ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อรุณสวัสครับท่านเด็กขายของและพี่ๆทุกท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

spiders-web.jpg

 

SPDR -9.08 ตัน

อรุนสวัส ทุกท่าน spdr +9 มะใช่หรือ เฮีย ที่ ราคา 1756 ถือตอนนี้ 1277

ถูกแก้ไข โดย arthas

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Morning ครับทุกท่าน

 

สต็อกน้ำมันลด ดันน้ำมันดิบพุ่งทะลุ102เหรียญ/บาร์เรล ดาวโจนส์ลบ190จุด ทองลง7.90เหรียญ

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังสถาบันจัดอันดับ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนว่า ธนาคารของสหรัฐจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากวิกฤตหนี้ยุโรปลุกลาม นอกจากนี้ มูดี้ส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของสหรัฐอีกรายหนึ่ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 10 แห่งในเยอรมนี โดยให้เหตุผลถึงเรื่องที่รัฐบาลให้การสนับสนุนค่อนข้างน้อย ในช่วงเวลาเกิดวิกฤต

 

หลังปิดตลาดดาวโจนส์ลดลง 190.57 จุด หรือ 1.58% ปิดตลาดที่ระดับ 11,905.59 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 20.90 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ระดับ 1,236.91 จุด ดัชนี แนสแดคลดลง 46.59 จุด หรือ 1.73% ปิดที่ 2,639.61 จุด

 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)ปรับขึ้นแรงจนทะลุ100ดอลลาร์/บารืเรล ล่าสุดราคาส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.22 ดอลลาร์ หรือ 3.24% ปิดตลาดที่ระดับ 102.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับลดลง

 

ด้านราคาทองคำที่ตลาดนิวยอร์ก(COMEX)ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดตลาดที่ระดับ 1,774.3 ดอลลาร์/ออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Morning ครับทุกท่าน

 

สต็อกน้ำมันลด ดันน้ำมันดิบพุ่งทะลุ102เหรียญ/บาร์เรล ดาวโจนส์ลบ190จุด ทองลง7.90เหรียญ

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังสถาบันจัดอันดับ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนว่า ธนาคารของสหรัฐจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากวิกฤตหนี้ยุโรปลุกลาม นอกจากนี้ มูดี้ส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของสหรัฐอีกรายหนึ่ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 10 แห่งในเยอรมนี โดยให้เหตุผลถึงเรื่องที่รัฐบาลให้การสนับสนุนค่อนข้างน้อย ในช่วงเวลาเกิดวิกฤต

 

หลังปิดตลาดดาวโจนส์ลดลง 190.57 จุด หรือ 1.58% ปิดตลาดที่ระดับ 11,905.59 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 20.90 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ระดับ 1,236.91 จุด ดัชนี แนสแดคลดลง 46.59 จุด หรือ 1.73% ปิดที่ 2,639.61 จุด

 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)ปรับขึ้นแรงจนทะลุ100ดอลลาร์/บารืเรล ล่าสุดราคาส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.22 ดอลลาร์ หรือ 3.24% ปิดตลาดที่ระดับ 102.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับลดลง

 

ด้านราคาทองคำที่ตลาดนิวยอร์ก(COMEX)ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดตลาดที่ระดับ 1,774.3 ดอลลาร์/ออนซ์

เจอแท่งมะวานน้ำมันผม ตกใจเลยแต่มันไม่ดึงทองไปด้วยแฮะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุนสวัส ทุกท่าน spdr +9 มะใช่หรือ เฮีย ที่ ราคา 1756 ถือตอนนี้ 1277

 

ขอโทษครับ เมื่อเช้ากะลังตกใจกะลงต่ำเมื่อคืน แล้วก็เด้งขึ้นมา ตื่นเช้ามาลงอีกแล้ว ก็เลย

 

เหมาไปว่า spdr ขายออก ต้องขอโทษด้วยครับ ตื่นเช้ามาก สงสัยเมาอุจจาระตา :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณเด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอโทษครับ เมื่อเช้ากะลังตกใจกะลงต่ำเมื่อคืน แล้วก็เด้งขึ้นมา ตื่นเช้ามาลงอีกแล้ว ก็เลย

 

เหมาไปว่า spdr ขายออก ต้องขอโทษด้วยครับ ตื่นเช้ามาก สงสัยเมาอุจจาระตา :lol:

 

วันนี้มองยังไงครับ เฮีย ผม มึนมากวันนี้ มอง เวย์ไม่ออก เลย แต่ ใจ มอง น่าจะลงไปเทส 50 > <

