ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น ประกาศจับตาสกุลเงินยูโรที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้

 

สกุลเงินยูโรร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และความผิดหวังที่นักลงทุนมีต่อผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศสเมื่อวานนี้

[GB2514 302]

สวัสดีครับ คุณ Donjuan / Arthas

คุณ arthas ครับ ! ครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานเท่าไหร่ คุณดอนฮวน มีทานมื้อค่ำๆๆ กับสาวละแวกร้านแม่ ฯ หลังสนามกีฬาแห่งชาติฯ และ จากคำกล่าวของคุณดอนฮวนในเรื่องการได้บริการที่ดี / พิเศษ / รวดเร็ว ยิ่งแสดงว่า ท่านดอนฮวนได้สร้างมิตรภาพที่ดีไปตั้งนานแล้ว เรื่องเบอร์โทรฯ คงบันทึกในมือถือเรียบร้อย เวลาจะไปขาย " โหลสองโหล ! วันนี้ พี่จะเข้าไปเคลียร์บัญชีฯ นะ " ปลายสายจะตอบว่า " จ๊ะ จ๊ะ มาเลยเฮีย " จากจิ้งจกหน้าร้านฯ บอกมา 55555

 

จำได้ด้วยคน ว่าร้านนั้นชื่อ ร้านเจ๊เช็ง กลางวันเปิดอู่ กลางคืนขายอาหาร

[Pete 15,187]

 

 

แหม๋ แลกกัน แถวนั้นก็มี เก๋าลัค อร่อย เป็ดย่างชั้นดีเนื้อนุ่ม ผมก็ต้องทานเป็ด MK ไปตามระเบียบขอรับ อิอิ

เกาลัคมีอร่อยอยู่เจ้าเดียว เป็นเจ้าประจำที่ซื้อทุกครั้งที่เข็นรถไปขายของ กิโลละ 220 บาท คนขายเกาลัคไม่ชอบมองสบตาคนซื้อเลย ยื่นเงินให้ก็ไม่มอง ทอนเงินกลับมา ก็ไม่ยอมมองหน้าเรา แต่เป็นไงไม่รู้. ชอบกินจริงๆๆร้านนี้ เป็นยังไง ต้องตามไปหาดูเอาเองครับ ไม่บอก

 

ปล. ราคาทองคงย่ออีกครั้ง วันจันทร์ วันนี้ นักเก็งกำไร มีเหตุการณ์สังคมเศรษฐกิจโลก ออกมาเยอะ ขายไปอาจต้องซื้อแพงก็ย่อมได้

ถูกแก้ไข มกราคม 6, 2012 โดย เด็กขายของ

[DonJuan 4,685]

เกาลัคมีอร่อยอยู่เจ้าเดียว เป็นเจ้าประจำที่ซื้อทุกครั้งที่เข็นรถไปขายของ กิโลละ 220 บาท คนขายเกาลัคไม่ชอบมองสบตาคนซื้อเลย ยื่นเงินให้ก็ไม่มอง ทอนเงินกลับมา ก็ไม่ยอมมองหน้าเรา แต่เป็นไงไม่รู้. ชอบกินจริงๆๆร้านนี้ เป็นยังไง ต้องตามไปหาดูเอาเองครับ ไม่บอก

 

ขอบคุณครับ จะลองไปหาดู ไม่ใบ้สถานที่นิดนึงหรือครับ

[Pete 15,187]

นายทิโมที ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ มีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นและจีนเป็นเวลา 3 วันในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือความร่วมมือคว่ำบาตรอิหร่านที่ไม่ยอมเลิกล้มแผนทดลองอาวุธนิวเคลียร์

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐว่า ในวันที่ 12 ม.ค. นายไกธ์เนอร์จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ และนายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว เพื่อหารือประเด็นเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งหนทางส่งเสริมการขยายตัวทั่วโลกอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และสมดุล

 

ระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่นและจีนนี้ นายไกธ์เนอร์จะหารือ “ความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศในภูมิภาคนี้ เพื่อที่จะกดดันรัฐบาลอิหร่านเพิ่มยิ่งขึ้นอีก อาทิ มาตรการทางการเงินโดยมีเป้าหมายจัดการธนาคารกลางอิหร่าน"

 

