ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

 

FOMC Minutes, showing some of the 12 voting members felt that bond purchases should be slowed or stopped altogether before the end of 2013. ยูโรร่วงหล่น พร้อมกับราคาทอง : สมาชิก 12 เสียงของเฟด มีความรู้สึกว่า ชลอการอัดฉีดเงิน หรืออาจหยุดการอัดฉีดเงิน ก่อนสิ้นปี 2013

 

คำๆ นี้ คือ ยุติยกเลิก QE เลยนะครับ

ถูกแก้ไข มกราคม 4, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ดัชนีดอลล์สหรัฐฯ ดีดขึ้น ข่วง ตี 2 จากรายงานการประชุม เฟด และ นักลงทุนขาใหญ่ จับอยู่ประเด็นเดียว คือ ยกเลิก QE เมื่อไหร่ ทำให้ บรรยากาศตลาดฯ ไม่สดใส

 

Thursday, Jan 3, 2013

The U.S. dollar began the session in a good mood on mainly euro weakness. The 2pm EST Fed Minutes release only seem to throttle the greenback higher as the EUR/USD accelerated through the 1.3100 major psychological level. The Minutes revealed that while there was support for the Fed’s bond buying program there was dissention over how long the program would last; mainly whether or not to continue through 2013 or end the buying before year’s end. The disagreement over what would amount to a handful of months is less the issue. The fact that there members are not in agreement never makes the market happy.

 

 

 

 

http://www.dailyforextradingedge.com/sites/default/files/1-3-2013_3-48-09_pm.jpg

[Pete 15,187]

มูดีส์เตือนอันดับเครดิตสหรัฐมีความเสี่ยง หากไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณ (04/01/2556)

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ระดับโลก ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสสหรัฐดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าเพียงแค่การทำข้อตกลง เพื่อทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบัน

 

มูดีส์คาดหวังว่า ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐจะใช้นโยบายเพิ่มเติมที่จำเป็นเพื่อทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณปรับตัวลดลง ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้น ยอดขาดดุลงบประมาณต่อปีอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และหากฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถทำให้ยอดขาดดุลลดลงได้ อันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของรัฐบาลสหรัฐก็อาจจะเผชิญความเสี่ยง

 

เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว มูดีส์เคยเตือนว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลง 1 ขั้น หากสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องงบประมาณภายในสิ้นปี 2555 โดยมูดีส์ได้ให้แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไว้ในเชิงลบ ซึ่งเป็นการเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในวันข้างหน้า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 มกราคม 2556)

 

[Pete 15,187]

http://www.huffingtonpost.com/huff-wires/20130103/us-fed-minutes/?utm_hp_ref=technology&ir=technology

 

ในความตกใจของนักลงทุนถึง จุดจบ QE และการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย เกิดขึ้น ณ. ช่วงท้ายตลาดสหรัฐฯ จากราคา 1674 ลดลงมาที่ 1647 ย่อมไม่ธรรมดา ถ้าเราเปลี่ยนแปลงราคาในกราฟฯ และมองเส้นสัญญานฯ ว่า " ไปถึงไหนแล้ว " นักลงทุนเทขายจากความวิตกกังวล รวมถึง SPDR ยังร่วมด้วยช่วยกัน 9 ตันกว่าๆ อนึ่ง การที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจเข้าซื้อทองอีกครั้ง ก็อาจต้องรอถึงการประชุมเฟดฯ ครั้งต่อไป 29-30 มกราคม 2556 หรือเปล่า จุดที่น่าสนใจที่กล่าวในรายงานคือ 850,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ยังถูกอัดฉีดเข้าระบบในการซื้อตราสารหนี้ ยาวไปอีก 11-12 เดือน มูลค่ารวม 1 ล้านล้านเหรียญ พวกเขายังพอใจอยู่อีกหรือไม่ ที่ยังสามารถหากินกับเงินได้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ถ้าพอใจ ก็จะส่งผลดีต่อ แต่เมื่อไหร่ คิดแล้ว ก็หากล้วยทอดเกรียมๆ ทานดีกว่า ดีนะว่า ขายบางชุด และแค่ทยอยเก็บคืน ไม่ได้เต็มปอดให้อึดอัด

