ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จากพรรคสังคมนิยม ยังมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย ก่อนกำหนดการเลือกตั้งรอบชี้ขาดในสุดสัปดาห์นี้

 

ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนฝรั่งเศสของบริษัทสำรวจโพลชื่อดัง “อิฟ็อป” ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดในสุดสัปดาห์นี้ ระบุว่า นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ตัวแทนจากพรรคสังคมนิยม มีคะแนนนิยมร้อยละ 52 เหนือกว่าประธนาธิบดี นิโกลาส์ ซาโกซีย์ เพียงร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ประธานาธิบดีซาโกซีย์ มีโอกาสน้อยมากที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้

ส่วนการหาเสียงของแคนดิเดททั้งสองคนในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ทั้งคู่เน้นนโยบายแก่ปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤติหนี้สินที่เริ่มเป็นปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ โดยประธานาธิบดีซาโกซีย์ ประกาศนโยบายอื่นๆ ด้วย เช่น การเตรียมจำกัดจำนวนผู้อพยพมายังฝรั่งเศส และสร้างรากฐานหลักความเชื่อศาสนาคริสต์ขึ้นมาอีกครั้ง

 

บารัค โอบามารณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในวันนี้

 

นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเริ่มทำการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัยในนามพรรคเดโมแครตเป็นครั้งแรกในวันนี้ ด้วยคำขวัญว่า “พร้อมที่จะเดินหน้า” ในรัฐโอไฮโอและเวอร์จิเนีย ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีหลังจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐส่อเค้าไม่กลับมาขยายตัวดังที่เขาคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : ถนอม พิพิธยากร / สวท.   Rewriter : ถนอม พิพิธยากร / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 05 พฤษภาคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาดเบรนท์สัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวใน113-120

ข่าวเศรษฐกิจ วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2555 13:23น.

 

ไทยออยล์ คาด ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ สัปดาห์หน้า เคลื่อนไหวในกรอบ 113 - 120 เหรียญ/บาร์เรล เวสต์เท็กซัส 100 - 108 เหรียญ จับตาแถลงการณ์ธนาคารกลางยุโรป เลือก ปธน.ฝรั่งเศส - กรีซ

ข่าวจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบระยะสั้นในสัปดาห์หน้า โดยน้ำมันดิบเบรนท์ จะแกว่งตัวในกรอบ 113 - 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส แกว่งตัวในกรอบ 100 - 108 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนยุโรป ยอดคำสั่งซื้อ และการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเยอรมนี รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังสหรัฐอเมริกา โดย EIA แถลงการณ์ธนาคารกลางยุโรป ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และกรีซ ในวันที่ 6 พ.ค.นี้

 

อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ จะช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้ในระดับสูงต่อไป ซึ่งยังต้องติดตามการเจรจาครั้งที่ 2 ระหว่าง 6 ประเทศแกนนำหลักของโลก และอิหร่าน ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในวันที่ 23 พ.ค. นี้

 

กสิกรคาดค่าบาทสัปดาห์หน้า 31.10/$

ข่าวเศรษฐกิจ วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2555 11:49น.

 

กสิกร คาด เงินบาทอ่อนค่ากว่าระดับ 30.90 บ.ต่อดอลลาร์ หุ้นไทยปรับขึ้นจากแรงซื้อต่างชาติ จับตา ศก.ยุโรปให้แนวรับ ที่1,166 จุด แนวต้าน 1,248 จุด

บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 7 - 11 พ.ค. นี้ ว่า ค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.70 - 31.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยคงต้องจับตาการตอบรับของตลาดการเงิน หลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ ผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซ รวมถึงประเด็นแวดล้อมของวิกฤตหนี้ยุโรป อนึ่ง ตลาดการเงินในประเทศ จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. 2555 เนื่องในวันชดเชยวันฉัตรมงคล

 

ส่วนแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 8 - 11 พ.ค. 2555 มองว่า มีโอกาสผันผวน และอาจมีการปรับฐานได้ ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจหลักที่ยังคงเปราะบาง โดยต้องจับตาผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสและกรีซ ในวันที่ 6 พ.ค. รวมถึง ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนี สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดการขอสินเชื่อบ้าน ดัชนีราคาผู้ผลิต และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ทั้งนี้ คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,207 และ 1,166 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,238 และ 1,248 จุด 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯจัดTVย้ำห่วงของแพงเร่งแก้อ้างน้ำท่วมต้นเหตุ

ข่าวการเมือง วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2555 8:41น.

