ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ยอดสั่งสินค้าฮวบเหตุหนี้อียูรุนแรงหวั่นมังกรทรุดตาม

 

กิจกรรมการผลิตจีนเดือน พ.ย.ร่วงครั้งแรกในรอบ 33 เดือน ชี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกทำภาคการผลิตหดตัว ด้านนักวิเคราะห์เผยมาตรการเสริมสภาพคล่องของธนาคารกลาง 6 ประเทศ ไม่ช่วยแก้วิกฤตหนี้

 

สมาพันธ์โลจิสติกส์และจัดซื้อแห่งชาติจีน เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมการผลิตของจีนในเดือน พ.ย. ลดลงมาอยู่ที่ 49 จุด ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 33 เดือน ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันตรายล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังลุกลามไปทั่วโลกจนฉุดภาคการผลิตของจีนให้หดตัวลงอย่างรุนแรง

 

รายงานระบุว่า ดัชนีพีเอ็มไอของจีนในเดือน พ.ย.ลดลงอยู่ที่ 49 จุด จาก 51 จุด เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว ในขณะที่ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 หมายถึงกิจกรรมการผลิตที่หดตัว

 

“ตัวเลขดังกล่าวน่าตกใจมาก โดยสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการคุมเข้มการเงินที่ผ่านมาของรัฐบาลเพื่อควบคุมเงินเฟ้อส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนัก” อลาสแตร์ ตอร์นทัน นักวิเคราะห์จากองก์กรด้านเศรษฐกิจไอเอชเอส กล่าว

 

ขณะเดียวกัน การชะลอตัวด้านกิจกรรมการผลิตครั้งนี้ยังเป็นผลจากยอดสั่งซื้อสินค้าที่ลดลงท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดหลักของสินค้าจีน

 

ด้าน จางหลี่ฉิน นักวิเคราะห์ของรัฐบาล เปิดเผยว่า ดัชนีพีเอ็มไอที่อ่อนแอเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่รุนแรงถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ยังคงแข็งแกร่งอยู่

 

การเปิดเผยตัวเลขดังกล่าว มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังธนาคารกลางจีนได้ประกาศผ่อนคลายนโยบายทางการเงินด้วยการลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า วิกฤตหนี้ยุโรปเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนส่อเค้าที่จะฉุดเศรษฐกิจแดนมังกรอย่างหนัก

 

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ธนาคารกลาง 6 ชาติ ได้แก่ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางของอังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ ยังได้ประกาศมาตรการเสริมสภาพคล่องในตลาดโลกด้วยการเปิดเครือข่ายสวอปไลน์ หรือการลดค่าธรรมเนียมการกู้เงินเหรียญสหรัฐให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ลง 0.5% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้หุ้นในตลาดยุโรปและสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 30 พ.ย.

 

ด้านตลาดหุ้นเอเชียก็ขานรับข่าวดี โดยปรับตัวสูงขึ้นช่วงเปิดตลาด วันที่ 1 ธ.ค. ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.4% ดัชนีดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง 5.9% และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ 3.72%

 

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายออกโรงเตือนว่า การเปิดเครือข่ายสว็อบไลน์นั้น ไม่ใช่กุญแจสู่การแก้วิกฤตหนี้ยุโรป โดยเป็นเพียงการซื้อเวลาให้ยูโรโซนบรรลุแผนแก้หนี้เท่านั้น

 

“การเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดจะไม่ช่วยแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ” มาซาอากิ ชิรากาวา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าว โดยย้ำว่าทุกฝ่ายยังคาดหวังว่ายุโรปจะเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจและการคลังเพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้ครั้งนี้ให้ได้

 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์ดอทคอม (วันที่ 2 ธันวาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พาณิชย์ลุ้นกนง.หั่นดบ.อีกรอบช่วยกดราคาสินค้า ของแพงดันอัตราเงินเฟ้อเพิ่ม4.19% (02/12/2554)

เงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนกระฉูด หลังราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มดาหน้าสูงขึ้น ด้านปลัดพาณิชย์เชื่อทั้งปีอยู่ในกรอบ 3.8%พร้อมคาดหวังถกบอร์ดกนง.นัดหน้าหั่นดอกเบี้ย ลงอีกรอบ ช่วยลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ

 

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2554 พบว่าอยู่ที่ระดับ 113.31 เพิ่มขึ้น 4.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับสูงขึ้น10.21%โดยกลุ่มที่มีราคาปรับขึ้นสูง เช่น กลุ่มผักและผลไม้สดปรับเพิ่มขึ้น 17.11% ,เครื่องประกอบอาหารเพิ่มขึ้น 14.47% อาหารบริโภคในบ้านเพิ่มขึ้น 12.64%และกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น 10.84% ขณะที่ราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ปรับขึ้นเพียง 0.54% ซึ่งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะ และราคาสินค้าในกลุ่มสื่อสารปรับลดลง

 

อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อของเดือนนี้ถือว่าปรับตัวไม่สูงอย่างที่หลายฝ่ายกังวลเพราะยังถือว่าเทียบเท่ากับเดือนก่อนหน้า อีกทั้งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับลดถึงไตรมาส 1 ของปี 2555 ส่วนเงินเฟ้อช่วง 11 เดือนปี 2554 เพิ่มขึ้น 3.83% และมองแนวโน้มเดือนธันวาคม เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงเฉลี่ยไม่เกิน 4% ทำให้อัตราเฉลี่ยทั้งปี 2554 เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.8% โดยมีปัจจัยบวกต่างๆ คือ 1.ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง เพราะขณะนี้ใกล้ผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวในต่างประเทศ ขณะเดียวกันประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะไม่ลดปริมาณการผลิตเพราะต้องการนำเงินไปใช้ในการซื้อยุทโธปกรณ์มากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกก็ยังชะลอตัวทำให้แนวโน้มการใช้น้ำมันลดลง ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่วนเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น 2.สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงมาก ทำให้การขนส่งเป็นไปตามปกติ 3.แหล่งผลิตสินค้าอาหารที่สำคัญไม่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และ 4.กำลังซื้อของประชาชนลดลงจากผลกระทบน้ำท่วม และต้องใช้จ่ายเงินไปกับการซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย ทำให้การบริโภคลดลงตามไปด้วย

 

นอกจากนี้การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือเพียง 3.25%จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าลดลงได้ แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการซ่อมแซมบ้าน จึงไม่เพิ่มด้านการบริโภค อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์เองคาดหวังให้ปรับดอกเบี้ยลง 0.5% จึงหวังว่าการประชุมกนง.ในเดือนหน้าจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิจสินค้าของผู้ประกอบการ ส่วนมาตรการลดการช่วยเหลือด้านค่าไฟแก่ประชาชนจากเดิมกำหนดใช้ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 90 หน่วย เหลือเพียง 50 หน่วยนั้นจะมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อน้อยมาก หรือไม่เกิน 0.1%

 

นายยรรยงกล่าวด้วยว่าสำหรับแนวโน้มในปี 2555 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะไม่เกิน 3.8% โดยราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบที่ดูไบราคาไม่เกิน 95-115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ 29-33 บาทต่อดอลลาร์ ประกอบกับในปีนี้ ยังมีมาตรการจากรัฐบาลที่จะช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ เช่นมาตรการตรึงราคาก๊าซธรรมชาติ รถเมลฟรี รถไฟชั้น 3 ฟรี ค่าเล่าเรียนและชุดนักเรียนฟรี

 

ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลังกล่าวแสดงความเห็นด้วยที่กนง.มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพราะมองว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับหนึ่งหลังจากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา

 

