ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 09:26:02 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวลง โดยปัจจัยกดดันหลักมาจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือ 9 ประเทศในยูโรโซนอาทิเช่น ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน ทำให้กลับมามีความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ยุโรปอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออื่นๆก็มีโอกาสที่จะปรับลดอันดับเครดิตลงเช่นกัน

 

ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีความกังวลเรื่องการประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมทั้งเดือนขายสุทธิมาแล้ว 2.95 พันล้านบาท

 

และในสัปดาห์นี้แนะนำให้ติดตามการประมูลพันธบัตรของกลุ่มยูโรโซน, ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันที่ 23-24 ม.ค.

 

พร้อมให้แนวรับ 1,035-1,040 จุด แนวต้าน 1,050-1,055 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(13 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,422.06 จุด ลดลง 48.96 จุด(-0.39%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,289.09 จุด ลดลง 6.41 จุด(-0.49%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,710.67 จุด ลดลง 14.03 จุด(-0.51%)

 

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 428.45 ล้านบาทเมื่อ 13 ม.ค. 55

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 98.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.4%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช้านี้เปิดที่ 8.31 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากล่าสุด(13 ม.ค.)ปิดที่ 7.72 เหรียญฯ/บาร์เรล

 

- คลังบี้แบงก์ชาติเร่งเจรจาแบงก์พาณิชย์เพิ่มค่าต๋งช่วยชำระหนี้กองทุนฟื้นฟู หลังไม่เห็นความคืบหน้า แนะเลิกอุ้มสภาพคล่องแบงก์ เลิกแทรกแซงบาทเพื่อลดต้นทุน สศค.ทำหนังสือแจ้งต่ออายุกองทุนฟื้นฟูออกไปแบบไม่มีกำหนด สบน.เตรียมออกพันธบัตรยืดหนี้ครบกำหนดหลังยังไม่ชัดเจนเรื่องรายได้ ธปท.

 

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในกลุ่มยูโรโซน ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, ออสเตรีย,ไซปรัส, อิตาลี, โปรตุเกส, สเปน, มอลตา, สโลวาเกีย และสโลเวเนีย โดยระบุว่าข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค

 

- บีไอไอเผยนักลงทุนต่างชาติเรียกร้องนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในพื้นที่ภาคอีสาน หลังนิคมอุตฯ อยุธยา - ปทุมธานีถูกน้ำท่วมหนักประสาน กนอ. เตรียมตั้งนิคมอุตฯ อีสานแห่งแรกสนองต่างชาติเผยแชมป์จังหวัดที่มีลงทุนสูงสุดปี'54

 

- โบรกเกอร์ประเมิน เก็บเงินแอลพีจี ภาคอุตสาหกรรม เข้ากองทุนน้ำมันฯ 1 บาทต่อ กก. ไม่กระทบหุ้นปิโตรเคมี ชี้กรณีเลวร้ายสุดกระทบกำไร "พีทีทีโกลบอล-ไออาร์พีซี" แค่ 2-3% ชี้มีปัจจัยบวกจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นมากกว่า มองครึ่งปีหลังเป็นช่วงขาขึ้นของกลุ่มปิโตร นักวิเคราะห์เพิ่มน้ำหนักลงทุนเท่าตลาด

 

- ครม.สัญจร ยิ่งลักษณ์ ประกาศแจก 8 จังหวัดภาคเหนือ จังหวัดละ 1 โครงการ เผยแต่ละจังหวัดแห่ของบลงพื้นที่กว่า 3.8 แสนล้านบาท "กิตติรัตน์" ระบุ "ยิ่งลักษณ์" ขีดเส้นจัดทำประมาณการงบประมาณ ปี 2556 ให้เสร็จภายในเดือน ม.ค.สั่งเร่งจัดทำร่างทีโออาร์ซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากน้ำท่วมด้าน ครม.ไฟเขียว ปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 เผยนายกฯ กำชับทำงบประมาณให้คำนึงแผนงาน กยน.-กยอ.