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงที่ผ่านมา ถึง ตอนนี้ มีสิ่งมิติใหม่ เกิดกับศิลปะการพูด

 

เมื่อ ผู้ถาม ถามคำถาม เพื่อหวังได้ คำตอบ กลับปรากฎว่า คำตอบแทนที่จะได้รับ กลับกลายเป็นคำถามย้อนกลับมา

แล้วเมื่อตอบคำถามกลับไปอีกที เพื่อจะได้ คำตอบ กลับเปลี่ยนเป็น คำแถ ไปนอกเรื่อง แล้วแบบนี้ คนสองคนจะคุย

กันรู้เรื่องหรือเปล่าเนี่ย เวรกรรม ใครมันสั่งสอน

ไม่มีใครสอนหรอก มันเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่ชาติปางก่อน คุณเด็กขายของว่ามั๊ย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มะวานวันหวยแห่งชาติ น้องทองทำเสียสถิติหมดเลยดันลงหมดท่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

06:36 น.

เมื่อเวลา 22.50 น. เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.54) ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชน เขียนข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ ชื่อผู้ใช้ @somkiatonwimon ว่า ฟังคำแถลงของท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ที่ตอบรัฐมนตรี Hillary Clinton และพบว่าภาษาอังกฤษของนายกฯยิ่งลักษณ์ใช้สื่อสารเป็นทางการไม่ได้เลย พอๆกับภาษาไทย ในการสื่อสารกับต่างประเทศเป็นทางการ นายกฯยิ่งลักษณ์ควรพูดภาษาไทย เพราะภาษาอังกฤษใช้การไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่องและอาจผิดพลาดจนประเทศไทยเสียหาย ส่วนการสื่อสารกับคนไทยเป็นภาษาไทย นายกฯยิ่งลักษณ์ก็จำเป็นต้องฝึกซ้อมทำความเข้าใจกับเรื่องที่พูดหรืออ่านบท แล้วฝึกการอ่านออกเสียงให้พร้อมก่อน นายกฯยิ่งลักษณ์จะไปประชุมสุดยอดอาเซียนที่บาหลี น่าห่วง จะพูดอะไรกับผู้นำอาเซียนอีก 9 ชาติ และผู้นำชาติ+8 ขอให้ใช้ล่ามกระทรวงต่างประเทศดีกว่า ก่อนไปบาหลีขอให้กระทรวงต่างประเทศให้ความรู้เรื่องอาเซียนแก่นายกฯยิ่งลักษณ์ให้ครบถ้วนและตามช่วยให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ท่านทุกย่างก้าว กลัวพลาด เรื่องการต่างประเทศ ไม่มั่นใจในพื้นความรู้ของนายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีต่างประเทศสุรพงษ์จริงๆ ทั้งห่วงทั้งกลัวว่าจะพลาดพลั้งแล้วแก้ไขไม่ได้

ถ้างั้น เต้าหู้ ก็เป็นนายกได้ซิ เพราะมีคนให้ข้อมูลและแนะนำ ทุกย่างก้าว (ทุกย่างก้าว จริงๆหรือคะ)คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องการต่างประเทศเท่านั้น น่าจะเป็น ทุกๆเรื่องด้วย โอ้! พระสยามเทวาธิราช ได้โปรดช่วยคนไทย ด้วยเถิด ลูกไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว ไ้ด้แต่ยกสองมือขึ้นพนม ทุกครั้งที่ได้เห็น พระเจ้าอยู่หัว ทางโทรทัศน์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายฟรังซัวส์ บารวง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส บอกว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสชะลอตัว แต่ไม่ได้ถดถอย และรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ระดับ AAA

 

นายบารวงบอกด้วยว่า งบประมาณปี 2555 ฉบับแก้ไขจะเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปีหน้า โดยไม่ต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม

 

ด้านเครดิตเรตติ้งนั้น มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บอกว่ากำลังประเมินแนวโน้มเครดิตระดับ AAA ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ หากฝรั่งเศสถูกปรับลดเครดิตลง อาจจะส่งผลต่อการระดมทุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป หรือ EFSF ซึ่งปัจจุบันมีเครดิตระดับ AAA โดยอ้างอิงจากประเทศยุโรปชั้นนำ 6 ประเทศที่สนับสนุนกองทุนอยู่

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'จีน'มองข้ามช็อตเตรียมรับสถานการณ์หลัง'ยูโรโซน'แตก

