ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

 

ชี้วิกฤตหนี้เอเธนส์แค่คลี่คลาย ปี 2015 กรีซวกขอกู้ใหม่ 5 หมื่นล.

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2555

       เอเอฟพี - แม้เมฆหมอกที่ปกคลุมยูโรโซนพัดผ่านไปแล้วพร้อมภัยคุกคามจากการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ แต่มาตรการอัดฉีดล่าสุดก็ยังอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสำหรับเอเธนส์ รายงานจาก “ทรอยกา” ระบุกรีซอาจต้องการเงินเพิ่มอีก 50,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2015

       

       หลังจากเจรจายืดเยื้อนาน 9 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดี(8) เอเธนส์ประกาศว่า เจ้าหนี้เอกชนส่วนใหญ่ของกรีซตกลงสวอปพันธบัตร ยอมรับการขาดทุนถึง 100,000 ล้านยูโร (131,000 ล้านดอลลาร์) และรัฐมนตรีคลังยูโรโซนตอบรับทันควันด้วยการปลดล็อกมาตรการช่วยเหลือรอบสองบางส่วนจากทั้งหมด 130,000 ล้านยูโร และคาดว่าจะอนุมัติส่วนที่เหลือในการประชุมวันจันทร์(12)นี้

       

       คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงความยินดีต่อข้อตกลงดังกล่าวว่า เป็นก้าวย่างสำคัญที่จะทำให้ความต้องการระดมทุนระยะกลางของกรีซลดลงอย่างมาก และทำให้หนี้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน

       

       ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ขานรับว่า มาตรการต่างๆ ของยุโรปช่วยกำราบวิกฤตหนี้ และภูมิภาคนี้ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจโลกอีกต่อไป

       ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี ก็ระบุว่า วิกฤตการเงินพลิกสู่หน้าใหม่แล้ว

       

       ด้านวูล์ฟกัง ชะออยเบิล ขุนคลังเมืองเบียร์ สำทับว่า แม้ปัญหายังไม่จบ แต่ถือได้ว่ายูโรโซนมีความคืบหน้าสำคัญ

       

       ความคิดเห็นเหล่านี้ตอกย้ำว่า สถานการณ์สมมติที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือ วิกฤตนี้แพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีกต่อไป

       

       การสวอปพันธบัตรคลังกรีซที่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้เอกชน 83.5% เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้แผนการอัดฉีดเงินช่วยเหลือกรีซรอบสอง 130,000 ล้านดอลลาร์เดินหน้าต่อ โดยที่ก่อนหน้านั้นไปอีก รัฐสภากรีซยังได้ยอมอนุมัติการลดการใช้จ่ายเพิ่มเติม ตลอดจนถึงการปฏิรูปเพื่อเปิดเสรีเศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อย

       

       ขณะนี้ ผู้นำยุโรปกำลังรอคำตอบจากไอเอ็มเอฟว่า จะร่วมลงขันอัดฉีดกรีซเท่าใด

       

       กระนั้น นักการทูตเตือนว่า เงินช่วยเหลือรอบ 2 ที่จะครอบคลุมจนถึงสิ้นปี 2014นั้นไม่ได้ทำให้กรีซแข็งแรงขึ้น และเอเธนส์อาจต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่ม

       

       นิตยสารแดร์ สปีเกลของเยอรมันระบุในทำนองคล้ายกัน โดยอ้างรายงานเบื้องต้นของสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และไอเอ็มเอฟ หรือ “ทรอยกา” ว่า กรีซอาจต้องการเงินอีก 50,000 ล้านยูโรระหว่างปี 2015-2020 และอาจมีปัญหาในการระดมทุน

       

       ก่อนหน้านี้ ชะออยเบิลเคยเตือนรัฐสภาเยอรมนีว่า อาจต้องช่วยเอเธนส์อีกในอนาคต แต่ไม่ได้ระบุตัวเลข

       

       ขณะที่ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานขุนคลังยูโรโซน ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ควรคิดว่ากรีซจะยืนด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็วโดยปราศจากความสมานฉันท์ของยูโรโซนและนโยบายการเติบโตที่เป็นระบบ

       

