัวยังออกมาอ่อนแอลง ประเมินโดยรวมจึงยังไม่น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น

 

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องติดตามคือถ้อยแถลงของ FOMC ภายหลังการประชุมว่ามีชี้แนวโน้มไปในทิศทางใด ส่วนมาตรการ QE คงยังไม่ยกเลิกไปในทันที

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 31 กรกฎาคม 2556

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะมีผลต่อตลาดการเงินไทยอย่างไร จะมีการคงหรือทยอยลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) หรือไม่ เป็นเรื่องคาดเดายาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หากดูข้อมูลสัปดาห์เทียบต่อสัปดาห์ บางสัปดาห์ก็ดี บางสัปดาห์ก็ไม่ดี เพราะตัวเลขการจ้างงานก็ไม่แน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ตลาดการเงินคงดูถ้อยคำการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าน้ำหนักจะมีแนวโน้มไปอย่างไร แต่เรื่องนี้ถือว่ายังมีความไม่แน่นอน แม้โดยภาพรวมจะเห็นว่า เฟด จะไม่เปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินมากนักก็ตาม

 

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงในวันนี้ เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากค่าเงินเป็นไปได้ทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยข่าวคราวระยะสั้น และกรณีที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับเงินเหรียญสหรัฐ จากปกติที่มักจะเคลื่อนไหวสวนทางกัน ก็ไม่เป็นเรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด เพียงแต่ถ้าเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับเงินเหรียญสหรัฐ ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน้อย

 

นายประสาร ยังกล่าวถึงกรณีการปิดตัวลงของเว็บไซต์ bitcoin เป็นเพราะว่า บริษัท bitcoin ซึ่งเป็นเว็บไซต์รับแลกเปลี่ยนเงิน มาติดต่อขอใบอนุญาตทำธุรกิจ money changer หรือ รับแลกเปลี่ยนเงิน แต่สิ่งที่ทำจริงๆ กลับไม่ใช่การรับแลกเปลี่ยนเงิน แต่อาจจะเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น จึงขอให้มีการหยุดการให้บริการผ่านเว็บไซต์ก่อนในระหว่างตรวจสอบ โดยขณะนี้ กำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้ง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนพิจารณาว่าสามารถให้ใบอนุญาตได้หรือไม่

 

"ฟังที่เขาอธิบาย มันค่อนไปในทางเกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน จึงต้องขอให้เขาหยุดและตรวจสอบก่อน และเวลานี้เราก็ขอให้เขาไม่มายุ่งกับเงินบาท เพราะสิ่งที่เขาทำอาจเป็นช่องทางเข้ามาเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นได้ จึงขอเวลาศึกษาก่อน ส่วนกรณีที่เขาชี้แจงว่า สามารถทำได้ในการกำกับดูแลของประเทศอื่นๆ ทางแบงก์ชาติก็ขอให้เขาส่งข้อมูลมาให้ดูเพิ่มเติมแล้ว" นายประสาร กล่าว

 

ที่มา: โพสต์ทูเดย์(วันที่ 31 กค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.18% แตะที่ 6.1788 หยวนต่อดอลลาร์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 1% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 31 กรกฎาคม 2556

 

 

ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าตลาดเงิน ผ่านปฏิบัติการในตลาดเปิด เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.พ. บรรเทาความวิตกว่าจะเกิดเงินสดตึงตัวอีกครั้ง

 

นักลงทุนต่างจับตาตลาดเงินระหว่างธนาคารของจีน หลังจากธนาคารกลางปล่อยให้เกิดสินเชื่อตึงตัวเมื่อปลายเดือนมิ.ย. เพื่อเป็นการเตือนเกี่ยวกับวิธีปล่อยกู้แบบเสี่ยง

 

ดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นในจีนสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทและธนาคารต่างๆ ของจีนตุนเงินสดไว้เพื่อจ่ายเงินปันผลและให้ตัวเลขในบัญชีดูเรียบร้อย

 

นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่าธนาคารกลางจีนจะอาศัยแรงกดดันครั้งนี้สร้างภาวะสินเชื่อตึงตัวอีกครั้งช่วงปลายเดือน หากภาคการเงินจีนไม่แสดงสัญญาณของการควบคุมการปล่อยกู้แบบเสี่ยง

 

ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไม่เคยอธิบายเหตุผลของการปล่อยให้ดอกเบี้ยเงินกู้พุ่งขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และปล่อยให้กลไกต่างๆ ปล่อยเงินเข้าสู่ระบบแต่ไม่ได้ดำเนินการโดยตรง

 

สภาพการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนไปในวันนี้ เมื่อมีการอัดฉีดเงิน 17,000 ล้านหยวนผ่านการทำข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ธนาคารกลางปฏิบัติการในตลาดเปิดและนับเป็นการอัดฉีดเงินแทนที่การดูดซับเงินออก

 

ดีลเลอร์ธนาคารรัฐแห่งหนึ่งกล่าวว่าปริมาณเงินที่อัดฉีดมีไม่มากนัก แต่อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ค่อนข้างสูง สะท้อนว่าธนาคารกลางต้องการให้แน่ใจว่าตลาดมีสภาพคล่องมากพอ แต่การกู้ยืมเงินก็ต้องเสียดอกเบี้ยพอสมควร

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 30 กรกฎาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การ ประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.2556 นี้ คงเป็นอีกรอบที่ตลาดการเงินคงจะจับตาการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด โดยเฟดคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ต้องประเมินการ ดำเนินนโยบายการเงินด้วยความระมัดระวัง ระหว่างต้นทุนส่วนเพิ่มและประโยชน์ในการคงขนาดการซื้อสินทรัพย์ในระดับ ปัจจุบัน

 

กระนั้นก็ดีคาดว่าเฟดน่าจะยังคงขนาดการซื้อ สินทรัพย์ไว้ที่ 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/เดือน เพื่อรอดูความชัดเจนด้านการคลัง ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนขนาดการซื้อสินทรัพย์ในระยะต่อไป

 

โดย แม้ว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐ จะให้ภาพรวมการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ท่ามกลางความเสี่ยงด้านการคลังของสหรัฐที่ยังคงมีอยู่ และอาจกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะข้างหน้า อาจส่งผลให้เฟดเลือกที่จะยังติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอีก สักระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีเสถียรภาพ ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนขนาดและทิศทางการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ให้เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป ความไม่แน่นอนด้านการคลังยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน ระยะข้างหน้า แม้ว่าพัฒนาการทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อย้อนกลับมามองผลกระทบ ต่อประเทศไทย แม้ว่าเฟดจะตัดสินใจคงขนาดการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมรอบนี้ แต่แน่นอนว่าทางการไทยคงจะติดตามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจสหรัฐ ตลอดจนเศรษฐกิจแกนหลักอื่นๆ อย่าง ใกล้ชิด เพื่อประเมินโอกาสของการปรับท่าทีและทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ดังกล่าว พร้อมวางแนวทางรับมือในระยะข้างหน้า

 

เนื่องจาก จะมีผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย เสถียรภาพของเงินบาท รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยากจะหลีกเลี่ยง นอกเหนือไปจากอีกปัจจัยที่มีน้ำหนัก ต่อทิศทางนโยบายการเงินไทยไม่น้อยไปกว่ากัน คือแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยว่าจะอ่อนตัวลงมากกว่าคาดหรือไม่ อย่างไร ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังไม่น่ากังวล

 

ที่มา: ข่าวสด(วันที่ 31 กค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นบาทละ 200 สวนทางตลาดโลก

 

 

สมาคมค้าทองคำ เผยราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นบาทละ 200 จากราคาปิดวานนี้ โดยราคาทองที่สมาคมฯ ประกาศครั้งแรกเมื่อเวลา 09.26 น.ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 19,700.00 ขายบาทละ 19,800.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,419.96 ขายบาทละ 20,200.00

 

 

