ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

น้ำมันปิดสวนทาง หุ้นสหรัฐฯบวก-ทองคำดิ่งกว่า$22 blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2555 05:32 น.

 

blank.gif blank.gif 555000013344601.JPEG blank.gif เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันปิดสวนทางวานนี้(15) ท่ามกลางปัจจัยผสมผสานเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อมูลทาง เศรษฐกิจอเมริกา โดยปัจจัยหลังนี้ประกอบกับรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ ส่งให้วอลล์สตรีท ขยับขึ้น ผิดกับทองคำที่ดิ่งลงอย่างแรง หลังนักลงทุนหวั่นจีนไม่ลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 91.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความตึงเครียดในตะวันออกลาง ภูมิภาคที่มั่งคั่งไปด้วยน้ำมัน ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนราคาน้ำมันโลก โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์(15) ทางสหภาพยุโรป ได้กระชับมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและการค้าอิหร่านหนักหน่วงยิ่งขึ้น เป้าหมายคือบีบเตหะรานให้ยอมกลับคืนสู่โต๊ะเจรจานิวเคลียร์ที่หยุดชะงักไป นาน

 

แต่ขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ยังตกอยู่ใต้แรงกดดันของข้อมูลทาง เศรษฐกิจที่ผสมผสานในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่เช่นกัน หลังพบว่าตัวเลขค้าปลีกเดือนกันยายนดีขึ้นเกินคาดหมายร้อยละ 1.1 ทว่าดัชนีการผลิตในภูมิภาคนิวยอร์กของธนาคารกลางสหรัฐฯและตัวเลขสต็อกสินค้า คงคลังภาคธุรกิจเดือนสิงหาคม ของกระทรวงพาณิชย์ ต่างก็ผิดเป้าที่คาดหมายไว้

 

กระนั้นก็ดีตัวเลขค้าปลีกเดือนกันยายนที่เติบโตขึ้นพอสมควรนี้ ประกอบกับรายงานผลประกอบการที่ดีเหนือคาดของซิตี้กรุ๊ป ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15) ปิดบวกพอประมาณ

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 95.14 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,423.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.07 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,064.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.43 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,440.02 จุด

 

"ตลาดหุ้นขยับขึ้นหลังรายงานเผยให้เห็นว่ายอดค้าปลีกเดือนกันยายน เติบโตเกินคาดหมายร้อยละ 1.1" บริษัทที่ปรึกษาเวลล์ส ฟาร์โก กล่าว

 

วอลล์สตรีท ดีดขึ้น หลังจากซิตีกรุ๊ป รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แม้กำไรลดลงถึงร้อยละ 88 เหลือ 486 ล้านดอลลร์สหรัฐฯ แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย

 

ด้านราคาทองคำวานนี้(15) ปิดลบต่ำสุดในรอบราว 1 เดือน หลังข้อมูลจีน ก่อข้อสงสัยเพิ่มเติมว่ารัฐบาลของชาติแห่งนี้ยังมีความจำเป็นจะต้องลงมือ กระตุ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือไม่ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 22.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,737.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

จีน ชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เผยว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศ ลดลงจากร้อยละ 2.0 ในเดือนสิงหาคม เหลือ ร้อยละ 1.9 ในเดือนกันยายน ขณะที่ยอดการนำเข้า แม้ว่ายังอ่อนแอ แต่ก็เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาเล็กน้อยร้อยละ 2.4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ หลังยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัวดีเกินคาด (16/10/2555)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขค้าปลีกที่ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.6% ที่ระดับ 121.52 จุด ณ เวลา 9.46 น.ตามเวลาโตเกียว โดยมีสัดส่วนหุ้นบวกต่อหุ้นลบ 3 ต่อ 1 หุ้น

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,638.68 จุด เพิ่มขึ้น 60.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,257.09 จุด เพิ่มขึ้น 108.84 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,437.79 จุด เพิ่มขึ้น 18.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,942.51 จุด เพิ่มขึ้น 16.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,055.92 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 5,383.90 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,656.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,487.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.60 จุด

 

หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บวก 2.2%, หุ้นคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.1% และหุ้นซอฟต์แบงก์ คอร์ป ทะยาน 9.7%

 

ตลาดหุ้นเอเชียได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แตะ 412.94 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกันหลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนส.ค. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold ETP holdings rise so far in October but PGM holdings decline

 

Source :Commodity Online

 

Gold ETP holdings continue to flourish with inflows of 10.1 (metric) tons over the past week, taking flows for the month to date to over 30 tons.

Buy & Sell gold online anytime, anywhere. Start trading in bullion with just $50 now!

 

 

LONDON (Commodity Online): Holdings of gold by exchange-traded products are higher so far in October but these are lower for platinum and palladium.

 

According to Barclays Capital, Gold ETP holdings continue to flourish with inflows of 10.1 (metric) tons over the past week, taking flows for the month to date to over 30 tons.

 

“Our final estimates for September now show an increase of 76 tons, making it the strongest month since November last year. Inflows for the year to date have now reached 224 tons, surpassing the full year last year (175 tons) but still below y/y flows for 2010 (361 tons),” they added.

 

According to Zurich based bank UBS, halfway through October, they lists exchange-traded-fund gold buying of 1.33 million ounces so far, which is says is about 52% of the September inflows.

However, platinum ETF flows have reversed so far in October.

 

“After two months of decent inflows, platinum ETFs are down 13.35koz so far in October, already exceeding redemptions last July by over 4koz,” UBS noted.

 

“But relative to palladium, platinum retains the upper hand, with the former posting larger outflows of 23.80koz. This reflects 84% of the previous month’s decline in palladium ETFs, and should the pace continue, October would be the worst month since December 2011,” they concluded.

