ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[nuchaba 987]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba และทุกๆท่านครับ

 

วันนี้โอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายแล้ว ขอเริ่มจากเอเชีย ไปยุโรป ตบด้วยอเมริกานะครับ เพราะตอนนี้คัดน้องหมูตัวอ้วนๆมายืนรอริมคอกแล้ว คริคริ

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่เด็กขายของ คุณDonJuan และทุกๆท่าน

 

แหม! เห็นภาพเลยนะท่านDonJuan แต่เป็นภาพเด็กตัวอ้วนๆ สวมชุดนักเรียน สะพายเป้ ยืนรอรถโรงเรียนมารับ

(ฮิฮิ ขออนุญาตนะคะท่าน อารมณ์อยากขึ้นรถ เดี่๋ยวไปปล่อยพร้อมกันตอน 1560 ค่ะท่าน )

[raty 151]

สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่เด็กขายของ คุณDonJuan และทุกๆท่าน

 

แหม! เห็นภาพเลยนะท่านDonJuan แต่เป็นภาพเด็กตัวอ้วนๆ สวมชุดนักเรียน สะพายเป้ ยืนรอรถโรงเรียนมารับ

(ฮิฮิ ขออนุญาตนะคะท่าน อารมณ์อยากขึ้นรถ เดี่๋ยวไปปล่อยพร้อมกันตอน 1560 ค่ะท่าน )

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณNuchaba วันนี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า อยากขึ้นรถ รอปล่อย 1560 ด้วยคน ป้ายไหนดีคะ อิอิ ติดตามต่อปาย .

[JUICE 10]

!thk

[wong53 10]

สวัสดีครับเฮียแบท คุณเด็กขายของ และเพื่อนๆครับ

[GB2514 302]

ทองปรับฐานหลังดอลลาร์เริ่มแข็งค่า

- SPDR ถือทองลดลง 1.3 ตัน

- คาดทองแกว่งตัวแคบรอฟังผลการประชุม ECB ค่ำนี้

 

แนวโน้มการเคลื่อนไหว

มีแรงขายกลับออกมาในตลาดทองหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้น จนราคาปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวบริเวณแนวรับที่ 1,530 -1,535 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ โดยราคาสามารถดีดตัวลดช่วงการติดลบลงหลังราคาน้ำมันดิบดีดตัวกลับ เนื่องจากผลการประชุมของกลุ่มโอเปคกลับไม่ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตตามที่ตลาดประเมินไว้ ส่วนประเด็นอื่นๆทั้งในยุโรปและสหรัฐยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่จะส่งผลต่อราคาทองให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้การเคลื่อนไหวของราคาในระยะนี้มีการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบจำกัด ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% แม้เงินเฟ้อในเขตยูโรโซนจะสูงกว่าเป้าแล้วก็ตาม แต่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป และอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินยูโรกลับแข็งค่าซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองต่อไป

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคเริ่มหลังจากเริ่มมีสัญญาณเตือนการปรับฐานเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่ราคาจะเริ่มแกว่งตัวแคบและเริ่มอ่อนตัวลงวานนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวทางเทคนิคมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับฐานลงต่อหากมีการดีดตัวกลับที่แนวต้านบริเวณ 1,540 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ คงยังมีแรงขายกลับออกมามาก และหากไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ คาดว่าราคาก็จะปรับฐานลงสู่แนวรับที่ 1,520-1,525 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ต่อไป

ถูกแก้ไข มิถุนายน 9, 2011 โดย GB2514

[deb99 290]

!01

[Pete 15,187]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ และ เพื่อนๆ ทุกๆ ท่าน

สำนักข่าวรอยเตอร์ : บริษัท เจพี มอร์แกน รายงานว่า ความล้มเหลวในการเจรจาหาข้อตกลงในการประชุมของ OPEC ที่กรุงเวียนนา

เมื่อวานนี้ บ่งบอกถึงกำลังการผลิตสำรองที่มีจำกัดในกลุ่มสมาชิกหลายประเทศ และ คาดว่า ราคาน้ำมันอาจแตะระดับ US$130.- ในปีนี้

 

เจพีฯ บอกต่อไปว่า เป็นความพยายามอย่างโดดเดี่ยวของ ประเทศซาอุดิฯ ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เป็น 1.9 ล้านบารเรลต่อวัน เพื่อ

จะได้ตอบสนองความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 และ จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด กับ สำนักงานพลังงานสากล ด้วย

 

 

 

[Pete 15,187]

USA:ผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ใหญ่สุดของโลกฟันธงเฟดไม่ออกมาตรการ QE3

ชิคาโก--9 มิ.ย.--รอยเตอร์

 

นายบิล กรอส ผู้จัดการกองทุน PIMCO ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่สามารถ

เริ่มมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ได้ หลังมาตรการ QE2 จะสิ้นสุดลงในปลายเดือนนี้

 

"กรรมการในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีความเห็นที่มีความสมดุล แต่ก็แตกต่างกัน" นายกรอสกล่าว

"เป็นเรื่องยากที่จะเริ่มมาตรการ QE3" แต่เฟดจะพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำด้วยการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ

โดยเฟดได้ระบุในการประชุมอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้งตั้งแต่เดือนมี.ค.2009 ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป "อีกระยะหนึ่ง"

ข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ระบุว่า กองทุน Pimco Total Return Fund มูลค่า 2.43 แสนล้านดอลลาร์ของนายกรอส ได้ปรับตัวขึ้น 3.24%

แล้วในปีนี้ PIMCO เปิดเผยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า กองทุนลดน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และได้ขายพันธบัตรที่เกี่ยวข้อง

ไปบ้างส่วนแล้ว แต่การลงทุนดังกล่าวยังไม่ได้ทำกำไร เนื่องจากตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ดีดตัวขึ้น

 

"อย่าลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐ เพราะอัตราดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ"นายกรอสกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงว่า อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าผลตอบแทน

ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

เขากล่าวอีกว่า เขาชื่นชอบพันธบัตรที่ไม่ได้ออกโดยสหรัฐมากกว่า เช่นพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี, เม็กซิโก

และแคนาดา แม้แต่หุ้นของบริษัทชื่อดังของสหรัฐที่จ่ายปันผลก็ยังมีความน่าดึงดูดใจมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยเขายกตัวอย่าง อาทิ

หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโคคา โคล่า "หุ้นของบริษัทเหล่านี้จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องและสม่ำเสมอ"--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

((saowanee.ekpunyachai@thomsonreuters.com; โทร 0-2648-9741;

Reuters Messaging: saowanee.ekpunyachai.reuters.com@reuters.net))

[Pete 15,187]

ข่าวสารอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท : เมื่อเวลา 08.58 น.เงินบาทขยับตัวอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.42/44 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นผลพวงจาก

ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ที่ปรับตัวลดลงกว่า 20 จุด และแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติราว 6 พันล้านบาท

 

"(เงินบาท)ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง น่าจะเป็นผลจากการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นวานนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 80.07/09 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 79.83/84 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.4615/4618 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.4658/4659 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่า แนวโน้มเงินบาทยังไปในทิศทางอ่อนค่า โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวไว้ระหว่าง 30.40-30.50 บาท/ดอลลาร์

 

ทั้งนี้ ตลาดมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ รวมทั้งทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) (วันที่ 9 มิถุนายน 2554)

 

[Pete 15,187]

สรุปสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมัน Crude Oil เพิ่มขึ้น ตอนนี้ เกิดจาก + การประชุมกลุ่มโอเปกวานนี้ ณ กรุงเวียนนนา ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยโอเปกตัดสินใจคงโควต้าการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ

เดิมที่ 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน สวนทางกับที่คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจาก ซาอุดิอาระเบียล้มเหลวในการเรียกร้อง

ให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ปรับขึ้นโควต้าการผลิต อย่างไรก็ตาม ซาอุฯ ได้กล่าวว่า ซาอุฯ พร้อมที่จะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ให้เพียงพอกับความต้องการ

ในขณะที่ สหรัฐฯ และสำนักงานพลังงานสากลพร้อมที่จะปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาตร์มาช่วย หากซาอุดิฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มการผลิต

 

+ หน่วยงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มิ.ย. 54 ปรับตัวลดลงมากถึง

4.8 ล้านบาร์เรล นับเป็นปริมาณที่มากสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากการนำเข้าที่ลดลง และโรงกลั่นปรับเพิ่มการผลิต

 

+ สถานการณ์การสู้รบระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลเยเมนยังคงยืดเยื้อต่อไป โดยเริ่มขยายวงกว้าง โดยมีการใช้อาวุธในการปะทะกลุ่มต่อต้าน

ในทางใต้ กลุ่มสหภาพยุโรปและอาหรับร่วมกดดันให้ประธานาธิบดีซาเลสลงจากอำนาจและคืนอำนาจให้กับประชาชน

 

+ จากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) สภาพเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับรายงานครั้งก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามภาวะราคาน้ำมันแพงยังคงเป็นปัญหาหลัก บวกกับความกังวลในตัวเลขการจ้างงานที่สูงถึง 9.1%ในเดือน พ.ค.

ในขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯมองว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

 

 

[Pete 15,187]

The Commerce Department's report on the trade deficit for April is due for release at 8:30 a.m. Eastern. Economists polled by MarketWatch expect the deficit to narrow fractionally to $48 billion from $48.2 billion in the prior month. At the same time, the Labor Department will release weekly jobless claims. Economists surveyed by MarketWatch project jobless claims to decline to 419,000 from an originally reported 422,000 in the prior week.

