ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

'จิตติ'เตือนชะลอลงทุนทองคำ1-2วันนี้รอดูสถานการณ์(05/04/2556)

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึง ราคาทองคำที่ปรับลดลงแรงในวันนี้ ปัจจัยหลักมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุน

 

หลังจากมีข่าวว่า จอร์จ โซรอส ขายทองคำออกมาเพิ่ม แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ยังไม่มีใครทราบ แต่ผลกระทบที่ออกมาคือ ทำให้นักลงทุนตกใจและเทขายทองคำออกมา โดยปรับตัวลดลงติดกัน 2 วันทำการ รวมแล้วประมาณ 700 บาท

 

จากทิศทางราคาทองคำตั้งแต่ต้นปี 2556 เคลื่อนไหวในขาลงเพียงอย่างเดียว แตกต่างจากทุกปีที่เมื่อราคาทองลดลงมากก็ต้องมีการปรับขึ้นบ้าง ดังนั้น เตือนนักลงทุนให้ชะลอดูสถานการณ์ไปก่อน ซึ่งคาดว่าราคาทองในปี 2556 ไม่น่าจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าบาทละ 21,550 บาท เพราะตั้งแต่ต้นปีราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 2,700 บาท

 

"ในช่วง 1-2 วันนี้ ยังไม่แนะนำให้เข้าไปเก็งกำไร เพราะหากราคาทองหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,545 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็มีโอกาสหลุด 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ง่าย"นายจิตติกล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศวันนี้ ตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายราคาทองปรับลงบาทละ 350 บาท โดยระหว่างวัน ราคาปรับขึ้น 1 ครั้ง 50 บาท และปรับลง 1 ครั้งอีก 50 บาท รวมแล้วราคาทองวันนี้ ปรับลงอยู่ที่ 350บาท ทองคำแท่งขายที่บาทละ 21,550บาท และทองรูปพรรณขายที่บาทละ 21,950บาท

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

 

โกลเบล็ก มองกรอบราคาทองคำวันนี้ที่ 1,530-1,565 ดอลลาร์/ออนซ์(05/04/2556)

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเมนท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (5 เมษายน 2556) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ให้เก็งกำไรในกรอบ $1,530-1,565/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากราคาสร้างฐานเหนือแนวรับที่ $1,520-1,530/Oz ให้ทยอยเข้าซื้อ

ภาพรวมตลาดวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $5.05/Oz หรือ 0.32% มาอยู่ที่ $1,552.85/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,540.20-1,559.60) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% โดยประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่าจะจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินการเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหากจำเป็น นอกจากนี้ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ พุ่งขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 350,000 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ราคาปรับตัวลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่องประกอบกับถูกกดดันหลังราคา ปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นอีกครั้ง หากในวันนี้สร้างฐานเหนือ $1,550/Oz ได้และไม่มีการสร้างจุดต่ำสุดใหม่เป็นการบ่งชี้ถึงแรงขายที่ลดลง มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ที่ $1,530-1,565/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

• ยอดค้าปลีกยูโรโซน เวลา 16.00 น.

• ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรและตัวเลขว่างงานสหรัฐ เวลา 19.30 น.

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวไซปรัสแบกรับภาษีอ่วม หลังรัฐบาลเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัด(05/04/2556)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ล่าสุด รัฐบาลไซปรัสได้ประกาศเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อหาเงินเพิ่มอย่างน้อย 351 ล้านยูโร ตามข้อตกลงของสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะให้กู้ยืมเงินในเดือนพฤษภาคมนี้

มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ชาวไซปรัสแบกภาระภาษีเพิ่มขึ้น เช่น ภาษีส่วนบุคคลจากเดิมร้อยละ 10 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.5 ขณะที่ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มค่าบริการด้านสาธารณต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยร้อยละ 17