 

http://www.commodityonline.com/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

Last Updated : 15 October 2012 at 13:35 IST

 

India Gold demand weakens ahead of Diwali on price rise: Barclays

499083894507bc57b78543.jpg

Source :Commodity Online/Barclays

 

MUMBAI (Commodity Online): India gold demand has weakened after a pickup in buying in the weeks preceding the key festival of Diwali as local prices have gained due to depreciation of Rupee.

India’s gold demand remains sensitive to local prices, according to Barclays Research.

 

“We remain positive on gold’s outlook but expect gains to be moderated in comparison to the run up in prices ahead of the QE3 announcement, which was boosted by the sharp acceleration in both short-term and long-term investment demand.”

 

Price forecast: Q4 12: $1810/oz; 2012 annual average: $1691/oz.

 

Gold prices have failed to climb above $1800 levels although holdings in exchange traded products with month to date volume rising by 30 tonnes in October showing strong investor demand. The latest CFTC data for the week ended 9 October revealed that speculative positioning continued to grow and remains at its highest level since August 2011 as fresh longs (8k lots) offset fresh shorts (4.3k lots).

 

Technical charts lack direction and indeed there is a temporary pause to the uptrend in gold prices and this consolidation could be healthy for the yellow metal as it gathers strength to make a sustainable move higher.

 

“Support near 1725/1735 is expected to provide near-term buying interest on any move lower. Ultimately, we are looking for a break above the range highs near 1803 to confirm our bullish view for gold. Such a break would open our upside target at the record highs near 1921,” according to Barclays Research.

-Resistance: 1775, 1796

-Support: 1750, 1735

 

http://www.commodityonline.com/

ถูกแก้ไข โดย Namchiang

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันปิดสวนทาง หุ้นสหรัฐฯบวก-ทองคำดิ่งกว่า$22 blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2555 05:32 น.

 

blank.gif blank.gif 555000013344601.JPEG blank.gif เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันปิดสวนทางวานนี้(15) ท่ามกลางปัจจัยผสมผสานเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อมูลทาง เศรษฐกิจอเมริกา โดยปัจจัยหลังนี้ประกอบกับรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ ส่งให้วอลล์สตรีท ขยับขึ้น ผิดกับทองคำที่ดิ่งลงอย่างแรง หลังนักลงทุนหวั่นจีนไม่ลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 91.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความตึงเครียดในตะวันออกลาง ภูมิภาคที่มั่งคั่งไปด้วยน้ำมัน ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนราคาน้ำมันโลก โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์(15) ทางสหภาพยุโรป ได้กระชับมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและการค้าอิหร่านหนักหน่วงยิ่งขึ้น เป้าหมายคือบีบเตหะรานให้ยอมกลับคืนสู่โต๊ะเจรจานิวเคลียร์ที่หยุดชะงักไป นาน

 

แต่ขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ยังตกอยู่ใต้แรงกดดันของข้อมูลทาง เศรษฐกิจที่ผสมผสานในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่เช่นกัน หลังพบว่าตัวเลขค้าปลีกเดือนกันยายนดีขึ้นเกินคาดหมายร้อยละ 1.1 ทว่าดัชนีการผลิตในภูมิภาคนิวยอร์กของธนาคารกลางสหรัฐฯและตัวเลขสต็อกสินค้า คงคลังภาคธุรกิจเดือนสิงหาคม ของกระทรวงพาณิชย์ ต่างก็ผิดเป้าที่คาดหมายไว้

 

กระนั้นก็ดีตัวเลขค้าปลีกเดือนกันยายนที่เติบโตขึ้นพอสมควรนี้ ประกอบกับรายงานผลประกอบการที่ดีเหนือคาดของซิตี้กรุ๊ป ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15) ปิดบวกพอประมาณ

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 95.14 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,423.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.07 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,064.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.43 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,440.02 จุด

 

"ตลาดหุ้นขยับขึ้นหลังรายงานเผยให้เห็นว่ายอดค้าปลีกเดือนกันยายน เติบโตเกินคาดหมายร้อยละ 1.1" บริษัทที่ปรึกษาเวลล์ส ฟาร์โก กล่าว

 

วอลล์สตรีท ดีดขึ้น หลังจากซิตีกรุ๊ป รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แม้กำไรลดลงถึงร้อยละ 88 เหลือ 486 ล้านดอลลร์สหรัฐฯ แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย

 

ด้านราคาทองคำวานนี้(15) ปิดลบต่ำสุดในรอบราว 1 เดือน หลังข้อมูลจีน ก่อข้อสงสัยเพิ่มเติมว่ารัฐบาลของชาติแห่งนี้ยังมีความจำเป็นจะต้องลงมือ กระตุ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหรือไม่ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 22.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,737.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

จีน ชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เผยว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศ ลดลงจากร้อยละ 2.0 ในเดือนสิงหาคม เหลือ ร้อยละ 1.9 ในเดือนกันยายน ขณะที่ยอดการนำเข้า แม้ว่ายังอ่อนแอ แต่ก็เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาเล็กน้อยร้อยละ 2.4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (16/10/2555)

คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,737.60 USDต่อออนซ์ ลดลง 22.10 USDต่ออออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,729.70 - 1,755.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดลดลงต่อเนื่อง จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ได้แก่ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.1% มากกว่าคาดการณ์ที่ 0.7% ทำให้คาดว่า จะมีการใช้มาตรการ QE3 ของสหรัฐอย่างจำกัด นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของจีนที่อยู่ในระดับต่ำ สำหรับในสัปดาห์นี้ตลาดจับตามองข่าวจากทางยุโรป เช่น การที่สเปนจะขอความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เมื่อใด โดยตลาดคาดว่าถ้าสเปนขอความช่วยเหลือจะเป็นประเด็นบวกต่อค่าเงินยูโรและราคาทองคำ ด้วยความคาดหวังนี้ทำให้ค่าเงินยูโรยังทรงตัวและไม่มีการขายออกมา นอกจากนี้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้จะมีค่อนข้างมาก และตลาดจะจับตาดูว่าจะออกมาดีกว่าเดิมหรือดีกว่าคาดอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าออกมาดีจะมีผลในด้านลบต่อราคาทองคำ สำหรับในเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,736 ภาพทางเทคนิคในรายสัปดาห์ยังกดดันราคาทองคำ และ ให้มีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,720/1,710 มีแนวต้านบริเวณ 1,745/ 1,750 ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,738 ลงมา และทำ Low ใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นเป็นลบและอ่อนตัวลงต่อ แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น ลดการถือสถานะ Long ป้องกันความเสี่ยง ถ้าหากมีการดีดตัวขึ้นบริเวณ 1,745 — 1,750 นักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมบริเวณ 1,700 และถัดไปบริเวณ 1,660 คาดว่าในสัปดาห์นี้มีกรอบความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,700 — 1,760

 

Spot Gold

 

Technical Analysis

 

ภาพกราฟในรายวันราคายังอ่อนตัวลงมาต่อเนื่องและมีการทำ low ใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม ส่วนการดีดกลับเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แสดงแนวโน้มอาจลงต่อได้อีก ภาพทางเทคนิคในรายสัปดาห์ยังคงกดดันราคาทองคำ หลังจากที่ Stochastic ส่งสัญญาณเตือนมานาน จากการที่เส้น %K ตัดเส้น %D ลงมาทำให้เกิดแรงขาย และเป็นช่วงพักฐาน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,720/1,710 มีแนวต้านบริเวณ 1,745/ 1,750นักลงทุนระยะสั้น ลดการถือสถานะ Long ป้องกันความเสี่ยง ในช่วงการดีดตัวขึ้นบริเวณ 1,745 — 1,750 เพราะอาจเป็นการดีดขึ้นเพื่อลงต่อ นักลงทุนระยะกลางทยอยซื้อสะสมบริเวณ 1,700 และถัดไปบริเวณ 1,660 คาดว่าในสัปดาห์นี้มีกรอบความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,700 — 1,760

 

Key Point in Precious Market

 

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง ( - ) รมว.คลังยูโรโซนออกมากล่าวว่าสเปนไม่ต้องการเงินช่วยเหลือ ( - ) ความวิตกเกี่ยวกับการใช้ QE3 อย่างจำกัด ( - ) ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐร่วงลงต่ำสุดรอบ 4 ปี ( - ) ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ( - ) การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ( - )

 

- ประเด็นที่ต้อง 15 — 26 ต.ค. คณะทำงานของ IMF ได้เตรียมประเมินภาคธนาคารของสเปนภายใต้ความช่วยเหลือวงเงิน 1 แสนล้านยูโร โดยจะมีการเดินทางไปยังสเปนระหว่างวันที่ 15-26 ต.ค.นี้เพื่อหารือเกี่ยวภาคการธนาคารและความช่วยเหลือทางเทคนิค 18 — 19 ต.ค. EU Summit 23 — 24 ต.ค. การประชุมเฟด

 

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนส.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. วันพุธ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย. แนวโน้มธุรกิจเดือนต.ค. วันศุกร์ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

 

- SPDR ชายทองคำออก 6.63 ตัน ถือจำนวน 1,333.89 ตัน

 

Spot Silver

 

ราคาโลหะเงินปิดที่ 32.74 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.55 — 33.50 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายออก 9.04 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,885.54ตัน ภาพกราฟในรายวัน ราคาอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และมีการดีดกลับเพียงเล็กน้อยส่งสัญญาณการอ่อนตัวลงต่อได้อีก คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 32.2/32.0 โดยมีแนวต้านบริเวณ 33.0/33.5 แนะนำนักลงทุนปิดสถานะ Long ป้องกันความเสี่ยงในช่วงดีดตัวขึ้นบริเวณ 33.0

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 30.68/70 ทรงตัวทิศทางเดียวกับภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 30.60-30.80 (16/10/2555)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.68/70 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.68/70 บาท/ดอลลาร์

 

สาเหตุที่เงินบาททรงตัวในเช้านี้ถือว่าสอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากรอความชัดเจนเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สเปนและกรีซ ทำให้ทุกสกุลปรับตัวในช่วงแคบๆในเช้านี้

 

โดยค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเช้าวันนี้ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2954/2955 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.80/84 เยน/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้จะอยู่ในกรอบระหว่าง 30.60-30.80 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งนอกจากจะให้รอติดตามประเด็นทางยูโรโซนตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังต้องติดตามผลประกอบการของภาคเอกชนของสหรัฐฯ รวมถึงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐประจำสัปดาห์ โดยวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของต่างชาติเดือนส.ค., ธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนก.ย. และ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures (16/10/2555)

ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ทองร่วงหลังยอดค้าปลีกสหรัฐดีกว่าคาด

 

- SPDR ถือทองลดลง 6.63 ตัน

 

- ซื้อเก็งกำไรที่แนวรับ 1,725-1,730 ดอลลาร์

 

