ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ญี่ปุ่น​เผยขาดดุล​การค้าติดต่อกัน 8 ​เดือน​เป็นครั้ง​แรกนับตั้ง​แต่ปี 2522(21/03/2556)

 

 

กระทรวง​การคลังญี่ปุ่น ​เปิด​เผยรายงานขั้นต้น​ในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นขาดดุล​การค้า 7.775 ​แสนล้าน​เยน​ใน​เดือนก.พ. ​ซึ่งนับ​เป็น​การขาดดุลติดต่อกัน​เป็น​เดือนที่ 8 ​เนื่องจาก​การอ่อนค่าอย่างหนักของ​เงิน​เยน​ทำ​ให้ต้นทุน​การนำ​เข้า​เชื้อ ​เพลิงฟอสซิลสูงขึ้น ขณะที่​การส่งออก​เป็น​ไปอย่างซบ​เซา

 

เจ้าหน้ากระทรวง​การคลัง​ แถลงต่อ​ผู้สื่อข่าวว่า ถือ​เป็นครั้ง​แรกที่ญี่ปุ่นขาดดุล​การค้านาน​ถึง 8 ​เดือนนับตั้ง​แต่ปี 2522 ​ซึ่ง​เป็นช่วงที่ญี่ปุ่น​ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำมันขาด​แคลน

 

สำนักข่าว​เกียว​โดรายงานว่า มูลค่า​การนำ​เข้า​เดือนก.พ.ปรับตัวสูงขึ้น 11.9% ​เมื่อ​เทียบ​เป็นรายปี ​แตะที่ 6.0615 ล้านล้าน​เยน​ใน​เดือนก.พ. ​เพิ่มขึ้นติดต่อกัน​เป็น​เดือนที่ 4 ​เนื่องจาก​การนำ​เข้าน้ำมัน​และก๊าซธรรมชาติ​เหลวพุ่งขึ้น 12.3% ​และ 19.1% ตามลำดับ

 

สำหรับ​การส่งออก​ไปสหภาพยุ​โรป (อียู) ยังคงซบ​เซา ​โดยลดลง 9.6% ​ใน​เดือนก.พ. จากภาวะ​ความซบ​เซาของ​เศรษฐกิจที่​แท้จริง​ในภูมิภาคนี้

 

​เจ้าหน้าที่​เปิด​เผยว่า มูลค่า​การส่งออก​ไปจีนลดลง 15.8% ​เช่นกัน ส่วนหนึ่งจาก​การที่ภาคธุรกิจจีนปิด​ทำ​การนาน​เป็นสัปดาห์​ใน​เทศกาลตรุษ จีน​เมื่อ​เดือนก.พ. ​ซึ่ง​โดยปกติจะ​ทำ​ให้​การส่งออกของญี่ปุ่นชะลอตัวลง​ใน​เดือนม.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 21 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิด4แนวป้องค่าเงินบาท ทุกมาตรการมีทั้งข้อดีและข้อเสีย (21/03/2556)

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงาน สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าปี 2556 โดยได้ ประเมินทางเลือกของเครื่องมือ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างรวดเร็วทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปี และสะท้อนภาพการแข็งค่าที่ฉีกตัวออกจากทิศทางในภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย? ส่วนการดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทด้วยเครื่องมือต่างๆ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

 

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทางการไทยคงต้องจัดลำดับความสำคัญของโจทย์เศรษฐกิจที่ต้องดูแล และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยคาดว่า ระดับเฉลี่ยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1% จะมีผลกระทบต่อจีดีพีปี 2556 ราว 0.1-0.3% และขณะนี้ คงต้องยอมรับว่า สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของเงินบาทนับจากต้นปี 2556 เป็นไปในจังหวะที่ค่อนข้างรวดเร็ว และนักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิสะสมในตลาดพันธบัตร 2.59แสนล้านบาท และตลาดหุ้นไทย 6.54 พันล้านบาท แล้ว นับจากต้นปี 2556