[Pete 15,187]

อินเดียจ่อหั่นนำเข้าทองลดขาดดุล (04/01/2556)

รมว.คลังอินเดีย "พี. จีดัมบาราม" เสนอแนวคิดลดการนำเข้าทอง เพื่อเป็นแนวทางลดยอดขายดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงเป็นประวัติการณ์ของอินเดีย

 

เมื่อต้นสัปดาห์ ทางการอินเดีย เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศในเดือนก.ค.- ก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เนื่องจากการส่งออกที่ลดลง และยอดขาดดุลดังกล่าว ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2492 เป็นต้นมา เป็นต้นเหตุให้รูปีอ่อนค่าลง ส่งผลการนำเข้ามีมูลค่าสูงขึ้น

 

นายจีดัมบาราม กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาการจำกัดการนำเข้าทอง ซึ่งชาวอินเดียใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุน แต่ก็มักจะทำให้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศลดลง

 

ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค การนำเข้าทองที่มีมูลค่า 2.025 หมื่นล้านดอลลาร์ มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 4.6% ของจีดีพี ขณะที่กระทรวงการคลัง คาดว่า การนำเข้าทองจะแตะระดับ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ หรือลดลง 31% จาก 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อน

 

การนำเข้าทองของอินเดียพุ่งขึ้น 9% สู่ระดับ 223.1 ตันในเดือน ก.ค.-ก.ย. หลังจากที่ดิ่งลง 56% สู่ระดับ 131 ตันในเดือนเม.ย.-มิ.ย.

 

นักวิเคราะห์ คาดว่า การนำเข้าของอินเดียจะฟื้นตัวในเดือนต.ค.-ธ.ค.เนื่องจาก อยู่ในช่วงเทศกาล ขณะที่ประชาชนนิยมซื้อในฤดูกาลแต่งงาน

 

เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังรายหนึ่ง กล่าวว่า รัฐบาลอาจเพิ่มอัตราภาษีอากรนำเข้าทองขึ้นอีก 1-2%

 

ในปี 2534 ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของอินเดียพุ่งแตะระดับ 3% ของจีดีพี และอินเดียก็ประสบกับภาวะขาดแคลนเงินตราต่างประเทศภายในไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้อินเดียจำเป็นต้องขนสต็อกทองบางส่วนไปยังยุโรปเพื่อขอเงินกู้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สร้างความอับอาย และทำให้รัฐบาลในขณะนั้น ล่มสลายลง และนำไปสู่การปฏิรูปตลาดเสรี

 

ในครั้งนี้ เศรษฐกิจอินเดียมีขนาดใหญ่ขึ้นและเปิดเสรีมากขึ้น โดยนายจิดัมบาราม กล่าวว่า ปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศน่าจะสามารถช่วยลดยอดขาดดุลได้โดยไม่ต้องมีการดึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่มีอยู่ 2.965 แสนล้านดอลลาร์ออกมาใช้ ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับการนำเข้าประมาณ 7 เดือน

 

อย่างไรก็ดี ความวิตกเกี่ยวกับดุลต่างประเทศ, การกู้ยืม และยอดขาดดุลงบประมาณของอินเดียก็ทำให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ และฟิทช์ เรทติงส์ ขู่ว่า จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอินเดียลงสู่สถานะ"ขยะ"

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว รัฐบาลได้เพิ่มเพดานจำนวนหุ้นกู้ภาคเอกชน และพันธบัตรรัฐบาลที่นักลงทุนต่างประเทศสามารถซื้อได้ แต่ยอดขาดดุลที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นผลมาจากน้ำมันที่มีราคาแพง, การนำเข้าทองจำนวนมาก และยอดส่งออกที่ดิ่งลง

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 4 มกราคม 2556)

 

[namchiang 468]

เรื่องคนดีต้องช่วยประกาศครับ

 

หนุ่มพลเมืองดีเก็บทองคืนเจ้าของ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2556 เวลา 13:10 น.