"ส่วนตัวต้องการเห็นกนง. แต่ละบุคคลแสดงความคิดเห็นออกมาให้สาธารณะชนได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดในการลงมติพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้แก่นักวิเคราะห์ได้นำไปประเมินทิศทางเศรษฐกิจของไทยต่อไป และยังเป็นการได้รับรู้ว่ากนง. บุคคลใดมีแนวทางอย่างไรต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน" นายธีระชัยกล่าว

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 2 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวต่อรัฐสภายุโรปในวันนี้ว่า ความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนได้เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับเผยว่า อีซีบีจะดำเนินมาตรการชั่วคราวอย่างจำกัด ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลก็ตาม

 

นายดรากิยังได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นเหมือนเมื่อครั้งเริ่มก่อตั้งธนาคารกลางยุโรป และยังได้กล่าวย้ำอีกครั้งถึงบทบาทหน้าที่หลักของธนาคารกลางในการควบคุมเงินเฟ้อ

 

ประธานอีซีบีคนใหม่กล่าวว่า การนำกฎเกณฑ์ทางการคลังพื้นฐานของภูมิภาคมาประมวลใหม่นั้น เป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นความเชื่อมั่น

 

"ผมเชื่อว่า สิ่งที่สหภาพเศรษฐกิจและการเงินของเราจำเป็นต้องมีก็คือ ข้อตกลงความร่วมมือด้านการคลังฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการนำกฎเกณฑ์ทางการคลังพื้นฐานที่มีอยู่มารวมเข้ากับข้อกำหนดทางการคลังต่างๆที่รัฐบาลของประเทศในยูโรโซนได้เห็นชอบร่วมกัน" ดรากิกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการนำสิ่งที่ยูโรโซนเสนอมาปรับให้เข้ากับสหภาพเศรษฐกิจและการเงิน

 

เขากล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือด้านการคลังฉบับใหม่มีความจำเป็น เพราะจะกำหนดให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตหนี้ซ้ำอีก

 

ขณะเดียวกัน นายดรากิกล่าวว่า มาตรการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรปไม่ได้มีเป้าที่จะผลิตเงินใหม่ หรือ ให้เงินอุดหนุนรัฐบาล พร้อมระบุว่ามาตรการแทรกแซงที่อีซีบีนำมาใช้ อย่างเช่นการซื้อพันธบัตร จะเป็นการดำเนินการในกรอบที่จำกัดเท่านั้น

 

นายดรากิกล่าวด้วยว่า อีซีบีตระหนักว่า ภาคธนาคารยังคงประสบกับความยากลำบากต่างๆนานา โดยเฉพาะในการเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม อีซีบีได้ปล่อยเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์มากตามที่ขอแล้ว เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของสินเชื่อสู่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ

 

"ที่ผ่านมา อีซีบีได้อัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมหาศาลแล้ว และตอนนี้ เราเห็นว่า สภาพคล่องนี้กำลังถูกดูดซับออกผ่านธุรกรรมการรับฝากเงินของอีซีบี ซึ่งหมายความว่า ประเด็นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีสภาพคล่องมากเท่าไร แต่ข้อเท็จจริงคือสภาพคล่องนี้ไม่ได้มีการหมุนเวียนจริง" นายดรากิกล่าส "สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอีซีบีก็คือการกระตุ้นให้สินเชื่อกลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง"

 

นอกจากนี้ ประธานอีซีบียังได้กล่าวถึงการที่ธนาคารกลางชั้นนำ 6 แห่งของโลกได้ดำเนินมาตรการแทรกแซงร่วมกัน เพื่อทำให้การกู้ยืมในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกลงว่า เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น

 

เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศใช้มาตรการบรรเทาภาวะตึงตัวในระบบการเงินที่เป็นผลมาจากวิกฤตการเงินในยุโรป ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปสกุลเงินดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 2 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มรู้สึกกังวลว่า มาตรการเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่ดำเนินการร่วมกันระหว่าง 6 ธนาคารกลางชั้นนำของโลกนั้น กำลังสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างมาก

