ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รัฐบาลกรีซคาดขาดดุลงบประมาณปีที่แล้วร้อยละ 9.2 ของผลผลิตมวลรวมของประเทศ

 

รัฐบาลกรีซคาดการณ์ในวันนี้ว่า งบประมาณขาดดุลของกรีซในปีที่แล้วประมาณร้อยละ 9.2 ของผลผลิตมวลรวมของประเทศ ลดลงจากที่คาดว่าจะขาดดุลร้อยละ 9.6 ในเดือนมกราคม โดยบรรดาเจ้าหนี้ของกรีซต่างจับตามองตัวเลขดังกล่าว ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจของกรีซ

 

 

 

 

สหประชาชาติเตรียมออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลซีเรีย

 

รัฐบาลซีเรียเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรียมากขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีการปะทะระหว่างกองทหารของรัฐบาลซีเรีย และฝ่ายต่อต้าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลซีเรียให้ยุติการใช้กำลังทหาร ปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ยังคงเกิด ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 21 มีนาคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

น้ำมันดิ่งแรง$2.5หลังซาอุฯพร้อมผลิตเพิ่ม/หุ้นมะกันปิดลบ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2555 05:29 น.

 

       เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับลงแรงเมื่อวันอังคาร(21) หลังซาอุดีอาระเบียย้ำพร้อมผลิตเพิ่มเพื่อตรึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่วอลล์สตรีท ก็ปิดลบเช่นกัน จากความวิตกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน

       

       สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 124.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

       

       แอดดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากเทรเดชัน เอนเนอร์จี บอกว่า "ตลาดนิวยอร์กตกอยู่ใต้แรงกดดันของแรงคาดเดาที่ว่าซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มกำลังผลิต หลังจากเมื่อวันจันทร์(20) คณะรัฐมนตรีซาอุฯ บอกว่ากำลังดำเนินการทั้งตามลำพังและภายใต้การร่วมมือกับชาติอื่นๆในความพยายามปรับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เป็นธรรม"

       

       ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ซาอุดีอาระเบียออกมาย้ำว่าพร้อมผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดแคลนไปของอิหร่าน อันเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรทางพลังงานของชาติตะวันตกต่อโปรแกรมนิวเคลียร์ของเตหะราน

       

       ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(20) ขยับลงพอสมควรท่ามกลางความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และข้อมูลที่ผสมผสานของภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ

       

       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 68.64 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,170.49 จุด แนสแดค ลดลง 4.25 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,074.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.25 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,405.50

       

       ช่วงเปิดตลาด ดัชนีทั้ง 3 ตัวก็เคลื่อนไหวในแดนลบทันที หลังนักลงทุนกังวลต่อการเติบโตที่ชะงักงันในจีน ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก ซึ่งเวลานี้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ขณะที่ข้อมูลการก่อสร้างบ้านในสหรัฐฯ ก็มีออกมาแบบผสมผสาน บ่งชี้ว่าภาคที่เป็นต้นตอของวิกฤตการเงินยังคงเปราะบางอยู่

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ปรับแผนก่อหนี้นักลงทุนแห่เก็งบอนด์ กระทบดบ.อ้างอิงในตลาดพุ่ง

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2555 00:46 น.

 

       ASTVผู้จัดการรายวัน - นักลงทุนแห่ลงทุนตลาดตราสารหนี้หลังนโยบายรัฐบาลชัดเจนกู้เงินในระบบแก้ปัญหาน้ำตามพ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล้าน กระทบดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาดพุ่ง “จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล” เตรียมปรับแผนก่อหนี้หวังดึงต้นทุนเงินกู้รัฐบาลลดต่ำลง เล็งขยายวงเงินพันธบัตรออมทรัพย์ทั้งปีเพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท

       

       นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การลงทุนในตลาดตราสารหนี้มีความผิดปกติ จากอัตราผลตอบแทนอ้างอิง (Yield Curve) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นเป็น 3.7% จากเดิมที่เคยอยู่ในระดับ 3.2% เพราะมีการคาดการณ์กันว่า รัฐบาลจะออกพันธบัตรเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เคยประกาศไว้ในในแผนก่อหนี้สาธารณะ 5.25 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้ในการบริหารจัดกาน้ำตามพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท จึงมองว่า พันธบัตรที่จะออกมามากขึ้น สะท้อนความต้องการใช้เงินในตลาด ดังนั้นดอกเบี้ยจึงควรจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกเหนือจากการปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้ออยู่แล้ว

       

       “ขณะนี้สภาพตลาดตราสารหนี้อยู่ในภาวะที่เรียกว่าเก็งกำไร เพราะคาดกันว่า รัฐบาลจะออกพันธบัตรมากขึ้น แต่เราก็ได้ยืนยันมาตลอดเวลาว่า ในปีงบประมาณ 2555 พันธบัตรอายุ 3, 5, 7, 15, 20, 30 และ 50 ปี วงเงิน 5.25 แสนล้านบาท หรือไตรมาสละ 1 แสนกว่าล้านบาท ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านั้น ซึ่งหากตลาดยังเก็งกำไรอยู่เช่นนี้ เราก็จะลดวงเงินการออกพันธบัตรลง แล้วหันไประดมทุนในรูปแบบอื่นแทน ทั้งตั๋วเงินคลังหรือกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ เพราะเราเองก็ยืนยันมาตลอดว่า เงินกู้เพื่อการบริหารจัดการน้ำจะใช้เงินกู้จากธนาคารเป็นรายโครงการไป หรือไม่ก็อาจจะหันไปเพิ่มวงพันธบัตรออมทรัพย์เป็น 2 แสนล้านบาทจากเดิม 1 แสนล้านบาทก็ได้” นายจักรกฤศฎิ์กล่าว

       

       นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า สบน.พยายามบริหารต้นทุนการระดมเงินของรัฐบาลให้ลดลงต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีต้นทุนเฉลี่ยเพียง 4.7% จากเดิมที่เคยในระดับ 5-6% เพราะในช่วง 2 ปีที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับได้บริหารต้นทุนด้วยการไปลงทุนพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้ เพื่อเป็นการล็อกต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มที่คาดว่าดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้ เศรษฐกิจก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่สภาพคล่องในตลาดเงินยังมีมาก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เองก็ยังทำหน้าที่ดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาด และหากเกิดสภาพคล่องตึงตัว ธปท.ก็สามารถปล่อยสภาพคล่องออกมาได้ เพราะมีสภาพคล่องอยู่ในมือถึง 4.5 ล้านล้านบาท จากการดูดซับสภาพคล่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการใช้เงินของรัฐบาลมีเพียง 4 แสนล้านบาทเท่านั้น

       

       สำหรับการกู้เงินเพื่อการบริหารจัดการน้ำนั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ยื่นเสนอโครงการเข้ามา เนื่องจากโครงการที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.)เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม นั้นเป็นเพียงกรอบวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่ได้อนุมัติรายโครงการ 246 โครงการ ซึ่งต้องกลับมาทำรายละเอียดและเสนอกลับมาที่ครม.อีกครั้ง หากได้รับอนุมัติจึงจะเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อลงนามในสัญญาแล้วจึงจะยื่นเสนอขอเบิกเงินกู้จากกระทรวงการคลัง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะธนาคารพาณิชย์มีวงเงินและความพร้อมที่จะให้กู้อยู่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวทั่วไปในสหรัฐอเมริกา

 

CalState งดรับนศ.16,000 คนปี 2013 ไม่มีงบ

March 20, 2012  |   Filed under: ข่าวที่น่าสนใจ  |   Posted by: admin

มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตท 23 แคมปัสงดรับนักศึกษาฤดูใบไม้ผลิ 2013 รวม 16,000 คนเพราะขาดงบประมาณ หากไม่มีเงินจากภาษีปลายปีนี้อาจตัดเพิ่มเป็น 25,000 คน               เมื่อวันที่ 19 มีนาคมฝ่ายบริหารระบบมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตทแจ้งว่าในฤดูใบไม้ผลิ 2013 มหาวิทยาลัยทั้ง 23 แคมปัสจะงดรับนักศึกษาประมาณ 16,000 คน  ขณะเดียวกันก็กำลังรอกฎหมายเกี่ยวกับภาษีที่จะมีการลงคะแนนเดือนพฤศจิกายนนี้ หากร่างกฎหมายการเงินไม่ผ่านเป็นที่แน่นอนว่านักศึกษาปีการศึกษา 2013-2014 จะถูกงดรับเพิ่มเป็น 25,000 คน หรือประมาณ 6 % ของนักศึกษที่จะรับ

 

ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท 417,000 รายลงทะเบียนเรียนกับระบบมหาวิทยาลัยแห่งนี้

 

นายรอเบิร์ต เทอร์แน็ก ผู้ช่วยรองประธานของCSUกล่าวว่ามหาวิทยาลัยไม่อาจรองรับนักศึกษาได้เพิ่มหลังจากที่รัฐบาลตัดงบประมาณ  เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลตัดงบอุดหนุนการศึกษา 750 ล้านดอลลาร์  และหากร่างกำหมายเดือนพฤศจิกายนทีผู้ว่าฯเจอร์รี่ บราวน์ เสนอไม่ผ่านการลงคะแนนมหาวิทยาลัยก็จะถูกตัดงบอีก 200 ล้านดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตามCSUยังจขาดงบประมาณอีก 500 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจะเพิ่มค่าเล่าเรียนกับนักศึกษาไปแล้ว 23 %

 

สำหรับฤดูใบไม้ผลิ 2013 จะมีการรับนักศึกษาไม่กี่ร้อยคนส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ได้รับสิทธิ์ในการเปลี่ยนมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย  the Student Transfer Achievement Reform Act ( SB 1440) โดยมีเพียง 8 แคมปัสเท่านั้นที่รับเข้าเรียนต่อประกอบด้วย Channel Islands, Chico, East Bay, Fullerton, Los Angeles, San Francisco, San Bernardino และ Sonoma

 

ทางด้านเอฟ คิง อเล็กซานเดอร์ ประธานCalStateLong Beach เปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยจะรับนักศึกษาใหม่ในปี 2013 ได้ประมาณ 7,000 คนทำให้ ส่งผลให้อีก 3,000 คนได้รับผลกระทบ และหากกฎหมายการเงินไม่ผ่านการรับอาจลดลงเหลือ 6,000 คนเท่านั้น

 

นอกจากนี้ Cal State Long Beachเริ่มจะตัดการเรียนการสอนลง 1,782 วิชาเริ่มฤดูใบไม้ผลิ 2013 เช่นกัน

 

 

ความเสมอภาคทางกฎหมาย

March 20, 2012  |   Filed under: Politics,กฏหมายและอิมมิเกรชั่น  |   Posted by: admin

 

จากข้อมูลของสำนักงานประชากรสหรัฐล่าสุดปี 2009 (ข้อมูลทันสมัยที่สุด)พบว่าเมื่อมีการหย่าร้างกันขึ้นในสังคมอเมริกันปรากฎว่ามีเพียง 18 % เท่านั้นที่พ่อได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก นั่นหมายถึงว่าพ่อจะได้รับสิทธิ์ดูแลลูกเพียง 1 ใน 6 ที่ศาลชี้ขาดขณะเดียวกันการหย่าร้างก็มีการศึกษามาอย่างยาวนานถึงผลกระทบต่อเด็ก  ส่วนใหญ่แล้วพบว่าเกิดผลลบต่อเด็กที่พ่อไม่ได้ดูแล ตัวอย่างเช่นข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ที่สำรวจในหัวข้อ Survey on Child Health พบว่าเมื่อเด็กเติบโตขึ้นโดยไม่มีพ่อดูแล ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่เลิกเรียนได้ง่าย(drop out of school)และเด็กยังเสี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์และยาเสพติด

 