 

นายกรัฐมนตรี จัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ยืนยัน น้ำท่วมทำของแพง พร้อมระบุ ราคาสินค้าเริ่มปรับลดลงแล้ว เร่งแก้ไข ขณะที่น้ำมันแพงตามกลไกตลาดโลก ยัน ตรึงแอลพีจีถึงสิ้นปี

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้ามีราคาแพง โดยได้ยินเสียงบ่นจากประชาชน ทั้งนี้ ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น เป็นเพราะ 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ผลพวงจากอุทกภัย ที่ทำให้มีปัญหาในการกระจายสินค้า เพราะสินค้าขาด จากโรงงานที่ต้องปิดจากน้ำท่วม ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคาสินค้ามีแนวโน้มลดลง แต่ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และส่วนที่ 2 คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกระทบต่อราคาอาหาร และสินค้าพลังงาน ที่ราคาต่อหน่วยแพงขึ้น

 

แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ราคาสินค้าเริ่มถูกลงแล้ว โดยมีสินค้าบางอย่างที่แพงขึ้น และบางอย่างที่ถูกลง

 

ส่วนราคาน้ำมันภาพรวม ปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดโลก แต่น้ำมันบางรายการที่มีผู้ใช้มาก รัฐบาลได้มีการชะลอการเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยเหลือ แต่ในสภาพนี้ รัฐบาลไม่สามารถฝืนกลไกไปได้นาน แม้จะพยามชะลอให้รายได้กับรายจ่ายสอดคล้องกัน แต่ช่วงนี้ประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม จึงมีผลกระทบ 2 ทางเกิดขึ้น และผู้ประกอบการต้องปรับราคา ตามต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น แต่จะพยายามตรึงราคาพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจี ที่จะตรึงราคาจนถึงสิ้นปี

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงภาพราคา อาหารตามสั่ง เทียบปี 2554 และ 2555 แสดงต้นทุน สัดส่วน ที่ระบุว่า ราคาวัตถุดิบลดลงแล้ว แต่ราคาปลายทางยังไม่ปรับลด เพราะค่าดำเนินการ ค่าเช่า ยังไม่ลดลงตาม ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ที่จะทำให้ราคาปลายทางปรับลดตามกลไลตลาด ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการช่วยในระยะยาว เรื่องค่าแรง เงินเดือน รวมถึงรถเมล์ และรถไฟฟรี

 

 

คลังย้ำพักหนี้3ปีไร้ปัญหาไม่กระทบฐานะแบงก์

 

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ยืนยันว่า มั่นใจโครงการพักหนี้ 3 ปี จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งปี 2544 ที่เคยมีโครงการคล้ายกันนี้เกิดหนี้เสียเพียงร้อยละ 1.6 เท่านั้น โดย นายวิรุฬ ยืนยันเพิ่มเติมว่า ในครั้งนี้มีการตรวจสอบดูแลเข้มกว่าเมื่อปี 44 แน่นอน จึงไว้วางใจได้ว่าจะไม่เกิดหนี้เสียมากนัก

 

นอกจากนี้ ผลการตรวจสอบบัญชีพบประชาชนกว่า 300,000 คน มีประวัติที่ดี จึงคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมโครงการเกินร้อยละ 50 จากบัญชีดังกล่าว ทั้งนี้ ทั้ง 2 ท่าน ยืนยันว่า โครงการนี้จะไม่มีผลกระทบต่อสถานทางการคลังของทั้ง 4 ธนาคาร ที่จะเข้าร่วมโครงการ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

จ้างงานสหรัฐอ่อนแอฉุดหุ้นโลกร่วงหนัก-น้ำมันดิ่ง$4หลุด$100

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

 

ดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐปิดร่วงลงหนัก เหตุตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ฉุดดาวโจนส์ร่วง 168 จุด รวมถึงฟากฝั่งยุโรปดัชนีหุ้นร่วงลงเฉียด 2% ส่วนราคาน้ำมันไนเม็กซ์สหรัฐร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลโดยถูกถ่วงจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรอ่อนแอแม้ว่าภาพรวมอัตราการว่างงานกระเตื้องเล็กน้อยจาก 8.2% มาอยู่ที่ 8.1% สำหรับราคาทองเริ่มทรงตัวปิดที่ 1,642.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ บวกอยู่ 7.85 ดอลลาร์

 

 

ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (4 พ.ค.) ร่วงลง 168.32 จุดหรือ 1.27% ที่ 13,038.27 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 22.47 จุดหรือ 1.61% ปิดที่ 1,369.10 จุด และดัชนีแนสแด็กดิ่งหนัก 67.96 จุดหรือ 2.25% ปิดที่ 2,956.34 จุด

 

