ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีตอนเช้าครับป๋า

 

บาทอ่อนมารอท่าอีกแล้ว

 

ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯวันพฤหัสบดีร่วงอีกครั้ง หลังจากรายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯดีจนน่าประหลาดใจ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดปริมาณการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาด...

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดการซื้อ ขายวันที่ 5 ธ.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 68.26 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 15821.51 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500ลดลง 7.78 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 1785.03 จุด ขณะที่ ดัชนีแนสแด็กลดลง 4.84 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4033.16 จุด

 

การลดลงของดัชนีหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสดบี เกิดขึ้นหลังจาก กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานตัวเลขการเติบโตของอัตราเศรษฐกิจมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯ ซึ่งปรากฏว่าโตถึง 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะโตเพียง 3.0%

 

เนื่องจากส่งผลให้ความกังวลของนักลงทุน ว่าเฟดจะลดปริมาณการซื้อพันธบัตรในมาตรการกระต้นเศรษฐกิจในเร็วกว่าที่คาด เพิ่มสูงขึ้นไปอีก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่จะเปิดเผยในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) นี้

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (06/12/56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้จุดปะทุให้เกิดการคาดการณ์ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มพิจารณาการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวกเพียง 0.1% แตะที่ 139.63 จุด เมื่อเวลา 09.41 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,198.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,112.54 จุด ลดลง 64.95 จุด, -0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,982.99 จุด ลดลง 1.78 จุด, -0.09% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,372.61 จุด ลดลง 2.93 จุด, -0.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,823.52 จุด ลดลง 1.34 จุด, -0.07%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,113.61 จุด ลดลง 10.77 จุด, -0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,242.56 จุด ลดลง 4.50 จุด, -0.20% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,031.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.01%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาด QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8%

 

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

หุ้นฮันจิน ชิปปิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ร่วงลง 1.7% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทหันจิน ชิปปิ้ง เป็นหนึ่งในบริษัทชิปปิ้งที่กำลังถูกสหภาพยุโรปตรวจสอบในข้อหาการใช้อิทธิพล ด้านราคาในยุโรป

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 6 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

นายกสมาคมค้าทองคำ มอง ร้านทองซบเซายาวถึงปีใหม่ เหตุกำลังซื้อหาย นักลงทุนยังขาดทุน คาด ก.พ.57 ดีดทะลุ 1,400ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า บรรยากาศการซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณ จากวันนี้จนถึงปีใหม่ คาดว่าจะซบเซาต่อไป จากปกติที่ช่วงนี้จะมีความคึกคัก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนขาดทุนกับการลงทุนทองคำมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากราคาที่มีความผันผวน ทำให้ไม่มีเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม แม้ว่าราคาทองคำในช่วงนี้จะปรับตัวลงก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ราคาทองคำจะสามารถขึ้นไปยืนที่บริเวณ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก่อนที่จะปรับตัวลงมา ทั้งนี้ ขอให้นักลงทุนจับตาประเด็นเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา อย่างใกล้ชิด เพราะมีผลกระทบต่อราคาทอง

 

ที่มา : MSN (วันที่ 6 ธันวาคม 2556)

 

 

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ฮั่วเซ่งเฮงรายงานว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนในการซื้อขายช่วงค่ำของวันพุธ โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,200-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การรายงานการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดเป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ราคาทองปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายวานนี้ราคาทองกลับอ่อนตัวลงอีกครั้งซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการคาด การณ์ว่ารายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีรายงานในช่วงค่ำวันนี้จะออกมาดี เช่นกัน โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,224.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงจากระดับปิดของวันพุธ 18.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,217 และ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 18,600 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,500 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 2.70 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 838.71 ตัน

 

ราคาทองคำแกว่งตัว ค่อนข้างผันผวนในการซื้อขายช่วงค่ำของวันพุธ โดยมีแรงขายออกมามากหลังจากมีรายงานการจ้างงานในภาคเอกชนที่ออกมาดีกว่าคาด แต่รายงานภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขต ที่มีสาขาของธนาคารกลางสหรัฐฯตั้งอยู่ โดยส่วนใหญ่ยังมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก จึงส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับ ก่อนที่ในการซื้อขายช่วงค่ำวานนี้จะมีแรงขายกลับออกมาอีก จนราคาทองกลับอ่อนตัวลง ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนต่างประเมินว่าอาจมีการชะลอการผ่อนคลายทางการ เงินในอีกไม่ช้า โดยรายงานการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนปรากฏว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.15 แสนตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจที่ประเมินว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 1.73 แสนตำแหน่ง นอกจากนั้นยังได้มีการปรับตัวเลขการจ้างงานเดือนตุลาคมขึ้นเป็น 1.84 แสนตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.3 แสนตำแหน่ง และในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ รวมทั้งอัตราการว่างงานเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ ผลสำรวจประเมินว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 1.8 แสนตำแหน่ง หลังจากในเดือนตุลาคมมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.04 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 7.2% จากเดือนตุลาคมซึ่งอยู่ที่ 7.3%