- ราคาทองคำและราคาโลหะเงินปรับฐานลงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนต่างประเมินว่าธนาคารกลางของสหรัฐอาจยุติการผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าเดิม หลังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับรายงานอัตราเงินเฟ้อของจีนที่เริ่มทรงตัว จนทำให้ความต้องการถือทองป้องกันเงินเฟ้อมีน้อยลง

 

- ราคาทองคำปรับฐานลงแรงหลังมีรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนกันยายนซึ่งออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมายอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ในขณะที่ผลสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐประเมินว่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 0.8% นักลงทุนจึงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจยุติการผ่อนคลายทางการเงินเร็วขึ้น โดยในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวมแล้วออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน แต่นักลงทุนบางส่วนได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นผลจากประเด็นการเมืองของสหรัฐ ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน

 

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่าเงินเฟ้อเดือนกันยายนขยายตัวขึ้น 1.9% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แต่เป็นการขยายตัวในระดับที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า และนอกจากรายงานอัตราเงินเฟ้อแล้วตลาดยังรอติดตามรายงานจีดีพีไตรมาส 3 ของจีน รวมทั้งการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปนในวันเดียวกัน ส่วนในระยะสั้นคาดว่าราคาทองจะยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด และคาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวของราคาทองมีกรอบค่อนข้างจำกัด

 

- ราคาทองปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 1,730 ดอลลาร์ จึงคาดว่าอาจมีการดีดตัวในระยะสั้นเกิดขึ้น แต่หากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณนี้ได้ อาจจะมีแรงขายกลับออกมามาก จนทำให้ราคาทองปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ต่อไป โดยในระหว่างวันมีแนวต้านอยู่ที่ 1,745-1,750 ดอลลาร์ หากราคาทองกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านนี้ได้ ก็จะเกิดเป็นสัญญาณซื้อยืนยันทิศทางการฟื้นตัวที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อไป ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าอาจเริ่มมีการดีดตัวกลับ หลังจากวานนี้ปรับฐานลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 32.6 ดอลลาร์ และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 33.0-33.2 ดอลลาร์ ซึ่งยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.55

 

Close chg. Support Resistance

 

25,550 -290 25,400/25,340 25,600/25,750

 

ราคาทองอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ1,735 ดอลลาร์ แต่ยังสามารถประคองตัวเหนือจุดปิดสถานะตัดขาดทุนสำหรับการเก็งกำไรฝั่งซื้อบริเวณ 1,725 ดอลลาร์ ได้ จึงคาดว่าในระยะสั้นจะมีการดีดตัวกลับ โดยมีแนวต้านสำหรับปิดสถานะลดความเสี่ยงอยู่ที่บริเวณ 1,750-1,755 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.55

 

Close chg. Support Resistance

 

1,026 -10 1,007-1,010/1,000 1,030/1,045

 

ราคาโลหะปรับฐานลงสู่จุดปิดสถานะตัดขาดทุนการถือครองฝั่งซื้อบริเวณ 32.60 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง ด้วยราคาที่ปรับฐานลงมาแรงติดต่อกัน 2 วัน คาดว่าจะมีการดีดตัวทางเทคนิค โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 33.2 และ 33.5-33.6 ดอลลาร์ หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านหลังขึ้นไปได้ ควรปิดสถานะซื้อเพื่อลดความเสี่ยง หรืออาจเลือกเก็งกำไรฝั่งขายจากการปรับฐานที่ยังมีแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อไป

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานเฟด ปกป้องนโยบาย QE(16/10/2555)

ประธานเฟด ออกมาปกป้องนโยบายคิวอี ระบุ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ขณะที่ IMF เตือน เงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่จุดชนวนฟองสบู่สินทรัพย์

 

 

 

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ก็ออกมาเตือนเมื่อวันอาทิตย์เกี่ยวกับปัญหาฟองสบู่สินทรัพย์ของประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยบอกว่า นโยบายการเงินของประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศน่าจะทำให้เกิดกระแสเงินทุนมหาศาลและผันผวนไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาฟองสบู่สินทรัพย์ และทำให้เกิดความไม่สมดุลทางการเงิน

 

ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำมาหลายปี พร้อมกับอัดฉีดเงินเข้าระบบประมาณ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ธนาคารกลางของยุโรปและญี่ปุ่นก็ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเช่นกัน ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่า มาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะของสหรัฐ ได้กดให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่

 

แต่เมื่อวานนี้ นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานเฟด ได้พูดในที่ประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ที่กรุงโตเกียว ว่า มาตรการของเฟด และธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เป็นการช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยมาตรการของเฟดนอกจากช่วยทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว//เพิ่มกำลังซื้อแล้ว ก็ยังช่วยหนุนเศรษฐกิจโลกด้วย พร้อมกับบอกว่า ยังไม่ชัดเจนว่า นโยบายของประเทศพัฒนาแล้วจะส่งผลเสียต่อประเทศตลาดเกิดใหม่

 

นอกจากนี้ นายเบอร์นันกี้ ยังได้เรียกร้องให้ประเทศตลาดเกิดใหม่ปล่อยให้สกุลเงินท้องถิ่นแข็งค่าขึ้น โดยบอกว่า การแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าไม่มีเสถียรภาพ

 

พร้อมกับบอกว่า ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่น จะต้องมีการใช้นโยบายการเงินแบบมีอิสระเต็มที่ ควบคู่กับนโยบายการคลัง เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

 

ที่มา : money channel (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

งัดคิวอี3สู้หยวน มะกันก่อชนวนสงครามค่าเงินโลก (16/10/2555)

ถือเป็นวาทะโต้ตอบค่อนข้างดุเดือดพอสมควรระหว่าง คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และ เบน เบอร์แนนคี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในประเด็นแนวคิดเรื่องนโยบายผ่อนปรนทางการเงิน (คิวอี) ที่สหรัฐ และบรรดาประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายนำออกมาใช้อยู่ในขณะนี้

