ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

คงเป็นคำตอบให้กับคุณ เต้าหู้ & Darlie ได้นะครับ !

 

สัญชาติญาณความอยากเอาชนะ

วันพุธที่ 28 กรกฏาคม 2010 เวลา 07:30 น. | Author: ธนวัฒน์ สวัสดิ์แก้ว |   

สัญชาติญาณในการอยากจะเอาชนะนั้นมีอยู่ในตัวทุกคน  แต่ว่าความจะเอาชนะคือการอยากจะเอาชนะผู้อื่นแต่ไม่เอาชนะตนเอง  การไม่เอาชนะตนเองนั้นคือทำให้ตนเองยอมรับความจริงในสิ่งที่เป็นไป  หากใครสามารถเอาชนะตนเองได้จะได้การเอาชนะผู้อื่นเป็นของแถมมาด้วยถึงแม้จะไม่ต้องการก็ตาม  ผู้ที่อยากจะเอาชนะตนเองก็มีความขุ่นมัวแล้วนี่คือเหตุำมาซึ่งความหงุดหงิดในการปฏิบัติธรรม  ผู้ที่ต้องการเอาชนะผู้อื่นหากเอาชนะได้ก็มีความสุขหากไม่ชนะตนเองก็เป็นทุกข์  ผู้แพ้ย่อมตามตอแยผู้ชนะให้มาแข่งขันกับตนใหม่  ผู้ชนะจิตใจเริงร่าแล้วแสดงออกซึ่งการยกตนข่มท่าน  ท้ายสุดทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ต่างก็ทุกข์ไปด้วยกัน

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นที่จะเอาชนะตนเองเท่านั้นโดยเฉพาะการยอมรับความจริง  ด้วยเหตุนี้เองผู้คิดที่จะเอาชนะผู้อื่นจึงกลายเป็นผู้แพ้ตลอดไป  ผู้เอาชนะคนอื่นได้แต่แพ้ตนเองก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ชนะ  ในขณะที่ผู้แพ้ตนเองให้กับความจริงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้แพ้  เรื่องของความจริงความเท็จนั้น  หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลล้วนเป็นสมบัติของแต่ละคน  ความจริงหรือไม่จริงของใครย่อมเป็นของผู้นั้น  ตนเองเป็นอย่างไรไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนที่ตนเป็น  เราอาจจะคาดการณ์ความเป็นไปของผู้อื่นได้ด้วยการคาดการณ์ของเรา  แต่สิ่งที่เกดขึ้นแล้วเป็นไปอย่างไรเท่านั้นที่เป็นเรื่องจริง  ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามดีก็ดีแก่ตัวไม่ดีก็ไม่ดีแก่ตัว  เราจะไปคิดแทนคนอื่นหรือหากเราเห็นด้วยกับสิ่งใด  ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะคิดเห็นด้วยหรือไม่กับเรา  เรียกสภาวะเช่นนี้ว่านานาจิตตังอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน

 

ในสภาวะนานาจิตตังที่ว่านั้น  หากทุกคนยอมรับความจริงในสภาวะนานาจิตตังจะทำให้เกิดการยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน  ผู้ที่เอาชนะตนเองได้จะสามารถยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้  ในขณะที่ผู้ไม่สามารถเอาชนะตนเองได้จึงเกิดทุกข์ขึ้นกับตนเอง  ผู้อยากเอาชนะผู้อื่นจะมีความรู้สึกำว่า  "ทำไมเขาไม่รับฟังสิ่งที่เราแนะนำนะ"  ส่วนผู้ที่ให้ความคิดเห็นตามความเป็นจริงจะมีความรู้สึกว่า  ให้ก็สักแต่ว่าให้แสดงความเห็นแล้วก็แล้วกันไป  หากคู่กรณียอมรับความเป็นจริงทั้งสองฝ่าย  จะเกำิดการเคารพในความเห็นซึ่งกันและกัน  เมื่อผู้หนึ่งมีความเห็นใดต่ออีกฝ่าย  ฝ่ายนั้นนำสิ่งที่คู่กรณีไปพิจารณาถ้าจริงก็ยอมรับถ้าไม่จริงก็แย้ง  เมื่อคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแย้งไปแล้วอีกฝ่ายยอมรับคำแย้งนั้น  จะนำไปสู่ข้อยุติการโต้แย้งนั้นแล้วเกิดเป็นความเป็นจริง  แล้วเมื่อความจริงปรากฏแล้วทุกอย่างเป็นอันยุติเรียกว่าความยุติธรรม

