ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

นานาชาติ ตึงเครียด หลัง คิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ถึงแก่อนิจกรรม ขณะที่สื่อ "โสมแดง" ออกมายกย่อง ว่าที่ผู้นำ เป็นผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่

 

 

ชาวเกาหลีเหนือ จำนวนมาก ได้หลั่งไหลเพื่อแสดงความอาลัยต่อ นายคิม จอง อิล ผู้นำประเทศที่ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ร่วมกับ อาการหัวใจวาย ขณะเดินทางบนรถไฟ เพื่อไปมอบคำชี้แนะบนถนนในกรุงเปียงยาง

 

ด้าน สื่อมวลชนของประเทศ อย่าง สำนักข่าวกลาง KCNA ได้ออกมายกย่อง นายคิม จอง อุล ว่าที่ผู้นำคนใหม่ ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ และประชาชน ชาวเกาหลีเหนือ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้นำประเทศคนใหม่

 

หลังจากที่ นายคิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรมไม่นาน รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และประกาศให้ กองทัพ เฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษทันที เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น ที่มีการแถลงต่อคณะรัฐมนตรี ระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงพิเศษ ให้เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งรวมถึง สถานการณ์บริเวณชายแดน เช่นเดียวกับ สหรัฐ ที่กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

สำหรับพิธีศพของ นายคิม จอง อิล จะจัดขึ้นที่ กรุงเปียงยาง ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ โดยไม่มีการเชิญผู้แทนต่างชาติเข้าร่วม ขณะที่ รัฐบาลประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 17-29 ธันวาคม

Link : http://www.innnews.co.th/นานาชาติ-วิตก-คิม-จอง-อิล-เสียชีวิต--327613_04.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ร่วงลง 100.13 จุด

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 100.13 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 11,766.26 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 14.31 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 1,205.35 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 32.19 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 2,523.14 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ที่ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 5 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐสำรองเงินทุนมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้

 

NYMEX ปิดบวก แตะ 93.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดบวก 35 เซนต์ หรือ 0.37% แตะที่ 93.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การอสัญกรรมของนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะเพิ่มแรงกดดันในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอิหร่านอาจจะระงับการผลิตน้ำมัน อันเนื่องมาจากถูกคว่ำบาตรจากกลุ่มประเทศพันธมิตร ซึ่งนักลงทุนมองว่าความตึงเครียดทางการเมืองเหล่านี้จะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวขึ้นในระยะใกล้นี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พายุวาชิอ่อนกำลังเข้ามาเลย์ส่งผล8จ.ใต้ฝนเพิ่ม

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ออก ประกาศเตือนภัย พายุวาชิ ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2554 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (20 ธ.ค. 54) พายุโซนร้อน "วาชิ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วและจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศมาเลเซีย ในวันพุธที่ 21 ธ.ค. 54 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 21-22 ธ.ค. 54

อนึ่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 54 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เสริมปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ธ.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดทุนไทยยังผันผวนจากวิกฤติหนี้ในยูโรโซน

 

ธนาคารกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดทุนไทยยังผันผวนจากวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซน พร้อมคาดต้นปีหน้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดอีกร้อยละ 0.25

 

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในปีหน้าแนวโน้มตลาดเงิน ตลาดทุนของไทยจะยังผันผวนจากปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤติหนี้สาธาราณะที่ยังอยู่ในระดับสูงของประเทศในแถบยูโรโซน เช่น กรีซ และอิตาลี ประกอบกับเงินประกันภัยบริษัทต่างชาติที่จะจ่ายให้สถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย อาจทยอยไหลเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ค่าเงินบาทอาจจะผันผวนมากตามไปด้วย โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์อยู่ที่ 29.5- 33 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอยากให้ผู้ประกอบการด้านการส่งออกป้องกันปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้ ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคตประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนมกราคมปีหน้า อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 หรือมาอยู่ที่ร้อยละ 3

 

ทั้งนี้ ในส่วนของการปล่อยสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปี 2554 จะมีมูลค่าประมาณ 333,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีสินเชื่อโครงการร้อยละ 27 หรือมีมูลค่า 90,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีมูลค่าสินเชื่อประมาณ 68,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำตลาดทั้งด้านที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการสินเชื่อโครงการ มีสัดส่วนโครงการธุรกิจพลังงานกว่าร้อยละ 47 หรือคิดเป็นสินเชื่อประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้ประกอบการขนส่ง คัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี

 

ผู้ประกอบการขนส่ง คัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ย้ำ ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลภายในวันที่ 9 มกราคม 2555 ก่อนเคลื่อนไหวประท้วง

 