ขณะที่สมาคมฯ ประกาศราคาทองครั้งสุดท้ายวานนี้(30 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,500.00 ขายบาทละ 19,600.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,222.88 ขายบาทละ 20,000.00

 

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่โดยรวมแล้วเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ และเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,300-1,350 ดอลลาร์ เนื่องจากในช่วงกลางสัปดาห์ต่อเนื่องไปจนถึงปลายสัปดาห์จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจและประเด็นอื่นๆที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

 

นักลงทุนต่างยังใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งจะทราบผลการประชุมในช่วงค่ำต่อเนื่องถึงเช้าวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าในคำแถลงหลังการประชุมคงยังไม่มีการระบุถึงช่วงเวลาที่ชัดเจนในการยุติการผ่อนคลายทางการเงิน เพราะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐทั้งเงินเฟ้อและอัตราการว่างานยังคงเคลื่อนไหวอยู่ห่างจากเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐระบุ

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 31.27/29 อ่อนค่าต่อ กังวลศก.ชะลอตัว-ห่วงการเมือง

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.27/29 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มปรับตัวอ่อนค่าจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลงและความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเปิดประชุมสภาฯ โดยเมื่อเวลา 09.00 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.35/37 บาท/ดอลลาร์

 

 

"แนวโน้มอ่อนค่าจากปัญหาตัวเลขเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองที่ตลาดกังวล" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ขณะเดียวกันตลาดยังรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.06/08 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 98.02/04 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3262/3264 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3264/3267 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.2520 บาท/ดอลลาร์

- จับตาคัดเลือกประธานใหม่ "แบงก์ชาติ" 6 ส.ค.นี้ คาดรู้ผลทันที หลังรายชื่อแคนดิเดททั้งหมดถูกส่งให้ บอร์ดคัดเลือกฯ แล้ว เผยไม่มีรายใดขัดคุณสมบัติเลย ระบุชัดหากที่ประชุมไม่มีข้อสังเกตใดๆ สามารถชี้ขาดได้เลย หลังจากนั้นรายชื่อที่ได้จะถูกส่งให้ รมว.คลัง เพื่อเสนอต่อ ครม. พิจารณาต่อไป

- หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ช่วงวันที่ 23 พฤษภาคม ถึง 24 มิถุนายน 2556 จำนวน 1,453 บริษัท พบว่าสภาพธุรกิจโดยรวมปี 2556 ยังปรับตัวดีขึ้น แต่เป็นทิศทางที่ลดลง เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งธุรกิจมีการขยายตัวที่ดีจากอานิสงส์การฟื้นตัวหลังเหตุอุทกภัยใหญ่ปลายปี 2554 ฉะนั้น ค่าธุรกิจที่ลดลง ไม่ใช่เรื่องแปลกใจของธุรกิจและยังถือว่าธุรกิจอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งธุรกิจยังเห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังดีอยู่ แต่อาจขยายตัวลดลง และญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญต่อการลงทุนในไทยต่อเนื่อง

- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยและปัญหาข้อจำกัดในการเติบโต มองในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาของการปรับตัวและยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ส่วนระยะยาว การจะให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตอย่างมั่นคง ต้องมีการเตรียมความพร้อมของประเทศทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคน ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงด้านตลาดแรงงานที่มีการเติบโตช้าต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งต้องมีการร่วมมือกันในทุกภาคส่วนมองเห็นเป้าหมายที่ประโยชน์สูงสุดของประเทศ จะทำให้ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงการคลังมั่น ใจว่าร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มองว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้ขับเคลื่อนได้ โดยรัฐบาลได้ศึกษารายละเอียดการลงทุนด้านคมนาคมในระยะยาวแล้ว ซึ่งหากลงทุนอย่างเต็มรูปแบบจะใช้เงินลงทุนจำนวน 4.2 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันการลงทุนในครั้งนี้เป็นการลงทุนเบื้องต้น ซึ่งในกรอบระยะเวลาการลงทุนไม่เกิน 7 ปี

- นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน มิ.ย.56 ลดลง 3.38% หรือมีมูลค่า 19,098 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือน พ.ค.56 จึงทำให้การส่งออกในปีนี้ไม่ดีขึ้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก ทั้ง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป รวมทั้งอาเซียน ชะลอตัว ประกอบกับราคาสินค้าทางการเกษตรโลกโดยรวมปรับตัวลดลง เห็นได้จากมูลค่ากลุ่มสินค้าเกษตรมีอัตราการเติบโตลดลง

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงในเดือน ก.ค.ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะฉุดรั้งอุปสงค์พลังงานให้อ่อนแอลงด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ร่วงลง 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 106.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่ 1324.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 4.40 ดอลลาร์

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.97 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.88 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9292 ฟรังค์ จากระดับ 0.9303 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3264 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3267 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5357 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9062 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9210 ดอลลาร์สหรัฐ

- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.18% แตะที่ 6.1788 หยวนต่อดอลลาร์

- ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.ลดลงแตะ 50.7 จาก 52.3 ในเดือน มิ.ย. แต่ดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้งว่ากิจกรรมภาคการผลิตยังมีการขยายตัว แม้ดัชนี PMI ญี่ปุ่นชะลอลงในเดือน ก.ค. แต่ก็ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทั้งนี้คำสั่งซื้อใหม่และการส่งออกขยายตัว 5 เดือนติดต่อกัน แม้เป็นไปในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตปรับตัวลง

- รายงานในเบื้องต้นของสำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสเปนหดตัวลง 0.1% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก สาเหตุเกิดจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง อันเนื่องมาจากการลดลงของเงินเดือนและอัตราว่างงานที่สูงมากในสเปน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่อุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงบางส่วนได้รับการชดเชยจากการส่งออก

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับขึ้น 10 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวัน หรือเทียบเท่ากับ 1,335.93 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวว่า " ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองขยับเขยื้อนแบบ Sideway ปิดแบบนิดๆ หน่อยๆ ขึ้นลง ตอนขึ้นก็พยายามชนแนวต้าน $1338 ให้แตกก็ไม่แตก ตอนลงก็พยายามจะลง แต่ก็ไม่ลง มีอาการพยุงราคาไว้เต็มที่ืเพื่อรอคอย คืนนี้ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และ คืนพรุ่งนี้ ของธนาคารยุโรป แต่ราคาไทย เพิ่มขึ้นไปแล้ว จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ตามสถานการณ์ของการเมืองจะร้อนแรงในเดือนสิงหาคม

 

อนึ่ง ถ้าเรามองว่า จีน รัสเซีย สะสมทองคำเพื่อมรหนุนค่าเงินของเขา ก็ตัองมองด้วยว่า ปริมาณธนบัตรดอลล์สหรัฐฯ ที่ประเทศนั้นๆ มีสำรองก็ยังมากกว่า จะด้วยเหตุผลทางการค้าระหว่างประเทศก็ได้ แต่ก็อย่าลืมกันว่า การที่ราคาทองเคลื่อนไหวมากๆๆ เยอะๆๆ ก็เกิดจากปริมาณซื้อขาย ทองกระดาษ ในสหรัฐอเมริกา จึงอยู่ที่ว่า สหรัฐฯ จะยอมหรือไม่ในสิ่งที่จะเกิด คือ ดอลล์จะอ่อนค่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้น พร้อมกับภาวะหนี้ที่ชนเพดานของสหรัฐฯ

 

ไม่มีการคาดเดาแนวโน้มว่า เป็นทิศทางใด เพราะขออยู่นอกตลาดฯ แต่สำหรับขาเสี่ยง คือดังนี้ พร้อมแนวรับแนวต้าน ประจำวันนี้

 

Support: - 1316.20 and 1305.87(main). 1288.14

Resistance: - 1338.70 and 1350.02(main)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"โอบามา" เสนอนโยบายเร่งยุติปัญหาการเมือง พร้อมกระตุ้นการจ้างงานสหรัฐ

 

 

นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้เสนอร่างนโยบายเพื่อยุติปัญหาทางการเมือง พร้อมทั้งกระตุ้นการจ้างงานในประเทศ