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 5 เมษายน 2556ป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ ขานรับบีโอเจเดินหน้าผ่อนคลายการเงิน (05/04/2556)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 1.1% แตะระดับ 135.08 จุด เมื่อเวลา 9.57 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 12,880.82 จุด เพิ่มขึ้น 246.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,230.93 จุด ลดลง 106.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,948.33 จุด ลดลง 11.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,311.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,784.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,686.31 จุด ลดลง 2.15 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,919.90 จุด เพิ่มขึ้น 6.40 จุด

 

ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

 

หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ทะยาน 3.2% และหุ้นแคนนอน อิงค์ พุ่ง 3.7% หลังเงินเยนอ่อนตัวลงทำให้แนวโน้มรายได้ดีขึ้น

 

ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนหลังจากที่บีโอเจมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงิน ต่อไปในการประชุมครั้งแรกภายใต้การนำของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ โดยบีโอเจจะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบเชิงรุกจนกว่าจะบรรลุเป้า หมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เพื่อจัดการกับปัญหาเงินฝืด

 

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการบีโอเจมีมติว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท รวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี พร้อมกับขยายโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนในปัจจุบันไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี นอกจากนี้ บีโอเจจะซื้อกองทุน ETF วงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อกองทุน REIT วงเงิน 3 หมื่นล้านเยนต่อปี พร้อมกับจะระงับ "หลักการธนบัตร (banknote principle)" ซึ่งเคยห้ามไม่ให้บีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลมากกว่ามูลค่าของธนบัตรที่ หมุนเวียนในระบบ

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กกร.ตบเท้าหารือ”บุญทรง”เรื่องค่าเงินบาท 9 เม.ย.นี้ (05/04/2556)

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมมีมติเตรียมเข้าพบนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วันที่ 9 เมษายน เพื่อหารือผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลักอย่างเครื่องนุ่งห่ม อาหาร สินค้าเกษตร และเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบโดยด่วน

 

นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์ของค่าเงินบาทตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2556 พบว่าแข็งค่าขึ้นถึง 5% ถือเป็นประเทศที่ค่าเงินแข็งค่ามากเป็นอันดับต้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งทางการค้าในภูมิภาครวม 14 ประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และล่าสุดยังแข็งค่าเป็นอันดับ 1 มากกว่าประเทศอินเดียในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นหากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และรัฐบาลดูแลให้ค่าเงินบาทของไทยเกาะกลุ่ม 14 ประเทศ และไม่ผันผวนรุนแรงเหมือนปัจจุบัน จะเป็นสิ่งที่เอกชนต้องการมากที่สุด

 

"ค่าเงินบาทระดับ 30 บาท 29.5 บาท หรือ 29 บาท เอกชนรับได้หมดถ้าไม่ผันผวนอย่างปัจจุบัน เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนไหวทำให้เอกชนไม่สามารถตั้งราคาได้ตามที่ต้องการ หากจะปรับราคาก็มีความเสี่ยงว่าลูกค้าจะหันไปซื้อประเทศคู่แข่งแทน เพราะชนิดสินค้าไม่ต่างกันมาก"นายพยุงศักดิ์กล่าว

 

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ส่งออกของไทยได้รับผลกระทบจาก 2 ด้าน คือ 1.ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ประเทศคู่แข่งสำคัญของไทยอย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย ค่าเงินบาทไม่ขยับเหมือนไทย ทำให้ไทยเสียเปรียบ 2.ประเทศผู้สั่งซื้อสินค้าอย่างญี่ปุ่น เกาหลี สหภาพยุโรป อังกฤษ ค่าเงินอ่อนลงมากทำให้ความสามารถในการซื้อสินค้าลดลง ดังนั้นธปท.และรัฐบาลลต้องเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วน อย่าทำตัวเป็นพระเอกโดยไม่ดำเนินการอะไรเลย เพราะประเทศอื่นยังแก้ปัญหาได้แต่ทำไมไทยทำไม่ได้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์ (วันที่ 5 เมษายน 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่น​เผยทุนสำรองตปท.หดตัว 6 ​เดือนซ้อน​แตะ $1.25 ล้านล้าน​ใน​เดือนมี.ค.(05/04/2556)

 

 

