ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมัน "เชฟรอน" ในแคลิฟอร์เนีย คาดส่งผลกระทบให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม

 

เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงกลั่นนำมันขนาดใหญ่ของ "เชฟรอน" ในเมืองริชมอนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงเย็นวานนี้ (6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้จากกลั่นน้ำมันดิบที่ 4 ซึ่งมีกำลังผลิต 245,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 1 ใน 8 ของศักยภาพการกลั่นน้ำมันของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลา 18.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้กรดซัลฟิวริกและไนโตรเจนไดออกไซด์แพร่กระจายสู่อากาศ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในบริเวณใกล้เคียง ผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยได้ยินเสียงระเบิดติดต่อกัน ขณะที่โฆษกของเชฟรอนออกมาให้การปฏิเสธว่าไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

 

"เรารู้สึกเสียใจกับเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง" วอลต์ กิลล์ โฆษกเชฟรอน ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น

 

ทั้งนี้ หากการผลิตน้ำมันในโรงงานเชฟรอนต้องหยุดชะงักลงย่อมส่งผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงในภูมิภาค โดยเฉพาะแก๊สโซลีน เนื่องจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯมีแหล่งผลิตเชื้อเพลิงที่จะเป็นทางเลือกเฉพาะหน้าได้อยู่ไม่กี่แห่ง และหน่วยกลั่นน้ำมันดิบถือเป็นหัวใจหลักของกระบวนการกลั่นน้ำมัน การได้รับความเสียหายครั้งนี้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการซ่อมแซม และยังเป็นการเพิ่มข้อจำกันในเรื่องกำลังการผลิตเข้ามาอีกด้วย ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 7 สิงหาคม 2555)

 

ราคาน้ำมันทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน เบรนท์ทะลุ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ไต่ขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และในเดือนนี้ราคาน้ำมันปรับขึ้นแล้ว 6.4%

 

เช่นเดียวกับน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ขยับขึ้น 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันขยับขึ้น เพราะนักลงทุนคาดหวังกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ บวกกับความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่ตึงตัว และสถานการณ์เฮอร์ริเคนที่มุ่งหน้าสู่อ่าวเม็กซิโก แหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซแห่งใหญ่ อาจดันให้ราคาพุ่งขึ้นอีก

 

ประกอบกับเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น และภูมิศาสตร์การเมืองในตะวันออกกลาง ทั้งสถานการณ์ในซีเรีย และท่อส่งน้ำมันในอิรัก 2 แห่งต้องปิดดำเนินการ ล้วนมีส่วนหนุนราคาน้ำมันในขณะนี้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 8 สิงหาคม 2555)

[Pete 15,187]

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอยของสเปนเมื่อวานนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนความพยายามของสเปนในการทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

 

 

 

-- สมาคมค้าปลีกอังกฤษ (BRC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษแทบไม่มีการขยายตัวในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในช่วงเดือนดังกล่าว ขณะที่ความต้องการจับจ่ายของผู้บริโภคอยู่ในภาวะอ่อนแรงอยู่แล้ว

 

-- สำนักข่าว ISNA ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่า รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันอิหร่านออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า สาธารณรัฐอิสลามได้ระงับการส่งออกปิโตรเคมีไปยังสหภาพยุโรป (อียู)

 

-- ออสเตรเลียน อินดัสทรี กรุ๊ป (Ai Group) เปิดเผยผลสำรวจว่า กิจกรรมภาคการก่อสร้างในออสเตรเลียปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 26 เนื่องจากความต้องการทำงานอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และปริมาณงานที่ลดลง

 

-- กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.2% สู่ระดับ 1,272.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าการถือครองพันธบัตรที่สูงขึ้น

 

-- ประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ของอินโดนีเซียกล่าวแสดงความพอใจกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศในไตรมาสที่สองของปีนี้ที่ 6.4% และให้คำมั่นว่า จะกระตุ้นการลงทุน

 

-- สำนักข่าว Fars ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่าน รายงานว่า พลเรือเอกฮาบิบอลลาห์ เซย์ยารี ผู้บัญชาการกองทัพเรือของอิหร่าน เปิดเผยว่าอิหร่านได้เข้าควบคุมช่องแคบฮอร์มุซอย่างเต็มรูปแบบแล้ว

 

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 3.5% ในการประชุมวันนี้ หลังจากที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนดีดตัวขึ้น

 

-- รายงานล่าสุดซึ่งตีพิมพ์โดยเอนโฟเดสก์ สำนักงานวิจัยของจีน ระบุว่า ชาวจีนซื้อคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตกว่า 2.34 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพิ่มสูงขึ้น 7.8% เมื่อเทียบรายไตรมาส

 

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศของผู้ฝากรายย่อยในเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น  3.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. เนื่องจากมีการฝากรายรับที่ได้จากการส่งออกในบัญชีสกุลเงินต่างประเทศมากขึ้น ท่ามกลางภาวะเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีลดลง 1.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ขยายตัว 1.0% ในเดือนพ.ค. และหากเทียบรายปี การผลิตในเดือนมิ.ย.หดตัวลง 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 7 สิงหาคม 2555)

[meng166 131]

ขอขอบใจหลายๆ

[Pete 15,187]

 

http://www.fxstreet.com/technical/market-view/fxmarketalerts/2012/08/08/

ถูกแก้ไข สิงหาคม 8, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

USAระบุสแตนดาร์ดฟอกเงินอิหร่านทำหุ้นร่วง

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2555 7:20น.

