ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สื่อ เผย กล้องวงจรปิดในเมืองฮอมส์ จับภาพ รถถังของ รัฐบาลของซีเรีย ออกมาวิ่งในเมือง มีรายงานผู้ประท้วงดับ 20 ราย

 

 

 

สื่อต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศซีเรีย ที่เกิดขึ้นในทั่วเมืองต่างๆ ล่าสุด มีการจับภาพรถถัง ติดอาวุธของกองทัพ ออกมาวิ่งตามถนนในเมืองฮอมส์ โดยในเวลาไล่เลี่ยกัน มีรายงานว่า มีผู้ประท้วงรัฐบาล เสียชีวิต 20 ราย ซึ่งเชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของ รถถัง คันดังกล่าว

 

ทั้งนี้ การประท้วงในซีเรีย ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทางรัฐบาลซีเรีย ที่นำโดย บาเซอร์ อัล-อัซซาด ประธานาธิบดี ได้ใช้ความรุนแรง ปราบผู้ชุมนุม ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไปแล้ว 3 พันราย และสูญหายแบบไร้ร่องรอยอีกหลายร้อยคน

 

 

 

Link : http://www.innnews.co.th/ประท้วงซีเรีย-ยังเดือดรถถังยิงดับ20-ราย--318925_04.html

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นสหรัฐและน้ำมันดิบไนเม็กซ์ ปิดบวก หลัง รัฐบาลกรีซ อาจไม่ทำประชามติเกี่ยวกับข้อตกลงกู้ยืมของอียู ด้าน ทองคำนิวยอร์ก บวกอีก 35.50 ดอลลาร์

 

 

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดในแดนบวกยกกระดานอีกวัน หลัง รัฐบาลกรีซ อาจไม่ทำประชามติเกี่ยวกับข้อตกลงกู้ยืมของอียู ทำให้ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 208.43 จุด หรือ 1.76 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 12,044.47 ดัชนีแนสแดค เพิ่มขึ้น 57.99 จุด หรือ2.20 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,697.97 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.25 จุด หรือ 1.88 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,261.15 จุด

 

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 1.69 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 94.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน เบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก บวก 35.50 ดอลลาร์ หรือ 2.05 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,765.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

Dow+208.43 12,044.47 +1.76%

Nasdaq+57.99 2,697.97 +2.20%

S&P+23.25 1,261.15 +1.88%

 

Oil (Light Crude)

Dec. 2011 contract.$ / barrel Floor 94.07 +1.56 +1.69%

 

Gold

Dec. 2011 contract $ / troy ounce 1,765.10 +35.50 +2.05%

 

Link : http://www.innnews.co.th/หุ้นUS-น้ำมันโลกเพิ่ม1-56-ปิดที่94-07--318916_02.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักข่าวดัง อย่าง เอเอฟพี ยังคงเกาะติดและรายงานเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ของไทยอ พร้อมวิเคราะห์ รัฐบาลไทย จะระบายน้ำที่ท่วมขังในกรุงเทพ และปกป้องพื้นที่กรุงเทพชั้นใน ได้หรือไม่

 

สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า แม้รัฐบาลไทย ได้ออกมาประกาศหลายครั้งว่า จะดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อรักษาและป้องกันพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร ไว้ให้ได้ เพราะเป็นฐานที่มั่นสำคัญทางเศรษฐกิจและศูนย์รวมสำคัญอย่างมากของไทย แต่จากข้อมูลข่าวสารที่สับสนเกี่ยวกับระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตก ยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างหนัก โดยล่าสุด รัฐบาล ได้ประกาศเตือนประชาชนให้เร่งอพยพออกจากบ้านในพื้นที่ 8 เขตของกรุงเทพมหานคร จากทั้งหมด 50 เขตแล้ว

 

ขณะที่ ประชาชนที่เดือดร้อนอย่างหนัก จากน้ำท่วมขังในระดับสูง พากันออกมาประท้วงและทำลายคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กระแสน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ต่าง ๆ ขยายวงกว้างมากขึ้น โดยขณะนี้ พื้นที่ 1 ใน 5 ของกรุงเทพ โดนน้ำเข้าท่วมหมดแล้ว

Link : http://www.innnews.co.th/AFP-ยังเกาะติดน้ำท่วม-กทม-ต่อเนื่อง--318931_04.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เส้นทางปิดการจราจร และเส้นทางควรหลีกเลี่ยงจากน้ำท่วมขัง 4 พ.ย.

 

 

ทิศเหนือ เส้นทางควรหลีกเลี่ยง

-ถ.สายไหม ขาเข้า-ขาออก น้ำท่วมขังตลอดสาย ระดับน้ำ 40-60 ซ.ม.

-ถ.ประเสริฐมนูญกิจ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกเกษตร ถึงแยกลาดปลาเค้า ระดับน้ำ 50 ซ.ม.