กระทรวง​การคลังญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า ทุนสำรอง​เงินตราต่างประ​เทศของญี่ปุ่นลดลง 4.45 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.25436 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้น​เดือนมี.ค. ​เมื่อ​เทียบกับ​เดือนก่อนหน้า ​ซึ่ง​เป็น​การลดลงติดต่อกัน​เป็น​เดือนที่ 6

 

สา​เหตุส่วนหนึ่งที่​ทำ​ให้ทุนสำรอง​เงินตราต่างประ​เทศหดตัวลงคือมูลค่า ของสินทรัพย์สกุล​เงินยู​โรที่ปรับลดลง จาก​การอ่อนค่าของยู​โร​เมื่อ​เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ​ในระยะดังกล่าว

 

​ทั้งนี้ ทุนสำรอง​เงินตราต่างประ​เทศญี่ปุ่นหลักๆประกอบด้วย หลักทรัพย์ ​เงินฝากสกุลต่างประ​เทศ ​และทองคำ รวม​ถึง​เงินสำรอง​และ​เงินสกุล​เงิน SDR ที่ญี่ปุ่นถือครอง​ในกองทุน​การ​เงินระหว่างประ​เทศ (​ไอ​เอ็ม​เอฟ) สำนักข่าว​เกียว​โดรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบลด หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯซบเซา - บมจ.ไทยออยล์

 

 

" ราคาน้ำมันดิบลด หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯซบเซา "

 

 

 

เบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค.ปรับลดลง 0.77 ปิดที่ 106.34 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน พ.ค.ปรับลดลง 1.19 ปิดที่ 93.26

 

- ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานเพิ่มขึ้นกว่า 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 350,000 ราย ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯยังคงเปราะบางส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลถึงผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้การที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 22 ปี เป็นอีกหนึงปัจจัยที่เพิ่มความกังวลต่อตลาดน้ำมันอีกด้วย

 

- ผู้บริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววานนี้ โดยคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะปรับลดลงจากปัจจุบัน ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อตลาดน้ำมันดิบ

 

- ดัชนีภาคบริการยูโรโซน เดือน มี.ค. ลดลงที่ 46.4 จาก 47.9 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการที่ภาคบริการของประเทศสมาชิกรายใหญ่ๆต่างก็ปรับตัวลดลง นำโดยดัชนีภาคบริการของฝรั่งเศสที่ปรับตัวลดลงเป็น 41.3 จาก 43.7 ในเดือนก่อนหน้า และยังถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 48 เดือน

 

+ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน โดยอัดฉีดเงินจำนวน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และจัดการกับปัญหาเงินฝืด

 

+ รายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป รายงานว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังคงมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดที่ 0.75% ต่อไปเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่สูงขึ้น โดยเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 12 สัปดาห์ ประกอบกับความต้องการในภูมิภาคที่ชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการจากนภูมิภาคเพิ่มเติมจากเวียดนาม

 

 

 

 

 

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

 

 

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้าเบรนท์ 105-112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 92-99 เหรียญ ติดตามการเจรจาระหว่างอิหร่านกับ 6 ประเทศมหาอำนาจส่วนวันนี้ยอดขายปลีกยูโรโซน ยอดคำสั่งซื้อของโรงงานเยอรมนี ดุลการค้า อัตราการว่างงานและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันศุกร์: ยอดขายปลีกยูโรโซน ยอดคำสั่งซื้อของโรงงานเยอรมนี ดุลการค้า อัตราการว่างงานและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่

วันจันทร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนยูโรโซน

วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน ดุลาการค้าเยอรมนีและฝรั่งเศสรายงานประจำเดือน EIA

วันพุธ: รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ การผลิตภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศสและอิตาลี ดุลการค้าจีน รายงานประจำเดือนกลุ่มโอเปก

วันพฤหัส: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนของธนาคารกลางยุโรป ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนีและฝรั่งเศส รายงานประจำเดือน IEA

วันศุกร์: การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน การผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน ยอดขายปลีก