ก่อนหน้านั้น นายไกธ์เนอร์มีกำหนดเดินทางเยือนจีนในวันอังคารหน้า เพื่อเข้าพบกับนายหวัง ซีชาน รองนายกรัฐมนตรีจีน และในวันต่อมาจะหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า และรองประธานาธิบดีซีจินปิง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ เพื่อหารือมาตรการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดโอกาสให้คนงานและบริษัทสหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจจีนเพิ่มขึ้น

 

สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านราว 10% ของปริมาณการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดนั้น กำลังถูกกดดันให้หันไปรนำเข้าน้ำมันจากผู้ผลิตชาติอื่นแทน เนื่องจากสหรัฐกำลังวางแผนที่จะยกเลิกการให้เงินสนับสนุนด้านการลำเลียงน้ำมันจากอิหร่าน

 

นายโคอิชิโร เกมบะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวกับนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐระหว่างหารือกันในสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้วว่า การระงับการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้

 

นอกจากนี้ นายเกมบะยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า หากสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านก็อาจจะส่งผลกระทบแง่ลบ โดยจะทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะหนุนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอิหร่านให้สูงขึ้นด้วย เนื่องจากอิหร่านมีรายได้หลักจากการขายน้ำมัน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 มกราคม 2555)

 

[Pete 15,187]

นายรามิน เมห์มันปาราสต์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า ความมั่นคงในอ่าวเปอร์เซียเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับนานาประเทศในภูมิภาค รวมถึงประเทศที่ต้องการน้ำมันจากภูมิภาคดังกล่าวด้วย

 

"อ่าวเปอร์เซียเป็นภูมิภาคที่สำคัญและอ่อนไหวมาก ทั้งในแง่ของความมั่นคงและพลังงาน" เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 

เขาไม่เปิดเผยว่าอิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซหรือไม่ หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบางคนออกมาขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ

 

"หากความมั่นคงในภูมิภาคถูกคุกคาม นานาประเทศในภูมิภาคจะได้รับความเสียหาย และบรรดาประเทศที่ต้องการพลังงานในภูมิภาคก็จะได้รับความเสียหายเช่นกัน" เขากล่าว

 

"เราไม่ได้อยากสร้างความตึงเครียด และเราก็ไม่อยากให้สหรัฐ ชาติตะวันตกบางชาติ และพวกลัทธิไซออนนิสต์ เล่นเกมสงครามประสาทเช่นกัน" เขากล่าว อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า หากสถานการณ์ทวีความตึงเครียด การตัดสินใจของอิหร่านก็จะเป็นไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 

สำหรับกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) อาจใช้มาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านนั้น โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า ไม่มีใครสามารถทดแทนน้ำมันจากอิหร่านได้ และไม่มีใครสามารถเพิกเฉยต่ออิหร่านที่มีปริมาณก๊าซสำรองมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีแหล่งน้ำมันมากเป็นอันดับ 4 ของโลกได้

 

โฆษกฯ ยังกล่าวด้วยว่า ชาติสมาชิกอียูต้องการพลังงานสำหรับโครงการพัฒนาระยะยาว ดังนั้นจะไม่ยอมเอาผลประโยชน์ของชาติเข้ามาเสี่ยงอย่างแน่นอน แม้ว่าจะถูกสหรัฐกดดันก็ตาม

 

เมื่อถูกถามว่ามีโอกาสที่อิหร่านจะยุติกิจกรรมเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมหรือไม่ เขาตอบว่าไม่มีทาง

 

"อิหร่านไม่มีวันหยุดทำกิจกรรมเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม เพราะเราดำเนินโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติและเรามีสิทธิทำเช่นนี้" เขากล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 มกราคม 2555)

ปล. หน้าธนาคารกสิกรไทย บนถนนเยาวราช

[Pete 15,187]

ไร้คำปลอบใจปี 2555 ผู้นำยุโรปชี้ศก.หนักกว่าเก่า(06/01/2555)

ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ปะทุจากกรีซ แล้วลุกลามไปยังไอร์แลนด์ และโปรตุเกส เป็นสถานการณ์หนักหน่วงที่ทำให้ทั่วโลกหนาวๆ ร้อนๆ มาตลอดปีที่ผ่านมา และยังไม่มีวี่แววว่าจะจบสิ้นลงไปในเวลาอันใกล้

 