 

ผู้ที่อยากจะเอาชนะผู้อื่นหรือถ้าฝ่ายหนึ่งยอมรับความคิดเห็นอีกฝ่ายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น  เมื่อฝ่ายหนึ่งทำความจริงให้ปรากฏเชื่อมโยงเป็นเหตุผลตามเหตุปัจจัยแล้ว  อีกฝ่ายหนึ่งหากไม่ยอมรับความเป็นจริงเมื่อตนรู้สึกแพ้  จะเปิดประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  เมื่อตนแพ้จะเปิดประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ  จนไม่ได้ข้อยุติในทุกประเด็น  กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันเป็นเรื่องที่ฟุ้งเฟ้อ  จับประเด็นในการเถียงไม่ถูกไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร  เกิดความสับสนในเรื่องประเด็นที่ถกเถียงกัน  เถียงกันเอาเป็นเอาตายไม่ได้ข้อยุติ  ในสภาวะเช่นนี้ผู้ที่ทำความจริงให้ปรากฏมีหน้าที่ต้องทำให้ความจริงนั้นปรากฏโดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่  ทำไปเท่าที่ความอดทนของเราพึงมี  หรือทำไปจนกว่าฝ่ายนั้นจะเหนื่อยล้าไปเองแล้วเขาจะหยุดไปเอง  อย่างไรถ้าเขายอมรับความจริงไม่ได้ก็ปล่อยเขาไป  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงได้ถูกทำให้ปรากฏแล้ว  หากหยุดโดยไม่ตอบโต้จะทำให้เกิดความเท็จไปทำร้ายผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องได้อีก  บาปนั้นจะตกอยู่กับตนที่รู้ทั้งรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรแต่มีเจตนาไม่ทำให้ปรากฏ

 

การตอบโต้ความเห็นของผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ  แล้วโต้ไปเรื่อย ๆ  โดยไม่หยุดนั้น  ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ทำไปด้วยความปล่อยวาง  หากการปล่อยวางคือการไม่ทำอะไรเลยอยู่เฉย ๆ  แม้ผู้อื่นทำความเท็จให้ปรากฦฏ  สังคมที่นำความเท็จไปพิจารณาอาจนำมาสู่ความเสียหายต่อสังคมได้  ด้วยเหตุนี้จนต้องนำความจริงมาสู้กับความเท็จให้ถึงที่สุด  ถึงแม้ว่าจะไม่อยากโต้แย้งหรือต่อล้อต่อเถียงกับผู้ใดก็ตาม  สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้นำมาใช้เป็นหลักการในการแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ดด้้วย

ถูกแก้ไข ธันวาคม 18, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

คุณเด็กขายของคะ ยูอาร์แอล คืออะไร และอีกเรื่องหนึ่งจะต้องจ่ายเท่าไหร่ สำหรับพาสปอร์ต 1 เล่ม 100 ล้าน หรือแค่ 1ล้าน พาสปอร์ตด่วน 1 วันได้เล่มนั้นน่ะค่ะ

[Pete 15,187]

[kh.sathit 13]

โห..ไปแวะดู thai fight เลยหายไปหลายชม. ฝรั่งต่อยมวยไทยได้ฉาดฉาน ไทยก็รวดเร็วรุนแรงขึ้นเวทีสวยขึ้น มีพัฒนาการมนุษย์จริงๆครับ

 

เพราะขาใหญ่ในนั้น อาจแค่เอามาล่อ ช่วงที่จะจ่ายปันผล ราคาหุ้นมักถูกดันขึ้นมาให้สูง ทุกคนมองเหมือนกันหมด พอจ่ายปันผลเสร็จ ราคาหุ้นตก

 

 

ขอบคุณมากครับที่เตือน ขาใหญ่เขาล่อไว้เต็มๆ

จะจัดแนวรับไว้ก่อนปิดสมุดทะเบียน (ฟังจาก money channel ว่าโดยสถิติอาจลาก NAV ได้ถึง 20%เท่ากับที่ตั้งค่าปันผลไว้)