เรื่องนี้รัฐมินเนโซต้าได้เสนอร่างกฎหมาย HF322 ชื่อว่ากฎหมายร่วมการเป็นพ่อแม่ของเด็กอย่างเสมอภาค ( The Children’s Equal and Shared Parenting Act.)หรืออีกนัยหนึ่งเป็นกฎหมายครอบครัว

 

ร่างกฎหมายนี้ได้เสนอและสันนิษฐานว่าให้พ่อและแม่มีโอกาสที่จะได้เลี้ยงดูลูกคนละ 41.5 % หลังจากหย่าร้าง รวมทั้งความเสมอภาคในการปกป้องเด็กหรือมีการที่จะลงโทษเด็ก โดยไม่นับรวมถึงการทารุณ,การขาดความเอาใจใส่หรือการไร้ความสามารถในการดูแล เพราะทั้ง 3 ประการที่กล่าวมานี้ถือว่าผิดกฎหมาย

 

พร้อมกันนี้ยังอนุญาตให้พ่อแม่ส่งลูกเข้าโรงเรียนเดียวในช่วงของปี อนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้เองในช่วงเวลาของการดูแลลูก อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้เพิ่งพิจารณากันสัปดาห์ที่แล้วและถือว่าปี 2012 เป็นไปอย่างช้า คณะกรรมาธิการยุติธรรมมีการไต่สวนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและให้ระงับไว้และยังไม่ได้จัดเวลาว่าจะมีการไต่สวนในสภาสูงของรัฐอีกเมื่อใด

 

หากเป็นเมืองไทยเรียกว่ากฎหมายแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับครอบครัวและมรดก ในอดีตสมัยพระเจ้าอู่ทองประเทศไทยก็มีกฎหมายครอบครัวแต่เรีกยว่า กฎหมายลักษณะผัวเมีย พ.ศ.1904 ต่อมามีการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 1905

 

กฎหมายลักษณะผัวเมียในสมัยนั้น ชายมีภรรยาได้หลายคน และกฎหมายก็ยอมรับ กฎหมายจึงแบ่งภรรยาออกเป็น

 

1.หญิงอันบิดามารดากุมมือให้ไปเป็นเมียชาย ได้ชื่อว่าเป็นเมียกลางเมือง (เมียหลวง)

2.ชายขอหญิงมาเลี้ยงเป็นอนุภรรยาหลั่นเมียหลวงลงมา ได้ชื่อว่าเมียกลางนอก

3.หญิงใดทุกข์ยาก ชายช่วยไถ่ได้มาเห็นหมดหน้า เลี้ยงเป็นเมียได้ชื่อว่า เมียกลางทาสี 

 

 

โปรไลฟ / โปรช้อยซ์ (ส่งท้าย)

March 20, 2012  |   Filed under: คอลัมน์ประจำ,นานาคอลัมน์,มองไปข้างหน้า โดย วิภัช ธราภาค  |   Posted by: admin

 

ขณะนี้ ผู้คนในสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นการเริ่มต้นของฤดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีกันใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญของสหรัฐ ฯ กำหนดไว้ให้มีการเลือกตั้งใหม่ทุก ๆ สี่ปี และปีนี้ตกเป็นปีแห่งการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งรัฐสภาได้ตกลงให้วันอังคารที่ 6 เดือนพฤศจิกายนข้างหน้านี้แหละเป็นวันเลือกตั้งใหญ่               ซึ่งนอกไปจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่งแล้ว ยังมีการเลือกตั้งตำแหน่งอื่น ๆ รวมทั้งการผ่านกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งจะกระทำกันในวันเดียวกันนั้นด้วย

 

ลัทธิโปรไลฟ์กับโปรช้อยส์ในสหรัฐ ฯ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ที่ผ่านไปหยก ๆ นี้ได้สร้างความแตกแยกในด้านการเมืองของสหรัฐ ฯ อย่างรุนแรงเรื่อยมา และมาถึงปีนี้ก็ทำท่าว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่พอจะเห็นได้ราง ๆ แล้วว่า โอบาม่าคงจะได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากให้ดำรงตำแหน่ง ปธน ต่อไปอีกวาระหนึ่งแน่นอน

 

โอบามา และพรรคเดโมแครตของเขาได้แสดงท่าทีออกให้เห็นอย่างชัดแจ้งเรื่อยมาว่าอยู่ด้านโปรช้อยส์ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น  ลำพังเสียงสนับสนุนจากผู้หญิงที่จะแห่กันไปใช้สิทธิออกเสียงสนับสนุนโปรช้อยส์ก็จะช่วยให้โอบาม่านอนมาได้เลย

 

ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านไปนี้  พรรคริพับลิกันสนับสนุนการกระทำทางด้านโปรไลฟทุกรูปแบบ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรก ๆ สามารถหันเหกิจกรรมขององค์การสหประชาชาติที่ริเริ่มรณรงค์ให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักการวางแผนครอบครัว ซึ่งในระยะนั้น หลายท่านคงยังจำกันได้ว่าเมืองไทยก็รับช่วงหลักการจนทำให้ประชาราษฎร์ทั่วประเทศรู้จักคำว่า “มีชัย” ซึ่งหมายถึงถุงยางนั้นกันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว

 

เรื่องที่น่าแปลกนั้นก็คือ  ทั้งๆที่สำนักวาติกัน ซึ่งบงการกิจกรรมของศาสนาโรมันคาทอลิคนั้น ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี  องค์สันตะปาปาทุกองค์ก็เป็นฝรั่งขาว เช่นเดียวกับพลพรรคส่วนใหญ่ของพรรคริพับลิกัน  แล้วก็พากันสนับสนุนลัทธิโปรไลฟอย่างหัวชนฝาเรื่อยมาโดยไม่ยอมฟังเหตุฟังผลใด ๆ ทั้งสิ้น

 