 

- ประชาชนแห่เติมน้ำมันและก๊าซฯ ในรถยนต์รับดีเดย์การปรับราคายกแผงวันนี้ กรมธุรกิจพลังงานสั่งปั๊มดูแลบริการให้เพียงพอ สนพ.แจงยิบต้นทุน NGV ยันพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองที่ตัดสินวันนี้หลังเครือข่ายประชาชนยื่นขอคุ้มครองฉุกเฉิน "กิตติรัตน์" เผย ครม.หนุนเลิกเบนซิน 91 ปลายปี พร้อมเห็นชอบรับจำนำมันสำปะหลัง 10 ล้านตัน

 

--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

[Pete 15,187]

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 09:34:07 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.87-31.90 บาท/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.74/76 บาท/ดอลลาร์

 

"ถือว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง เนื่องจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับเครดิต 9 ประเทศในยุโรป โดยเอสแอนด์พีได้ลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และยังได้ปรับลดอันดับเครดิตของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอีก 8 ประเทศเช่นกัน โดยระบุว่าข้อตกลงที่ผู้นำยุโรปบรรลุในเดือนธ.ค.ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาหนี้สินของภูมิภาค ส่งผลให้ค่าเงินยูโรสกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.17 เยนในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทน่าจะมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์

 

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรที่เปิดมาในช่วงบ่ายว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตมากน้อยขนาดไหน

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

เดี๋ยวเกิดมีคำถามที่สงสัย

อาทิตย์ที่แล้ว ค่าเงินดอลล์สหรัฐ ที่ ซุปเปอร์ริข รับซื้อ 31.65 ขายออกที่ 31.70

มาวันนี้. ณ. ร้านเดิม 31.85 ขายออกที่ 31.92

อาทิตย์ที่แล้ว สมมุติว่ามีการเข้าซื้อที่ 31.70 มาวันนี้ ขายออกไป 31.85 ส่วนต่างคือ 0.15

ถ้าซื้อ US$10,000 จ่าย 317,000 ได้มาแค่ 1,500 บาท หรือ 0.47% ( แต่ไม่คุ้มกับความเสี่ยงเท่าไหร่นะครับ ) แค่มาบ่นให้ฟังว่า มันเป็นอย่างได๋

[Pete 15,187]

 

          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า ประเด็นข่าวการเจรจาเพื่อซื้อหุ้น บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) ของบมจ.ปตท.(PTT)จากธนาคารออมสินไม่ใช่ประเด็นใหม่ โดยเชื่อว่าอาจทำให้เกิดแรง"เก็งกำไร"ในหุ้น IRPC

          ทั้งนี้จากการสอบถามผู้บริหาร PTT ไม่ได้ให้การปฏิเสธ โดยระบุว่า IRPC ถือเป็น strategic asset การเพิ่มสัดส่วนแต่ไม่เกิน 50% จึงมีความเป็นไปได้ โดยคาดว่าหากมีการบรรลุข้อตกลงได้ ราคาน่าจะสูงกว่าราคาปัจจุบันของ IRPC ที่ซื้อขายที่ PBV 2012 เพียง 1.0 เท่า จึงยังคงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"หุ้น IRPC โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท

          ล่าสุดเมื่อ 13 ม.ค.55 หุ้น IRPC ปิดที่ 4.28 บาท ลดลง 0.04 บาท(-0.93%)

 

[Pete 15,187]

By Virginia Harrison, MarketWatch

SYDNEY (MarketWatch) — Asia markets fell on Monday after a string of downgrades from Standard & Poor’s and stalled debt talks in Greece thrust Europe’s ongoing debt crisis back into the spotlight.

 

Japan’s Nikkei Stock Average JP:NIK -1.51%  and South Korea’s Kospi KR:0100 -1.53%  each fell 1.5%, while Australia’s S&P/ASX 200 index AU:XJO -1.03%  lost 1.1%.

 

Hong Kong’s Hang Seng Index HK:HSI -0.92%  declined 1% and China’s Shanghai Composite CN:000001 -0.62%  dropped 0.6%.

 

[พลอยสีสวย 88]

สวัสดีค่ะครูเด็กขายของ ซึ่งขอยกให้เป็นครูในการหาข้อมูลข่าวสาร รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยมีผลกับราคาทองคำ ทำให้รู้ว่าทองน่าจะขึ้นหรือลง ขอให้ครูเด็กขายของมีความสุขนะค่ะ และครูดอน ฮวน ผู้พาเครื่องขึ้นบน พาเครื่องขึ้นเร็วนะค่ะ

[Pete 15,187]

มีเรื่องมาบ่น เช้าวันจันทร์ครับ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคม ได้มีจังหวะไปร่วมงานวันเด็ก ณ. สถานที่แห่งหนึ่ง ได้มีการจัดกิจกรรมให้เล่น คือ " เก้าอี้ดนตรี " หลังจากเล่นแย่งนั่งเก้าอี้ไปจนถึง 3 คนสุดท้าย คือ ชาย 1 หญิง 2 ในรอบถัดไป เก้าอี้เหลือ 2 ที่ สรุปว่า ชาย 1 หญิง 1 ได้นั่งเก้าอี้ เด็กผู้หญิงคนที่ 3 เป็นฝ่ายออก กรรมการฯ ได้เข้ามาสอบถามเด็กผู้ชาย ว่า " เราจะยอมออกได้ไหม ? เพื่อให้เด็กผู้หญิง 2 คนมาแข่งกัน

เด็กผู้ชาย ตอบว่า " ได้เลยครับ ผมยอมเสียสละให้ได้ครับ "

กรรมการฯ จึงเดินมาที่เด็กผู้หญิงที่แพ้ออกไป แล้วกล่าวว่า " เด็กผู้ชายเขายอมเสียสละ ให้หนูได้เล่นชิงชนะเลิศ นะค๊ะ "

 

โอ้โห ! ดีใจแทนประเทศไทยจริงๆ ที่ได้ยินตอบแบบนี้ : " อย่าเลยค่ะ แพ้ก็คือแพ้ ชนะก็คือชนะ การไม่ยอมรับในกฎกติกาของเกมฯ สักวันจะไม่มีใครอยากเล่นเกมเก้าอี้ดนตรี เกมจะเสียความสนุกของตัวตนที่แท้จริง แล้วอาศัยความอ่อนแอของผู้หญิง มาอ้างชัยชนะ "

 

เด็กขายของ จึงเดิน ส. เสือใส่เกือก หรือ เสือกเข้าไปหา เด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วถามว่า อายุแค่ 12 ปี เรียน ประถม 6 ใครสอนให้พูดครับ ?

คำตอบ : พ่อ / แม่ / ครู

เด็กขายของถามต่อว่า : แล้วอายุของท่านเหล่านั้น อายุเท่าไหร่จ๊ะ

คำตอบ พ่อ 46 แม่ 45 ครู 47

 

ปล. เดี๋ยวสงสัยตัวเลข45,46,47คืออะไร ไม่ใช่ใบ้หวยนะครับ แต่เป็น ช่วงอายุของคน ที่ นับจากอดีตถึงปัจจุบัน สังคมมนุษย์ดำรงอยู่ได้ เพราะการบริหารจัดการตามแนวคิดของแต่ละยุคสมัย ยุคนี้ก็เช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร เราเพียงแต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ยุคก่อน กับ ยุคนี้ ล้วนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง !!!!!

ถูกแก้ไข มกราคม 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

สวัสดีค่ะครูเด็กขายของ ซึ่งขอยกให้เป็นครูในการหาข้อมูลข่าวสาร รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยมีผลกับราคาทองคำ ทำให้รู้ว่าทองน่าจะขึ้นหรือลง ขอให้ครูเด็กขายของมีความสุขนะค่ะ และครูดอน ฮวน ผู้พาเครื่องขึ้นบน พาเครื่องขึ้นเร็วนะค่ะ

เด็กขายของขอบคุณด้วยใจในข้อความที่ส่งมาให้ แต่มิกล้าที่จะรับในคำนั้น เพราะเป็นแค่เด็กขี้บ่น ที่มาบ่นข่าวสาร และ เรียนรู้เดินไปพร้อมๆ กันครับ ติดดอย กูก็ติดดอยด้วย ขายหมู ก็น่าจะขายหมูด้วย กำไรก็คงจะกำไรด้วย ขอบคุณนะครับในความปรารถนาดี

เดี๋ยวตอนเที่ยงๆ เด็กขายของก็ติดธุระ ไปไหว้ครูเหมือนกันล่ะครับ ครูที่สอนให้เรารู้ ครูที่สั่งสอนให้เราเข้าใจชีวิตความพอเพียง

[DonJuan 4,685]

สวัสดีค่ะครูเด็กขายของ ซึ่งขอยกให้เป็นครูในการหาข้อมูลข่าวสาร รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยมีผลกับราคาทองคำ ทำให้รู้ว่าทองน่าจะขึ้นหรือลง ขอให้ครูเด็กขายของมีความสุขนะค่ะ และครูดอน ฮวน ผู้พาเครื่องขึ้นบน พาเครื่องขึ้นเร็วนะค่ะ

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำให้เกียรตินั้น แต่ผมก็ไม่อาจรับได้เช่นกัน ผมก็แค่นักเล่นนักลงทุนคนหนึ่ง บอกไปอย่างไร ก็ซื้อขายไปตามนั้น มีของเชียร์ขึ้น ไม่มีของอยู่เฉยๆ เอาประสบการณ์จากการดูราคา อ่านข่าว ดูกราฟ มาเดาๆให้ทุกท่านได้ทราบกัน ถูกบ้าง ตรงบ้าง แม่นบ้าง มั่วบ้าง ไปตามเรื่อง ครับผม

[Pete 15,187]

วันนี้ อาจจะถือเป็นวันเดาใจนักลงทุน กับ การเดาทิศทางราคาทอง ณ. ราคารับซื้อคืนทองราคาที่ 24,700 บาท ที่ช่างมองง่ายจัง ลดอันดับยุโรป ค่าเงินยูโรอ่อน ค่าดอลล์แข็ง ราคาทองจะลดราคาลง เพราะดลล์แข็งค่าขึ้น ง่ายจริงๆ ทฤษฎีนี้ ?

 

1. ถ้าเพื่อนๆคิดว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือ มีผลใน ด้านลบ กับราคาทองอย่างมาก ประกอบกับ คลื่นซ้ายชนคลื่นขวา กระเด้งกระดอนลงดิ่ง ก็จงรีบเอาไปขายออกเสีย แล้วรอช้อนซื้อในราคาที่ต่ำกว่า ถือว่า เป็นการปรับลดพอร์ต ได้ดีเยี่ยม เพราะว่า เห็นชัดๆๆ มาแน่ๆๆๆ

 

2. ถ้าเพื่อนๆ คิดว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือมีผลในด้านลบเหสือนกัน แต่แรงซื้อมีมากกว่า จากเทศกาลตรุษจีน และ นักลงทุนได้กระทำในสิ่งที่กังวลตื่นตระหนกไปแล้ว ตอนนี้คือช่วงผ่อนคลาย ก็ถือลุ้นกันต่อไป

 

3. ถ้าเพื่อนๆ มีกำไรแล้ว เพราะเข้าซื้อที่ 24,300 บาท แล้วไม่แน่ใจว่า 1 หรือ 2 จะมา ปล่อยสักหน่อย เอากำไรกลับบ้าน ที่เหลือรอลุ้นต่อไป

 