ช่วงปลายปี 2554 ที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียู เห็นชอบให้กลุ่มประเทศยูโรโซน รวมถึงสมาชิกอียูอื่นๆ รวมกันเป็นสหภาพการคลัง นอกเหนือจากสหภาพการเงิน ซึ่งจะมีผลให้เกิดการ "รีด" งบประมาณรายจ่ายลงมหาศาล เพื่อป้องกันปัญหาขาดดุลงบประมาณในอนาคต

 

มีเพียงอังกฤษที่ไม่ขอร่วมวงศาคณาญาติในมาตรการดังกล่าว เพราะต้องการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีของตนเอง

 

ในช่วงเวลานี้ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าปัญหาดังกล่าวจะทุเลาลงหรือไม่ในปีต่อๆ ไป

 

ความวิตกกังวลที่แท้จริงของวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป ก็คือความกังวลที่ปัญหาอาจลุกลามออกไปนอกประเทศกรีซ ซึ่งขณะนี้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจประเทศยุโรปอื่นๆ ลดลงตามไปด้วยเรียบร้อยแล้ว

 

โดยกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดได้แก่ ไอร์แลนด์ ที่มีหนี้สาธารณะ 14.3% ของจีดีพี สหราชอาณาจักร มีหนี้สาธารณะ 12.6% สเปน มีหนี้สาธารณะ 11.2% และ โปรตุเกส ที่มีหนี้สาธารณะ 9.4%

 

ทำให้ปี 2555 หาใช่ปีที่สดใสนัก ในสายตาผู้นำยุโรปทั้งหลาย!

 

บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ในยุโรป จึงออกมากล่าวเตือนให้บรรดาประเทศสมาชิก เตรียมรับมือกับความยากลำบากที่กำลังรออยู่ หลังจากหลายฝ่ายออกมาคาดการณ์ว่า ปีมังกรจะเป็นปีที่เศรษฐกิจชะลอตัว

 

นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แม้พยายามมองโลกในแง่ดี แต่ก็ไม่ปลอบใจตัวเอง เมื่อกล่าวออกทีวีในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปีนี้จะยากลำบากยิ่งกว่าปี 2554"

 

ผู้นำหญิงเหล็กกล่าวว่า ถึงยุโรปต้องพบกับบททดสอบที่ยากลำบากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่วิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นก็ช่วยให้ยุโรปใกล้ชิดกันมากขึ้น

 

"สำหรับการแก้ปัญหาในปีนี้ชาวยุโรปคงต้องเดินบนเส้นทางที่ไกลขึ้น และไม่มีทางถอยหลังด้วย แต่เชื่อเหลือเกินว่าในท้ายที่สุดยุโรปจะผ่านพ้นไปได้และจะทำให้พวกเราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"

 

ขณะที่ ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส ต้องเผชิญศึกใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเศรษฐกิจไม่เป็นใจให้กับการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งใกล้มาถึงในเดือนเมษายนนี้

 

ซาร์โกซีกล่าวเตือนประชาชนไว้ล่วงหน้าว่า วิกฤตครั้งนี้ยังไม่ผ่านพ้นไป หลังจากเพิ่งหมดปีแห่งความวิตกกังวล

 

"ผมทราบดีว่าหลายคนพบความยากลำบากตลอดสองปีที่ผ่านมา แต่ขอให้ทราบว่าการทดสอบที่แท้จริงยังมีอีกครั้งหนึ่ง" ซาร์โกซีกล่าว หลังจากเดินหน้าตัดลดงบประมาณแผ่นดินไปแล้วเพื่อรักษาเครดิตระดับ AAA ของฝรั่งเศสไว้ และสัญญาว่าจะตัดลดลงอีก

 

ด้าน นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็เรียกร้องให้ชาวยุโรปเสียสละให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยนโยบายประหยัด ที่จำเป็นต้องนำมาใช้จากผลพวงวิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องลดการใช้จ่ายภาครัฐ

 

"การเสียสละคือสิ่งจำเป็นในห้วงเวลายากลำบากเช่นนี้ แต่เราทำเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานพวกเรา" มอนติระบุ

 

ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป อาจจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี

 

ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก!