วันนี้ (19 ธ.ค.54) กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการขนส่ง ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ภายหลังคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมาเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี กิโลกรัมละ 6 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 รวมการปรับ 12 ครั้ง ครั้งละ 0.50 บาท โดย นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน โดยเตรียมจะยื่นหนังสือคัดค้านถึงกระทรวงพลังงาน และนายกรัฐมนตรี ภายใน 7 วัน หากไม่ได้รับความเป็นธรรม กลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง จะมีมาตรการในการเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป หากยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน คาดว่าภายในวันที่ 9 มกราคม 2555 ทางผู้ประกอบการจะเดินทางเพื่อทวงถามคำตอบที่กระทรวงพลัง หรือหากการให้บริการก๊าซเอ็นจีวีขาดตลาดก็อาจจะส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการต้องหยุดให้บริการ ทั้งนี้ หากข้อสรุปที่กระทรวงพลังงานระบุว่าจะต้องมีการปรับขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวี 6.50 บาทต่อกิโลกรัม ผู้ประกอบการก็มีความจำเป็นต้องการปรับขึ้นค่าขนส่งอีกร้อยละ 20

 

ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มแท็กซี่ ก็ยืนยันให้รัฐบาลทบทวนการปรับขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวี โดยต้องการความชัดเจนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 หากยังไม่ได้ความชัดเจนตามที่กำหนด มาตรการต่อไปที่ผู้ประกอบการจะดำเนินการก็คืออาจจะมีการงดให้บริการรถโดยสารร้อยละ 30-50 โดยคาดว่าจะนำรถไปปิดกระทรวงพลังงาน และอาจจะมีการปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มโดยเป็นการเก็บนอกมิเตอร์อีก 20 บาท จากเดิมค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 35 บาท ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ผู้โดยสารรับภาระค่าโดยสารที่เป็นค่าเริ่มต้น 55 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พื้นที่เฝ้าระวัง 10 จุด กทม. ก่อนปีใหม่ ยังเป็นปกติ หลัง ตำรวจ ตั้งด่านเฝ้าระวังเข้ม ฝ้าระวัง 10 จุด กทม. ก่อนปีใหม่ ยังเป็นปกติ หลังตำรวจ ตั้งด่านเฝ้าระวังเข้ม

 

บรรยากาศยามค่ำคืน ในพื้นที่เฝ้าระวัง 10 จุด ว่าอาจมีการก่อเหตุความไม่สงบในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากการสำรวจในหลายพื้นที่ พบว่า ยังคงมีประชาชน ออกมาท่องเที่ยว และสัญจรผ่านเส้นทางต่าง ๆ เป็นปกติ อาทิ บริเวณ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ยังคงมีประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ออกมาถ่ายภาพ โคมไฟที่ มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามบริเวณ ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาคอยตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อย อยู่จำนวนหนึ่ง

 

ขณะที่ บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน อย่าง ถ.ข้าวสาร พบว่า ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวตามสถานบันเทิงต่าง ๆ แต่ไม่ค่อยคึกคัก เหมือนช่วงคืนวันศุกร์และวันเสาร์ ซึ่งบริเวณ ถนนข้าวสาร ยังคงมีการตั้งจุดตรวจของสายตรวจเดินเท้า เฝ้าดูแลความเรียบร้อยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด

 

ส่วนพื้นที่บริเวณ ใกล้แยกสามเหลี่ยมดินแดง มีการตั้งจุดตรวจความปลอดภัยของตำรวจ สน.ดินแดง ซึ่งจากการตรวจตราตรวจค้น ตั้งแต่ 22.00 -02.00 น. ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

Link : http://www.innnews.co.th/พื้นที่เฝ้าระวัง-10-จุด-กทม-ยังปกติ--327612_05.html

 

ปล. งานนี้ ใครกันเนี่ยมาจุดกระแสท้าทายเรื่องนี้ แบบนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ คงไม่อยากมาเที่ยวเมืองไทยช่วงปีใหม่ เดี๋ยวถ้าสถานฑูตต่างประเทศออกแถลงการณ์ เฝ้าระวัง คนไทยคงต้องช่วยคนไทย ช่วยท่องเที่ยวกันเองแน่ๆ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เผย ชาววังน้ำเขียว ยอมเปิดจราจร 1 ช่องทาง บนทางหลวง 304 ขณะจราจรยังติดขัดอย่างหนัก แนะประชาชนเลี่ยง

 

 

พล.ต.ต.อัครชัย พงษ์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยความหน้ากรณีชาวบ้าน อ.วังน้ำเขียว และ อ.นาดี กว่า 1,000 คน ชุมนุมปิดถนนทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงกิโลเมตรที่ 55 เพื่อคัดค้านการรื้อถอนรีสอร์ทในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว และ อ.นาดี ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยระบุว่า จนถึงขณะนี้ ชาวบ้านยังชุมนุมกันอยู่ที่เดิม แต่มีจำนวนลดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงสายของวันนี้ ส่วนทางหลวงหมายเลข 304 ปักธงชัย - ปราจีนบุรี เช้าวันนี้ ชาวบ้านได้เปิดช่องทางการจราจรให้ 1 ช่องทาง โดยการยกเต็นท์ออก ทำให้พอสัญจรผ่านได้ แต่ก็ไม่สะดวก และจราจรยังติดขัดอย่างหนัก จึงแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้ถนนสระแก้ว - บุรีรัมย์ แทน

