ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อหนุนทองคำปิดพุ่ง 19.4 ดอลลาร์ (21/05/2556)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล (short covering) หลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงยาวนานถึง 7 วันทำการ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 19.4 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,384.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 22.582 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 3.36 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,484.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 16.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 750.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.50 ดอลลาร์

 

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงยาวนานถึง 7 วันทำการ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดชะลอการซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่าเฟดอาจเพียงแค่ชะลอการซื้อ แทนที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน

 

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันพุธที่ 22 พ.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น และในวันเดียวกันนั้น เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะตรงกับเวลาเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.ตามเวลาไทย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตื่นเช้ามา ตาโตราคาทอง O_o

 

เมื่อวานไม่ได้เข้าครับ เซ็งเห็ดไปเลยผ้ม ^^

ไม่เจ็บตัว แทงขาลง ก็นับว่าโชคดีแล้ว เพราะเหล่าคนขายทอง บอกว่า " ทองจะลงต่ำกว่า Low เดิม ทั้งนั้น "

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทอง ชอบ เงินเฟ้อ

 

 

รายงานชี้เงินเฟ้อสูงต่อเนื่องบั่นทอนเศรษฐกิจอังกฤษอย่างหนัก (21/05/2556)

เอิร์นส์ แอนด์ ยัง ไอเทม คลับเปิดเผยในรายงานพิเศษฉบับหนึ่งในวันนี้ว่า อังกฤษจะยังคงเผชิญกับเงินเฟ้อที่ระดับสูงเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก

 

รายงานระบุว่า เงินเฟ้อที่ระดับสูงอย่างต่อเนื่องได้ฉุดการขยายตัวของอังกฤษลงเกือบ 3% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงสูงเกินเป้าที่ 2% ของรัฐบาลในอนาคตอันใกล้นี้

 

“เงินเฟ้อที่ระดับสูงได้มีผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของอังกฤษในช่วง 3 ปีที่แล้ว โดยได้บั่นทอนอำนาจการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน" นายคาร์ล อัสโตร์รี ที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสของเอิร์นส์ แอนด์ ยัง ไอเทม คลับกล่าว

 

รายงานคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษจะแตะ 3% ในช่วงฤดูร้อน ก่อนจะชะลอลงมาอยู่ที่ 2.5% ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และประเมินว่าดัชนี CPI จะอยู่ที่ 2.9% ในปี 2556 ก่อนจะแตะ 2.6% ในปี 2557 และ 2558

 

นอกจากนี้ นายอัสโตร์รียังกล่าวเตือนว่า เงินเฟ้อที่ระดับสูงในระยะยาวจะสร้างความท้าทายแก่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนคารกลางอังกฤษ

 

“ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่า 2.5% จะเป็นเรื่องยาก หากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของอังกฤษต้องการดำเนินการตามอย่างของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ในทันทีที่อัตราว่างงานลดลงต่ำกว่า 6.5%"

 

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว นายอัสโตร์รีเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับนายมาร์ค คาร์นีย์ ซึ่งจะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษแทนนายเมอร์วิน คิงในเดือนก.ค.นี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดดอลลาร์ร่วง ตลาดจับตาปธ.เฟดแถลง (21/05/2556)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) เนื่องจากจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ ขณะที่เงินเยนดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะทบทวนมาตรการต่างๆที่ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลง

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.27 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 103.22 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9662 ฟรังค์ จากระดับ 0.9731 ฟรังค์

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2897 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2828 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5269 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5157 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9818 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9734 ดอลลาร์สหรัฐ

 

นักลงทุนเทขายทำกำไรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปีเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะ 83.7 จากระดับ 76.4 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐเริ่มลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐโดยอัตโนมัติ (sequestration)

 

สกุลเงินเยนดีดตัวขึ้นจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนายอากิระ อามาริ รมว.เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเตือนว่า หากเงินเยนอ่อนค่าลงอีกก็จะส่งผลกระทบต่อเศณษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าเงินเยนอาจจะอ่อนค่าลงรวดเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนในระดับหนึ่งจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดชะลอการซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่าเฟดอาจเพียงแค่ชะลอการซื้อ แทนที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน

 