ด้านฟากฝั่งยุโรปร่วงลงหนักมากกว่า 2% ช่วงต้นชั่วโมงเทรดวานนี้ โดย FT100 ลอนดอนปิดที่ 5,655.06 ดิ่งลงถึง 111.49 จุดหรือ 1.93% CAC40 ฝรั่งเศส ปิดที่ 3,161.97 ร่วลง 61.39 จุด หรือ 1.9% และ DAX เยอรมัน ปิดที่ 6,561.47 ดิ่งลง 132.97 จุด หรือ 1.99%

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะทรงตัวที่ 8.2%

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 120,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น

 

โดยนักลงทุนมีความกังวลว่า หากมีคนตกงานมากกว่านี้ เศรษฐกิจของประเทศ จะยิ่งชะลอตัวและจะไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้

 

น้ำมันดิบปิดต่ำกว่า100ดอลล์

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 4.05 ดอลลาร์ จากเมื่อวันพฤหัสบดี โดยปิดที่ราคา 98.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นราคาปิดต่ำที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.

 

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 2.90 ดอลลาร์ปิดตลาดที่ระดับราคา 113.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นระดับปิดต่ำที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.

 

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ปิดร่วงหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกอาจชะลอตัว

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ายังดิ่งลงหนักสุดถึง 3.2% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะทรงตัวที่ 8.2%

 

ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 120,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น

 

ดอลล์ผันผวนหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

 

เงินดอลลาร์แกว่งตัวผันผวน หลังจากที่สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ที่เพิ่มน้อยกว่าคาด

 

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% แตะที่ 80.07 เยน และเคลื่อนไหวแตะระดับ 1.3149 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเวลา 08.59 น.ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 8.2%

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบหกเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.

 

ส่วนค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เงินยูโรร่วงลง เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานดัชนีพีเอ็มไอ ภาคการผลิตและบริการเดือนเม.ย.ในยูโรโซนที่หดตัวเกินคาด รวมถึงกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซช่วงสุดสัปดาห์นี้

 

ดัชนีเงินดอลลาร์ ซึ่งใช้สำหรับเปรียบเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ขยับเพียงเล็กน้อยแตะที่ 79.237

 

สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเม.ย.เพิ่มน้อยกว่าคาด

โดยที่สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเม.ย.เพิ่มน้อยกว่าคาด ขณะอัตราว่างงานลดลงแตะ 8.1% เพิ่มความกังวลตลาดแรงงานสหรัฐไม่ฟื้น

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 120,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น

 

การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดนี้ อาจยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ปกคลุมตลาดอยู่แล้วในเวลานี้ หลังจากที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เอดีพี เอมพลอยเออร์ เซอร์วิสเซส บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เพิ่งเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 - 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ

 

ผลสำรวจของเอดีพี รวบรวมเฉพาะการจ้างงานในภาคเอกชน ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐครอบคลุมการจ้างงานภาครัฐด้วย

 

การจ้างงานที่ชะลอตัวลง อาจเป็นภาพสะท้อนว่ามุมมองเชิงบวกของภาคเอกชน ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง และอาจส่งผลไปถึงการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

กระทรวงแรงงานระบุในรายงานว่า การจ้างงานในภาคเอกชน ซึ่งไม่รวมหน่วยคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐ และการจ้างงานในภาคเอกชน ซึ่งไม่รวมหน่วยงานรัฐ เพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 16,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วนธุรกิจก่อสร้างลดการจ้างงานลง 2,000 ตำแหน่ง

 

ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่ขับเคลื่อนการจ้างงานในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 116,000 ตำแหน่ง โดยธุรกิจค้าปลีกจ้างงานเพิ่ม 29,300 ตำแหน่ง และการจ้างงานภาครัฐลดลง 15,000 ตำแหน่ง

 

"รอมนีย์"สับเละนโยบายสร้างงาน"โอบามา"ไร้ผล

ขณะที่นายมิทท์ รอมนีย์ ตัวเก็งในการคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ โจมตีแนวทางการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์

 

นายรอมนีย์ กล่าวถึงรายงานตัวเลขจ้างงานว่า เป็นข้อมูลที่เลวร้ายและน่าผิดหวังมาก และดูเหมือนว่าตัวเลขจ้างงานจะยิ่งชะลอตัวลงโดยไร้วี่แววที่จะเร่งตัวสูงขึ้น หรือฟื้นตัวเป็นปกติได้ ซึ่งภาวะเช่นนี้บ่งชี้ว่านโยบายของโอบามาไม่ได้ผล และใช้เวลานานเกินไปในการทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับคืนมา

 

คำวิพากษ์วิจารณ์ถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากนายรอมนีย์ครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 160,000-170,000 ตำแหน่ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

 

เขื่อนป่าสักแห้งชาวบ้านแห่ปลูกข้าวนับหมื่นไร่

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555AAAขนาดตัวอักษร| Share on email Share on print Share on twitter Share on facebook Share on myspace Share on stumbleupon Share on digg | More Sharing Services

 

น้ำท้ายอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์แห้งขอด ชาวบ้านแห่ปลูกข้าวนับหมื่นไร่ จนท.เตือนให้หยุดและย้ายออกนอกอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก เพราะจะมีผลกระทบต่อการใช้น้ำ ขณะที่ 2 เขื่อนใหญ่เตรียมรับพายุฤดูร้อน 5-8 พ.ค.