-ถ.เสนานิคม 1 ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกเสนานิคม ถึงแยกวังหิน ระดับน้ำ 40 ซ.ม.

-ถ.ลาดปลาเค้า ขาเข้า-ขาออก ตั้งแยกตัด ถ.ประเสริญมนูญกิจ ถึงแยกวังหิน ระดับน้ำ 30 ซ.ม.

-ถ.นวมินทร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ ซ.นวมินทร์ 163 ถึงแยก รามอินทรา กม.8 ระดับน้ำ 50 ซ.ม.

-ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกรัชโยธิน ถึงทางต่างระดับรัชวิภา ระดับน้ำ 40 ซ.ม.

-บริเวณแยกวัดเสมียนนารี ระดับน้ำ 60 ซ.ม.

-ถ.นาวงประชาพัฒนา ตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซ.ม.

-ถ.คู้บอน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ ซ.คู้บอน 19 ถึงหน้า สน.คันนายาว ระดับน้ำ 30 ซ.ม.

-ถ.พระยาสุเรนทร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกคลองสอง ถึงวัดบึงพระยาสุเรนทร์

 

ทิศตะวันออก เส้นทางควรหลีกเลี่ยง

-ถนนสุวินทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกไปรษณีย์มีนบุรี ถึงแยกตัด ถ.ร่มเกล้า ระดับน้ำ 40 ซ.ม.

(เส้นทางเลี่ยงไป จ.ฉะเชิงเทรา สามารถใช้ ถ.รามคำแหงเชื่อม ถ.ร่มเกล้า ถ.มอเตอร์เวย์ ถ.บางนา-ตราด ทางยกระดับบูรพาวิถี)

-ถนนราษฎร์อุทิศ มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซ.ม.

-ถนนประชาร่วมใจ มีน้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซ.ม.

-ถนนหทัยราษฎร์ตัดสุวินทวงศ์(แยกพาณิชยการมีนบุรี) ระดับน้ำ 40 ซ.ม

-บริเวณแยกราษฎร์อุทิศ (ถ.สุวินทวงศ์ตัด ถ.ราษฎร์อุทิศ) ระดับ 50 ซ.ม.

 

ทิศเหนือ ถนนสายหลัก ปิดการจราจร 5 สาย

1) ถ.วิภาวดีรังสิต ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ซอยวิภาวดี 46

2) ถ.พหลโยธิน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกอนุสรณ์สถาน ถึงแยกเสนานิคม

3) ถ.แจ้งวัฒนะ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึงแยกคลองประปา

4) ถ.รามอินทรา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกวงเวียนบางเขน ถึง กม.4(ซ.รามอินทรา 39)

5) ถ.งามวงศ์วาน ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพงษ์เพชร ถึงแยกเกษตร

 

ทิศเหนือ ถนนสายรอง ปิดการจราจร 12 สาย

1) ถ.กำแพงเพชร 6 (ถ.โลคัลโรด) ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านเมืองเอก ถึงหน้าวัดเสมียนนารี

2) ถ.สรงประภา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกศรีสมานถึงแยก กสบ.

3) ถ.เชิดวุฒากาศ ปิดการจราจรตลอดสาย

4) ถ.โกสุมร่วมใจ ปิดการจราจรตลอดสาย

5) ถ.เดชะตุงคะ ปิดการจราจรตลอดสาย

6) ถ.เวฬุวนาราม( วัดไผ่เขียว) ปิดการจราจรตลอดสาย

7) ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 14 ปิดการจราจรตลอดสาย

8) ถ.เลียบคลองสอง ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกพลาธิการกองทัพอากาศ ถึงแยกสะพานปูน

9) ถ.จันทรุเบกษา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยก รร.นายเรืออากาศ(คปอ.) ถึงแยกจันทรุเบกษา

10) ถ.วัชรพล ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกตัดถนนเพิ่มสิน ถึงห้าแยกวัชรพล

11) ถ.เพิ่มสิน (พหลโยธิน 54/1- ถ.สุขาภิบาล 5) ปิดการจราจรตลอดสาย

12)ถ.สุขาภิบาล 5 ปิดการจราจรตลอดสาย

 

ทิศตะวันตก ถนนสายหลัก ปิดการจราจร 8 สาย

1) ถ.จรัญสนิทวงศ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบางขุนนนท์ ถึง สะพานพระราม 7

2) ถ.สิรินธร ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบางพลัดถึงทางต่างระดับสิรินธร

3) ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าถึงแยกบรมราชชนนี

4) ถ.อรุณอัมรินทร์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกอรุณอัมรินทร์ถึงแยก ร.พ.ศิริราช

5) ถ.บรมราชชนนี ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกบรมราชชนนีถึงทางต่างระดับสิรินธร(สายใต้เก่า)