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันพุธที่ 22 พ.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น และในวันเดียวกันนั้น เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะตรงกับเวลาเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.ตามเวลาไทย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียติดลบเช้านี้ หลังหุ้นธนาคารออสเตรเลียปรับตัวลดลง (21/05/2556)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มธนาคารในออสเตรเลียปรับตัวลดลง ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ประกาศขายหุ้นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ที่ถืออยู่ในธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ลดลง 0.2% แตะ 144.07 จุด เมื่อเวลา 10.21 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,264.79 จุด ลดลง 96.02 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,297.11 จุด ลดลง 2.88 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,425.69 จุด ลดลง 67.34 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,381.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,994.02 จุด เพิ่มขึ้น 11.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,455.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,296.22 จุด เพิ่มขึ้น 20.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,777.31 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,207.80 จุด ลดลง 1.20 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเตรียมออกกฏใหม่หวังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติสู่จีนมากขึ้น(21/05/2556)

หนังสือพิมพ์อิโคโนมิค อินฟอร์เมชัน เดลีรายงานในวันนี้ว่า จีนเตรียมออกกฏระเบียบใหม่ในปีนี้ เพื่อปรับปรุงขั้นตอนการอนุมัติ และสร้างบรรยากาศการลงทุนในจีนที่สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีน

 

กระทรวงพาณิชย์จีนได้ระบุวัตถุประสงค์หลายประการเพื่อดึงดูด FDI ให้หลั่งไหลมาสู่จีน ซึ่งรวมทั้งการสร้างประโยชน์สูงสุดจาก FDI บนเงื่อนไขที่ว่า FDI จะช่วยสร้างเสถียรภาพ และการปูทางที่ดีขึ้นให้ FDI เข้าสู่ภาคบริการ ภาคการผลิตที่มีมูลค่าสูง และภูมิภาคทางตอนกลางและตะวันตกของจีน

 

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบด้านการลงทุนของบริษัทข้าม ชาติในจีน เพื่อพยายามปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุมัติให้สะดวกขึ้น

 

ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงอยู่ระหว่างการจัดทำดัชนี ซึ่งเป็นมาตรวัดบรรยากาศการลงทุนทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวดัชนีดังกล่าวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 21 พค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งเปิดลบ 67.34 จุดหลังหุ้น ICBC ร่วง

 

 

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 67.34 จุด หรือ 0.29% เปิดที่ 23,425.69 จุดในวันนี้ หลังจากหุ้นอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชนา (ICBC) ร่วงลง 1.8%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"กิตติรัตน์"ถกปมบาทผันผวนกระทบท่องเที่ยว/ประชุมทูตพาณิชย์ประเมินส่งออก

 

 

ความเคลื่อนไหวในวันนี้เริ่มต้นด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานตามปกติ โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น การพิจารณาข้อเสนอของกลุ่ม P-move ที่ปักหลักรอฟังผลข้างทำเนียบฯ มานานนับเดือนแล้ว นอกจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเล็กๆ เมื่อ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ถูกโยกพ้นเก้าอี้โฆษกรัฐบาลไปเป็นรองเลขาธิการนายกฯ แล้วดันคนข่าวอย่าง "นายธีรัตถ์ รัตนเสวี" มาทำหน้าที่แทน

 

ส่วนช่วงบ่ายเป็นประธานการประชุมเตรียมการด้านสารัตถะ ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมประชาธิปไตยศรีลังกา และมัลดีฟอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

- หลังประชุม ครม.เสร็จ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะเป็นประธานการประชุมผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินบาทต่อภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

- ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เรียกประชุมหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ณ ห้องบอลรูมบี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลลาดพร้าว และช่วงเย็นเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ครั้งที่ 2/2556 ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์

- ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ ไปกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การศึกษากับพลเมืองโลกผ่านมุมมองของพระพุทธศาสนา" ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ และช่วงบ่ายเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

- นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการทางพระพุทธศาสนางานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 3 ตุลาคม 2556 ครั้งที่ 1/2556 ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จัดงานสัมมนาเรื่อง "สรุปผลสำเร็จในการดำเนินโครงการส่งเสริมระบบบริหารจัดการขนส่งเพื่อการประหยัดพลังงาน(พ.ศ.2555) Logistics and Transport Management" โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดา

งานนี้เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งได้รับความรู้ และแนวทางการปรับปรุงระบบบริหารจัดการขนส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง พร้อมทั้งนำแนวทางการปรับปรุงไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นทุนพลังงานที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต รวมถึงเผยแพร่แนวทางผลสำเร็จต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับผู้ประกอบการภาคการขนส่งทั่วประเทศอันจะนำไปสู่แนวทางที่ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานในภาคการขนส่งได้อย่างเป็นรูปธรรม

- คณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สป.) จัดงานสัมมนาเรื่อง "ทิศทางค่าเงินบาทกับมาตรการลดผลกระทบในเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาคการผลิต" เพื่อระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางและมาตรการในการลดผลกระทบ และจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยได้เชิญหน่วยงานต่างๆ มาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นที่เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่างๆ ต่อภาคอุตสาหกรรม ณ ห้องประชุม 10 สำนักงาน สป. อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ

- นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดโครงการประชุมชี้แจงการเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์เศรษฐกิจจากแบบจำลองประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดสำหรับผู้บริหาร ณ ห้องควีนส์ปาร์ค 2 ชั้น 2 โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22

- ติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) โดยในส่วนของ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.จัดการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ร่วมกับผู้แทนเครือข่ายผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องแนวคิดมาตรการกลไกรับเรื่องร้องเรียนของ(ว่าที่)ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ

ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กสทช.จะแถลงผลประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ ณ ห้องสื่อมวลชน ชั้น 2 อาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช.

- เคลียร์ปัญหาเรื่องราคาตั๋วชมภาพยนตร์แพงยังไม่คืบสักเท่าไร สคบ.เตรียมเชิญผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยว ทั้งแบบร้านรถเข็น และแบบแฟรนไชส์ มาร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เพื่อซักซ้อมความเข้าใจถึงการบริการผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยจากการรับประทานก๋วยเตี๋ยว โดยจะแจ้งให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร รวมถึงอุปกรณ์ ภาชนะบรรจุที่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยวจะต้องผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองจาก อย.

- นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด(แอร์พอร์ตเรลลิงค์) คนใหม่แกะกล่องจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์

- บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) จัดงานสัมมนาสื่อมวลชน "KTC Knowledge Sharing" เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจในหัวข้อ "KTC 301 จับเข่าคุย Investor Relations มือขวาขุนคลังเคทีซี" กับ น.ส.อภิศมา ณ สงขลา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานคอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 18 อาคารสมัชชาวาณิช 2 ต้นซอยสุขุมวิท 33

- นายปฤษันต์ จันทน์หอม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) บรรยายเรื่องภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่อาจจะสร้างผลกระทบต่อไป ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานใหญ่ ธปท.

- ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมือง ช่วงบ่ายนี้พรรคเพื่อไทยเรียกประชุม ส.ส.และสมาชิกพรรค เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค.56 โดยจะหารือถึงรูปแบบการอภิปราย และการวางตัวผู้ที่จะอภิปรายสนับสนุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

าวโจนส์ปิดร่วง 19.12 จุด ทองคำพุ่ง 19.40 ดอลล์

21/05/2013 , 08:01

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,335.28 จุด ลดลง 19.12 จุด หรือ 0.12% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,496.43 จุด ลดลง 2.53 จุด หรือ 0.07% และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,666.29 จุด ลดลง 1.18 จุด หรือ 0.07%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากเฟดสาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนเม.ย.ร่วงลงแตะ -0.53 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนม.ค. เมื่อเทียบกับระดับ -0.23 ในเดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐยังประสบปัญหาในการฟื้นตัว และดัชนีที่ต่ำกว่า 0 บ่งชี้ว่าการขยายตัวของกิจกรรมการผลิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

 

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากความวิตกกังวลที่ว่าเฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดชะลอการซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่าเฟดอาจเพียงแค่ชะลอการซื้อ แทนที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน

 

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันพุธที่ 22 พ.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น และในวันเดียวกันนั้น เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะตรงกับเวลาเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.ตามเวลาไทย

 

ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 19.40 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,384.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 22.582 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 3.36 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,484.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 16.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 750.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.50 ดอลลาร์

 

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงยาวนานถึง 7 วันทำการ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดชะลอการซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่าเฟดอาจเพียงแค่ชะลอการซื้อ แทนที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน —ISN 02

 

http://www.isnhotnews.com/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันบวก-ทองคำพุ่ง หุ้นมะกันลงเล็กน้อยรอความเห็นปธ.เฟด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2556 05:14 น.