 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คิดว่ามี 4 ทางเลือก ในการบริหารดูแลค่าเงิน บาท ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า 1.การลดส่วนต่างดอกเบี้ยไทยและต่างประเทศ ข้อดี อาจช่วยลดแรงจูงใจในการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดการเงินไทย โดยเฉพาะตราสารหนี้ และช่วยให้ต้นทุนการดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินของธปท.ออกจากระบบเศรษฐกิจลดลง แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ ไม่สามารถรับประกันได้อย่างเด็ดขาดว่าจะสามารถชะลอเงินทุนไหลเข้า และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจเพิ่มความร้อนแรงของตลาดสินเชื่อภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นประเด็นความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินของประเทศในระยะข้างหน้า

 

2.การแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ข้อดี ชะลอทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินบาทได้เป็นระยะ ?ลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ภาคธุรกิจมีเวลาในการปรับตัว ผู้เล่นในตลาดที่มีธุรกรรมขายเงินดอลลาร์ อาจเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการเก็งกำไรจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่ก็มีข้อเสีย อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทได้ ขณะที่ ผลต่อตลาด/ค่าเงินอาจจะมีจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางประเทศชั้นนำของโลกยังคงจุดยืนผ่อนคลายทางการเงิน และปัจจัยพื้นฐานของเงินบาทไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สถานะของงบดุลธปท. ที่บันทึกยอดขาดทุนในส่วนนี้ต่อเนื่อง

 

3.มาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน เช่น มาตรการดำรงเงินสำรองเงินนำเข้าระยะสั้น มาตรการภาษีที่เก็บจากกำไร-ดอกผลจากการลงทุน หรือมาตรการภาษีเงินทุนขาออก ข้อดีมีผลโดยตรงต่อกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุน ลดแรงจูงใจในการเก็งกำไรจากการแข็งค่าของเงินบาท ข้อเสีย บิดเบือนกลไกตลาด เป็นการยากที่จะกำหนดระดับความเข้มงวดในการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุน เพราะส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับผลทางจิตวิทยา

 

4.ปล่อยตามกลไกตลาด ข้อดี เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี ซึ่งอาจช่วยเร่งให้การ Correction ของตลาดการเงินไทยเกิดขึ้นและสิ้นสุดเร็วขึ้น ธปท.ไม่มีภาระต่อเนื่อง ที่เกิดขึ้นจากการแทรกแซง และการดูแลระดับสภาพคล่อง ข้อเสีย ความผันผวนสูงในตลาดการเงิน เงินบาทที่แกว่งตัวมากอาจสร้างความเสียหายต่อภาคการส่งออกของไทย ที่เผชิญกับโจทย์การแข่งขัน และการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของความต้องการจากต่างประเทศ เศรษฐกิจไทยขาดแรงขับเคลื่อน และอาจชะลอตัวกว่าที่ตัวเลขที่ประมาณการไว้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 21 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

สเปนเผยจำนวนบริษัทล้มละลายเพิ่มขึ้น 27.1% ในปี 2555

 

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปนเปิดเผยว่า จำนวนครอบครัวและบริษัทสเปนที่ประกาศล้มละลายเพิ่มขึ้น 27.1% ในปี 2555 เมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2554

 

รายงานของสำนักงานระบุว่า ยอดการล้มละลายในปี 2555 อยู่ที่ 8,726 ราย แบ่งเป็นบริษัท 7,799 ราย เพิ่มขึ้น 32% จากปี 2554 และครอบครัว 927 ราย ลดลง 2.7%

 

สำนักงานระบุว่า บริษัท 8,222 รายเป็นการประกาศล้มละลายโดยสมัครใจ เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2554 ในขณที่ 504 รายถูกบังคับให้ต้องประกาศล้มละลาย เพิ่มขึ้น 30.2% จากยอดปี 2554

 

ทั้งนี้ บริษัทในภาคก่อสร้างมียอดล้มละลายสูงสุด โดยคิดเป็น 30.1% ของจำนวนบริษัทที่ล้มละลายทั้งหมด ในขณะที่บริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานคิดเป็นสัดส่วน 18.5%

 

สำนักงานกล่าวว่า 23.8% ของบริษัทที่ล้มละลายมีอายุการดำเนินงาน 20 ปีขึ้นไป ในขณะที่ 9.9% มีอายุต่ำกว่า 4 ปี ขณะที่บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารคิดเป็นสัดส่วน 25.8%

