ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รหัส 5,35,9 แบบส่งสัญญานนำทาง ยังสามารถเลี้ยงรักษาระดับราคาทองไม่ให้ย่อลงเยอะได้ ยังบ่งบอกให้ทางขึ้นมีจังหวะขึ้นเสมอ เส้นดำเส้นแดงวิ่งกันแบบแนวตรง ผันผวนในแคบๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในรหัส 7,5,2 วิ่งในกรอบย่อ 128x ปลายๆ ต่อไป และ ขึ้นไปด้านบนไม่เกิน 1300 ลงในกรอบขึ้นก็ขาย อย่างก อย่ารู้งี้ มีกำไรออกมา ออกมา นั่งดูถ้าไม่แน่ใจ หรืออยากเสี่ยง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินจากเช้าวาน แข็งขึ้นมา 6 สตางค์ อย่าประมาทนะครับช่วงนี้ มีแข็งๆ อ่อนๆ แบบนี้เขาคงเรียกว่า ผันผวน ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานเศรษฐกิจสหรัฐ คืนนี้ ถ้าออกมาทีฝรั่งคาดการณ์ ราคาทองก็ย่อ ย่อแบบมีกรอบแนวรับ แล้วก็เด้งคืนหรือเปล่าติดตามต่อไป เพราะรหัส 5,35,9 ยังบอกเหนียวแน่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นUSปิดบวก,น้ำมัน+1.72ดอล,ทองลง

ข่าวเศรษฐกิจ วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 7:03น.

 

หุ้นสหรัฐกลับมาปิดแดนบวกแรง หลังมีรายงานว่า เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยมนเร็วๆนี้ ขณะที่ไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น1.74ดอลลาร์ด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 6.50ดอลลาร์

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา กลับปิดแดนบวกแรง หลังมีรายงานการประชุม มิวนิต ของเฟด ที่เปิดเผยออกมาว่า เฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 158.75จุด หรือ+0.97 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 16,533.06จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.2จุด หรือ+0.81 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่1,888.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 34.65 จุด หรือ+0.85 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,131.54 จุดขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ+1.70 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 104.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลปิดสูงสุดรอบ1เดือน หลังพบว่าคลังเชื้อเพลิงสหรัฐ ลดลงอย่างมาก ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 110.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลง 6.50 ดอลลาร์ หรือ-0.50เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,288.10 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์ หลังจากนักลงทุนขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำแล้วหันไปลงทุนในตลาดหุ้น

 

U.S. Stocks

See After-Hours Trading Data as of 5:16pm ET

Wednesday’s Close:

Dow+158.75 16,533.06 +0.97%

 

Nasdaq+34.65 4,131.54 +0.85%

 

S&P+15.2 1,888.03 +0.81%

 

Oil (Light Crude)

July 2014 contract

$ / barrel Floor 104.07 +1.74 +1.70%

 

Gold

June 2014 contract

$ / troy ounce 1,288.10 -6.50 -0.50%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำคือการลงทุนที่ตัองเสี่ยง อัตราเสี่ยงวันนี้ ตามหลักการต่อรอง สูงต่ำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 พ.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,533.06 จุด พุ่งขึ้น 158.75 จุด หรือ +0.97% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,131.54 จุด เพิ่มขึ้น 34.65 จุด หรือ +0.85% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,888.03 จุด เพิ่มขึ้น 15.20 จุด หรือ +0.81%

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญา ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,288.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 6.1 เซนต์ ปิดที่ 19.338 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,474.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 830.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าอุปสงค์พลังงานของสหรัฐ ยังคงแข็งแกร่ง

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 110.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3678 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3698 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นที่ 1.6895 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6840 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.40 เยน จากระดับ 101.27 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8938 ฟรังค์ จากระดับ 0.8923 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9235 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9256 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) ขานรับข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเขตยูโรโซนที่ปรับตัวแข็งแกร่ง

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 19.04 จุด หรือ 0.28% ที่ 6,821.04 จุด

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) ขานรับรายงานที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นัก วิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 139.32 จุด เมื่อเวลา 9.27 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,188.28 จุด เพิ่มขึ้น 146.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,942.27 จุด เพิ่มขึ้น 105.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,899.82 จุด เพิ่มขึ้น 37.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,015.41 จุด เพิ่มขึ้น 7.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,265.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,878.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด

หุ้นฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ บวกขึ้น 3.4% ในโตเกียว ขณะที่หุ้นเจมส์ ฮาร์ดี อินดัสทรีส์ พีแอลซี เพิ่มขึ้น 2.9% ในซิดนีย์

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นขานรับรายงานการประชุมของเฟดที่ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยัง ไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเป็นไปอย่างค่อนข้างล่าช้า โดยขึ้นอยู่กับความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและปฏิกิริยาในตลาดการเงิน

 

 

ที่มา : ทันหุ้นออนไลน์ (22/05/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ช่วงจังหวะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเป็นไปอย่างค่อนข้างล่าช้า โดยขึ้นอยู่กับความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและปฏิกริยาในตลาดการเงิน

 