 

 

วานนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลพบุรี ว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้เก็บน้ำไว้เพียง 25% ของความจุ ทำให้ก้นอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล และ อ.ท่าหลวง กลายเป็นทุ่งนาขนาดใหญ่ที่มีความชื้นของน้ำในการทำนา เกษตรกรต่างยึดพื้นที่ทำนากว่า 1 หมื่นไร่ ขณะนี้นาข้าวที่บริเวณก้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ บางแปลงสามารถเก็บเกี่ยวได้ และบางแปลงข้าวกำลังออกรวง

 

นอกจากนี้พื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในปัจจุบันยังเป็นที่เพาะปลูกข้าวโพดกินฝัก เลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะ และโคเนื้อ บางรายยังปลูกกระท่อมในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก และทำคอกเลี้ยงวัวภายในอ่างเก็บน้ำ เพราะน้ำแห้งขอด ขณะเดียวกันแม่ค้าขายปลาสดที่เคยรับซื้อจากชาวประมงที่หาปลาจากเขื่อนป่าสักปีนี้แทบไม่มีปลาเลย

 

นายศรมิตร สิงห์คนอง หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและบำรุงรักษ์ป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า การระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะระบายวันละ 50 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นการระบายน้ำตามปกติของเขื่อนป่าสักที่ระบายอย่างนี้มาทุกปี การระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักไม่กระทบต่อการเกษตร ส่วนเรือขนสินค้าไปติดร่องน้ำตื้นแม่น้ำป่าสักในเขตพระนครศรีอยุธยา เป็นเพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาปล่อยมาน้อย และมาแก้ปัญหาด้วยการปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นจากเขื่อนป่าสัก ทำให้เรือสามารถใช้แม่น้ำป่าสักเป็นเส้นทางคมนาคมได้แล้ว

 

“การที่เกษตรกรเข้ามาทำนา เพาะปลูกพืชทางการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ในเขตกักเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก ทางเขื่อนจะต้องไปแจ้งให้เกษตรหยุดและย้ายออกนอกอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก เพราะจะมีผลกระทบต่อการใช้น้ำ อีกทั้งหากมีการปลูกสร้างจะต้องเร่งให้รื้อออกไป

 

ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก ขอยืนยันว่ามีการปล่อยน้ำตามปกติ เป็นไปตามแผนงานของเขื่อนป่าสักที่ต้องระบายน้ำ” นายศรมิตรกล่าว

 

วันเดียวกัน นายจรูญ เลาหเลิศชัย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า สภาพอากาศใน ระยะนี้ยังคงมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ และในวันที่ 5-8 พ.ค.นี้ จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง หลังจากนั้นคาดการว่า ฤดูฝนจะเริ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามการเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการจะต้องมีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะต้องมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีฝนตกติดต่อกัน 5 วัน และมีปริมาณฝนในแต่วันละไม่น้อยกว่า 5 มิลลิเมตร

 

นายวินัย พงษ์จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า การเข้าสู่ฤดูฝนในกลางเดือนพ.ค.ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมาย เป็นการเข้าฤดูฝนตามปกติไม่ได้มาเร็วตามที่ทุกคนเข้าใจ ทั้งนี้ฝนที่จะมาถึงจะช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรนอกเขตชลประทานซึ่งมีหลายพื้นที่ต้องขาดน้ำจนผลผลิตเสียหาย ขณะเดียวกันจะทำให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังไปแล้วได้เริ่มเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกพืชในฤดูฝน ส่วนความกังวลในเรื่องอุทกภัยไม่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลที่มีปริมาณน้ำ 47.8% และเขื่อนแม่กวงอุดมธาราที่มีปริมาณน้ำ 42.32% ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีกมาก

 

อย่างไรก็ตาม จ.เชียงใหม่ ยังคงมีอากาศร้อนจัดและมีถึง 16 อำเภอ ที่ประกาศเป็น พื้นที่ภัยแล้ง โดยสำนักชลประทานที่ 1 ยังคงให้บริการเครื่องสูบน้ำแก่เกษตรกรนอกเขตชลประทานอย่างต่อเนื่อง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

น้ำมันดิ่งเหว$4-หุ้นสหรัฐฯปิดลบ วิตกข้อมูลภาคแรงงานมะกัน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2555 05:33 น.

 

       เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กร่วงหนักกว่า 4 ดอลลาร์ ส่วนวอลล์สตรีทก็ดิ่งแรง เมื่อวันศุกร์(4) จากข้อมูลภาคแรงงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจชาติมหาอำนาจแห่งนี้เติบโตเฉื่อยชายิ่งกว่าเดิม

       

       สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 4.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.18 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์

       

       ปัจจัยที่ฉุดให้ตลาดน้ำมันดิ่วเหวในวันศุกร์(4) นั้น นักลงทุนชี้เป้าไปที่ข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯที่เผยแพร่ในเช้าวันเดียวกัน ที่ระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศสร้างงานใหม่ได้เพียงแค่ 115,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว น้อยกว่าช่วงสองเดือนแรกของปีกว่าครึ่ง

       

       ตัวเลขนี้ต่ำว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้อย่างมากและต่ำกว่าระดับการขยายตัวตามปกติของจำนวนประชากรแรงงาน ในขณะเดียวกันข้อมูลก็ระบุด้วยว่ามีชาวอเมริกันหลายหมื่นคนที่ถูกเลิกจ้าง อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่ารายได้ครัวเรือนและการใช้จ่ายผู้บริโภคจะยังคงอ่อนแอต่อไป

       

       ปัจจัยข้างต้นก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(4) ปิดลบแรงพอสมควร โดยเฉพาะหุ้นให้กลุ่มบริษัเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ด้วยความกังวลต่อภาวะการใช้จ่ายผู้บริโภค

       

       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 168.55 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,038.04 จุด แนสแดค ลดลง 67.96 จุด (2.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,956.34 จุด ส่วน เอสแอนด์พี ลดลง 22.49 จุด (1.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,369.08 จุด

       

       หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีความอ่อนไหวต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นตัวฉุดให้วอลล์สตรีท ปิดในแดนลบ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล ที่ปรับลดร้อยละ 2.6 ไมโครซอฟต์ ร้อยละ 2.1 กูเกล ร้อยละ 1.9 และอเมซอน ร้อยละ 2.1

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวร้ายรออยู่

 

โดย สุนันท์ ศรีจันทรา 5 พฤษภาคม 2555 07:47 น.

 

       เปิดตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า หลังหยุดยาว 3 วัน โดยวันจันทร์นี้ ชดเชยวันฉัตรมงคล บรรยากาศการซื้อขายอาจน่าเป็นห่วง เพราะมีข่าวร้ายชิ้นใหญ่รออยู่ โดยเฉพาะความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทรุดฮวบ ซึ่งกระทบหุ้นกลุ่มพลังงานโดยตรง

 

       ตลาดเมื่อวันศุกร์เกิดการปรับฐานเป็นครั้งแรก หลังจากวิ่งมาม้วนเดียวเกือบทะลุ 1250 จุด โดยทรุดตัวลง 12.62 จุด ปิดที่ระดับ 1227.41 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,994 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อ1,658 ล้านบาท

 

       หลังปิดตลาด แม้ดัชนีจะทรุดตัวแรง แต่ตัวเลขการซื้อสุทธิของต่างชาติ ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลลง และเริ่มมีความหวัง เพราะเมื่อต่างชาติซื้อ การปรับฐานอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวหรือเพียงวันเดียว โดยเปิดตลาดสัปดาห์หน้า ดัชนีอาจดีดตัวกลับ

 

       แต่เมื่อติดตามความเคลื่อนไหวของปัจจัยภายนอกแล้ว ต้องปรับทัศนะมุมมองใหม่ โดยการปรับฐานรอบนี้อาจยืดเยื้อ เพราะดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ทรุดตัวลงแรง 168 จุด ตลาดหุ้นยุโรปแดงฉาน ปรับตัวลงเกือบ 2 เปอร์เซนต์ทุกตลาดสำคัญ ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงเหลือ 98 ดอลลาร์สหรัฐ แลเถือเป็นปัจจัยลบชิ้นใหญ่ที่อาจฉุดดัชนีดิ่งลงต่อ

 

       การปรับฐานของตลาดเมื่อวันศุกร์ เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าการขาดแคลนข่าวดี หรือราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงเต็มพิกัดแล้ว รวบทั้งปัจจัยร้ายจากภายนอกที่รบกวน ทำให้เกิดการชิงจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งการปรับฐานที่เกิดขึ้น ก็ยังมีมุมมองว่า จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ก่อนจะเด้งกลับเข้ามาใหม่ แต่ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ทรุดหนัก กลายเป็นปัจจัยลบซ้ำเติม จนทำให้ดัชนีไหลลงไปลึกต่อ โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อาจเป็นตัวนำลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงรวดเร็ว เพียง 2 วันลงไปประมาณ 6 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์

 

       ส่วนหุ้นกลุ่มอาหารและค้าปลีก ซึ่งร้อนแรงมาพักใหญ่ เริ่มมีเสียงเตือนแล้วว่า ราคาชักแพงเกินไป โดยเฉพาะหุ้นซีพีออล ซึ่งเคยเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี แต่ราคาถูกลากขึ้นมาสูง และมีการปันผลเป็นหุ้นกระตุ้นการเก็งกำไรด้วย ซึ่งปัจจัยสนับสนุนการเก็งกำไรหมดแล้ว ไม่มีข่าวอะไรจะเล่นแล้ว โดยแนวโน้มราคาน่าจะกลับสู่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง จึงมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ

 

       แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า จะน่าเป็นห่วง แต่นักลงทุนคงทำอะไรไม่ได้แล้ว จึงไม่ต้องตื่นตระหนกมากเกินไป เพราะอย่างมีลุ้นในวันจันทร์ ก่อนเปิดตลาดในวันอังคาร ถ้าตลาดหุ้นต่างประเทศกระเตื้องขึ้น ดัชนีหุ้นไทยอาจไม่ทรุดหนัก เหมือนที่กำลังกลัวกันขณะนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Next week, “the headlines will focus on speeches from the Federal Reserve to determine what action will now be taking given the soft employment numbers,” said Michael Yoshikami, chief executive officer of Destination Wealth Management in Walnut Creek, Calif. “It is our view that in all likelihood the Federal Reserve will embark on a new quantitative easing policy sometime in the next 60 days.”

 

Federal Reserve Chairman Ben Bernanke will speak about bank lending in Chicago Thursday morning. Speeches from presidents for the Federal Reserve banks in Richmond, Minneapolis, Dallas and Philadelphia are also on tap.

 

The speeches come on the heels of disappointing U.S. jobs data in the past week, which showed a slowdown in jobs growth for April.

 

อาทิตย์หน้า ประเด็นหลักที่ถูกจับตามอง คือ บทบาทของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจะหลุดออกมาจากการปาฎกฐา ในเรื่องการจ้างงานที่น่าหดหู่ นาย BB จะมีกำหนดที่จะพูดในเช้าวันพฤหัส หรือ ตรงกับคืนวันพฤหัสบดี ในไทย แล้วก็จะมีประธานเฟดฯ จากรัฐฯ อื่นๆตามมา ให้น่าจับตามองในคำพูด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

By Claudia Assis

SAN FRANCISCO (MarketWatch) -- Money managers beefed up their bets oil futures would go higher just before the big price drop this week, data from the Commodity Futures Trading Commission out late Friday showed. Open interest in crude also rose nearly 4%. The managers added 22,302 contracts in new "long" positions to nearly 220,000 contracts in net long positions. They reduced "short" positions, or bets prices will go lower, by about 1,100. The data is to Tuesday, and oil started its downward spiral on Wednesday. June futures CLM2 -3.85% ended 6.1% lower on the week at $98.49 a barrel on the New York Mercantile Exchange, the lowest in 12 weeks.

 

ในวงการของตลาดล่วงหน้าน้ำมัน มีการแทง " ขึ้น long " เพิ่มขึ้น 22,302 สัญญาฯ แตะ 220,000 สัญญาฯ และลดปริมาณแทง " ลง Short " ปริมาณ 1,100 สัญญาฯ ( หุหุ มันก็เป็นเรื่องของการพนัน ขึ้นหรือลง แต่ความจริงจะปรากฎเช่นใด ไม่มีใครทราบ )

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

2 เรื่องของยุโรป พรุ่งนี้ คือ ณ ตอนนี้ คะแนนของคู่แข่งนำอยู่ Hollande 52%, Sarkozy 48%

การที่ นาย Hollande มีคะแนนเสียงนำอยู่ตอนนี้ ไม่ค่อยสมใจตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจาก นาย Hollandeสังกัดพรรค สังคมนิยม

 

By: Gerry Davies

 

'Financial executives are worried about tougher regulations should Socialist leader Francois Hollande win the French presidential election. They should be.'

 

 

Greece’s Venizelos: Elections will judge if Greece stays in euro

Fri, May 04 2012, 17:26 GMT

By: Jamie Coleman

 

Greece must be an equal partner with the EU Majority of Greeks want a pro-European government

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Four reasons for oil’s decline

Fri, May 04 2012, 18:24 GMT | Forex Live

 

By: Adam Button

 

4 เหตุผล ที่ทำให้ราคาน้ำมัน WTI ลดลง 1. สถาบัน EIA แจ้งตัวเลขสต็อคน้ำมันสูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 1990 2. OPEC กลุ่มผู้ค้าน้ำมันตะวันออกกลาง ไม่มีความสุขที่เห็นราคาน้ำมันดิบสูง จึงมีการเพิ่มการผลิตเข้าสู่ระบบมากกว่าที่กำหนด 2.3 ล้านบารเรล 3. สถาบันแทงสูงต่ำน้ำมันล่วงหน้ามีการเพิ่มค่าธรรมเนียมเล่นน้ำมัน 4. ความอ่อนแอของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการผลิตทั้งในสหรัฐ และ ยุโรป

 

EIA data showing US storage at highest since 1990 OPEC Sec says unhappy with high prices, pumping 2.3 mbpd above quotas CME hikes oil margins, later gets 90-day reprieve US and European economic weakness WTI crude touched as low as $97.53 but has rebounded above $98.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตามไปดูว่า นอกจากฤกษ์ดี-เลขสวย "5-5-55" แล้ว บนโลกใบนี้ยังเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง!

วันที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 13:13:13 น.

 

 

วันนี้ (5-5-55) นอกจากจะเป็นวันฤกษ์ดี เลขสวย ซึ่งมักจะมีวัดจำนวนมากถือฤกษ์นี้ทำพิธีปลุกเสกพระและวัตถุมงคลหรือที่เรียกว่า เสาร์ 5 แล้ว เวลาประมาณ 23.34 น.ตามเวลาของแถบอเมริกา ซึ่งจะตรงกับเวลาประมาณ 03.34 น. วันที่ 6 พ.ค.ของแถบยุโรปตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย ตรงกับเวลา 10.34 น. ในประเทศไทย จะเกิดปรากฏการณ์ "ซูเปอร์มูน" (Super Moon)หรือปรากฏการณ์ที่พระจันทร์เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี มีระยะห่าง 356,953 กิโลเมตร

 

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงพอดี ผู้คนบนโลกใบนี้จึงสามารถมองเห็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือประมาณ 2-3% ขณะเดียวกันพระจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้ตั้งแต่เวลาที่เข้าใกล้โลกมากที่สุดไป โดยประเทศไทยยังสามารถมองเห็นได้ในช่วงพลบค่ำ

 

ด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามปกติแล้วดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกเป็นรูปวงรีจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก 1 รอบ ใช้ระยะเวลา 1 เดือน ดังนั้น ในทุกๆ เดือน จะมีทั้งวันที่ดวงจันทร์ไกลโลกและดวงจันทร์ใกล้โลก ช่วงของวงโคจรที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เรียกว่า "เปริจี" (Perigee) มีระยะห่างประมาณ 356,000 กิโลเมตร ส่วนช่วงของวงโคจรที่ห่างจากโลกมากที่สุด เรียกว่า "อะโปจี" (Apogee) มีระยะห่างประมาณ 407,000 กิโลเมตร

 

"การที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก และโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ทิศทางของแรงกระทำต่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น น้ำลง ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ดังนั้นการที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงในคืนที่มีวงโคจรมาใกล้โลกนับว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกในคืนวันเพ็ญลักษณะเช่นนี้ เกิดครั้งล่าสุดในวันที่ 20 มี.ค. 2554 (ตามเวลาในประเทศไทย 02.10 น.) ที่ระยะห่าง 356,577 กิโลเมตร" ดร.ศรัณย์กล่าว

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'สุเมธ'ย้ำแก้รัฐธรรมนูญ'ทำเพื่อคนหนึ่ง'พังอีก

Date : 2012-05-04 13:58:25

 

กรุงเทพุธุรกิจ/ 4 พ.ค. 2555 "สุเมธ"ระบุแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ต้องยึดทางสายกลาง ลั่นหากทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง ก็จะพังอีก

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน การอบรมหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 ของ กกต. ได้เชิญ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาบรรยายปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับความเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน บรรยายว่า สังคมไทยนิยมชาติตะวันตก เดินตามสไตล์ฝรั่ง ตั้งแต่สมัยตนทำงานใหม่ๆ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เลิก เห็นประเทศนั้น โน้นดีก็ลอกมา อันไหนเข้ากับสังคมก็ดีไป แต่ถ้าไม่เข้าก็ล้มหลายที เศรษฐกิจเราก็ล้มมาหลายครั้ง สังคมก็ล้ม การปราบปรามยาเสพติดไมได้ผล อย่างที่เห็นว่าขนาดในคุกยังมีปัญหายาเสพติด ส่วนการเมืองของประเทศเราก็ยังล้ม และจะล้มลุกคุกคลานไปอีกเรื่อยๆ

 