6) ถ.ทางคู่ขนานลอยฟ้า ปิดการจราจรตลอดสาย ไม่สามารถลงพื้นราบได้

7) ถ.บรมราชชนนี (ช่วงพุทธมณฑล) ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ แยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงแยก ถ.ราชพฤกษ์

8) ถ.เพชรเกษม ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ แยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึง ซ.เพชรเกษม 48

 

ทิศตะวันตก ถนนสายรอง ปิดการจราจร 4 สาย

1) ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ปิดการจราจรตลอดสาย

2) ถ.พุทธมณฑล สาย 3 ปิดการจราจรตลอดสาย

3) ถ.อุทยาน ปิดการจราจรตลอดสาย

4) ถ.ศาลาธรรมสพน์ ปิดการจราจรตลอดสาย

 

Link : http://www.innnews.co.th/เส้นทางปิดการจราจร-เลี่ยงน้ำท่วม--318929_03.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

นายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ

 

       บีบีซี - นายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ กลับลำเมื่อวันพฤหัสบดี(3) บอกพร้อมถอนข้อเสนอจัดลงประชามติรับรองมาตรการอัดฉีดจากยูโซน ระบุได้เริ่มเจรจาของเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านแล้ว ซึ่งหากบรรลุผลก็จะทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินหน้าประชามติอีกต่อไป

       

       ถ้อยแถลงของเขาที่บอกว่าจะทำประชามติขออาณัติประชาชนว่าจะเดินหน้าแผนการกู้ฟื้นประเทศหรือไม่ ก่อความขุ่นเคืองแก่ผู้นำชาติยุโรปและคลื่นความช็อกไปยังตลาดทุนทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลว่าหากชาวกรีกปฏิเสธรับรองมาตรการอัดฉีด เอเธนส์อาจล้มละลาย

       

       ขณะที่เขากำลังเผชิญเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง ปาปันเดรอู ร้องขอความสามัคคีภายในพรรคก่อนหน้าการลงมติไว้วางใจในวันศุกร์นี้(4) แต่อีวานเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลัง ก็บอกกับสมาชิกพรรคโซเชียลิสต์ ปาร์ตี (Pasok)ทันทีหลังการกล่าวของปาปันเดรอู ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสถานะสมาชิกภาพยูโรโซน

       

       ทั้งนี้ผู้นำชาติยุโรปยืนยันว่ากรีซจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจนกว่าจะยอมรับข้อตกลงกู้วิกฤตหนี้สินเสียก่อน

              ก่อนหน้านี้นิว เดโมแครต ปาร์ตี พรรคฝ่ายค้านยื่นข้อเสนอเข้าร่วมรัฐบาลผสมหาก ปาปันเดรอู ยอมลาออกจากตำแหน่ง กระนั้นก็ดีผู้สื่อข่าวบีบีซีในเอเธนส์ วิเคราะห์ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น กรีซก็จะถูกโยนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความไร้เสถียรภาพอย่างรุนแรง

       

       ข้อตกลงช่วยเหลือของอียูซึ่งเห็นพ้องเมื่อเดือนที่แล้ว ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า 1.3 แสนล้านยูโรและยอมลดหนี้ในกรีซอีกร้อยละ 50 แลกกับมาตรการรัดเข็มขัดอันไม่เป็นที่นิยม

       

       ปาปันเดรอู บอกว่าการลงประชามติไม่สามารถหาข้อยุติได้ด้วยตัวมันเอง "หากเรามีความเห็นสอดคล้องกัน เราก็จะไม่มีการลงประชามติ หากฝ่ายค้านมีความตั้งใจที่จะเจรจา เมื่อนั้นเราก็พร้อมอนุมัติข้อตกลงนี้และสนับสนุนมัน"

              อนึ่งพรรคโซเชียลิสต์ ปาร์ตี มีเสียงเกินข้างมากของสภาอยู่เล็กน้อย คือ 152 จากทั้งหมด 300 เสียง อย่างไรก็ตาม ปาปันเดรอู เสี่ยงที่จะเจอปฏิวัติกลางรัฐสภา ด้วย ส.ส.ภายในพรรคบางส่วนไม่ยอมให้การสนับสนุนเขา โดยบางรายเรียกร้องให้ยุบสภาหรือจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติแทน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซัมมิต จี-20 เปิดฉากที่ “ฝรั่งเศส” หนักใจปัญหาหนี้กรีซ-ยูโรโซน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2554 20:00 น.

