ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ประธาน กบอ. ยืนยันแนวทางการวางกระสอบทรายของกรุงเทพมหานครผิดหลักวิชาการ

วันที่ข่าว : 11 ตุลาคม 2555

ประธาน กบอ. ยืนยันแนวทางการวางกระสอบทรายของกรุงเทพมหานครผิดหลักวิชาการ พร้อมเตรียมเชิญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกในการบริหารจัดการน้ำ

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(11 ต.ค.) ในการพิจารณากระทู้ถามสด ส.ส.ฝ่ายค้าน ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องการบริหารจัดการน้ำในกรุงเทพมหานคร โดย นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม โดยเห็นว่าหากรัฐบาลมีข้อสงสัยเรื่องการวางกระสอบทรายก็ควรจะไปสอบถามกรุงเทพมหานครโดยตรง

 

ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้(12 ต.ค.) เตรียมเชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือร่วมกัน เพื่อหาทางออกในการบริหารจัดการน้ำ เพราะเชื่อว่ามาตรการนำกระสอบทรายไปอุดท่อระบายน้ำไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่มีหน้าที่ระบายน้ำไม่ใช่ไปอุดน้ำเพื่อให้เป็นพื้นที่รองรับน้ำ อีกทั้งไม่มีหลักวิชาการรองรับ พร้อมยืนยันไม่ต้องการเอาชนะ แต่แนวทางของกรุงเทพมหานครผิดพลาด อย่างไรก็ตาม หากหลักวิชาการออกมาว่า กบอ.ผิดก็พร้อมจะรับฟัง

นอกจากนี้ ยังมีกระทู้ถามสดเรื่อง การดำเนินการกับอาชญากรทางเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยขอให้เร่งรัดจับกุมนางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร ผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร มูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งนางภักคินี เป็นมารดาของนายอรรถวิช สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์

 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คดีนี้จะหมดอายุความในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ จึงอยากเรียกร้องให้นางภักคินี ที่หลบหนีคดีอยู่เข้ามอบตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและต่อสู้ในขั้นตอนยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลยืนยันไม่ละเว้นบุคคลที่กระทำความผิดไม่ว่าจะมีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองใดก็ตาม

 

ขณะที่นายอรรถวิช ลุกขึ้นชี้แจงหลังถูกพาดพิง ยืนยันมารดาของตนเองไม่ได้ยักยอกทรัพย์ และการออกหมายจับนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้นหากยังนำเรื่องนี้ไปพูดภายนอกสภาก็จะดำเนินการฟ้องร้องทันที พร้อมสาบานขอให้บุคคลใดที่ยักยอกเงินแผ่นดินให้ครอบครัวมีอันเป็นไป

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : วาสนา ตาระเกตุ(เงินทูล) / สวท.

Rewriter : ศศิธร ภู่จีนาพันธ์ / สวท. ศศิธร ภู่จีนาพันธ์ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

[quote name='เด็กขายของ'

 

ไอ้ตรง 1773 มีแรงขาย ดักตีหัว ทำให้ไม่ผ่านต้านสักที ระวังโดนลดราคาด้วยนะ

 

โดนไปแล้วต้องลาก t ไปอีกวัน :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Finance ministers from the G7 group of major developed economies will meet on Oct. 11 in Tokyo, with exchange rate developments likely to be on the agenda. The G7 countries are the United States, Japan, Canada, Germany, France, Italy and Britain.

 

ตอนนี้ ขณะนี้ มีการประชุม G7 อยู่ที่ กรุงโตเกียว ซึ่งดึกๆ น่าจะมีแถลงการณ์ บันทึกความเข้าใจ อันเกี่ยวกับ ค่าเงิน เกิดขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1767.00 " มันลงไปได้ยังไงเนี่ย " เด็กขายของไม่ได้พูด แต่เจ้กิ๊ก พูด A9449326-2.gif

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1767.00 " มันลงไปได้ยังไงเนี่ย " เด็กขายของไม่ได้พูด แต่เจ้กิ๊ก พูด A9449326-2.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

IMFกระทุ้งชาติมั่งคั่งเร่งแก้ปัญหา ย้ำศก.ทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2555 22:20 น.