 

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อในวันนี้ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนรีสอร์ทในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว อาจส่งผลให้ชาวบ้านไม่พอใจ และเพิ่มระดับการชุมนุมขึ้นได้ เบื้องต้นได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่

ชุดปราบจราจลประจำการตามจุด เพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายแล้ว โดยในขณะนี้ ยังเป็นการชุมนุมเรียกร้องโดยสงบ

 

Link : http://www.innnews.co.th/ม็อบวังน้ำเขียวยอมเปิดทล-304แค่1ช่องทาง--327630_06.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์เฮียเด็กขายของ nuchaba GB2514 และเพื่อนๆทุกคนครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสครับท่านเด็กขายของมาอยู่รายงานตัวครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทิศทางค่าเงินบาท 19-23 ธ.ค.คาดอยู่ในกรอบ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ

December 18, 2011  |   Filed under: World News,ข่าวสั้นในฉบับ  |   Posted by: admin

เงินบาทร่วงลงใกล้ระดับ 31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯก่อนฟื้นตัว ทั้งนี้การอ่อนค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ท่ามกลางแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน หลังจากที่การแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปยังขาดแนวทางที่ชัดเจนเพียงพอ

 

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเลี่ยงที่จะส่งสัญญาณมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE 3) ในการประชุมรอบสุดท้ายของปี

 

นอกจากนี้ การปรับโพสิชั่นในช่วงปลายปีของนักลงทุนยังกระตุ้นความต้องการเงินดอลลาร์ฯ ในตลาดด้วยเช่นกัน วันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.32 จาก 30.92 บาทต่อดอลลาร์ฯในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 ธ.ค.)

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคม 2554 เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาข้อมูลการส่งออกเดือนพ.ย.ของประเทศไทย,พัฒนาการของวิกฤตหนี้ยูโรโซน ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่-มือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การขออนุญาตก่อสร้าง ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน เดือนพ.ย. ข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 3/2554 (ขั้นสุดท้าย) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เสก โลโซเปิดบ้านแถลงข่าวยอมรับเสพยาเสพติดวอนเด็กอย่าเลียนแบบและจะปรับปรุงตัว อ้างสนิท “ทักษิณ”และคนใหญ่คนโตอีกหลายคน

 

หลังจาก“เสก โลโซ” ตกเป็นข่าวอื้อฉาว ถูก “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” อดีตภรรยา โพสต์รูปเสกกำลังเสพยา อีกทั้งยังแฉว่าถูกนักร้องดังซ้อม หนำซ้ำยังทอดทิ้งลูกเมียที่อยู่กินกันมากว่า 20 ปี รวมไปถึงพฤติกรรมความเจ้าชู้ของเสกที่ไปพัวพันกับผู้หญิงอีกหลายคน จนเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ยาวนานติดต่อกันเป็นเวลาเกือบเดือน โดยที่เจ้าตัวเองก็หนีหน้าทำตัวเป็นขอมดำดินไม่ยอมออกมาเคลียร์ มีเพียงโพสต์ระบายเรื่องราวต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนเองเท่านั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 19.47 น.  วันที่ 19 ธ.ค. เสก โลโซ หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ร็อก

 

เกอร์หนุ่มชื่อดัง เปิดแถลงข่าวครั้งแรกที่บ้านพักเลขที่ 9/21 ภายในหมู่บ้านนันทวัน วัชรพล-รามอินทรา ซอยวัชรพล เพื่อชี้แจงในเกิดกรณีภาพอื้อฉาวในเฟซบุ๊ค โดยในขณะที่ เสก แถลงข่าวได้จิบไวน์ และเหล้า รวมทั้งสูบบุหรี่ ไปด้วยท่ามกลางกองทัพนักข่าวที่ติดตามไปทำข่าวแทบทุกสำนัก โดยเสกได้ออกตัวว่าวันนี้จะเปิดโอกาสให้ถามได้ทุกเรื่อง

 

“วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้น มีเรื่องหลายเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟัง ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าทุกอย่างอยู่ในพื้นฐานของความรัก ความเมตตา ความสมานสามัคคีกันไม่คิดที่จะมาหาเรื่องหรือว่าก่อเรื่องอะไรเลย ผมเชื่อเหลือเกินว่าตั้งแต่ระยะเวลาที่ผมทะเลาะกับภรรยาผมและมีข่าวมีคราวขึ้นมานั้น ผมบอกจริงๆ เลยว่าผมไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้าใครติดตามในเฟซบุ๊กของผมก็จะรู้ดี”

 