จีนกำลังตำหนิตักเตือนสหภาพยุโรปที่ “โยนหลักการของตัวเองทิ้งลงถังขยะ” เรื่องนี้ถือเป็นการหักเลี้ยวกลับ 180 องศาจากอดีตเพียงเมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งประดาเจ้าหน้าที่ของอียูในกรุงบรัสเซลส์ต่างหากที่เที่ยวเลกเชอร์สั่งสอนปักกิ่งในเรื่องการบริหารจัดการเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้พออกพอใจอยู่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนบทบาทแบบกลับตาลปัตรเช่นนี้เท่านั้น หากแต่ยังกำลังเร่งวางแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือในกรณีที่เขตยูโรโซนเกิดแตกออกเป็นเสี่ยงอีกด้วย

       

       ปักกิ่ง – ถ้าหากชาวจีนที่เป็นพวกมุ่งกล่าวโทษระบบประชาธิปไตยเสรีนิยม และการพัฒนาตลาดอย่างไม่บันยะบันยัง ยังคงต้องการวัตถุดิบเพิ่มเติมสำหรับใช้โจมตีเล่นงานฝ่ายตะวันตกแล้ว พวกเขาก็ย่อมสามารถมองหาเลือกหยิบเอาได้อย่างมากมายจากละครตลกร้ายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกรีซเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ทว่านอกเหนือจากพาดหัวข่าวตามสื่อมวลชนจีนที่ประกาศ “การล่มสลายของยุโรป” แล้ว ก็แทบไม่ปรากฏอารมณ์ความรู้สึกแห่งชัยชนะทางด้านอุดมการณ์อะไรอีก ตรงกันข้ามปักกิ่งเวลานี้กลับมุ่งสาละวนกับการวางแผนฉุกเฉินด้านต่างๆ เพื่อใช้รับมือเมื่อถึงคราที่เขตยูโรโซนเกิดแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ตลอดจนมุ่งดูดซับเก็บรับบทเรียนจากการทำตัวเป็นรัฐสวัสดิการอย่างล้นเกินของยุโรป

       

       ในอดีตที่ผ่านมาปักกิ่งต้องตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง เมื่อพยายามมุ่งรักษาเสถียรภาพทางสังคมของตนเอาไว้เหนือสิ่งอื่นใดแม้กระทั่งจะหมายถึงการเหยียบย่ำทำลายสิทธิเสรีภาพของพลเมืองก็ตามที มาในบัดนี้แน่นอนทีเดียวที่ปักกิ่งย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะหัวเราะเย้ยหยันกรุงบรัสเซลส์เอาบ้าง จากการที่สหภาพยุโรป (อียู) กลับกำลังกลายเป็นผู้ป่าวร้อง “มนตราแห่งเสถียรภาพ” เสียเองอยู่ในขณะนี้

       

       “การล่มสลายของยุโรปเป็นสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้แล้ว” เป็นคำประกาศที่ปรากฏอยู่ในบทบรรณาธิการฉบับวันจันทร์ (7) ของหนังสือพิมพ์ “สารธุรกิจศตวรรษที่21” (21st Century Business Herald) บทบรรณาธิการนี้บอกว่า แทนที่ยุโรปจะยอมรับความเป็นจริงที่ว่ากรีซนั้นล้มละลายแล้วและจะไม่สามารถชำระหนี้สินของตนได้อีกต่อไปแล้ว ยุโรปกลับ “โยนหลักการของตัวเองทิ้งลงถังขยะไปเสียฉิบ”

       

       การที่ “เสถียรภาพผงาดอยู่เหนือหลักการ” เช่นนี้ คือสัญญาณอีกประการหนึ่งของ “การเสื่อมทรามลงไปในด้านจิตวิญญาณของยุโรป” บทบรรณาธิการชิ้นนี้ตอกย้ำ

       

       จวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เอง เป็นบรัสเซลส์ต่างหากที่คอยเล็กเชอร์สั่งสอนปักกิ่งในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการเศรษฐกิจ แต่ในบัดนี้พวกผู้นำจีนกลับมองเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องตักเตือนตำหนิสหภาพยุโรป แม้กระทั่งก่อนหน้าการประชุมซัมมิตกลุ่ม จี-20 ที่เมืองคานส์ในช่วงต้นเดือนนี้ซึ่งประสบความล้มเหลวอย่างน่าอับอายเสียอีก พออียูแสดงให้สาธารณชนเห็นอย่างชัดเจ้งแทงตาว่าไร้ความสามารถที่จะเดินตามแผนการกู้ภัยยูโรโซนซึ่งพวกเขาเองสู้อุตส่าห์จัดทำขึ้นมาอย่างลำบากลำบน นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีนก็ได้ออกโรงส่งเสียงตักเตือนด้วยถ้อยคำที่ดุดันไม่น้อย