 

กระทรวงพาณิชย์ จะรายงาน การขาดดุลการค้าของเดือนเมษายน เวลา 19.30 น.เวลาไทย โพลฯ คาดว่า จะลดลงเหลือ 48 จาก 48.2 ของเดือนก่อนหน้า

กระทรวงแรงงาน จะรายงาน ยอดคนขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์ เวลาเดียวกัน โพลฯ คาดว่า จะลดลงเหลือ 419,000 จากเดิม 422,000

 

รอก่อนนะ เดี๋ยวออกเมื่อไหร่ จะมาบอกครับ

[Pete 15,187]

กรีซเผยอัตราว่างงานในประเทศพุ่งแตะ 16.2% ในเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กรีซเริ่มประเมินจำนวนผู้ว่างงานรายเดือน

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซเปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานในเดือนมีนาคมมีอย่างน้อย 811,340 คน ส่วนจำนวนผู้มีงานทำอยู่ที่ราว 4.1 ล้านคน

 

สำหรับอัตราว่างงานในเดือนมีนาคม 2553 อยู่ที่ 11.6% ส่วนของเดือนกุมภาพันธ์ 2554 อยู่ที่ 15.9%

 

อัตราว่างงานที่พุ่งสูงสะท้อนให้เห็นว่ากรีซได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตหนี้สินซึ่งถล่มประเทศสมาชิกยูโรโซนมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 โดยอัตราว่างงานเฉลี่ยในกลุ่มยูโรโซนอยู่ที่ 9.9% ในเดือนมีนาคม

 

สำนักงานสถิติฯ ระบุว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้หญิงและเยาวชน โดยอัตราว่างงานของผุ้หญิงอยู่ที่ 19.5% ในเดือนมีนาคม เทียบกับผู้ชายที่ระดับ 13.6% ส่วนในเดือนมีนาคมปีที่แล้วอัตราว่างงานในกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายอยู่ที่ 15.9% และ 8.5% ตามลำดับ

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่าอัตรว่างงานพุ่งสูงเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเป็นผลมาจากมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวดที่รัฐบาลกรีซประกาศใช้เมื่อปีที่แล้วเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 9 มิถุนายน 2554)

 

 

[Pete 15,187]

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในขณะที่โอบามากำลังเตรียมตัวเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปี 2555 นั้น

ประเด็นการจ้างงานยังคงเป็นสิ่งที่เขาวิตกกังวล โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานั้น สหรัฐมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้นที่ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 220,000 ตำแหน่ง

ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ค.สูงขึ้นแตะระดับ 9.1% จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 9.0%

[Pete 15,187]

FED รายงาน Beige Book ( รายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ) เมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยระบุว่า

เศรษฐกิจใน 7 เขตจากทั้งหมด 12 เขต ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย แอตแลนต้า และชิคาโก

 

ภาคการผลิตในหลายเขตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ภาคการผลิตในบางเขตชะลอตัวลง

 

ตัวเลขใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นั้น ฟื้นตัวขึ้นในบางเขต มีหลายเขตที่ตัวเลขผู้บริโภคยังคงซบเซา

เพราะราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

 

ด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคนั้น เฟดระบุว่าตัวเลขสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคมีการขยายตัวในอัตรา 3% ต่อปีในเดือนเม.ย.

ผู้บริโภคพยายามลดการใช้บัตรเครดิตเนื่องจากไม่ค่อยมั่นใจในเสถียรภาพของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ

ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวลง หลังจากจำนวนบ้านที่ถูกธนาคารยึดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ตลาดแรงงานของสหรัฐค่อยๆกระเตื้องขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 54,000 ตำแหน่ง

แต่การที่อัตราว่างงานดีดขึ้นสู่ระดับ 9.1% นั้น สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวไม่มากพอที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้ขยาย

ตัวอย่างแข็งแกร่งได้

 

ในด้านเงินเฟ้อนั้น เฟดระบุว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม เฟดเชื่อมั่นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

 

ทั้งนี้ รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดใน

การประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21-22 มิ.ย.นี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) (วันที่ 9 มิถุนายน 2554)

 

 

[Pete 15,187]

The European Central Bank, as expected, left its key lending rate unchanged at 1.25% on Thursday, setting the stage for ECB President Jean-Claude Trichet’s monthly news conference.

 

ตามคาดการณ์ ธนาคารกลางยุโรป ของ ประธานฯ Jean-Claude Trichet ประกาศ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 1.25%

 

Bank of England stays on hold

Earlier, the Bank of England, as expected, left its key lending rate unchanged Thursday at a record low 0.5% as concerns over the strength of the economic recovery likely outweighed worries about above-target inflation

 

ธนาคารกลางอังกฤษ ก็ไม่ปรับเพิ่มดอกเบี้ยเช่นกัน อยู่ในระดับต่ำต่อไปคือ 0.5%

Ideas the Bank of England would begin to tighten monetary policy as early as this spring have faded in the face of softer-than-expected data on the British and global economy, economists said.

 

At the same time, inflation pressures remain, with consumer price inflation jumping to 4.5% in April, more than twice the central bank’s 2% target.