“วันนี้ถามผมได้ทุกเรื่อง ผมจะตอบหมดทุกเรื่อง หากใครติดตามผมในเฟซบุ๊กจะรู้ดี นั่นคือช่องทางเดียวที่ผมได้พูดความจริง บอกตรงๆ พี่น้องนักข่าวเราก็เป็นพี่น้องกัน ผมคิดอย่างนี้เพราะผมอยู่ในวงการนี้มา 10 กว่าปีแล้วนะ ผมบอกเลยว่าหลายท่านก็เขียนข่าวที่ไม่ตรง ผมบอกตรงๆ ตัวผมเองไม่ค่อยได้อ่านข่าว แล้วก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่ แต่จะมีเลขาผมมาบอก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร”

 

“มีอยู่วันนึงผมมีโอกาสได้เล่นคอนเสิร์ตที่อำนาจเจริญ เลขาผมชื่อว่าน้องอ้อมซึ่งก็เป็นแฟนกันด้วย เขาบอกว่าผมหนีไปประเทศลาว แล้วแม่ผมก็ไม่สบายอย่างหนัก ผมก็รู้สึกอะไรกัน มาเขียนอะไรแบบนั้น ผมก็ไม่ได้จะต่อว่าต่อขาน ผมมีความรู้สึกว่าทุกท่านที่นี้มีความรับผิดชอบในประเทศไทยเหมือนกัน ผมเองก็รับผิดชอบประเทศไทย รับผิดชอบตรงไหน ผมเองก็เป็นสื่อมวลชนเหมือนกันเพราะฉะนั้นการเสนอข่าว การทำอะไรต่างๆ นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมเขียนเพลงต่างๆนานาบอกตรงๆ 70-80 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องจริง วันนี้ก็เลยอยากจะมาแถลงข่าวเพื่อให้ทุกคนได้เคลียร์กัน”

 

“หนึ่งก็คือไอ้ภาพที่เห็นวันนั้นเป็นภาพที่ผมไปอยู่ที่โรงแรมมาริออท ผมพาภรรยาไปเที่ยว ตัวผมเองไม่ทราบเลยว่าภรรยาผมไปทำการอย่างนั้นคือถ่ายรูป ถ้าผมรู้ผมไม่มีทางให้ถ่ายรูปแน่นอน ผมยอมรับว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้ผมก็ได้รับปรับปรุง เมื่อวานนี้ผมก็ได้ให้เลขาผมแจ้งไปทางกองปราบปรามว่าผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง และผมจะแก้ไขให้ดีขึ้นด้วยสัตย์ของลูกผู้ชาย จะไปทำการทุกอย่างไม่ว่าสื่อไหน สถานที่ไหนอยากให้ผมได้รับใช้ผมยินดี”

 

“คงจะไปเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติด ผมจะบอกให้นะครับ การเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติดนั้นผมเคยเป็นอยู่ สมัยก่อนจัสเซย์โน ซึ่งตัวผมเองคงไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีอะไรขนาดนั้น ผมเป็นร็อกแอนด์โรล ผมทำอะไรที่ขัดต่อตัวผม โกหกตัวผมเองผมไม่ทำ ผมไม่โกหกตัวผมเองแน่นอน ที่จะเข้าไปผมจะเข้าไปบอกให้รู้ว่ายาเสพติดให้โทษเป็นอย่างไร และจะช่วยต่อต้านยาเสพติดอย่างไร แล้วที่ทำ ผมทำด้วยความสัตย์จริงไม่มีโกหก การที่ผมจะไปบอกสื่อว่าต่อต้านยาเสพติด แต่ผมยังสูบบุหรี่บนเวทีกินเหล้าบนเวทีผมทำไม่เป็น ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมโกหกไม่เป็น”

 

“ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ดีล้านเปอร์เซ็นต์ แล้วผมไม่มีเจตนาที่จะให้ทุกคนได้ทำตามอย่างผม ชีวิตคนเรานั้นมีทั้งดีและไม่ดี เอาแบบผมในทางที่ดี ถ้าอันไหนที่ผมไม่ดีอย่าไปเอาอย่างผมเป็นอันขาด ผมเป็นอาร์ทติส ที่แปลว่าศิลปิน ผมเป็นนักเขียน ผมใช้มันเพราะผมทำงานเพลง ผมใช้มันเพราะผมเอามันอยู่ เอามันอยู่ในที่นี้หมายถึงควบคุมมันได้ แต่คนส่วนใหญ่นั้นคอนโทลไม่ได้ เกิดบ้าคลั่งหรืออะไรต่างๆ นาๆ แต่ผมบอกตรงๆ นะอย่าใช้มันเลยดีที่สุดเพราะคนที่ใช้มันแล้วเอามันอยู่คือคนที่มีจิตใจแบบผม ผมไม่สะทกสะท้านและผมไม่กลัวอะไร เพราะฉะนั้นผมเอามันอยู่แน่นอน แต่ผมจะบอกอย่างนี้ว่าต่อไปนี้ผมจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่บอกแล้วกันว่าในด้านอะไร แต่ผมจะขอรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ครับ”

 

ที่บอกว่าเป็นอาร์ทติสแล้วยาเสพติดมันเกี่ยวข้องกับศิลปินยังไง?