ช่วงรอข่าวคุณเด็กขายของ ก็ขอ exercise บ้างครับ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[Pete 15,187]

ฝรั่งเศส ถูกปรับลดภาพรวมอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ ส่วน เบลเยียม ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ 2 ขั้น

 

 

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิตช์ เรตติ้งส์ ปรับลดภาพรวมอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสเป็น ลบ จากเดิมอยู่ที่ระดับ มีเสถียรภาพ การปรับลดภาพรวมความน่าเชื่อถือเป็นลบหมายความว่า ฝรั่งเศส อาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ภายใน 12-18 เดือน ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ฟิตช์ ยืนยันว่า ขณะนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส ยังคงอยู่ในระดับดีที่สุดคือ ทริปเปิ้ลเอ ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออีกแห่งคือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของเบลเยียมลง 2 ขั้น จากระดับ เอเอ-1 เหลือ เอเอ-3

 

ทั้ง ฟิตช์และมูดีส์ ระบุเหตุผลเดียวกัน ที่ทำให้ฝรั่งเศส ถูกปรับลดภาพรวมความน่าเชื่อถือ และเบลเยียมถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะผลกระทบจากปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งทำให้ รัฐบาลฝรั่งเศส มีความเสี่ยงในภาระหนี้เพิ่มขึ้น ส่วนรัฐบาลเบลเยียม มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ในการระดมทุนในตลาดเงิน ในกรณีของเบลเยียม ยังเป็นเพราะว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเบลเยียมกำลังน่าวิตก และภาคการธนาคารของเบลเยียม กำลังมีปัญหาด้านหนี้สิน ฟิตช์ ยังประกาศว่า กำลังพิจารณาจะลดอันดับความน่าเชื่อถืออีก 6 ชาติยูโรโซน คือ เบลเยียม สเปน สโลวีเนีย อิตาลี ไอร์แลนด์ และไซปรัส หลังจาก ประกาศให้ 6 ชาติดังกล่าว เป็นชาติที่ถูกจับตามองในด้านลบ ซึ่งหมายความว่า อาจถูกลดความน่าเชื่อถือ ภายใน 3 เดือน

Link : http://www.innnews.co.th/ทบทวนอันดับน่าเชื่อถือฝรั่งเศส-เบลเยียม--327427_04.ht

[Pete 15,187]

ECB's Draghi puts hopes on EFSF bailout fund, rules

From reuters.com

Politicians have to move fast to make the European bailout fund operational, as any delay ends up jacking up the cost, European Central Bank President Mario Draghi was quoted as saying Sunday. Draghi also told The Financial Times in an interview that the ECB could not start printing money, adding that any country leaving the euro would be worse off and would still have to go through the same reforms. He said there was no long-term trade-off between growth and austerity. To have a return of confidence in the euro zone, suffering from a sovereign debt crisis which has engulfed several countries,

 

... (full story)

http://www.forexfactory.com/news.php?do=news&id=332307

[tanawatbkk 60]

สวัสดีเฮียเด็กขายของ และเพื่อนๆทุกท่านครับ ขอบคุณข่าวสารต่างๆนะเฮีย...

[Pete 15,187]

European Finance Ministers to Discuss Crisis

 

From bloomberg.com

European finance ministers will seek to meet a self-imposed deadline for drawing additional aid to the debt crisis and cobble together new budget rules as investor confidence that a comprehensive solution is achievable wanes. Euro-area finance ministers will hold a conference call at 3:30 p.m. Brussels time tomorrow to discuss 200 billion euros ($261 billion) in additional funding through the International Monetary Fund and the mechanics of a so-called fiscal compact that was negotiated at a Dec. 9 European Union summit, according to two people familiar with the planning. “They’ll try to get as much

 

... (full story). http://www.forexfactory.com/news.php?do=news&id=332300

 

2 โพสต์ข้างบนนี้ เป็นความพยายามที่เรียกความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินยูโร ให้กลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลงในประเด็นของการประมูลพันธบัตร และการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ใน 2 กองทุน คือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ไอเอ็มเอฟ และ กองทุนรักษาเสถียรภาพของยุโรป

 

[Pete 15,187]

 