 

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่สน.บางนา นายพรหมบวร อิ่มใจ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 11 ต.บุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อาชีพพนักงานแผนกจัดเลี้ยงโรงแรมโนโวเทล บางนา พร้อมนำสร้อยคอทองคำ หนัก 50 สตางค์ บรรจุในตลับใส่ทองรูปพรรณของห้างทองเยาวราช สาขาเมืองทอง และ เหรียญ 5 บาท จำนวน 1 เหรียญ มามอบให้กับทาง ร.ต.ท.จักรี อินศวร พนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อประกาศตามหาเจ้าของที่แท้จริง

 

 

นายพรหมบวร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ปลายเดือน ธ.ค.55 ตนกำลังเดินออกจากบ้านเช่าเลขที่ 41 ซอยสุขุมวิท 105 แขวงและเขตบางนา กทม.เพื่อไปขึ้นรถทัวร์ไปทำบุญทอดผ้าป่าที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ที่หมอชิต จู่ๆ ก็พบกล่องใส่ทองรูปพรรณดังกล่าว กับเหรียญ 5 บาท ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของใครตกหล่นอยู่ข้างถังขยะจึงเก็บเอาไว้ก่อน เพื่อรอเดินทางกลับมาส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกาศหาเจ้าของมารับคืน ส่วนสาเหตุที่ตนไม่นำมาเก็บไว้เป็นของตัวเองนั้น เนื่องจากตนคิดว่ามันไม่ใช่ของเราหากอยากได้ควรเก็บเงินซื้อเองดีกว่า

 

 

ร.ต.ท.จักรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนประสานรายการสถานีวิทยุและสื่อมวลชนช่วยกันประกาศตามหาเจ้าของเป็นเวลานาน 6 เดือน ทั้งนี้ถ้าหากไม่มีผู้ใดมารับ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมอบให้ นายพรหมบวร ผู้เป็นพลเมืองดีที่เก็บได้ต่อไป

 

http://www.dailynews.co.th/crime/175975

[namchiang 468]

นักลงทุนเทขายฉุดน้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯปิดลบ ทองคำดิ่งแรง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มกราคม 2556 05:31 น.

 

เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้(3) ปิดในแดนลบ ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังพุ่งแรงมา 2 วันติดจากข้อตกลงเลี่ยงหน้าผาการคลังในสหรัฐฯ แต่ทองคำดิ่งแรงอย่างแรง หลังมีความกังวลว่ามาตรการ QE ของเฟด อาจส่งกระทบแง่ร้ายต่อตลาดการเงิน

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 92.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 112.14 ดอลลลาร์ต่อบาร์เรล

 

"นักลงทุนเริ่มหมดความอิ่มเอมและขายทำกำไร ขณะเดียวกันก็มองไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่าการต่อสู้ทางการคลังยกต่อไปในสภาคอ งเกสกำลังรออยู่เบื้องหน้าในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้" ไรอัน มิลเลอร์ นักวิเคราะห์จากเวสเทิร์น ยูเเนียน บิสเนส โซลูชัน กล่าว

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(3) ขยับแรงเล็กน้อย ท่ามกลางแรงขายทำกำไร หลังพุ่งแรงมา 2 วันติด จากข้อตกลงประนีประนอมหลีกเลี่ยงตัดลดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติที่ ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรสช่วงกลางสัปดาห์

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 21.19 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,391.36 จุด แนสแดค ลดลง 11.69 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,100.57 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.06 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,459.36 จุด

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(3) ปิดลบอย่างแรง หลังมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เริ่มมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่าโปรแกรมเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟดอาจก่อ ความเสี่ยงต่อตลาดการเงิน โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 14.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,674.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