 

 

นายโอบามาได้ออกแถลงการณ์ด้านเศรษฐกิจครั้งล่าสุดที่เมืองชัตตานูก้า รัฐเท็นเนสซี โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายสหรัฐควรร่างนโยบายที่สามารถมอบความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของสหรัฐเพื่อมอบโอกาสให้ประชาชนที่ทำงานอย่างหนักสามารถประสบความสำเร็จได้ในเศรษฐกิจยุคศตวรรษที่ 21

 

 

เขากล่าวว่า "กว่าสี่ปีครึ่งแล้วที่เราได้พยายามอย่างหนัก เพื่อฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่บั่นทอนความมั่นคงของชนชั้นกลาง โดยชาวอเมริกันกว่าหลายล้านคนต้องเสียตำแหน่งงาน ที่อยู่อาศัย และเงินเก็บ แต่ที่ผ่านมานั้น การช่วยเหลือชนชั้นกลางยังเดินหน้าไปไม่ถึงไหน แม้กระทั่งในช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤติ เราได้ใช้ชีวิตอยู่ในเศรษฐกิจที่คนรวยมีแต่จะได้เปรียบ ในขณะที่บรรดาครอบครัวส่วนใหญ่ยังต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่ออยู่รอด"

 

นายโอบามามองว่า ควรมีการดำเนินนโยบายในทางกลับกัน โดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายควรมีความมุ่งมั่นเพื่อสร้าง "ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" ในการสร้างงานสำหรับชนชั้นกลาง

 

 

นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่า "สหรัฐจะเดินหน้าสร้างงานในภาคอุตสาหกรรมพลังงานลม แสงอาทิตย์และก๊าซธรรมชาติที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อีกทั้งยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและทำให้สหรัฐสามารถลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ"

 

 

"ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องลดการลงทุนในเทคโนโลยีอเมริกันที่ทำให้เราเดินมาถึงจุดนี้ แต่เป็นเวลาที่เราควรเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเป็นเท่าตัวในด้านพลังงานทดแทน เชื้อเพลิงชีวภาพและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า" โอบามากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวว่า " ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทองขยับเขยื้อนแบบ Sideway ปิดแบบนิดๆ หน่อยๆ ขึ้นลง ตอนขึ้นก็พยายามชนแนวต้าน $1338 ให้แตกก็ไม่แตก ตอนลงก็พยายามจะลง แต่ก็ไม่ลง มีอาการพยุงราคาไว้เต็มที่ืเพื่อรอคอย คืนนี้ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และ คืนพรุ่งนี้ ของธนาคารยุโรป แต่ราคาไทย เพิ่มขึ้นไปแล้ว จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ตามสถานการณ์ของการเมืองจะร้อนแรงในเดือนสิงหาคม

 

อนึ่ง ถ้าเรามองว่า จีน รัสเซีย สะสมทองคำเพื่อมรหนุนค่าเงินของเขา ก็ตัองมองด้วยว่า ปริมาณธนบัตรดอลล์สหรัฐฯ ที่ประเทศนั้นๆ มีสำรองก็ยังมากกว่า จะด้วยเหตุผลทางการค้าระหว่างประเทศก็ได้ แต่ก็อย่าลืมกันว่า การที่ราคาทองเคลื่อนไหวมากๆๆ เยอะๆๆ ก็เกิดจากปริมาณซื้อขาย ทองกระดาษ ในสหรัฐอเมริกา จึงอยู่ที่ว่า สหรัฐฯ จะยอมหรือไม่ในสิ่งที่จะเกิด คือ ดอลล์จะอ่อนค่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้น พร้อมกับภาวะหนี้ที่ชนเพดานของสหรัฐฯ

 

ไม่มีการคาดเดาแนวโน้มว่า เป็นทิศทางใด เพราะขออยู่นอกตลาดฯ แต่สำหรับขาเสี่ยง คือดังนี้ พร้อมแนวรับแนวต้าน ประจำวันนี้

 