 

ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส จับมือให้การต้อนรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางมาถึงสถานที่จัดประชุมซัมมิต จี-20 ณ เมืองคานส์

 

       เอเยนซี / เอเอฟพี - การประชุมสุดยอดผู้นำ จี-20 เปิดฉากขึ้น ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวานนี้ (3) โดยวาระสำคัญในการถกหารือ ก็คือ การแสวงหาแนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้สินยูโรโซน โดยเฉพาะหลังจากที่ตลาดการเงินเพิ่งเกิดความปั่นป่วนระลอกใหม่ สืบเนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนกรณีที่รัฐบาลกรีซเตรียมจะจัดให้มีการลงประชามติเห็นชอบต่อแพกเกจเงินกู้ฉุกเฉินรอบใหม่จากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

       

       ผู้นำจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้าและเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่รวม 20 ชาติ เดินทางมาร่วมประชุมกันอย่างครบครัน ในเมืองตากอากาศชื่อดังของแดนน้ำหอม เมื่อวานนี้ (3) ท่ามกลางบรรยากาศความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน ซึ่งกำลังลุกลามไปสู่ภาคธนาคารและสถาบันการเงิน

       

       ก่อนหน้าการประชุมจะเริ่มต้นขึ้นหนึ่งวัน ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ได้ขอให้นายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ เดินทางมาพบปะหารือกันฉุกเฉิน 3 ฝ่าย หลังจากผู้นำกรีซได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาดเงินทั่วโลก จากการที่เขาประกาศเมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) ที่ผ่านมา ว่า กรีซจะจัดให้มีการลงประชามติต่อแพกเกจเงินกู้ฉุกเฉินรอบที่ 2 ของอียูและไอเอ็มเอฟ ทั้งที่การเจรจาต่อรองเงื่อนไขอย่างยากลำบากระหว่างเจ้าหนี้เพิ่งบรรลุข้อสรุปไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

       

       นอกจากนี้ ผู้นำกรีซ ยังส่งหนังสือถึงบรรดาผู้นำอียู เพื่อขอเปิดการเจรจาต่อรองในรายละเอียดเงื่อนไขของแพกเกจเงินกู้รอบสองนี้อีกครั้งก่อนหน้าการลงประชามติ ซึ่งคาดว่าน่าจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้บรรดาชาติยุโรปโกรธกริ้ว อีกทั้งยังทำให้พวกเขาไม่ไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาลเอเธนส์มากขึ้นด้วย

       

       นายกรัฐมนตรี แมร์เคิล กล่าวหลังการหารือสามฝ่ายเมื่อวันพุธ (2) ว่า “พวกเราต้องการจะสร้างเสถียรภาพให้แก่ค่าเงินยูโรด้วยกันกับกรีซ มากกว่าที่จะทำมันโดยที่ปราศจากกรีซ”

       

       ขณะที่ ซาร์โกซี ก็กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับผู้นำหญิงของเยอรมนี ว่า “เพื่อนชาวกรีกของพวกเราจำเป็นต้องตัดสินใจแล้วว่า พวกเขาต้องการจะเดินทางร่วมกับพวกเราต่อไปหรือไม่”

       

       นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังเตือนกรีซด้วยว่า พวกเขาจะไม่ได้รับเงิน “แม้แต่เซนต์เดียว” จากทั้งอียูและไอเอ็มเอฟ หากเอเธนส์ไม่ยอมปฏิบัติตามกรอบเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

       

       ซาร์โกซี และ แมร์เคล เผยด้วยว่า ขุนคลังจากยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินตราสกุลยูโรซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 17 ประเทศ จะนัดประชุมกันอีกครั้งในวันจันทร์หน้า (7) เพื่อเร่งหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับกองทุนช่วยเหลืออันเป็นเสมือนกำแพงปกป้องสมาชิกที่มีฐานะการคลังอ่อนแอ

       

       ขณะเดียวกัน อียูและไอเอฟ ระบุในวันพุธ ว่า กรีซจะยังไม่ได้รับเงินกู้ฉุกเฉินก้อนแรกงวดถัดไปเป็นจำนวน 8,000 ล้านยูโรภายในเดือนนี้ โดยที่อาจต้องรอไปจนกระทั่งผ่านพ้นการลงประชามติเสียก่อน เนื่องจากบรรดาเจ้าหนี้ต้องการให้แน่ใจก่อนว่ารัฐบาลเอเธนส์จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเคร่งครัด

       

       แหล่งข่าวในอียู เปิดเผยด้วยว่า โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ส่งสารข้างต้นให้แก่นายกฯ ปาปันเดรอู ก่อนหน้าที่บาร์โรโซจะเดินทางถึงเมืองคานส์เพื่อเข้าร่วมประชุมซัมมิต จี-20

       

       นอกเหนือจากประเด็นเรื่องกรีซและวิกฤตหนี้ยูโรโซนซึ่งคาดว่าจะครอบงำการประชุมคราวนี้แล้ว สหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งและสองของโลกก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ต้องเร่งจัดระเบียบความเรียบร้อยภายในบ้านของตนเองเช่นกัน หลังจากที่รายแรกกำลังประสบปัญหาหนักเรื่องการขาดดุลงบประมาณและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่รายหลังกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง

       