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลบ 38.33 จุด แตะที่ 8,363.39 จุดในวันนี้ (19 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของยูโรโซน หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดแนวโน้มอันดับเครดิตของฝรั่งเศสลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" และเตือนว่าอาจลดอันดับเครดิตอีกหกประเทศในยูโรโซน ได้แก่ อิตาลี สเปน เบลเยียม ไอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไซปรัส

          ฟิทช์ระบุว่า ผลการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่มีการใช้แนวทางการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะที่จริงจังและครอบคลุม มีแต่เพียงการบรรลุข้อตกลงทางการเมืองและทางเทคนิคเท่านั้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

[Pete 15,187]

        สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดล่วงหน้าลอนดอนปิดปรับลงท่ามกลางบรรยากาศ การซื้อขายที่ผันผวนในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ ยูโรโซน นอกจากนี้ การปรับสถานะการลงทุนในช่วงสิ้นปีก็ส่งผลให้นักลงทุนขายสัญญา น้ำมันออกมาเมื่อใดก็ตามที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดกรุงลอนดอนอ่อนลง 25  เซนต์  หรือ 0.24 % สู่ 103.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง   102.46-104.56 ดอลลาร์ 

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนใกล้ปิดตลาดสัปดาห์นี้ดิ่งลง 4.85 % จากสัปดาห์ ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการรูดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18  พ.ย.

 

 

 

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันศุกร์  โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยูโรโซน และการร่วงผ่านแนวรับ สำคัญทางเทคนิคลงไปก็กระตุ้นให้มีคำสั่งขายเข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ปรับลง 34 เซนต์ หรือ 0.36 % มาปิด ตลาดที่ 93.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 92.52-94.79 ดอลลาร์  โดยจุดต่ำสุดของวันศุกร์ถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดกรุงลอนดอนอ่อนลง 25 เซนต์  หรือ 0.24 % สู่ 103.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง  102.46-104.56 ดอลลาร์

        เมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบสหรัฐก็ปิดตลาด สัปดาห์นี้ดิ่งลง 5.88 ดอลลาร์ หรือ 5.9 % ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย.

        ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการที่ฟิทช์ประกาศเตือนว่า ฟิทช์อาจจะปรับลด อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกยูโรโซน 7 ประเทศ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส,  อิตาลี, สเปน และเบลเยียม เนื่องจากยูโรโซนขาดแคลนแผนการแบบเบ็ดเสร็จในการ แก้ไขวิกฤติหนี้

        ราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 300 วันที่ 93.20 ดอลลาร์ ลงไปในช่วงใกล้เที่ยง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้มีคำสั่งขายเข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น  อย่างไรก็ดี คำสั่งซื้อชดเชยก่อนช่วงสุดสัปดาห์ช่วยจำกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมัน

        ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในช่วงเช้าจากปัญหาตึงเครียดเรื่องโครงการ นิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยเกาหลีใต้ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัฐบาลอิหร่าน  ทางด้านกรมศุลกากรของรัสเซียแถลงว่า ทางกรมได้ยึดโซเดียม-22 ซึ่งเป็นวัสดุ กัมมันตรังสีจากสัมภาระของผู้โดยสารคนหนึ่งที่วางแผนจะบินไปกรุงเตหะราน

 

[mateenee 9]

European Finance Ministers to Discuss Crisis

 

From bloomberg.com

European finance ministers will seek to meet a self-imposed deadline for drawing additional aid to the debt crisis and cobble together new budget rules as investor confidence that a comprehensive solution is achievable wanes. Euro-area finance ministers will hold a conference call at 3:30 p.m. Brussels time tomorrow to discuss 200 billion euros ($261 billion) in additional funding through the International Monetary Fund and the mechanics of a so-called fiscal compact that was negotiated at a Dec. 9 European Union summit, according to two people familiar with the planning. “They’ll try to get as much

 

... (full story). http://www.forexfactory.com/news.php?do=news&id=332300

 

2 โพสต์ข้างบนนี้ เป็นความพยายามที่เรียกความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินยูโร ให้กลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลงในประเด็นของการประมูลพันธบัตร และการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ใน 2 กองทุน คือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ไอเอ็มเอฟ และ กองทุนรักษาเสถียรภาพของยุโรป

 

ขอบคุณมากคับ คุณเด็กขายของ

ตอนนี้เหมือนจะใช้แค่ "ปาก"เพื่อ "เรียก" ความเชื่อมั่นนะคับ ไร้ซึ่งมาตรการจริงจัง ต้องรอดูกันต่อไป

[Pete 15,187]

By Virginia Harrison, MarketWatch

SYDNEY (MarketWatch) — Asia markets declined in early Monday trade, with technology and retail firms weak, as European debt concerns again provided the backdrop to an expected quiet week of trading.