 

- ติดตามเหตุรั่วไหลท่อส่งน้ำมันดิบของบริษัทเอ็กซอลโมบิล ซึ่งมีกำลังส่ง 90,000 บาร์เรลต่อวัน ว่าจะมีผลทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังบริเวณตอนกลางฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะบริเวณคุชชิ่งเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

- จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังจากไม่มีฝ่ายใดได้เสียงข้างมากทั้งสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาหากไม่สำเร็จ ล่าสุดประธานาธิบดีของอิตาลีได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อปูทางให้ประธานนาธิบดีคนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งภายในเดือน เม.ย. ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในปีนี้

- จับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไอร์แลนด์ในวันที่ 12 เม.ย. ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สินในยูโรโซนอย่างไร หลังไซปรัสได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 ล้านยูโร ตลาดคาดว่าประเทศต่อไปที่มีโอกาสขอเงินช่วยเหลือคือสโลวีเนีย

- ติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจ

 

ราคาน้ำมันดิบ (เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)

-----------------------------------------------------------------

ราคาน้ำมันตลาดจร 3 เม.ย.56 4 เม.ย.56 เปลี่ยนแปลง

-----------------------------------------------------------------

เวสต์เท็กซัส (พ.ค.) 94.45 93.26 -1.19

เบรนท์ (พ.ค.) 107.11 106.34 -0.77

ดูไบ 107.67 104.87 -2.80

เงินดอลลาร์ (เหรียญสหรัฐฯ ต่อ ยูโร)1.2850 1.2935 0.0085

ดัชนีอุตสหกรรมดาวโจนส์ (จุด) 14,550.35 14,606.11 55.76

ราคาทองคำ (เหรียญสหรัฐฯ ต่อ ออนซ์)1,552.80 1,552.40 -0.40

----------------------------------------------------------------

 

ราคาขายปลีกและค่าการตลาด (บาท/ลิตร)

-------------------------------------------------------

UG91 GSH95 GSH91 B5

-------------------------------------------------------

ราคาหน้าโรงกลั่น 23.64 23.38 23.28 23.69

ภาษี 10.74 9.49 9.33 1.97

กองทุน 9.45 4.25 2.15 3.05

ค่าการตลาด 2.42 1.91 1.82 1.28

ราคาขายปลีก 46.25 39.03 36.58 29.99

-------------------------------------------------------

ปตท.-บางจากปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซิน-โซฮอล์ 40 สต./ลิตร E85 ลง 20สต./ลิตร มีผลวันที่ 5 เม.ย. 56

กบง.มีมติเก็บเงินกองทุนดีเซลเพิ่ม 60 สต. มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 56

 

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์ (เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)

----------------------------------------------------------------

ราคาน้ำมันตลาดจร 3 เม.ย.56 4 เม.ย.56 เปลี่ยนแปลง

----------------------------------------------------------------

เบนซินออกเทน 95 122.11 116.51 -5.60

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 123.33 120.79 -2.54

น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (0.05%กำมะถัน)123.68 121.16 -2.52

น้ำมันเตา (3.5% กำมะถัน) 100.64 97.78 -2.86

----------------------------------------------------------------

หมายเหตุ: เป็นราคาปิดเมื่อวันวันที่ 28 มี.ค. 56 ส่วนวันที่ 29 มี.ค. 56 ตลาดปิดเนื่องในวันหยุดอีสเตอร์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นลอนดอน:ตัวเลขศก.สหรัฐกด FTSE ปิดดิ่งลง 1.19%

 

 

ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปรับลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวัน พฤหัสบดี และดิ่งลงมาปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดรอบ 1 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจาก ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 76.16 จุด หรือ 1.19 % สู่ 6,344.12 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,341.43-6,426.37 โดยระดับปิดวันพฤหัสบดีถือเป็น ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.