 

“อันนี้เรื่องใหญ่ ผมขอกราบ สิ่งนึงที่ผมเป็นนั้น ล่าสุดที่ผมโพสต์ในเฟซบุ๊กถ้าทุกคนได้อ่าน ถ้าแปลภาษาอังกฤษออกผมบอกว่า ผมจะบอกให้นะ ถ้าทุกคนรักผม ยอมรับผมในสิ่งที่ผมเป็น ผมก็จะเป็นในสิ่งนี้ แต่ผมจะทำมันให้ดีขึ้น แต่ถ้ายอมรับในสิ่งนี้ของผมไม่ได้ ผมก็จะไปอยู่ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเหมือนบ้านที่สองของผม ถามผมว่าทำไมต้องใช้สิ่งนี้ จอห์น เลนนอน โอเอซิสหรือวงอะไรต่างๆ นานาต่างก็ใช้สิ่งนี้ แต่ผมบอกและย้ำคำเดิมว่าอย่าไปทดลองเป็นอันขาดเพราะเป็นอันตราย เด็กๆ ไม่ควรทดลอง”

 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะต้องทำการบำบัดหรือว่าไปเลิกยาหรือเปล่า? เจ้าตัวก็เผยว่า….

 

“เอาเป็นว่าผมจะแก้ไขด้วยตัวผมเอง และอยู่ในการควบคุมดูแลของทางราชการหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายของผมที่เขามาดูแล ผมขออนุญาตกล่าวนามของท่านพันตำรวจเอก ประสพโชค พร้อมมูล ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการกองปราบ ผมเชื่อว่าหลายท่านเป็นห่วงเป็นใยในตัวผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายผมที่ท่านไม่ได้มาดูแลผม ผมขออนุญาตกล่าวนามท่านพี่ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผมต้องกราบขอบคุณพี่มาก ผมเชื่อเหลือเกินว่าพี่ก็ยังติดตามผมอยู่ นั่นก็คือพี่ทักษิณ ชินวัตร ผมขออนุญาตกล่าวนามพี่ด้วยนะครับ”

 

“ผมพูดอย่างนี้เพราะอะไร ผมเป็นชายชาติทหาร ผมทำผิดผมยอมรับผิดและผมยินดีที่จะแก้ไข…เอาอย่างนี้ดีกว่านะครับ ผมสามารถแลกด้วยชีวิตเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น ประเทศนี้ดีขึ้นโดยพื้นฐานของความรัก ความเมตตาและความสงบสุข ทุกท่านคงได้เห็นผมแล้วไม่ว่าจะออกไปทำงานช่วยประชาชน แจกของอะไรต่างๆ ลูกน้องของผมก็ขนไปกันหมด บ้านผมน้ำท่วมผมก็ไปแจกของแจกอะไรกันไป และผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ”

 

เจ้าตัวเผยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขึ้นร้องไห้

 

“ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกเสียใจ หรือไม่รู้สึกผิด ผมรู้สึกเสียใจ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมร้องไห้อยู่ ผมกลัวว่าน้องๆ จะไปเลียนแบบเอาเป็นแบบอย่าง แต่ที่ผมแคร์ความรู้สึกมากที่สุดนั่นก็คือลูกของผมทั้ง 3 คน น้องเสือ น้องกวาง แล้วก็น้องลอนดอน ภรรยาผมนั่นคงจะเป็นอีกเรื่องนึง รวมไปถึงคุณแม่ผมด้วย ตอนนี้ท่านก็ได้ย้ายมาอยู่กับผมแล้ว นั่นก็เป็นการคอนเฟิร์มว่าแม่ของผมไม่สบายไม่เป็นความจริง และสิ่งที่ผมได้มา ผมจะบอกให้สิ่งที่ทำให้ผมแข็งแรงคือแม่ของผมเพราะท่านเป็นคนที่จิตใจแข็งแรงมาก”

 

“เรื่องนี้มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมได้บอกไปแล้วว่าอย่ามาเกี่ยวข้องกับครอบครัวกู เพราะว่ากูรักของกูนะจะบอกให้ ผมจริงใจ ผมเป็นนักเลง ผมเป็นนักร้อง ผมเป็นนักรักหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมจริงใจกับทุกคน ผมถือว่าทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด ผมทำได้หมดเพื่อทุกคน เรื่องของครอบครัวผม ผมจัดการได้ ชีวิตของคนสองคน ความรักระหว่างคนสองคน เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดว่าที่ผ่านมาผมมีเมียมีสาวๆ มากมายต่างนาๆ แต่ผมโกหกไม่เป็น เวลาผมมีผมก็เล่าให้เมียผมฟังหมด ซึ่งเมียผมก็จับได้ ผมเป็นคนรักใครผมก็รักจริงนะ อันนี้ผมยอมรับผิดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์”

 

เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างอดีตภรรยากับเสกเกิดขึ้นเพราะความเจ้าชู้?…

 

“เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดในเรื่องนั้น แต่ผมจะยอมเป็นสุภาพบุรุษบอกว่าผมรักเขา และผมยอมไม่กล่าวโทษโกรธแค้นอะไรเขา แม้กระทั้งที่เขาทำอย่างนั้นกับผม ผมถือว่าในช่วงที่เขาโมโหเขาก็ทำอย่างนั้นได้ เพราะฉะนั้นผมไม่ว่าอะไรเดี๋ยวผมจะเอาเขามาดูแลเอง”

 

ยอมรับกับกานต์อดีตภรรยามีการทำร้ายร่างกายกันจริง ถึงขั้นเลือดตกยางออกมาแล้ว

 

“มีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ตอบแล้วเลิกถามเลยนะ แม้กระทั้งเขาเอาแก้วที่บาดมาข่วนผมเลือดอาบไหลเต็มตัวก็ยังเคยมี แต่อันนี้ผมไม่ได้บอกใคร ผมมีพยานนะไม่ว่าจะเป็นพี่จอร์ด พี่หนุ่ย อำพล ลำพูน พี่บิลลี่ โอแกนอยู่ด้วยกันหมด จะบอกให้ ฉะนั้นเลิกถามผมเรื่องนี้ ผมยอมรับว่ามีทำครับ ผมก็ต้องมาปรับความเข้าใจกับเขาให้เขาเข้าใจ ให้เขาเชื่อมั่นว่าผมรักเขาและผมรักครอบครัวเขา แต่สิ่งนึงที่เขาต้องทำก็คือรักครอบครัวผมด้วย ต้องรักแม่ผมด้วย พอคุณมีเมียแล้วเมียไม่รักแม่คุณแล้วคุณจะรักมันลงเปล่าวะ เพราะฉะนั้นต้องรักแม่ผม ต้องรักครอบครัวผมให้เหมือนกับที่ผมรักและดูแลพี่น้องคุณเพราะนั่นคือชีวิต ถ้าคุณทำอย่างนั้นไม่ได้เราก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน”

 

“จริงๆ แล้วที่ผมทำไม่ว่าจะเป็นการเซ็นใบหย่าหรือทำอะไรต่างๆ เพราะความต้องการของเขา ไม่เชื่อคุณลองไปถามเขตสายไหมหรือเขตไหนก็ได้ ผมไปทำอยู่ตั้ง 2-3 ทีสุดท้ายเขาก็ไม่ยอมหย่า ผมก็ยื้อเอาไว้ว่าอย่าไปหย่าเลย พ่อแม่เองเขาก็ไม่อยากให้ผมหย่า อยู่มาวันนึงเขาต้องการอีกแล้ว นี่ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วผมก็ต้องทำ เพื่อความต้องการของเขา ถามพี่บูลย์(ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม)ได้ก่อนจะหย่า ผมนอนอยู่ในห้องสัพพะหงกตื่นขึ้นมาผมก็โทรหาพี่บูลย์ว่าผมมีเรื่องใหญ่อยากจะปรึกษาพี่บูลย์ผมจะหย่า แกก็ตอบกลับว่าเดี๋ยวค่อยคุย ผมก็บอกว่าขอคุยกับพี่หน่อยได้มั้ย พี่บูลย์บอกว่าพี่กำลังจะบินกลับเดี๋ยวค่อยคุยกันเพราะว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ก็ไม่เป็นไร”

 

เจ้าตัวเผยถึงจะมีข่าวฉาวระดับประเทศแต่ก็ยังมีงานต่อเนื่อง พร้อมกับลาก “แหม่ม คัทลียา” มาเปรียบเทียบว่าตนคงจะโกหกว่าเพิ่งจะรู้ว่าท้อง 5 เดือนไม่เป็นเพราะตนเองแมนจริงใจไม่โกหก

 

“ผมมีแฟนคลับอยู่ตลอดเวลา ผมมีงานคอนเสิร์ตอยู่ตลอดเวลาเพราะผมเชื่อว่าประชาชนเขาเข้าใจผม เขารักผมถึงแม้ว่าผมจะผิด เอาอย่างนี้น้องแหม่ม คัทลียา เขาเป็นเพื่อนผม เป็นน้องที่รู้จักกัน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันกับศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าสมมติว่าเขาบอกว่าเป็นแบบนี้แล้วมาออก เพิ่งรู้ว่าท้องได้ 5 เดือน กูทำไม่เป็นหรอกไอ้เหี้ยจะบอกให้ เข้าใจมั้ยว่าผมเป็นคนจริงๆ เข้าใจมั้ยว่าผมโกหกไม่เป็น อันนี้ขอโทษด้วยที่พูดถึงน้องแหม่มเรื่องนั้น ผมหมายถึงว่าผมเป็นคนจริงๆ และผมก็มีงานตลอดเวลา เพราะประชาชนเข้าใจว่าผมไม่โกหกเขาอยู่แล้ว ผมยอมรับและผมจะแก้ไข มันก็เป็นเช่นนั้นเอง”

 

 

 

โพสต์ภาพกับป่าน-ปรางค์ฉัตร

 