 

เพราะสำหรับฟากไอเอ็มเอฟ สารพัดมาตรการคิวอีระลอกใหม่ รวมถึงคิวอีรอบที่ 3 จากสหรัฐ ที่บรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกขนานนามว่าเป็น“คิวอี อินฟีนิตี” เนื่องจากเป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบเดือนละ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่จำกัดระยะเวลาที่แน่นอน กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างมาก

 

ไล่เรียงตั้งแต่ การไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติมหาศาล ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้นกระทบส่งออก และมีแนวโน้มจะก่อปัญหาฟองสบู่สินทรัพย์ให้ร้อนแรงเกินไป

 

ทว่า สำหรับฟากเฟด โดยประธานเบอร์แนนคีกลับโดดออกมาปกป้องมาตรการคิวอีเต็มที่ ด้วยเหตุผลที่ว่านโยบายผ่อนปรนที่ทำให้มีปริมาณเงินนับล้านล้านเหรียญสหรัฐไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่เพียงจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมอีกด้วย

 

เพราะนโยบายที่มุ่งลดปัญหาการว่างงานและสร้างเสถียรภาพด้านราคา จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการเติบโตของสหรัฐซึ่งท้ายที่สุดจะมีผลสนับสนุนเศรษฐกิจโลกไปในที่สุด

 

แม้ผลลัพธ์จากมาตรการผ่อนปรนนโยบายจะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน แต่การใช้มาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องได้ส่งสัญญาณอันตรายแน่ชัดให้นักวิเคราะห์นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์หวั่นใจเรียบร้อยแล้ว

 

และสัญญาณไม่สู้ดีที่ว่า คือแนวโน้มการปะทุขึ้นมาอีกรอบของสงครามค่าเงิน โดยนักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยเมลลอนในสังกัดแบงก์ออฟนิวยอร์ก ได้ออกโรงเตือนเพียงไม่นานหลังจากที่เฟดประกาศใช้คิวอี 3 ว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้เกิดสงครามค่าเงินอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน จะหวนกลับมาใช้นโยบายควบคุมเงินทุนขนานใหญ่กันอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ เมื่อเอ่ยถึงสงครามค่าเงิน คำจำกัดความสั้น ง่าย และได้ใจความ คือ การที่บรรดาประเทศต่างๆ ทั่วโลกแข่งขันกันลดค่าเงินเพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออกและลดการนำเข้า ซึ่งผลกระทบไม่เพียงแต่จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นๆ อ่อนลงอย่างฮวบฮาบจนสร้างความได้เปรียบในภาคการส่งออกเท่านั้น แต่ยังบีบให้หลายประเทศจำต้องใช้นโยบายกีดกัน สกัดการขาดดุลและชดเชยความเสียเปรียบที่ประเทศตนเองได้รับ

 

กุยโด มันเตกา รัฐมนตรีคลังบราซิล หนึ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือที่เรียกกันว่า บริกส์ กล่าวเตือนในระหว่างการประชุมไอเอ็มเอฟที่กรุงโตเกียวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เมื่อตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายไม่สามารถทนทานต่อกระแสทุนขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงและการแข็งค่าของค่าเงินที่มีผลมาจากนโยบายทุ่มเงินของบรรดาประเทศพัฒนาแล้วอีกต่อไป เมื่อนั้นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากงัดเอาทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตัวเองจากปัญหาทุนจากสหรัฐมาใช้

 

สำหรับศูนย์กลางของสงครามค่าเงินในครั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ทั่วโลกต่างเห็นตรงกันว่าคงหนีไม่พ้นการต่อสู้ห้ำหั่นระหว่างสองชาติมหาอำนาจหลักของโลกระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นสำคัญ

 

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์จากอีแกน-โจนส์ หนึ่งในบริษัทจัดอันดับในสหรัฐ ซึ่งเห็นว่าคิวอี 3 ในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งช่วยลดหนี้สาธารณะของประเทศแต่จะลดมูลค่าของสกุลเงินเหรียญสหรัฐเสียมากกว่า ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นแล้วยังช่วยให้ภาคการส่งออกของสหรัฐขยายตัว และเป็นตัวดึงดูดภาคการผลิตให้หวนกลับคืนสู่ประเทศ

 

ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจการค้าของสหรัฐประสบกับภาวะขาดดุลมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวน ทำให้บรรดาอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ของสหรัฐแห่แหนไหลออกนอกประเทศไปอย่างต่อเนื่อง

 

แต่การที่สกุลเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหยวน ทำให้บรรดาผู้ประกอบการขนาดใหญ่ของสหรัฐราว 48% จากการสำรวจของบอสตัน คอลซัลติง กรุ๊ป (บีซีจี) คิดที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนกลับบ้านเกิด เพราะเริ่มมองเห็นแล้วว่าการผลิตในจีนกับการผลิตในสหรัฐมีต้นทุนส่วนต่างที่ไม่แตกต่างกันมากนัก และเผลอๆ อาจจะมีมากกว่า เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น

 

พร้อมกันนี้ รายงานจากบีซีจี ยังระบุชัดว่า ต้นทุนการผลิตในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงค่าจ้าง มีแนวโน้มจะปรับลดลงเรื่อยๆ โดยภายในปี 2558 ต้นทุนการผลิตของสหรัฐจะถูกกว่าอังกฤษ 8% ถูกกว่าฝรั่งเศสและเยอรมนี 15% ถูกกว่าญี่ปุ่น 21% และถูกกว่าอิตาลี 22%