แต่ผลกลับปรากฏว่า ทางทวีปยุโรปซึ่งกรุงโรมและอิตาลีก็เป็นส่วนหนึ่งของยุโรปเองนั่นแหละนั้น ผู้คนทั่วทั้งทวีป หรือจะว่าทั่วทั้งโลกก็ยังว่าได้ ไม่แยกกันในความคิดเห็นเรื่องโปรไลฟ์หรือโปรช้อย  ต่างคนต่างอยู่กันได้อย่างสงบสุข  ใครใคร่ค้าก็ค้าฯลฯ สบายบรื๋อ  ใครอยากมีลูกหรือจะวางแผนครอบครัวกันยังไง จะใช้ยาป้องกัน  ยาขับประจำเดือนในระยะแรกมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถจัดซื้อได้ ไม่มีข้อห้ามเคร่งครัดดังเช่นในบางมลรัฐของสหรัฐ ฯ เท่าที่เป็นอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้

 

เสียงส่วนใหญ่ของชาวอเมริกันในมลรัฐต่าง ๆ ก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง  ในบางมลรัฐที่เสียงข้างมากเป็นฝ่ายโปรไลฟก็มีมาตรการต่อต้านฝ่ายตรงข้ามคือฝ่ายโปรช้อยส์อย่างตกขอบด้วยการใช้ความพยายามทุกรูปแบบ อาทิเช่น ไม่ยอมรับรู้คำกล่าวที่ว่า “การวางแผนครอบครัว” แต่กลับไปใช้คำว่า “การทำแท้ง” และพร่ำกล่าวหาฝ่ายโปรช้อยส์ว่า  ทำไม่ถูกที่สนับสนุนการทำแท้ง  พยายามเน้นคำว่าทำแท้งซึ่งเป็นคำที่ฟังแล้วย่อมสร้างความรู้สึกสยดสยองและหวาดเสียว ขนลุกขนพองกันเลยทีเดียว

 

มุมมองซึ่งฝ่ายชาวมะกันขาวโปรไลฟเพิกเฉยอย่างน่าสมเพชนั้นก็คือ  พวกเขาเองส่วนมากก็นิยมการมีลูกน้อยเพียงไม่เกินสอง  ดังจะเห็นได้ว่าอดีตประธานาธิบดีซึ่งมาจากพรรคริพับลิกันหลายต่อหลายคนต่างมีลูกกันเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นเอง

 

แต่ลัทธิโปรไลฟของพวกเขาเป็นผลทำให้ประชากรเชื้อชาติแม็กซิกันและลาติโนซึ่งเคร่งศาสนาแคทธอลิกอย่างสุดโด่งพากันมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองสหรัฐ ฯ

 

ขณะนี้ก็เป็นที่รู้กันถ้วนทั่วอยู่แล้วว่า ภายในประมาณไม่เกิน 30 ปีข้างหน้า  คนอเมริกันผิวขาวคอเคเชียนจะกลายเป็นชนกลุ่มน้อยของสหรัฐฯ แล้วเสียงข้างมากก็หมายถึงเสียงของพวกแม็กซิกันและลาติโน  เช่นนั้นแล้ว เมื่อเสียงข้างมากย่อมเป็นใหญ่ตามการใช้สิทธิประชาชนในระบอบประชาธิปไตย  แล้วสหรัฐ ฯ จะเป็นของใคร และฝ่ายไหนจะครองเมือง?

 

ขอให้อายุมั่นขวัญยืน

 

 

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปข่าวธุรกิจเศรษฐกิจ No.581 ในสหรัฐอเมริกา

March 20, 2012  |   Filed under: สรุปข่าวธุรกิจเศรษฐกิจ  |   Posted by: admin

ห้วงเวลานี้เป็นการยื่นเรื่องเกี่ยวกับภาษีปีนี้สิ้นสุดวันที่ 17 เมษายน แต่ก็มีข่าวไม่ดีไม่งามเมื่อ จอร์จ แทนนัส วัย 55 ปีอาศัยอยู่เมือง Lake View Terrace แอล.เอ.และรับจ้างจัดทำภาษีถูกสั่งจำคุก 33 เดือนและต้องจ่ายเงินคืนอีก 8.8 ล้านดอลลาร์แก่ลูกค้า 218 คน  เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรสหรัฐมาก่อน…..@ข้อหาที่ได้รับคือเป็นธุระจัดหาและจัดทำรายการภาษีแบบผิดๆรวมทั้งยังฉ้อโกงลูกค้าที่ประกาศให้ไปร่วมลงทุนใน Bidbay.com, AskGT.com เหตุเกิดระหว่างปี 1999-2003 กว่าเขาจะสารภาพได้ก็ปี 2008 และติดคุกปี 2012 เขาร่วมกับเพื่อนนักฉ้อโกงอีก 2 คน De Elroy Beeler Jr.ถูกตัดสินจำคุกเมื่อปี 2002 และออกมาปี 2005 กลับมาทำเรื่องเทเลมาร์เก็ตติ้งอีกตอนนี้ก็กำลังรอคำพิพากษาอีกคดี กับอีกคนชื่อ Wes Cooley อดีตส.ส.ระดับรัฐของรัฐออเรกอน  ก็ต้องคดีด้วย…..@Technomic Inc.บริษัทวิจัยด้านอาหารและภัตตาคารระบุว่ารายงานของปีที่

..

