ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

จวก "แรงเงา" แพร่ฉากปล่อยคลิปฉาว ผิดกม.แต่ไม่เตือนคนดู

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2555

เตือนปล่อยคลิปฉาวเลียนแบบละครดัง "แรงเงา" ผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์และอาญา เอ็นจีโอจวกผลิตละครชูตัวเอกทำความผิด ทั้งฉากนางเอกปล่อยคลิป พระเอกข่มขืนนางเอก แต่กลายเป็นสิ่งชอบธรรม แถมไม่มีอักษรเตือนว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ส่อกระตุ้นพฤติกรรมเลียนแบบ เผย ชง พ.ร.บ.กองทุนสื่อปลอดภัยเข้าสภา หวังสร้างเด็กไทยรู้เท่าทันสื่อ

 

วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมฮิป กทม. น.ส.ศรีดา ตันทอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวระหว่างการจัดเสวนา "สงครามคลิปในแรงเงา...เทรนด์อันตรายกับชีวิตจริงที่ต้องเท่าทัน" ซึ่งจัดโดยมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ร่วมกับ เครือข่ายสื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว ว่า ละครหลายเรื่องมักมีการนำเสนอให้ตัวละครเอกกระทำในสิ่งที่ผิด อย่างที่เห็นได้ชัดเจนตอนนี้คือละครเรื่องแรงเงา ที่มีการนำเสนอเรื่องของการปล่อยคลิปเพื่อประจานแกล้งกัน มีการส่งต่อ และการเจาะระบบ ซึ่งในความเป็นจริงถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ในละครไม่ได้มีการนำเสนอว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิด เพราะไม่ใช่จุดขายของเรื่อง หากตัวละครมีการฟ้องร้องเรื่องการแพร่คลิป เรื่องก็จะจบไปอีกแบบหนึ่งทันที การนำเสนอแบบนี้จะทำให้สังคมรับรู้ว่า พฤติกรรมในละครเป็นสิ่งที่ชอบธรรม เพราะถูกกระทำโดยนางเอกของเรื่อง

 

"อย่างบางฉากเมื่อผู้หญิงตบจะถูกผู้ชายจูบ หรือแม้แต่ฉากพระเอกข่มขืนนางเอก บทสรุปก็คือได้กัน คนดูก็เชียร์ แต่ในละครไม่มีการแจ้งความ ทำให้ละครกับชีวิตจริงนั้นต่างกัน กลายเป็นว่าละครให้ความบันเทิงอย่างเดียว แต่ไม่ให้ความรู้ประชาชนด้วยว่าการข่มขืนหรือการแพร่คลิปเป็นสิ่งผิดกฎหมาย" ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตฯ กล่าว

 

น.ส.ศรีดา กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมการเลียนแบบการปล่อยคลิปประจาน ส่งต่อ และเจาะระบบนั้น ขอยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายแน่นอน โดยผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งมาตรา 5 และ 7 การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ มาตรา 6 การเปิดเผยข้อมูลคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 การเผยแพร่เนื่อหาไม่เหมาะสม เช่น คลิปการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังผิดประมวลกฎหมายอาญาด้วย ทั้งมาตรา 322 ความผิดฐานเปิดเผยความลับ และมาตรา 328 ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นต้น ซึ่งการปล่อยคลิปประจานและส่งต่อนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งต่อคนที่เท่าไรก็มีความผิดเท่ากัน ส่วนผู้ถ่ายคลิปจะมีความผิดเพิ่มฐานเป็นผู้ผลิต แม้แต่การโพสต์หรือแชร์คลิปประจานลงในเฟซบุ๊กของตนเองก็มีความผิด เพราะมีผู้พบเห็นมากกว่า 2 คน ถือว่าเป็นการโฆษณาประจานเช่นกัน

 