นายดัดลีย์ กล่าวที่สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจนิวยอร์กว่า การขานรับที่นุ่มนวลน่าจะช่วยสนับสนุนให้มีการเดินหน้าเร็วขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ถ้าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวสูงขึ้นมาก ก็อาจจะต้องมีการดำเนินการอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

 

การแสดงความเห็นดังกล่าวอาจจะเป็นมุมมองที่นายดัดลีย์จะนำเสนอในการ ประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้

 

ที่ผ่านมา เฟดได้ปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนติดต่อกัน 4 ครั้ง โดยชี้ว่า เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นภาย หลังจากช่วงฤดูหนาวที่รุนแรงได้ส่งผลกระทบให้การขยายตัวชะลอตัวมาอยู่ที่ 0.1% ในไตรมาสแรก

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21/05/57)

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3678 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3698 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นที่ 1.6895 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6840 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.40 เยน จากระดับ 101.27 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8938 ฟรังค์ จากระดับ 0.8923 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9235 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9256 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยบวก หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 29-30 เม.ย. ซึ่งระบุว่าเฟดได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ก็ตัดสินใจคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไปในการประชุมที่สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าบีโอเจอาจจะขยายมาตรการกระตุ้นทางการเงินในเดือนก.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 22 พฤษภาคม 2557)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับทบทวนแนวโน้มเครดิตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนจากมีเสถียรภาพสู่ระดับเชิงลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555 เนื่องจากภาวะชะลอตัวของยอดขายบ้านในจีน สภาพคล่องที่อ่อนแอ และอุปทานที่อยู่อาศัยซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 1 ปีข้างหน้า

 

แถลงการณ์ของมูดี้ส์ระบุว่า ยอดขายบ้านของจีนในปีหน้าอาจขยายตัวชะลอลงแตะ 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราขยายตัวที่ 27% ในปีที่แล้วอย่างมาก นอกจากนี้ สภาพคล่องของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพเครดิตค่อนข้างอ่อนแอก็จะยิ่งอ่อนแอมากขึ้นในปี 2557 อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ก็จะเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยกู้ให้เจ้าของโครงการเหล่านั้น ภายหลังการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาฯจีนเมื่อเร็วๆนี้

 

ทั้งนี้ การสร้างบ้านใหม่และยอดขายบ้านในจีนกำลังหดตัวลง และฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากรัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการเพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดที่อยู่อาศัยในจีนอย่างเข้มงวดมาถึง 4 ปี

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21/05/57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศรายชื่อ 80 โครงการที่เปิดรับการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนล่าสุด เพื่อแสวงหากองทุนนอกภาครัฐเข้าสู่โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน

 

นอกจากนี้ การประกาศดังกล่าวยังมีเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักอีกด้วย

รายชื่อโครงการที่กล่าวไว้ข้างต้น ได้มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของ NDRC วันนี้ ซึ่งครอบคลุมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ถนน ท่าเรือ สถานีพลังงานลม รวมถึงระบบท่อส่งก๊าซ

 

ก่อนหน้านี้โครงการดังกล่าวไม่อนุญาตให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมลงทุน

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21/05/57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลังส่งเรื่องไปยังกฤษฎีกาช่วยตีความอำนาจรัฐบาลรักษาการคงแวต 7% ได้หรือไม่ หากไม่ต่ออายุการลดภาษี มีผลทำให้แวตปรับขึ้นตามเพดานทันที 10%

 

นางเบญจา หลุยเจริญ รักษาการ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยตีความการต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ขณะนี้ลดให้เหลือ 7% โดยจะหมดอายุการลดภาษีถึง 30 ก.ย.57 หากไม่ต่ออายุการลดภาษี มีผลทำให้แวตปรับขึ้นตามเพดานทันที 10% อาจจะสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจได้

 

“การที่กระทรวงการคลังส่งเรื่องให้กฤษฎีกาช่วยตีความเนื่องจากไม่มั่นใจ ว่ารัฐบาลชุดนี้สามารถออกเป็นพระราชกฤษฎีกา(พรฎ.)ปรับลดอัตราภาษี ได้หรือไม่ และจะไปขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่ห้ามรัฐบาลรักษาการดำเนินนโยบายผูกพัน รัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ แต่ถ้าไม่ต่ออายุจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างมาก แม้ว่าจะถามเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ ก็ต้องมีความชัดเจนในกฎหมายก่อนรัฐบาลชุดนี้ทำได้หรือไม่”

 

ทั้งนี้ ภาษีแวตนั้นต้องประกาศต่อก่อนหมดอายุอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อให้ภาคธุรกิจได้มีเวลาเตรียมตัว เดิมทีมีการต่ออายุทุก 2 ปี แต่คิดว่าหากต่ออายุในช่วงนี้นั้นคงจะทำได้ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งตรงนี้จะไม่เหมือนกับการต่ออายุการลดภาษีน้ำมันดีเซลที่ขออนุญาตไปยัง กกต. เนื่องจากการลดภาษีดีเซลนั้นใช้ประกาศของกระทรวงต่ออายุการลดเดือนต่อเดือน แต่การต่ออายุภาษีแวตต้องออกเป็นพรฎ.คงไม่เหมาะที่จะดำเนินการเดือนต่อเดือน

