ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีป๋า วันจันทร์แล้วหายไปใหนน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้น,น้ำมัน,ทองUSปิดทำการวันปธน.สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 7:08น.

517252-01.jpg

ตลาดหุ้นสหรัฐ น้ำมัน ทองคำ ปิดทำการ1วัน เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

 

U.S. Stocks

Closed today for Presidents' Day

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=517252

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผิดหวังตัวเลขสหรัฐ ฉุดบาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน

 

updated: 17 ก.พ. 2557 เวลา 20:40:49 น.

 

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

ภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดเงินปริวรรตประจำวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.35/37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 2 เดือน และเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินในภูมิภาค

 

โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวลดลงที่ระดับ -0.4% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันหลังจากเดือนก่อนหน้าออกมาที่ -0.1% นอกจากนี้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนมกราคมปรับตัวลดลง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธันวาคม ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

 

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ หลังจากที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/56 เติบโต 0.6% จากในช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเติบโต 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากการที่มีอุปสงค์ต่อเนื่องจากกองทุนต่างประเทศหลังจากที่สถานการณ์การเมืองในประเทศยังไม่มีความรุนแรง โดยในช่วงบ่ายค่าเงินบาทยังมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.23-32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.25/32.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

 

สำหรับค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.3715/16 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาจากระดับปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ 1.3666/67 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังจากที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 4/56 ของเยอรมัน ฝรั่งเศสและอิตาลี ปรับตัวดีขึ้นเกินคาด โดย GDP ของเยอรมันปรับตัวสูงขึ้นแตะ 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้า และ GDP ของฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จากระดับ -0.1% ในเดือนก่อนหน้า ในส่วนของ GDP ของอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จากระดับ 0.0% ในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับการเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนธันวคมขยายตัวสู่ระดับ 1.39 หมื่นล้านยูโร จากระดับ 9.8 พันล้านยูโรเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป

 

นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรอิตาลีเป็น "มีเสถียรภาพ" จาก "เชิงลบ" เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายกอิตาลีนายเอ็นริโก เลตตา ได้ประกาศลาออก ทำให้คาดว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปมากกว่านี้ ในระหว่างวัน ค่าเงินยูโรยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.3685-1.3723 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3407/10 ดอลลาร์/ยูโร

 

ส่วนค่าเงินเยนเปิดระดับที่ 101.50/52 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์จากระดับปิดตลาดในคืนวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ระดับ 101.94/95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นซึ่งปรับตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาสที่ 4/56 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.7% ซึ่งเป็นผลให้นักลงทุนเข้าถือครองเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงปลายตลาดมีแรงเทขายกลับบ้าง โดยในระหว่างวันค่าเงินเยนมีกรอบการเคลื่อไนหวอยู่ที่ระดับ 101.97-101.98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 101.87/92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

 

ในสัปดาห์นี้ตลาดรอติดตามการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีเงินเฟ้อและดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษ (18/2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมัน ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ (19/2) ตัวเลขราคาผู้ผลิตเยอรมัน ตัวเลขภาคการผลิตและภาคการบริการของประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป และดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐ (20/2) เป็นต้น

 

อัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +5.2/5.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +5.0/5.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1392644508

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold Wins Strongest Returns In 2014 So Far: Goldman Sachs

 

By International Business Times | Commodities News | Feb 17, 2014 06:02PM GMT | | 1 Comment

ibt_news_provider.jpgInternational Business Times

 

 

 

 

 

 

AA

 

 

By Nat Rudarakanchana - After a dismal 2013, gold has actually offered the best returns for the year to date among all asset classes in 2014, according to a Goldman Sachs Group Inc. (NYSE:GS) chart from Monday.

gold_4_309x143.jpgGold Wins Strongest Returns In 2014 So Far: Goldman Sachs

picced1093a8c657b8416a5248d5aa0437a.png

That comes on the heels of a 28 percent decline in gold prices in 2013, its worst year since 1981. Stock markets have been sluggish in early 2014, however, pulling out the brakes after a bullish 2013 gave rise to talk of potential market corrections in 2014.

Still, like many Wall Street analysts, the New York-based investment bank’s metals analysts maintain a dim view of gold prices for the upcoming year. Goldman Sachs’ Jeffrey Currie sees gold averaging $1050 over 2014, down significantly from its current $1318 per ounce.

In the research note sent out Sunday, Goldman Sachs also discussed global equities. It held global macroeconomic conferences in Tokyo and Hong Kong last week, and said the majority of the 2000 attendees were most bullish on equities, relative to other assets, and specifically European equities.

In contrast with Asian investors and portfolio managers, Goldman Sachs predicts that the Japanese stock market will post the strongest returns in 2014.

“It became apparent that Europe is viewed as the ‘default option of choice.’ Past experience has led us to expect a bias in favor of local [Asian] equity markets, but the pattern did not occur this year,” wrote the Goldman Sachs analysts.

There is much apprehension over a Chinese economic slowdown and Japan’s “third arrow” of Abenomics reforms, which has dampened local sentiment, said the analysts.

“Most clients subscribed to our view that the current high valuation of the S&P 500 will result in only modest returns for the index in 2014. By process of elimination, clients believe European equities have the best near-term return possibilities.”

Asia-based equity investors also have a dimmer view of potential gains in the S&P 500 for 2014, relative to their American counterparts, according to the note.

“American home-bias exists. Many US-based investors with whom we have met recently expect the S&P 500 will climb to 2000 - 2200 by the end of this year (+10% to +20%). No investor we met at the macro conference expressed such a positive view of the US stock market,” read the note.

Goldman Sachs forecasted that Japan would post the best total return in 2014, at 23 percent, followed by Asian markets excluding Japan (16 percent), and Europe (12 percent), with U.S. equities in last place at a projected 6 percent return.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคุณป๋า มารอเดาทองน้า มาส่งข่าวหน่อยเด้อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันพุ่งแรงจากอุปสงค์ในสหรัฐฯ หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำขึ้นเล็กน้อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2557 06:03 น.

557000002016401.JPEG

น้ำมันพุ่งแรงจากอุปสงค์ในสหรัฐฯ หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำขึ้นเล็กน้อย

เอเอฟพี/มาร์เก็วอชต์ - ราคาน้ำมันวานนี้(18)พุ่งแรง แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ผลกระทบจากอากาศหนาวปกคลุมสหรัฐฯและความกังวลต่อเสถียรภาพในเหล่าชาติผู้ส่งออกหลัก ส่วนวอลล์สตตรีททรงตัว จากข้อมูลทางศรษฐกิจที่ผสมผสาน ขณะที่ทองคำปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

สภาพอากาศหนาวเหน็บที่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ คือแรงขับเคลื่อนราคาน้ำมันในช่วงหลายสัปดาห์หลัง ด้วยสต๊อกน้ำมันทำความร้อนลดลงเรื่อยๆ บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่

 

นอกจากนี้แล้วนักวิเคราะห์ยังอ้างปัจจัยกำลังการผลิตที่ลดลงในไนจีเรีย ซูดานใต้และเวเนซูเอลา ชาติผู้ส่งออกหลัก ที่เวลานี้กำลังเผชิญความไม่แน่นอนสืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(18) ปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทที่ผสมผสานและความเชื่อมั่นของผู้ก่อสร้างบ้านที่ลดลงโดยไม่คาดคิดมาก่อน

 

ดาวโจนส์ ลดลง 24.28 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,130.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.10 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,840.73 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 28.76 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,272.78 จุด

 

หุ้นของเหล่าบริษัทก่อสร้างที่พักอาศัยตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐฯ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อาศัยลดลงสู่ระดับ 46 จุด ในเดือนก.พ. จาก 56 จุดในเดือนม.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย การขาดแคลนแรงงาน และที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด

 

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้วที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองต่อตลาดที่อยู่อาศัยในเชิงลบมากกว่าในเชิงบวก ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าดัชนีเดือนก.พ.จะอยู่ที่ระดับ 56 จุด

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(18) ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังข้อมูลกิจกรรมการผลิตที่อ่อนแอในพื้นที่นิวยอร์ก ย้ำให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเปราะบาง และส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,324.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000019491

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดลบ 23.99 จุด เหตุข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 06:19:48 น.

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงกิจกรรมการผลิตในรัฐนิวยอร์กที่ชะลอตัวลงในเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐร่วงในเดือนก.พ.