 

เอเจนซีส์ - “ไอเอ็มเอฟ”กระทุ้งชาติรวยเร่งแก้ไขปัญหา ขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปยังคงลากยาว อเมริกาและญี่ปุ่นแทบไม่มีความคืบหน้าในการจัดการการขาดดุลงบประมาณ “ลาการ์ด”ยังแสดงความหวังว่าจีนและญี่ปุ่นจะคลี่คลายข้อพิพาทหมู่เกาะอย่างรวดเร็วและราบรื่น เนื่องจากต่างเป็นผู้เล่นที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก

 

คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (11) ว่า การโต้เถียงทางการเมืองทำให้เศรษฐกิจโลกยิ่งไร้ความแน่นอน ชะลอการเติบโตในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าและเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่

 

“เราคาดหวังการดำเนินการที่กล้าหาญและร่วมมือร่วมใจจากสมาชิกของเรา” ลาการ์ดให้สัมภาษณ์จากโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมประจำปีไอเอ็มเอฟ-ธนาคารโลกในขณะนี้

 

ขณะเดียวกัน จิมยองคิม ประธานธนาคารโลก เตือนว่า ประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นเครื่องจักรหนุนนำการเติบโตมาตลอดในช่วงหลังๆ นี้ จะไม่มีภูมิคุ้มกันจากเศรษฐกิจโลกที่ไร้ความแน่นอนมากขึ้น

 

ไอเอ็มเอฟนั้นแสดงความไม่พอใจในการรับมือวิกฤตหนี้แบบกะพร่องกะแพร่งของยุโรป และเตือนว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงของประเทศที่เป็นหนี้ เช่น สเปน อาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว เว้นแต่ผู้นำยูโรโซนจะมีแผนการที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือออกมาเท่านั้น

 

ในรายงานว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงินที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (10) ไอเอ็มเอฟระบุว่า หากปราศจากมาตรการเชิงที่เด็ดขาดรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการเริ่มโครงการเข้าซื้อพันธบัตร อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสเปนและอิตาลีอาจทะยานขึ้นเกือบ 2 เท่า

 

อนึ่ง วันเดียวกัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้แดนกระทิงดุลงเฉียดระดับขยะ และมีแนวโน้มว่า มูดี้ส์อาจเดินรอยตามในไม่ช้า

 

ไอเอ็มเอฟประกาศว่า พร้อมให้การสนับสนุนยุโรปเข้าอุ้มเศรษฐกิจสเปน หากมาดริดร้องขอ โดยมีรายงานออกมาเมื่อต้นเดือนว่า สเปนพร้อมขอความช่วยเหลือ แต่ถูกเยอรมนียับยั้ง เพราะต้องการรวมมาตรการอุ้มสเปนเป็นแพกเกจเดียวกับการอัดฉีดเพิ่มเติมให้ประเทศที่มีปัญหา เช่น กรีซ

 

โฮเซ ไวนัลส์ หัวหน้าแผนกตลาดเงินและตลาดทุนไอเอ็มเอฟ เตือนว่า ประเทศต่างๆ ไม่ควรขัดขวาง หากสเปนขอให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซื้อพันธบัตรภายใต้โปรแกรมรับการอัดฉีดใหม่ที่เรียกกันว่า OMT หรือการทำธุรกรรมการเงินโดยสมบูรณ์

 

ทางด้านลาการ์ดแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ประเทศยุโรปที่มีปัญหาอย่างสเปนและกรีซ ควรได้รับการขยายเวลาในการลดการขาดดุลงบประมาณออกไปอีก 2 ปี

 