 

หุ้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วงเกือบ 15 เปอร์เซ็นต์ หลังทางการสหรัฐ ระบุ เป็นแหล่งฟอกเงินให้อิหร่านมานานถึง 1 ทศวรรษ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการสหรัฐ ออกมาระบุว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ถูกกล่าวหาว่า เกี่ยวข้องกับอิหร่านมานานถึงหนึ่งทศวรรษ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการให้บริการทางการเงินในนครนิวยอร์กของสหรัฐ เรียกธนาคารแห่งนี้ว่า สถาบันนอกคอก และการเข้าไปเกี่ยวข้องกับอิหร่าน เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก ซึ่งขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบการโอนเงินต้องสงสัยจำนวนมหาศาล ขณะที่ เจ้าหน้าที่บริหารของธนาคาร ได้สวนกลับด้วยคำพูดรุนแรงในขณะที่ตั้งคำถามว่า ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน

 

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ ถูกระบุว่า เป็นแหล่งซุกเงิน 160,000 ล้านปอนด์ ที่ใช้เป็นเงินทุนช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้าย และโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และสมคบคิดกับอิหร่านมานานเกือบ 10 ปี โดยทำงานร่วมกับธนาคาร 3 แห่งของอิหร่าน ที่ต้องสงสัยว่า ถูกอิหร่านใช้เป็นแหล่งสะสมเงินทุนสำหรับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลด้านการให้บริการทางการเงินในนครนิวยอร์กของสหรัฐ เรียกธนาคารแห่งนี้ว่า สถาบันนอกคอก ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและแสวงประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและความปลอดภัยของโลก

 

ทางการสหรัฐ ยังสงสัยด้วยว่า ธนาคารของอิหร่านจะเป็นแหล่งเงินทุกของกลุ่มก่อการร้ายต่าง ๆ รวมทั้ง ฮิซบุลเลาะห์ , ฮามาส และอิสลามิก จีฮัด ปาเลสไตน์ นอกเหนือจากการทำธุรกิจกับ พม่า ลิเบีย และซูดาน ที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรเช่นกัน ซึ่งเป็นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการดูหมิ่นต่อกฎข้อบังคับทางการเงินของสหรัฐและผลจากการออกมาระบุของทางการสหรัฐที่ขู่ถอนใบอนุญาตฉุดราคาหุ้นของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วงลงเกือบ 15 เปอร์เซ็นต์   ในการซื้อขายที่ตลาดฮ่องกงวันอังคาร และหล่นวูบร่วม 24 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างการซื้อขายช่วงเช้าวันเดียวกันที่ตลาดลอนดอน

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=396533

[Pete 15,187]

จีน-ปินส์จมน้ำเกือบครึ่งเมืองหลังพายุไห่ขุยซัด

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2555 7:10น.

 

จีน-ฟิลิปปินส์ เผชิญภัยน้ำท่วมพายุไต้ฝุ่นครั้งใหญ่ โดยที่ กรุงมะนิลา  กำลังจมอยู่ใต้น้ำถึงครึ่งเมือง ส่วนที่ เซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดของจีน ทางการสั่งเร่งอพยพประชาชนกว่า 400,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จีนและฟิลิปปินส์ กำลังเผชิญภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น ไห่ขุย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว ฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิต 15 ราย หลังจาก กรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงเผชิญอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ในรอบ 3 ปี ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากพายุฝนทั่วประเทศฟิลิปปินส์ นับจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 68 ราย ทำให้โรงเรียน ตลาดการเงิน ที่ทำการรัฐบาล และห้างร้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่ปิดให้บริการ ขณะที่ถนนสายสำคัญในเมืองหลวงที่มีประชากรราว 15 ล้านคน ของฟิลิปปินส์ จมน้ำ บางจุดลึกถึงระดับคอ ซึ่งทางสำนักงานพยากรณ์อากาศของทางการ เผยว่า พื้นที่อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ ของมะนิลา ขณะนี้ถูกน้ำท่วมหมดแล้ว