       สำหรับบรรยากาศอื่นๆ ก็ปรากฏว่า ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมจี-20 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการนั้น บรรดาผู้นำจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ (บริกส์) ประกอบด้วย ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ ของบราซิล, ประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย, นายกรัฐมนตรี มานโมหัน ซิงห์ ของอินเดีย, ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา แห่งจีน และประธานาธิบดี จาคอป ซูมา ของแอฟริกาใต้ ได้หารือร่วมกันนอกรอบที่โรงแรมคาร์ลตัน ในเมืองคานส์ เพื่อกำหนดจุดยืนร่วมกันก่อนการประชุมซัมมิตด้วย

       

       ทั้งนี้ อียูพยายามตามจีบกลุ่มชาติบริกส์ซึ่งกำลังทวีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ บนเวทีโลก ให้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือขยับขยายฐานะของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) โดยหวังจะให้ประเทศเหล่านี้ซื้อพันธบัตรที่ตนออกมา เพื่อที่ว่าตนจะสามารถนำเงินจากกองทุนดังกล่าวไปให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแก่ประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ประสบปัญหาด้านการคลังในอนาคตได้

       

       ล่าสุด จีนแสดงท่าทีพร้อมจะให้ความช่วยเหลือยุโรปในเรื่องนี้ แต่ก็ยื่นเงื่อนไขว่า ยุโรปจะต้องรับประกันเสียก่อนว่าแนวทางแก้ไขปัญหาในกรีซจะได้ผล โดยหลี่ เต้าขุย หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เลอ ฟิเกโรของแดนน้ำหอมเมื่อวานนี้ (3) ว่า รัฐบาลจีนอาจซื้อบอนด์เป็นจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์ (73,000 ล้านยูโร)

       

       ขณะที่บราซิลแสดงท่าทีก่อนหน้านี้ว่า ไม่ต้องการซื้อบอนด์ที่ออกให้โดยยุโรป ทว่า อาจจะมอบความช่วยเหลือผ่านทางกองทุนที่บริหารจัดการโดยไอเอ็มเอฟแทน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนะจี20ใส่ใจวิกฤตน้ำท่วมไทยหลังกลายเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจโลก

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2554 01:02 น.

       เดอะโกลบแอนด์เมล์ - ขณะที่ทุกคนต่างแสดงความวิตกต่อปัญหาหนี้ยูโรโซน นักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งของแคนาดา เตือนไปถึงการประชุมจี20 ว่าควรให้ความสำคัญกับวิกฤตอุทกภัยในไทยด้วย เนื่องจากปัญญาน้ำท่วมนี้ได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกไปแล้ว

       

       "จงจับตามองไปที่ไทย" จิมมี จีน นักเศรษฐศาสตร์ ณ สถาบันเดสจาร์ดินส์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ในมอนทรีออล แคนาดา โน๊ตถึงลูกค้าเมื่อวันพุธ(2)

       

       ขณะที่การประชุมกลุ่มจี20 ในเมืองคานส์ของฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายนนี้ ทุกฝ่ายต่างพูดถึงควมพยายามต่อเส้นชีวิตของยุโรป แต่ จีน มองว่ากรีซและอิตาลี ไม่ใช่แค่เพียง 2 ประเทศที่ปัญหาของพวกเขาได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกเท่านั้น และวิกฤตอุทกภัยในไทย ได้ย้อนให้นึกถึงความเจ็บปวดของเศรษฐกิจโลกจากหายนะทางธรรมชาติในญี่ปุ่น

       

       วิกฤตในไทยก็เสมือนภัยพิบัติถล่มญี่ปุ่นในเวอร์ชันที่เล็กกว่า ทว่าประเทศแห่งนี้ก็เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ และนายจีน บอกว่าบริษัทฮอนด้า สาขาแคนาดา ต้องลดชั่วโมงทำงานล่วงเวลาลงจนถึงเดือนพฤศจิกายน สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงทางห่วงโซ่อุปทาน

       

       นอกจากนี้นายจีนเตือนต่อว่าจงอย่าได้ลืมวิกฤตทางอาหารที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อในราคาข้าวและสินค้าอื่นๆ เนื่องจากไทยกับเวียดนามคือผู้ส่งออกข้าวคิดเป็น 2 ใน 3 ของการค้าข้าวทั่วโลก และตอนนี้ปัญหาอุทกภัยส่งผลให้ไทยสูญเสียการผลิตข้าวไปถึง 1 ใน 4 ทำให้ราคาข้าวจึงกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ

       

       "สถานการณ์นี้ยังคงไม่คลี่คลาย แต่ผลกระทบต่อการค้าโลกและภาวะเงินเฟ้ออาจรุนแรงกว่าที่คาด" นายจีนบอก "ขณะที่วิกฤตนี้ถูกตีค่าว่าความเสี่ยงทางลบ บางทีอาจน้อยกว่าเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิของญี่ปุ่น แต่ความกังวลที่แท้จริงกคือเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางอยู่แล้วสามารถรองรับปัจจัยช็อคเพิ่มเติมได้อย่างจำกัด"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