556000006317401.JPEG

เอเอฟพี/เดอะสตรีท - ราคาน้ำมันวานนี้(20) แกว่งตัวปิดแดนบวกท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ส่วนวอลล์สตรีท ขยับลงเล็กน้อย นักลงทุนรอความเห็นทางเศรษฐกิจของประธานเฟดช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ทองคำ ดีดตัวแรงพอสมควร หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 96.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 104.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ฟาวัด ราซักซาดา นักวิเคราะห์จากจีเอฟที มาร์เก็ตส์ ระบุว่า "มันเป็นวันที่เงียบเหงาสืบเนื่องจากเป็นวันหยุดในหลายประเทศทั่วยุโรป และด้วยไม่มีข้อมูลทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ราคาน้ำมันวันนี้จึงขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อและขายทางเทคนิคมากกว่าจะเกิดขึ้นจากปัจจัยพื้นฐาน"

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(20) ก็ปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเช่นกัน เหตุนักลงทุนจับตาความคิดเห็นของเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางอเมริกา ที่มีกำหนดเข้าให้ปากคำในแนวโน้มทางเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในวันพุธ(22)

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 18.35 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,336.05 จุด แนสแดค ลดลง 2.53 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,496.43 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.21 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,666.26 จุด

 

ด้วยไม่มีปัจจัยใหม่ทางเศรษฐกิจ หลังวอลล์สตรีททุบสถิติตลอดกาลอีกรอบเมื่อวันศุกร์(17) ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(21) จึงพักหายใจหายคอ รอดูความเห็นของ เบอร์นันกี และรายงาน (minutes) ของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯคราวที่แล้ว ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ออกมาในช่วงกลางสัปดาห์เช่นกัน

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(21) ขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและแรงช้อนซื้อระยะสั้น ตามหลังโลหะมีค่าชนิดนี้ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง ทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 19.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,384.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000060624

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตื่นทองถูก

 

205749.jpg

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2556 เวลา 00:00 น.

 

สถานการณ์ราคาทองคำที่อยู่ในช่วงขาลง ในช่วงนี้ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายทองคำกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะในย่านค้าทองคำ เช่น เยาวราช

 

โดยประชาชนทะลักเข้าไปซื้อทอง ทั้งแบบทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ รวมทั้งผู้ประกอบการร้านขายทองในต่างจังหวัด

 

เนื่องจากผู้ประกอบการจะซื้อทองคำ ส่วนใหญ่เป็นทองคำรูปพรรณไปจำหน่ายในท้องถิ่น จนทำให้หน้าร้านขายทองถึงกับเพิ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแล

 

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่า สวนทางกับราคาทองคำที่หล่นลงไป

 

เรื่องนี้ทางร้านทองอย่างเช่นร้านใหญ่ ๆ ต่างให้คำแนะนำว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะตกลงยังมีสูง ดังนั้นให้ชะลอการซื้อออกไป

 

เพราะสถานการณ์ราคาทองขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลก หรือกองทุนขนาดใหญ่ที่เทขายทองคำออกมาจำนวนมาก

 

อย่างไรก็ตามบรรยากาศการซื้อขายทองคำที่คึกคัก ต่างจากในอดีตที่การซื้อขายจะคึกคักเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน เป็นต้น

 

ดังนั้น การซื้อขายที่มีจำนวนมากนี้ ทางฝ่ายผู้บริโภคเองก็ต้องระมัดระวัง หากซื้อทองไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน

 

เนื่องจากปัญหาการนำทองที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานขายให้กับผู้บริโภคก็มี หรือน้ำหนักไม่ถูกต้อง

 

ซึ่งทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. มักได้รับการร้องเรียนถึงปัญหาสินค้าอยู่บ่อย ๆ

 

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทุก ๆ คนต้องระวังและตรวจสอบสินค้า รวมถึงการซื้อในย่านทำเลที่มีความน่าเชื่อถือ หากสงสัยสามารถตรวจสอบได้

 

ดังนั้นการซื้อทองคำไม่ว่าจะเพื่อวัตถุ ประสงค์เพื่อการสวมใส่หรือการเก็บหรือเก็งกำไรก็ดีก็ต้องพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการซื้อ หรือจะขายทำกำไรในช่วงเวลาที่ดี

 

เพราะการซื้อทองคำถือเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงอีกชนิดหนึ่ง.