 

ส่วน ภาพเทคนิคของราคาทองยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัว แต่ด้วยระดับการเคลื่อนไหวของเครื่องมือทางเทคนิคในหลายชนิดต่างเคลื่อนไหว ในระดับที่สะท้อนถึงราคาทองคำในปัจจุบันเป็นราคาที่ค่อนข้างถูกในทางสถิติ หากราคาปรับตัวลงต่อคาดว่าจะมีการดีดตัวกลับในระยะสั้นเกิดขึ้นในลักษณะ เดียวกับช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา แนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการดดีดตัวในระยะสั้นยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,200-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,245-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (06/12/56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เฟด" เผย "Beige Book" ระบุเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเล็กน้อยถึงปานกลาง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ...

 

ธนาคาร กลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด ทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ระหว่างวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ว่า "เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลาง" โดยได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่จากกิจกรรมด้านการผลิตและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ

 

ขณะ ที่กิจกรรมด้านการผลิตยังคงขยายตัวในเกือบทุกเขต โดยเฉพาะการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีขั้นสูง ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานยอดขายรถยนต์ทั่วประเทศปรับตัวสูงขึ้นในระดับปานกลางจนถึงแข็ง แกร่ง ส่วนในเทศกาลจับจ่ายใช้สอยที่จะมาถึงนี้ คาดว่ายอดค้าปลีกจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางได้เผยผลสำรวจล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ขณะที่ความก้าวหน้าในการจ้างงาน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้น ยังคงไม่สดใส แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในแค่ 5 ภูมิภาค จากทั้งหมด 12 ภูมิภาค ส่วนที่เหลือแทบไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ภาคธุรกิจทั่วทั้งสหรัฐฯ ผู้ผลิตยังมองแง่ดีถึงโอกาสการเติบโตในระยะสั้น.

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (06/12/56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันขึ้นหลังศก.มะกันขยายตัวเกินคาด แต่หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำลงหวั่นเฟดลดกระตุ้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2556 04:31 น.

 

น้ำมันขึ้นหลังศก.มะกันขยายตัวเกินคาด แต่หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำลงหวั่นเฟดลดกระตุ้น

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5 วันติดวานนี้(5) จากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจและคนว่างงานที่ดีเกินคาดหมายของอเมริกา อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้ก่อความกังวลว่าเฟดอาจลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ จนฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบและทองคำดิ่งลงแรง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 97.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 110.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันนิวยอร์ก มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 ของประเทศ เป็นร้อยละ 3.6 จากเดิมที่ประมาณการณ์ขยายตัวร้อยละ 2.8

 

ขณะเดียวกันยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานก็ลดต่ำกว่า 300,000 อัตราเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวภาคแรงงาน แม้ว่าข้อมูลนี้ของกระทรวงแรงงานอาจได้รับผลกระทบจากช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าก็ตาม

 

อย่างไรก็ดีปัจจัยการขยายตัวทางเศรษฐกิจและข้อมูลภาคแรงงานที่ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ กลับฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(5) ปิดในแดนลบ ด้วยความกังวลว่ามันอาจนำมาซึ่งธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็ววัน

 

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 68.65 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,821.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.74 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,785.07 จุด แนสแดก ลดลง 4.84 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,033.16 จุด

 

ปัจจัยแห่งความกังวลว่าเฟดอาจลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ฉุดให้ทองคำวานนี้(5) ขยับลงกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 15.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150737

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองปิดร่วง $15.3 หลัง ศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

วันศุกร์, 06 ธันวาคม 2556 08:23 | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 15.3 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,231.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

นักลงทุนลดการถือครองทองคำหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8%

 

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

UBS ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจของสวิตเซอร์แลนด์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 1,325 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 19.570 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1363.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 736.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/22978-ag21.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บางที ก็นั่งนึกบนรถฯ ในช่วงการเดินทางไปต่างจังหวัด ประมาณว่า เออเนอะ ถ้าเราเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ มีทีมงานฯ ประกอบด้วย ฝ่ายวางแผน ฝ่ายปฎิบัติ ฝ่ายสนับสนุน และ ฝ่ายกฎหมาย เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริษัทฯ เจริญเติบโต รุ่งเรือง แข็งแรง ทุกอย่างก็ต้องรู้หน้าที่ ปฎิบัติชอบ ประพฤติถูก ตามขั้นตอน ตามหลักฯ ในการทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย รับฟังข้อมูลจากทุกด้าน มาปรับใข้ตัดสิ่งที่ผิดออก