 

อย่างไรก็ตาม เดิมที่หากมีการเลือกตั้ง 20 ก.ค.57 คิดว่าจะให้รัฐบาลชุดใหม่มาตัดสินใจ แต่ขณะนี้คงต้องเร่งสรุปแล้วว่ารัฐบาลรักษาการจะดำเนินการอย่างไร คาดว่าไม่เกินเดือนมิ.ย.นี้น่าจะได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลรักษาการสามารถต่อภาษี แวตหรือไม่ ควรจะต่ออย่างไร และควรต่อไปนานแค่ไหน หลังจากนั้นจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเสนอไปยังกกต.ต่อไป

 

ส่วนในเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ที่หมดอายุการลด 31 ธ.ค.57 นั้นน่าจะรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาตัดสินใจ เพราะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารอบการเสียภาษีในปี 57 คือในเดือนม.ค.-มี.ค.58 ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลรอบการเสียภาษีของปี 57 คือ พ.ค.58 ดังนั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลรักษาการจะต้องตัดสินใจ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางสรรพากรเสนอต่ออายุแวต ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล มายังกระทรวงการคลัง 1 ปี พร้อมกันนี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เรียกร้องให้ต่ออายุออกไปอย่างน้อย 1 ปีเช่นกัน ซึ่งภาคธุรกิจเรียกร้องให้ประกาศต่ออายุโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และจะได้มีเวลาในการวางแผนการดำเนินธุรกิจปีหน้า เนื่องจากภาษีจะมีผลอย่างมากต่อต้นทุนในการดำเนินงาน

 

 

 

 

 

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ (22/05/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันอังคาร และมีการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบค่อนข้างแคบ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนหลังจากขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ทั้งในด้านบวกและลบ...

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองในภาพรวมตลอดหลายวันที่ผ่านมา และจะต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้และพรุ่งนี้มีแนวโน้มว่าราคาทองจะยังแกว่งตัวใน กรอบแคบต่อไป โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,291.82 ดอลลาร์ ลดลง 2.08 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,283 และ 1,296 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,900 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,800 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 3.30 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 776.89 ตัน

 

ราคาทองคำปิด ตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันอังคาร บริเวณ 1,290-1,295 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ โดยในระหว่างวันราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนราคาดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง การเคลื่อนไหวโดยรวมเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยในวันนี้จะมีการรายงานดัชนี PMI ภาคบริการของหลายประเทศ ซึ่งคาดว่าคงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองค่อนข้างน้อย

 

ส่วนการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์นี้ ผลสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการราว 3.12 แสนราย จากสัปดาห์ก่อนที่ 2.97 แสนราย และสำหรับราคาทองในประเทศคงยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่จะมีการ แกว่งตัวผันผวนตามประเด็นการเมืองในประเทศ โดยวานนี้เงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นหลังจากแกว่งตัวผันผวนในการซื้อขายวัน อังคาร นักลงทุนเริ่มประเมินว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกอาจเป็นทางออกในการยุติ ปัญหาการเมืองในประเทศ โดยวานนี้มีการเจรจาระหว่างคู่กรณีทางการเมืองและตัวแทนจากพรรคการเมืองและ องค์กรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติปัญหาที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน และส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นตอบรับประเด็นดังกล่าว

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทอง ซึ่งวานนี้ราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ จึงคาดว่าที่แนวรับบริเวณนี้ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถใช้เป็นจุดดีดตัว ของราคาทอง แต่การเคลื่อนไหวโดยรวมยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ และคาดว่าในวันนี้ราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวแคบลักษณะเดียวกับเมื่อ วาน แนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,280 และ 1,265-1,270 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เป็นระดับที่ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมา.

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (22/05/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 49.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 48.1 ในเดือนเม.ย.

 

ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนยังคงหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวในแถลงการณ์ว่า ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตจีนในเดือนพ.ค.ดีดตัวขึ้นอย่างมากแตะระดับ 49.7 จาก 48.1 ในเดือนเม.ย. โดยมีแรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นในวงกว้างทั้งในด้านคำสั่งซื้อใหม่และคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกล็อตใหม่ ซึ่งกลับมาขยายตัวอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีการจ้างงานลดลงต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าบรรยากาศในช่วงขาขึ้นในเดือนนี้ยังไม่ส่งผลต่อตลาดแรงงาน

 

ทั้งนี้ มีสัญญาณบ่งชี้ในเบื้องต้นอยู่บ้างเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาและต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง

 

แต่นายฉูกล่าวว่า ยังคงมีความเสี่ยงช่วงขาลงต่อการขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัว เอชเอสบีซีจึงมองว่าจำเป็นต้องมีการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นเพื่อหนุนการขยายตัวในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 22 พฤษภาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับป๋าาาาาา

 

บ่น ๆ แบบนี้ ผมช้อบชอบ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...