ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ค่าเงินบาท ยังวนเวียนเช่นเดิมๆ 32.42-32.48 ไม่มีข่าวอะไรมากระตุ้น แต่อาจมีในอาทิตย์หน้าในเรื่องของ หนี้สาธารณะของประเทศ ที่มีการเปิดเผยมาลบความน่าเชื่อถือประเทศ จากฝ่ายตรงข้าม ในสิ่งที่พวกเขาเป็นคนสร้างหนี้สาธารณะให้เพิ่มขึ้นมาเอง แบบประชานิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันขึ้น ทองคำลง-หุ้นสหรัฐฯบวกแม้ศก.อเมริกาหดตัวมากกว่าที่คาด

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2557 05:29 น.

 

 

 

 

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กปรับขึ้นวานนี้(25) หลังมีรายงานข่าวบ่งชี้ว่าสหรัฐฯจะผ่อนปรนมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันดิบเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก แม้พบกิจกรรมทางเศรษฐกิจอเมริกาช่วงไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาด ปัจจัยนี้ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอันส่งผลให้ทองคำดีดตัวเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 106.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 114.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร(25) ว่ากระทรวงพาณิชย์เห็นชอบให้ส่งออกน้ำมันที่ยังไม่ผ่านการกลั่นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ ในความเป็นไปได้สำหรับเปิดทางการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่กว่านี้ที่อาจกระทบต่อตลาดน้ำมันดิบสหรัฐฯ

 

ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีกระแสเรียกร้องให้วอชิงตันยกเลิกกฎหมายห้ามส่งออกน้ำมันดิบที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่มีความสำคัญยิ่งต่อชาติที่พึ่งพาน้ำมันนำเข้าเป็นหลักอย่างสหรัฐฯ

 

กระนั้นก็ดีมีเสียงคัดค้านจากบรรดาโรงกลั่นน้ำมันและผู้บริโภคบางรายที่เกรงว่า หากสหรัฐฯ เข้าไปแข่งขันในตลาดส่งออกน้ำมันดิบอาจจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น และสุดท้ายชาวอเมริกันเองก็จะต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นตามไปด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(25) ขยับขึ้นพอสมควร จากข้อมูลทางเศรษฐกิจด้านบวกเมื่อเร็วๆนี้ แม้รายงานของกระทรวงพาณิชย์อเมริกา พบว่าเศรษฐกิจของประเทศช่วงไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 48.74 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,866.87 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.47 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,959.45 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.40 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,379.76 จุด

 

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐฯในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2014 หดตัวถึงร้อยละ 2.9 จากเดิมที่คาดหมายไว้ว่าจะหดตัวแค่ร้อยละ 1.0 ถือเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี

 

อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯบอกว่าการหดตัวของเศรษฐกิจ เป็นผลสืบเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติทำให้ผู้บริโภคไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ขณะที่สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดทำการ ขณะที่ตลาดมองข้ามตัวเลขนี้และเพ่งเล็งไปที่ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้ที่แสดงถึงอัตราการเติบโตที่ร้อนแรงขึ้น

 

ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ไตรมาสแรกที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ในทางกลับกันก็ช่วยดันให้ราคาทองคำวานนี้(25) ปิดบวก 6 วันติด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,322.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000071806

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มิ.ย.2557

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 ก็ตาม

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,867.51 จุด เพิ่มขึ้น 49.38 จุด หรือ +0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,379.76 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,959.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.55 จุด หรือ +0.49%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ในอิรัก

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 341.94 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ปีนี้

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,460.60 จุด ลดลง 57.74 จุด หรือ -1.28% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,867.75 จุด ลดลง 70.33 จุด หรือ -0.71% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,733.62 จุด ลดลง 53.45 จุด หรือ -0.79%

