ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

หุ้นเอเชียเปิดทรงตัวลบส่วนใหญ่ นิคเคอิบวก 0.18% หั่งเส็งลบ 0.02% จีนลบ 0.06% คอสปี้ลบ 0.47% ออสซี่ลบ 0.36% สวนทางหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้น รับผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น และถ้อยแถลงของ "เบอร์นันเก้"ที่พร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติมกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อช่วยสถานการณ์จ้างงานให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ท่ามกลางภาวะผลผลิตเกษตรสหรัฐเจอภัยแล้งหนักสุดรอบ 56 ปี ขณะที่หุ้นฝั่งยุโรปทรงตัวไร้ทิศทางจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิด ปรับตัวขึ้น หลัง"ฮิลลารี"ประกาศเตรียมใช้อำนาจสกัดอิหร่านครอบครองนิวเคลียร์ แต่ราคาทองปิดลดลง 2 ดอลลาร์ผิดหวังเฟดไม่มี QE3 ปิดที่ 1,589.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (17 ก.ค.) ที่ 12,805.54 ปรับตัวขึ้น 78.33 จุด หรือ 0.62% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 10.03 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 1,363.67 และดัชนีแนสแด็ก ขยับขึ้น 13.10 จุดหรือ 0.45% ปิดที่ 2,910.04

 

ด้านฟากฝั่ง 3 ตลาดหุ้นหลักยุโรปมีเพียง DAX เยอรมันที่ปรับตัวขึ้นในแดนบวก 0.18% เหตุนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจเยอรมีนน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดในเดือน ก.ค. ถึงแม้ว่าในครึ่งปีหลังจะยังย่ำแย่แต่ไม่น่าจะตกต่ำไปมากกว่านี้ ส่วน FT100 ลอนดอน ร่วงลง 0.59% เหตุเศรษฐกิจอังกฤษซึ่งอยู่นอกกลุ่มยูโรโซนกลับมีแนวโน้มอ่อนแอลง ขณะที่ CAC40 ฝรั่งเศสติดลบ 0.09%

 

หุ้นสหรัฐปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นเวลาสองวัน โดยระบุว่า พร้อมที่จะผ่อนปรนด้านการเงินมากกว่านี้ หากพิจารณาแล้วว่า เป็นเรื่องที่จำเป็น พร้อมกับชี้ว่า ความเสี่ยงที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีมากขึ้น

 

ประธานเฟด กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าจะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งเฟด เตรียมพร้อมที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างแข็งแกร่งมากกว่านี้ เพื่อช่วยเหลือการจ้างงานที่มั่นคงมากขึ้น

 

นอกจากนี้ เฟด ยังเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต ที่นำโดยกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรและรถยนต์

 

การผลิตในภาคผลิตหรือภาคโรงงาน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลงอย่างหนักในเดือนพ.ค. ขณะที่ การผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่หดตัวลง 2.2% ในเดือนพ.ค.

 

หากไม่รวมการผลิตรถยนต์ การผลิตในภาคการผลิตปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.5% ในเดือนพ.ค. ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 78.9% จาก 78.7% ในเดือนพ.ค.

 

ตึงเครียดอิหร่านหนุนน้ำมันไนเม็กซ์ปิดบวก

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนส.ค. ปิดที่ 89.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ จากระดับปิดเมื่อวันจันทร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย. ทะยาน 63 เซนต์ ปิดที่ 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบปิดบวก หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า สหรัฐจะใช้อำนาจทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งถ้อยแถลงของนางฮิลลารี มีขึ้นหลังจาก อิหร่าน ขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นทางของส่งน้ำมันราว 1 ใน 5 ของโลก เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรต่อโครงการนิวเคลียร์ของประเทศ โดยอิหร่าน ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยืนยันว่า โครงการนิวเคลียร์มีขึ้นเพื่อใช้ในทางพลเรือน

 

นักลงทุน ติดตามดูสถานการณ์ในอิหร่านอย่างใกล้ชิด ขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากการเจรจานิวเคลียร์ 3 รอบ ที่จัดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมเยอรมนี ไม่ได้ก่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม

 

ผิดหวังคำแถลงเบอร์นันเก้ฉุดทองปิดร่วง2.10ดอลล์

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3)

 

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,589.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

นักลงทุนผิดหวังที่เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะใช้มาตรการคิวอี3 ในระยะใกล้นี้ แม้เบอร์นันเก้ได้แสดงความวิตกกั้งวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐก็ตาม

 

เบอร์นันเก้ แถลงต่อรัฐสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดพร้อมที่จะผ่อนคลายด้านการเงินมากกว่านี้หากว่าจำเป็น เนื่องจากความเสี่ยงที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะใช้มาตรการคิวอี3 และไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเมื่อใด