 

- ฝ่ายกฎหมาย ปรึกษาอะไร ให้แนวทางอะไร มีแต่ความผิดพลาด แล้วจะไปเชื่อมันทำไมอีก ต้องเลิกเชื่อได้แล้ว อะไรบอกทำได้ทุกที ผิดกฎหมายทุกที แมร่งจะบ้าไปใหญ่แล้ว

- ฝ่ายวางแผน วางแผนเปิดตัวสินค้าใหม่แต่ละชนิด ผิดพลาด ขาดทุนป่นปี้ / โครงการต่างๆ ที่จะออกมา

- ฝ่ายปฎิบัติ เอาแต่ใจตัวเอง บังคับให้ร้านค้ารับซื้อของที่ไม่ได้ความ ออกโจมตีฝ่ายตรงข้ามเป็นขาประจำ บริหารงานไม่เป็น ไม่มีความรู้ในงานที่ได้รับมอบหมาย มุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่า ส่วนรวม

- ฝ่ายสนับสนุน ก็จับกลุ่มเป้าหมายในความคิดผิดพลาด หันมาใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ ให้ลูกค้า ยอมรับสินค้า ซื้อสินค้าของเขา ใครไม่ซื้อก็หาทางเล่นงานเขา

 

รวมๆๆ กันแล้ว พวกนี้ มีจิตสำนึกต่อองค์กร รู้ถึงความรับผิด รับชอบ กันบ้างหรือเปล่าว่ะ หรือ มันจะทำเพื่อหวังให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ และ ล้มละลายกันแน่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.25/27 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวันพุธที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.26/28 บาท/ดอลลาร์

แนวโน้มวันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ จากปัจจัยการเมืองเรื่องการชุมนุม ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่มีผลในวันนี้ คือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 0.25% ทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงจับตาดูเงินเฟ้อของยุโรป เพราะหากมีแนวโน้มลดลง ก็อาจเป็นปัจจัยที่จะกระตุ้นให้ ECB ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสะกัดกั้นเงินฝืด

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.20-32.40 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันพุธที่ระดับ 102.57 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3666 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันพุธที่ระดับ 1.3666 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.1890 บาท/ดอลลาร์

- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งก็ตาม

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/56 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8% ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

- นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน พ.ย.โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค.และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือน พ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือน ต.ค.

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวกเพียง 0.1% แตะที่ 139.63 จุด เมื่อเวลา 09.41 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้จุดปะทุให้เกิดการคาดการณ์ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มพิจารณาการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 60 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,410 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,235.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 6.5 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงการลดลงของจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 97.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 110.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศโดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะกลับมาร้อนระอุกว่าเดิม ภายหลังแกนนำประกาศเดินหน้านำมวลชนต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณอีกครั้งสู่เป้า หมายการตั้งสภาประชาชน และการขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7

 

ที่มา:ทันหุ้น(วันที่ 6 ธค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 บาร์เรลต่อวัน ในการประชุมเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจาก 12 ประเทศ กลุ่มโอเปค เช่น แอลจีเรีย // แองโกลา // ลิเบีย // คูเวต // กาตาร์ // เวเนซูเอลา ต่างเห็นพ้องกันว่า จะคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ในระดับดังกล่าว

 

 

 

อย่าง ไรก็ตาม กลุ่มโอเปค คาดว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนปริมาณการผลิตน้ำมัน เนื่องจาก การคว่ำบาตรอิหร่านมีแนวโน้มจะถูกยกเลิกในปีหน้า หากอิหร่านยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ ตามที่ชาติมหาอำนาจเรียกร้อง ซึ่งหากมีการยกเลิกการคว่าบาตรอิหร่านเกิดขึ้น ก็จะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

 

 

ทั้ง นี้ กลุ่มโอเปคยังเชื่อว่า การส่งออกน้ำมันดิบในอนาคตมีแนวโน้มสดใส แม้บางประเทศ เช่น สหรัฐฯ จะสามารถผลิตน้ำมันใช้ภายในประเทศตนเองเพิ่มขึ้นก็ตาม

 

