ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อิตาลีเตรียมลดภาษีเงินได้ แต่จ่อขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีหน้า

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 ตุลาคม 2555 20:57:50 น.

นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ของอิตาลี ประกาศในวันนี้ว่ารัฐบาลอิตาลีจะลดภาษีเงินได้ในปีหน้า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกันว่าด้วยเรื่องงบประมาณจนถึงเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

 

โดยภาษีเงินได้จะปรับลดลงเหลือ 22% จาก 23% สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ยูโร (19,283 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี และลดลงเหลือ 26% จาก 27% สำหรับผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 15,001-28,000 ยูโร ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่านั้นอัตราภาษียังคงเดิม

 

นายมอนติแสดงความพอใจกับการลดภาษีเงินได้ โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้น้อย และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายอย่างจริงจัง

 

"การลดภาษีเงินได้น่าจะทำให้เราเริ่มหายใจหายคอได้บ้าง" ผู้นำอิตาลีกล่าว

ขณะเดียวกันสำนักข่าว ANSA รายงานว่า นายมอนติกล่าวว่าจะมีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% ในเดือนก.ค.2556 จากเดิมที่วางแผนว่าจะขึ้น 2% สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกผลประกอบการเอกชน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 128.56 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 06:22:34 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกประกาศลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 128.56 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 13,344.97 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 8.92 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 1,432.56 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 13.24 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 3,051.78 จุด

 

หุ้นอัลโค ร่วงลง 4.6% หลังจากอัลโคได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลกลง 1% เนื่องจากความต้องการอลูมิเนียมในประเทศจีนชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม อัลโคเปิดเผยว่า ยอดขายและผลกำไรในไตรมาส 3 ของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

 

ขณะที่หุ้นเชฟรอน คอร์ป ดิ่งลง 4.2% หลังจจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่น้อยเกินคาด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและปริมาณการผลิตน้ำมันปรับตัวลดลง

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6%

 

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกหากเจ้าหน้าที่ยุโรปไม่เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของยุโรปจำเป็นต้องขายสินทรัพย์เป็นวงเงินสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2556 หากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายไม่สามารถบังคับใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลัง หรือจัดตั้งระบบการควบคุมความเสี่ยงได้ในเวลาอันเหมาะสม

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟดทั้ง 12 เขต โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐ "ขยายตัวปานกลาง" ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.เนื่องจากยอดขายที่อยู่อาศัยและรถยนต์ฟื้นตัวขึ้น แต่รายงานดังกล่าวไม่ได้ช่วยภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้คึกคักขึ้นได้

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงวันหยุด ขณะที่หุ้นแมคโดนัล คอร์ป ดีดตัวขึ้น 0.3%

 

หุ้นแอปเปิล อิงค์ ดีดตัวขึ้น 0.8% ส่วนหุ้นเฟดเอ็กซ์ คอร์ป พุ่งขึ้น 5.2% หลังจากบริษัทตั้งเป้าทำกำไรอีก 1.7 พันล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยมีการวางแผนเบื้องต้นที่จะลดต้นทุนการดำเนินงาน

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนส.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุวิตกศก.,อัลโคลดคาดการณ์อุปสงค์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 06:01:47 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจาก อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ปรับลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลก

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.6% ปิดที่ 268.71 จุด

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,205.23 จุด ลดลง 29.30 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,365.87 จุด ลดลง 16.91 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,776.71 จุด ลดลง 33.54 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6%

 

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกหากเจ้าหน้าที่ยุโรปไม่เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของยุโรปจำเป็นต้องขายสินทรัพย์เป็นวงเงินสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2556 หากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายไม่สามารถบังคับใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลัง หรือจัดตั้งระบบการควบคุมความเสี่ยงได้ในเวลาอันเหมาะสม

 