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.09% สู่ระดับ 83.07 จุด

 

ผลผลิตเกษตรสหรัฐเจอภัยแล้งหนักสุดรอบ56ปี

 

ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนในระยะนี้ ขณะที่มีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการสูญเสียผลผลิตล็อตใหญ่ซึ่งจะทำให้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งขึ้น และลดการส่งออก และความช่วยเหลือจากสหรัฐซึ่งเป็นผู้ส่งออกชั้นนำสำหรับผลผลิตเกษตรที่สำคัญดังกล่าว

 

ภาวะของผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ย่ำแย่ลงมากกว่าที่เทรดเดอร์วิตกกัน และกระทรวงเกษตรสหรัฐ(ยูเอสดีเอ) ได้ปรับลดภาวะผลผลิตข้าวโพดรายสัปดาห์ลงมากที่สุดในรอบเกือบ10 ปี ขณะที่นักพยากรณ์ อากาศเตือนว่า อากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจะรุนแรงขึ้นจนถึงสิ้นเดือนก.ค.หรืออาจจะนานกว่านั้น

 

สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (โนอา)เปิดเผยในเว็บไซท์ว่า ภาวะแห้งแล้งในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ เป็นภาวะที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.1956 โดยส่งผลกระทบต่อที่ดิน 55% ใน 48 รัฐ

 

โดยผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐอยู่ในภาวะที่อันตรายที่สุดโดยอยู่ในช่วงผสมเกสรซึ่งต้องมีความชื้นในอากาศเพียงพอ

 

สหรัฐส่งออกข้าวโพดมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก ซึ่งนำไปใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ แป้งข้าวโพด, เอทานอล และอาหารสัตว์

 

เมื่อวานนี้ ยูเอสดีเอ ระบุว่า ผลผลิตข้าวโพดเพียง 31% อยู่ในภาวะที่ดีจนถึงดีเยี่ยม ลดลง 9% จากสัปดาห์ก่อน และยูเอสดีเอ เคยประมาณการว่า จะมีผลผลิตถั่วเหลืองรวมสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 หมื่นล้านบุชเชล พร้อมกันนี้ ยูเอสดีเอ ได้ปรับลดประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองที่อยู่ในภาวะที่ดีถึงดีเยี่ยมลงเหลือ 34% โดยลดลง 6% จากสัปดาห์ก่อน

 

ราคาสัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 54% นับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. โดยแตะระดับสูงสุดของสัญญาที่ 7.78 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ และเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8 ดอลลาร์ ส่วนราคาสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดของสัญญาครั้งใหม่ที่ 15.97 ดอลลาร์ก่อนลดลง 2-3 เซนต์

 

ผู้ตรวจสอบผลผลิตเตือนว่า ผลผลิตข้าวโพดที่อยู่ในภาวะย่ำแย่และย่ำแย่มากนั้นพุ่งขึ้นสู่ระดับ 38% เมื่อเทียบกับ 30% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และ 11% เมื่อปีที่แล้ว

 

สหรัฐส่งออกทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองไปทั่วโลก ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารทั่วโลก และภาวะเงินเฟ้อ

 

ที่มา : สิทธิชัยหยุ่น(วันที่ 18 กรกฎาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์ (18/07/2555)

นักลงทุนคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีนหนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.33 เหรียญฯ ปิดที่ 88.43 เหรียญฯ และเบรนท์ส่งมอบ ส.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนสัญญาหมดอายุ เพิ่มขึ้น 1.15 เหรียญฯ ปิดที่ 103.55 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.95 เหรียญฯ ปิดที่ 103.37 เหรียญฯ

 

+ นักลงทุนคาดหวังว่าถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากประเทศจีนภายหลังตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์มีทิศทางที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีนให้สัมภาษณ์สื่อระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมมณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศว่าตัวเลข GDP ดังกล่าวยังอยู่ในเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด และนโยบายต่างๆที่มุ่งทำให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจก็กำลังไปได้ดี ทั้งนี้นายกฯเวินย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลจีนจะเน้นเป็นพิเศษในช่วงครึ่งหลังของปีคือเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังขยายตัวในระดับที่ดี

 

 

 

+ มีรายงานข่าวว่าเรือรบสหรัฐฯยิงถล่มเรือประมงในน่านน้ำอ่าวเปอร์เซีย ใกล้ท่าเรือจาเบล อาลี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันตัวภายหลังจากเรือยนต์ลำดังกล่าวเพิกเฉยต่อคำเตือนห้ามเข้าใกล้เรือเติมน้ำมัน ผลจากการยิ่งถล่มดังกล่าวส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 3 ราย ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบสาเหตุอยู่ โดยยังไม่มีการระบุถึงประเด็นการก่อการร้ายหรือความเชื่อมโยงต่ออิหร่าน