จะเอายังไงดีนิ สำหรับเด็กขายของ คือ แนวคิดที่ 2 และ 3 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ( ยืมของคุณ foo มาอีกครั้ง )

 

http://www.youtube.com/watch?v=tVmayxj0nEw

ถูกแก้ไข มกราคม 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[luck 512]

วันนี้ อาจจะถือเป็นวันเดาใจนักลงทุน กับ การเดาทิศทางราคาทอง ณ. ราคารับซื้อคืนทองราคาที่ 24,700 บาท ที่ช่างมองง่ายจัง ลดอันดับยุโรป ค่าเงินยูโรอ่อน ค่าดอลล์แข็ง ราคาทองจะลดราคาลง เพราะดลล์แข็งค่าขึ้น ง่ายจริงๆ ทฤษฎีนี้ ?

 

1. ถ้าเพื่อนๆคิดว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือ มีผลใน ด้านลบ กับราคาทองอย่างมาก ประกอบกับ คลื่นซ้ายชนคลื่นขวา กระเด้งกระดอนลงดิ่ง ก็จงรีบเอาไปขายออกเสีย แล้วรอช้อนซื้อในราคาที่ต่ำกว่า ถือว่า เป็นการปรับลดพอร์ต ได้ดีเยี่ยม เพราะว่า เห็นชัดๆๆ มาแน่ๆๆๆ

 

2. ถ้าเพื่อนๆ คิดว่า การปรับลดความน่าเชื่อถือมีผลในด้านลบเหสือนกัน แต่แรงซื้อมีมากกว่า จากเทศกาลตรุษจีน และ นักลงทุนได้กระทำในสิ่งที่กังวลตื่นตระหนกไปแล้ว ตอนนี้คือช่วงผ่อนคลาย ก็ถือลุ้นกันต่อไป

 

3. ถ้าเพื่อนๆ มีกำไรแล้ว เพราะเข้าซื้อที่ 24,300 บาท แล้วไม่แน่ใจว่า 1 หรือ 2 จะมา ปล่อยสักหน่อย เอากำไรกลับบ้าน ที่เหลือรอลุ้นต่อไป

 

จะเอายังไงดีนิ สำหรับเด็กขายของ คือ แนวคิดที่ 2 และ 3 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ( ยืมของคุณ foo มาอีกครั้ง )

 

http://www.youtube.com/watch?v=tVmayxj0nEw

ขอบคุณมากค่ะ คุณเด็กขายของ

ได้ใจมากเลย 555 กดlike ให้แต่โควต้าหมด

ขอ+++++ ให้นะคะ สำหรับคะแนนความดีที่ให้สิ่งดีๆข่าวสารทุกๆวัน

[DonJuan 4,685]

แทงแบบคิดมาหลายรอบ + วันนี้วันหวยแห่งชาติออก + ซื้อตุนเข้าไปเกือบเต็มปอดว่า.... จรวดกำลังจะมาในช่วงบ่ายๆครับ

 

ปล. ผมมั่วนะครับ

ถูกแก้ไข มกราคม 16, 2012 โดย DonJuan

[Pete 15,187]

Market closed. http://www.marketwatch.com/investing/future/GC2G?link=MW_story_quote

$1,640.10

Change

+9.30 +0.57%

Volume

11,128

Jan 16, 2012 12:20 a.m.

Quotes are delayed by 10 min

By Chris Oliver, MarketWatch

HONG KONG (MarketWatch) – Gold futures advanced in electronic trading on Monday after Friday’s euro-zone debt downgrades by Standard & Poor’s focused investor attention back on Europe’s debt crisis.

 

Gold for February delivery GC2G +0.55%  traded at $1,640.40 an ounce at midday in East Asia, compared to its previous U.S. settlement of $1,630.80 on the Comex division of the New York Mercantile Exchange.