"ผู้ผลิตละครควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย อาจมีการใส่เซนเซอร์ หรือขึ้นอักษรเตือนในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะสังคมมีกลุ่มคนหลายระดับ จึงต้องมีการนำเสนอเพื่อรองรับตรงนี้ด้วย ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลลูกในเรื่องการใช้สื่อและเทคโนโลยี เพราะปัญหาสังคมส่วนใหญ่เกิดจากการเลียนแบบสื่อ แม้ไม่ใช่กับทุกคน แต่ถ้าเนื้อหาสื่อไม่ดีก็สามารถกระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาทำไม่ดีได้ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาในเรื่องของจิตใจ เมื่อเจอสื่อกระตุ้นส่วนลึกก็จะเกิดการเลียนแบบขึ้นมา" น.ส.ศรีดา กล่าว

 

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า กรณีผู้ถูกกระทำหรือตกเป็นเหยื่อจากการใช้สื่อหรือคลิป แบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีทางเพศ เช่น คู่รักที่หลอกให้มีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายคลิปวีดิโอเอาไว้ หรือการแอบถ่ายในที่ทำงานหรือห้องน้ำ เพื่อนำมาคุกคามทางเพศหรือบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ และ 2.กรณีครอบครัว เช่น การนำคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์มาบังคับหรือขู่ประจานอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้หย่าร้างต่อกัน เป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 กรณีต่างเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ผู้ถูกกระทำบางรายหากหาทางออกไม่ได้ก็จะเกิดการทำร้ายตัวเองหรืออาจถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มี

 

นายจะเด็จ กล่าวอีกว่า สำหรับละครเรื่องแรงเงา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้คลิปเพื่อนำมาทำลายผู้อื่น แต่ไม่มีการนำเสนอว่าเป็นสิ่งที่ผิด ยิ่งเป็นสิ่งที่พูดกันในสังคมออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้เป็นกระแส เมื่อเด็กและเยาวชนเสพละครเหล่านี้ก็มักจะดูแค่ปลีกย่อย ดูเพื่อความสะใจ ไม่ได้ดูว่ารากปัญหาในละครคืออะไรจนส่งผลกระทบทั้งหมดกับตัวละคร สังคมจึงต้องตั้งคำถามเพื่อแก้ปัญหาและนำไปสู่ทางที่สร้างสรรค์ในเรื่องของการใช้สื่อ ซึ่งมองว่าการปฏิรูปสื่อน่าจะเป็นทางออกที่สามารถช่วยได้

 

ด้าน น.ส.เข็มพร วรุณราพันธ์ ผู้จัดการสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) กล่าวว่า บางฉากในละครไม่มีการขึ้นคำเตือนว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น ฉากข่มขืน ฉากการปล่อยคลิปประจาน การส่งต่อ เป็นต้น ที่สำคัญเมื่อละครจบแล้วแต่กระแสยังไม่จบแน่นอน เพราะสามารถนำไปผลิตซ้ำบนสังคมออนไลน์ได้ ดังนั้น ทุกคนจึงต้องมีการตื่นตัวต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว อาจจะต้องมีการปฏิรูปสื่อ โดยการจัดตั้งกองทุนสื่อปลอดภัยขึ้น ซึ่งจะเน้นการให้สร้างความรู้ความเข้าใจในการตื่นตัวต่อการรู้เท่าทันสื่อ เป็นทุนสนับสนุนการลงทุนการทำสื่อสร้างสรรค์ รวมไปถึงช่วยเยียวเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สื่อด้วย

 

น.ส.เข็มพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลก็มีการร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยกำลังอยู่ระหว่างการเข้าสภาในการเปิดประชุมสภาสมัยหน้า แต่ภาคประชาสังคมยังไม่เห็นด้วยกับบางมาตราของรัฐบาล จึงได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (ฉบับประชาชน) เข้าไปประกบ เพื่อให้ที่ประชุมสภาพิจารณาเปรียบเทียบเป็นรายข้อ ซึ่งขณะนี้ร่างดังกล่าวกำลังรอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม เพื่อนำร่างเข้าสู่ที่ประชุมสภาต่อไป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“รีพับลิกัน” เสนอรัฐลดรายจ่าย $1.2 ล้านล้านเลี่ยง “หน้าผาการคลัง” แต่ห้ามขึ้นภาษีคนรวย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2555 10:04 น.