ที่มา: money channel (วันที่ 6 ธค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมลง โดยคงจะหันกลับมาจับตาปัจจัยการเมืองกันต่อไป หลังวันพ่อผ่านพ้นไปแล้ว

 

นอกจากนี้ เงินบาทก็อ่อนค่าลงด้วยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯไตรมาส 3/56 ออกมาดี และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานน้อยลง ทำให้ตลาดกลับมากังวลการชะลอมาตรการ QE อีกครั้ง

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกัน ซึ่งอาจเป็นเพราะตลาดต่างประเทศได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วย

 

อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ

 

พร้อมให้แนวรับตลาดหุ้นไทยไว้ที่ 1,370-1,354 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,340 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,390 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,821.51 จุด ลดลง 68.26 จุด(-0.43%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,785.03 จุด ลดลง 7.78 จุด (-0.43%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,033.17 จุด ลดลง 4.84 จุด(-0.12%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 64.95 จุด, -0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.78 จุด, -0.09% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 2.93 จุด, -0.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.34 จุด, -0.07%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.77 จุด, -0.34% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.50 จุด, -0.20% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.01%

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ธ.ค.)ที่ 1,376.63 จุด ลดลง 7.26 จุด(-0.52%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,870.27 ล้านบาท เมื่อ 4 ธ.ค.56

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(5 ธ.ค.)ที่ 97.38 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.18 ดอลลาร์ฯ

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(5 ธ.ค.)ที่ 5.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.25/27 จับตาอุณหภูมิการเมืองร้อนแรงขึ้น

- "แบงก์ชาติ"สั่งทีมเกาะติดฟองสบู่อสังหาฯ หลัง กนง. ลดดอกเบี้ยเหลือ 2.25% หวั่น เติมเชื้อให้เร่งตัวขึ้น สั่งสำรวจคุณภาพการให้ สินเชื่อ ด้านแบงก์มองสินเชื่อบ้านปีหน้าชะลอตัว แม้ลดดอกเบี้ยไม่กระตุ้นฟองสบู่ แนะจับตา ตลาดต่างจังหวัดหลังราคาที่ดินปรับขึ้นเร็ว

 

- ทุนต่างชาติหนีวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ เยนอ่อน-มาตรการสกัดฟองสบู่อสังหาฯ ทุนญี่ปุ่น-จีน รุกหนัก จัดกรุ๊ปทัวร์ตระเวนดูลู่ทางอสังหาฯในไทย หวังชดเชยความเสี่ยงค่าเงิน ด้านโบรกเกอร์นอกชี้ดัชนีสืบค้น อสังหาฯไทย พุ่งจากอันดับ 17 มาอยู่ที่อันดับ 3 ของโลก

 

- กรมบัญชีกลางได้รายงานปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในช่วง 2 เดือนแรกให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รับทราบว่า หน่วยงานราชการต่าง ๆ มีปัญหาการเบิกจ่ายอย่างมาก จนทำให้ยอดการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าอย่างมาก

 

- แบงก์ชาติเดินหน้าผ่อนคลายเกณฑ์การนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศของคนไทยระยะ ที่ 2 ในปี 57 ฝ่ากระแสเงินทุนโลกผันผวน เหตุมีแผนฉุกเฉินรับมือไว้แล้ว ลั่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทย เล็งให้ซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศเป็นสกุลต่างประเทศ พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้น-ตราสารหนี้ต่างประเทศโดยไม่ผ่านตัว กลาง

 

- แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.ครั้งที่ผ่านมากรรมการหลายคนค่อนข้างกังวลกับสถานการณ์การชุมนุมทางการ เมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้ชะลอตัวมากขึ้นกว่าที่เป็น อยู่ เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจบลงเมื่อไหร่ทำให้มีผลลบกับ ความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคความเชื่อมั่นของทางธุรกิจ และมีความสุ่มเสี่ยงว่าจะฉุดให้เศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวอยู่แล้วให้ชะลอตัว ลงไปมากยิ่งขึ้น

 

- อธิบดีกรมศุลกากรเผยการจัดเก็บภาษีของกรมศุลกากรในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ต่ำกว่าเป้า 3,000 ล้านบาท หรือลดลง 14% เนื่องจากมีการใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ที่ ประเทศไทยทำไว้กับประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่เสียภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 70-80%ของสินค้านำเข้าทั้งหมด จากก่อนหน้านี้ที่มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแค่ 60% ทำให้ในปัจจุบันยังมีสินค้านำเข้าแค่ 20-30% เท่านั้นที่ยังเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- SCC(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 580 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/56 ยังแกร่งได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างมั่นคงของอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจเคมี ภัณฑ์ แนวโน้มระยะยาวไปได้ดี เชื่อเป็นบริษัทหนึ่งที่ได้ประโยชน์จาก AEC เพราะเป็นผู้นำและมีศักยภาพในธุรกิจวัสดุก่อสร้างและปิเตรเคมีในภูมิภาค หลังวางรากฐานลงทุนในภูมิภาคต่อเนื่องมาหลายปี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความโปร่งใสในการบริหารงาน คาด Dividend Yield ปี 57 ที่ 4% เป็นหุ้น Top Pick กลุ่มวัสดุก่อสร้าง &ปิโตรเคมี