       

       “ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือจะต้องดำเนินมาตรการอย่างเฉียบขาดเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สินขยายตัวออกไปอีก จะได้ทำให้ตลาดการเงินสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะปั่นป่วนผันผวน ตลอดจนหลีกเลี่ยงภาพวเศรษฐกิจถดถอย และการกระเพื่อมแกว่งตัวแรงของเงินยูโร” เวินบอกกับประธานสภายุโรป (European Council President) เฮอร์มาน ฟาน รอมปุย (Herman Van Rompuy) ระหว่างที่เขาต่อโทรศัพท์ไปพูดคุยด้วยเมื่อปลายเดือนตุลาคม คำวิจารณ์เช่นนี้ของนายกรัฐมนตรีจีน ฟังแล้วชวนให้รู้สึกขึงขังเคร่งเครียด เพราะมันแตกต่างเป็นตรงกันข้ามกับที่ปักกิ่งได้เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนหน้านี้ว่า มีความเชื่อมั่นว่ายุโรปจะสามารถฟันฝ่าเอาชนะปัญหาของพวกเขาได้

       

       “นอกเหนือจากมาตรการเร่งด่วนต่างๆ เพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้แล้ว กุญแจสำคัญที่สุดก็คือจะต้องทำการปฏิรูปทางการคลังและทางการเงินถึงขั้นตลอดทั้งระบบและลงลึกถึงระดับพื้นฐาน” เวินกล่าวกับรอมปุยในอีกตอนหนึ่ง ทั้งนี้ตามรายงานที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน

       

       ยิ่งหลังจากการประชุมซัมมิตที่เมืองคานส์ด้วยแล้ว ปักกิ่งแสดงท่าทีเหมือนกับได้สูญเสียความเชื่อมั่นเสียแล้วว่าบรัสเซลส์ยังมีน้ำยาเพียงพอที่จะดำเนินการปฏิรูปขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นต้องกระทำ การประชุมสุดยอดกลุ่มจี-20 คราวนี้ตอนแรกเริ่มทีเดียวมุ่งหมายที่จะให้เป็นเวทีสำหรับการแก้ไขปรับแต่งแผนกู้ภัยยูโรโซนที่อียูจัดทำออกมากันเป็นขั้นสุดท้าย และเกลี้ยกล่อมชักชวนให้บรรดาเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อย่างเช่นจีน โอนอ่อนยอมควักเอาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอันมากมายมหาศาลของพวกเขาออกมา เพื่อให้เป็นทุนสำหรับแผนการกู้ชีวิตของยุโรปดังกล่าวข้างต้น แต่แล้วทุกอย่างก็วุ่นวายและพังครืนไปหมดจากการที่ จอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซในขณะนั้นเกิดประกาศตูมขึ้นมาในตอนนั้นว่า เขาจำเป็นต้องจัดการลงประชามติให้ประชาชนชาวกรีกตัดสินว่ายอมรับแผนการช่วยเหลือที่อียูกำหนดออกมาหรือไม่

       

       ซัมมิตจี-20 ปิดฉากลงในวันที่ 4 พฤศจิกายนโดยที่ปราศจากผลที่เป็นรูปธรรมใดๆ เลย ถึงแม้ในเวลาต่อมา ปาปันเดรอู ยอมยกเลิกแนวความคิดที่จะจัดการลงประชามติ อีกทั้งเขายังเป็นฝ่ายชนะในการลงมติไว้วางใจของรัฐสภา ทว่าความเสียหายก็ได้เกิดขึ้นแล้ว (และในที่สุดตัวปาปันเดรอูต้องยอมลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ของกรีซที่เป็นรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติขึ้นมา -ผู้แปล) ความไม่แน่นอนทางการเมืองเช่นนี้หมายความว่า ไม่ว่าจีนหรือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ไม่มีใครเลยที่ตกลงโอเคร่วมควักกระเป๋าเข้าร่วมแผนการกู้ภัยของยุโรป

       

       “ถ้าประเทศเล็กๆ อย่างกรีซที่เศรษฐกิจมีขนาดเป็นเพียงแค่ 3% ของเศรษฐกิจอียูโดยรวม ยังสามารถทำให้สหภาพยุโรปโดยรวมเสียขบวน และจับเอาการประชุมซัมมิตของบรรดามหาอำนาจทั่วโลกไปเป็นตัวประกันได้เช่นนี้ มันก็เท่ากับส่อแสดงให้เห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความบกพร่องของการบูรณการทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของอียู” เซี่ย เหวินฮุ่ย (Xia Wenhui) คอมเมนเตเตอร์ด้านเหตุการณ์ปัจจุบันชาวจีนแสดงความคิดเห็น