 

 

http://www.dailynews.co.th/article/2943/205749

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยูธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.75/78 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.81/83 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้แนวโน้มเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อตามทิศทางค่าเงินหยวนของจีน

 

"วันนี้จีน set ค่าเงินที่เป็นค่ากลางระหว่างวันไว้ต่ำสุดตั้งแต่เคยมีมา ทำให้แข็งค่าค่อนข้างมาก ตรงนี้อาจจะมีผล ส่วนเมื่อวานที่สภาพัฒน์ปรับลด GDP ปีนี้ลง ก็ไม่ค่อยมีผลกับค่าเงินบาทมาก เพราะบาทค่อนข้างจะอ่อนค่าไปก่อนหน้านี้เยอะแล้ว ได้ price in ไปแล้วส่วนหนึ่ง บาทเลยไม่ขยับเท่าไร" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ปัจจัยที่นักลงทุนติดตามตอนนี้ คือ ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ซึ่งอาจจะมีผลให้เงินบาทปรับอ่อนค่าลงได้บ้าง รวมทั้งต้องติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในสัปดาห์หน้า

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.70-29.85 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

*ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.58/59 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2880/2881 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 29.8680 บาท/ดอลลาร์

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(20 พ.ค.) เนื่องจากจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอันเนื่องมา จากความแข็งแกร่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ

- ขณะที่เงินเยนดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) อาจจะทบทวนมาตรการต่างๆ ที่ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลง

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 96.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.23-97.11 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 104.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล(short covering) หลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงยาวนานถึง 7 วันทำการ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 19.4 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,384.1 ดอลลาร์/ออนซ์

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มธนาคารในออสเตรเลียปรับตัวลดลง ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ประกาศขายหุ้นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ที่ถืออยู่ในธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า

- นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันที่ 22 พ.ค. จากนั้นเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 21 พค.56)

 

 

 

< ย้อนกลับ ถัดไป >

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาด เอเชีย หลังจากรมว.เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้ชี้แจงคำพูดก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการอ่อน ค่าของเยน ซึ่งทำให้ดอลลาร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4ปีครึ่ง เมื่อวานนี้

ในช่วงเช้านี้ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.4% จากระดับช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ มาที่ 102.69 เยน หลังจากร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ครึ่งที่ 103.32 เยนเมื่อวานนี้

 

 

 

ขณะที่นายอากิระ อามาริ รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นระบุว่า การแข็งค่าของเยนได้มีการปรับฐานส่วนใหญ่แล้ว นายอามาริกล่าวกับผู้สื่อข่าวในช่วงเช้านี้ว่า เขาหวังว่า เยนจะอยู่ใน ระดับที่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และตลาดเงินจะหาความสมดุลระหว่างผลกระทบต่อการนำเข้าและการส่งออก

 

 

เขากล่าวว่า เขาจะไม่แสดงความเห็นว่า การปรับฐานจากการแข็งค่า มากเกินไปของเยนยุติลงแล้วหรือไม่ แม้มีรายงานว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

 

เขาได้กล่าวว่า การแข็งค่ามากเกินไปของเยนได้มีการปรับฐานแล้วก็ตาม ซึ่ง นั่นทำให้เยนดีดตัวขึ้น

 

 

ผลสำรวจบริษัทญี่ปุ่น 400 แห่งโดยรอยเตอร์พบว่า บริษัทครึ่งหนึ่ง ระบุว่า เยนร่วงลงพอแล้ว ขณะที่มีเพียง 15% ที่ต้องการให้เยนร่วงลงอีก และ 1 ใน 3 ต้องการเห็นเยนดีดตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง แต่การทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยนอาจจะเป็นเรื่องยาก เมื่อดูจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าคาด

 

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะประชุมนโยบายในวันอังคารและพุธนี้ และคาดว่าบีโอเจจะคงนโยบาย แต่ก็อาจจะปรับเปลี่ยนแผนการซื้อพันธบัตรเพื่อ สกัดการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น และนักวิเคราะห์กล่าวว่า

เยนมีแนวโน้มที่จะร่วงลงอีกครั้ง ขณะที่ญี่ปุ่นมีพันธกิจต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น

 

 

ตลาดกำลังรอดูการแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดต่อสภา คองเกรสในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดทำให้เกิดการคาดการณ์ ว่า เฟดอาจจะเริ่มถอนโครงการซื้อพันธบัตรในไม่ช้านี้

 

 

ดัชนีดอลลาร์บวก 0.2% จากระดับช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ มาที่ 83.877 แต่ดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนก.ค.2010 ที่ 84.371 ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

 

 

ยูโรทรงตัวที่ 1.2879 ดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1.2795 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ และยูโรอยู่ที่ 131.90 เยน แต่ยังคง เคลื่อนตัวระหว่างแนวรับที่ระดับ 131.11 เยน และแนวต้านที่ระดับ 132.78

เยน

 

 

 

ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.3% มาที่ 0.9786 ดอลลาร์

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 21 พค.56)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ คุณDkk คุณNamchiang คุณซ้อ ทุกท่านค่ะ