ทั้งสองประเทศนี้เป็นศูนย์กลางวิกฤตหนี้ยูโรโซนในปัจจุบัน โดยกรีซนั้นกำลังพากเพียรกับโครงการลดหนี้ ขณะที่มีแนวโน้มมากขึ้นว่า สเปนจะต้องขอรับความช่วยเหลือสำหรับเศรษฐกิจทั้งระบบ หลังจากรับเงินอัดฉีดเพื่อเพิ่มทุนแบงก์ 100,000 ล้านยูโรไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

โคริกิ โจจิมะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ระบุว่าปัญหาหนี้และภาคการเงินของยูโรโซนเป็นความเสี่ยงใหญ่สุดของเศรษฐกิจโลก และสิ่งสำคัญคือยุโรปต้องเร่งดำเนินการขั้นตอนที่ตกลงกันไว้เพื่อคลี่คลายวิกฤต

 

กระนั้น โตเกียวเองถูกไอเอ็มเอฟวิจารณ์เช่นเดียวกันกรณีไม่มีแผนแก้ปัญหาหนี้ระยะกลาง โดยในรายงานเสถียรภาพการเงิน ไอเอ็มเอฟชี้ว่า ปัญหาของยุโรปควรเป็นบทเรียนสำหรับญี่ปุ่นว่า ไม่ควรรั้งรอที่จะสะสางหนี้ที่คาดว่ามีมากกว่ามูลค่าเศรษฐกิจกว่า 2 เท่า เนื่องจากอาจนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาล

 

เจ้าหน้าที่ยุโรปนั้นต้องการให้ที่ประชุมเบนความสนใจจากวิกฤตยูโรโซนไปที่ “หน้าผาทางการคลัง” ของอเมริกา ซึ่งหมายถึงการที่สหรัฐฯจะต้องใช้มาตรการลดการใช้จ่ายอย่างมโหฬารและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติต้นปีหน้าหากรัฐสภาสหรัฐฯไม่สามารถประนีประนอมหาทางออกใหม่ๆ ได้

 

ไอเอ็มเอฟคาดว่า การถดถอยทางการเงินจะมีมูลค่ากว่า 4% ของเศรษฐกิจแดนอินทรี และฉุดประเทศเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกแห่งนี้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

นอกจากนี้ ลาการ์ดยังแสดงความหวังว่า จีนและญี่ปุ่น ชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 และ 3 ของโลกตามลำดับ จะสามารถแก้ไขข้อพิพาทด้านอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก

 

ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางและรัฐมนตรีคลังจีนงดเดินทางเข้าร่วมประชุมไอเอ็มเอฟ-เวิลด์แบงก์โดยไม่ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ ทำให้ถูกตีความอย่างกว้างขวางว่า มูลเหตุมาจากความขัดแย้งกรณีหมู่เกาะเซงกากุหรือเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีน

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000125018

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เร่งสอบเหตุ รพ.ขาดทุน จ่อปรับวิธีจัดสรรเงินใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2555 17:56 น.

 

 

 

“วิทยา” เปรยโครงการหลักประกันสุขภาพน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เล็งปรับสภาพการเงินให้คล่องตัวตั้งแต่ปีงบประมาณ 56 เป็นต้นไป พร้อมตรวจสอบปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน ปรับวิธีจัดสรรเงินใหม่

 

วิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (แฟ้มภาพ)

 

วันนี้ (11 ต.ค.) ที่โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2556 ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมของการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพให้สูงขึ้น เนื่องจากการดูแลสุขภาพประชาชนในโครงการหลักประกันสุขภาพที่ผ่านมา น่าจะทำได้ดีกว่านี้ โดยจะต้องเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลบางแห่งพบว่ามีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2556 จะต้องปรับประสิทธิภาพทางด้านการเงินการคลังให้มีสภาพคล่อง งบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวที่ได้รับ 2,755 บาท จะต้องบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ

 