 

 

 

[Pete 15,187]

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์: “เงินบาทผันผวนอ่อนค่า ขณะที่หุ้นไทยปิดบวก จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน”

 

 

วันที่ 9-13 มกราคม 2555

 

ตลาดเงินระยะสั้นและตลาดตราสารหนี้

อัตราดอกเบี้ยตลาดเงินระยะสั้น

- อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นค่อนข้างทรงตัว โดยธนาคารพาณิชย์มีการปิดสำรองสภาพคล่องรายปักษ์ในวันอังคารและเข้าสู่ปักษ์ใหม่ในวันพุธ ในขณะเดียวกันก็มีการตัดจ่ายเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบธนาคารในช่วงต้นสัปดาห์ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ประเภทกู้ยืมข้ามคืน (Overnight) ยังทรงตัว โดยมีระดับหนาแน่นที่ 3.15% ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงสัปดาห์ก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ของธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี (Bilateral Repo) ระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน อยู่ที่ 3.24070-3.25% เทียบกับ 3.25% ในสัปดาห์ก่อน

ในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค. 2555 ธนาคารพาณิชย์จะมีตัดจ่ายเงินภาษีนิติบุคคลผ่านระบบธนาคารในช่วงต้นสัปดาห์ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องใกล้ระดับ 3.25%

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยและสหรัฐฯ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ประเภทอายุ 5 ปี ปิดที่ระดับ 3.14% ในวันศุกร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.13% ในสัปดาห์ก่อน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงในวันจันทร์ ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาล

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภทอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 1.91% ในวันพฤหัสบดี ลดลงจาก 1.96% ในสัปดาห์ก่อน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไร หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และการปรับขึ้นของตลาดหุ้น จากนั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงในวันพุธ จากความกังวลเกี่ยวกับหนี้ยุโรป หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์เตือนถึงการล่มสลายของยูโร และการคาดการณ์ครั้งใหม่เกี่ยวกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงจากระดับ AAA แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นอีกในวันพฤหัสบดี หลังการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรสเปนและอิตาลี

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินบาท (Onshore)

- เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทสอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ที่อาจเชื่อมโยงกับกระแสเงินทุนไหลออกหลังจากที่มีการจ่ายเงินปันผล อนึ่ง เงินบาทที่อ่อนค่าในระหว่างสัปดาห์เป็นภาพที่แตกต่างไปจากสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ที่ต่างก็ทยอยแข็งค่าขึ้นตามการฟื้นตัวของเงินยูโร

- ในวันศุกร์ (13 ม.ค.55) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.73 เทียบกับระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ม.ค.55)

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (16-20 มกราคม 2555) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60-31.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน โดยเฉพาะการเยือนกรีซของกลุ่ม Troika (EU/IMF/ECB) และการพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีอิตาลี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.2555 ยอดขายบ้านมือสอง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนธ.ค.2554 ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนพ.ย. 2554 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. 2555 เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

เงินยูโร และเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ

- เงินยูโรแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนครั้งใหม่ก่อนฟื้นตัวขึ้น โดยเงินยูโรทรงตัว-ขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ ตามการส่งคำสั่งซื้อเพื่อปรับสมดุลโพสิชั่นของนักลงทุนก่อนเหตุการณ์สำคัญที่จะสะท้อนพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ดี เงินยูโรต้องอ่อนค่ากลับมาทำสถิติต่ำสุดในรอบ 16 เดือนครั้งใหม่ในช่วงกลางสัปดาห์ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวเตือนเกี่ยวกับการทรุดตัวของยูโร หากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่เพิ่มปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกยูโรโซน ขณะที่ นักลงทุนก็เริ่มไม่มั่นใจในอนาคตของอันดับเครดิต AAA ของฝรั่งเศส แต่กระนั้น เงินยูโรฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงท้ายๆ สัปดาห์ รับข่าวผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสเปนที่ดีเกินคาด ขณะที่ ประธาน ECB ระบุว่า โครงการสินเชื่อระยะ 3 ปีของ ECB ช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับระบบการเงินยูโรโซน

- เงินเยนขยับแข็งค่าเล็กน้อย หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด อาทิ ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ที่เพิ่มน้อยเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

- ในวันศุกร์ (13 ม.ค.55) เงินยูโรอยู่ที่ 1.2780 เทียบกับ 1.2720 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโรในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ม.ค.55) ส่วนเงินเยนอยู่ที่ 76.71 จาก 76.87 เยนต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า

 

ตลาดทุน

ตลาดหุ้นไทย

- ดัชนี SET ปรับลดลงท้ายสัปดาห์ จากคำเตือนการก่อการร้าย โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,044.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.83% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 9.49% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 23,741.37 ล้านบาท โดยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 273.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.16% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร เทคโนโลยี และพลังงาน รวมถึงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนที่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงกลางสัปดาห์ จากนั้น ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์ หลังสถานฑูตสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ในประเทศไทยว่ากรุงเทพฯ อาจเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย

- สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค. 2555 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยต้องจับตาพัฒนาการการแก้ไขหนี้ยุโรป ทั้งการเดินทางไปกรีซเพื่อตรวจสอบก่อนการอนุมัติเงินช่วยเหลือรอบ 2 ของ Troika และข้อตกลงเบื้องต้นของยุโรปก่อนการประชุมผู้นำอียู (EU Summit) ที่มีกำหนดในวันที่ 20 ม.ค. สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้วัดภาคการผลิต เครื่องชี้วัดตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,040 และ 1,034 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,058 และ 1,064 จุด ตามลำดับ

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

- ดัชนี DJIA ปรับเพิ่มขึ้น หลังการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยในวันพฤหัสบดี ดัชนี DJIA ปิดที่ 12,471.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.90% จากสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ออกมาดี รวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรจากการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินของจีน รวมถึงแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังราคาปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา

 

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

- ดัชนี Nikkei ปรับเพิ่มขึ้น หลังการประมูลพันธบัตรสเปนและอิตาลีออกมาดี เมื่อวันศุกร์ ดัชนี Nikkei ปิดที่ 8,500.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.31% จากสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคารและพุธ โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ที่ดี รวมถึงการดีดตัวขึ้นของหุ้น Olympus และ TEPCO ก่อนที่ดัชนี Nikkei จะปรับลดลงในวันพฤหัสบดี หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์เตือนถึงการล่มสลายของยูโร และความเป็นไปได้ที่ฝรั่งเศสจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ขณะที่นักลงทุนรอผลการประมูลพันธบัตรในยุโรป อย่างไรก็ตาม ดัชนีพื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในการประมูลพันธบัตรสเปนและอิตาลี

[Pete 15,187]

16  มกราคม 2012

 

รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 16 มกราคม 2555

 

 

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 16 มกราคม 2555

 

Summary:

1. อุตฯ ท่องเที่ยว ผวาข่าวก่อการร้ายในไทยกระทบธุรกิจ

2. ครม.สัญจรเห็นชอบงบฯเกือบ 4 แสนลบ.ทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงกทม.-เชียงใหม่

3. S&P ประกาศหั่นเครดิต 9 ประเทศในยูโรโซน รวมฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน

 

Highlight:

1. อุตฯ ท่องเที่ยว ผวาข่าวก่อการร้ายในไทยกระทบธุรกิจ

- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ เครียดเตือนภัยก่อการร้ายในไทยกระทบการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกเดินทางกระทันหัน เสนอรัฐเร่งหามาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามสถานที่ท่องเที่ยวย้ำความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะกระทบมหาศาลตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 20 ล้านคนปีนี้ตกฮวบแน่

 

- สศค. วิเคราะห์ว่า การประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในไทยได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย ทั้งภาคการท่องเที่ยว และการลงทุน ทั้งนี้ ภายหลังการประกาศเตือนภัยดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยานักลงทุนอย่างมาก ทำให้นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้การซื้อขายหลักทรัพย์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีราคาหุ้นไทยปิดในแดนลบที่ 1,044.81 จุด ลดลง 7.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,837.44 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 371.83 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 431.06 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 199.22 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิที่ 1,002.11 ล้านบาท