 

เอเอฟพี - พรรครีพับลิกันเสนอแผนลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลครึ่งหนึ่งของแผนที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยเสนอ แต่ยังยืนกรานปฏิเสธมาตรการขึ้นภาษีบุคคลร่ำรวย วานนี้(3)

 

สมาชิกพรรครีพับลิกันโจมตีแผนของ โอบามา ว่า “ไม่สมดุลและไม่อิงความเป็นจริง” พร้อมเสนอให้รัฐบาลตัดลดรายจ่ายลง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายใน 10 ปี ซึ่งจะเป็นอุปสรรคใหญ่แก่โครงการประกันสุขภาพผู้สูงอายุหรือ “โอบามาแคร์” อย่างชัดเจน

 

ท่าทีของรีพับลิกันทำให้โอกาสในการประนีประนอมกับรัฐบาลยิ่งห่างไกลความจริงออกไป ในขณะที่อีก 4 สัปดาห์ข้างหน้าสหรัฐฯก็จะถึงขีดเส้นตายที่เรียกว่า “หน้าผาการคลัง” (fiscal cliff) ซึ่งก็คือมาตรการตัดรายจ่ายทั้งระบบและขึ้นภาษีอัตโนมัติ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า จะทำให้เศรษฐกิจเมืองลุงแซมเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

 

ขณะที่รีพับลิกันยินยอมให้รัฐบาลขยายเวลาลดหย่อนภาษีออกไปเพื่อบรรเทาผลกระทบของหน้าผาการคลัง แต่ก็ยืนยันว่า บรรดามหาเศรษฐีอเมริกันทั้งหลายต้องได้สิทธิ์นั้นด้วย ซึ่ง โอบามา ไม่ยอมรับ

 

ฝ่ายค้านยังทำเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของ โอบามา ที่ต้องการให้ปรับหรือเลื่อนการใช้มาตรการตัดลดรายจ่ายอัตโนมัติที่จะมีผลทันทีในวันที่ 1 มกราคมออกไปก่อน

 

จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำรีพับลิกันคนอื่นๆ ยื่นจดหมายปฏิเสธแผนของ โอบามา ซึ่งเสนอให้รัฐแสวงหารายได้เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ลดรายจ่ายลงเพียง 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประเด็นสำคัญคือขอให้ขึ้นภาษีครัวเรือนที่มีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป

 

“ด้วยสำนึกที่ดี เราไม่อาจเห็นชอบกับแนวทางเช่นนี้ ซึ่งไม่มีความสมดุลและไม่อิงกับความเป็นจริง” จดหมายของรีพับลิกัน ระบุ

 

ฝ่ายรีพับลิกันเสนอแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการลดรายจ่ายภาครัฐลงให้ได้ถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยครึ่งหนึ่งในนั้นจะดึงจากงบโครงการประกันสุขภาพเมดิแคร์โดยตรง

 

นอกจากนี้ รีพับลิกันยังเสนอแผน “ปฏิรูปภาษีเพื่อกระตุ้นการเติบโต” ซึ่งจะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยใช้มาตรการลดภาษี แต่ไปกระตุ้นรายได้โดยอุดช่องโหว่และยกเลิกสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีของบริษัทและครัวเรือนต่างๆ

 

วงเงินอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ที่เหลือนั้นจะได้จากการทบทวนวิธีวัดอัตราเงินเฟ้อจากดัชนีผู้บริโภค ซึ่งจะนำไปปรับการจ่ายเงินอุดหนุนในโครงการเมดิแคร์