       จุงเกอร์ยังเตือนว่า อาจไม่สามารถตัดความเป็นไปได้สำหรับเงินช่วยเหลือก้อนที่ 3 แต่ก็ยังไม่ควรด่วนสรุปว่า สถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น

       

       ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในรัฐบาลยุโรปแย้มว่า เงินช่วยเหลือรอบ 3 มีความเป็นไปได้มาก เพราะมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่กรีซจะกลับไประดมทุนในตลาดได้ อย่างไรก็ดี เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจะไม่มากเท่าเดิม ทำให้มีอุปสรรคน้อยลง

       

       ทั้งนี้ ข้อตกลงสวอปพันธบัตรมีเป้าหมายเพื่อลดหนี้กรีซให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืนที่ราว 120% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2020 จาก 160% ในปัจจุบัน

       

       อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นการมองแง่ดีเกินไป หากพิจารณาจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ติดลบมากขึ้น

       

       เบน เมย์ จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ แจงว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจและผู้บริโภคที่เสื่อมลง อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการขาดแคลนสินเชื่อ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกรีซจะหดตัวรุนแรงในปีนี้ ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อของทรอยกาว่า ภาวะถดถอยของกรีซใกล้สิ้นสุดแล้ว นอกจากนั้น ยังเป็นได้ว่า จีดีพีและอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางอาจต่ำกว่าที่ทรอยกาประเมิน

       

       ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันศุกร์ (9) เศรษฐกิจกรีซติดลบมากกว่าคาดถึง 7.5% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และตลอดทั้งปีหดตัว 6.9% จากที่คาดไว้ว่าจะติดลบแค่ 5.5% และ 2.8%สำหรับปีนี้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กองทัพอเมริกันเผยโฉมอาวุธใหม่เป็นรังสีความร้อนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

March 11, 2012  |   Filed under: Handheld-Home,ถนนสายอเมริกา  |   Posted by: admin

 

สำนักข่าวAFPรายงานเมื่อวันที่ 11 มีนาคมว่า ขณะนี้กองทัพเมริกันโดยนาวิกโยธินได้เปิดเผยอาวุธแบบใหม่ที่ชื่อว่า the Active Denial System เป็นคลื่นรังสีความร้อนทำงานด้วยลำเแสงจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic beam) ผู้ที่ได้รับลำแสงนี้จะมองไม่เห็น จะไม่ได้ยินเสียง จะไม่ได้กลิ่นแต่มีความรู้สึกร้อนขึ้นมาได้

 

ทั้งนี้เป็นการชี้แจงของน.อ.เทรซี ทัฟโฟลา ผู้อำนวยการฝ่าย Joint Non-Lethal Weapons Directorate กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐ แห่งเมืองQuanticoรัฐเวอร์จิเนียที่นำอาวุธชนิดนี้ออกมาสาธิตต่อสื่อมวลชน

 

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่าเมื่อมีการปล่อยรังสีนี้ออกมาเหมือนเป็นการขับไล่แมลงให้หนีออกไกลๆทันที

 

น.อ.ทัฟโฟลาอธิบายด้วยว่าระบบลำแสงความร้อน Active Denial System กินรัศมี 1,000 เมตร (0.6 ไมล์) โดยกองทัพนำออกมาประจำการได้ 15 ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยนำออกใช้ในสนามแต่อย่างใด เคยถูกนำไปติดตั้งที่ปากีสถานเมื่อปี 2010 แต่ยังไม่เคยใช้

 

รายงานข่าวเปิดเผยว่าเทคโนโลยีชนิดนี้สร้างความสับสนให้กับผู้คนพอสมควร บ้างก็บอกว่าเหมือนเตาอบไมโครเวฟที่อุ่นอาหารให้ร้อน  ซึ่งแตกต่างกันสิ้นเชิง

 

เรื่องนี้สเตฟฟานี มิลเลอร์ ได้ค้นคว้าในห้องทดลองของศูนย์วิจัยกองทัพอากาศสหรัฐ(Air Force Research Laboratory)พบว่าคลื่นความร้อนนี้ไม่ได้ทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ทำให้เกิดความไม่สบายแก่ร่างกายอย่างรวดเร็ว  เป็นคลื่นความถี่ขนาด 95 กิกกะเฮิร์ทซ์ ลำแสงพุ่งออกไปขนาด 1/64 นิ้ว( 0.4 มิลลิเมตร)ซึ่งทำให้ได้รับความปลอดภัยมากกว่า