 

2. ครม.สัญจรเห็นชอบงบฯเกือบ 4 แสนลบ.ทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงกทม.-เชียงใหม่

- รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาคเหนือ ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพ- เชียงใหม่ ระบบขนส่งสาธารณะรวมถึงระบบป้องกันน้ำท่วมภาคเหนือ รวม 128 โครงการ เงินลงทุนเกือบ 4 แสนล้านบาท ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนองบผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองและคณะกรรมการ กยอ.เพื่อกลั่นกรองงบให้เหมาะสมเนื่องจากโครงการลงทุนทั้งประเทศระยะยาว ต้องใช้เงินลงทุนถึง 2 ล้านล้านบาท

 

- สศค. วิเคราะห์ว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานผ่านการลงทุนภาครัฐนั้น เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น และระยะยาว กล่าวคือ ในระยะสั้น การลงทุนภาครัฐสามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ ผ่านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นผลมาจากการจ้างงาน และยอดจำหน่ายวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ส่วนในระยะยาว โครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง รวมถึงสามารถสร้างโอกาสให้ธุรกิจใหม่ นับเป็นการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ทั้งนี้ จากผลกระทบของเหตุการณ์ภาวะอุทกภัยในปลายปี 54 ทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับความเสียหายอย่างมาก การลงทุนภาครัฐจะเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้ตามศักยภาพอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว โดย สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 5.0 (คาดการณ์ ณ ธ.ค. 54)

 

3. S&P ประกาศหั่นเครดิต 9 ประเทศในยูโรโซน รวมฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน

- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) เปิดเผยว่า S&P ได้ปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของฝรั่งเศสลง 1 ขั้น จาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด มาอยู่ที่ AA+โดยมีแนวโน้มเชิงลบ และออสเตรียถูกปรับลดเครดิตลง 1 ขั้นเช่นกัน จาก AAA สู่ AA+ นอกจากนี้ S&P ยังได้ปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของไซปรัส, อิตาลี, โปรตุเกส และสเปนลง 2 ขั้น และของมอลตา, สโลวาเกีย และสโลเวเนียลง 1 ขั้น โดยในขณะนี้ อันดับเครดิตของสเปนและอิตาลีอยู่ที่ A และ BBB+ ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน S&P ยืนยันอันดับเครดิต AAA ของเบลเยียม, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, เยอรมนี, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์กและเนเธอร์แลนด์ โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เมื่อพิจารณาจากสถานะภายนอกที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและหนี้สินที่น้อยกว่าในภาครัฐและภาคเอกชน

 

- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซนสะท้อนปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ยังไม่คลี่คลายและรุนแรงมากขึ้น ข้อตกลงของผู้นำยุโรปยังไม่เพียงพอและชัดเจนที่จะจัดการวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคได้ ซึ่งจะส่งผลลบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจจริงของยุโรปในที่สุด โดย สศค. คาดว่า เศรษฐกิจสหภาพยุโรปจะหดตัวร้อยละ -0.8 ในปี 2555 (คาดการณ์ ณ ธ.ค. 54) นอกจากนี้ ปัญหาวิกฤตหนี้ในยุโรปยังมีแนวโน้มจะลุกลามไปยังตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกตลอดจนเศรษฐกิจไทยผ่านช่องทางอัตราแลกเปลี่ยน และการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปยัง 9 ประเทศในสหภาพยุโรปที่ถูกปรับลดอันดับลงนั้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.68 ของมูลค่าการส่งออกไทยทั้งหมดในปี 2553 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.05 ของจีดีพีในปี 2553 สินค้าส่งออกสำคัญไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้แก่ คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม ยานยนต์ ยางพารา