Support: - 1316.20 and 1305.87(main). 1288.14

Resistance: - 1338.70 and 1350.02(main)

 

 

ป๋าเน้นนิ่ง แล้วอ้ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

German Retail Sales (MoM)

Actual:-1.5%

Forecast:0.4%

Previous:0.7%

Importance:Currency:EURSource Of Report:Destatis (Release URL)

OverviewChartHistory

German Retail Sales measures the change in the total value of inflation-adjusted sales at the retail level, excluding automobiles and gas stations. It is the primary indicator of consumer spending, which accounts for the majority of economic activity.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the EUR, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the EUR.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

German Retail Sales (YoY)

Actual:-2.8%

Forecast:0.4%

Previous:0.8%

Importance:Currency:EURSource Of Report:Destatis (Release URL)

OverviewChartHistory

German Retail Sales measures the change in the total value of inflation-adjusted sales at the retail level, excluding automobiles and gas stations. It is the primary indicator of consumer spending, which accounts for the majority of economic activity.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the EUR, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the EUR.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเฮียเด็กขายของครับ ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับ....ตอนนี้ปวดหัวกับค่าเงินบาทมากๆเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**SETบ่ายร่วง 20 จุด หลังรัฐบาลใช้กม.ความมั่นคงฯคุมม็อบ

 

 

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงต่อหลังจาก

 

รัฐบาลมีมติให้ใช้กฎหมายความมั่นคงในการดูแลสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าและได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าดัชนีคงปรับตัวลดลงอีกไม่มาก เนื่องจากการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฯ ไม่ได้เป็นการใช้ทั้งกรุงเทพฯ แต่เป็นการประกาศใช้เพียง 3 พื้นที่เท่านั้น จึงเชื่อว่าในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในช่วงบ่ายวันนี้อาจมีการดีดตัวข้นมาได้บางจังหวะ รวมถึงในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีได้มีการตอบรับกับเหตุการณ์ดังกล่าวไปมากแล้ว

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัว ขณะเอกชนทยอยรายงานผลประกอบการ

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลงวันนี้ ขณะที่บริษัทต่างๆได้ทยอยรายงานผลประกอบการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนตัว 0.2% แตะ 298.89 เมื่อเวลา 8.08 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 3,973.17 จุด ลดลง 13.44 จุด หรือ 0.34% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 8,235.22 จุด ลดลง 35.80 จุด หรือ 0.43%

หุ้นไบเออร์ ปรับตัวลง 1.1% ส่วนหุ้นวินซี ร่วง 2% หลังจากที่ระบุว่า กำไรอ่อนตัวลง และหุ้นอินเวนซิส บวก 1.7% หลังจากที่บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็กทริก เผยจะซื้อกิจการบริษัทในอัตราเทียบเท่ากับ 502 เพนซ์ต่อหุ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รม.ชุดเล็กถกพรบ.มั่นคงคุมม็อบ-สมช.ชงใช้3เขต

ข่าวการเมือง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2556 13:13น.

 

คณะรัฐมนตรี ชุดเล็ก พิจารณา ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง คุมม็อบช่วงเปิดสภา ด้าน สมช. ชงใช้ 3 เขตดุสิต พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย

ที่ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ชุดเล็ก เพื่อพิจารณา ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ตามที่ สมช. เสนอวานนี้ เพื่อเตรียมใช้ควบคุมดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 1 ส.ค.นี้ ตามที่ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า มีแนวโน้มกระทบความมั่นคง โดยมี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยงานความมั่นคง กอ.รมน. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรอง และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมด้วย

 

ส่วนการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทาง เลขา สมช. ระบุว่า จะมีการบังคับใช้ใน 3 เขต ประกอบด้วย เขตดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และพระนคร โดยมีการเสนอให้ ครม.ชุดเล็ก พิจารณาใน 3 ระยะเวลา ให้จะเริ่มประกาศใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 ส.ค. ช่วง 3-10 ส.ค. และ 1-7 ส.ค. ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาของ ครม. ในวันนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...