แล้วร้านแฮมเบอร์เกอร์ Wendy’s ขึ้นมาใหญ่เป็นอันดับสองในสหรัฐด้วยการโค่น Burger King  ลงไปได้ โดยปี 2011 มียอดขาย 8.5 พันล้านดอลลาร์  ส่วน Burger King 8.4 พันล้านดอลลาร์และ McDonald’s ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการคอยอดขาย 34.2 พันล้านดอลลาร์…..@แต่หากรวมเอาภัตตาคารแบบลูกโซ่เข้าด้วยกันแล้วพบว่าอันดับสองคือSubway ที่มียอดขาย 11.4 พันล้านดอลลาร์และที่สาม Starbucks ยอดขาย 9.8 พันล้านดอลลาร์…..@บริษัท UPS ของสหรัฐที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาถึง 105 ปีประกาศซื้อกิจการของ TNT Express NV  เป็นเงินสด 5.16 พันล้านยูโร( 6.8 พันล้านดอลลาร์)  หรือคิดเป็นหุ้นละ 9.5 ยูโร TNT Express เป็นบริษัทของเนเธอร์ แลนด์รับส่งสินค้าใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรปรองจาก Deutsche Post ’s DHLของเยอรมนี  การรวมกิจการครั้งนี้จะต้องได้รับการรับรองจากยุโรป (European Commission) คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่สามของปี การซื้อกิจการเชื่อว่าจะทำให้ UPS ลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานต่างๆได้ทุกด้าน…..@เมื่อปี 2010 UPS ยึดครองตลาดการบริการในยุโรปได้ 7.7 % รองจาก TNT ที่ครองตลาด 9.6 % และ DHL ครองตลาด 17.6 %  TNT(Thomas Nationwide Transport) ปัจจุบันว่าจ้าง 77,500 คนก่อตั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศออสเตรีย ก่อนจะมีการขายต่อให้กับอินเดียและบราซิล จากนั้นกลับมาเติบโตในยุโรปที่เนเธอร์แลนด์…..@สำนักข่าวเอพีรายงานว่าครม.ไทยอนุมัติซื้อคอมพิวเตอร์แทปเล็ต 860,000 เครื่องๆละ 81 ดอลลาร์ให้เด็กป.1 โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ จะทำสัญญากับบริษัท Shenzhen Scope Scientific Development Co. Ltd.ภายในเดือนนี้และแทปเล็ตจะมาถึงไทยก่อนเปิดภาคเรียนเดือนพ.ค.นี้  บริษัทจีนอีก 3 บริษัทที่เข้าร่วมประมูลประกอบด้วย Huawei, TCL และ Haier…..@ขณะนี้ราคามะนาวจังหวัดน่านพุ่งสูง ถึงลูกละ 10 บาท และคาดว่าราคาจะพุ่งสูงกว่านี้อีกเพราะสภาพอากาศที่แล้ง มะนาวมีผลผลิตออกมาน้อย ขาดตลาด พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายมะนาวในตลาดราชพัสดุ อ.เมือง จ.น่าน ต่างบ่นว่ามะนาวแพงและขายยาก จากที่เคยรับมา กระสอบละ 400- 500 บาท ตอนนี้รับมาแพงเท่าตัว ถึงกระสอบละ 1,000 บาทจำเป็นต้องขายในราคาแพง ไม่เช่นนั้นก็จะขาดทุน ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อมะนาวก็บ่นแพงและเลือกที่จะไม่ซื้อ….@นางชุติมา วังโพธิ์ อายุ 48 ปี แม่ค้าขายส้มตำหน้าสนามบิน อ.เมือง จ.น่าน กล่าวว่าต้องทนซื้อมะนาวแพงมาใช้ ไม่กล้าใช้มะนาวเทียมหรือมะขามเปียกกลัวรสชาติจะเปลี่ยนไป อีกทั้งยังไม่ขึ้นราคากลัวจะเสียลูกค้า…..@สถาบันวิจัยหวูหรัน แห่งเซี่ยงไฮ้รายงานว่าบรรดาเศรษฐีผู้มั่งคั่งของจีนจะซื้อเหล้าราคาแพง 2 ยี่ห้อไว้ดื่มและจัดเก็บนั่นคือเหล้า Moutai และเหล้า Wuliangye โดยระบุว่าสินค้า 2 แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเทียบชั้นกับแบรนด์ของยุโรปอาทิเช่น Gucci, Rolex และ Cartier สถาบันนี้ตั้งราคาแบรนด์(brand value) Moutai ไว้ที่ 12 พันล้นดอลลาร์และ Wuliangye  7 พันล้านดอลลาร์…..@เมื่อปี 2011 เหล้าชั้นเยี่ยม Moutai ตั้งราคาประมูลไว้ที่ขวดละ 2.6 ล้านหยวน แต่ขายได้สูงถึง 8.9 ล้านหยวนหรือประมาณ 1.36 ล้านดอลลาร์ที่เมือง Guiyang และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเหล้า Wuliangye รุ่นปี 1960 ได้รับการประมูลไป 9.8 แสนหยวนหรือประมาณ 155,687 ดอลลาร์ ใครที่ว่ารวยๆเจอเศรษฐีจีนก็ต้องเหนื่อยหน่อย…..@

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อคืนน้าเบนมานพูดอะไรบ้างครับอาเฮีย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โชคดี ได้กินแซลม่อน + สามี สุขภาพแข็งแรงนะครับ

 

ปล. อย่าว่างู้นงี้เลยนะครับ ทำบุญมากๆด้วยนะครับ

 

เรื่องทำบุญ ทำบ่อย ออกหน่วยเจอวงเวียนชีวิตเยอะ และพวกพยาบาลตามตึกอนาถาขาดเหลืออะไร ก็จะมาบอก ทำบุญตามกำลัง ไม่เวอร์

 

กำลังส่งคุณยาย ไปอินเดียอีกรอบ ตอนเมษา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มองเมืองไทยผ่านข้อมูลซีไอเอ

March 20, 2012  |   Filed under: Business,ถนนสายอเมริกา  |   Posted by: admin

 

 

เปิดไปอ่านข้อมูลของซีไอเอเกี่ยวกับเมืองไทย  คำว่าซีไอเอย่อมาจาก The Central Intelligence Agency (CIA) เป็นหน่วยงานของสหรัฐทำหน้าที่เก็บข้อมูลของรัฐบาลต่างประเทศ,บริษัทและข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อที่จะนำมาเสนอต่อผู้มีหน้าที่วางนโยบายในสหรัฐ อาทิเช่นรัฐบาลและสภาคองเกรส เป็นต้น

 

 

แผนที่ประเทศไทยซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ยึดเหนี่ยวพม่า,ลาวและเวียดนาม

ไม่เพียงแต่เก็บข้อมูลเท่านั้นซีไอเอยังมีบทบาทในด้านการเมืองและมีอิทธิพลต่อต่างชาติด้าน

นโยบายหรืองานความมั่นคงอื่นๆผ่านหน่วยงานที่เรียกว่า the Special Activities Division.