 

อีซีบีตรึงนโยบายการเงินไว้ตามเดิมในการประชุมวันพฤหัสบดี และสร้างความ ผิดหวังให้แก่นักลงทุนบางรายที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อีซีบีอาจจะปรับลด อัตราดอกเบี้ยลง โดยนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่า การฟื้นตัวทาง เศรษฐกิจของยูโรโซนเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลงในช่วงครึ่งปีหลัง

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ 385,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งถือ เป็นจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน

 

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลลบต่อความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อผลกำไรภาคเอกชน ในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า และส่งผลลบต่อหุ้นบริษัทอังกฤษที่มีรายได้ราวครึ่งหนึ่ง มาจากอเมริกาเหนือหรือจากภาคพื้นทวีปยุโรป

 

หุ้นบริษัทที่มีรายได้ราวครึ่งหนึ่งมาจากอเมริกาเหนือดิ่งลงอย่างรุนแรง ซึ่งรวมถึงหุ้นโวลส์ลีย์ที่เป็นบริษัทก่อสร้างบ้าน โดยหุ้นโวลส์ลีย์รูดลง 2.8 % ทางด้านหุ้นรีด เอลซีเวียร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาข้อมูลดิ่งลง 3.9 % และหุ้น คาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญดิ่งลง 3.0 %

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทแข็งต่อเนื่อง ซื้อต่อเนื่อง 1570 1543 ไปฝังดินไว้ก่อนดีกว่า :033

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทแข็งต่อเนื่อง ซื้อต่อเนื่อง 1570 1543 ไปฝังดินไว้ก่อนดีกว่า :033

ค่าเงินบาทอ้างอิง ร้านไทยๆ โคตรรวย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮ้อ ! คุณชาย กับ นายหญิง จะดู " คู่กรรม " ต้องไปซืี้อน้ำแบบนี้ หน้าโรงหนัง 5 ขวดๆละ 30 บาท เพื่อได้ตั๋วหนัง ฟรี 2 ที่นั่ง แบกจนเมื่อยเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

OECD ​เผยจีดีพีของประ​เทศสมาชิกหดตัวลง 0.1% ​ใน Q4/2555(05/04/2556)

องค์​การ​เพื่อ​ความร่วมมือทาง​เศรษฐกิจ​และ​การพัฒนา (OECD) ​เปิด​เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (GDP) ที่​แท้จริงของกระ​เทศ​ในกลุ่ม OECD ลดลง 0.1% ​ใน​ไตรมาส 4 ปี 2555 ​โดย​ได้รับ​แรงกดดันจาก​การระบายสต็อกสินค้าคงคลัง

 

รายงานของ OECD ฉบับล่าสุดระบุว่า ​การระบายสต็อก​ใน​ไตรมาส 4 ปี 2555 ฉุดรั้ง​การขยายตัวของจีดีพีลง 0.3%

 

"​การหดตัว​ใน​การบริ​โภคภาครัฐลด​การขยายตัวของจีดีพีลงอีก 0.1% ขณะที่ผลจาก​การบริ​โภค​ในภาค​เอกชน ​การสะสมทุนถาวร (Gross fixed capital formation) ​และ​การส่งออกสุทธิช่วยชด​เชย​การลดลงของจีดีพีบางส่วน​เท่านั้น" OECD ระบุ

 

ขณะที่​ไตรมาส 4 ปีที่​แล้ว ​แต่ละประ​เทศ​ในกลุ่ม OECD ยังคงมีทิศทางที่ต่างกัน ​แม้ว่า​การระบายสต็อกจะ​เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพล​ในประ​เทศส่วน​ใหญ่ ยก​เว้น​ใน​เยอรมนี

 

สำหรับ​เยอรมนี สต็อกสินค้าคงคลังช่วย​เพิ่ม​การขยายตัวของจีดีพี 0.2% "​แต่ผลกระทบ​เชิงลบที่มีนัยสำคัญ​เข้ามาบดบัง​ได้มากกว่าจาก​การส่งออก สุทธิ ​ซึ่งกด​การขยายตัว​ในภาพรวมลงสู่ -0.6%" OECD ระบุ

 