 

 

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า วิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆของสเปน และยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของผู้ที่ต้องการก่อตั้งบริษัทใหม่ในช่วงที่มีความยากลำบากในการได้รับสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพจากภาคธนาคาร สำนักข่าวซินหัวรายงาน

[Pete 15,187]

เมื่อวานต่างชาติขายสุทธิ 3 พันกว่าล้าน. วันนี้จะเป็นไงหรอ ? ประเทศสารขันธ์พิเศษ ไม่เหมือนชาติใดในโลก

[Pete 15,187]

กทม.เตือนไข้เลือดออกระบาด ยอดป่วยพุ่ง 2 พันคน

 

 

นางวันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนน่าเป็นห่วง และหากเข้าฤดูฝนจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกก็จะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งต้นปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยกันกำจัดและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยการกำจัดลูกน้ำที่อยู่ในแจกันดอกไม้ ตุ่ม อ่างน้ำ โดยเปลี่ยนไม่เกิน 7 วัน รวมทั้งควรปิดฝาโองอย่างมิดชิด เพื่อไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ โดยส่วนใหญ่กว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ แหล่งเพาะพันธุ์ยุงจะอยู่ในบ้าน จากนี้สำนักงานเขตทั้ง 50 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขและอาสาสมัคร จะเข้าทำการเก็บขยะที่ตกค้างภายนอกบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพ่นยากำจัดยุงอย่างต่อเนื่อง

 

"หากสงสัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก หรือมีไข้ขึ้นสูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องขวา ถ่ายเป็นสีดำ รวมทั้งมีจุดแดงขึ้นตามตัว ขอให้พบแพทย์ทันที หากปล่อยไว้อาจจะเกิดภาวะช็อค เกร็ดเลือดต่ำ และอาจะเสียชีวิตได้" ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าว

 

ขณะที่กลุ่มงานระบาดวิทยา กองควบคุมโรค กทม. รายงานตัวเลขสถิติโรคไข้เลือดออก ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 16 มีนาคม พบผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจำนวน 2,464 ราย เสียชีวิต 1 ราย แบ่งเป็นเดือนมกราคม จำนวน 1,632 ราย และเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 707 ราย และล่าสุดวันที่ 16 มีนาคม อีกจำนวน 125 ราย ส่วนในปี 2555 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจำนวนทั้งสิ้น 10,081 ราย มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย

[Pete 15,187]

กรูว่าแล้ว ราคาทองไทยต้องแบบนี้ ซื้อคืน 22,200 บาท ขายออก 22,300 บาท ถ้าเมื่อคืนมือคันไปซื้อที่สูงกว่า 22,200 ก็คือ $1606-1607 กรูต้องเกากะโหลกแน่ๆๆ แน่จริง ตั้งราคามาตราฐานแบบนี้ จนถึงบ่าย 3 โมงนะ เดี๋ยวถ้า ฝรั่งมาวิเดาฯ ว่าแนวโน้ม " ลดลง " กรูจะใส่กระเป๋า ไปขายแท่ง ที่ เยาวราช

 

ปล. ราคามาตรฐานแบบนี้ คือ ราคาต้องบวกค่าความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนไวัแล้ว และตั้งไว้สูงค่ากว่าราคามาตราฐานที่ควรจะเป็น

ถูกแก้ไข มีนาคม 21, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

:: ค่าเงินบาท

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาทแบบสากล

[Pete 15,187]

จะเห็นได้ว่า ค่าเงินบาทอันไหนให้สูง ใช้อันนั้นเป็นเกณฑ์ มาตราฐาน

[Pete 15,187]