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ส่วนในปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลมีนโยบายให้จัดทำงบประมาณให้เร็วขึ้น เพื่อนำไปสู่กระบวนการจัดทำงบประมาณที่จะตรงกับความเป็นจริง โดย สธ.เป็นผู้จัดบริการรายใหญ่ ส่วนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้จ่ายเงิน ต้องบริหารจัดการให้ได้ โดยการจัดสรรเงินลงไปยังหน่วยบริการ ต้องอยู่ในหลักความเป็นจริงที่ได้ทำ เพราะในความเป็นจริง คนเราไม่ได้ป่วยทุกคน และรัฐบาลปัจจุบันเน้นการสร้างสุขภาพคนทุกกลุ่มวัย รณรงค์เรื่องการออกกำลังกาย อาหารปลอดภัย ในระยะยาวคาดหวังว่าคนไทยจะป่วยเจ็บป่วยน้อยลง ที่สำคัญ ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นและต้องการการดูแล จึงคาดหวังว่าในอนาคต ผู้สูงอายุจะเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง

 

ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า วันนี้เป็นการมอบนโยบายแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง สปสช.กับ สธ.โดยจะมีการจัดบริการร่วมกัน นำปัญหามาวิเคราะห์กำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกัน สธ.เป็นผู้จัดบริการ ส่วนสปสช.เป็นผู้ซื้อบริการ และติดตามประเมินผลร่วมกัน ส่วนกรณีที่รัฐบาลคงงบประมาณตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไปนั้น สิ่งที่ สธ.ต้องเริ่มต้นคือการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบบริหาร ต้องทำให้มีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งเรื่องระบบบัญชี รายรับรายจ่าย เพราะโรงพยาบาลในบางพื้นที่ บริหารอย่างไรก็ขาดทุน เพราะประชากรน้อย งบประมาณก็เข้าน้อย

 

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สธ.ได้จัดระดับความรุนแรงปัญหารายรับน้อยกว่ารายจ่ายเป็น 7 ระดับ ถ้าเป็นระดับ 7 ถือว่ารุนแรง พบว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาล 100 กว่าแห่ง ส่วนใหญ่เป็นระดับโรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลทั่วไปขนาดเล็ก ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ.เร่งแก้ไขปัญหา โดยส่งทีมลงไปดูว่าปัญหาเกิดจากสาเหตุใด และต้องปรับวิธีการจัดสรรเงิน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องและไม่เกิดผลกระทบต่อการจัดบริการประชาชนในพื้นที่

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

LINE มาแรง แซง WhatsApp

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2555 09:38 น.

http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9550000123549

Exclusive

อังสุมาลิน ศิริมงคลกิจ : Positioning Magazine

 

หลังจากยุคของ MSN มาสู่ยุค BB แล้วแยกย่อยออกมาเป็น Facebook Chat, Whats App, LINE และ WeChat จะเห็นได้ว่ามนุษย์ออนไลน์ไม่เคยห่างหายจากการแชต นี่ยังไม่นับโปรแกรมหรือแอปฯ แชตอื่นๆ เช่น Skype, Viber, Tango ที่ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือสื่อสารของบุคคลกับบุคคลหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งแต่ละเครื่องมือก็พยายามดึงผู้ใช้งานเข้ามาให้อยู่กับเครือข่ายของตัวเอง และเมื่อ LINE มาแรงจนแย่งผู้ใช้งานของเครื่องมืออื่น ก็ถึงเวลาที่คู่แข่งต้องเร่งปรับตัวอัปเดตแอปฯ ให้แข่งขันกับ LINE

 

WhatsApp โชว์ตัวตนมากขึ้น

 

ก่อนหน้านี้ WhatsApp เน้นการใช้งานเป็นหลัก คอนเทนต์ที่ส่งเน้น “ข้อความ” เป็นหลัก การหารายได้ของ WhatsApp มาจากการคิดค่าดาวน์โหลดสูงสุดอยู่ที่ 2.99 เหรียญ แต่หลังจากระดมทุนเข้ามาใหม่ WhatsApp ก็เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีบ่อยครั้งขึ้น ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ ก็มีติดเครื่องมาให้ผู้ใช้งานเลย