[หมูยิ้ม 9]

http://www.huffingto...y&ir=technology

 

ในความตกใจของนักลงทุนถึง จุดจบ QE และการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย เกิดขึ้น ณ. ช่วงท้ายตลาดสหรัฐฯ จากราคา 1674 ลดลงมาที่ 1647 ย่อมไม่ธรรมดา ถ้าเราเปลี่ยนแปลงราคาในกราฟฯ และมองเส้นสัญญานฯ ว่า " ไปถึงไหนแล้ว " นักลงทุนเทขายจากความวิตกกังวล รวมถึง SPDR ยังร่วมด้วยช่วยกัน 9 ตันกว่าๆ อนึ่ง การที่จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจเข้าซื้อทองอีกครั้ง ก็อาจต้องรอถึงการประชุมเฟดฯ ครั้งต่อไป 29-30 มกราคม 2556 หรือเปล่า จุดที่น่าสนใจที่กล่าวในรายงานคือ 850,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ยังถูกอัดฉีดเข้าระบบในการซื้อตราสารหนี้ ยาวไปอีก 11-12 เดือน มูลค่ารวม 1 ล้านล้านเหรียญ พวกเขายังพอใจอยู่อีกหรือไม่ ที่ยังสามารถหากินกับเงินได้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ถ้าพอใจ ก็จะส่งผลดีต่อ แต่เมื่อไหร่ คิดแล้ว ก็หากล้วยทอดเกรียมๆ ทานดีกว่า ดีนะว่า ขายบางชุด และแค่ทยอยเก็บคืน ไม่ได้เต็มปอดให้อึดอัด

 

ป๋าครับ ถือต่อ คัด lost(ก้อนใหญ่ๆ) หรือ ซื้อเพิ่มดีอ่ะครับ

[Pete 15,187]

ระวังข้างหน้ายังมีอีกหลาย"หน้าผาการคลัง"

"กาแฟดำ"ตั้งข้อสังเกตถึง "บารัก โอบามา" เครียดกับเรื่อง “หน้าผาการคลัง” จนผมหงอกไปเยอะ!

 

โล่งอกได้ชั่วคราวสำหรับการที่สหรัฐไม่หล่นลงไปที่ “หน้าผาการคลัง” ในวันขึ้นปีใหม่ อย่างที่หวั่นกลัวกันมาหลายสัปดาห์

 

ต้องถือว่าเป็นฝีมือต่อรองเจรจาของประธานาธิบดี บารัก โอบามา ที่ผ่านเส้นตายวันปีใหม่มาได้อย่างหวุดหวิด ด้วยการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขของทำเนียบขาวกับรัฐสภา

 

แต่ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นเพียง “ข่าวดีชั่ววูบ” เท่านั้น ยังมี “หน้าผา” ที่ต้องผ่านอีกสองสามช่วงข้างหน้า ที่อาจจะยากกว่าหน้าผาแรกนี้ด้วยซ้ำไป

 

จะว่าไปแล้ว ข้อตกลงให้ยอมขึ้นภาษีคนรวยและหลีกเลี่ยงการลดค่าใช้จ่ายที่จะกระทบต่อสวัสดิการคนจน และคนแก่นั้น เป็นเพียงการ “ซื้อเวลา” เพื่อไม่ให้เจอวิกฤติฉับพลันเท่านั้น แต่สหรัฐยังต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจอีกมากมายหลายด้าน

 

โอบามา ไม่กล้าประกาศเป็น “ชัยชนะ” ของทำเนียบขาว บอกเพียงว่าเป็น “ก้าวๆ หนึ่ง” ในความพยายามที่จะทำให้เศรษฐกิจในอเมริกาแข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น

 

แปลว่า ยังมีเรื่องต้องต่อรองยื่นหมูยื่นแมวระหว่างทำเนียบขาวกับพรรครีพับลิกัน ทั้งในสภาล่างและสภาสูงอีกหลายเรื่อง

 

ส.ส.หลายคนในรัฐสภาสหรัฐ บอกว่า กฎหมายที่ผ่านเมื่อคืนวันอังคาร (เวลาสหรัฐ) ยัง “ขาดความสมบูรณ์” แต่จำเป็นต้องให้ผ่านไปก่อนเพื่อไม่ให้คนมะกันตกอยู่ในภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกทันทีที่กฎหมายเก่าที่ประกาศใช้ ตั้งแต่ยุค จอร์จ ดับเบิลยู บุช เพื่อลดหย่อนภาษีและอุ้มนโยบายสวัสดิการหลายเรื่องหมดสภาพลง

 

เพียงแค่ผ่านกฎหมายฉบับนี้ ทำให้สหรัฐหลบเลี่ยงการ “ตกหน้าผาการคลัง” สหรัฐ ก็ทำเอาตลาดหุ้นกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ราคาทองพุ่งพรวดพราด ทั้งโลกพลอยยินดีปรีดาไปด้วย...จนรู้ข้อเท็จจริงว่านี่เป็นเพียงการผ่อนส่งปัญหาไประยะสั้นเท่านั้น ก็อาจจะชะงักไปได้ในวันสองวันนี้

 

อ่านต่อที่เวป http://www.suthichaiyoon.com/home/details.php?NewsID=752

[Anna 567]

 

 

55555555555 ทอดสุก จนเกรียมแล้ว

 

กร๊ากกกกกกกกกกกก

 

เกือบจิ้มไปเมื่อคืนแต่กลัวนอนไม่หลับ

[Pete 15,187]

 

 

ป๋าครับ ถือต่อ คัด lost(ก้อนใหญ่ๆ) หรือ ซื้อเพิ่มดีอ่ะครับ

หยุดซื้อ หยุดขาย รอ Rebound จากบางคนที่ยังไล่เก็บ แล้วค่อยตัดขายออก 1/3 น่าจะดี " ผมแค่คิดแบบนี้นะ " แต่ถ้าวันนี้ อาแปะกั๊กสูง " ผมคืนอาแปะ ครึ่งหนึ่งเลย 55555

[Pete 15,187]

 

 

กร๊ากกกกกกกกกกกก

 

เกือบจิ้มไปเมื่อคืนแต่กลัวนอนไม่หลับ

งานนี้ โต๊ะจีนของเจ้เกี้ยมอี่ คงมีอาหารจานพิเศษบนโต๊ะฯ " จรเข้หัน " หลอกมาเต็มๆๆ

[หมูยิ้ม 9]

หยุดซื้อ หยุดขาย รอ Rebound จากบางคนที่ยังไล่เก็บ แล้วค่อยตัดขายออก 1/3 น่าจะดี " ผมแค่คิดแบบนี้นะ " แต่ถ้าวันนี้ อาแปะกั๊กสูง " ผมคืนอาแปะ ครึ่งหนึ่งเลย 55555

 

อาแปะ...

 

ขอบคุณมากครับ

 

ยังคงหนาวเป็นละลอกๆ

[namchiang 468]

ทองคำปิดร่วง14.2 ดอลลาร์ เงินดอลล์แข็ง

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ทองคำปิดร่วงลงกว่า 14.2 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,674.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า อานิสงส์พ้นหุบผาการคลัง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 14.2 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,674.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1661.90 - 1690.50 ดอลลาร์

 

การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ฉุดสัญญาทองคำปรับตัวลง หลังจากที่พุ่งขึ้น 13 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภายหลังจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายที่จะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หรือภาวะที่จะต้องมีการปรับขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายโดยอัตโนมัติ

 

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 80.132 จุด จากวันพุธที่ระดับ 79.847 จุด

 

http://www.bangkokbiznews.com

[Pete 15,187]

 

 

55555555555 ทอดสุก จนเกรียมแล้ว

เล่นไม้ลื่นไป ทานกล้วยเกรียมไปด้วยนะครับ