 

เรียกได้ว่า การมุ่งกดค่าเงินเหรียญสหรัฐให้อ่อนลงในครั้งนี้ หวังผลให้เป็นยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐให้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างงานเพื่อให้เกิดการใช้จ่าย

 

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสหรัฐที่ส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น โดยเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ที่สหรัฐประกาศใช้คิวอี 3 รอบใหม่ ค่าเงินหยวนพุ่งแข็งค่าทุบสถิติสูงสุดในรอบปีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ย. โดยอยู่ที่ 6.2849 หยวนต่อเหรียญสหรัฐ ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนไม่อาจอดรนทนได้อีกเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ตามติดเศรษฐกิจของมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง ต่างเห็นตรงกันว่า หากเป็นช่วง2-3 ปีก่อนหน้านี้ เงินหยวนที่แข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐย่อมเป็นสิ่งที่จีนยอมรับได้อย่างไม่มีปัญหา เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศที่ถีบตัวสูงลิ่วทุบสถิติ

 

ทว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจของจีนที่ลดความร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ยืนยันได้จากการที่เวิลด์แบงก์ปรับลดคาดการณ์ของจีนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 7.7% จากเดิม 8.1% เช่นเดียวกับไอเอ็มเอฟ ที่ลดคาดการณ์จีดีพีของจีนลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8% จาก 8.2% โดยที่บรรดาตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนเอง ทั้งในภาคการผลิต การบริการ และการส่งออก ต่างก็เผชิญภาวะซบเซาลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 2–3 ในปี 2555 นี้ จนทำให้นักลงทุนต่างเกรงว่าอาจเกิดภาวะดิ่งแรง (ฮาร์ดแลนดิง) ส่งผลให้จีนไม่อาจอดทนกับค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นจนกระทบกับภาคการส่งออกหนึ่งในหัวใจหลักของภาคเศรษฐกิจของประเทศตนเองได้

 

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า มาตรการคิวอี 3 ของสหรัฐ คือยาพิษชั้นดีสำหรับเศรษฐกิจของจีนในขณะนี้

 

และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักนิด หากสถานการณ์นับต่อจากนี้ที่จีนจะหันมาดำเนินมาตรการแทรกแซงเงินหยวนบ้าง หลังจากที่ออกมายืนยันว่ารัฐบาลจีนดำเนินมาตรการปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อกล่าวหาของสหรัฐที่โจมตีว่าจีนแทรกแซงค่าเงินหยวนให้อ่อนค่ากับความเป็นจริงในตลาด จนทำให้รัฐบาลแดนมังกรได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐอย่างมาก

 

โจวเสี่ยวฉาว ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า อัตราแลกเปลี่ยน อัตราแลกเปลี่ยนทันที และอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตของสกุลเงินหยวนในปัจจุบันถือได้ว่าเข้าใกล้จุดสมดุลแล้ว โดยนับตั้งแต่ปี 2548 เงินหยวนแข็งค่าขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเหรียญสหรัฐ พร้อมย้ำชัดว่าที่ผ่านมาจีนเดินหน้าปฏิรูปภาคการเงินและระบบตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งต่างเห็นพ้องตรงกันว่า เมื่อสหรัฐเลือกอัดยาแรงกดค่าเงินเหรียญสหรัฐให้ต่ำ อีกทั้งยังเดินหน้าคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำแบบไม่มีกำหนด จีนก็ย่อมมีทางเลือกเหลือไม่มากนัก นอกจากงัดมาตรการหลากหลายขึ้นมารักษาระดับค่าเงินหยวน

 

หนังสือพิมพ์วอลสตรีต เจอร์นัล ระบุชัดว่า ค่าเงินหยวนต่อเหรียญสหรัฐแทบไม่ขยับขึ้นในปีนี้ และผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งต่างคาดว่า ค่าเงินหยวนจีนจะทรงตัวที่ระดับเดิมต่อไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า ก่อนจะแข็งค่าขึ้นไม่ถึง 1%

 

ทั้งนี้ ผลสำรวจข้างต้นสอดรับกับความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน เนื่องจากการได้เปรียบดุลบัญชีเดินสะพัดที่หดตัวลงและการเติบโตอย่างอ่อนแรง ไม่เพียงกดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่ากว่าความเป็นจริงอยู่แล้ว แต่ยังทำให้การปล่อยเงินหยวนแข็งค่าไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้กำหนดนโยบายจีนอีกด้วย

 

นอกจากนี้ การที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าและค่าเงินหยวนซบเซา ยังส่งผลต่อค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียให้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องการให้ค่าเงินอ่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

เรียกได้ว่า ศึกหนักของเศรษฐกิจโลกต่อจากนี้ก็คือสงครามค่าเงิน ที่นานาประเทศจะแข่งขันงัดมาตรการเพื่อทำให้ค่าเงินอ่อนลง เหมือนที่รัฐมนตรีคลังบราซิลกล่าวเตือนไว้ว่า “สงครามค่าเงินรังแต่จะทำให้เศรษฐกิจโลกต้องพบกับความยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น”

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 16 ตุลาคม 2555)

 

สรุปหัวข้อข่าวต่างๆๆ

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 30.68/70 ทรงตัวทิศทางเดียวกับภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 30.60-30.80 (16/10/2555)

แนะขุนคลังเยอรมันใช้บทเรียนต้มยำกุ้งแก้วิกฤตยุโรป(16/10/2555)

ก.ย.ราคานำเข้าของเกาหลีใต้อ่อนตัวลง 2.4% (16/10/2555)

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (16/10/2555)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์(16/10/2555)