ขณะที่ปัจจัยหลักต่อ​การขยายตัวของจีดีพี​ใน​แคนาดามาจาก​การบริ​โภคภาค​ เอกชน​เช่น​เดียวกับที่ญี่ปุ่น ขณะที่ปัจจัยหลักต่อขยายตัวของจีดีพี​ในสหรัฐคือ​การลงทุน อย่าง​ไร​ก็ตามปัจจัย​เหล่านี้ส่วน​ใหญ่ถูกบดบัง​โดย​การระบายสต็อกอย่าง หนัก

 

ทางด้านฝรั่ง​เศส ​การระบายสต็อก​และ​การลงทุน​ได้ฉุดรั้งจีดีพีลง 0.4% ​และ 0.2% ตามลำดับ ขณะที่​การขยายตัวของจีดีพี​ในอิตาลี​และอังกฤษ​ได้รับผลกระทบจาก​การระบาย สต็อก​เช่นกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดทองเอเชีย:ทองใกล้หลุด 1,550 ดอลล์ ต่ำสุด 10 เดือน จับตาจ้างงานสหรัฐ (05/04/2556)

ราคาทองขยับลงเช้านี้ใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณ เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และสัดส่วนการถือครองกองทุน

ETF ทองคำที่ลดลง เป็นปัจจัยฉุดราคาร่วงลง

 

 

ณ เวลา 10.26 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตร่วงลงแตะ 1,550.26 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาจะปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยราคาร่วงแตะระดับ 1,539.74 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่มาตรการกระตุ้นทางการเงิน ครั้งใหญ่จากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และความหวังที่ธนาคารกลาง ยุโรป (อีซีบี) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งนั้น ไม่สามารถสกัดกั้น แรงเทขายอย่างหนักได้

 

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดนิวยอร์คร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ มาที่ 1,550.6 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้

นัก ลงทุนจะรอดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และรายงานที่แข็งแกร่ง อาจส่งผลกระทบต่อทอง เนื่องจากจะทำให้ง่ายขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนกังวลกับเงินเฟ้อ ในสหรัฐ

 

 

SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2012 หลังจากขาดทุนมา 2 ปี กองทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดของนายจอห์น พอลสัน

ผู้ จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ก็มีผลประกอบการดีขึ้นในช่วงต้นปีนี้ อย่างไรก็ดี กองทุนทองของเขาขาดทุนในอัตราตัวเลขสองหลักในไตรมาสแรกของปีนี้ ทองกำลังจะเข้าสู่จุดเริ่มต้นของวัฏจักรตลาดภาวะหมีในปีหน้า หลังจากที่

พุ่ง ขึ้นมานานกว่า 1 ทศวรรษ ขณะที่ความต้องการเครื่องประดับ, เหรียญ และทองคำแท่งของผู้บริโภค ลดลง และการซื้อของธนาคารกลางแตะระดับ สูงสุดแล้ว

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 5 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันทำการ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความหวังที่ว่าการคงระดับอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีนั้นล้มเหลวในการยับยั้งการเทขายอย่างหนักของกลุ่มกองทุนทองคำต่างๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปรับตัวลดลง 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,552.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักข่าว Reuters ยังแสดงให้เห็นว่าในตลาด COMEX มีปริมาณการซื้อขายเบาบางที่ระดับประมาณ 5% ซึ่งต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน

 

ในขณะที่เมื่อวานนี้ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดตลาดที่ระดับ 1,546.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

การปรับตัวลดลงของทองคำแสดงให้เห็นว่า กลุ่มนักลงทุนทำการเทขายทองคำอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วันทำการแล้ว เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

 

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้สัญญาทองคำก็ไม่ได้ปิดตัวลบมากนัก เนื่องจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ หลังบีโอเจจะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกต่อ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% และแก้ปัญหาเงินฝืดในประเทศ

 

ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่า กราฟระยะยาวของราคาทองคำ กำลังจะทดสอบแนวรับที่ระดับประมาณ 1,525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์จาก