 

“เราทดลองส่งลำแสงนี้พุ่งใส่คนประมาณ 11,000 ครั้ง มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บและต้องนำเข้ารักษาพยาบาล  แต่ทั้งสองรายนี้ก็ได้รับการรักษากลับมาปกติไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด”มิลเลอร์กล่าว

 

ไดแอนนา ลอรี นักวิจัยอีกคนให้ความเห็นว่าตู้อบไมโครเวฟขนาดคลื่นความถี่ 1 กิกกะเฮิร์ทซ์พุ่งรวดเร็วและกินลึกมากทำให้อาหารที่นำเข้าอุ่นถึงกับสุกได้

 

อาวุธของกองทัพสหรัฐดังกล่าวนี้แม้จะใช้ขนาด 100 เท่าของไมโครเวฟก็ยังไม่อาจทำให้ข้าวโพดคั่วสุกได้ เพราะระบบคลื่นความถี่จากวิทยุที่นำมาใช้นั้นไม่สามารถให้ความร้อนได้พอที่จะทำให้ถุงข้าวโพดคั่วพองขึ้นมาได้

 

อาวุธคลื่นความร้อนนี้ใช้ในการขับไล่ฝูลชน(mob dispersal),ด่านตรวจความปลอดภัย,เส้นรอบวงที่กำหนดความปลอดภัย,จุดที่ไม่อาจเข้าไปได้,การปกป้องตึกหรือกำแพงต่างๆ,กองทัพสหรัฐจะใช้ก่อนบุกเข้าโจมตีตามพื้นที่ต่างๆ

 

ในระบบความปลอดภัยเครื่องส่งลำแสงคลื่นความร้อนนี้จะติดตั้งบนรถบรรทุกที่ห่างจากจุดใช้งาน และกดปุ่มปิดใช้งานได้ภายใน 3 วินาทีเพื่อความปลอดภัย 

 

อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมสหรัฐยังไม่ได้กำหนดการใช้งานของ ADS system โดยน.อ.ทัฟโฟลากล่าวว่านาวิกโยธินพร้อมเสมอหากเรียกมา 

 

 Weapon580.jpg

 

Two styles of US Marine Corps trucks are seen carrying the Active Denial System, March 9th, 2012, at the US Marine Corps Base Quantico, Virginia. The non-lethal weapon projects a strong electromagnetic beam up to 1000-meters. The beam creates heat so uncomfortable the natural response is to flee (AFP Photo/Paul J. Richards)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.youtube.com/watch?v=Ek2rPO2tzSU

เพลงพระราชนิพนธ์ ยิ้มสู้ : AF The Musical ตอน เงินเงินเงิน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ kimenyi คุณ Kero. Kero คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ ดาวเหนือ คุณ noonoon_ja คุณ Madee คุณ khaiped คุณ forgame และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

วันนี้เริ่มต้นกันใหม่ครับ จะให้ดีไม่ควรหลุดลงไปชมวิวต่ำกว่า 1700 นะครับ ถ้าหลุดลงไปแล้วกลับมาไม่ได้ อาจจมีนิวโลว์ที่ต่ำกว่า 1663 ครับ แต่เดาว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ วันนี้กลางวันราคาอาจวนเวียนระหว่าง 1706-1715 ชนแนวต้าน ย้ำแนวรับกันนะครับ เพื่อให้สัญญาณมีที่ว่างให้วิ่งต่อ ค่ำคืนนี้ราคาน่าจะปิดสูงกว่า 1712 เดาว่าค่อนข้างแน่นอนครับ(อาจไปถึง 172X)

 

ราคาอาจขึ้ันแล้วย่อสลับกันไป น่าจะไปขึ้นมากหน่อยช่วงตลาดอ้ายกันนะครับ แต่คงไม่มากชนิดจรวดแรงๆ ยกเว้นได้แรงจากขาใหญ่ ลากข้ามภพไปที่ 173X (ขอเถอะนะ) ทั้งหมดเดามั่วตามประสาคนอยากขายของแพงนะครับ :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Forex: EUR/USD dips below 1.3100

Mon, Mar 12 2012, 01:13 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (San Francisco) - The dollar is extending gains against the European single currency at the start of trading this Monday, as it remains well bid in Asia following the strength set past Friday following better than expected US NFP data.