 

ทำเนียบขาวออกมาวิจารณ์ข้อเสนอของรีพับลิกันว่า “ไม่มีอะไรใหม่ๆ ทั้งยังไม่ให้รายละเอียดว่าจะยกเลิกการลดหย่อนภาษีประเภทใด, จะอุดช่องโหว่เรื่องไหน หรือจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขอย่างไรบ้าง”

 

“แม้ท่านประธานาธิบดีจะต้องการประนีประนอมเพื่อจะบรรลุข้อตกลงที่มีความสมดุล และเชื่อว่าการประนีประนอมยังคงเป็นไปได้ในสภาคองเกรส แต่ท่านจะไม่ประนีประนอมในหลักความยุติธรรม รวมถึงการที่คนร่ำรวยจะต้องจ่ายภาษีมากขึ้น” แดน ฟีฟเฟอร์ โฆษกทำเนียบขาวระบุ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปรับตัวดีขึ้น Spanish Unemployment Change

 

Actual:74.30K

Forecast:90.50K

Previous:128.20K

Importance: Currency:EURSource Of Report:Gobierno de Espana (Release URL)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๊าค๊ะรบกวนถามหน่อยค่ะ หนูเหลือกระสุนนัดสุดท้ายที่จะซื้อทองแล้วจะเสี่ยงที่ราคา 24800 จะรับอยู่มั๊ยค๊ะ แล้วคืนนี้มีข่าวเกี่ยวกับราคาทองมั๊ยถ้ามีแล้วแนวโน้มจะเป็นบวกหรือลบกับราคาทองคะ ขอบคณค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รับไปแล้วเหมือนกัน 1702 ตะกี้ลำใย 50 แล้วยังไม่พอ ตอนนี้ย่ออีกแล้ว รอๆๆๆๆๆๆๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๊าค๊ะรบกวนถามหน่อยค่ะ หนูเหลือกระสุนนัดสุดท้ายที่จะซื้อทองแล้วจะเสี่ยงที่ราคา 24800 จะรับอยู่มั๊ยค๊ะ แล้วคืนนี้มีข่าวเกี่ยวกับราคาทองมั๊ยถ้ามีแล้วแนวโน้มจะเป็นบวกหรือลบกับราคาทองคะ ขอบคณค่ะ

คืนนี้ ยกความเด่นดังเด้งกระโดด ไปที่ฝั่งยุโรป ทั้งหมด ยังไงก็ยังทแม่งที่ค่าเงินดอลล์ลดค่า แต่ทองลง. ส่วนสาเหตุที่ราคาทองกระหน่ำลง 12 เหรียญ น่าจะมาจากขาประจำ มูดีส์ เจ้าเก่า เพราะเงื่อนเวลาไม่ตรงกันกับ ข่าวสหรัฐฯ ที่รู้ตั้งแต่เช้า แต่ตลาดฯ ไม่ขานรับ มาขานตอน เที่ยงวัน ซึ่งอยู่ในเวลาของอินเดีย

 

 

มูดีส์คงแนวโน้มเชิงลบภาคธนาคารของอินเดีย เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 ธันวาคม 2555 14:01:46 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้คงอันดับแนวโน้มเชิงลบแก่ภาคธนาคารของอินเดีย โดยให้เหตุผลในเรื่องของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

 

มูดีส์ได้คงอันดับแนวโน้มเชิงลบแก่ภาคธนาคารของอินเดียมาตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 และคาดว่า จะคงแนวโน้มดังกล่าวต่อไปในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า

 

ทั้งนี้ ธนาคารของอินเดียส่วนใหญ่ต่างรายงานยอดหนี้เสียที่พุ่งสูงขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงทำให้การชำระหนี้ของบริษัทต่างๆเป็นเรื่องที่ลำบาก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ส่วนกระสุนนัดสุดท้ายเก็บไว้ก่อนดีกว่าครับ ลุ้นเอาตัวที่ซื้อเข้ามาแล้ว น่าจะเพียงพอ ไงๆๆ ต้องมีนัดสุดท้ายสำรองเสมอ เพราะอนาคต ไม่ทราบ

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Moving westwards, bourses in Europe are swimming in a ‘sea of green’ at the moment, as risk appetite continues to drive prices higher. The EcoFin meeting remains the event of the day, as the docket for the euro bloc would not weight on the sentiment.