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่สหรัฐปรับลดประมาณการตัวเลขจีดีพียังได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อ สัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,322.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 เซนต์ ปิดที่ 21.116 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,473.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 2.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 833.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 ก็ตาม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 106.5 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 114 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3602 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6979 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6982 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.85 เยน จากระดับ 101.97 เยน และปรับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8928 ฟรังค์ จากระดับ 0.8942 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9400 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9378 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในอิรักและยูเครน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 48.74 จุดหรือ 0.29% ปิดที่ 16,866.87 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 9.47 จุดหรือ 0.49% ปิดที่ 1,959.45 จุด และดัชนีแนสแดก ขยับขึ้น 29.40 จุดหรือ 0.68% ปิดที่ 4,379.76 จุด

 

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวลดลง 1.0% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. นับว่าลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

 

ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ขั้นสุดท้ายในช่วงไตรมาส 1/2557 ของสหรัฐ หดตัวลง 2.9% ซึ่งถือว่าร่วงลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2552 หรือในรอบ 5 ปี

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (26/06/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3602 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6979 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6982 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.85 เยน จากระดับ 101.97 เยน และปรับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8928 ฟรังค์ จากระดับ 0.8942 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9400 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9378 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแรง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายในช่วงไตรมาส 1/2557 หดตัวลง 2.9% ซึ่งถือว่าร่วงลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2552 หรือในรอบ 5 ปี เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติทำให้ผู้บริโภคไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ขณะที่สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดทำการ

 

ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวลดลง 1.0% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. นับว่าลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากความต้องการเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิก และสินค้าทุนด้านกลาโหม ต่างปรับตัวลดลง

 

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังได้หนุนมุมมองของเฟดเกี่ยวกับท่าทีด้าน นโยบายการเงิน ซึ่งเฟดได้ระบุไว้ในแถลงการณ์หลังการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่านโยบายการ เงินที่ผ่อนคลายอย่างมากจะยังคงมีความเหมาะสม และนั่นได้ฉุดดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26/06/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

RSI ไต่ราวบน จนน่ากลัว

 

แต่อดเชียร์ให้ขึ้นไม่ได้จริง ๆ ครับ

 

ขอบคุณ ป๋า มากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกรายงานประจำปี 2556 ที่ผ่านมา โดยได้รายงานงบการเงินประจำปี 2556 พบว่า ในปีที่ผ่านมา ธปท.มีรายได้ทั้งสิ้น 52,529.26 ล้านบาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ยรับ 36,622.58 ล้านบาท รายได้จากค่าธรรมเนียม 697.03 ล้านบาท และเป็นรายได้อื่นๆ 15,209.66 ล้านบาท และมีรายจ่ายรวม 182,006.83 ล้านบาท โดยรายจ่ายดอกเบี้ย 133,140.54 ล้านบาท รายจ่ายที่เกิดจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ จากการเข้าซื้อขายเงินตราต่างประเทศทันทีและล่วงหน้า เพื่อการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทในระหว่างปี 2556 ทั้งสิ้น 42,484.91 ล้านบาท รายจ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 3,811.68 ล้านบาท และรายจ่ายอื่นๆ 2,569.70 ล้านบาท

 

ส่งผลให้ในปี 2556 ที่ผ่านมา ธปท.มีผลขาดทุนสุทธิ 129.477.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนของปีก่อนหน้า 20,477.82 ล้านบาท แต่หากคิดมูลค่าของทุนสำรองทางการระหว่างประเทศทั้งหมดตามหลักบัญชี พบว่า มีกำไรจากการเปลี่ยนแปลงทุนสำรองทางการระหว่างประเทศจากการตีราคาสินทรัพย์ ซึ่งมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทในปีที่ผ่านมา เป็นเงิน 234,148.67 ล้านบาท และมีการขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 280.73 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมงบการเงินตามมูลค่าทางบัญชีของ ธปท.มีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 104,390.37 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ส่งผล ณ สิ้นปี 2556 ธปท.มีทุนติดลบ 426,501.87 ล้านบาท ลดลง 104,390.37 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากต้นปี 2555 และจากสถานการณ์การเมืองในประเทศและความผันผวนของตลาดการเงินต่างประเทศ ขณะที่ตัวเลขของ ธปท.ที่มีผลขาดทุนมากที่สุด เกิดขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่น้อยกว่าดอกเบี้ยจ่าย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ ซึ่ง ธปท.นำเงินทุนสำรองทางการไปลงทุนและ ธปท.ยังต้องดูดซับสภาพคล่องเงินบาทออกจากระบบต่อเนื่อง เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้ในปี 2556 ธปท.มีดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่าดอกเบี้ยรับมากถึง 96,517.96 ล้านบาท แต่การที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศของไทยที่ต่ำลง และการกระจายแหล่งที่นำเงินไปลงทุนของ ธปท.มากขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ผลขาดทุนส่วนนี้ลดลงจากปีก่อนหน้า เป็นเงิน 3,614.34 ล้านบาท.