 

ข้อมูลที่ซีไอเอได้รวบรวมมาจึง”แน่น”ใช้อ้างอิงได้ คิดว่าเราคนไทยในสหรัฐหรือทั่วโลกน่าจะทราบข้อมูลของตัวเองเช่นกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซีไอเอระบุว่าไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Domestic Product =GDP) หรือการรวมเอาสินค้าและบริการเข้าด้วยกันทั้งหมดถือเป็น 2 ใน 3 ที่ไทยต้องพึ่งการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ

 

ในปี 2010 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาGDPเติบโต 7.8 % นับว่าเศรษฐกิจเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยปีนั้นมีGDP9.5 ล้านล้านบาทหรือ 584,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อจัดอันดับแล้วไทยมีเศรษฐกิจเป็นอันดับ 24 ของโลก  ในกลุ่มอาเซียนไทยเป็นรองGDPเฉพาะอินโดนีเซีย เท่านั้น

 

แต่หากจัดอันดับความมั่งคั่งในเอเชียอาคเนย์แล้วไทยร่ำรวยเป็นอันดับ 4 รองจากสิงคโปร์,บรูไนและมาเลเซียในแง่ของรายได้ต่อหัวประชากร (per capita)  การประเมินในเดือนกรกฎาคมปี 2012 ของซีไอเอคาดว่าประชากรสิงคโปร์มี 5,353,494 คน บรูไนมี 408,786 คน,มาเลเซียมี 29,179,952 คน และไทยจะมีประชากร 67,091,089 คน

 

ในแง่ของผลผลิตเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2010  ไทยมีผลผลิต 313.8 พันล้านดอลลาร์และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 172 พันล้านดอลลาร์ทุนสำรองจัดอยู่ในอันดับ 11 ของโลก  ในปี 2010 ไทยยังผลิตรถยนต์เติบโต 63 % หรือ 1.6 ล้านคัน ถือเป็นอันดับ 13 ของโลก ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าในปี 2015 ไทยจะเข้ามาติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้านการผลิตรถยนต์

 

ที่สำคัญประเทศไทยยังเป็นตัวพึ่งพิงและยึดเหนี่ยวเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านเช่นลาว,พม่าและกัมพูชา  ในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 1997-1998 หรือที่เรียกว่าโรคต้มยำกุ้งนั้นไทยฟื้นตัวได้เพราะการส่งออกสินค้ามาช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังพึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งถือว่าทำรายได้ถึง 6 % ของGDP

 

นอกจากนี้ตัวเลขของปี 2010 ยังพบว่าGDPของไทยเติบโต 8.0 % มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5-7  % ขณะที่ตัวเลขการว่างงานต่ำ 1.2 % เท่านั้นและมีการคาดว่าในปี 2012 ประเทศไทยจะมีอัตราการว่างงานลดอีกเหลือ 1 % ซึ่งถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำเกือบที่สุดในโลก

 

เมื่ออัตราการว่างงานต่ำก็ถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มของประเทศที่มีขีดความยากจนน้อยลง  กล่าวคือไทยถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มของญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,ไต้หวัน,บรูไนและมาเลเซียที่ประชากรของประเทศมีน้อยกว่า 2 % ที่มีรายได้วันละต่ำกว่า 1.25 ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตามไทยเองก็มีปัญหาที่ราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2010 และ 2011

 

ในทางการเมืองข้อมูลของซีไอเอที่กล่าวถึงยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรืองอำนาจและถูกรัฐประหารพ้นตำแหน่งเมื่อ 19 กันยายน 2006 เมื่อมีการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2007 พรรคพลังประชาชนที่สนับสนุนทักษิณจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นม(สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี) จากนั้นกลุ่มต่อต้านทักษิณ (กลุ่มพันธมิตรหรือเสื้อเหลือง)เริ่มประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อพฤษภาคม 2008 และเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม รวมถึงเข้ายึดและประท้วงที่สนามบิน 2 แห่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน

 

ต้นเดือนธันวาคม 2008 ศาลได้ตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนและอีก 2 พรรคร่วมรัฐบาลในข้อหาละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง  ทำให้พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมามีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

 

เมื่อเดือนตุลาคม 2008 ทักษิณหนีออกนอกประเทศก่อนที่จะถูกตัดสินคดีที่ดินรัชดาเพราะทักษิณใช้อำนาจไปในทางที่ผิด (an abuse of power)และก็ส่งสัญญานจากต่างประเทศมายังผู้สนับสนุนตนตลอดเวลา

 

กลุ่มที่สนับสนุนทักษิณคือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มนี้ได้ก่อการจลาจลขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2009 สามารถล้มการประชุมกลุ่มสมาคมอาเซียนที่พัทยาลงได้

 

เดือนกุมภาพันธ์ 2010 ศาลตัดสินยึดทรัพย์ของทักษิณครึ่งหนึ่ง ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม 2010 เข้ายึดครองพื้นที่ย่านราชประสงค์หลายบล้อค การปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มประท้วงที่(สองฝ่าย)มีอาวุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 92 คนและประเมินว่าตึกรามและทรัพย์สินถูกเผาเสียหายประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์

 

การประท้วงครั้งนี้นำมาสู่การเลือกตั้งใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2011 ปรากฎว่าน้องสาวของทักษิณคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สังกัดพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะและเข้าบริหารประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคม  จากนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ถูกท้าทายโดยการเกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของไทย ในปลายปี 2011

 

เมื่อเริ่มต้นปี 2012 รัฐบาลเพื่อไทยกำลังจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียงนั่นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากทำได้จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 19 นับตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2475

 

นี่คือข้อมูลที่ซีไอเอได้รวบรวมไว้  ถ้ามีโอกาสก็จะได้นำมาเสนออีกเพื่อให้ได้ทราบว่า

 

”อเมริกัน”มีข้อมูลอะไรบ้างของประเทศไทย   ไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้นซีไอเอยังมีข้อมูลของทุกประเทศในโลกนี้ (ข้อมูลของประเทศไทยที่นำมาเขียนนี้อัพเดทเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012)

 