 

ส่วนอัปเดตล่าสุดของแอปฯ นี้ใน iOS ก็ทำให้ผู้ใช้ใส่รูปตัวเองแทนเข้าไปได้แล้ว ทำให้เวลาแชตกับเพื่อนเพื่อนก็จะเห็นรูปเราไปด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ในแอนดรอยด์ทำได้แล้ว นี่เป็นความพยายามที่จะใส่ตัวตนของผู้ใช้งานเข้าไปให้มากขึ้น จากเดิมที่ WhatsApp ไม่เคยทำมาก่อน (อ่านเพิ่มเติม : ใครคิด WhatsApp)

 

WeChat หมัดเด็ดอยู่ที่ปลั๊ก-อิน

 

ในประเทศไทย WeChat อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมนัก แต่ในตลาดโลกแอปฯ นี้เป็นแอปฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะแค่ในประเทศจีนก็เป็นแอปฯ เบอร์ 1 แล้ว ต่อไปก็เป็นความท้าทายว่า WeChat จะพาตัวเองออกมาสู่ตลาดประเทศที่ไม่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาหลักได้หรือไม่ โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของ WeChat ก็น่าจะมาจากนโยบายที่จะพัฒนาปลั๊ก-อิน เฉพาะในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละท้องถิ่นได้เลย ในส่วนของการหารายได้ ในประเทศจีน WeChat ใช้วิธีการร่วมมือกับแบรนด์ทำตลาดโดยอิงกับ Local Based System ทำให้เลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้ รวมทั้งเอาแอปฯ WeChat ไปเชื่อมโยงกับบริการอื่นๆ เช่น เพลง มิวสิกวิดีโอ และข่าว การที่ WeChat มีฐานในประเทศจีนอยู่แล้ว ก็ทำให้บริการเหล่านี้ถูกทดลองมาก่อนที่จะเปิดตัวไปทั่วโลก เมื่อ LINE เริ่มต้นใช้บริการ Home และ Timeline รวมทั้ง Voice Call เมื่อต้นเดือนสิงหาคม WeChat ก็ปรับปรุงบริการที่คล้ายกันทันที เรียกได้ว่าปรับตัวไล่บี้ LINE ทุกฝีก้าว

 

สำหรับประเทศไทยบริการพวกนี้อาจจะยังไม่ถูกเปิดใช้ แต่อย่าลืมว่า WeChat เป็นของ Tencen ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Sanook ธุรกิจดอตคอมรายใหญ่ของประเทศไทย ดังนั้นฐาน Developer กับผู้ใช้งานจำนวนมากของ Sanook ก็น่าจะทำให้ WeChat กลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองเช่นกัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณข่าวตัวหนาๆของป๋านะคะ ตัวจริงป๋าหนาอย่างข่าวอ่ะป่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณข่าวตัวหนาๆของป๋านะคะ ตัวจริงป๋าหนาอย่างข่าวอ่ะป่าว

Wolf_Like.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณข่าวตัวหนาๆของป๋านะคะ ตัวจริงป๋าหนาอย่างข่าวอ่ะป่าว

tumblr_m6wksyc3Ky1qihztbo1_500.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แม่ทองคำ หมดแรง weak.gif

 

คาดว่า พรุ่งนี้เช้ามาลุยต่อ ในทิศทางขึ้น จากเหตุปัจจัย G7 rich.gif

 

ง่วงแล้ว sleepy.gif

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บะบาย ฝันดี เจิกันที่ 1762 เช้านี้ โฮะๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บะบาย ฝันดี เจิกันที่ 1762 เช้านี้ โฮะๆๆ

สวัสดี ยามเช้า ไม่เจอแล้วยะ 1762 เช้านี้ 1766 แล้วนะทิดคุง วันนี้รอ ออกพร้อมกันกะหมวดลิน คุณกบ ป้ารี คุณชะเอม และคุณนุชยะ เออ เกือบลืม ป๋าอีกคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...