 

+ นอกจากนี้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯเริ่มมากขึ้น หลังจากที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้บัญชาการทหารเรือของอิหร่านออกมาขู่ว่าจะเพิ่มกำลังเรือรบและทหารเรือในบริเวณช่องแคบฮอร์มุส และพร้อมจะตอบโต้สหรัฐฯหากสหรัฐฯมีความเคลื่อนไหวที่เป็นภัยต่ออิหร่าน

- ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิ.ย. ปรับลดลง 0.5% ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3และสวนทางกับที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเล็กน้อย ตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำความน่าเป็นห่วงของสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

+/- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2013 ลงจาก 4.1% (คาดการณ์เดือนเม.ย.) เป็น 3.9% ขณะที่ยังคงการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2012 ไว้ที่ 3.5% แต่ทั้งนี้ IMF ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงอยู่หากประเทศในกลุ่มยุโรปยังไม่ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สิน

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานที่ยังตึงตัวในภูมิภาคหลังจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งหยุดซ่อมบำรุง รวมทั้งความต้องการน้ำมันเบนซินจากทั้งในภูมิภาคและภายนอกยังมีอย่างต่อเนื่อง

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับยังมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในช่วงหน้าร้อนจากประเทศในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม นักค้าน้ำมันในสิงคโปร์เริ่มชะลอการซื้อลงหลังราคาน้ำมันเริ่มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว

 

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 95 - 105 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 80 - 90 เหรียญฯ  

ราคาน้ำมันดิบจะยังคงผันผวนในกรอบเดิม โดยปัญหานิวเคลียร์อิหร่านที่ยืดเยื้อและอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวจากปัญหาการผลิตในทะเลเหนือจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปที่ยังไม่จบจะยังเป็นปัจจัยสำคัญกดราคาน้ำมันไว้ วันนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจยุโรปรวมทั้งการประชุม G7 ส่วนในวันพุธติดตามการแถลงการของประธานเฟดว่าจะมี QE3 หรือไม่

 

ตัวเลขเศรษฐกิจ/ ผลประกอบการไตรมาส 2/55 ที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่

 

วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภค ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีตลาดบ้านสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (ZEW Economic Sentiment) และการประชุม G7/ โคคา โคล่า, อินเทล, โกลด์แมน แซคส์, จอหน์สัน แอนด์ จอหน์สัน

วันพุธ: ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ และแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ/ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงค์ อ๊อฟ อเมริกา และอีเบย์

วันพฤหัสบดี: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐฟิลาเดลเฟีย/ ไมโครซอฟ และเวอริซอน

วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนี/ ซีร็อค

- การแถลงการของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 ก.ค. ว่าจะส่งสัญญาณออกมาตรการ QE3 หรือไม่

- อัตราผลตอบแทนรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสเปนและอิตาลี โดยเฉพาะ อิตาลี ว่าจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6% อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งถ้าถึงระดับ 7% อย่างสเปนในช่วงก่อนหน้านี้ ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะต้องขอเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป

- ความคืบหน้าและการสรุปแผนช่วยเหลือสเปน (คาดวันที่ 20 ก.ค.)และไซปรัส (ล่าช้าไปเป็นเดือน ส.ค.) รวมถึงการเจรจาขอผ่อนผันเงื่อนไขเพื่อรับเงินช่วยเหลือของกรีซ และติดตามเงินกองทุนถาวร ESM ว่าจะเปิดดำเนินการได้เมื่อไร หลังเลื่อนจากกำหนดเดิมในวันที่ 9 ก.ค.เนื่องจากยังไม่ผ่านการอนุมัติจากประเทศสมาชิกยูโรโซน

- ความตึงเครียดปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน หลังอิหร่านตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการปฏิบัติการซ้อมยิงขีปนาวุธเพื่อเตรียมรับการจู่โจมของอิสราเอล ขณะที่สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มติมและอิสราเอลเพิ่มแรงกดดันต่อสหรัฐฯ

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 18 กรกฎาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดปรับตัวขึ้นท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนหลัง นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงโอกาสที่จะ ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหากจำเป็น แต่ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับ กำหนดเวลา และราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความตึงเครียดเกี่ยวกับอิหร่านด้วย

 

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 63 เซนต์หรือ 0.61% สู่ระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปรับตัวในช่วง 102.77-104.75 ดอลลาร์

 

ที่มา : ทันหุ้น (วันที่ 18 กรกฎาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไอเอ็มเอฟลดคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า ระบุยังมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะวิกฤติในกลุ่มยูโรโซน

    นักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาสว่า สถานการณ์ที่ยังเปราะบางในสเปนและอิตาลี อาจเลวร้ายลงอย่างปุบปับ และการแก้ปัญหาของบรรดาผู้นำในกลุ่มประเทศยูโรโซนด้วยการผลักดันการปฏิรูปทั้งหลายก็ยังไม่อาจทำให้นักลงทุนหายคลางแคลงใจ

    ขณะเดียวกัน สหรัฐก็กำลังจะเผชิญปัญหา "หน้าผาการคลัง" ที่หากไม่ได้รับการแก้ไข ก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐพังครืนและกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างรุนแรง

    รายงานของไอเอ็มเอฟชี้ว่า ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแสดงสัญญาณความอ่อนแอมากขึ้น และอัตราการขยายตัวในเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่หลายชาติก็ต่ำกว่าที่คาดหวัง

    "ความเสี่ยงหลักยังมีเด่นชัด" โอลิวิเยร์ บลังชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ บอกต่อผู้สื่อข่าว "นั่นก็คือวงจรอุบาทว์ในสเปนและอิตาลีรุนแรงขึ้น ผลผลิตตกต่ำลงมากกว่าที่เป็นมา และหนึ่งในประเทศเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้"

    เขาเตือนว่า สถานการณ์เหล่านี้สามารถทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงักได้อย่างง่ายดาย

    ไอเอ็มเอฟได้ลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลง 0.1% เทียบกับเมื่อเดือนเมษายน โดยคาดการณ์อัตราการขยายตัวไว้ที่ 3.5% เหตุผลส่วนใหญ่มาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเกินกว่าที่คาดไว้ทั้งในชาติอุตสาหกรรมใหม่ของเอเชียและชาติเศรษฐกิจดาวโรจน์เช่น จีน, อินเดีย และบราซิล ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของปี 2556 ก็ถูกปรับลดลงเหลือ 3.9% จาก 4.1%

    การคาดการณ์การเติบโตในประเทศเศรษฐกิจสำคัญนั้น ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์ของสหรัฐลงเหลือ 2.0%, อังกฤษมาอยู่ที่ 0.2% และฝรั่งเศส 0.3 ขณะที่ของสเปน กองทุนแห่งนี้คาดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะต่อเนื่องไปถึงปีหน้า กลับกันไอเอ็มเอฟยังได้ทำนายว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีและญี่ปุ่นมีแนวโน้มดีขึ้นภายในปีนี้ โดยจะโตขึ้น 1.0% และ 2.4% ตามลำดับ

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 18 กรกฎาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ หั่นจีดีพีสหรัฐ(18/07/2555)

โกลด์แมน แซกส์ และดอยช์ แบงก์หั่นจีดีพี Q2 ของสหรัฐ ขณะที่ PIMCO ระบุ เศรษฐกิจสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย

 

 

 

นายบิล กรอส ผู้บริหารของ PIMCO กองทุนยักษ์ใหญ่ของโลก เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า สหรัฐ กำลังใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย หากประเมินจากอัตราการว่างงาน//ยอดค้าปลีก//การลงทุน และกำไรของธุรกิจเอกชน

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซกส์ ได้ปรับลดประมาณการจีดีพีสหรัฐไตรมาสสองลงจาก 1.3% เหลือ 1.1% ขณะที่ธนาคารดอยช์ แบงก์ ได้ลดคาดการณ์แนวโน้มจาก 1.4% เหลือ 1%

 

ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของนายเอชเชอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด สาขาแคนซัส ที่บอกว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะขยายตัวสูงกว่า 2% ในปีนี้ ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ บอกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวปานกลาง และภาวะตึงตัวทางการคลังมากเกินไปของสหรัฐจะเป็นความเสี่ยงสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวประมาณ 2% ในปีนี้

 

ที่มา : money channel (วันที่ 18 กรกฎาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลวงพ่อคูณ โต้ข่าวลือ 'กูยังไม่ตาย'

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2555 9:06น.