 

ที่มา : ข่าวสดรายวัน  (วันที่ 6 มกราคม 2555)

 

[Pete 15,187]

ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง

 

อย่างไรก็ตาม ADP ได้ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ย.ลงมาอยู่ที่ระดับ 204,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 206,000 ตำแหน่ง

 

ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนซึ่งเผยแพร่โดย ADP เป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนจับตาดูมากที่สุด เพราะจะสะท้อนถึงสภาวะในตลาดแรงงานของสหรัฐ

 

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ยังมีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.7% จากระดับ 8.6% ของเดือนพ.ย.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 มกราคม 2555)

 

[Pete 15,187]

นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวยอมรับว่า กรีซอาจจะถูกบีบให้ต้องผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค. หากการเจรจาเรื่องเงินกู้งวดต่อไปกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) ล้มเหลว

 

"ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตมาก หากไม่มีการทำข้อตกลงกับผู้ตรวจสอบบัญชีของ EU/IMF ในเรื่องของเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในขั้นตอนต่อไปแล้ว กรีซก็มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมี.ค." นายปาปาเดมอสกล่าว

 

เป็นที่คาดการณ์กันว่า คณะผู้ตรวจสอบของ EU/IMF จะเดินทางมายังกรุงเอเธนส์ในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ เพื่อทบทวนสถานะทางการเงินของกรีซ ขณะที่กรีซได้รับแรงกดดันมากขึ้นให้เร่งดำเนินการปฏิรูปเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีกรีซได้ผลักดันให้มีการลดต้นทุนด้านแรงงานในภาคเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันภายในประเทศ โดยหลังจากที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้มีการลดค่าแรงในภาครัฐและการขึ้นภาษีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันรัฐบาลก็เริ่มหันมามุ่งเน้นในภาคเอกชน ด้วยการแนะนำให้ภาคเอกชนลดค่าแรงขั้นต่ำและทบทวนการจ่ายเงินโบนัสวันหยุด

 

ทั้งนี้ กรีซต้องพึ่งพาเงินกู้จาก EU/IMF มานับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2553 เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประเทศอื่นๆในยูโรโซน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 มกราคม 2555)

 

[Pete 15,187]

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้น ไทยเช้านี้ปรับฐานในกรอบแคบหลังขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศต่างเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ทั้งนี้ต้องระมัดระวังแรงขายหุ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะจากกองทุน LTF ที่จะครบกำหนด ประเมินกรอบการขึ้นของดัชนีฯในระยะสั้นยังจำกัดอยู่ที่ระดับ 1,050-1,055 จุด คืนนี้รอติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,025-1,030 จุด แนวต้าน 1,042-1,045 จุด

 

นาย อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับฐานลงในกรอบแคบๆ หลังขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เคลื่อนไหวบวก-ลบบางๆ คละกันไป โดยเมื่อวานนี้ยังมีแรงขายหุ้นออกมาอย่างหนาแน่นในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัว ขึ้น ทำให้ดัชนีฯลดช่วงบวกลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปกว่า 16 จุด และต้องระวังแรงขายจากกองทุน LTF ที่จะครบกำหนด 5 ปี ประเมินกรอบการขึ้นของดัชนีฯในระยะสั้นนี้ยังจำกัดอยู่ที่ระดับ 1,050-1,055 จุด

 

ทั้ง นี้ แนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้ ทั้งตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

พร้อมให้แนวรับ 1,025-1,030 จุด แนวต้าน 1,042-1,045 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

 

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(4 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,418.42 จุด เพิ่มขึ้น 21.04 จุด(+0.17%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,277.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด(+0.02%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,648.36 จุด ลดลง 0.36 จุด(+0.01%)

 

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,370.04 ล้านบาทเมื่อวานนี้

 

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 103.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.25%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช้านี้เปิดที่ 8.09 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้(4 ม.ค.)ปิดที่ 7.12 เหรียญฯ/บาร์เรล

 

- "พาณิชย์" เผยเงินเฟ้อ ธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.53% ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ส่วนยอดทั้งปี 54 ยังเป็นไปตามเป้า 3.81%เหตุในรอบปีมีปัจจัยกดดันทั้งน้ำมันแพงอาหารขึ้น รัฐบาลลดมาตรการดูแลค่าครองชีพและน้ำท่วมส่งท้าย คาดปี 55 เงินเฟ้อ 3.3-3.8%จับตาปัจจัยเสี่ยง เศรษฐกิจโลก ภัยธรรมชาติยันสินค้าอาหารปีนี้ไม่ขึ้นแรง ส่วนขึ้น LPG และ NGV กระทบเงินเฟ้อแค่ 0.05%

 