ที่มา http://apacnews.net/news/?p=21336

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

เรื่องทำบุญ ทำบ่อย ออกหน่วยเจอวงเวียนชีวิตเยอะ และพวกพยาบาลตามตึกอนาถาขาดเหลืออะไร ก็จะมาบอก ทำบุญตามกำลัง ไม่เวอร์

 

กำลังส่งคุณยาย ไปอินเดียอีกรอบ ตอนเมษา

สวัสดีครับ เจ้เกี้ยมอี่

อยู่ในแวดวง " รักษาพยาบาล " ก็จะต้องประสบพบเจอ " อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา " เป็นเหตุพิเศษจากมนุษย์คนอื่นๆ ส่งกำลังใจให้ผัวเจ้ฯ ต่อสู้กับโรคภัยฯ ครับ เห็นและรับทราบจากเพื่อนของเด็กขายของ จากคำกล่าวของ ดร. วิป ประมาณว่า " การให้ยารักษานั้น แรง (มาก) ไปก็ไม่ได้ อ่อน ( น้อย ) ไปก็ไม่ไหว บุญพาวาสนาส่ง ประสบพบเจอความสมดุลของร่างกาย ก็จะมีชีวิตที่ยืนนาน "

 

ว่าแต่ คุณยาย ไปอินเดีย จะไปแสวงบุญที่พุทธคยา เหรอครับ ถ้าหัวกระหม่อมไวต่อความรู้สึกของโรคภัยไข้เจ็บ ควรระวังอย่างมาก ดึกๆ ได้ใจมาก ส่วนกลางวัน ช่วงนี้ก็ร้อนสาหัส นอกจากมีเส้นสายดี มีสิทธิพิเศษ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

ขายทำกำไร+กังวลศก.จีนชะลอฉุดสินทรัพย์เสี่ยงร่วงทั่วโลก

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555AAAขนาดตัวอักษร| |

 

นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ดัชนีหุ้นสหรัฐ-ยุโรปปิดตลาดร่วงลงทุกตัว หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ฉุดราคาน้ำมันไนเม็กซ์ร่วงเกือบ 3 ดอลลาร์ปิดที่ 105.61 ต่อบาร์เรลโดยซาอุดิอาระเบียยอมเพิ่มการผลิตน้ำมันชดเชยส่วนของอิหร่าน เช่นเดียวกับราคาทองร่วงลง 20.10 ดอลลาร์ที่ 1,647.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางกระแสวิตกว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลง ขณะที่สหรัฐเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (20 มี.ค.) ปรับตัวลง 68.94 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 13,170.19 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 4.23 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 1,405.52 และดัชนีแนสแด็ก ลบ 4.17 จุดหรือ 0.14% ปิดที่ 3,074.15

 

ด้านฟากฝั่งยุโรปเผชิญแรงเทขายทำกำไรปรับตัวลงรุนแรงในทุกตลาด ซื้อขายในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาดดิ่งลงถึง 1.5% โดย FT100 ร่วง 1.17% CAC40 ฝรั่งเศส ร่วงอีก 1.32% และ DAX เยอรมันดิ่งลง 1.39%

 

ดัชนีหุ้นสำคัญในตลาดสหรัฐปิดตลาดในแดนลบ เพราะตลาดกังวลว่า เศรษฐกิจจีน จะชลอตัวลง ประกอบกับ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 698,000 ยูนิต ซึ่งสวนทางกับข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างที่พุ่งขึ้น 5.1% สู่ระดับ 717,000 ยูนิต ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดนับแต่เดือนต.ค.2551

 

โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 700,000 ยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับ 706,000 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีการปรับทบทวนของเดือนม.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 690,000 ยูนิตในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจาก 682,000 ยูนิตในเดือนม.ค.

 

นักลงทุนยังวิตกด้วยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอจะเพิ่มแรงกดดันต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ จะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.

 

ส่วนในวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.พ. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.

 

น้ำมันร่วงเกือบ3ดอลล์หลังซาอุฯผลิตน้ำมันเพิ่ม

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ปิดร่วงลง 2.48 ดอลลาร์ หลังซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่ม รับมือกับการขาดแคลนน้ำมัน บวกสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับตัวลง 2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.61 ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 124.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน สำนักงาน Joint Organization Data Initiative (JODI) เปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์ว่า ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ผลิตน้ำมันได้ 9.87 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.6% จากระดับ 9.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเดือนดังกล่าวเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 31 ปี

 

นอกจากนี้ JODI ยังระบุว่า ซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมัน 7.51 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 7.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนธันวาคม ส่วนปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศอยู่ที่ระดับ 254.6 ล้านบาร์เรลในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 5.9% จากระดับ 240.6 ล้านบาร์เรลในเดือนธันวาคม

 

โดยนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 มี.ค.ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (อีไอเอ) จะเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะร่วงลง 2.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.5%

 

จีนปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน/ดีเซลวันนี้เฉียด7%

 

สัญญาณจีนปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลโดยมีผลบังคับใช้วันนี้ ซึ่งเป็นการปรับครั้งที่สองแล้ว ในปีนี้และเป็นการปรับครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังราคาในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อในประเทศลดลง

 

คณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ประกาศตั้งแต่เมื่อวานว่า ตั้งแต่วันอังคารนี้เป็นต้นไปราคาน้ำมันเบนซินจะปรับขึ้น 6.5% เป็น 600 หยวนต่อตันหรือราว 18,000 บาท ส่วนราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้น 7% เป็น 9,130 หยวนต่อตันหรือราว 274,000 บาท หรือคิดเป็นราคาต่อลิตร น้ำมันเบนซิน จะเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 0.44 หยวน และน้ำมันดีเซลจะเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 0.51 หยวน

 

การปรับครั้งนี้เป็นไปตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในช่วง 22 วันทำการ และข้อบังคับใหม่ของจีนที่ประกาศใช้เมื่อปี 2552 กำหนดว่า สามารถปรับขึ้นราคาน้ำมันกลั่นได้เมื่อราคาน้ำมันดิบอ้างอิงในตลาดโลกปรับขึ้นเกินกว่า 4% ใน 22 วันทำการ