 

EUR/USD is last quoted in the 1.3090 price zone, down from 1.3113 late Friday. Valeria Bednarik, Chief Analyst at FXstreet.com recognizes immediate support at 1.3085, then 1.3040. To the upside, resistance levels are noted at 1.3145, 1.3190 and 1.3225.

ค่าเงินดอลล์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับเงินยูโร เช้านี้ มาที่ 1.3088 จากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น

 

EUR/USD Mar 12 at 01:46 GMT

1.3088/90 (-0.19%)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

PBOC sets yuan reference rate at 6.3282 per dollar vs 6.3073 on March 9. China's yuan is at its lowest level since 2010.

ค่าเงินหยวนจีน อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับ เงินดอลล์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 6.3282 จากที่เมื่อวันศุกร์อยู่ที่ 6.3073 ถือว่าเงินหยวนอ่อนค่าที่สุด ตั้งแต่ปี 2010

 

ปล. ส่วนค่าเงินบาท ก็คงต้องอ่อนค่าตามภูมิภาค

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold bulls strengthen as wagers hit $131 billion

Mon, Mar 12 2012, 00:32 GMT | FXstreet.com Trader Talk

 

Source: Bloomberg

 

Gold traders are the most bullish in four months after investors accumulated more metal than ever and hedge funds raised bets on gains to a five-month high. Sixteen of 23 analysts surveyed by Bloomberg expect prices to gain next week and one was neutral, the highest proportion since Nov. 11. Investors increased their holdings in exchange- traded products backed by bullion for seven consecutive weeks and now hold 2,407 metric tons valued at $131 billion, data compiled by Bloomberg show.

 

 

Gold bulls still adding to long positions

Mon, Mar 12 2012, 00:05 GMT | Forex Live

 

By: Sean Lee

More from Bloomberg

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สะบบายดียามเช้าและขอขอบใจหลายๆคุณเด็กขายของ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้า คุณเด็กขายของ คุณกัปตัน และพี่น้องชาวไทยโกลด์ทุกท่าน

 

ขอบคุณสำหรับทุกข่าวสารที่กูรูทุกท่านนำมาโพสให้ค่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดี ทำรอบกำไรได้มากๆนะค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย้อนข้อมูลปิดตลาดวันศุกร์ เพื่อพิจารณาความน่าจะเป็นอาทิตย์นี้

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ (12/09/2555)

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ในขณะที่นักลงทุนขานรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเชิงบวกของสหรัฐ โดยแรงบวกเมื่อคืนนี้เกิดขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานรายงานว่า มีการจ้างงานเพิ่ม 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานเดือนก.พ.ยังคงอยู่ที่ 8.3% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 14.08 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 12,922.02 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 4.96 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 1,370.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 17.92 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,988.34 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ในขณะที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนก.พ.อยู่ในเชิงบวก ซึ่งหนุนความเชื่อมั่น

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับขึ้น 82 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 107.40 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาปรับขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.66%

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ในขณะที่การมีทัศนะแง่บวกอย่างต่อเนื่องหลังกำหนดเส้นตายการสว็อปหนี้กรีซ, การซื้อขายในเชิงบวกในสินค้าโภคภัณฑ์ธัญพืช และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐ ต่างก็เป็นแรงหนุนตลาด

 

สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับขึ้น 12.8 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,711.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1714.90 - 1677.00 ดอลลาร์

 

-- ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆ ในการซื้อขายช่วงท้ายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ในขณะที่กรีซอาจจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และเศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนก.พ.มากกว่าที่คาดไว้

 