       

       ยังมีคอมเมนเตเตอร์ชาวจีนบางคนเปรียบเทียบการรวมยุโรป กับการรวมจักรวรรดิให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ จิ๋นซีฮ่องเต้ (259 ก่อน ค.ศ. - 210 ก่อน ค.ศ.) จักรพรรดิองค์แรกของจีน โดยชี้ให็นว่า จิ๋นซีฮ่องเต้นั้นรวมเอารัฐต่างๆ ที่สู้รบแข่งขันกันมานานช้าให้กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทางการเมืองก่อน จากนั้นจึงค่อยประกาศใช้สกุลเงินตราร่วม

       

       ขณะที่ก่อนหน้าซัมมิตเมืองคานส์ จุดโฟกัสในปักกิ่งดูจะเป็นเรื่องสนับสนุนหรือคัดค้านการที่จีนจะเข้าซื้อหนี้สินของยูโรโซนเพิ่มมากขึ้น แต่ในบัดนี้ความสนใจได้เปลี่ยนไปเป็นเรื่องการหาทางป้องกันไม่ให้วิกฤตลุกลามเข้ามาสร้างความเสียหาย คอมเมนเตเตอร์ทางทีวีต่างส่งเสียงเตือนว่า “คลื่นยักษ์สึนามิทางการเงิน” ลูกใหม่กำลังเคลื่อนเข้ามาแล้ว จึนควรต้องเร่งรีบเสริมเขื่อนทำนบของตนให้แข็งแรงขึ้นอีก และเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากที่จะมากับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่

       

       ด้วยโมเดลการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาศัยการส่งออกเป็นตัวนำของปักกิ่ง ทำให้ต้องพึ่งพาตลาดยุโรปเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ยุโรปคือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนทีเดียว ดังนั้น วิกฤตที่เกิดขึ้นกับเขตยูโรโซนจึงได้ส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงโรงงานในแดนมังกรเรียบร้อยแล้ว โดยที่โรงงานจำนวนมากได้รับออร์เดอร์ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกลดฮวบลง เศรษฐกิจถดถอยที่กำลังคืบคลานเข้าสู่ยุโรป ย่อมหมายความว่าโรงงานจีนจะต้องบาดเจ็บสาหัสยิ่งขึ้นไปอีก

       

       นอกจากนั้น ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเวลานี้ ประมาณหนึ่งในสี่ทีเดียวเป็นสินทรัพย์สกุลยูโร ดังนั้น ถ้าหากยูโรโซนเกิดล้มครืนลง ปักกิ่งจะต้องประสบความเสียหายไปด้วยอย่างมหาศาล

       

       กระนั้นก็ตาม วิกฤตกรีซก็ยังให้บทเรียนอันมีค่าบางประการต่อปักกิ่งอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะในเรื่องการปฏิรูประบบสวัสดิการสังคม ซึ่งกำลังจะกลายเป็นปัญหาอันหนักหน่วงของทางการจีนในอนาคตข้างหน้า

       

       “เราต้องเอาใจใส่ระมัดระวังว่า จากขนาดของประชากรทั่วประเทศของเรา และจำนวนคนเกษียณอายุที่จะเป็นตัวเลขมหึมามากในอนาคตข้างหน้า ระบบบำนาญของเราจะต้องมีความเหมาะสม” เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนผู้หนึ่งกล่าวโดยขอให้สงวนนาม “ถ้าเศรษฐกิจของจีนเกิดซวนเซขึ้นมา และเราไม่สามารถที่จะจ่ายผลประโยชน์ทางสังคมต่างๆ เหล่านี้ได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นมาในจีนจะต้องมีขนาดใหญ่โตกว่าที่เราเห็นกันอยู่ในกรีซมากมายนัก”

 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2554 08:55:56 น.

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.85/87 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.82/83 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินยูโร และมีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง

 

"บาทอ่อนค่ามาเล็กน้อยจากช่วงท้ายตลาดวานนี้ตามค่าเงินยูโรที่มีข่าวลบค่อนข้างมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 77.00/08 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 76.90 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3442/3446 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.3540 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะอยู่ในกรอบระหว่าง 30.70-31.00 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้ที่ 8,479.63 จุด บวก 16.47 จุด

 

**ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 4,258.20 จุด เพิ่มขึ้น 10.80 จุด

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...