ก่อนหน้านั้นเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จำนวน 3ภาพ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับ ป่าน-ปรางค์ฉัตร พิพัฒวีรวัฒน์ นางแบบสาวสวย หลังจากที่มารดาของป่านได้ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกสาวเคยเจอกับนักร้องดังเพียงแค่ครั้งเดียวในระหว่างการทำงานและมีแค่ภาพเดียวเท่านั้นที่ถ่ายคู่กัน

 

ทั้งนี้เฟซบุ๊กของเสกได้ระบุข้อความว่า เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกไม่พอใจ ให้ป่านบอกแม่ให้อยู่เฉยๆ อย่าให้ข่าวมั่ว และเพราะรักถึงไม่ทำอะไร รวมทั้งระบุด้วยว่า หรือจะให้โพสต์รูปบนเตียงก็บอกมา

 

คลิปเสก โลโซกับการเปิดแถลงข่าวเสพยาเสพติดจริง

 

http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3533189

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ คุณมดตะนอย, Mr.Li และ คุณเด็กอู่ทอง

ขอบคุณมากครับ ที่สนใจอ่านข่าวสารความรู้รอบตัว ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คิม จอง อิล ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือถึงแก่อสัญกรรมหัวใจวาย หนุนให้ คิม จอง อุน ทายาทรุ่นที่สามของโสมแดงขึ้นมาทำหน้าที่แทนพ่อและปู่ ประกาศไว้อาลัย 17-29 ธันวาคม เกาหลีใต้สั่งเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก เผยยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ         

 

สำนักข่าวเกาหลี (KCNA)ออกประกาศว่าผู้นำคิม“พ้นจากความตึงเครียดด้านร่างกายและจิตใจ” ไปเมื่อเวลา 8.30 น. ของวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเดินทางโดยรถไฟเพื่อไป “มอบคำแนะนำ”นอกสถานที่

 

 

คิม จอง อิล และลูกชายคนสุดท้องคิม จอง อุน(ขวา)

เคเอ็นซีเอ เรียกร้องให้ประชาชนเกาหลีเหนือมอบความจงรักภักดีต่อ คิม จอง อุน บุตรชายคนเล็กของ คิม ซึ่งอยู่ในวัย 20 ปลายๆ และถูกยกให้เป็นทายาททางการเมืองของผู้นำเกาหลีเหนือมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

 

 “สมาชิกพรรคทุกฝ่าย, ทหาร และประชาชน ควรปฏิบัติตามการนำของ คิม จอง อุน ด้วยความศรัทธา และจงปกป้อง และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์, กองทัพ และปวงชน” ผู้ประกาศข่าวของ เคซีเอ็นเอ เรียกร้องทั้งน้ำตา

 

คิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรม “ด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันร่วมกับอาการหัวใจวาย” โดยมีการชันสูตรพลิกศพ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ก่อนหน้านี้คิม จอง อิล เคยป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองตีบเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2008 ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวแขนและขาได้ตามปกติ

 

พิธีศพของผู้นำ คิม จะถูกจัดขึ้นที่กรุงเปียงยางวันที่ 28 ธันวาคมโดยไม่มีการเชิญผู้แทนต่างชาติเข้าร่วม ขณะที่รัฐบาลประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์แก่ผู้นำ คิม ตั้งแต่วันที่ 17-29 ธันวาคม

 

แถลงการณ์จากคณะกรรมการจัดพิธีศพซึ่งมี คิม จอง อุน เป็นประธาน ระบุว่า ร่างของผู้นำ คิม จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่ทำเนียบคัมคูซาน (KumkusanPalace) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บศพอดีตประธานาธิบดี คิม อิลซุง โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าทำความเคารพศพผู้นำคิมได้ระหว่างวันที่ 20-27 ธันวาคม

 

หลังผ่านพ้นพิธีศพก็จะมีพิธีไว้อาลัยในวันที่ 29 ธันวาคม โดยมีการยิงสลุตและยืนสงบเป็นเวลานิ่ง 3 นาที ส่วนรถไฟและเรือก็จะเปิดหวูดเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้นำ คิม ด้วย    

 

คิม จอง อิล เป็นผู้นำเกาหลีเหนือต่อจากบิดาคือประธานาธิบดี คิม อิล ซุง ในปี 1994 ต่อมาในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษที่ 1990 ก็เกิดภัยแล้งที่คร่าชีวิตชาวโสมแดงไปนับแสนคน ภาวะขาดแคลนอาหารที่ไม่ได้รับการแก้ไขทำให้องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ประเมินว่า มีเด็กเกาหลีเหนือถึง 1 ใน 3 ที่อยู่ในภาวะทุพโภชนาการ

 

กระนั้นก็ดี ผู้นำคิมยังคงสามารถสรรหาทรัพยากรมาพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และทำการทดสอบอาวุธระหว่างปี 2006-2009