As of writing, the French CAC40 is leading the gains, 0.53%, followed by the IBEX35, 0.47% and the DAX, 0.16%.

 

มุมมองของยุโรป เสมือนว่ายน้ำในทะเลเขียว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

PPI (MoM) ของยูโร

Actual:0.1%

Forecast:-0.1%

Previous:0.2%

Importance: Currency:EURSource Of Report:Eurostat (Release URL)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**SET เจอแรงขายกด

 

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หุ้นไทยปิดลบ 0.21% โบรกฯมองขายทำกำไร หลังปรับขึ้นมาต่อเนื่อง

 

ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ลบ 0.21% ตามแรงขายนำหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน แบงก์ และขนส่ง ขณะที่มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และพาณิชย์

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า มีแรงขายทำกำไรหุ้นไทยในวันนี้ หลังจากที่ตลาดปรับขึ้นมาต่อเนื่อง 8 วันทำการแล้ว จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้หากต่างชาติยังซื้ออยู่ ทิศทางตลาดในระยะสั้นก็ยังมีโอกาสปรับขึ้น แม้ว่าในขณะนี้ระดับของค่าพี/อี เรโชจะสูงมากแล้วก็ตาม

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดลบ 2.86 จุด มาที่ 1,330.06 หลังปรับขึ้นสูงสุด ที่ 1,335.19 และต่ำสุดที่ 1,326.68 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 30,100.24 ล้านบาท

 

ขณะที่ SET50 ปิดลบ 2.58 จุด หรือ 0.29% มาที่ 901.85 และ SET100 ปิดลบ 5.13 จุด หรือ 0.26% มาที่ 1,984.31

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ลบ 0.40% มูลค่าซื้อขาย 16.97%, เทคโนโลยี บวก 0.02% มูลค่าซื้อขาย 16.50%, พลังงาน ลบ 0.54% มูลค่าซื้อขาย 15.32%, แบงก์ ลบ 0.54% มูลค่าซื้อขาย 11.72%, พาณิชย์ บวก 0.07% และขนส่ง ลบ 0.93%

 

"การที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงบ้างในวันนี้ เป็นการขายทำกำไร หลังจากที่ปรับขึ้น มาต่อเนื่อง 8 วันทำการแล้ว" นายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักวิเคราะห์เทคนิคและกลยุทธ์ ฝ่ายการลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าว

 

ช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย ช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้น แต่หุ้นกลุ่มหลักอย่าง พลังงาน และปิโตรเคมียังไม่ได้ปรับขึ้นมาก เหมือนกลุ่มอื่น ดังนั้นหากไม่มีปัจจัยลบเข้ามา แรงซื้อของต่างชาติอาจยังมีอยู่ ซึ่งคาดว่าอาจจะเข้าซื้อสองกลุ่มดังกล่าว

 

"ตอนนี้ตลาดมีพี/อีประมาณ 15 เท่าแล้ว ขณะที่ถ้าประเมินจากกำไรในปี 56 พี/อีฯจะอยู่ที่ 13 เท่า ก็ถือว่าสูง แต่ระยะสั้นหากต่างชาติยังซื้อ แนวโน้มก็ยังขึ้น"

 

หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

PTT บวก 2.00 บาท มาที่ 327.00 บาท

INTUCH บวก 0.75 บาท มาที่ 66.50 บาท

ADVANC ลบ 1.00 บาท มาที่ 219.00 บาท

PTTEP ลบ 3.00 บาท มาที่ 156.50 บาท

BLAND บวก 0.04 บาท มาที่ 1.31 บาท

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลังยุโรปมั่นใจกรีซซื้พันธบัตรคืนสำเร็จ ปูทางสู่การให้เงินช่วยเหลืองวดต่อไป

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 ธันวาคม 2555 17:30:00 น.