       เอเจนซีส์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สวนทางแนวโน้มการว่างงานที่คาดว่าจะเดินหน้าต่อ พร้อมเตือนวิกฤตหนี้ยุโรปเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ กระนั้น แบงก์ชาติแดนอินทรียันยังไม่จำเป็นต้องอัดฉีดเพิ่มเติม แต่เลือกรอดูสถานการณ์ไปก่อน

       

       เบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวเมื่อวันพุธ (2) ในการให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ว่าแม้กิจกรรมเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังเป็นความคืบหน้าที่ค่อนข้างช้า นอกจากนั้น ยังมีความเสี่ยงขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปัญหาการคลังและการธนาคารของยุโรปที่สร้างความตึงเครียดแก่ตลาดการเงินโลกในขณะนี้ และมีแนวโน้มส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นและการเติบโต

       

       กระนั้น เฟดได้ติดตามสถานการณ์ของยุโรปอย่างใกล้ชิด และเปิดช่องทางสำหรับการที่เฟดจะรับซื้อหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันด้วยอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมเพื่ออัดฉีดภาคที่อยู่อาศัย หากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตกต่ำลง

       

       ทั้งนี้เฟดได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอเมริกันปีนี้เป็น 1.6-1.7% ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ 2.5-2.9% ซึ่งในเดือนมิถุนายนได้ให้ตัวเลขที่สวยหรูกว่านี้คือระหว่าง 3.3-3.7% ขณะที่อัตราว่างงานไม่น่าต่ำกว่า 8.5-8.7% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมที่ 7.8-8.2% และจะยังคงอยู่ที่ 6.8-7.7% ตอนปลายปี 2014

       

       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดเชื่อว่าการจ้างงานจะเติบโตเต็มที่เมื่ออัตราว่างงานลดเหลือ 5.2-6%

       

       ประธานเฟดสำทับว่า นโยบายด้านการเงินขณะนี้อาจมีประสิทธิภาพน้อยลงกว่าในอดีต ในทางกลับกัน นโยบายเศรษฐกิจที่ยังติดขัดเพราะความขัดแย้งระหว่างรัฐสภากับทำเนียบขาว จะมีผลต่อการเติบโตและการจ้างงานมากกว่า

       

       ทั้งนี้ คำแถลงจากการประชุม 2 วันของเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ แสดงให้เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่มีสิทธิออกเสียง มีความสอดคล้องต้องกันเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจมากกว่าการประชุมคราวก่อนซึ่งฝ่ายต่อต้านส่วนน้อย เรียกร้องให้ใช้นโยบายคุมเข้มเพื่อป้องกันอัตราเงินเฟ้อพุ่งในระดับเกินควบคุม

       

       สำหรับครั้งนี้ สมาชิกเอฟโอเอ็มซี 9 จาก 10 ซึ่งรวมถึงเบอร์นันกี้ โหวตให้คงนโยบายเดิม มีเพียงชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโก ที่ต้องการให้เพิ่มแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ

       

       อย่างไรก็ดี คำแถลงของเฟดไม่ได้พาดพิงถึงข้อเรียกร้องของนักเศรษฐศาสตร์ให้กำหนดเป้าหมายการเติบโตที่ชัดเจน บ่งชี้ว่านโยบายระยะยาวของแบงก์ชาติเมืองลุงแซมคือการกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน พร้อมกันนั้น เบอร์นันกี้ยังเสริมว่า ปฏิบัติการ ‘โอเปอเรชัน ทวิสต์’ ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายนด้วยการนำพันธบัตรระยะสั้นมูลค่า 400,000 ล้านดอลลาร์ออกขายและนำไปลงทุนในพันธบัตรระยะยาวแทน เพื่อฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลงและส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงานนั้น เริ่มส่งผลแล้ว

       

       ทางด้านคาร์ล มิลส์ ประธานจูริกา, มิลส์ แอนด์ คีเฟอร์ อินเวสต์เมนท์ พาร์ตเนอร์สในโอ๊กแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ให้ความเห็นว่า ขณะนี้สายตาทุกคู่ในตลาดเบนข้ามแอตแลนติกไปจดจ่อที่การประชุมผู้นำจี 20 ในวันพฤหัสฯ และศุกร์ (3-4) ที่เมืองคานส์ ฝรั่งเศส ซึ่งมีประเด็นหารือสำคัญคือวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังคุกคามแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สื่อนอกเชิดชูพระอัจฉริยภาพ “ในหลวง” วางโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2554 09:36 น

 