- ครม.อนุมัติหักลดหย่อนภาษีซ่อมแซมบ้านถูกน้ำท่วมไม่เกิน 1 แสนบาท รถยนต์ไม่เกิน 3 หมื่นบาท เปิดช่องรถยนต์จมน้ำเข้าโครงการคืนภาษี 1 แสนบาท พร้อมยกเว้นภาษีเอื้อผู้ประกอบการน้ำท่วมที่ไม่ย้ายฐานผลิตสูง 150% เป็นเวลา 8 ปี ด้านค่ายรถยนต์ ติงวงเงินลดหย่อนภาษีน้อยเกินไป

 

- โบรกเกอร์ห่วงต้นทุนแบงก์พุ่งหลัง ครม.เตรียมออกพ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ให้แบงก์ชาติรับภาระแทนกระทรวงการคลัง หวั่นภาระตกอยู่ที่ประชาชนผู้ฝากและกู้เงิน พร้อมแนะ 3 หน่วยงานรัฐควรบริหารงานทิศทางเดียวกัน ลดความสับสนภาคเอกชน ขณะที่ครม.อนุมัติหลักการ พ.ร.ก. 4 ฉบับกู้เงินฟื้นฟูประเทศ ด้าน"กิตติรัตน์"เดินสายแจงนักวิเคราะห์ความจำเป็นโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ

 

- ก.ล.ต.เผยเตรียมเสนอคลังยกเว้นเก็บภาษีเงินปันผล หวังเทียบเคียงสากล เอื้อ บจ.ต่างประเทศ-นักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้นหลัง พ.ย.เสนอสรรพากรไปแล้ว ส่วนปี 55 เน้น 5 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนตลาดทุนไทย - ฐานะการคลังภาครัฐบาลปีงบ 54 ขาดดุล 2.07 แสนล้าน เพิ่มจากปีก่อนถึง 1.55 แสนล้าน อ้างเป็นไปตามการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 6 มกราคม 2555

[arthas2u 407]

สวัสดีครับ คุณ Donjuan / Arthas

คุณ arthas ครับ ! ครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานเท่าไหร่ คุณดอนฮวน มีทานมื้อค่ำๆๆ กับสาวละแวกร้านแม่ ฯ หลังสนามกีฬาแห่งชาติฯ และ จากคำกล่าวของคุณดอนฮวนในเรื่องการได้บริการที่ดี / พิเศษ / รวดเร็ว ยิ่งแสดงว่า ท่านดอนฮวนได้สร้างมิตรภาพที่ดีไปตั้งนานแล้ว เรื่องเบอร์โทรฯ คงบันทึกในมือถือเรียบร้อย เวลาจะไปขาย " โหลสองโหล ! วันนี้ พี่จะเข้าไปเคลียร์บัญชีฯ นะ " ปลายสายจะตอบว่า " จ๊ะ จ๊ะ มาเลยเฮีย " จากจิ้งจกหน้าร้านฯ บอกมา 55555

พี่ใหญ่ เด๋วผม ต้อง แจ้ง หมอ กฤษ ละ มีการให้สินบนเจ้าหน้าที่ เนีย แย่ จิงๆ ^^

[Pete 15,187]

นายอแลง จุปเป รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) อาจลงมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในวันที่ 30 ม.ค.

 

"ผม คาดว่าเราจะสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ในการประชุมครั้งนี้ เราอยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องนี้ และทุกอย่างลงตัวแล้ว" นายจุปเปเปิดเผยในการแถลงข่าวร่วมกับนายเปาโล พอร์ตาส รัฐมนตรีต่างประเทศของโปรตุเกส ณ กรุงลิสบอน

 

"เรา ให้ความมั่นใจกับประเทศในอียูที่นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านแล้ว เราต้องให้ทางเลือกแก่พวกเขา แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณา และผมคิดว่าเราจะบรรลุเรื่องนี้ได้ปลายเดือนม.ค." นายจุปเปกล่าว

 

สหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาประกาศการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ นับตั้งแต่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEI) รายงานเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านในเดือนพ.ย. ขณะที่บางประเทศในอียูก็พิจารณาคว่ำบาตรธนาคารกลางและการนำเข้านำมันดิบของ อิหร่านแล้ว

 

นอก จากนี้ นายจุปเปซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนโปรตุเกสเพื่อเข้าร่วมประชุมทางการทูต ณ กรุงลิสบอน ยังได้หารือกับนายพอร์ตาสเกี่ยวกับความจำเป็นที่อียูต้องมีรัฐบาลทาง เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศอาหรับบางส่วน และสถานการณ์ในซีเรีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์วันที่ 6 มกราคม 2555