รัฐมนตรีคลังของยุโรปแสดงความมั่นใจว่า กรีซจะสามารถซื้อคืนพันธบัตรได้สำเร็จ ซึ่งการซื้อคืนพันธบัตรดังกล่าวถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสกัดวิกฤตหนี้ในประเทศ

 

กรีซได้เริ่มซื้อคืนพันธบัตรที่จะหมดอายุลงในปี 2566 - 2585 เมื่อวานนี้ โดยเสนอราคาที่สูงกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ เพื่อกระตุ้นความต้องการให้เป็นไปตามมาตรการลดหนี้สิน

 

ปิแอร์ มอสโควีซี รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมรมว.คลังยูโรโซนว่า ตนเองมั่นใจว่าการซื้อพันธบัตรจะเป็นไปด้วยดี และดูเหมือนว่าปัจจัยแวดล้อมต่างๆก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

 

ทั้งนี้ รัฐบาลของยุโรปต่างตั้งความหวังกับการซื้อคืนพันธบัตร เพื่อลดหนี้ของกรีซตามกลไกของตลาด ซึ่งจะปูทางไปสู่การให้เงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยรมว.คลังยุโรปมีกำหนดการประชุมในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เพื่อปล่อยเงินช่วยเหลืองวดต่อไป

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 4 ธ.ค. 55 (ภาคบ่าย)

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 4 ธันวาคม 2555 17:47:01 น.

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำปรับตัวลงระหว่างวันใกล้ระดับ US$ 1,700 สวนทางกับค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือ US$ 1.3070 จากการขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการของสเปนจำนวน 3.95 หมื่นล้านยูโร โดยเงินส่วนใหญ่จะนำไปช่วยเหลือภาคธนาคารที่อ่อนแอ 2.5 พันล้านยูโรสำหรับการเพิ่มทุนให้กับธนาคารบริหารหนี้เสีย Bad Bank ทำให้ความกังวลในภาคธนาคารลดลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเนื่องจากภาคการผลิคลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี อีกทั้งการประชุม Fiscal Cliff ยังคงไม่ชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีสหรัฐฯ เตรียมหารือกับตัวแทนสภาคอนเกรสผ่านทางโทรศัพท์ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงใกล้ระดับ 30.70 พรุ่งนี้ตลาดปิดทำการเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 1,348.83 ตัน คงที่

 

 

ปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด 15,535 สัญญา

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ประเด็นวิกฤติหนี้ในยุโรปเริ่มผ่อนคลายลงหลังศาลเยอรมนีอนุมัติการให้ความช่วยเหลือกรีซ พร้อมทั้งการขอรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากสเปน ทำให้ในระยะสั้นค่าเงินยูโรเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ประเด็น Fiscal Cliff ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดการลงทุนหลังนักการเมืองทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นขัดแย้งกันในการแก้ไขการเกิด Fiscal Cliff โดยเชื่อว่าจะยังคงไม่สามารถหาข้อตกลงได้ในเร็วนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นตามความเสี่ยงในตะวันออกกลางแต่เชื่อว่าปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดเนื่องจากการชะลอตัวด้าน Demand ที่ลดลง พรุ่งนี้ตลาดในประเทศปิดทำการ

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 30.67/69 อ่อนค่าจากช่วงเช้า นลท.หันซื้อทอง-ไร้ปัจจัยใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 ธันวาคม 2555 17:17:40 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.67/69 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 30.63/65 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในทองคำที่ปรับตัวลดลง และยังไม่มีปัจจัยใหม่