เพราะฉะนั้น การเล่นทอง จึงยากขึ้น ในช่วงผันผวน มีกำไรตั้งแต่ 65 บาทขึ้นไป ต้องขายฟันกำไรไว้ก่อน อย่าให้ต้องเสียโอกาสไป. / ขวากหนามของการเล่นทอง เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น จากที่เคยดูแต่ Spot ทองขึ้นหรือลง ขึ้นก็เฮ ลงก็ยี้. สถานการณ์ตอนนี้ มีทั้งค่าเงินบาท บาทแข็ง ไหนจะมาเจออาแปะ ขายทองไปแล้ว อยากได้ราคาย่อต่ำกว่าที่ขายไป เพราะบาทแข็ง Spot ลด ก็ยังทำไม่ได้ คงต้องให้ราคานิ่งๆ ถึงจะเข้าที่เข้าทาง ตั้งตามมาตราฐานจริง อย่าไปใจร้อน ในสถานการณ์แบบนี้. อยากโม้ โม้ได้ แต่ตัวใครตัวมันนะครับ

ถูกแก้ไข มีนาคม 21, 2013 โดย เด็กขายของ

[namchiang 468]

21 มีนาคม 2556 07:59

ทองปิดร่วง$3.8 หลังเฟดเดินหน้ามาตรการQE

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

เฟดคงดอกเบี้ย-เดินหน้ามาตรการQE กดราคาทองร่วง 3.8 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,607.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการที่สัญญาทองคำปิดลดลง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,607.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 2.6 เซนต์ ปิดที่ 28.817 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 4.10 เซนต์ ปิดที่ 3.4465 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,582.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 27.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 758.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 23.00 ดอลลาร์

 

http://www.bangkokbiznews.com

[namchiang 468]

ผู้นำไซปรัสหารือแผนสำรองแก้วิกฤตการเงินวันนี้

วันพฤหัสบดี, 21 มีนาคม 2556 08:34 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันพฤหัสบดี, 21 มีนาคม 2556 08:34 | วันเผยแพร่ | พิมพ์ | อีเมล

 

ประธานาธิบดีไซปรัสเตรียมยื่นเสนอแผนสำรองในการแก้ไขปัญหาการรับเงินช่วยเหลือจากอียู และไอเอ็มเอฟ ต่อผู้นำทางการเมือง เพื่อเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้งหลังรัฐสภาไซปรัสโหวตคัดค้านแผนเก็บภาษีเงินฝากในอัตราดอกเบี้ยสูง

 

นายนิกอส อะนาสตาเซียเดส ประธานาธิบดีไซปรัส เตรียมเสนอแผนสำรองใหม่ ยื่นต่อผู้นำทางการเมือง ในการจัดประชุมซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้ เวลาประมาณ 9.00 ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 14.30 ตามเวลาประเทศไทย เพื่อที่จะนำแผนดังกล่าวเข้าสูกระบวนการพิจารณาในรัฐสภาอีกครั้งขณะที่ "ซีเอ็นเอ" สื่อของไซปรัส อ้างคำพูดของนายนิกอส ที่ระบุว่า ข้อสรุปเกี่ยวกับแผนช่วยเหลือเศรษฐกิจจะตกลงกันให้ได้ภายในวันนี้เป็นอย่างช้าที่สุด

 

ทั้งนี้หลายฝ่ายคาดว่า แผนใหม่ครั้งนี้อาจจะยังคงเก็บภาษีเงินฝากแก่ผู้ที่มีเงินในบัญชีมากกว่า 100,000 ยูโร หรือประมาณเกือบ 4 ล้านบาท แต่อัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงไม่เท่ากับแผนการแรกที่ต้องเสียภาษีถึงร้อยละ 9.9ด้าน

 

ส่วนธนาคารในไซปรัสยังจะคงปิดทำการต่อไปจนถึงอังคารหน้า เนื่องจากเกรงว่า ประชาชนอาจจะแห่ไปถอนเงินออกจากธนาคารจนหมดเจ้าหน้าที่ของไซปรัสระบุว่า แผนใหม่ดังกล่าวจะได้รับการช่วยเหลือจากรัสเซีย โดยขณะนี้ นายมิคาลิส ซาร์รีส รัฐมนตรีคลังไซปรัส กำลังเจรจาขอความช่วยเหลือจากรัสเซียอยู่ โดยคาดว่าการเจรจาจะยังคงมีต่อไปจนถึงวันนี้ล่าสุด ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์ในไซปรัส ทำให้หลายสกุลเงินในเอเชียยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

 