 

ก่อนหน้านี้จีนเพิ่งปรับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกตันละ 300 หยวนเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ส่วนการปรับล่าสุดมีขึ้นก่อนจะถึงช่วงที่มีการใช้น้ำมันสูงสุดในช่วงฤดูร้อนเพื่อลดการเก็งกำไรและการกักตุน รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอกับความต้องการ

 

กระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาน้ำมันแพร่สะพัดล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ประชาชนแห่ไปเติมน้ำมันจำนวนมาก ปั๊มน้ำมันบางแห่งบอกว่ามียอดลูกค้าเพิ่มขึ้นถึงราว 30%

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Japan sounds the all-clear on energy imports

Tue, Mar 20 2012, 23:51 GMT | Forex Live

Japan sounds the all-clear on energy imports

ForexLive Asia-Pacific open: Japan returns from holiday

US to grant Iranian sanctions exceptions to Japan

By: Adam Button

 

The Trade Minister says now that the US has decided to exempt Japan from Iranian sanctions, he believes the country will not face a major crude supply problem.

 

การนำเข้าพลังงานด้านน้ำมันดิบของญี่ปุ่นจากอิหร่าน ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าร่วมมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Bernanke testimony leaks out

Tue, Mar 20 2012, 21:43 GMT | Forex Live

 

By: Adam Button

 

Reduction in financial stress in Europe a welcome development for US Europe's situation remains difficult Europe solutions include expansion of firewalls, strengthening banks, efforts to increase growth and competitiveness Fed is right to use its tools to help stabilize US should markets require such action US institutions have 'very limited' exposure to most vulnerable European countries If solution took a severe negative turn, US financials would face problems Dollar swap lines have eased funding pressure  

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อคืนน้าเบนมานพูดอะไรบ้างครับอาเฮีย

This is the first of a series of four lectures. Bernanke was just stalked by Steve Liesman on his way into the lecture and tried hard not to make any news, saying only that the economy is still very challenging. He had no comment on the recent backup in yields.

 

A bad year for Bernanke; cut his bonus!

Fed profit falls to $77.4 bln in 2011 from $83.6 in 2010. Slacker.  

 

Bernanke: Not enough gold in the world to return to gold standard

นายเบอร์นันเก้ ไม่ได้กล่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับ นโยบายของ Fed ที่จะออกมา ทั้ง QE3 หรือ ที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยของพันธบัตร เป็นการกล่าวแบบครูสอนหนังสือ ที่กล่าวกว้างๆ ของระบบการเงินโลก มีประโยคหนึ่งคือ " ปริมาณทองในโลกไม่เพียงพอที่จะกลับสู่มาตรฐานทองคำ " นั้นคือ การนำทองคำมาเป็นทุนสำรองก่อนเพื่อพิมพ์ธนบัตรหมุนเวียน ดังนั้น ใครจะบอกอะไรว่า US$10,000 ในอนาคต ก็คงต้องทนถือรอต่อไปอีกกาลนาน

 

Tue, Mar 20 2012, 17:53 GMT | Forex Live

 

Just like back in school

Tue, Mar 20 2012, 16:49 GMT | Forex Live

 

By: Adam Button

 

Dr. Bernanke's lecture covers the origin and founding of the Federal Reserve. Nothing market moving, or particularly interesting.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ kimenyi คุณ Kero. Kero คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ ดาวเหนือ คุณ noonoon_ja คุณ Madee คุณ khaiped คุณ forgame และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

วันนี้เดาว่าราคาไม่น่าไปไหน เมื่อวานลงมาย้ำฐานแล้วไม่หลุด ก็น่าจะส้รางความมั่นใจให้นักลงทุนและชาวดอยกันได้บ้าง วันนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่เดาว่าขาใหญ่น่าจะชอบ เงียบๆเรียบๆแบบแอบลากขึ้นมันส์ๆ(ว่าแต่เมื่อไหร่จะลากสักที) ถ้าช่วยกันลากจริงๆ วันนี้น่าจะได้เห็น 1680

 

เดาว่าช่วงเวลาของการขึ้นน่าจะประมาณ บ่ายแก่นิดๆไปถึงช่วงคำ ย่อตอนดึกหน่อย แล้วกลับมาขึ้นอีกครั้งหลังตี 1 ครับ คาดเดาจากกราฟ 3 วันก่อน ลองย้อนไปดูว่า เหมือนกันมา 3 วัน วันนี้น่าจะมี สวนทาง บ้างนะครับ

 

เชื่อว่าไม่หลุด 1655 อีก เพื่อสร้างความมั่นใจ ถ้าไม่เห็น 1680 ก็คงย้ำอยู่แถวไ 1660-1670 ครับผม เดาตามดอย แต่ไม่มั่ว ไม่ฝัน ไม่ได้นั่งทางในครับ :047

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มาคอยติดตามดูกันว่า ดอลล์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง / ยูโรแข็งค่าขึ้น ในตลาดเอเชียตอนนี้ จะมีความสามารถ ดันราคาทองขึ้นมายืนเหนือ US$1,660 ได้หรือไม่ ค่าเงินยูโรฯ ตอนนี้แข็งค่าขึ้นมา 0.33%. หรืออยู่ที่ 1.3266 สูงที่สุดในรอบ 8 วัน

 

Forex: EUR/USD relatively bid; hits 8-day highs

Wed, Mar 21 2012, 00:52 GMT | FXstreet.com

 

Euro hits weekly high

FXstreet.com (San Francisco) - EUR/USD continues to edge higher in early Asia as the greenback continues to weaken, having climbed up into the 1.3265 zone in recent minutes, levels not seen since the Friday before last, recording a 0.2% gain so far on the day. If the rally persists in the hours ahead, Valeria Bednarik, Chief Analyst at FXstreet.com recognizes resistance levels at 1.3310 and 1.3350, while, to the downside, support levels lie at 1.3210, 1.3170 and 1.3140.

 

EUR/USD Mar 21 at 01:30 GMT

1.3266/66 (0.32%)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...