ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เมื่อวาน มติ ครม. กู้เงินออก. รอให้มีข่าวว่า พระราชกำหนดใกล้ออกเมื่อไหร่ ก่อนลงพระราชกิจจานุเบกษา จะต้องเข้าถือดอลล์สหรัฐอีกครั้ง เพราะต่อไป เงินบาทจะอ่อนอีกครั้ง

ปล. ซื้อเองขายเอง เห็นดอลล์สหรัฐตัวเป็นๆ ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ดีแล้วล่ะครับ ไม่ต้องไปจ่ายค่านายหน้า ค่าบริหารงาน ให้กับคนอื่นมาเสวยสุข

 

คุณเด็กขายของค่ะ กะว่าจะเข้าดอลล์ตัวเป็นๆอยู่ เพราะต้องนั้น 29 บาท เห็นคุณเด็กขายของเข้า ตอนนั้นไม่กล้า ตอนนี้ว่าจะเข้าสลับกับทอง จะทันไม่ค่ะ เพราะเห็นด้วยว่ามันน่าจะอ่อน

ลงอีก ทันมั๊ยอ่ะค่ะ ถ้าเข้าว่าจะไปซื้อที่ superich ได้อ่ะคะอาเฮีย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทอัลโค อิงค์ ของสหรัฐที่เปิดเผยผลประกอบการที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่บริษัท มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ของอังกฤษ ได้คงคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

          ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 84.44 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 5,696.7 จุด

          ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตแร่อลูมินัมรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า แม้ว่าบริษัทมีตัวเลขขาดทุน 191 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 แต่รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 5.99 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

          หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นหลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้น ขานรับรายงานที่วา จีนนำเข้าทองแดงเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นริโอทินโต ดีดตัวขึ้น 3.6% หุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 3.1% และหุ้นคาซัคมิสพุ่งขึ้น 5.9% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ยังจัดอันดับให้หุ้นหลายตัวในอุตสาหกรรมเหมืองแร่อยู่ในกลุ่ม "top picks"

          หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดตัวขึ้น 3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีนี้ อันเนื่องมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด รวมทั้งการที่บริษัทใช้นโยบายปรับลดต้นทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 25.83 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 8,448.09 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ (11 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ภายหลังจากบริษัท อัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวก

          นายเคลาส์ ไคลน์เฟลด์ ซีอีโอของอัลโค อิงค์คาดว่า ความต้องการแร่อลูมินัมในตลาดโลกจะขยายตัว 7% ในปี 2555 ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในวงกว้าง เนื่องจากมีอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทที่ใช้แร่อลูมินัมเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์

          นอกจากนี้ อัลโค อิง์เปิดเผยว่า แม้ว่าบริษัทมีตัวเลขขาดทุน 191 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 แต่รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 5.99 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

คุณเด็กขายของค่ะ กะว่าจะเข้าดอลล์ตัวเป็นๆอยู่ เพราะต้องนั้น 29 บาท เห็นคุณเด็กขายของเข้า ตอนนั้นไม่กล้า ตอนนี้ว่าจะเข้าสลับกับทอง จะทันไม่ค่ะ เพราะเห็นด้วยว่ามันน่าจะอ่อน

ลงอีก ทันมั๊ยอ่ะค่ะ ถ้าเข้าว่าจะไปซื้อที่ superich ได้อ่ะคะอาเฮีย

สวัสดีครับ คุณ terminal. 32

 

วันนี้ ที่นั้น ประกาศราคาตอน 09.38 USA USD 100 รับซื้อ 31.65. ขายออกที่ 31.70

อย่าดีกว่าครับ เพราะมันอ่อนมานานหลายวันแล้ว เสี่ยงซื้อแพงกว่า เด็กขายของ 5555555 แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณฯ ที่สำคัญ ต้อง แบงค์ 100 เท่านั้น ขนาดอื่น " Just say No "

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

        **ต่างประเทศ

 

        *ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในวันอังคาร นำโดยหุ้น

         กลุ่มวัสดุ หลังบริษัท อัลโค คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในเชิงบวก และหุ้นกลุ่ม

         ธนาคารปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.56%     

        *วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับขึ้น โดยการดีดตัวของตลาดน้ำมัน

         ได้ดึงดูดแรงซื้อในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ปริมาณซื้อขาย