เนื่องจากหลายฝ่ายเชื่อว่านักลงทุนเป็นกังวลต่อสถานการณ์ของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดสองแห่งในไซปรัสที่อาจจะล้มละลาย หากรัฐบาลไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการรับเงินช่วยเหลือจากอียู และไอเอ็มเอฟได้ ขณะนี้ นักลงทุนพยายามเลี่ยงไม่ไปลงทุนในยุโรป และหันมาลงทุนในภูมิภาคเอเชียแทน เพราะเชื่อว่าวิกฤตในไซปรัสอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ โดยเฉพาะ หากรัฐกำหนดนโยบายที่เข็มขวดมากเกินไป โดย มีรายงานว่า เงินเยนของญี่ปุ่น// ดอลลาร์ของออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ยังคงเข็งค่าเหนือเงินสกุลยูโรอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวเตือนว่า ความไม่แน่นอนในไซปรัส อาจทำให้ค่าเงินอียูอ่อนค่ามากกว่านี้

 

 

http://www.moneychannel.co.th

[Pete 15,187]

โกลเบล็กมองกรอบราคาทองคำวันนี้ที่ 1,590-1,625 ดอลลาร์/ออนซ์(21/03/2556)

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเมนท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (21 มีนาคม 2556) แนะนำนักลงทุนระยะสั้นให้ถือสถานะหากราคายืนเหนือระดับราคา $1,590/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้ถือสถานะหากราคายืนเหนือระดับราคา $1,590/Oz

 

ภาพรวมตลาดวานนี้ (20 มีนาคม 2556)

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $6.84/Oz หรือ 0.42% มาอยู่ที่ $1,606.45/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,602.80-1,614.80)

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.25% และจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% แต่ไม่มีการประกาศมาตรการใหม่ออกมาเพิ่มเติม นอกจากนี้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำเพิ่มเติม หลังจากรัฐมนตรีคลังของลักเซมเบิร์ก ได้เรียกร้องให้มีการจัดประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนขึ้นอีกโดยเร็ว เพื่อผลักดันแผนการชุดใหม่ในการช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วันได้สำเร็จทำแต่ยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ $1,620/Oz ได้ ซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งหากผ่านไปได้เป็นสัญญาณซื้อเพื่อเก็งกำไร มองกรอบราคาทองคำวันนี้ที่ $1,590-1,625/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•ดัชนีภาคการผลิตเยอรมนี เวลา 15.30 น.

•ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน เวลา 16.00 น.

•ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐ เวลา 19.30 น.

•ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีภาคการผลิตสาขาฟิลาเดเฟีย เวลา 21.00 น.

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 21 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

EIA ​เผยผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐสูงกว่ายอดนำ​เข้า​เป็นครั้ง​แรกนับจากปี 2538(21/03/2556)

สำนักงานสารสน​เทศด้าน​การพลังงานของสหรัฐ (EIA) คาด​การณ์ว่า ผลผลิตน้ำมันดิบราย​เดือนของสหรัฐจะ​แซงหน้ายอดน้ำมันนำ​เข้าอีก​ไม่นาน​ใน ปีนี้​ซึ่งถือ​เป็นครั้ง​แรกนับตั้ง​แต่​เดือนก.พ. ปี 2538

 

รายงาน​เกี่ยวกับ​แนว​โน้มพลังงาน​ในระยะสั้นประจำ​เดือนมี.ค. 2556 ของ EIA ​เปิด​เผยว่า สหรัฐ​เตรียมควบคุมส่วนต่างระหว่างผลผลิตน้ำมันดิบราย​เดือน ​และยอดนำ​เข้าน้ำมัน​ไว้ที่ปริมาณ​เกือบ 2 ล้านบาร์​เรล/วันภาย​ในสิ้นปีหน้า

 

EIA ยังประ​เมินว่าผลผลิตน้ำมันดิบราย​เดือนของประ​เทศจะสูงกว่า 8 ล้านบาร์​เรล/วัน ​ใน​ไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 ​ซึ่งจะ​เป็นระดับที่สูงที่สุดตั้ง​แต่ปี 2531 ​และคาดว่า ยอดนำ​เข้าน้ำมันดิบสุทธิมีจะร่วงลง 7 ล้านบาร์​เรล/วัน​ในช่วง​เวลาดังกล่าว​ซึ่งนับ​เป็นครั้ง​แรกนับจากปี 2538 ​โดย​การ​เปลี่ยน​แปลงนี้มาจากผลผลิตน้ำมันดิบที่​เพิ่มขึ้น​ในประ​เทศ​โดย​ เฉพาะจากชั้นหินดินดาน ​และหมวดหิน​แข็งอื่นๆ​ในรัฐนอร์ท ดา​โกต้า ​และ​เท็กซัส สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 21 มีนาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