 

 

 

ที่มา ไทยรัฐ (26 มิถุนายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งมีทั้งดีและแย่กว่าที่ตลาดประเมินเป็น ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองเมื่อคืนนี้เคลื่อนไหวผันผวน...

 

ราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,318.10 ดอลลาร์ ลดลง 0.20 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,309 และ 1,324 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 20,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,100 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 785.02 ตัน

 

ราคาทองปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,310 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศสหรัฐไตรมาสแรกหดตัวลงมากกว่าที่ตลาดประเมิน โดยในช่วงค่ำที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 1 ของปี 2557 หดตัวลง 2.9% ซึ่งถือว่าหดตัวลงแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2552 หรือในรอบ 5 ปี โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติทำให้ผู้บริโภคไม่ออกมาจับจ่าย ใช้สอย ขณะที่สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดทำการ โดยในช่วงก่อนหน้าจะมีการรายงานดังกล่าว ราคาทองปรับตัวลงตอบรับรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ซึ่งปรับตัวขึ้น 61.2 จุด ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 และเป็นการปรับตัวขึ้นจาก 58.1 จุดในเดือนพฤษภาคม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาไร้ทิศทางส่งผลให้ราคาทองแกว่งตัว ผันผวน

 

อย่างไรก็ตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงหลังจากผ่านไตรมาสแรก มาแล้ว โดยรวมมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการหดตัวลงของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกน่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ รับรู้ไปแล้ว การปรับขึ้นของราคาทองจากประเด็นนี้จึงมีกรอบค่อนข้างจำกัด

 

ส่วนในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะมีจำนวน 3.14 แสนราย จากสัปดาห์ก่อนที่ 3.12 แสนราย และนอกจากรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์แล้ว ค่ำวันนี้จะมีการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะขยายตัวขึ้น 0.2% เท่ากับเดือนมิถุนายน

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองในวันนี้โดยรวมแล้วยังไม่แตกต่างไปจากต้น สัปดาห์ แต่ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามากหากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ บริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ เช่นเดียวกับกรณีที่ราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,325 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,330 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ต่อไป.

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (26/06/2557)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.44/46 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.47/48 บาท/ดอลลาร์

 

"ช่วงนี้เงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ไม่ไปไหน ปัจจัยที่มีอยู่ทั้งภายในและภายนอกไม่ effect อะไรเลย" บริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ระบุว่า ปัจจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท แม้จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิรักและยูเครน ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศมีปัญหาจากการกรณีที่สหรัฐจัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(TIP Report) โดยปรับลดระดับให้ไทยไปอยู่ในระดับ 3(Tier 3) ตลอดจนการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศในช่วงใกล้สิ้นเดือนและช่วงกลางปี

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

 

"ปัจจัยก็มีเยอะแต่ไม่ move ตลาดเลย" นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.73/78 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 101.88 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3628/3631 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4750 บาท/ดอลลาร์

 

- ธปท.เผยงบการเงินปี 56 ขาดทุนงวดนี้ 1.29 แสนล้านบาท ทำให้ยอดขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 4.42 แสนล้านบาท สาหตุหลักขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและจ่ายดอกเบี้ยจากการดูดซับสภาพคล่อง ขณะที่สินทรัพย์ หนี้สินลดลง แต่ส่วนของทุนติดลบน้อยลง