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากอัลโค อิงค์ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลกลง 1% เนื่องจากความต้องการอลูมิเนียมในประเทศจีนชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม อัลโคเปิดเผยว่า ยอดขายและผลกำไรในไตรมาส 3 ของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

 

หุ้น AB InBev ร่วงลง 1.2% หลังจากมีรายงานว่า ทางการสหรัฐอาจจะขัดขวางการเทคโอเวอร์กิจการของ AB InBev จากบริษัท Grupo Modelo SAB ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์ Corona โดยการเทคโอเวอร์ครั้งนี้มีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์

 

หุ้น BAE ดิ่งลง 1.4% หลังจาก BAE และ EADS ยืนยันว่าทั้งสองบริษัทตัดสินใจที่จะไม่ควบรวมกิจการ

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารบังเกียของสเปน ดีดตัวขึ้น 4% ซึ่งเป็นการปิดบวกครั้งแรกในรอบ 13 วัน ขณะที่หุ้นแมน กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากหนังสือพิมพ์เดลี เมลล์รายงานว่า บริษัทแบล็คร็อค อิงค์ อาจจะเข้าซื้อกิจการของแมน กรุ๊ป

 

นักลงทุนจับตาดูดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ของเยอรมนีซึ่งจะมีการเปิดเผยในเวลา 13.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ และดัชนี CPI เดือนก.ย.ของฝรั่งเศสซึ่งจะมีการเปิดเผยในเวลา 13.45 น. ตามเวลาไทยในวันนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ หลัง S&P ลดอันดับเครดิตสเปน

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 07:45:55 น.

สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียงปานกลาง

 

 

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.17% แตะที่ 1.2862 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2884 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.02% แตะที่ 0.9822 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9782 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.180 เยน จากระดับ 78.230 เยน และอ่อนตัวลง 0.03% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9396 ฟรังค์ จากระดับ 0.9399 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.25% แตะที่ 1.0225 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0200 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.16% แตะที่ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8171 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและกำลังจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ

 

ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากเฟดได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟดทั้ง 12 เขต โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐ "ขยายตัวปานกลาง" ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.เนื่องจากยอดขายที่อยู่อาศัยและรถยนต์ฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงซบเซา

 

สำหรับข่าวความเคลื่อนไหวของประเทศยุโรปนั้น ล่าสุดนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ของอิตาลี ประกาศว่ารัฐบาลอิตาลีจะลดภาษีเงินได้ในปีหน้า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกันว่าด้วยเรื่องงบประมาณจนถึงเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ ภาษีเงินได้จะปรับลดลงเหลือ 22% จาก 23% สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ยูโร (19,283 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี และลดลงเหลือ 26% จาก 27% สำหรับผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 15,001-28,000 ยูโร ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่านั้นอัตราภาษียังคงเดิม โดยนายมอนติแสดงความพอใจกับการลดภาษีเงินได้ โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้น้อย และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายอย่างจริงจัง

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนส.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศึกในไม่ทันสงบ ศึกนอกก็เข้ามาแทรก

บทความ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:52น.

 

การปะทะกัน บริเวณชายแดน ซีเรียกับตุรกี ชั่วโมงนี้ ต้องบอกว่า น่าเป็นห่วงสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแนวโน้มทวีความรุนแรง เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

 

เรื่องความบาดหมาง ปะทุมาตั้งแต่ วันที่ 22 มิ.ย. โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นจากสาเหตุที่ รัฐบาลดามัสกัส ภายใต้การนำของ ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด จงใจยิงเครื่องบินขับไล่ของตุรกีตก ทั้งที่ทำการบินอยู่ในเหนือน่านฟ้าสากล ห่างจากเขตแดนซีเรียถึงกว่า 13 ไมล์ทะเล

 