         เพิ่มขึ้น แม้ความกังวลหนี้ยูโรโซนเป็นปัจจัยสกัดการไหลเข้าของกระแสเงินทุน

         ต่างชาติ ส่งผลให้ตลาดหุ้น ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม 

         และสิงคโปร์ ต่างปิดในแดนบวก  

        *ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดวานนี้ ปรับขึ้น 93 เซนต์ 

         หรือ 0.92% ปิดที่ 102.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวก

         ต่อเศรษฐกิจ และกังวลว่าอาจเกิดปัญหาขัดข้อง ด้านอุปทานน้ำมันในอิหร่านและ

         ไนจีเรีย ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) 

        *ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 50 จุด หรือ 3.82% สู่ 

         1258 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ ส่วนระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624  

             

        **เศรษฐกิจทั่วไป

        

        *ธปท.มองค่าเงินบาทในครึ่งแรกปีนี้ จะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของปัญหาหนี้ในยุโรป แต่ระบุว่าที่ผ่านมาตลาด เริ่มรับความผันผวนของเงินบาทได้ดีขึ้น  

 

        *ครม.เห็นชอบต่ออายุมาตรการรถเมล์และรถไฟฟรีถึง 30 เม.ย.55 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน คาดรัฐบาลจะมีค่าใช้จ่ายจากมาตรการนี้ ราว 1.17 พันลบ.

 

         *รมว.คลัง ระบุพ.ร.ก.เกี่ยวกับการจัดการภาระหนี้ 1.14 ล้านลบ.ของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ผ่านครม.ไม่ใช่การโอนหนี้รัฐบาลไปให้ธปท. แต่จะให้ธปท.ดูแลจัดการบริหารหนี้ เพื่อไม่เป็นภาระของงบประมาณ โดยให้ธปท.ไปทำแผนชำระหนี้คืนให้หมดภายใน 25 ปี

 

        *ผู้ว่าการธปท.เชื่อว่าจะเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงิน มาใช้แก้ปัญหาหนี้ของ กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ถึงอัตราสูงสุดที่ 1% ของเงินฝาก เนื่องจากเป็นอัตราสูงเกินไป 

 

        *บล.ไทยพาณิชย์ คาดตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/55 อาจให้ผลตอบแทนที่ดีเกินกว่าตลาด คาดหมาย มองได้รับผลดีจากมาตรการแก้ไขหนี้ของยุโรปที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงมาตรการ ผ่อนคลายทางการเงินของจีน และคาดกำไรสุทธิของบจ.ในปีนี้จะโต 19% มากกว่าปีก่อน 

        *ครม.มีมติเห็นชอบการออกพ.ร.ก.รวม 4 ฉบับ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ ระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน หลังเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีก่อน 

 

        *นายกฯ ย้ำให้หน่วยงานราชการ เร่งจัดทำงบประมาณปี 56(ต.ค.55-ก.ย.56) ให้เสร็จ ในก.ย.55 โดยให้ส่วนราชการจัดทำรายละเอียดของงบประมาณให้เสร็จ ในเดือนมี.ค.  เพื่อเสนอต่อครม. ในปลายเดือนเม.ย. หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา ในเดือนพ.ค.

 

        *สมาคม บล.เกาะติดเสรีค่าคอมฯ ยอมรับมีโบรกเกอร์แตกแถว เปิดเกมหั่นค่าคอมฯ หลังเปิดเสรีเพียง 4 วัน "ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ" ยันลดไม่ถึง 0% พร้อมขอความร่วมมือสมาชิกจัดโปรโมชั่นสมเหตุสมผล ลือสะพัดบางโบรกฯ เปิดเกมหั่นค่าคอมฯ  ขาใหญ่เหลือ 0.02%(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

 

        *รัฐบาลพม่า ตัดสินใจยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 4 พันเมกะวัตต์ ภายใน นิคมอุตสาหกรรมทวาย ของอิตาเลียนไทย หวั่นผลกระทบสิ่งแวดล้อม "สมเจตน์"  การันตีพม่ายังไฟเขียวสร้างโรงไฟฟ้านิคมฯ ทวายได้ ยอมรับต้องเปลี่ยนเชื้อเพลิง จากถ่านหิน เป็นก๊าซธรรมชาติแทน หารือราชบุรีฯ ปรับแผนงานลงทุนใหม่  (นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

 

        *คปภ.เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัย หลังจากครม.มีมติผ่านร่าง  พ.ร.ก.จัดตั้งกองทุนประกันภัย ว่าจะตั้งกองทุน 5 หมื่นลบ.ในเดือน เม.ย. และ จะเปิดขายประกันให้กับประชาชนและธุรกิจเอสเอ็มอีได้ทันที ในวงเงินรวม 5 แสนลบ. (นสพ.โพสต์ทูเดย์) 

      

       

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11  มกราคม 2012

 

สรุปภาวะตลาดเงินและภาวะเศรษฐกิจ - ธนาคารกสิกรไทย

 

 

ตลาดหุ้นไทย ปรับเพิ่มขึ้น 0.78% โดยมีแรงซื้อนำในหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี ขณะที่ยังคงมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มแบงก์จากความกังวลต่อการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูสู่ธปท.

USD/THB ปิดตลาดที่ระดับ 31.64 หลังจากแข็งค่าตามค่าเงินภูมิภาคในช่วงบ่ายหลังมีกระแสเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งน่าจะเป็นเพียงการฟื้นตัวในช่วงสั้น เนื่องจากยังคงมีแรงกดดันจากปัญหาหนี้ยูโรโซนอยู่

EUR/USD ปิดตลาดที่ระดับ 1.2778 แข็งค่าจากราคาปิดวานก่อน โดยการประชุมระหว่าง นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และ ผู้อำนวยการ IMF ส่งสัญญาณว่าผู้นำยุโรปกำลังแก้ปัญหาหนี้ยูโรโซน

 

การเคลื่อนไหวของตลาดที่สำคัญ

ตลาดหุ้นไทย ปรับเพิ่มขึ้น 0.78% โดยมีแรงซื้อนำในหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี ขณะที่ยังคงมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มแบงก์จากความกังวลต่อการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูสู่ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ร่วมรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น

ครม.เห็นชอบพรก.เกี่ยวกับหนี้ 1.14 ล้านล้านบาทโดยโอนภาระการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้ธปท. โดยกำหนดแหล่งรายได้จาก 1. กำไรของธปท.หลังหักขาดทุนสะสม 2. รายได้จากการบริหารทุนสำรอง และ 3. เรียกเก็บจากสถาบันการเงิน

วานนี้ตัวเลขการส่งออกและการนำเข้าของจีนลดลงในเดือนธ.ค. โดยเฉพาะตัวเลขการนำเข้าที่โตเพียง 11.8%yoy ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะโตถึง 18.0%yoy โดยการนำเข้าที่ชะลอตัวลงสะท้อนภาพความอ่อนแอของการบริโภคภายในประเทศจีน ซึ่งอาจกระทบผู้ส่งออกจากประเทศไทยหากประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองนี้เกิดภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

จากการที่นักลงทุนคาดว่าจีนจะใช้มาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งราคาทองที่วิ่งขึ้นตามสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้จากการที่บริษัทอัลโคซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐฯมองแนวโน้มเชิงบวกหลังผลประกอบการณ์ดีกว่าคาด ได้หนุนให้มีการซื้อหุ้นมากขึ้น

 

สรุปความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน

EUR/USD ปิดตลาดที่ระดับ 1.2778 แข็งค่าจากราคาปิดวานก่อน โดยการประชุมระหว่างนางเมอร์เคล (นายกรัฐมนตรีเยอรมนี) และนางลาการ์ด (ผู้อำนวยการ IMF) ส่งสัญญาณว่าผู้นำยุโรปกำลังแก้ปัญหาหนี้ยูโรโซน ทั้งนี้ พรุ่งนี้ จะมีการประชุม ECB และในวันศุกร์จะมีการประมูลพันธบัตรของอิตาลีและสเปน

USD/JPY ปิดตลาดที่ระดับ 76.85 ทรงตัวจากราคาปิดวานก่อน โดยระหว่างวันปรับตัวอยู่ในกรอบ 76.78-76.91 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตาดูปัญหาหนี้ยูโรโซนต่อไป

GPB/USD ปิดตลาดที่ระดับ 1.5484 แข็งค่าจากราคาปิดวานก่อน ตามค่าเงินยูโร หลังแกว่งตัวในกรอบ 1.5450-1.5494 อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์อังกฤษกล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษเติบโตเท่าไรนัก

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับตัวแข็งค่านำโดยวอนและดอลลาร์ไต้หวัน หลังได้รับแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี เงินทุนอาจไหลกลับในช่วงสั้นจากแรงกดดันของปัญหาหนี้ยูโรโซน

USD/THB ปิดตลาดที่ระดับ 31.64 หลังจากแข็งค่าตามค่าเงินภูมิภาคในช่วงบ่ายหลังมีกระแสเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งน่าจะเป็นเพียงการฟื้นตัวในช่วงสั้น เนื่องจากยังคงมีแรงกดดันจากปัญหาหนี้ยูโรโซนอยู่ โดยธปท.มองว่าบาทจะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้นในครึ่งแรกของปีนี้

 

หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ปรากฏอ้างอิงจาก Reuters ซึ่งอาจไม่ใช่ราคาทำการจริงในตลาด

 

ท่านสามารถรับฟังข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติได้ที่ <โทร 0 2888 8822 หลังเลือกภาษา กด 711 ทิศทางค่าเงินวันนี้

.... กด 721 สรุปความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน> หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

www.twitter.com/KBankFX

www.facebook.com/KBankFX

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เด๋ว แปะ + อีก 50เป็นอย่าง น้อยฟันธง เงิน บาท 75-76

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำอยู่ใต้แนวต้านสำคัญ หลังจากที่มีการฟื้นตัวมากกว่า 1% เนื่องจากมีผลบวกในเรื่องเศรษฐกิจของโลกที่ส่งผลให้

ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกันกับทองคำ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเมื่อวานนี้ และมีการซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับแนวต้านในวันนี้ โดยการที่ราคากลับมายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน อาจช่วยให้ราคาทองคำกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

การซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียพุ่งสูงขึ้น ส่งผลบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของ 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ และบวกกับที่ทางฝรั่งเศสจะไม่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์ เรทติ้งส์ แต่อย่างไรก็ตามสกุลเงินยูโรยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลในวิกฤตหนี้สาธารณะในการที่สเปนจะมีการประมูลพันธบัตรในวันพฤหัสบดีนี้

มีแหล่งข้อมูลจากทางธนาคารเมื่อวันอังคารเพื่อสร้างความกดดันในเรื่องการเจรจาสรุปข้อตกลงว่า การเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนพันธบัตรระหว่างประเทศกรีซและเจ้าหนี้ส่วนบุคคลเพื่อลดภาวะหนี้ได้ใกล้บรรลุข้อตกลง จากการที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์เรียกร้องอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นหากเศรษฐกิจดีขึ้น

ตลาดโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวานนี้ หลังจากการคาดการณ์ที่ดีโดยบริษัทอลูมิเนียม อัลโค อิงค์ และหุ้นธนาคารที่แข็งแกร่ง

สกุลเงินยูโรคงที่เทียบกับดอลลาร์ในตลาดเอเชียเช้านี้ แต่อ่อนตัวลงมาใกล้ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากความกังวลในเรื่องการประชุมนโยบายของอีซีบี และการประมูลขายพันธบัตรของสเปน

ที่มา: Reuters – PRECIOUS-Gold steady after rallying on economics hopes, 11 Jan 2012, 7:46am By Rujun Shen

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐบาลประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู เห็นพ้องกันในวันนี้ว่า จะร่นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียู เพื่อหารือเรื่องมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านให้เร็วขึ้นหนึ่งสัปดาห์เป็นวันที่ 23 มกราคม

 

ผู้นำชาติสมาชิกอียู แถลงว่า ตัดสินใจร่นการประชุมเร็วขึ้นจากวันที่ 30 มกราคม เพื่อเลี่ยงการชนกับวันประชุมสุดยอดอียู ที่จะมีขึ้นในวันนั้น อียู เห็นพ้องในหลักการแล้วว่า จะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน อันเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มแรงกดดันอิหร่าน เรื่องโครงการนิวเคลียร์ แต่ยังไม่สามารถสรุปในรายละเอียดว่า จะประกาศใช้เมื่อใด

 

ด้านนักการทูต เผยว่า อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเริ่มใช้มาตรการได้ เพราะสมาชิกอียูบางประเทศ ต้องการลดผลกระทบที่จะมีต่อภาวะเศรษฐกิจของตนเอง อียูเสนอให้เวลาสมาชิกหาแหล่งนำเข้าน้ำมัน จากที่อื่นแทนอิหร่านภายใน 1-12 เดือน ก่อนประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตร นักการทูตเผยอีกว่า กรีซซึ่งนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านถึง 1 ใน 4 ต้องการให้ชะลอเวลาไปมากที่สุด ขณะที่อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน ต้องการให้ผ่อนผันสูงสุด 3 เดือนเท่านั้น ปัจจุบันอียูนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านวันละเกือบ 600,000 บาร์เรล ถือเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน

 

Link : http://www.innnews.co.th/อียู-เห็นพ้องร่วมถกคว่ำบาตรอิหร่าน-23มค--331483_04.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรีซระดมเงินทะลุเป้า 1.625 พันล้านยูโรในการประมูลตั๋วเงินคลัง

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2555 20:02:46 น.

 

กรีซเปิดประมูลตั๋วเงินคลังระยะเวลา 6 เดือน โดยระดมเงินได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือราว 2.07 พันล้านดอลลาร์ ที่อัตราผลตอบแทน 4.90%

 

ในการประมูล ซึ่งมีความต้องการซื้อตั๋วเงินคลังสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูล 2.8 เท่าครั้งนี้ ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าการประมูลตั๋วเงินคลังเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาเล็กน้อย ซึ่งอัตราผลตอบแทนในครั้งนั้นอยู่ที่ 4.95%

 

ทั้งนี้ กรีซตั้งเป้าที่จะระดมทุนในการประมูลครั้งนี้ให้ได้ 1.25 พันล้านยูโร ขณะที่อาศัยการเปิดประมูลตั๋วเงินคลังรักษาสถานภาพในตลาด เนื่องจากไม่สามารถออกตราสารหนี้ระยะยาวได้เพราะติดปัญหาค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมที่สูงมาก

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี สู่ระดับ 2.48 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 2.4573 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อหมุนเวียน (revolving credit) ซึ่งรวมถึงวงเงินสินเชื่อผ่านบัตรเครดิต ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5% ต่อปี ใขณะที่ความต้องการสินเชื่อประเภทอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสินเชื่อซื้อรถยนต์ เพิ่มขึ้น 10.7% ต่อปี ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาคครัวเรือนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการกู้ยืมเงิน ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้มากขึ้น

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 11 มกราคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับมุมมองบวกเศรษฐกิจสหรัฐ

 

________________________________________

 

Wednesday, January 11, 2012 09:29:59

 

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกมาเตือนว่า อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีก็ตาม

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,440.96 จุด เพิ่มขึ้น 18.70 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,071.90 จุด เพิ่มขึ้น 67.62 จุด ส่วนดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,203.10 จุด เพิ่มขึ้น 24.23 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,857.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,717.84 จุด ลดลง 1.99 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,522.03 จุด บวก 0.04 จุด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวก 0.2% แตะ 116.29 จุด เมื่อเวลา 9.40 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

หุ้นโซนี่ คอร์ป บวก 1% ในตลาดหุ้นโตเกียว หุ้นเจมส์ ฮาร์ดี อินดัสทรีส์ ดีดตัว 1.9% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บวก 1.7% หลังจากที่ราคาทองแดงปรับตัวขึ้น

 

หลายประเทศในยูโรโซนอาจโดนฟิทช์ เรทติ้งส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือปลายเดือนนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฟิทช์ประกาศจับตาอิตาลี สเปน เบลเยียม ไอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไซปรัสในเชิงลบ

 

นายเดวิด ไรลีย์ หัวหน้าฝ่ายจัดอันดับประเทศของฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า ฟิทช์จะพิจารณาสถานการณ์ของประเทศในกลุ่มยูโรโซนปลายเดือนม.ค.นี้ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการลดอันดับลง 2 ขั้นสำหรับประเทศหนี้สินท่วมท้น

 

นายไรลีย์เผยว่า อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 3 ของยูโรโซน จัดว่ามีความเสี่ยงสูงในวิกฤตหนี้ครั้งนี้ ขณะที่ตลาดพุ่งเป้ามาที่อิตาลีว่ามูลค่าความเสียหายเกินกว่าที่จะให้ความช่วยเหลือได้

 

--อินโฟเควสท?-

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 31.68/70 อ่อนค่าตามยูโรที่กังวลผลประมูลพันธบัตรอิตาลี-สเปน

 

________________________________________

 

Wednesday, January 11, 2012 09:04:07

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.68/70 บาท/ดอลลาร์ อ่อนตัวลงเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.65/67 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทวันนี้มีโอกาสอ่อนค่าลงเล็กน้อยตามทิศทางของเงินยูโรที่อ่อนค่าลงไป ซึ่งตลาดยังรอปัจจัยเรื่องการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งผลประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน

 

"บาทคงร่วงลงอีกตามยูโร แม้ตอนนี้ทางยุโรปจะยังไม่มีปัจจัยอะไรหวือหวา แต่ตลาดรอดูผลประชุม ECB รวมทั้งการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปน ตลาดมองเป็น negative ว่าผลประมูลน่าจะกดดันยูโรอีก สเปนจะประมูลวันพฤหัส ส่วนอิตาลีวันศุกร์" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 76.89/91 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2750/54 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.65-31.75 บาท/ดอลลาร์

 

--อินโฟเควสท?-

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...