ค่าเงินยูโรอ่อนลง 1.18% แตะที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3270 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่า 0.95% แตะที่ 1.5674 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5824 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.410 เยน จากระดับ 81.590 เยน และบวก 1.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9191 ฟรังค์ จากระดับ 0.90844 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนลง 0.71% แตะที่ 1.0567 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0643 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.36% แตะที่ 0.8210 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8240 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.) โดยข้อมูลจ้างงานเชิงบวกของสหรัฐช่วยหนุน FTSE 100 บวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,887.49 จุด เพิ่มขึ้น 27.76 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันทื่ 12 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้าที่สดใส แต่ทำไมรถติดจัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บมจ.โกลแบล็ค โฮลดิ้งฯ ลดขั้นต่ำ“ออมทอง”เหลือ 5,000 บาทจากเดิม 10,000 บาท ช่วยเพิ่มทางเลือก และเปิดโอกาสลูกค้าวงเงินจำกัด ย้ำพร้อมสู้ศึกแนวโน้มทองขาขึ้น ชูจุดแข็งอิงราคาทองคำโลกซื้อ-ขายได้ทันที ส่วนการลงทุนสัปดาห์นี้ให้กรอบ 1,660-1,725 ดอลล์ แนะยังต้องติดตามปัจจัยการประชุมเฟด และตัวเลขสำคัญอีกเพียบ

 

นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้มีการส่งเสริมการตลาดให้นักลงทุนด้วยโครงการ “ออมทอง” โดยการลงทุนมีลักษณะทยอยซื้อทองคำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และเมื่อครบตามจำนวนทองขั้นต่ำคือ 5 บาททอง ซึ่งลูกค้าสามารถรับเป็นทองคำแท่ง หรือรับเป็นเงินสดโดยการขายทองคำดังกล่าวคืนให้กับบริษัทฯ ทั้งนี้ จากเดิมทางบริษัทฯมีอัตราขั้นต่ำในการออมอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน แต่ในปัจจุบันได้มีการลดอัตราการออมขั้นต่ำไว้ที่ 5,000 บาท/เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มีวงเงินจำกัดมีโอกาสในการออมมากขึ้น

 

โดยทองคำที่บริษัทฯจำหน่ายมีทั้งทองคำ 96.5% น้ำหนักการขายต่ำสุดอยู่ที่ 5 บาท และทองคำ 99.99% ซึ่งขายเป็นกิโลกรัม ทั้งนี้ บริษัทฯมีการบริการที่ถือเป็นจุดสำคัญ คือ การซื้อขายทองคำโดยใช้ราคาอ้างอิงจากราคาทองคำโลก ซึ่งแม้ว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 1-2 ดอลลาร์นักลงทุนสามารถล็อคราคาเพื่อทำกำไร หรือขายเพื่อตัดขาดทุนได้ เพียงลูกค้าโทรมาสอบถามราคาทองคำในขณะนั้น

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบอินเทอร์เนตให้มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคา และซื้อขายทองคำผ่านระบบได้อย่างสะดวกสบาย และนัดวันส่งมอบทองคำได้ตามข้อกำหนดที่ระบุไว้อย่างชัดเจน

 

ส่วนการแข่งขันของผู้ประกอบการค้าทองคำในภาวะราคาทองยังเป็นขาขึ้นนั้น โดยส่วนตัวแล้วมองว่าการแข่งขันจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้ค้าหลายรายเข้ามาทำตลาด แต่อย่างไรก็ตามความน่าเชื่อถือก็ยังเป็นปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่บริษัทฯเป็นผู้ค้าทองคำแท่งรายเดียวในประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถือว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท เนื่องจากการเป็นบริษัทมหาชนทำให้มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจเดียวกัน

 

สำหรับแนวโน้มของราคาทองคำในสัปดาห์นี้(12-16 มี.ค.)ว่า ยังมีปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอยู่หลายปัจจัย ได้แก่ การประชุมเฟดในคืนวันอังคาร(13 มี.ค.) และตัวเลขเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจ ZEW เยอรมนี, ยอดค้าปลีกสหรัฐ, ประกาศอัตราดอกเบี้ยจากเฟด ตลอดจนยอดผู้ขอรับสวัสดิการและดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯ

 

ดังนั้น GBX มองกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำประจำสัปดาห์ไว้ที่ 1,660-1,725 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือประมาณ 24,010-24,950 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อ” หากราคาย่อลงมาต่ำกว่า 1,675 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 24,230 บาท/บาททองคำ และให้ “ทยอยขาย” หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,712 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 24,760 บาท/บาททองคำ โดยให้ “ตัดขาดทุน” ถ้าราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,655 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 23,940 บาท/บาททองคำ