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,739.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1752.0 - 1738.8 ดอลลาร์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.5 เซนต์ ปิดที่ 32.759 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.15 เซนต์ ปิดที่ 3.534 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,557.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 17.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 630.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดให้การขานรับข่าวธนาคารกลางชั้นนำ 6 แห่ง รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปดอลลาร์เพื่อช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมในตลาดการเงินปรับตัวลดลง และเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินโลกให้แข็งแกร่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มรู้สึกกังวลว่า การที่ธนาคารกลางทั้ง 6 ตัดสินใจใช้มาตรการดังกล่าวอาจสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่รุนแรง ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายออกมาเมื่อคืนนี้ด้วย

 

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สัญญาทองคำ COMEX ได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 จุด ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้ และเป็นการขยายตัวติดต่อกันยาวนานถึง 28 เดือน

 

นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาทองคำในระหว่างวันด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ อ่อนตัวลง 0.12% แตะที่ 78.29 เมื่อวานนี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 2 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้คงปิดได้สวย เพราะเป็นวัน ข้างเคียง วันหวยแห่งชาติ ออก อืม... รางวัลยังมีข้างเคียง ทำไมทองจะขึ้นในวันข้างเคียงไม่ได้ อิอิ ว่าแล้วก็จัดไปคืนนี้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดลบ 25.06 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 18,977.20 จุดในวันนี้ (2 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ในคืนนี้ หลังจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 402,000 คน

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้น 20.36 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 8,617.74 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง. ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 8,621.61 จุด บวก 24.23 จุด

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,763.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.8 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาะดว่าจะอยู่ที่ 51.5 จุด โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้

 

ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดัน จากความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยตลาดหุ้นอังกฤษปรับขึ้นในช่วงแรก ก่อนจะร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐในเวลาต่อมา ในขณะที่มาตรการเสริมสภาพคล่องของ กลุ่มธนาคารกลางในวันพุธช่วยหนุนตลาดได้เพียงเวลาสั้นๆ

 

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 16.08 จุด หรือ 0.29 % สู่ 5,489.34 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,486.87-5,553.89

 

หุ้นกลุ่มน้ำมันเป็นกลุ่มที่ถ่วงดัชนีลงมากที่สุด โดยหุ้นบีพีรูดลง 1.4 % ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงกว่า 1 %

ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 0.82 % ในขณะที่ราคาทองแดงปรับลง โดยได้รับ แรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ, จีน, อังกฤษ และยูโรโซน

 

จีนเปิดเผยว่าภาคโรงงานของจีนหดตัวลงในเดือนพ.ย.เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี

 

ภาคการผลิตของอังกฤษหดตัวลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนพ.ย. และหดตัว ลงในอัตราที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2009

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของอังกฤษร่วงลงสู่ 47.6 ในเดือนพ.ย. จาก 47.8 ในเดือนต.ค. โดยระดับ 47.6 ถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2009

 

หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ปรูดลง 3.3 %, หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ร่วงลง 2.1 % ส่วนหุ้นบาร์เคลย์สดิ่งลง 1.7 %

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะพี่เด็กขายของ คุณเกี๊ยมอี๋ คุณ GB 2511 คุณเลียงผาและทุกๆท่านค่ะ วันนี้ขอลุ้นอีกวันขอให้จรวดมาคืนนี้นำส่งไปสู่จุดหมายซะทีเถอะค่ะ อยากจะขอยันต์พี่เด็กขายของมาแปะไว้ด้วยค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ เช้าวันศุกร์

ก่อนวันหยุดยาวนะครับ ทุกๆท่าน

 

ทองคำร่วง 10.5 ดอลลาร์

 

02 ธันวาคม 2554 เวลา 07:59 น. |

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์จากแรงขายทำกำไร

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,739.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1752.0 - 1738.8 ดอลลาร์

 

นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดให้การขานรับข่าวธนาคารกลางชั้นนำ 6 แห่ง รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปดอลลาร์เพื่อช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมในตลาดการเงินปรับตัวลดลง และเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินโลกให้แข็งแกร่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มรู้สึกกังวลว่า การที่ธนาคารกลางทั้ง 6 ตัดสินใจใช้มาตรการดังกล่าวอาจสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่รุนแรง ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายออกมาเมื่อคืนนี้ด้วย

 

www.posttoday.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดอลลาร์สหรัฐ รับซื้อที่ 29.61 บาท ขายออก 31.00 บาท

 

 

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย ประจำวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2554 เวลา 08.13 น. มีดังนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐ รับซื้อที่ 29.61 บาท ขายออก 31.00 บาท ยูโรอยู่ที่ระดับ 41.88 บาทต่อยูโร ปอนด์อยู่ที่ 48.94 บาทต่อปอนด์

เงินหยวนของจีน อยู่ที่ 4.99 และเงินเยนของญี่ปุ่น อยู่ที่ 0.40193

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะทำงานบริหารจัดการน้ำ ศปภ. "วีระ วงศ์แสงนาค" ยัน 20 วัน ระบายน้ำที่ค้างอยู่ได้หมด เหลือบางส่วนใช้ในการเกษตร

 

 

นายวีระ วงศ์แสงนาค คณะทำงานบริหารจัดการน้ำของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวกับ INN ว่า ปริมาณน้ำขณะนี้เหลือค้างอยู่ ประมาณ 2 พันล้านลูกบากศ์เมตร โดย ศปภ. จะเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้ได้ 1 พัน 4 ร้อยลูกบาศก์เมตร ส่วนอีก 600 ลูกบากศ์เมตร ที่ค้างทุ่งอยู่นั้น จะบริหารจัดการให้กับเกษตรกร ได้ใช้ในการทำการเกษตร ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าว จะไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้ วันละ 70 ล้านลูกบากศ์เมตร คาดว่า จะใช้เวลา 20 วัน ระบายออกได้ทั้งหมด

 

ส่วนความขัดแย้งกับ กทม. นายวีระ ย้ำว่า มีอยู่บ้าง แต่ก็มีการทำงานร่วมกันได้

 

Link : http://www.innnews.co.th/วีระ-ยัน-20-วันระบายน้ำที่ค้างหมด--324860_01.html

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รอง ผกก.1 กองปราบ เผย กรณีจับกุมคนร้ายแฮกข้อมูล สวมรอยบริจาคช่วยน้ำท่วมจากเวิร์คพอยท์ เตรียมแถลงพรุ่งนี้

 

 

พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ที่ก่อเหตุแฮกข้อมูลรายการโทรทัศน์ที่มีการรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยสามารถจับกุมได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัวแทนของ

รายการของราชรถมาเกย ของบริษัทเวิร์คพอยท์ ที่ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ได้เข้าแจ้งความกับกองปราบปราม ว่า มีกลุ่มบุคคลเข้ามาแฮกระบบของทางรายการ เพื่อแอบอ้างโกงเงินบริจาคที่ทางรายการเปิดให้ประชาชนโทรศัพท์เข้า

มาแสดงเจตจำนงบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหลังรับเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ก่อเหตุดังกล่าวเพียงแค่ 2 คน และเข้าไปแฮกข้อมูลรายการโทรทัศน์อื่นๆ อีกกว่า 10 รายการ จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาน่าจะมีมากกว่า 2 ราย ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาเข้ามาสอบสวนที่กองปราบปราม และเตรียมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.