 

"วันนี้เงินบาทอ่อนค่าสวนทางกับยูโร มีข่าวมี flow เข้ามาลงทุนซื้อทอง" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ 82.01/04 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 82.10/15 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.3072/3074 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.3050/3054 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันที่ 6 ธ.ค.55 ยังคงอยู่ในกรอบเดิมระหว่าง 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์

 

"ถ้า flow หมดไป เงินบาทน่าจะกลับมาอยู่ช่วงต้นๆ ของ 30.60(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 4 ธันวาคม 2555 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 4 ธันวาคม 2555 17:26:27 น.

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 4 ธันวาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,699.30 — 1,717.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ12 อยู่ที่ 24,990 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 190 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,180 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ12 อยู่ที่ 1,028 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 2 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,030 บาท

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 4/12/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 6 ธันวาคม 2555

ราคาทองคำตลาดโลกหลุดแนวรับที่ระดับ 1,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางเทคนิค ส่งผลให้มีแรงขายตัดขาดทุนออกมา ซึ่งราคาดิ่งลงทะลุแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการดิ่งลงของราคาทองคำทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2555 ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์งบประมาณของสหรัฐกำลังทำให้นักลงทุนท่าทีระมัดระวังมากขึ้น โดยมีการขายทองคำออกมา ประกอบกระแสข่าวที่นักลงทุนเข้าลงทุนกองทุนหุ้นสหรัฐ จากความคาดหวังว่าถ้าหากนักการเมืองสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ fiscal cliff ได้สำเร็จ ตลาดหุ้นสหรัฐก็อาจจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปีหน้า โดยบริษัทอีพีเอฟอาร์ โกลบอลรายงานว่า นักลงทุนทุ่มเงินลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐในสัปดาห์ล่าสุดในระดับที่สูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ถึงแม้สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐยังคงอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาภาวะ fiscal cliff ได้สร้างมุมมองเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการทิ้งตัวลงของราคาทองคำยังคงดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ช่วยหนุนให้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง ซึ่งวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงไปต่อ โดยต้องระมัดระวังโซน 1,685-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นแนวรับสำคัญ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะเห็นได้ว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นในสหรัฐนั้นไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ แต่กระแสข่าวเหล่านี้มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ทำให้วายแอลจีแนะนำว่าควรติดตามกระแสข่าวอย่างใกล้ชิดควรควบคู่ไปกับการจำกัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รอซื้อทองแนะนำให้หาจังหวะเข้าลงทุนระยะสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับต่างๆ ซึ่งการซื้อทองคำเมื่อราคาย่อตัวลงมาไม่ควรหลุดแนวรับ 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้าน 1,720 หรือ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยดูบริเวณแนวรับสำคัญถัดไปที่ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และนอกจากจะหาจังหวะการเข้าสะสมแล้วนักลงทุนยังจำเป็นต้องประเมินขนาดการลงทุนในแต่ละรอบเพื่อที่จะสามารถคำนวณความเสี่ยงในการลงทุนในแต่ละครั้งให้อยู่ในขนาดที่พอร์ตการลงทุนสามารถแบกรับได้

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,690 (24,530บาท) 1,680 (24,380บาท) 1,675 (24,310บาท)

แนวต้าน 1,720 (24,970บาท) 1,732 (25,140บาท) 1,740 (25,260บาท)

GOLD FUTURES (GFZ12)

แนวรับ 1,690 (24,770บาท) 1,680 (24,630บาท) 1,675 (24,550บาท)

แนวต้าน 1,720 (25,210บาท) 1,732 (25,380บาท) 1,740 (25,500บาท)

SILVER FUTURES (SVZ12)

แนวรับ 32.90 (1,017บาท) 32.45 (1,003บาท) 32.00 (989บาท)

แนวต้าน 33.85 (1,046บาท) 34.30 (1,060บาท) 34.65 (1,071บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...