เบอร์นัน​เก้ชี้​ไซปรัส​ไม่ก่อ​ความ​เสี่ยงรุน​แรงต่อสหรัฐ, คาดศก.ปีนี้​โต 2.3-2.8%(21/03/2556)

 

 

นาย​เบน ​เบอร์นัน​เก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (​เฟด) กล่าวภายหลัง​การประชุมกำหนดน​โยบาย​ซึ่ง​เสร็จสิ้น​เมื่อวานนี้ตาม​เวลา​ ไทยว่า ​เขา​ไม่รู้สึกวิตกกังวล​เกี่ยวกับราคาหุ้น​ในปัจจุบัน ​ซึ่งถ้อย​แถลงดังกล่าว​ทำ​ให้ตลาด​การ​เงินคลาย​ความวิตกกังวลที่ว่าอาจจะ​ เกิดภาวะฟองสบู่​ในตลาดหุ้นหลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวด​เร็วนับตั้ง ​แต่ต้นปี 2556

 

ส่วน​ใน​เรื่องวิกฤต​การณ์ที่​เกิดขึ้นกับ​ไซปรัสนั้น ​เบอร์นัน​เก้กล่าวว่า "​เรายัง​ไม่​เห็นว่าสถาน​การณ์ของ​ไซปรัสมี​ความ​เสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อ​ เศรษฐกิจสหรัฐ" ​โดยระบุว่า ​เฟดจะจับตาดูสถาน​การณ์ของ​ไซปรัสต่อ​ไป ​แต่​ไซปรัสจะ​ไม่สร้าง​ความ​เสี่ยงที่ร้าย​แรง​ให้กับ​เศรษฐกิจสหรัฐ ​แม้​ไซปรัส​เองกำลัง​เผชิญกับ​ความ​ไม่​แน่นอน​และอุปสรรคที่ยุ่งยากหลาย ประ​การ​ก็ตาม

 

​ใน​การประชุมครั้งนี้ ​เฟดมีมติ​ใช้มาตร​การกระตุ้น​เศรษฐกิจ ด้วย​การ​เดินหน้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาล​ให้​การสนับสนุน วง​เงิน 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อ​เดือน​และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุ​การ​ไถ่ถอนนาน ขึ้นวง​เงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อ​เดือน ​โดย​เชื่อว่ามาตร​การ​เหล่านี้น่าจะยังคงสร้าง​แรงกดดันช่วงขาลงต่ออัตราด อก​เบี้ยระยะยาว ช่วยหนุนตลาดจำนอง ​และช่วย​ทำ​ให้ภาวะทาง​การ​เงิน​ในวงกว้างมี​ความผ่อนคลายมากขึ้น

 

​เบอร์นัน​เก้กล่าวว่า มาตร​การ​เหล่านี้จะช่วยหนุน​การ​เติบ​โตทาง​เศรษฐกิจ​และ​การจ้างงานของ สหรัฐอย่างมาก พร้อมกับย้ำว่า ​เฟดจะยังคงประ​เมินต้นทุน ผลประ​โยชน์ ​และประสิทธิผลของ​โครง​การซื้อสินทรัพย์

 

นอกจากนี้ คณะกรรม​การกำหนดน​โยบายของ​เฟด​ได้ปรับลดคาด​การณ์อัตรา​การขยายตัวของ​ เศรษฐกิจ​ในปีนี้ ​โดยคาดว่า​เศรษฐกิจ​ในปีนี้จะขยายตัวราว 2.3-2.8% ​ซึ่งลดลง​เล็กน้อยจากที่คาด​การณ์​ไว้​ใน​เดือนธ.ค.ว่า​เศรษฐกิจปีนี้จะ ขยายตัวราว 2.3 - 3.0%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 21 มีนาคม 2556)