Link : http://www.innnews.co.th/ป-เตรียมแถลงกรณีแฮกบริจาคน้ำท่วมพรุ่งนี้--324819_05.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ขานรับดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ที่ดีดตัวขึ้น บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทุกฝ่ายกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,603.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,977.20 จุด ลดลง 25.06 จุด ขณะที่ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,164.00 จุด ลดลง 14.69 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,914.41 จุด ลดลง 1.77 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,489.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,225.30 จุด ลดลง 3.30 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,763.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% แตะ 117.43 จุด เมื่อเวลา 9.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.8 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาะดว่าจะอยู่ที่ 51.5 จุด โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้

 

ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่นขานรับ 6 แบงก์ชาติจับมือเพิ่มสภาพคล่องคลายวิกฤตหนี้ยุโรป (02/12/2554)

รัฐบาลญี่ปุ่นขานรับการตัดสินใจครั้งล่าสุดของธนาคารกลางชั้นนำ 6 ประเทศที่ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เพื่อคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

 

นายโอซามุ ฟูจิมูระ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า เราประเมินว่า การดำเนินการดังกล่าวมีความเหมาะสม เนื่องจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนนั้น ทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า ตนเองประเมินไว้สูงกับความร่วมมือกันของธนาคารกลาง ขณะที่มีความกังวลมากขี้นเรื่อยๆเกี่ยวกับตลาดการเงินยุโรป

 

การแสดงความเห็นเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ธนาคารกลาง 6 แห่งประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ธนาคารเหล่านี้เห็นชอบเรื่องการเพิ่มความร่วมมือในการช่วยเหลือสถาบันการเงินยุโรปสนับสนุนเรื่องเงินทุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

การดำเนินการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ ประกอบไปด้วยการที่ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยในการสวอปดอลลาร์ลง 0.5% แก่ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์

 

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังได้รับการขานรับจากนักลงทุนทั่วโลก ส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น

 

นายอาซูมิกล่าวย้ำว่า สถาบันการเงินญี่ปุ่นไม่มีแนวโน้มว่า จะเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปจะย่ำแย่ โดยชี้ว่า ระบบธนาคารของประเทศยังมีเสถียรภาพอยู่

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 2 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

09:31 น.

2 ธ.ค. ในขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงทำให้เจ้าหน้าที่เปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการ อีก 1 เส้นทางคือถนนฉิมพลี ขาเข้า-ขาออก เปิดการจราจร ตั้งแต่แยกทุ่งมังกรถึงหน้าสน.ตลิ่งชัน (ระดับน้ำสูงประมาณ 10 - 15 ซม.)

 

2 ธ.ค. บก.น.7 แจ้งเส้นทางแนะนำไปยังพุทธมณฑลสาย 4 หรือไปมหิดลศาลายา อ.พุทธมณฑล ดังนี้ 1. ใช้ถนนบรมราชชนนี ขึ้นต่างระดับพุทธมณฑล สาย 2 ไปใช้ถนนศาลาธรรมสพน์ ออกถนนเลียบคลองทวีวัฒนาหรือพุทธมณฑลสาย 4 / 2. ใช้ถนนบรมราชชนนี ขาออกหรือคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ถึงทางลงคู่ขนานลอยฟ้าบรมฯใช้ถนนบรมฯช่องคู่ขนาน เลี้ยวซ้ายเข้าพุทธมณฑล สาย 3 เลี้ยวขวาไปถนนอุทยาน ออกพุทธมณฑล สาย 4 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลผ่านลำบาก ไม่แนะนำช่วงลงคู่ขนานลอยฟ้าบรมฯถึงพุทธมณฑล สาย 3 น้ำยังท่วมสูง

 

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)แจ้งเปิดให้บริการด่านฯบางพูนแล้ว (ส่วนเชียงราก บางปะอิน ยังปิด) ขณะนี้น้ำที่ท่วมขังบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางบางพูนได้ลดลงสู่สภาวะปกติ รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว จึงกำหนดเปิดให้บริการด่านฯ บางพูน ขาเข้า-ออก ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 ธ.ค. 54 (เมื่อวาน) เป็นต้นไป และสำหรับด่านเก็บ ค่าผ่านทางพิเศษบางปะอิน และด่านฯ เชียงรากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยนั้นขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณด่านฯกทพ.จึงต้องงดการให้บริการที่ด่านฯ ดังกล่าวต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...