       เอเจนซี - สำนักข่าวระดับโลกเผยแพร่รายงานเชิดชูพระอัจฉริยภาพ “ในหลวง” ที่ทรงวางโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนท่ามกลางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เรื่องที่ประชาชนไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก จนกระทั่งต้องเผชิญมหาอุทกภัยครั้งเลวร้าย

       

       บทความเรื่อง In Thailand, a battle royal with water ระบุว่า อุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของไทย คือสิ่งที่พระองค์พยายามอย่างหนักสำหรับหาทางปกป้องมาตลอด พระองค์ทรงเคยเตือนแต่ไม่มีใครใส่ใจต่อการถึงการพัฒนารวดเร็วเกินไป และทรงมีแนวคิดต่างๆ เพื่อบรรเทาความเสียหายจากการหนุนของน้ำทะเลในแต่ละปี นอกเหนือจากการรับมือกับฤดูน้ำหลาก

       

       วิกฤตของประเทศไทยจากน้ำท่วมใหญ่เวลานี้ ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนเกือบ 400 ราย และ พลเมืองนับแสนต้องกลายเป็นผู้อพยพ เป็นทั้งบทเรียนที่แสนแพงจากการละเลยคำเตือนของพระองค์และการฝืนควบคุมพลังธรรมชาติที่มีศักยภาพเหนือกว่ากำลังของมนุษย์

       

       ในบทความของเอพียังอ้างนักวิเคราะห์จากต่างประเทศตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่มีความสามารถในการประสานงาน และวางแผนการจัดการน้ำให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ทัดเทียมพระองค์ บางสิ่งที่หลายคนวิจารณ์ว่าไทยขาดแคลนโดยสิ้นเชิง

       

       แม้ในเวลานี้ที่เมืองหลวงของไทยกำลังดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับมวลน้ำที่ไหลหลั่งมา พระองค์ก็ยังทรงแนะนำถึงแนวทางการผันน้ำจากทางตอนเหนือลงสู่ทะเลโดยตรง ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่ไม่เหมือนกับในอดีตเพราะพระสุรเสียงของพระองค์ก็ไม่อาจดลใจให้ภาครัฐดำเนินการตามที่พระองค์มีรับสั่งได้

       

       เอพีระบุว่า ในหลวงทรงมีผลงานด้านการจัดการน้ำโครงการแรกเมื่อปี 1963 โดยทรงสร้างเขื่อนกั้นน้ำจืดเพื่อป้องกันน้ำทะเลปนเปื้อนในแหล่งน้ำจืดที่อำเภอหัวหิน และจนถึงวันนี้ทรงมีโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,300 โครงการ โดยร้อยละ 40 ของโครงการเหล่านั้นเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำ

       

       เดวิด เบลค ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำแห่งมหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลีย ประเทศอังกฤษ ซึ่งทำวิจัยเกี่ยวกับโครงการจัดการน้ำในประเทศไทย กล่าวว่า “นโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ และการดำเนินการตามแนวพระราชดำริ ที่พระองค์ทรงทุ่มเทเวลากว่า 40 ปี ในการดำเนินการ”

       

       “แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเอเชียเฟื่องฟู พระองค์ก็ทรงเฝ้าเตือนประชาชนเกี่ยวกับอุทกภัย การจราจรติดขัดและความทุกข์ยากต่างๆ” นายโดมินิก เฟาล์เดอร์ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กำลังจะตีพิมพ์กล่าว “แต่น่าเสียดายที่คำเตือนนั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากไม่อยากได้ยิน เปรียบได้ดั่งยาขมที่ทุกคนไม่ต้องการรับประทาน”

       

       เขาบอกต่อว่า “พระองค์ทรงมุ่งหวังพยายามคลี่คลายปัญหา ทว่าก็ถูกโต้เถียงจากนักการเมือง และข้อเท็จจริงก็คือสิ่งที่เรากำลังได้เห็นในตอนนี้”

       

       บทความของเอพีระบุว่า พระองค์ทรงตั้งชื่อโครงการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ว่า “แก้มลิง” โดยอธิบายจากพฤติกรรมของลิงที่พระองค์ทรงเลี้ยงครั้งยังทรงพระเยาว์ ที่เก็บอาหารไว้ที่กระพุ้งแก้มให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะกลืนลงคอในภายหลัง

       

       ทั้งนี้ น้ำทางเหนือที่กำลังมุ่งสู่กรุงเทพฯ จะถูกเปลี่ยนทิศไปยังแก้มลิง ก่อนจะไหลลงทะเลหรือเข้าสู่ระบบชลประทานอย่างรวดเร็ว โดยโครงการนี้ยังรวมไปถึงการสร้างแหล่งเก็บน้ำต่างๆเช่น บ่อ ลำคลอง และประตูน้ำ พร้อมๆ กับการปรับปรุงระบบการระบายน้ำในกรุงเทพฯ จนทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ไม่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมนานกว่าทศวรรษ

       

       เบลคกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในโครงการนี้จะมีชุมชนบางส่วนรอบกรุงเทพฯต้องเสียสละเพื่อปกป้องใจกลางเมืองหลวง และบางครั้งหน่วยราชการก็ผันน้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรแทนที่จะเป็นแหล่งเก็บน้ำ อย่างไรก็ตามเวลานี้พื้นที่ที่สามารถเป็นแก้มลิงทั้งทางตะวันตก ตะวันออกและทางเหนือของเมือง กลายสภาพเป็นเขตอุตสาหกรรม บ้านเรือนราษฎร สนามกอล์ฟและสนามบินนานาชาติไปเสียแล้ว

       

       ในช่วงต้นปี 1971 พระองค์ทรงเคยเตือนว่า การตัดไม้ทำลายป่าในผืนป่าทางเหนือของประเทศอาจจุดนวนอุทกกภัยในอนาคต เนื่องจากจะไปลดประสิทธิภาพของดินในการดูดซับน้ำ และวันนี้ก็เป็นที่ยอมรับแล้วว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุทกภัยครั้งนี้ด้วย

       

       ขณะที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า พระองค์ทรงให้ความสำคัญต่อการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน พระองค์ที่ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งประเทศ ส่งเสริมให้เรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นวาระแห่งชาติ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

SYDNEY (MarketWatch)-- Australian stocks rose in early Friday trading, tracking solid gains for offshore markets after reports Greece had dismissed plans for a financial-bailout referendum and the European Central Bank unexpectedly cut interest rates.

 

The benchmark S&P/ASX 200 AU:XJO +2.46% added 2.2% to 4,264.40. Resource firms were among the best performers, with BHP Billiton Ltd. AU:BHP +3.78% BHP +2.09% rising 3.9%, Rio Tinto Ltd. AU:RIO +4.73% up 4.3% and iron-ore producer Fortescue Metals Group Ltd. FSUMY +0.76% gaining 4.7%. Banks also improved, with Australia & New Zealand Banking Group Ltd. AU:ANZ +2.83% ANZBY +0.69% rising 1.7% and Commonwealth Bank of Australia Ltd. AU:CBA +2.02% gaining 2.3%.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Japanese stocks shot higher in their return to trading Friday following a holiday, with relief over Greece's cancelling of a referendum on the European bailout and overnight gains on Wall Street supporting the Tokyo market. The Nikkei Stock Average JP:NIK +1.44% added 1.5

 

ตลาดนิกเคอิ บวกสูงแต่เช้า ในวันศุกร์ และค่อนข้างมีความหวังที่กรีซ จะยกเลิกการทำประชามติ แบบ กลับลำ ( เอ๊ะ ! เดี๋ยวนี้ การเมือง กับ ประชาชน ชอบใช้คำว่า กลับลำ )

แล้ว ประชาชน ก็ต้องทำใจ รับภาระหนี้ของกรีซ อย่างมัดมือชก ทั้งต้องเรียกเก็บภาษีเพิ่มจิปาถะ ภาษีรายได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้น เด็กขายของ ว่า เรื่องนี้ ไม่น่าจบแค่

คำว่า " กลับลำ " คงได้มีการออกมาทำอะไรให้เอิกกริก ในฝั่งของประชาชนบ้าง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

4 พย. 2554 07:30 น.

 

นายอิศราเมศร์ คชานุกูลย์ ผอ.เขตจตุจักร ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว ในพื้นที่เขตจตุจักร มี 5แขวง น้ำท่วมไปแล้ว คือแขวงลาดยาว เสนา จตุจักร และจันทรเกษม เหลือเพียงแขวงเดียวคือ แขวงจอมพล "เราเฝ้ากันทุกชั่วโมง น้ำไปเร็วมากน้อยแล้วแต่สภาพพื้นที่สูงต่ำ อยากให้ปชช.เตรียมตัวให้พร้อมอาจจะไม่สะดวกจากน้ำท่วมถนน ตอนนี้สวนจตุจักรยังไม่ท่วม "

 

 

08:06 น.

ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวบ้านซอยถนนรังสิต-นครนายก 13 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ยังคงอยู่กับบ้าน ไม่ยอมย้ายไปศูนย์พักพิงชั่วคราวที่หน่วยงานของรัฐจัดไว้ให้เพราะเกรงว่าถ้าย้ายไปอยู่ศูนย์พักพิง อาจถูกพวกมิจฉาชีพช่วยโอกาสเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ภายในบ้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีกำลังมีน้อย ประกอบกับผลกระทบของอุทกภัยในครั้งนี้เกินกว่าที่

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอขอบใจท่านเด็กขายของหลายๆเด้อ

บ่เป็นหยังดอก ! อ้ายเม้ง๑๖๖

ยินดีเสมอครับ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...