 

Japan’s Nikkei Stock Average JP:NIK -0.82%  lost 0.8%, Australia’s S&P/ASX 200 index AU:XJO -2.13%  fell 2.2%, and South Korea’s Kospi KR:0100 -2.03%  dropped 1.7%.

[namchiang 468]

อรุณสวัสดิ์เช้าวันจันทร์ครับทุกๆท่าน

ช่วงนี้เล่น GF ยากมากๆครับ

มีความเสี่ยงในการลงทุนมาก

 

 

คนต่อคิวซื้อทองแท่งคึกคักเหตุราคาร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 18 เดือนธันวาคม พ.ศ.2554 14:20 น.

 

"จิตติ" เผย คนต่อคิวซื้อทองแท่งคึกคัก เหตุราคาร่วง และบางส่วนนำไปเป็นของขวัญปีใหม่

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อขายทองในขณะนี้ มีความคึกคัก เนื่องจากราคาทองได้มีการปรับตัวลดลง ทำให้ประชาชนหันมาซื้อทองเพื่อนำมาเป็นของขวัญปีใหม่ รวมทั้งเก็บสะสมเป็นสมบัติของตนเอง หลังจากก่อนหน้านี้ ราคาทองได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่บรรดาบริษัทและร้านค้าต่างๆ ที่นิยมสั่งทำของชำร่วยด้วยทองคำสำหรับสมนาคุณแก่ผู้มีอุปการะคุณในเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่ได้ตกลงกับร้านค้าทอง และทำการสั่งซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และได้มีการส่งมอบไปเรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับรูปแบบทองรูปพรรณที่ประชาทั่วไปเลือกซื้อ ส่วนใหญ่จะเลือกทองรูปพรรณที่มีรูปแบบค่อนข้างโปร่ง ทำให้ดูมีมูลค่า แต่ราคาไม่แพงมาก ซึ่งเหมาะที่นำมาเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่

 

Link : http://www.innnews.co.th/คนต่อคิวซื้อทองแท่งคึกคักเหตุราคาร่วง--327350_02.html

[Pete 15,187]

รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยุโรปจะประชุมร่วมกันในวันนี้เวลา 15.30 น.ตามเวลากรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับเงื่อนไขและกำหนดเวลาในการให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ โดยผ่านการอัดฉีดเงินทุนเพิ่มอีก 2 แสนล้านยูโร หรือ 2.61 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และใช้กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เป็นเครื่องมือในการกู้วิกฤตหนี้ยุโรป ตามมติที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา

 

ในการประชุมอียูครั้งล่าสุดนั้น ที่ประชุมมีมติให้ใช้ "บทบัญญัติทางการคลัง" (fiscal compact) ฉบับใหม่ ที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) แทนการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาของอียู พร้อมให้ร่นระยะเวลาการใช้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี และจัดหาเงินทุนวงเงิน 2 แสนล้านยูโรให้กับไอเอ็มเอฟ เพื่อช่วยให้ไอเอ็มเอฟมีศักยภาพในการแก้ไขวิกฤติหนี้สินยูโรโซนได้มากขึ้น โดยประเทศสมาชิกอียูจะกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายในระยะเวลา 10 วันนับตั้งแต่การประชุมเสร็จสิ้นลง

 

ในเบื้องต้นนั้น ที่ประชุมอียูตกลงกันว่าจะให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในยุโรปเป็นผู้จัดหาเงินทุนให้กับไอเอ็มเอฟ โดยธนาคารกลางของกลุ่มยูโรโซนจะรับภาระจัดหาเงินทุนในวงเงิน 1.50 แสนล้านยูโร ส่วนที่เหลืออีก 5 หมื่นล้านยูโรจะรับภาระโดยธนาคารกลางของอังกฤษและประเทศอื่นๆนอกกลุ่มยูโรโซน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) – (วันที่ 19 ธันวาคม 2554)