ภายหลังเกิดเรื่อง ทางการซีเรีย ออกมากล่าวอ้างว่า ไม่ทราบ เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของตุรกี ทำให้ อาห์เหม็ด ดาวูโตกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ตอกกลับทันควันว่า ไม่เป็นความจริงที่ ซีเรีย จะไม่ทราบว่าเป็นเครื่องบินของตุรกี พร้อมเอ่ยปากเตือนไปยัง ซีเรีย ด้วยว่า อย่าคิดท้าทายแสนยานุภาพทางทหารของตุรกี ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น ทุกอย่าง จึงเลวร้ายลง มีการปะทะกันบริเวณพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ หนักขึ้นมากเรื่อย ๆ

 

มหาอำนาจที่หนุนหลัง ซีเรีย อย่าง รัสเซีย ค่อนข้างออกอาการเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างเดินทางเยือนกรุงอิสลามาบัด ของ ปากีสถาน ว่า รัฐบาลรัสเซีย มีความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนของซีเรียและตุรกี เป็นอย่างมาก หลังจากทั้ง 2 ชาติ ก็มีการสาดกระสุนใส่กัน

 

ขณะที่ ฟากมหาอำนาจใหญ่แห่งตะวันตก อย่าง สหรัฐอเมริกา ออกตัวแรงกว่าใครเพื่อน ยืนยันชัดเจนว่า จะขอหนุนหลัง ตุรกี แบบเต็มตัว โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างเทศสหรัฐ โทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจต่อรัฐบาลตุรกี และมีการให้คำมั่นว่า สหรัฐ จะสนับสนุนตุรกีอย่างเต็มที่ในฐานะพันธมิตร กรณีชาวตุรกีเสียชีวิตจากกระสุนปืน ค. จากฝั่งซีเรีย ทำให้ รัฐสภาตุรกี อนุมัติกฎหมายให้อำนาจทหาร ทำการยิงจากชายแดน รวมถึง บุกข้ามฝั่งไปปฏิบัติการในซีเรียเป็นเวลา 1 ปี

 

ด้าน นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในการเปิดประชุม ว่าด้วยประชาธิปไตยโลก ในเมืองสตราสบูร์กของฝรั่งเศสว่า ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นจากความขัดแย้ง ตามแนวพรมแดนซีเรีย-ตุรกี และผลกระทบของวิกฤติเลบานอนเป็นอันตรายอย่างยิ่ง รวมทั้ง ยังเรียกร้องให้ประเทศผู้บริจาคจัดสรรเงินทุนเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยจัดการวิกฤติด้านมนุษยธรรมในซีเรีย เหตุรุนแรงในซีเรีย และการโจมตีที่ละเมิดดินแดนเข้ามาในตุรกี ทำให้ความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ฝ่าย ร้าวฉาน....

 

ถึงตอนนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ตุรกี กับ ซีเรีย ยังคงเปิดฉากแลกกันอาวุธใส่กัน แทบจะเป็นสงครามย่อย ๆ ก็ว่าได้ ซึ่งทาง ผู้บัญชาการกองทัพตุรกี แถลงเตือนว่า ตุรกี จะดำเนินการตอบโต้อย่างหนักหน่วง หากซีเรียยิงโจมตีข้ามเขตเข้ามาในดินแดนของตุรกี โดยทางการตุรกี เผยอีกว่า พร้อมที่จะเป็นแกนนำ ช่วยโค่นล้มรัฐบาล ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด อีกแรง

 

ทั้งนี้ ถ้าเป็นอย่างที่ ทางการตุรกี เอ่ยมานั้น ก็อดเป็นห่วง บาชาร์ อัล อัสซาด ไม่ได้ เพราะคราวนี้โดนเพื่อนบ้าน ที่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน โดดมาร่วมวงโค่นล้มรัฐบาลของตนด้วย อย่างไรก็ตาม งานนี้ ต้องจับตาดูว่า อัล อัสซาด จะจัดการกับศึกนอกเช่นไร แต่ดูที่ท่าแล้วเปอร์เซ็นล้มเหลวมีสิทธิ์เป็นไปได้สูง เพราะแค่ศึกในทุกวันนี้ ยังเอาตัวแทบไม่รอดเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

OPECคาดโลกต้องการน้ำมันเพิ่มแม้ศก.ไม่นิ่ง

ข่าวต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:41น.