 

- JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท(ไม่รวม IFF)ถือเป็นหุ้นที่มีทิศทางผลดำเนินงานโดดเด่น ประเมินกำไรสุทธิ 4Q56 ยังเติบโตต่อเนื่องจาก 3Q56 ส่งผลให้ทั้งปีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% YoY และต่อเนื่องถึงปี 57 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นอีก 9% YoY ยังไม่รวมผลบวกจาก IFF ที่คาดตั้งเสร็จภายในเดือน ธ.ค.ที่ถือว่าเป็น Upside

 

- THCOM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 42 บาท แนวโน้ม 56-57 โดดเด่นสุดในกลุ่มสื่อสารที่ศึกษาอยู่ ระยะสั้นผลดำเนินงาน 4Q56 คาดบริษัทจะมีกำไรจากธุรกิจปกติดีที่สุดของปีที่ 390 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 56 ขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 174 ล้านบาทในปี 55 มาที่ 1.34 พันลานบาท ปี 57 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 34% YoY

 

- PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 87 บาท ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ขยับขึ้นโดดเด่นวานนี้เป็นบวกต่อ PTTGC ที่ใช้ก๊าซในการผลิตเป็นหลัก เพราะราคาก๊าซจะขึ้นช้ากว่าน้ำมันดิบ เป็นประเด็นเชิงบวกต่อส่วนต่างราคาปิโตรเคมี พร้อมคาด 4Q56 โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง แม้ไม่มีกำไรสต๊อกน้ำมันจากการใช้กำลังการผลิตจะกลับเพิ่มขึ้นหลังโรงแยก 5 ของ PTT กลับมาเดินเครื่องได้ 50% และโรงงาน LDPE กลับมาผลิตตามปกติ ค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองที่มีใน 3Q56 คาดจะไม่เกิดซ้ำ

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06/12/56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีซีบี มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และประกาศยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป

 

นาย มาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ว่า อีซีบีจะยังคงผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเท่าที่จำเป็น และจะยังคงช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปในยูโรโซน

 

นาย ดรากิ กล่าวว่า อีซีบีกำลังจับตาความคืบหน้าของภาวะตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และพร้อมจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ ขณะที่ความเสี่ยงต่อแนวโน้มด้านราคาโดยรวมมีความสมดุลในระยะกลาง

 

นาย ดรากิ แสดงความคิดเห็นดังกล่าว หลังจากที่อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้

 

การ ตัดสินใจครั้งล่าสุดของอีซีบีอิงกับการวิเคราะห์ของอีซีบีที่บ่งชี้ว่าแรงกด ดันด้านราคาในยูโรโซนได้ผ่อนคลายลงในระยะกลาง โดยอีซีบีคาดว่าเงินฟ้อจะอยู่ที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน ก่อนที่จะมีการปรับตัวขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

ประธานอี ซีบีกล่าวว่า อีซีบีได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปี 2557 ลงสู่ระดับ 1.1% จากเดิมที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.3% แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่า อีซีบีมีความรีบเร่งที่จะดำเนินนโยบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

นัก วิเคราะห์บางราย เชื่อว่าเงินเฟ้อที่ระดับต่ำอาจจะเพิ่มแรงกดดันให้อีซีบีดำนินมาตรการผ่อน คลายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่อีซีบีตั้งเป้าที่จะคงอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับต่ำแต่ใกล้เคียง 2%

 

ทั้ง นี้ อีซีบีได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้เมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินด้วยการประกาศลดอัตรา ดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% จากระดับ 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ย. หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงแตะ 0.7% ในเดือนต.ค.

 

ที่มา: money channel (วันที่ 6 ธค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รวมภาพในหลวงหาดูยาก 273 ภาพ ......... แชร์ได้ทุกภาพ ค่อยๆดูใจเย็นๆ จำลิ้งค์นี้เอาไว้ แล้วค่อยๆอิ่มเอมให้เต็มสัปดาห์ทุกๆท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...