ส่วน สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า ทางการจีน ได้อพยพประชาชนกว่า 200,000 คน ออกจากนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับไต้ฝุ่นไห่ขุย ซึ่งอาจเป็นลูกที่รุนแรงที่สุดนับจากปี 2005 ที่ ไต้ฝุ่นมัสยา คร่าชีวิตชาวเมือง 7 ราย

 

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนคาดว่า ไต้ฝุ่นไห่ขุยจะเคลื่อนเข้าสู่มณฑลเจ๋อเจียง ระหว่างเมืองหนิงโป กับเวินโจว ซึ่งอยู่ประชิดทางใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ในช่วงค่ำวันอังคารหรือเช้าวันพุธ และขณะนี้ได้อพยพประชาชนในเจ้อเจียงราว 256,000 คนออกนอกเส้นทางของไต้ฝุ่นแล้ว

[Pete 15,187]

By Sarah Turner

SYDNEY (MarketWatch) -- Australian stocks hit a fresh multi-month high early Wednesday, with the S&P/ASX 200 index AU:XJO +0.48% up 0.3% at 4,303.70. The index closed Tuesday at a level not seen since May 14. Miners were advancing in early trading, with Newcrest Mining Ltd. AU:NCM +1.72% NCMGF +0.60% up 1.3% and Fortescue Metals Group Ltd. AU:FMG +0.91% FSUMF +3.13% up 1.7%. Earnings were also in focus, with Computershare Ltd. AU:CPU +3.98% gaining 2.7% after updating investors but property group Stockland Australia AU:SGP -3.37% falling 4.4%.

 

By Michael Kitchen

LOS ANGELES (MarketWatch) -- Japanese stocks rallied out of the open Wednesday, aiming at a third straight day of gains, as exporter shares headed higher after U.S. gains overnight. The Nikkei Stock Average JP:100000018 +1.59% rose 1.2% to 8,912.49, with the Topix up 1.1%. Sony Corp. JP:6758 +2.77% SNE +1.39% advanced 1.9%, Fujitsu Ltd. JP:6702 +1.98% FJTSY -0.21% improved by 2%, and Honda Motor Co. JP:7267 +2.48% HMC +1.61% climbed 2.2%. Shares of Sharp Corp. JP:6753 +3.83% SHCAF -6.88% jumped 4.9% after a Nikkei news report that Hon Hai Precision Industry Co. would soon publicly confirm its investment in Sharp remains in place despite concerns to the contrary. Steel makers moved higher, with JFE Holdings Inc. JP:5411 +3.74% JFEEF -8.39% up 3.6% and Kobe Steel Ltd. JP:5406 +5.80% adding 2.9%, while shippers Mitsui O.S.K. Lines Ltd. JP:9104 +3.52% MSLOF -9.34% and Nippon Yusen K.K. JP:9101 +2.87% NYUKF -3.07% rose 3.1% and 2.3%, respectively. On the downside, shares of Pioneer Corp. JP:6773 -6.54% PNCOF -35.19% fell 3.7% after the company reported swinging to a quarterly loss.

 

http://www.marketwatch.com/story/japan-stocks-gain-with-exporters-tracking-higher-2012-08-07

 

เช้านี้ ตลาดหุ้นออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อย่างเอ็กสตราต้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสามารถชดเชยข่าวในด้านลบจากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 268.80 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,453.28 จุด เพิ่มขึ้น 51.72 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,967.95 จุด เพิ่มขึ้น 49.23 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,841.24 จุด เพิ่มขึ้น 32.47 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และรัฐบาลของประเทศอื่นๆในยุโรป จะใช้มาตรการเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของยูโรโซน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาหลังจากเยอรมนีเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลง

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 51.09 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 13,168.60 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.12 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,401.35 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 25.95 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ 3,015.86 จุด

[Pete 15,187]

สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการเพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีให้ปรับตัวลดลง

 

ค่าเงินยูโรทรงตัวอยู่ที่ 1.2400 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.16% แตะที่ 1.5626 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.5601 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.630 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 78.240 เยน และขยับลง 0.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9683 ฟรังค์ จากระดับ 0.9684 ฟรังค์

 

ตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ส่งสัญญาณว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีที่ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะแตกสลาย หากไม่มีการดำเนินการเร่งด่วนกว่านี้เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลหลายประเทศในภูมิภาค

 

นายมอนติแสดงความเห็นดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนี โดยระบุว่า ความคิดเห็นที่ไม่ลงร้อยกันในหลายๆเรื่องภายในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศ กำลังเบี่ยงเบนการดำเนินนโยบายแก้ไขวิกฤตหนี้และกำลังบ่อนทำลายอนาคตของสหภาพยุโรป (อียู)

 

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนในตลาดขานรับถ้อยแถลงของโฆษกรัฐบาลเยอรมนีวานนี้ถึงการสนับสนุนแผนการณ์ของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซนซึ่งกำลังประสบปัญหา

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 8 สิงหาคม 2555)

 

ปล. นัก ลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในยุโรปในวันนี้ โดยเวลา 15.00 น.ตามเวลาไทย อิตาลีจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. จากนั้นในเวลา 15.30 น.อังกฤษจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ส่วนในเวลา 16.00 น.อิตาลีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นไตรมาส 2/2555 และเวลา 17.00 น. เยอรมนีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคการผลิตเดือนมิ.ย.

[Pete 15,187]

นัก ลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำ ไตรมาส 2/2555 วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

ส่วน วันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค.

[DonJuan 4,685]

เช้านี้ถ้าไม่หลุด 1610 บ่ายค่ำมีขึ้นกันแบบ มันๆ ไปได้ถึง 163X

[Pete 15,187]

นายเบอร์กี้ กล่าวเรื่องนี้ เมื่อคืนวันจันทร์

 

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมวิจัยด้านรายได้และความมั่นคั่งระหว่างประเทศ ที่เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยระบุว่า แม้มีสัญญาณบ่งชี้มากมายว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่ประชาชนและธุรกิจจำนวนมากก็ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

เบอร์ นันเก้กล่าวว่า แม้มีดัชนีต่างๆซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค รายได้ และความมั่งคั่งในภาคครัวเรือน บ่งชี้ถึงทิศทางการฟื้นตัว แต่ภาคเอกชนและภาคครัวเรือนยังคงเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งทางด้าน เศรษฐกิจและการเงิน อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มของนโยบายการเงิน หรือกล่าวถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด 163,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.3%

 

การ แสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้สอดคล้องกับที่เขาได้แสดงมุมมอง เศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการร่วมทางเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสเมื่อไม่นานมานี้ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ได้ส่งให้ระบบเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความ เสี่ยงอย่างมาก

 

เบอร์ นันเก้ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะ และเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ในหลายประเทศของยูโรโซน ซึ่งปัญหาเหลานี้ยังคงสร้างความตึงเครียดให้กับตลาดการเงินทั่วโลก

 

"วิกฤต หนี้ยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วยการฉุดรั้งอุตสาหกรรมส่งออกของ เรา อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค และยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดการเงินและสถาบันต่างๆในสหรัฐด้วย" เบอรนันเก้กล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 8 สิงหาคม 2555

[Pete 15,187]

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า กลุ่มทรอยก้าซึ่งประกอบไปด้วยไอเอ็มเอฟ, คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะกลับไปยังกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกันยายน เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกรีซ ทั้งนี้ กลุ่มทรอยก้าได้เดินทางไปยังกรุงเอเธนส์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เพื่อประเมินว่ากรีซสามารถทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆที่ให้ไว้ได้หรือไม่ รวมถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจและการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ตลอดจนแนะนำให้กรีซดำเนินมาตรการมากขึ้นเพื่อช่วยให้กรีซมีศักยภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน รวมทั้งการฟื้นฟูสถานะด้านการคลังและการสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงิน

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 7 สิงหาคม 2555)

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 32.47 จุดจากคาดการณ์มาตรการหนุนศก.

 

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางที่สำคัญจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

ดัชนี FTSE 100 ปรับขึ้น 32.47 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 5,841.24

 

 

ตลาดยังคงขานรับคำมั่นสัญญาของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการปกป้องยูโรโซน

นอกจากนี้ ตลาดยังมีปัจจัยบวกหลังจากที่นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่าเฟดควรดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานที่เผชิญกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

หุ้นเอ็กซ์สตราตาปรับขึ้น 1.6% หลังบริษัทรายงานรายได้สุทธิครึ่งปีแรก หุ้นเกล็นคอร์ อินเตอร์เนชันแนลดีดตัวขึ้น 2.4% ขณะที่หุ้นบีพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ทะยานขึ้นต่อเนื่อง 2.9%

 

ส่วนหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดดิ่งลง 16% หลังจากที่ทางการสหรัฐระบุว่าธนาคารมีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว:นิกเกอิพุ่ง110.90จุด หลังคาดสหรัฐใช้QEเพิ่มเติม

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้น 110.90 จุด หรือ 1.26% แตะที่ 8,914.21 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้แรงกระตุ้นจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

โบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดมีแรงซื้อสูงกว่าแรงเทขาย หลังจากนายอิริค โรเซนเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตันกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติม เช่นโครงการซื้อพันธบัตรรอบใหม่ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ในขณะเดียวกัน บริษัทโตเกียว สต๊อก เอ็กเชนจ์ กรุ๊ป อิงค์ ระบุว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ เช่น ตลาดฟิว เจอร์ส Topix และพันบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งได้ปิดทำการชั่วคราวเมื่อวานนี้เนื่องจากระบบขัดข้อง ได้เปิดให้บริการตามปกติในวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน