ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 45 เซนต์หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐซบเซา

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 07:39:28 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดแรงงานจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานด้วย

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 45 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 97.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 115.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค.พุ่งขึ้น 38,000 ราย สู่ระดับ 368,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 350,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 330,000 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงซบเซา

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันหลังจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. พุ่งขึ้น 5.95 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 369.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1 ล้านบาร์เรล และจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2555 ของสหรัฐหดตัวลง 0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว และเป็นครั้งแรกที่จีดีพีหดตัวลงนับตั้งแต่ผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วงปี 2550-2552

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:( Chinese Manufacturing PMI

Actual:50.40

 

Forecast:50.90

Previous:50.60

Importance: Currency:CNYSource Of Report:China Logistics Information Center (Release URL)

OverviewChartHistory

China Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI) provides an early indication each month of economic activities in the Chinese manufacturing sector.It is compiled by China Federation of Logistics & Purchasing (CFLP) and China Logistics Information Centre (CLIC), based on data collected by the National Bureau of Statistics (NBS).Li & Fung Research Centre is responsible for drafting and disseminating the English PMI report. Every month questionnaires are sent to over 700 manufacturing enterprises all over China. The data presented here is compiled from the enterprises responses about their purchasing activities and supply situations. The PMI should be compared to other economic data sources when used in decision-making.

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY , while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮียมีข่าวที่มีความหวังมั่งปะ

 

ชีวิตอยู่ด้วยความหวังแม้ว่า จะลมๆแล้งๆ อิอิ

 

pok01.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาท ตอนนี้ 29.82 บาทต่อ 1 ดอลล์ งานนี้ จากตัวเลขจีนที่ลดลงในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงตัวเลขของสหรัฐฯ เมื่อคืน ในประเด็นของ รายได้เพิ่มขึ้น แต่อ้ายกันฯ ไม่ยอมใช้จ่าย เพราะรายจ่ายลดลง เก็บออมมากขึ้น ย่อมน่าจะส่งผลสู่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ลดลงอีกสัก 10-13 จุดล่ะก็ 29.90 บาท ก็ไม่ไกลเกินฝัน ซึ่งจะพยุงราคาทองในประเทศไทยไม่ให้ต่ำกว่า 23,500 บาท

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 07:59:30 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.5% ปิดที่ 287.22 จุด อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือนม.ค. ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว

 

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3732.60 จุด ลบ 32.92 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7776.05 จุด ลบ 35.26 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6276.88 จุด ลบ 46.23 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 49.84 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 13,860.58 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.85 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 1,498.11 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.18 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 3,142.13 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันก่อนหน้านี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 19.6 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,662 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 82.6 เซนต์ ปิดที่ 31.351 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ 3.732 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,675.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 13.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 745.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.70 ดอลลาร์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดแรงงานจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานด้วย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 45 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 97.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 115.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3575 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3567 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5858 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5793 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.9097 ฟรังค์สวิส จากระดับ 0.9109 ฟรังค์ แต่ก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.38 เยน จากระดับ 91.2 เยน

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ อันเนื่องมากจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 46.23 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 6,276.88 จุดหลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,276.88-6,323.11 จุด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮียมีข่าวที่มีความหวังมั่งปะ

 

ชีวิตอยู่ด้วยความหวังแม้ว่า จะลมๆแล้งๆ อิอิ

นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด พร้อมกับจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.8%

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูดี้ส์หั่นเรทติ้งหนี้ระยะสั้น 3 แบงก์ไทย (01/02/2556)

"มูดี้ส์"ลดเครดิตหนี้ระยะสั้น 3 แบงก์ไทย กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์-สแตนชาร์ตไทย

 

 

 

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส หรือมูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ในไทย 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK ), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) ลงสู่ระดับ P-2 จากเดิม P-1 ขณะที่คงอันดับความน่าเชื่อถือด้านอื่นๆ ทั้งหมด

 

การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้น สะท้อนถึงข้อสังเกตของมูดี้ส์เกี่ยวกับความเสี่ยง ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของธนาคารทั้ง 3 แห่งในอนาคต

 

ทั้งนี้มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือด้านเงินฝาก และอันดับความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ออกตราสารหนี้ของธนาคารพาณิชย์ในไทยทั้ง 3 แห่งข้างต้น ซึ่งทั้ง 3 แห่งต่างก็ได้รับการจัดอันดับที่ A3 โดยให้เหตุผลการคงอันดับความน่าเชื่อถือด้านเงินฝาก และอันดับความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ออกตราสารหนี้ในครั้งนี้ สะท้อนมุมมองของมูดี้ส์ที่ว่า ธนาคารเหล่านี้ยังคงมีคุณสมบัติด้านความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ A3