[arthas2u 407]

แป๊ะ+ ให้อีก 50 นะ เนื่อง จาก สอง เด่ง สปอตกะเงินบาทไป ทางเดียวกัน นานๆ จะเห็นที นะ วันนี้ผมเชียลูกค้า ซื้อ รัวๆ เพราะ คิดว่า 1600 เอาอยู่ ตามที่นายยกบอก อิอิ

[Pete 15,187]

 

พี่ใหญ่ เด๋วผม ต้อง แจ้ง หมอ กฤษ ละ มีการให้สินบนเจ้าหน้าที่ เนีย แย่ จิงๆ ^^

นักเก็งกำไรที่เป็นผู้ชาย ทำกันเกือบทุกท่านล่ะครับ เดี๋ยวก็ซื้อขนมติดไม้ติดมือไปฝาก เป็นประจำ แต่เราต้องอย่าลืมนะว่า นักเก็งกำไรที่เป็น " ชาย " มีแค่ 25% เท่านั้น อีก 75% เป็น " หญิง " ฉะนั้น คุณ arthas ครับ เป็นเรื่องธรรมชาติ นิ 5555555

 

เป้าเงินบาทที่หมายต่อไป น่าห่วงครับ สำหรับคนจะไปเที่ยวต่างประเทศ หรือ สถานประกอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ คนอยู่ดอยอย่างเด็กขายของ อาจมีเฮ ก่อนถึงราคาเดิมๆๆๆที่เงินบาท แค่ 29.45 บาท

ถูกแก้ไข มกราคม 6, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,039.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด(+0.29%)มูลค่าการซื้อขาย 13,481 ล้านบาท ตลาดหุ้นผันผวนติดลบเพราะกลุ่มแบงก์ฉุดจากความกังวลผลกระทบจากการแก้ไขปัญหา หนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งเป็น sentiment เชิงลบ ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมาตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ แต่มองว่าเป็นช่วงสั้นๆ ทิศทางช่วงบ่ายตลาดน่าจะลงมาแดนลบ โดยมีกองทุนรอขายตามการครบกำหนดไถ่ถอน 5 ปีของกองทุน LTF

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,039.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด(+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 13,481 ล้านบาท

 

การ ซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนลบ โดยแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ 1,031.76 จุด จากนั้นดัชนีก็ค่อยๆ ปรับตัวขึ้น และแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,040.26 จุด

 

นาง ภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างผันผวน โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ฉุดดัชนีจากผลกระทบที่อาจจะถูกธนาคารแห่งประเทศ เรียกเก็บเงินมาใช้แก้ปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน แต่ได้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นมาตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก แต่ก็มองว่าราคาน้ำมันอาจจะปรับขึ้นในช่วงสั้นจากปัญหาความตึงเครียดในตะวัน ออกกลาง เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในสัดส่วนกว่า 4%

 

อย่าง ไรก็ตาม ในช่วงเดือนนี้มองว่าตลาดหุ้นน่าจะแกว่งตัวลงมากกว่า โดยมีประเด็นเรื่องธนาคารพาณิชย์ที่ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งเป็น sentiment เชิงลบต่อกลุ่มแบงก์

 

ทิศ ทางช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยน่าจะลงมาในแดนลบ เพราะตอนนี้มีนักลงทุนสถาบันที่รอขายอยู่ประมาณ 40,000 กว่าล้านบาท จากการครบกำหนดไถ่ถอน 5 ปีของกองทุน LTF ซึ่งครึ่งหนึ่งจะขายหุ้นออกมาในเดือน ม.ค.นี้ ให้ระวังแรงขายตรงนี้รออยู่

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,223.50 ล้านบาท ปิดที่ 115.50 บาท ลดลง 4.50 บาท

 

BBL มูลค่าการซื้อขาย 884.21 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 4.50 บาท

 

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 760.70 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

 

SCB มูลค่าการซื้อขาย 747.58 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

 

KTB มูลค่าการซื้อขาย 671.73 ล้านบาท ปิดที่ 14.60 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

ปล. ต้นตอที่ทำให้ เงินบาทจะอ่อนค่าลง เป็นผลสืบเนื่องจาก ต่าง พรก. เน้นที่ มาตรา 7 แหล่งที่มาของเงินโปะหนี้ฯ