 

วันที่ผ่านมา :_02 วันนี้ :047 ทนถือ ถือทน :Announce ต่อไปตามป๋า

 

 

ขอบคุณค่ะ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์(21/05/2556)

User Rating: / 0

แย่ดีที่สุด

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อน หนุนราคาน้ำมันดิบขึ้น"

 

เวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับขึ้น 0.69 เหรียญฯ ปิดที่ 96.71 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับขึ้น 0.16 ปิดที่ 104.80 เหรียญฯ

 

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าอาจมีมาตรการถอน QE ออกจากระบบ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นในอนาคต

 

+ ความกังวลต่อความไม่สงบในตะวันออกกลางยังเป็นตัวช่วยหนุนราคาน้ำมัน จากความกังวลต่ออุปทานจากฝั่งผู้ผลิต หลังสงครามการเมืองเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีในซีเรียยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยตลาดจับตาว่าประเทศตะวันตกจะเข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้เมื่อไร

 

- อย่างไรก็ตามราคาน้ำมับดิบถูกกดดัดจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มองว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะปรับลดลง ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบของโลกปรับตัวสูงขึ้น

 

+ นักวิเคราะห์รอยเตอร์ คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่จะประกาศกลางสัปดาห์นี้ว่าจะปรับลดลง 450,000 บาร์เรล จากการคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้น 0.3% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดว่าจะปรับลดลง สำหรับปริมาณน้ำเบนซินคงคลังและปริมาณน้ำดีเซลคงคลังจะปรับตัวสูงขึ้น 100,000 บาร์เรล และ 600,000 บาร์เรล ตามลำดับ

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในตลาดเอเซีย แต่อย่างไรก็ตลาดคาดว่าซาอุดิอาระเบียจะมีการนำเข้าประมาณ 4.5 ล้านบาร์เรลในเดือน มิ.ย. ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 45% จากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน

 

ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นจากซาอุดิอาระเบีย หลังเกิดอุบัติเหตุที่ท่อส่งน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้โรงกลั่นที่ซาอุ ดิอาระเบียขนาด 400,000 บาร์เรลต่อวันต้องปรับลดกำลังการกลั่นลงชั่วคราว

 

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ คาดว่าเบรนท์จะอยู่ที่กรอบ 100 - 108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่ 90 -98 เหรียญ ติดตามการประชุมสหภาพยุโรปและรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธนี้

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภคอังกฤษ

วันพุธ: การประชุมสหภาพยุโรป ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

วันพฤหัส: ดัชนีภาคการผลิตและบริการยูโรโซน เยอรมนีและฝรั่งเศส จีดีพีไตรมาส 1ของอังกฤษ (revised) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีราคาบ้าน ดัชนีภาคการผลิตและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ

ดัชนีภาคการผลิตจีนโดย HSBC

วันศุกร์: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส 1 ของเยอรมนี (Final) ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ (GfK) และดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ (Ifo) ของเยอรมนี

 

- ติดตามการประชุมสภาพยุโรปว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังตัวเลขจีดีไตรมาส 1/56 ของกลุ่มยูโรโซนออกมาหดตัว 0.2% ซึ่งถือเป็นการหดตัว6 ไตรมาสติดต่อกันและตัวเลขการว่างงานในหลายประเทศก็ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 0.75% ไปที่ระดับ 0.5% นอกจากนี้จะมีการหารือในเรื่องนโยบายด้านภาษี โดยเน้นที่การจัดเก็บและการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี

 

- ติดรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าคณะกรรมการแต่ละคนจะมีมุมมองต่อทิศทางและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร หลังการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมาที่การถกเถียงกันในเรื่องระยะเวลาที่เหมาะ สมในการยกเลิกนโยบาย QE

 

- จับตาสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียที่ยังมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับ กลุ่มผู้ต่อต้านอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีความพยายามจากมหาอำนาจหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและรัสเซีย เป็นต้น ในการกดดันให้ประธานาธิบดีซีเรียลงจากตำแหน่ง

 

- ติดตามความรุนแรงรายวันในอิรัก ทั้งในเมืองหลวงแบกแดดและเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดทางตอนเหนือที่มีปัญหาข้อ พิพาทในการแบ่งผลประโยชน์ด้านน้ำมันกับรัฐบาลอิรักส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันดิบ ได้รับผลกระทบจนต้องหยุดดำเนินการ

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 21 พค.56)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...