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,130.40 จุด ลดลง 23.99 จุด หรือ -0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,272.78 จุด เพิ่มขึ้น 28.75 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,840.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.13 จุด หรือ +0.12%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อาศัยลดลงสู่ระดับ 46 ในเดือนก.พ. จาก 56 ในเดือนม.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย การขาดแคลนแรงงาน และที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด

 

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้วที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองต่อตลาดที่อยู่อาศัยในเชิงลบมากกว่าในเชิงบวก ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าดัชนีเดือนก.พ.จะอยู่ที่ระดับ 56

 

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ. ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.48 จากระดับ 12.51 ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าว่ากิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนตทิคัต ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า

 

หุ้นโคคา-โคลา ร่วงลง 3.75% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

หุ้นกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านร่วงลง หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐปรับตัวลงในเดือนก.พ. โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ปรับตัวลง 1.3% และหุ้นพัลท์กรุป ร่วงลง 1.2%

 

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดขานรับข่าวที่ว่า บริษัทแอคทาวิสได้ตกลงเทคโอเวอร์กิจการบริษัท ฟอร์เรสท์ ลาบอราทอรีส์ มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นฟอร์เรสท์ ลาบอราทอรีส์ พุ่งขึ้น 27.52%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

http://www.ryt9.com/s/iq18/1839080

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ ช่วงนี้ ตามข่าวสารบ้านเมือง ไม่เวลามาสนใจลงทุนทองคำ ชาติล่มสลาย แล้วจะมีวันในอนาคตเพื่อมาลงทุนทองคำเหรอ และยิ่งเห็นการให้ท้ายของบรรดาแอดมินที่นี่. ที่ไม่สนใจเลยว่า C box คนที่เขาอุ้มชู เขาเขียนอะไรไว้ รู้ไหม คุณกัมพล

 

รหัส 5,35,9 ไปต่อ ทนถือ ถือทน กันต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แวะมาเฝ้าหน้าประตูห้องทุกวัน ป๋าไปไหน เริ่มไม่สบายใจ ขาดการเดาของป๋า เหมือนขาดอากาศหายใจ

แปะให้ MV นี่เสียดาย นักร้องคงไม่ใช่สเป็กป๋า เปลี่ยนเป็นป้าแทนละกัน ( จินตนาการเอง) เอิ้กๆ รู้ด้วยว่าจินตนาการเป็นรูปไร อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในส่วนของรหัส 7,5,2 ซื้อมากเกินไปแล้ว และคืนนี้ มีเปิดเผยรายงานเฟด. / ค่าเงินบาท มีคนพยายามทำให้แข็งค่า เพื่อโอนเงินตราต่างประเทศออกไป แบบรวยอื้อ ระวังแข็งตัวแบบ กิน ไวอากร้า นะครับ คนพวกนี้ เลวมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โห ป๋า ใจตรงกันได้ไง post ห่างกัน2วิฯ อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ 32.50/52 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.45/46 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นไปทำ High 32.67 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดลงมาอยู่ที่ 32.59/60 บาท/ดอลลาร์

 

"สกุลอื่นในภูมิภาคก็อ่อนค่าแต่ไม่แรงเท่าเงินบาท จากประเด็นหลักคือการเมืองในบ้านเรา หลังจากสถานการณ์เมื่อวานที่มีการยิงกัน มีระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย และมีความกังวลไม่แน่ใจว่าวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีก" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.70 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 32.5567 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (18 ก.พ.) อยู่ที่ 2.18264% และ THAI BAHT FIX 6M (18 ก.พ.) อยู่ที่ 2.10568%

 

 

สัญญาทองคำปรับฐานลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

เมื่อเวลาประมาณ 11.20 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ปรับตัวลง 6.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,317.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,324.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ในการซื้อขายที่ตลาดริวยอร์กเมื่อคืนนี้

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำพุ่งขึ้นทั้งสิ้น 4.4% ส่วนเมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเนื่องนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อาศัยลดลงสู่ระดับ 46 ในเดือนก.พ. จาก 56 ในเดือนม.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย การขาดแคลนแรงงาน และที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ. ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.48 จากระดับ 12.51 ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าว่ากิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนตทิคัต ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 19 กพ.57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...