 

- เอกชนมั่นใจมาตรการยุโรปไม่กระทบ ส่วนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท ทำกำไรหุ้นบางกลุ่มเพิ่มสูง เตือนก่อสร้างยังเสี่ยง เผยดัชนีปรับตัวดีเพราะเชื่อมั่นเศรษฐกิจ หลัง คสช.ประกาศชัดนโยบายปฏิรูปรัฐวิสาหกิจและโรดแมป ทำครึ่งปีหลังโตก้าวกระโดด แนะระวังข่าวลือ-เงินบาทผันผวน

 

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์, คณะอนุกรรมการฯ และมาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ทั้งระบบ เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการ ลดผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจและสังคมจิตวิทยา

 

- นายนิโคไล มลาเดนอฟ ผู้แทนพิเศษของนายบัน คิ-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เผยแม้ความรุนแรงที่เกิดจากการแบ่งฝักฝ่ายในอิรักนับเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในขั้นร้ายแรง แต่ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้

 

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 ก็ตาม

 

- ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 นอกจากนี้ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ในอิรัก

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้การที่สหรัฐปรับลดประมาณการตัวเลขจีดีพียังได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,322.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 เซนต์ ปิดที่ 21.116 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,473.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.พุ่งขึ้น 2.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 833.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 1/2557 ก็ตาม โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 106.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 114 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3602 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6979 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6982 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.85 เยน จากระดับ 101.97 เยน และปรับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8928 ฟรังค์ จากระดับ 0.8942 ฟรังค์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9400 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9378 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 26 มิถุนายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บริษัทสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (SGX) ผู้ประกอบการตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนจะเปิดตัวสัญญาทองคำแบบกิโลบาร์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดซึ่งมีมูลค่า 18 ล้านล้านดอลลาร์

 

แถลงการณ์ร่วมของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์, สภาทองคำโลก, หน่วยงานส่งเสริมการค้าของรัฐบาลสิงคโปร์ และสมาคมตลาดทองคำแท่งของสิงคโปร์ระบุว่า การซื้อขายสัญญาทองคำแท่งขนาด 25 กิโลกรัมความบริสุทธิ์ 99.9% อาจจะเริ่มขึ้นในราวเดือนก.ย.นี้ โดยจะเปิดทำการซื้อขายในช่วงเช้าเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

 

ทั้งนี้ สิงคโปร์ต้องการแข่งขันกับจีนเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดการซื้อขายทองคำแท่ง ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังหารือถึงการเปลี่ยนแปลงการอ้างอิงราคาในลอนดอนที่ใช้มาเป็นเวลานาน และการที่อุปสงค์ในตลาดโลกเปลี่ยนมาอยู่ทางตะวันออก

 

สภาทองคำโลกมีแผนจะประชุมในประเด็นการเปลี่ยนแปลงการกำหนดราคาทองคำในเดือนหน้า ขณะที่เอเชียมีสัดส่วน 63% ของปริมาณความต้องการทองรูปพรรณ, ทองแท่งและเหรียญทองทั้งหมดในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากระดับ 57% ในปี 2553

 

รัฐบาลสิงคโปร์กำลังส่งเสริมให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการซื้อขายโลหะมีค่าหลังจากยกเลิกการเรียกเก็บภาษีในอัตรา 7% จากสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับทองคำ เงิน และพลาตินัมไปเมื่อเดือนต.ค.2555

 

แถลงการณ์ระบุว่า ภายหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว การซื้อขายทองคำในสิงคโปร์ในปี 2556 มีปริมาณเพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 25 มิถุนายน 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอ้อ...อยากถามป๋ากับเพื่อนๆหน่อยว่า มีใครดูกราฟmt4 ที่เป็นยูเอสกับบาท ไม๊? ไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทไหน อยากได้ลิ้งค์ไปโหลดหน่อยครับ..รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...