ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีป๋า ขอบคุณข้อมูลข่าวสารที่แน่นเหมือนเดิม :gd ยังไม่รู้เลยว่าป๋ามองลงหรือขึ้นเนี่ย? :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟรหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม ดำแดงตัดกันซื้อ ดำแดงตัดกันอีกครั้งขาย สลับกันไป มองดู เล็งมอง ส่องขยาย แล้วแต่มองซึ่งมันก็ตัดกันหรือยัง ?!?! เซียนสูตรนี้ ฟันธง บอกไม่ตัดกัน ดังนั้น ราคาก็น่าจะย่อลงต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 แบบส่งสัญญาน นำทาง Signal แดงอยู่บน อาการออกสัญญานหน้าขาย ทองย่อลง ควรอยู่นิ่งๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พอมาดู รหัส 7,5,2 เส้นดำอยู่เหนือเส้นแดง ระยะสั้นๆๆ ก็ออกย่อลงอีก ตำ่ก่ว่า 1314 หวาดระแวง ขึ้นไป 1321 ก็แทงลง ดีกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย.

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2556 23:14:44 น.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐในเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.และร่วงลง 2.8% ในเดือนก.ค.

 

 

 

กระทรวงมีการรายงานข้อมูลยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนส.ค.และก.ย.พร้อมกันในวันนี้ เนื่องจากข้อมูลเดือนส.ค.ประสบกับความล่าช้า จากปัญหาชัตดาวน์

 

อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อที่ไม่นับรวมภาคการขนส่งที่มีความผันผวนนั้น อ่อนแรงลง 0.4% ในเดือนส.ค. และลดลง 0.2% ในเดือนก.ย.

 

ยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.ได้รับแรงหนุนจากความต้องการเครื่องบินที่พุ่งขึ้น 57.7% แม้ว่าอุปสงค์ในด้านเครื่องจักรร่วงลง 23.6% เช่นเดียวกับการหดตัวลงอย่างหนักในด้านเครื่องจักรก่อสร้าง

 

ความต้องการเครื่องจักรที่ลดลงแสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจอาจกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจก่อนที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน หรือ ชัตดาวน์ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.และดำเนินไปเป็นเวลา 16 วัน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,639.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.57 จุด +0.15%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,936.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด +0.37%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,767.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด +0.36%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,288.59 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด +0.36%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,037.23 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด +0.33%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,763.62 จุด เพิ่มขึ้น 28.88 จุด +0.43%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,423.29 จุด ลดลง 9.30 จุด -0.21%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,203.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด +0.09%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,807.47 จุด ลดลง 2.94 จุด -0.16%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,189.62 จุด ลดลง 60.17 จุด -0.26%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,543.39 จุด ลดลง 41.99 จุด -0.64%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,149.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด +0.00%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,025.17 จุด ลดลง 14.25 จุด -0.70%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,354.14 จุด ลดลง 34.04 จุด -0.41%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,390.50 จุด ลดลง 20.60 จุด -0.38%

 

*ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดทำการวันที่ 4 พ.ย. เนื่องในวัน Diwali-Balipratipada

*ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันที่ 4 พ.ย. เนื่องในวันหยุดชดเชยวันวัฒนธรรม

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงรายงานยอดสั่งซื้อของโรงงานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. และจากการพุ่งขึ้นของหุ้นหลายตัวในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงหุ้นเอ็กซอนโมบิล ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลการจ้างงานและตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,639.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.57 จุด หรือ +0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,767.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด หรือ +0.36% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,936.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด หรือ +0.37%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าดัชนีภาคบริการของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 94.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 106.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,314.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 13.7 เซนต์ ปิดที่ 21.700 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1456.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 749.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขานรับรายงานที่ว่าดัชนีภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3516 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3491 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5969 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5927 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9507 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ0.9436 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.55 เยน จากระดับ 98.76 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9036 ฟรังค์ จากระดับ 0.9126 ฟรังค์

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,763.62 จุด เพิ่มขึ้น 28.88 จุด หรือ +0.43%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าดัชนีภาคบริการของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 322.5 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,288.59 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด หรือ +0.36% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,037.23 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.33% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,763.62 จุด เพิ่มขึ้น 28.88 จุด หรือ +0.43%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขานรับรายงานที่ว่าดัชนีภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3516 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3491 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5969 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5927 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9507 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ0.9436 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.55 เยน จากระดับ 98.76 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9036 ฟรังค์ จากระดับ 0.9126 ฟรังค์

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 51.3 จาก 51.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้น โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคการผลิตมีการขยายตัว

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดกันว่าอีซีบีจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการ ประชุมครั้งนี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ สหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยังคงเดินหน้าแผนการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยระบุว่าเฟดต้องการเห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวขึ้น อย่างยั่งยืน ก่อนที่จะชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ในวันพฤหัสบดีนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 3/2556 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2% หลังมีการเติบโต 2.5% ในไตรมาส 2 ส่วนในคืนวันศุกร์ ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. หลังจากที่ในเดือนก.ย.มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟรหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม ดำแดงตัดกันซื้อ ดำแดงตัดกันอีกครั้งขาย สลับกันไป มองดู เล็งมอง ส่องขยาย แล้วแต่มองซึ่งมันก็ตัดกันหรือยัง ?!?! เซียนสูตรนี้ ฟันธง บอกไม่ตัดกัน ดังนั้น ราคาก็น่าจะย่อลงต่อไป

 

วิธีดูว่าตัดลงหรือยัง ให้ดูตัวเลขสีฟ้าชุดท้ายสุดนี้ หากมีค่าเป็นบวก แสดงว่ายังไม่ตัดลง แต่ถ้ามีค่าติดลบแสดงว่าตัดลงแล้วครับ ถ้าดูจากเส้นกราฟบางครั้งจะดูยากเพราะมันใกล้กันมาก

ถูกแก้ไข โดย ngoodin

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณป๋านะครับ

 

ที่มา บ่น ๆ ๆ ๆ แบบน่าติดตาม

 

ชอบครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาท ช่วงนี้ 31.31 อ่อนค่าจากสถานการณ์รอบด้านที่ปะทุขึ้น ซึ่งยังจะคงรักษาระดับอ่อนค่าเช่นนี้ไปจนถึง 11 พฤศจิกายน 56 วันที่อะไรไม่เคยมี อะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ในโลกจะเกิดขึ้น ราคาทองช่วงนี้ ถึงจะย่อก็จริง แต่ผันมาเป็นราคาไทย แทบไม่มีกระดิกในทางลดลง ผมพูดถึงราคาช่วง 19,450-19,550 บาท นะครับ ซึ่ง ทำให้ราคาทองที่ผมฝันรอ 19,250-19,300 จะมาหรือเปล่า แต่ในทางรหัส 5,35,9 เขาส่งสัญญานฯ ไม่ให้ซื้อ ทองแท่งตัวเป็นเก็บเข้าพอร์ต ก็ต้องรอราคาดีๆ แล้วขายออก ราคาดีๆ ในที่นี้ คือ ราคายุติธรรม Fair Price

 

เอาไว้รอ 5,35,9 ตัดกันอีกรอบ ค่อยทยอยซื้อเข้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วิธีดูว่าตัดลงหรือยัง ให้ดูตัวเลขสีฟ้าชุดท้ายสุดนี้ หากมีค่าเป็นบวก แสดงว่ายังไม่ตัดลง แต่ถ้ามีค่าติดลบแสดงว่าตัดลงแล้วครับ ถ้าดูจากเส้นกราฟบางครั้งจะดูยากเพราะมันใกล้กันมาก

::

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปธ.เฟดบอสตันเผยเฟดต้องใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงรุกต่อจนกว่าจะมีการจ้างงานเต็มที่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2556 09:42:00 น.

 

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่าเฟดจะต้องดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในเชิงรุกต่อไปสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการจ้างงานอย่างเต็มที่ในตลาดแรงงานสหรัฐ

 

นายโรเซนเกรนกล่าวในร่างสุนทรพจน์ที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมที่มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซ็ทส์ บอสตันว่า เฟดมีแนวโน้มจะต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เพื่อให้มีการจ้างงานอย่างเต็มที่

 

ประธานเฟดบอสตันมองว่า เมื่อถึงเวลาที่เฟดจะปรับลดมาตรการผ่อนคลายบางส่วน เช่น การซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ เฟดก็จะต้องคงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำมากจนกว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นสู่การจ้างงานอย่างเต็มที่และในการบรรลุเป้าเงินเฟ้อที่ 2%

 

เขากล่าวว่า เมื่อถึงเวลาเหมาะสม เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากเศรษฐกิจไม่ได้กระเตื้องขึ้นรวดเร็วมากอย่างที่คาดกันไว้ในปัจจุบัน

 

การแสดงความคิดเห็นของนายโรเซนเกรนมีขึ้นท่ามกลางกระแสดาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางนโยบายของเฟดในอนาคต หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดได้ตัดสินใจเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดกว่าเฟดอาจซื้อพันธบัตรต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า แม้ว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดขนาดการซื้อพันธบัตรในการประชุมกำหนดนโยบายครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

http://www.ryt9.com/s/iq27/1770211

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...