 

มูดี้ส์อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการกำหนดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น คือความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ในระยะยาวของผู้ออกตราสารหนี้ และเชื่อว่า ถ้าหากปัจจัยอื่นๆ อยู่ในภาวะสมดุลเป็นส่วนใหญ่ การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในระยะยาวไม่เพียงแต่บ่งชี้ว่า ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ในระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังบ่งชี้ว่าความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ในระยะสั้นได้เพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

โดยมุมมองมูดี้ส์ข้างต้น อยู่บนการประเมินของมูดี้ส์ต่อสถานะเครดิตในปัจจุบัน และตั้งอยู่บนประสบการณ์ของมูดี้ส์ที่พบว่า ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือขั้น A3 หรือต่ำกว่านั้น เคยมีอันดับความน่าเชื่อถือเปลี่ยนแปลงไปหลายขั้นในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินโลก

 

มูดี้ส์ระบุว่า ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวระหว่าง A3 และ Baa2 มักจะมีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นอยู่ที่ P-2 ในตารางมาตรฐาน

 

ของมูดี้ส์ ที่เชื่อมโยงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวและระยะสั้น ขณะที่การเบี่ยงเบนออกไปจากมาตรฐานนี้ ถือเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อย ยกตัวอย่างเช่น อันดับความน่าเชื่อถือที่ A3/P-1 ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงผิดปกติที่อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของผู้ออกตราสารรายดังกล่าว จะปรับสูงขึ้นในอนาคต

 

ส่วนกรณีของธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นั้น มูดี้ส์เชื่อว่า สถานะของธนาคารทั้ง 3 แห่งนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่า ธนาคารเหล่านี้จะสามารถรักษาอันดับ Prime-1 ไว้ได้ ในขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวยังคงอยู่ที่ A3

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์คาดเฟดเดินหน้านโยบายผ่อนคลายหลังจีดีพีสหรัฐหดตัว

 

 

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างพลิกความ คาดหมายในไตรมาส 4/2012 น่าจะช่วยขจัดความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆนี้

 

 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (จีดีพี) หดตัวลง 0.1 % ในไตรมาส 4/2012 เมื่อเทียบรายปี หลังจาก ขยายตัว 3.1 % ในไตรมาส 3 โดยการหดตัวในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับ เศรษฐกิจสหรัฐ นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงเมื่อ 3 ปีก่อน

 

ตลาดหุ้น, พันธบัตร และตลาดปริวรรตเงินตราไม่ได้รับผลกระทบ มากนักจากตัวเลขจีดีพีที่อ่อนแอเกินคาดเมื่อวานนี้ เพราะนักลงทุนเชื่อว่ามีปัจจัย หลายประการในรายงานจีดีพีฉบับนี้ที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้มีแนวโน้มอ่อนแอ ลงอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ตัวเลขจีดีพีในครั้งนี้ยังช่วยลดความกังวลที่ว่า เฟดจะ ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ขณะเดียวกัน ไม่มีแนวโน้มว่ารายงานจีดีพีฉบับนี้จะส่งผลกระทบมากนัก ต่อเจ้าหน้าที่เฟดสายเหยี่ยว โดยเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้กังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญ ความเสี่ยงในระยะยาวจากการที่เฟดขยายขนาดงบดุลเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.9 ล้าน ล้านดอลลาร์

 

นายไมเคิล แฮนสัน นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า "รายงานจีดีพีอาจจะไม่ได้ทำให้สมาชิกเฟดปรับเปลี่ยน ความคิดของตนเอง เพราะสมาชิกสายเหยี่ยวจะมองว่าตัวเลขนี้สะท้อนปัจจัย ชั่วคราว ขณะที่สมาชิกสายพิราบจะมองว่า ตัวเลขนี้เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่แสดง ให้เห็นว่า เศรษฐกิจไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงพอ"

 

เฟดเข้าซื้อสินทรัพย์ในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายใต้ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในขณะที่เฟดพยายามควบคุมต้นทุนการกู้ยืม ให้อยู่ในระดับต่ำ และกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

เฟดให้สัญญาว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับใกล้ 0 % ต่อไป จนกว่าอัตราการว่างงานจะร่วงลงสู่ 6.5 % และตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่มี แนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือ 2.5 %

 

รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 11-12 ธ.ค. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางคนคิดว่าเฟดควรจะชะลอหรือยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์ก่อนสิ้นปี 2013

 

นายเอริค ลาแซลส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทอาร์บีซี โกลบัล แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ผมคิดว่าตัวเลขจีดีพีในครั้งนี้ส่งผลลบเล็กน้อย ต่อสมาชิกสายเหยี่ยว เพราะตัวเลขจีดีพีที่หดตัวลงนี้จะสร้างความยากลำบาก ให้กับผู้ที่เรียกร้องให้ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะใกล้"

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในระยะนี้ โดยอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นมาอยู่เหนือ 2.0 % เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2012 ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดพันธบัตรคาดว่า เฟดจะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

การคาดการณ์เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มี เงินลงทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในเดือนม.ค.

 

ถึงแม้มีความกังวลกันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอาจจะส่งผล ให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง แต่ก็แทบไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าราคาดีดตัวขึ้น โดยตัวเลข เมื่อวานนี้ระบุว่า ราคาในสหรัฐปรับตัวขึ้นเพียง 1.2 % ในไตรมาส 4/2012

 

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงในไตรมาส 4 เกิดจากปัจจัยชั่วคราว ซึ่งได้แก่พายุเฮอริเคนที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อ ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในเดือนต.ค. และภาวะ fiscal cliff หรือภาวะ ที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาล สหรัฐอาจจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2013 โดยภาวะ fiscal cliff อาจส่ง ผลลบต่อการจ้างงานและการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาส 4

 

นายเวย์น คอฟแมน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทจอห์น โธมัส ไฟแนนเชียล กล่าวว่า "ถ้าหากพายุแซนดีและ fiscal cliff คือสาเหตุของ เรื่องนี้ นักลงทุนก็จะไม่ใส่ใจกับตัวเลขนี้"

 

ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยและการจ้างงานในสหรัฐอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ในระยะนี้ โดย ADP Employer Services เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขการ จ้างงานภาคเอกชน ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจาก เพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Chinese HSBC Manufacturing PMI

Actual: 52.30

 

Forecast:52.10

Previous:51.90

Importance: Currency:CNYSource Of Report:HSBC (Release URL)

OverviewChartHistory

Flash figures are released approximately 6 business days prior to the end of the month. Final figures overwrite the flash figures upon release and are in turn overwritten as the next Flash is available. The Purchasing Managers' Index (PMI) is a composite indicator designed to provide an overall view of activity in the manufacturing sector and acts as an leading indicator for the whole economy.When PMI is below 50.0 this indicates that the manufacturing economy is declining and a value above 50.0 indicates an expansion of the manufacturing economy.

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY , while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

 

ออกมาดี แตะจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี :)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ตลาดหุ้นเอเชียชะลอขาขึ้น หลังตลาดผิดหวัง PMI ภาคการผลิตจีน (01/02/2556)

ตลาดหุ้นเอเชียชะลอการเคลื่อนไหวในขาขึ้น หลังภาคการผลิตจีนขยายตัวช้าลงในเดือนม.ค.

 

 

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ทรงตัวที่ระดับ 133.22 จุด เมื่อเวลา 10.03 น.ตามเวลาโตเกียว โดยมีสัดส่วนหุ้นบวกใกล้เคียงกับหุ้นลบ

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 11,193.72 จุด เพิ่มขึ้น 55.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,763.34 จุด เพิ่มขึ้น 33.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,853.75 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,964.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,286.65 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,253.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,883.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 จุด

 

 

ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด

 

ทั้งนี้ สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ลดลงแตะ 50.4 จาก 50.6 ในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี นับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมภาคการผลิต

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:เยนร่วงแตะนิวโลว์ช่วงเช้านี้ (01/02/2556)

เยนดิ่งแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินของ กลุ่มประเทศจี-3 ในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากทำสถิติร่วงลงมากที่สุด ในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับยูโรในเดือนที่แล้ว ขณะที่ตลาดปรับสถานะรอรับการ ผ่อนคลายนโยบายเชิงรุกมากขึ้นจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)

 

 

ในช่วงเช้านี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 91.75 เยน หลังจากพุ่งสูงสุดที่ 91.82 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2010 ส่วนยูโรแตะระดับ 124.65 เยน ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.2010 ใกล้ระดับ 128.00 เยน

 

 

ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยูโรพุ่งขึ้นเกือบ 9% เมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ ดอลลาร์พุ่งกว่า 5% เมื่อเทียบกับเยน

เมื่อ วานนี้ นายฮิโรฮิเดะ ยามากูชิ รองผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวว่า บีโอเจอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก หากจำเป็น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณ ที่ชัดเจนที่สุดจนถึงขณะนี้ของผู้กำหนดนโยบายของบีโอเจว่า อาจจะมีการออกมาตร การกระตุ้นเศรษฐกิจอีกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

 

 

ดังนั้น นักลงทุนจึงคาดว่าเยนจะร่วงลงอีก โดยหลายคนคาดว่าดอลลาร์ จะแข็งค่าแตะระดับ 100 เยนในอนาคต

 

"เราคาดว่าเยนจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเพราะการเปลี่ยนนโยบาย แบบเชิงรุกของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ" นายไมเคิล ไซเอ็ด นักวิเคราะห์จาก บีเอ็นพี พาริบาส์กล่าว และเขาคาดว่าดอลลาร์จะแตะระดับ 95 เยนในไตรมาสแรก ของปีนี้

 

 

ขณะเดียวกัน การคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของยุโรป และมุมมอง เชิงบวกมากขึ้นของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ต่อยูโรโซนทำให้ยูโรมีความน่าสนใจ มากขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและดอลลาร์

 

นั่นส่งผลให้ยูโรพุ่งขึ้นราว 3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว โดยพุ่ง แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน และในช่วงเช้านี้ ยูโรอยู่ที่ 1.3583 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งแตะระดับ 1.3594 ดอลลาร์

 

การแข็งค่าของยูโรทำให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 79.133 ซึ่งทำให้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ 79.008 และ การร่วงต่ำกว่าระดับดังกล่าวอาจจะทำให้เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 78.601 ซึ่งเป็นระดับ ต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ย.

 

 

เทรดเดอร์กล่าวว่า แรงขายดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนทำให้ดัชนีดอลลาร์ ร่วงลง แต่นักลงทุนกำลังจับตาดูรายงานการจ้างงานอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งนักวิ เคราะห์คาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานจะทรงตัว ที่ 7.8%

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แบงก์ชาติลั่นดอกเบี้ยต่ำนาน เสี่ยงฟองสบู่ (01/02/2556)

ผู้ว่าแบงก์ชาติยันดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันเหมาะสมกับเศรษฐกิจไทย ระบุดอกเบี้ยต่ำนานไปเสี่ยงเกิด"ฟองสบู่"

 

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ต้องดูให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจของไทย พร้อมให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ย ที่อยู่ในระดับต่ำนานเกินไป อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ได้

 

"การดูดอกเบี้ย ต้องให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย มากกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือญี่ปุ่น ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับสหรัฐและญี่ปุ่นการว่างงานต่ำการเติบโตของสินเชื่อบริโภค การลงทุน ก็เติบโตสูง ดังนั้นเรื่องของดอกเบี้ย ต้องนำปัจจัยต่างๆ เข้ามาพิจารณาร่วมด้วย" นายประสารกล่าว

 

ความเห็นของผู้ว่าธปท.ดังกล่าว มีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท.เสนอให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น ที่เข้ามายังตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของไทย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดการเงินได้ในอนาคต

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1 กุมภาพันธ์ 2556 07:57

ทองปิดร่วง19ดอลลาร์ เจอแรงขายทำกำไร

news_img_488386_1.jpg

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ทองปิดร่วง 19.6 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,662 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนถล่มขายทำกำไรต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 19.6 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,662 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 82.6 เซนต์ ปิดที่ 31.351 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ 3.732 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,675.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 13.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 745.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 5.70 ดอลลาร์

 

นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค.พุ่งขึ้น 38,000 ราย สู่ระดับ 368,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 350,000 ราย

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า รายได้ส่วนบุคคลเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2547 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.8% ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%

 

http://www.bangkokbiznews.com

ถูกแก้ไข โดย Namchiang

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันนิวยอร์ก-หุ้นมะกันลง ทองคำทรุดจากแรงขายทำกำไร blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2556 05:30 น.

 

blank.gif 556000001374801.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯวานนี้(31) ขยับลงพอประมาณ จากปัญหา ณ ท่อลำเลียงเชื้อเพลิงซีเวย์ ส่วนวอลล์สตรีท ก็ปิดลบตามแรงฉุดของหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างรีเสิร์ช อิน โมชั่น และเฟซบุ๊ค ขณะที่ทองคำ ทรุดหนักตามหลังแรงขายทำกำไรของนักลงทุน

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 97.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 115.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ปัญหาที่ท่อลำเลียงน้ำมันซีเวย์ ซึ่งส่งน้ำมันจากบริเวณคุชชิ่ง มลรัฐโอคลาฮามา ไปยังโรงกลั่นในรัฐเท็กซัส ก่อความกังวลต่อนักลงทุนในตลาด และฉุดให้น้ำมันขยับลงวานนี้(31)

 

อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วตลอดทั้งเดือนมกราคม ราคาน้ำมันยังขยับขึ้นจากเดือนธันวาคมกว่า 5 ดอลลาร์ แม้ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(30) เผยให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาส 4 ปีก่อน หดตัวร้อยละ 0.1

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(31) ปิดลบเล็กน้อย จากแรงฉุดของหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง รีเสิร์ช อิน โมชั่น บริษัทผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี และเฟซบุ๊ก รวมถึงดาว เคมิคอล

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 49.84 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,860.58 จุด แนสแดค ลดลง 0.18 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,142.13 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.84 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,498.12 จุด

 

หุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลงแรงช่วงต้นของการซื้อขาย สืบเนื่องรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังที่เผยแพร่ออกมาหลังการปิดตลาดใน วันพุธ(30) อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็กระเตื้องขึ้นและปิดที่ติดลบแค่ร้อยละ1.1

 

ผิดกับหุ้นของ รีเสิร์ช อิน โมชั่น ที่ดิ่งลงอย่างหนัก กว่าร้อยละ 5.8 ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวแบล็คเบอร์รี 10 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท ขณะที่หุ้นของ ดาว เคมิคอล ก็ร่วงลงถึงเกือบร้อยละ 7 จากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(31) ดิ่งลงเกือบร้อยละ 1 ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากเมื่อวันพุธ(30) พุ่งขึ้นแรง จากธนาคารกลางสหรัฐฯที่ยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 19.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,662.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปปง.เผยไม่เกิน มี.ค.เร่งนำแบล็คลิสต์คนผิดฟอกเงิน-ก่อการร้าย ประกาศขึ้นเว็บไซต์

วันศุกร์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 09.04 น.

39839.jpg

 

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.56 ที่หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่ก่อการร้าย เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับสถาบันการเงินและ 9 กลุ่มอาชีพที่ต้องมีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมของผู้เข้าข่ายหรือสงสัยในบัญชีดำเนื่องมาจากการกระทำความผิดฟอกเงินและก่อการร้าย

 

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า ช่วงนี้อยู่ระหว่างการคัดกรองรายชื่อผู้เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการก่อการร้าย หากรายชื่อตรงกับที่ศาลมีคำสั่งอยู่ในข่ายกระทำความผิดตามร่างพรบ. 2 ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยประเทศไทยจะต้องดำเนินการให้กฏหมาย 2 ฉบับดังกล่าว มีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะดำเนินการทัน

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าโรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่งในภาคใต้ได้รับความเดือดร้อนถูกนำไปพัวพันความผิดเนื่องจากพรบ.ก่อการร้าย เนื่องจากทางโรงเรียนไม่มีข้อมูลผู้สนับสนุนทางการเงินนั้น พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหากับโรงเรียนเพราะเมื่อกฏหมายมีผลบังคับใช้ไม่เกินเดือนมีนาคมนี้ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม เพื่อนำเสนอรายชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีความผิดตามพรบ.ทั้ง 2 ฉบับ เพื่อนำไปขึ้นแบล็คลิสต์

 

ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อนี้จะมีการนำข้อมูลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อต่อไป โดยส่วนรายชื่อของไทยมากกว่าพันราย ทางสหประชาชาติมีประมาณพันราย เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศอียูมีประมาณพันรายนั้นส่งมาให้ทาง ปปง.ของไทยแล้ว ขณะที่รายชื่อในส่วนของยุโรปและออสเตรียอยู่ระหว่างรวบรวม คาดว่าจำนวนรวมกันสูงเกือบหมื่นราย ซึ่งประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการด้วยแม้กฏหมาย 2 ฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นการประชุม FATF ในเดือนมิถุนายนนี้ ประเทศไทยก็จะมีปัญหาไม่พ้นแบล็คลิสต์ประเทศเข้าข่ายเฝ้าระวังปัญหาฟอกเงินและสนับสนุนก่ออการร้ายอีก

 

http://www.naewna.com/politic/39839

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...