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า การจะกำหนดให้สอดคล้องกับประเทศไทย รูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยจะมีความแตกต่างกัน  แต่พื้นฐานจะมีความเหมือน ไม่ว่าอยู่ที่อังกฤษ สวิตฯ อเมริกา จะมีหลักการของประชาธิปไตยเหมือนกัน คือประชาธิปไตยเกิดจากประชาชน เกิดจากการควบคุมของประชาชน เสียงประชาชนเป็นอำนาจสูงสุด มีสิทธิเสรีภาพ หลักเท่านั้นที่เหมือนกัน แต่การเดินเข้าไปหาหลัก ต้องคำนึงถึงภูมิสังคม ไม่มีรูปแบบใดเยี่ยมยอดที่สุด ถ้าใครคิดอย่างนั้น บ้า ปลายทางเหมือนกัน แต่วิธีเดินต้องแล้วแต่ละที่

 

นายสุเมธ กล่าวว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการเมือง หลักของเรื่องนี้คือต้องยึดทางสายกลางไม่มากไม่น้อยเกินไป ถ้าหากจะเกิดขึ้นได้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ร่างกันอยู่ในขณะนี้ไม่ยึดทางสายกลาง ไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศ หรือทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง ก็จะพังอีก ทุกอย่างต้องอยู่ในทางพอดี อะไรที่สุดกู่อยู่ไม่ได้ อีกประการหนึ่งจะต้องมีความเหมาะสม มีมาตรฐานเดียวกัน กติกาในบ้านเมืองไม่ใช่แค่รัฐธรรมนูญ หรือการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่จะต้องอยู่ภายใต้หน้าที่รับผิดชอบ วินัยสังคม มีสิทธิเสรีภาพ เท่าเทียมกัน เคยลองมาแล้วแต่งตัวปอนๆ ขับรถเก่าๆเดินเข้ามาเห็นชัดๆ ว่าปฏิบัติกับเราอย่างไร แต่ถ้าแต่งตัวดีๆ ขับรถหรูๆ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี นี้คือความไม่เท่าเทียม เส้นทางสายกลางใครปฏิบัติได้ก็เป็นเรื่องดี

 

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า มนุษย์ร้อยคนร้อยแบบไม่มีโมเดล มนุษย์เป็นสัตว์ที่แปลกที่สุด ร้อยคนหน้าไม่เหมือนกันสักคน ทั่วโลกหน้าตาไม่เหมือนกัน ต่อให้ลูกแฝดก็ต้องดูจนได้ว่ามีอะไรแตกต่างกัน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ พอมีแม่พิมพ์ต่างกัน ข้างในจะเหมือนกันได้อย่างไร มันจึงต้องมีศูนย์กลาง ยอมรับกันทุกคน ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ต้องทำ และอะไรที่เป็นกลางๆ นั้นจะยั่งยืน อะไรที่เอียงก็ไปไม่รอด เพราะไม่มีใครเอา และประชาธิปไตยจะต้องผสมกลมกลืนกันระหว่างเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม อีกอย่างหนึ่ง ประชาธิปไตยจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาของประชาชน อย่างรัฐธรรมนูญทั้งสามร้อยกว่ามาตราใครอ่านทั้งหมดบ้าง ยังมีคำถามว่าไม่รู้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีกี่มาตรา จากแรกสุดที่มีแค่ไม่กี่สิบมาตรา จนมากว่าสามร้อยมาตราในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังมีมากกว่าร้อยมาตราอยู่ถือว่ายังไม่พัฒนา

 

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ในหลวงเกิดต่างประเทศ เรียนต่างประเทศ แต่พอกลับมาแล้วคิดเป็นไทยไปหมด ต่างกับอาจารย์หลายคนที่เรียนฝรั่งคิดแบบฝรั่ง โดนล้างสมองไปหมดแล้ว ไม่มีตัวของตัวเอง แต่เราต้องรู้ทันเขา ต้องรู้ฐานของเรา แต่นี้ไม่รู้จักเราเลย อย่างตอนที่เรามีแผนพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ๆ ก็ไปเอามาจากฝรั่งเศส เป็นผู้นำที่เป็นทหารไปเห็นมาก็มาตั้งสภาเศรษฐกิจ ขอผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกมาช่วย และก็ถูกจูงจมูกตั้งแต่ตอนนั้น แต่ไม่ใช่แค่สอนงาน แต่เอาวัฒนธรรมของฝรั่งมาด้วย ฝังแนวคิดว่าจะต้องรวย หวังรวยไม่ผิด แต่ต้องยั่งยืนด้วย สมัยหนึ่งเราอยากเป็นเสือตัวที่ 5 เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ล้มไม่เป็นท่า โตแบบฟองสบู่ข้างในไม่มีอะไรเลย ล้มเพราะความโลภ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หาฝาไม่มีดูหนังเสียตังค์ ดีกว่า ที่บ้าน คุณ pa เก็บได้ป่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...