 

โอเปก ปรับเพิ่มแนวโน้มปริมาณความต้องการน้ำมันโลก สำหรับ ปี 2555 และปี 2556 แม้ไม่สดใสนัก โดยอ้าง เศรษฐกิจไม่แน่นอนในอนาคต

 

 

รายงานกลุ่มองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปกประจำเดือนนี้ ระบุว่า ปี 2555 ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึงวันละ 88.81 ล้านบาร์เรล จากเดิมที่คาดไว้ 88.74 ล้านบาร์เรล เมื่อเดือนที่แล้ว หลังตัวเลขความต้องการน้ำมัน ปี 2554 อยู่ที่ 88.04 ล้านบาร์เรล คาดว่า ในปี 2556 ปริมาณความต้องการจะขึ้นไปที่ วันละ 89.60 ล้านบาร์เรล รายงานของโอเปก ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในสหรัฐ ยุโรป และจีน เป็นตัวชี้วัดอนาคตของพลังงานโลก ทั้งปีนี้และปีหน้า

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=409550

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหนือ-อีสานฝนเริ่มลด อากาศหนาวเริ่มเข้ามาแทนที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำเช้าวันพฤหัสที่ 11 ตุลาคม 2555 ว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้บริเวณด้านตะวันตกของประเทศไทยมีฝนและมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่นพระพิรุณ (PRAPIROON) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เคลื่อนตัวไปทางเหนือมากยิ่งขึ้น และพายุนี้ไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย

 

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาคบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาคบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณชายฝั่งบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา และนราธิวาส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

 

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=653769&lang=T&cat=,

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 07:49:05 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจาก อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ปรับลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลก

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.6% ปิดที่ 268.71 จุด

 

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,205.23 จุด ลดลง 29.30 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,365.87 จุด ลดลง 16.91 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,776.71 จุด ลดลง 33.54 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกประกาศลดคาดการณ์ความต้องการอลูมิเนียมทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 128.56 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 13,344.97 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 8.92 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 1,432.56 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 13.24 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 3,051.78 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงซีเรียและตุรกี

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 91.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 91.02-93.66 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 114.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 113.77-115.59 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และวิกฤตหนี้ยูโรโซน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 1,765.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,758.58-1,770.00 ดอลลาร์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 34.109 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.40 เซนต์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,678.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 649.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 8.30 ดอลลาร์

 

-- สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียงปานกลาง

 

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.17% แตะที่ 1.2862 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2884 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.02% แตะที่ 0.9822 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9782 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.180 เยน จากระดับ 78.230 เยน และอ่อนตัวลง 0.03% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9396 ฟรังค์ จากระดับ 0.9399 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.25% แตะที่ 1.0225 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0200 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.16% แตะที่ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8171 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องผลประกอบการของบริษัทเอกชน

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 33.54 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 5,776.71 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,776.71-5,810.52 จุด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 33.54 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 07:53:57 น.

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องผลประกอบการของบริษัทเอกชน

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 33.54 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 5,776.71 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,776.71-5,810.52 จุด

 

 

 

ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6%

 

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกหากเจ้าหน้าที่ยุโรปไม่เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของยุโรปจำเป็นต้องขายสินทรัพย์เป็นวงเงินสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปี 2556 หากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายไม่สามารถบังคับใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลัง หรือจัดตั้งระบบการควบคุมความเสี่ยงได้ในเวลาอันเหมาะสม

 

หุ้น BAE Systems ดิ่งลง 1.4% หลังจาก BAE และ EADS ยืนยันว่าทั้งสองบริษัทตัดสินใจที่จะไม่ควบรวมกิจการ ภายหลังจากการเจรจาควบกิจการขนาด 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของทั้งสองบริษัทประสบความล้มเหลว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...