 

แพทย์ ระบุ หลวงพ่อคูณมีอาการดีขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีอาการไข้ ด้านหลวงพ่อคูณ โต้ข่าวลือ บอกผ่านลูกศิษย์ "กูยังไม่ตาย"

นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ว่า เช้าวันนี้หลวงพ่อคูณมีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการไข้ ใบหน้าสดใสยิ้มแย้มอารมณ์ดี ยังให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ ซึ่งต้องให้ให้ครบ 14 วัน ทางคณะแพทย์ยังเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เพราะการติดเชื้อของหลวงพ่อคูณครั้งล่าสุดนี้ถือว่ารุนแรงมาก  จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนปริมาณระดับน้ำในปอด  จากที่เอ็กซเรย์ พบว่า เกือบหายเป็นปกติแล้ว  และยังสั่งงดเยี่ยม เพื่อให้หลวงพ่อคูณมีเวลาพักผ่อนและป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวลือว่าหลวงพ่อคูณมารณภาพแล้วนั้น ได้รับการเปิดเผยจาก คุณไก่โต้ง ลูกศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อคูณ ว่า หลวงพ่อคูณฝากมาบอกกับบรรดาลูกศิษย์และคนที่ปล่อยข่าวลือว่า  "กูยังไม่ตาย กูตายแน่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา" จากที่ตนสังเกตหลวงพ่อคูณ ช่วงนี้ท่านมีอาการดีขึ้น ยิ้มแย้มพูดคุยได้เป็นปกติ ส่วนข่าวลือดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องอัปมงคลเป็นอย่างมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ทุกๆท่านรอบห้องเลยนะครับ โชคดีมีลำใยกันถ้วนหน้านะครับ

ถึงเจ้อี๋ ขอให้น้องผ่าตัดเรียบร้อยปลอดภัยหายไวๆนะครับ :Hi

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปิดแล้ว100ร.ร.มือเท้าปากระบาดสธ.ยันป่วยปิดทันที

ข่าวสังคม วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2555 8:52น.

 

อธิบดีกรมควบคุมโรค เร่งทำตาม มติ ครม. ป้องกันดูแลการระบาดของโรคมือเท้าปากในประเทศไทย ร่อนหนังสือ ถึง 4 กระทรวง พบเด็กป่วยปิด โรงเรียนทันที ล่าสุด ปิดแล้ว กว่า 100 โรงทั่วประเทศ

น.พ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ ครม. มีมติให้ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค หามาตรการป้องกันดูแลการระบาดของโรคมือเท้าปากในประเทศไทยในช่วงนี้  ซึ่งที่ผ่านมา ทางกรมได้ตั้งศูนย์ดูแลเรื่องนี้มาตลอด  มีการรายงานตัวเลขคนป่วยโรคนี้ทุกวัน และวันนี้จะทำหนังสือชี้แจงถึงขั้นตอนการปฏิบัติไปถึง 4 กระทรวงหลัก ที่มีโรงเรียนในสังกัด คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคม กระทรงมหาดไทย  และกระทรวงกลาโหม โดยในหนังสือฉบับดังกล่าว จะเป็นการชี้แจงรายละเอียดในการดูแลเด็กนกัเรียน หากเกิดการระบาดใน ร.ร. ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ถือว่า ร.ร. ให้ความร่วมมือดีมากในการตัดตอนเชื้อโรคที่จะแพร่กระจาย โดยมีการสั่งปิด ร.ร. ทั้วประเทศกว่า 100 แห่งแล้ว และทางกรมฯ ก็เข้าไปจัดการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโดยด่วน โดยมตรฐานปัจจุบันหากพบเด็กป่วยจะสั่งปิดรร.เพื่อฆ่าเชิ้อทันที

อธิบดีกรมคุมโรค กล่าวอีกว่า เชื้อโรคมือเท้าปากที่พบในกัมพูชา ที่เรียกว่าเชื้อแบบ ซี 4 นั้น ในประเทศไทยเชื้อตัวนี้มีมามานานแล้ว เมื่อ 40-50 ปีก่อน  เพียงแต่ปีนี้มีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้านมาก และมีคนตาย  จึงเป็นที่หวั่นวิตกของประชาชน แต่ในประเทศไทย  ยืนยันว่า ระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพพอที่จะรับมือได้ จึงไม่ปรากฏผู้เสียชีวิตจากโรคนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รองผบช.น.สั่งแก้รถติดฝั่งพระนครด่วน

ข่าวสังคม วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2555 7:47น.

 

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่ง สน. คู่ขนานลอยฟ้า หาทางแก้รถติดฝั่งพระนคร แนะ เปิดช่องทางพิเศษในฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด จากฝั่งพระนคร มุ่งหน้าฝั่งธนบุรี ในชั่วโมงเร่งด่วน (เย็น) ที่บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 มุ่งหน้าขึ้นคู่ขนานลอยฟ้า หลังจากพบว่า สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นนี้ มีปัญหารถติดสะสมเป็นระยะทางยาว  และเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เนื่องจากว่า ถนนเป็นคอขวด  

 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ สน.คู่ขนานลอยฟ้า ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ ไปดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรที่บริเวณเชิงทางลงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งขาออก  โดยให้เปิดช่องทางพิเศษในฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง มาเป็นช่องทางเดินรถฝั่งขาออก ซึ่งแต่เดิมนั้น ผู้ใช้รถที่วิ่งขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในช่องทางพิเศษ ต้องเบี่ยงเข้ามาในช่องทางขาออก เพื่อมุ่งหน้าขึ้นสะพานยกระดับคู่ขนานฟ้าอีกครั้ง ทำให้ปริมาณรถต้องมาบีบกันในช่วงคอขวด  จึงให้เปลี่ยนเป็นการเดินรถช่องขาออกเพิ่มต่อเนื่องตั้งแต่ขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขึ้นคู่ขนานลอยฟ้า วิ่งยาวไปถึงทางลงตลิ่งชัน  รวมระยะทางประมาณ 2.5 กม. เพื่อเร่งระบายรถด้านขาออกเมือง ให้มีความเลื่อนไหลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ลดปริมาณการสะสมของรถบนถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง  อีกด้วย

             

 

ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมถึงผลกระทบ พร้อมกันนี้ระบุว่า มีความเป็นไปได้ถึงการเปิดช่องทางพิเศษดังกล่าว ซึ่งหากมีความพร้อมเมื่อใดนั้น จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้นำพรรครัฐบาลผสมของกรีซระบุว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่กรีซจะตัดลดค่าใช้จ่ายเพื่อแลกกับเงินกู้จากสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟ

 

นายอีแวนเจลอส เวนิซีลอส ผู้นำพรรคปาซก ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลผสมของกรีซ ระบุเมื่อวานนี้ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลกรีซจะรักษาคำมั่นในการที่จะตัดลดงบประมาณรายจ่ายจำนวน 11,500 ล้านยูโรในช่วง 2 ปี ข้างหน้า เพื่อแลกกับการที่กรีซจะได้รับสินเชื่อจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างปรเทศ หรือไอเอ็มเอฟ

 

ไอร์แลนด์ประกาศใช้งบประมาณ 2,250 ล้านยูโรกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศรอบใหม่

 

รัฐบาลไอร์แลนด์ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ รัฐบาลมีแผนที่จะใช้จ่ายเงินจำนวน 2,250 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,760 ล้านดอนลาร์สหรัฐ ในการสร้างงานเพิ่มเติมอีก 13,000 ตำแหน่ง ผ่านโครงการก่อสร้างสาธารณณูปโภคขั้นพื้นฐานของไอร์แลนด์ และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

 

ข้าราชการของสเปน 1,500 คนคนรวมตัวกันชุมนุมประท้วงในกรุงมาดริดเมื่อคืนนี้ ต่อการที่รัฐบาลปรับลดรายได้ของพวกเขา ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินของสเปน

 

ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐของสเปนจำนวนประมาณ 1,500 คนร่วมกันเดินขบวนประท้วงรอบใหม่เมื่อคืนนี้ในกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน เพื่อต่อต้านการที่รัฐบาลปรับลดรายได้ของพวกเขา ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินของสเปน

พวกเขาพากันร้องตะโกนเสียดสีว่า “จงยกมือขึ้น! นี่เป็นการปล้น” ขณะที่พวกเขาชุมนุมประท้วงทางด้านนอกของที่ทำการกระทรวงงบประมาณของสเปนใจกลางกรุงมาดริด การชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศมาตรการใหม่ในการตัดลดค่าใช้จ่ายภาครัฐและการขึ้นภาษีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการตัดลดงบประมาณจำนวน 65,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะลดการขาดดุลสาธารณะของประเทศ มาตรการดังกล่าวรวมถึงการลดเงินที่ข้าราชการได้รับเป็นพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนประจำเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเท่ากับการปรับลดลงร้อยละ 7 ต่อปี

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : ถนอม พิพิธยากร / สวท.   Rewriter : ถนอม พิพิธยากร / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 18 กรกฎาคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างช้า ๆ สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังชะลอตัว

 

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ระบุเมื่อวานนี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มไม่สดใส พร้อมกล่าวเตือนว่าอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างช้า ๆ ในสหรัฐสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของประเทศ คำเตือนของประธานธนาคารกลางสหรัฐดังกล่าว ส่งผลกระทบถึงความหวังของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ และคนอื่น ๆ อีกหลายคน ที่ต้องการเห็นภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้

หลังจากเปิดเผยอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ของสหรัฐในช่วงเตรมาสแรกของปีนี้ ที่เติบโตในอัตราปานกลางประมาณร้อยละ 2 นายเบอร์นันเก้ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการว่างงานของชาวสหรัฐในช่วงมากกว่า 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณมากกว่าร้อยละ 8

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : ถนอม พิพิธยากร / สวท.   Rewriter : ถนอม พิพิธยากร / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 18 กรกฎาคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อคืนนี้ นายเบน เบอร์นันเก้ ได้กล่าวในส่วนของ Risks to the Outlook อยู่ 2 ข้อ

http://www.federalre...ke20120717a.htm

 

Risks to the Outlook

Participants at the June FOMC meeting indicated that they see a higher degree of uncertainty about their forecasts than normal and that the risks to economic growth have increased. I would like to highlight two main sources of risk: The first is the euro-area fiscal and banking crisis; the second is the U.S. fiscal situation.

 

ข้อที่ 1 เป็นเรื่องของวิกฤติหนี้สาธารณะ และ วิกฤติขาดสภาพคล่องของธนาคาร ในเขตยูโรโซน ซึ่งนายเบอร์นันเก้ ย้ำอีกแล้วว่า ติดตามประสานงานอย่างใกล้ชิด

ข้อที่ 2 เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ ที่มีฝ่ายการเมือง เข้ามาแทรกแซงการกำหนดนโยบายการคลัง ทำอย่างนี้ก็ไม่ได้ ทำอย่างนั้นก็ไม่ดี ทำอะไรไป อีกฝ่ายหนึ่งก็จะกล่าวหาว่า ไปเอื้อประโยชน์ให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ในสถานการณ์เกือบโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกคุณทั้ง 2 ฝ่ายนั้นแหละ ที่กัดกันเอง ขัดขากันเอง ทะเลาะกันเอง โดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่ว่าตะเป็นการปรับขึ้นภาษี หรือ ปรับลดงบประมาณการใข้จ่ายในสิ่งที่ไม่เอื้อต่อผลประโยชน์ส่วนพรรคฯ

 

ในบทสัมภาษณ์ นายเบนฯ ได้กล่าาถึง ธนาคารกลางฯ ย้ำเรื่องการมีอิสระของการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งต้องมาพร้อมกับความโปร่งใสในการดำเนินนโยบาย (transparency) และความรับผิด (accountability) ในการดำเนินนโยบาย ธนาคารกลางควรต้องมีอิสระในการดำเนินนโยบาย ไม่ควรถูกแทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง การตัดสินใจการอัดฉีดเงิน หรือผ่อนคลายทางการเงิน เป็นเรื่องของธนาคารกลางฯ ตัดสินใจ โดยตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าเชือถือได้ ซึ่งฝ่ายการเมืองไม่ควรกดดันหรือแทรกแซง (หรือคิดว่า “สั่ง” ได้)

 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความโปร่งใสในการดำเนินนโยบายและการเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้อเมริกันชน และ นักลงทุน สามารถเข้าใจหลักการคิดและกระบวนการตัดสินใจของธนาคารกลาง และสามารถคาดเดาทิศทางของนโยบายการเงินได้อย่างถูกต้อง เน้นการดำเนินนโยบายการเงินผ่านการ “สื่อสาร” มากขึ้นกว่าสมัยก่อนมากนัก เพราะจะมีการเปิดเผย รายงานการประชุม FOMC ทุกครั้ง และเมื่อประชุมเสร็จวันไหน นายเบอร์นันเก้ฯ ก็จะออกมานั่งแถลงข่าวทุกครั้ง

 

มีการเน้นย้ำ การแบ่งงานกันทำระหว่างนโยบายการคลัง ที่ปฏิบัติโดยรัฐบาลกลาง (กระทรวงการคลัง) กับนโยบายการเงิน ที่ปฏิบัติโดยธนาคารกลาง มีขีดเส้นแบ่งแบบชัดเจน

เพราะเคยมีปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ที่หน้าที่หลักของธนาคารกลาง คือการเป็น “นายธนาคาร” ให้กับรัฐ คือถ้ารัฐมีความต้องการกู้เงิน ธนาคารกลางก็มีหน้าที่จัดหาให้

 

ปัญหาคือ แม้ว่ารัฐบาลอยากจะใช้เงินมากอยู่บ่อยๆ และไม่ชอบถูกจำกัดเมื่ออยากใช้เงิน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เนื่องจากธนาคารกลางสามารถ “พิมพ์เงิน” และสามารถกำหนดดอกเบี้ยซึ่งเป็นต้นทุนในการกู้ยืมเงินได้ รัฐบาลจึงมักจะขอให้ธนาคารกลาง “จัดหนัก” ให้บ่อยๆ พอจัดหนักกันบ่อยๆ ปัญหาที่ตามมาก็คือเงินเฟ้อ (เพราะมีการพิมพ์เงินมากเกินไปจนเงินแทบไม่มีค่า และปริมาณเงินที่เพิ่มมากขึ้นไปไล่ซื้อสินค้าที่มีจำกัด ทำให้ราคาสูงขึ้น) และการอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วของค่าเงิน เมื่อมีการพิมพ์เงินออกมามากๆ ความเชื่อมั่นต่อเงินสกุลนั้นก็ลดลง ค่าของเงินเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ก็ลดลง สินค้านำเข้ายิ่งมีราคาแพงขึ้น และทำให้เงินเฟ้อยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

 

ส่วนใหญ่แล้ว รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะ “ชอบ” เงินเฟ้อมากกว่าธนาคารกลาง เพราะรัฐบาลออกหนี้ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรที่มีมูลค่าหน้าตั๋วคงที่ การมีเงินเฟ้อสูงๆ ก็เหมือนกับเป็นการลดมูลค่าที่แท้จริงของหนี้เหล่านั้น ในขณะที่รายได้ของรัฐยังคงสูงขึ้นตามเงินเฟ้อไปด้วย และเป็นการลดหนี้ต่อ GDP แบบเร็ว โดยเฉพาะถ้าสามารถบังคับให้ธนาคารกลางไม่ขึ้นดอกเบี้ยได้อีกด้วย แต่อีกด้านหนึ่ง ฝ่ายค้าน ที่มีเสียงในสภาคองเกรสฯ ก็จะแย้ง หรือ จำกัดการใช้จ่ายของภาครัฐบาล เพียงเพื่อไม่อยากให้พรรคฝ่ายตรงข้ามได้รับเสียงสนับสนุนจากอเมริกันชนตามโครงการประชานิยม เพราะถือว่า เสียเปรียบทางการเมือง

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำให้นักลงทุน / นักเก็งกำไร มองเห็นและเข้าใจแล้วว่า จากบัดนี้ จนจบ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสร็จสิ้น อย่าไปคาดหวังอีกแล้วกับ QE3 แค่เล่นไปตามตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ มีขึ้นมีลง เพียงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ต่อการลงทุนดีกว่า เพราะบรรลุและเข้าใจว่า QE3 เป็นเครื่องมือในการงัดข้อในเรื่องอำนาจว่าใครมีอำนาจสั่งใคร

 

ปล. จึงส่งผลบอกพี่ทองเลยว่า ขึ้นๆลงๆ ดีที่สุด อย่าคาดหวังสูงๆๆ ในราคาทองตลาดโลก จนกว่า มีนาคม 56

ขอบคุณมากค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ธปท.เตือนผู้ค้าขายทางอินเตอร์เน็ตและผู้ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์กระวัง กลุ่มหลอกลวงโอนเงินค่าภาษี ค่าธรรมเนียมสั่งซื้อสินค้า

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนผู้ค้าขายทางอินเตอร์เน็ตและผู้ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์กระวัง กลุ่มหลอกลวงโอนเงินค่าภาษี ค่าธรรมเนียมสั่งซื้อสินค้า

นางชนาธิป จริยาวิโรจน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้การร้องเรียนเรื่องถูกหลอกลวงทางโทรศัพท์ลดลง เนื่องจากที่ผ่านมา ธปท. และหน่วยงานราชการอื่นๆ และภาคเอกชน ได้ให้ความรู้เรื่องการหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนาการหลอกลวงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยการหลอกลวงผ่านอินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนที่ใช้อินเทอร์เน็ตและผู้ค้าทางออนไลน์ระมัดระวังให้มากขึ้น หากมีคนเข้ามาขอเป็นเพื่อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก และพูดถึงเรื่องค่าธรรมเนียมภาษี หรือให้โอนเงิน ขอให้ระวังการถูกหลอกลวง หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศคง.โทรศัพท์ 1213

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : ดวงกมล แสงจันทร์ /สวท.   Rewriter : คณิต จินดาวรรณ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 18 กรกฎาคม 2555

 

 

โพสต์นี้ ได้รับการโปรโมตให้เป็นบทความ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดี ทำงานประจำอะไรนะ

 

เคยรับราชการอยู่กรุงเทพ สิบกว่าปี

เบื่อความวุ่นวาย ลาออก ทำธุระกิจส่วนตัวเล็กๆต่างจังหวัด

กับครอบครัว ลูกอีก 2 ก็พออยู่ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Overnight

US: CPI came in unchanged in June following -0.3% in May. The core CPI rose 0.2% in June, the same as in May.

US: Industrial production rose by 0.4% in June following a revised 0.2% decrease in May. Capacity utilization edged up to 78.9% from 78.7%.

US: Net long-term TIC flows rose to $55.0 billion in May from April’s $25.6 billion. Total net TIC flows rose to $101.7 billion from -$20.5 billion in April.

US: The NAHB Housing Market Index rose to 35 in July from 29 in June.

Canada: The BoC left interest rates at 1%, as expected.

Canada: Manufacturing sales contracted 0.4% during May after falling 1.1% in April.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...