คิม จอง อุน ทายาทที่ถูกสนับสนุนให้ขึ้นนำประเทศเกาหลีเหนือต่อจากบิดา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมชาวเกาหลีเหนือหลั่งไหลออกจากบ้านลงสู่ท้องถนนเพื่อแสดงความเศร้าโศกอาลัยการถึงแก่อนิจกรรมของผู้นำ คิม จองอิล ขณะที่สื่อรัฐแดนโสมแดงยกย่องสรรเสริญบุตรชายคนสุดท้องผู้ขาดไร้ประสบการณ์ของเขาว่าเป็น “ทายาทสืบทอดอำนาจผู้ยิ่งใหญ่” ของเกาหลีเหนือ   

 

ทางด้านทำเนียบขาวเผยว่าบารัค โอบามา ได้รับแจ้งข่าวผู้นำเปียงยางแล้ว และกำลังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

 

ที่ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ แถลงต่อคณะรัฐมนตรีในระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงพิเศษ ให้เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งรวมถึงสถานการณ์บริเวณชายแดน

 

ส่วนจีน และรัสเซีย พันธมิตรใหญ่ของเกาหลีเหนือ ต่างส่งสาส์นแสดงความเสียใจไปยังเปียงยาง

 

นายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลทุกคนเตรียมพร้อม ห้ามลาหรือเดินทางในช่วงนี้ ขณะเดียวกันยังสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมฉุกเฉิน และเพิ่มกำลังพลลาดตระเวนทางอากาศ หลังจากเกาหลีเหนือประกาศว่า นายคิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรม

 

เกาหลีใต้ยังร้องขอให้พันธมิตรอย่างสหรัฐน ซึ่งมีกำลังพล 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ เพิ่มการลาดตระเวนทางอากาศ ทั้งทางเครื่องบินและใช้ดาวเทียม ตรวจดูความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ อีกทั้งเพิ่มการแลกเปลี่ยนข่าวกรองระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากกองทัพเกาหลีเหนือ

 

Kim Jong-Il dies, North Korea rallies around son

 

http://news.yahoo.com/n-korean-leader-kim-dead-state-tv-030735257.html

 

ภาพประชาชนเกาหลีเหนือออกมาแสดงความอาลัยต่อผู้นำ

 

http://news.yahoo.com/photos/north-korea-mourns-kim-jong-il-1324305995-slideshow/

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พายุ”วาชิ”ถล่มฟิลิปปินส์ตาย 652 ในหลวงมีพระราชสาส์นเสียพระทัยถึงประธานาธิบดี

December 19, 2011  |   Filed under: ข่าวที่น่าสนใจ  |   Posted by: admin

 

123

วาชิถล่มฟิลิปปินส์ตายพุ่ง652 สูญหาย 900 คน เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางซากปรักหักพัง

 

พายุโซนร้อนวาชิ ที่พัดถล่มเมืองคากายันเดโอโร และเมืองอิลิแกน บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ กลายสภาพเป็นเมืองที่จมอยู่ใต้น้ำ มีแต่ซากปรักหักพัง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม

 

ล่าสุด ตัวเลขผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็น 900 คนแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิต พุ่งสูงถึง 652 คน ด้านเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ กว่า 20,000 นายยังคงเดินหน้าปฏิบัติการ ค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้สูญหาย

 

นายลอว์เรนซ์ ครูซ นายกเทศมนตรีเมืองอิลิแกน ยอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง และเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่กำลังนอนหลับ

 

เจ้าหน้าที่คาดว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อนวาชิทำให้ชาวฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบถึงกว่า 1 แสนคน ขณะนี้มีประชาชนมากถึงกว่า 35,000 คน ที่กลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิง ทำให้รัฐบาลและกาชาดฟิลิปินส์ ต้องร้องขอความช่วยเหลือด้านอาหาร เครื่องนุ่งห่มและที่พักอาศัย ที่เริ่มเกิดปัญหาไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ประสบภัย

 

ประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโน ของฟิลิปปินส์ แสดงความกังวลกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ และได้สั่งให้ทบทวนมาตรการป้องกันภัยพิบัติของประเทศแล้ว หลังมีรายงานว่า ประชาชน ไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับพายุรุนแรงเช่นนี้ พร้อมกับเตรียมเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยด้วย

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีข้อความพระราชสาสน์ แสดงความเสียพระราชหฤทัย ไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ กรณีเหตุการณ์อุทกภัยทางภาคใต้ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2554 ความว่า

 

ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ กรุงมะนิลา

 

ข้าพเจ้า และพระราชินี เศร้าสลดใจที่ได้ทราบข่าวอุทกภัยรุนแรงจากพายุวาชิ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในประเทศของไทย

 

ข้าพเจ้า และพระราชินี ขอแสดงความเสียใจมายังท่าน และประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ตลอดจนครอบครัวผู้ประสบภัยในการสูญเสียในครั้งนี้

 

(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช (ปร.)

 

http://news.yahoo.com/philippine-storm-toll-exceeds-650-900-missing-143709512.html

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...