เงินบาทเปิด 30.68/70 ทรงตัวทิศทางเดียวกับภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 30.60-30.80 (16/10/2555)

ไออีเอคาด ราคาน้ำมันโลกจะทยอยปรับลดลงในช่วง 5 ปีข้างหน้า (16/10/2555)

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures (16/10/2555)

OECDแนะนำให้สเปนขอความช่วยเหลือจากอีซีบีให้เริ่มดำเนินการเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล (16/10/2555)

สหรัฐขานรับอียูประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน (16/10/2555)

ก.ย. เงินเฟ้ออินเดียขยายตัวแตะ 7.8%(16/10/2555)

ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 16,100 HKD/tael (16/10/2555)

กสิกรฯคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าอยู่ในกรอบ 30.60-30.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาผลประชุม EU summit (16/10/2555)

ที่ประชุมอาเซมหนุนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ-การคลัง รับความผันผวนตลาดเงิน (16/10/2555)

นักลงทุนย้ายฐานลงทุนในตลาดหุ้น ฉุดทองคำนิวยอร์กปิดร่วง 22.1 ดอลล์ (16/10/2555)

น้ำมันดิบปิดตลาดสวนทางความตึงเครียด เหลือ91.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (16/10/2555)

ประธานเฟด ปกป้องนโยบาย QE(16/10/2555)

ไอเอ็มเอฟอัด'คิวอี3'ทำโลกเดือดร้อน ก่อฟองสบู่สินทรัพย์-เศรษฐกิจร้อนเกิน (16/10/2555)

คาด สเปนขอเงินช่วยเหลือจากยูโรโซนเดือนหน้า (16/10/2555)

สเปนคาด จีดีพีสเปนในไตรมาส 3 หดตัว 0.4%(16/10/2555)

ชี้อีก3ปีบริโภคจีนแกร่งช่วยเศรษฐกิจโลกได้(16/10/2555)

บาทเปิด30.68/70ทรงตัว (16/10/2555)

ภาวะยาง AFET: ราคาน้ำมัน-ความกังวลภาคธุรกิจสหรัฐ-ศก.โลกซบเซากดดันราคายางปรับตัวลดลง(16/10/2555)

เฟดเผยการผลิตรัฐนิวยอร์คหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในต.ค(16/10/2555)

งัดคิวอี3สู้หยวน มะกันก่อชนวนสงครามค่าเงินโลก (16/10/2555)

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์ขยับใกล้ระดับสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์เทียบเยน (16/10/2555)

แนวโน้มหุ้นรีบาวน์ตามภูมิภาค (16/10/2555)

ผลกระทบ​เศรษฐกิจ​โลกต่อสถาน​การณ์ยางพารา​ในประ​เทศ​ไทย (16/10/2555)

ยอดค้าปลีกสหรัฐเพิ่มเกินคาด 1.1% ในเดือน ก.ย. (16/10/2555)

จีนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือน ก.ย. เหตุเศรษฐกิจย่ำแย่ (16/10/2555)

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ หลังยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัวดีเกินคาด (16/10/2555)

เฟดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมของรัฐนิวยอร์กหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 (16/10/2555)

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 - 19 ต.ค. 55) (16/10/2555)

ภาคธุรกิจญี่ปุ่นกระทบหนักจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับจีน (16/10/2555)

เงินเยนร่วง หลังยอดค้าปลีกสหรัฐแข็งแกร่งสกัดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย (16/10/2555)

นักเศรษฐศาสตร์ มอง ศก.ไทยยังขาลง (16/10/2555)

เผยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเดือนส.ค.แย่กว่าที่คิด ชี้หนี้ยุโรป-ศก.US-ข้อพิพาทกับจีนเป็นตัวการ (16/10/2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*ผลการประมูล 3G รอบแรกเคาะราคา 6 จาก 9 สล็อต ที่ 4,500 ลบ./สล็อต

 

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยผลการประมูลใบอนุญาตบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1GHz รอบที่หนึ่ง มีผู้ประกอบการ 3 ราย ยื่นประมูล 6 สล็อต จากทั้งหมด 9 สล็อต โดยมีสล็อตที่ยื่นประมูลซ้ำกัน 2 สล็อต โดยทุกรายเสนอราคาเริ่มต้นประมูลที่ 4,500 ล้านบาท/สล็อต

ทั้งนี้ - สล็อต A มีผู้เสนอราคา 1 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

- สล็อต B ไม่มีผู้เสนอราคา

- สล็อต C ไม่มีผู้เสนอราคา

- สล็อต D มีผู้เสนอราคา 1 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

- สล็อต E มีผู้เสนอราคา 2 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

- สล็อต F ไม่มีผู้เสนอราคา

- สล็อต G มีผู้เสนอราคา 1 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

- สล็อต H มีผู้เสนอราคา 2 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

- สล็อต I มีผู้เสนอราคา 1 ราย ที่ 4,500 ล้านบาท

 

ตลท.เตือนผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวัง-ติดตามข่าวสารประมูล 3G วันนี้

 

 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประมูลใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ 2.1GHz (3G) จากการที่บริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียน 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัทย่อย

 

ของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด บริษัทย่อยของบมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC และบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด บริษัทย่อยของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือTRUE ได้แจ้งการผ่านคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม เคลื่อนที่ สากลย่าน 2.1 GHz (3G) ต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั้น เนื่องจากตามขั้นตอนการเข้าร่วมประมูลใบอนุญาต 3G ในวันที่ 16 ตุลาคม 2555 เป็นวันเริ่มประมูลใบอนุญาตดังกล่าว

 

ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์และติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลการประมูลใบอนุญาต 3G ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานทางการ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวต่อไป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์แข็งค่าเหนือ 78 เยน รับข้อมูลค้าปลีกสหรัฐสดใส

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าเหนือระดับ 78 เยนอย่างมากในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ภายหลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด และสัญญาณเตือนจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ที่ว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นยังคงลดลงอย่างช้าๆ

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 78.81-78.85 เยน เมื่อเทียบกับ 78.60-78.70 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 78.57-78.58 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้

ขณะที่ยูโรอยู่ที่ 1.2961-1.2964 ดอลลาร์ และ 102.15-102.18 เยนเมื่อเทียบกับ 1.2944-1.2954 ดอลลาร์ และ 101.80-101.90 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.2947-2948 ดอลลาร์และ 101.73-101.77 เยนที่ตลาดโตเกียวเย็นวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

ดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่งตลอดการซื้อขายในช่วงเช้าเมื่อเทียบเยน ซึ่งเป็นการแข็งค่าต่อเนื่องจากตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แตะ 412.94 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกันหลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนส.ค. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%

ข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐถือเป็นจัยล่าสุดที่สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่า

ดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบเยนโดยมีสาเหตุมาจากรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ต่อสภาวะทางการคลังของญี่ปุ่นซึ่งเปิดเผยวานนี้ว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นยังคงลดลงอย่างช้าๆ แม้ว่ารัฐสภาญี่ปุ่นได้ผ่านร่างกฎหมายการขึ้นภาษีการบริโภคทั่วประเทศก็ตาม

ดีลเลอร์กล่าวว่า นักลงทุนยังกำลังรอดูว่าการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะเปิดฉากในวันพฤหัสบดีนั้น จะนำไปสู่ความคืบหน้าการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้ของภูมิภาคที่น่าพอใจหรือไม่ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โปรตุเกสประท้วงต้านแผนงบประมาณจี้รบ.ลาออก

ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:50น.

 

โปรตุเกส เปิดเผยรายละเอียดงบประมาณ ปี 2013 มีผู้ประท้วงกว่า 2 พันคน รวมตัวหน้าสภา เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานว่า นายวิคเตอร์ กาสปาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโปรตุเกส ได้มีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงบประมาณรายจ่าย ในปี 2013 ต่อสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการจัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในปี 2012 เป็น 13.2% ในปีหน้า เพื่อทำให้ประเทศมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น หลังจากต้องกู้เงินมาจากสหภาพยุโรป สูงถึง 78 พันล้านยูโร ในปีนี้ และเชื่อว่าเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้รัฐบาลมีเงินเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจได้

 

พร้อมกันนี้ ในแผนงบประมาณดังกล่าว ยังได้มีการประกาศลดค่าใช้จ่าย 2.7 พันล้านยูโร ในปีหน้า รวมถึงจะมีการปลดพนักงานของรัฐ กว่า 600,000 คน เพื่อลดค่าใช้จ่าย และมั่นใจว่า งบประมาณดังกล่าว จะช่วยให้ โปรตุเกส เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณได้ 4.5% ในปี 2013 ซึ่งจะทำให้การขาดดุลต่ำกว่าเป้าหมายที่สหภาพยุโรปตั้งไว้ แม้ว่า อัตราการว่างงาน สูงกว่า 15% และคาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 16.4% ในปีหน้าก็ตาม

 

ขณะที่ นายอันโตนิโอ เซกูโร ผู้นำพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในสภา กล่าวว่า ร่างงบประมาณดังกล่าว เปรียบเหมือนระเบิดปรมณูทางการคลัง ซึ่งจะทำให้ประเทศเกิดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ ระหว่างที่มีการเปิดเผยรายละเอียดงบประมาณ ปี 2013 ได้มีประชาชน กว่า 2 พันคน ได้รวมตัวประท้วงแผนดังกล่าวที่หน้าสภา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล ลาออก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะก่อนหน้านี้มีการปะทะกับกลุ่มม็อบมาแล้วหลายครั้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"ปปช."จ่อเรียก"มงคลกิตติ์"แจงไซฟ่อน1.6หมื่นล.ไปฮ่องกง

 

 

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงข่าวนักการเมืองไทยกว่า 30 คนขนเงินมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาทไปไซฟ่อนที่ฮ่องกงและถูก ป.ป.ช. ฮ่องกง อายัดเงิน ว่า ทาง ป.ป.ช. ไทย ไม่เคยได้รับทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย ทาง ป.ป.ช. ฮ่องกงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฮ่องกง ไม่เคยประสานหรือให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. ไทย ในเรื่องนี้เลย ซึ่งประเทศไทยและจีนมีเอ็มโอยูข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตและข้อมูลอื่นๆและฮ่องกงก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน และที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ ( ภชต. ) ก็ไม่เคยมายื่นเรื่องให้ ปปช. ตรวจสอบเรื่องนี้

 

" เราไม่รู้เหมือนกันว่าที่นายมงคลกิตติ์ อ้างว่ามีข้อมูลนักการเมืองไทยไซฟ่อนเงินที่ฮ่องกงเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ดังนั้นเราจะผลีผลามลงไปตรวจสอบเองก็กระไรอยู่ อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจ ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค. ) ทางคณะกรรรมการ ป.ป.ช. อาจมีการหารือกันว่า จะมีการเรียกนายมงคลกิตติ์ มาสอบถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรหรือไม่ ถึงแม้ว่านายมงคลกิตติ์ ไม่ได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ ป.ป.ช. ก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเรียกนายมงคลกิตติ์ มาสอบถามได้" นายวิชา กล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...