Reuters กล่าวเตือนว่าหากว่าราคาได้หลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวอาจทำให้เกิดการลงลึกอย่างรุนแรงได้

 

กองทุนทองคำขนาดใหญ่อย่าง ETFs ลดการถือครองทองคำแตะระดับ 38.9 ล้านออนซ์ นับเป็นระดับต่ำสุดที่เคยทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคมในปี 2012 และแม้ว่าเมื่อวานนี้ SPDR ยังคงไม่ได้ทำอะไร โดยถือครองทองคำที่ระดับเดิม 1,206.22 ตัน แต่ปริมาณการถือครองทองคำที่ลดลงในสัปดาห์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำลดต่ำลง

 

ตลาดทองคำขนาดใหญ่ไม่ขานรับต่อข่าวที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้สัญญาว่าจะทำการอัดฉีดจำนวนเงินประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้ใช้เวลาน้อยกว่า 2 ปี และข่าวที่อีซีบีให้คำมั่นว่า “จะทำทุกทาง” หากเกิดกรณีจำเป็นใดๆ

 

นายอามาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บีโอเจมีมติว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท พร้อมกับขยายโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุไถ่ถอนไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี และบีโอเจ จะทำการเข้าซื้อกองทุน ETF ด้วยวงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี พร้อมกันนี้จะระงับหลักการธนบัตร (Banknote Principle) สำหรับธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบด้วย

 

สกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น 28,000 ราย แตะระดับ 385,000 ราย ซึ่งเป็นผลตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 350,000 ราย ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2937 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.2846 ดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากการที่อีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยคงเดิม 0.75% เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

 

นอกจากนี้ มาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะหดตัวลง 0.5% ในปีนี้ แต่ในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.2-2.2%

 

แม้ว่าตลาดการเงินจะยังวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในไซปรัส แต่ล่าสุดไอเอ็มเอฟ วางแผนที่จะเสนอเงินกู้สำหรับ 3 ปี เป็นจำนวน 1.34 พันล้านดอลลาร์ให้ไซปรัส เพื่อช่วยให้ไซปรัสสะดวกในการระดมทุนและการชำระนี้ แต่มีข้อแม้ว่าไซปรัสจะต้องดำเนินตามนโยบายเพื่อฟื้นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถเข้าถึงการระดมทุนในตลาดทุนได้อีกครั้ง

 

เมื่อวานนี้ สเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรขายพันธบัตรได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4.31 พันล้านยูโร (5.53 พันล้านดอลลาร์) ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว สะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตในไซปรัส ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสเปน

 

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ในวันศุกร์นี้นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลการจ้างงานภาคการเกษตรของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นตัวส่งสัญญาณต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งการประกาศตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องได้ เนื่องจากผลที่ออกมาอาจสร้างความผ่อนคลายเพิ่มขึ้นต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศและอาจทำให้เฟดหยุด QE ลงภายในปีนี้

 

นอกจากนี้โฮวาร์ด เว็น ยังกล่าวว่า “หากตัว Nonfarm-Payroll ในคืนนี้ผลออกมามีการจ้างงานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงต่อได้”

 

อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลข Non-farm employment change ในวันนี้ ผลจะออกมาลดลงประมาณ 38,000 ตำแหน่งมาที่ 198,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าระดับเดิม 236,000 ตำแหน่ง และนักวิเคราะห์มองว่า Unemployment Rate จะออกมาทรงตัวเท่าเดิมที่ระดับ 7.7%

 

เมื่อวานนี้ การแถลงการณ์ของเบน เบอนันเก้ ประธานเฟดก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่กลุ่มตลาดนัก โดยเขาพูดถึงภาพรวมของสภาพตลาดและการยกระดับความรู้ด้านการเงินแก่ชาวสหรัฐ เพื่อให้สามารถนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวดีขึ้นร่วมกัน

 

อย่างไรก็ตาม เดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า แสดงความเห็นว่า เขาไม่มั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐจะแข็งแกร่งขึ้นได้ในปี 2013

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...