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา(5-9 มี.ค.)ได้ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำอยู่ที่ 1,704.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ณ วันที่ 9 มีนาคม 10.00น.) ปรับตัวลดลงประมาณ 5.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์หรือคิดเป็น 0.34% ขณะที่ราคาสูงสุดไว้ที่ 1,716.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ และราคาต่ำสุดไว้ที่ 1,663.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ ด้วยปัจจัยจากช่วงต้นสัปดาห์จีนปรับเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงทำให้นักลงทุนต่างทยอยขายสินค้าโภคภัณฑ์ออกมา เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

 

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากประธานเฟด สาขาดัลลัส ที่กล่าวว่า เฟดจะเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมต่อเมื่อเกิดสถานการณ์ร้ายแรงเท่านั้น ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐฯในช่วงนี้สถานการณ์ดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้เริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อการสวอปหนี้กรีซ และเจ้าหนี้มากขึ้น โดยขณะนี้กรีซสามารถผ่านการสวอปหนี้กับเจ้าหนี้ภาคเอกชนได้ 85.8% ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในทองคำโดยมีความหวังว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือรอบ 2 จาก EU หลังการสวอปเสร็จสิ้น

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันทื่ 12 มีนาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TRADE BALANCE

Actual: -31.5BCons.: -4.9BPrevious:  27.3B

 

เช้านี้ ราคาทองอาจเจอความผันผวนจากการรายงาน การค้าของจีน เมืี่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ขาดดุลการค้า ถึง -31.5 billion. มียอดนำเข้ามากกว่ายอดส่งออก

 

The Trade Balance released by the General Administration of Customs of the People’s Republic of China is a balance between exports and imports of total goods and services. A positive value shows trade surplus, while a negative value shows trade deficit. It is an event that generates some volatility for the CNY. As the Chinese economy has influence on the global economy, this economic indicator would have an impact on the Forex market. In general, a high reading is seen as positive (or bullish) CNY, while a low reading is seen as negative (or bearish) for the CNY.

 

 

By V. Phani Kumar

HONG KONG (MarketWatch) -- Hong Kong shares struggled for direction in choppy trade Monday after rising in the previous two sessions, with strong gains for China Mobile Ltd. and China Resources Land Ltd. tempered by caution after the mainland posted a big trade deficit. The Hang Seng Index HK:HSI +0.10% was up 0.1% to 21,110.24 after opening higher and then briefly turning lower, while the Hang Seng China Enterprises Index was up 0.3% to 11,292.14.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันด : บมจ.ไทยออยล์ (12/03/2555)

ควันหลงข่าวดีกรีซและตลาดแรงงานสหรัฐ ฯฟื้นตัว ดันน้ำมันดิบขึ้นต่อ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.82 เหรียญฯ มาปิดที่ 107.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ      เบรนท์ ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.54 เหรียญฯ ปิดที่ 125.98 เหรียญฯ

 

๑ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ

 

+ ราคาน้ำมันดิบเปิดตลาดโดยปรับขึ้นต่อเนื่อง จากผลพวงของข่าวดีในวันก่อนหน้า เรื่องความสำเร็จของกรีซ ในการให้ความร่วมมือการปรับโครงสร้างหนี้ของเจ้าหนี้ภาคเอกชน  โดยต่างยอมรับข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตร เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงรับเงินกู้งวดใหม่ 1.3 แสนล้านยูโรจากEU และ IMF ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ได้

+ ตลาดแรงงานสหรัฐฯส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 2.27แสนตำแหน่งในเดือนก.พ. ส่งผลให้อัตราการว่างยังสามารถยืนอยู่ที่ 8.3% นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3ปี

- ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯเดือนม.ค.ขาดดุลที่ 52.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 2.1% ขณะที่การส่งออกเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าที่1.4% ด้านยอดค้าส่งเดือนม.ค.ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์

+ อัตราเงินเฟ้อของจีนประจำเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 3.2%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20เดือน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาต่ำกว่าที่เหล่านักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยปริมาณเงินปล่อยกู้เดือนก.พ.อยู่ที่ 113 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขรวมประจำเดือนม.ค.และก.พ. ได้แก่ ยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น 11.4% และยอดค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 14.7% ส่งผลให้ตลาดมองว่า อาจมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง

+ รายงานเดือนก.พ.ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโอเปก ยังยืนประมาณการณ์การเติบโตอุปสงค์น้ำมันดิบปี55 ไว้เท่าเดิมที่ 9 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามโอเปกมองว่าความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในเหล่าประเทศพัฒนาแล้ว อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการบริโภคน้ำมันดิบให้ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์

- บริษัทเอนบริดจ์เปิดเผยว่า ท่อส่งน้ำมันสายที่ 64 ซึ่งมีปริมาณการขนส่งน้ำมันดิบ 3.18 แสนบาร์เรลต่อวัน ได้กลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว หลังจากที่ได้รับความเสียหายโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์และทำให้ต้องหยุดเพื่อซ่อมแซมเป็นเวลา 5 วัน

+ เกิดการประท้วงของประชาชนชาวลิเบียกว่าพันคนใน 2 เมืองใหญ่ของประเทศคือที่Tripoli และBenghazi เพื่อต่างประกาศจุดยืนที่แตกต่างกัน หลังผู้นำคนสำคัญ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ได้จบชีวิตลงเมื่อปีที่ผ่านมา โดยฝ่ายหนึ่งพยายามจะประกาศเอกราชและรวมประเทศให้เป็นหนึ่ง ขณะที่อีกฝ่ายกลับไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ตลาดสิงคโปร์ ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 123.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  

 

๑ทิศทางราคาน้ำมันระยะสั้น

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 120 - 127 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวที่กรอบ 103 - 110 เหรียญฯ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ งบดุลการคลัง รวมถึงดัชนีราคาค้าส่งเยอรมนี ที่จะประกาศในคืนนี้

 

๑ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตามอุปทานตึงตัวในภูมิภาคยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุน จากโรงกลั่นหลักในเกาหลี 2 แห่งปิดซ่อมบำรุง ทำให้ไม่มีน้ำมันเบนซินส่งออกมาในตลาด

ราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ จากแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามาจากประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ดี ตลาดมองว่าปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของเวียดนามที่ยังอยู่ในระดับสูง จะทำให้ตัวเลขการนำเข้าเพิ่มขึ้นไม่มากนัก

 

๑ ปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันจันทร์: งบดุลการคลัง รวมถึงดัชนีราคาค้าส่งเยอรมนี

วันอังคาร: ยอดขายปลีก รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และสินค้าคงคลังของธุรกิจ  รวมถึงดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมันและสหภาพยุโรป

วันพุธ: ราคาสินค้านำเข้าและส่งออก รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและการผลิตภาคอุตสาหกรรม  สหภาพยุโรป

วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค และข้อมูลการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงรายงานธนาคารกลางสหภาพยุโรป

วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม  และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ

 ติดตามความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกในเรื่องปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าอิหร่านจะยอมให้สำนักงานปรมาณูสากลเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ หลังแกนนำหลักของโลกทั้ง 6 ประเทศตอบรับข้อเสนออิหร่านในการเปิดการเจรจาประเด็นนิวเคลียร์อีกครั้ง และท่าทีของอิสราเอลต่อการใช้วิธีทางการทูต

 สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ได้แก่ ไนจีเรีย ซีเรีย อิรัก เยเมนซูดาน และล่าสุดที่ลิเบีย ที่ยังมีความเสี่ยงต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาด

 กรีซจะได้รับเงินจากแผนช่วยเหลือกรีซฉบับ 2 มูลค่า 130 พันล้านยูโร จากสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟ ก่อนที่จะครบกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 20 มี.ค.นี้หรือไม่ หลังการปรับโครงสร้างหนี้ภาคเอกชนสำเร็จไปได้ด้วยดี

 ติดตามสถานการณ์ในยุโรปในเดือน มี.ค. ได้แก่ การครบกำหนดจ่ายชำระหนี้ของอิตาลี มูลค่า 46.5 พันล้านยูโร และรายละเอียดของนโยบายการบูรณการทางการเงินของสหภาพยุโรป

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันทื่ 12 มีนาคม 2555)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...