ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (01/02/2556)

คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,662.00 USDต่อออนซ์ลดลง 19.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,658.40 — 1,681.70 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงโดยมีแรงขายทำกำไรหลังจากการทะยานขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,680 ได้ และราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับบริเวณ 1,672 นักลงทุนขายทำกำไรเพื่อจะรอดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งงานและอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 7.8% ในเดือนม.ค. ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยมาอยู่ที่ระดับ 1.361 USDต่อยูโร แต่ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับตัวลดลงเนื่องจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,660 USDต่อออนซ์ ราคาหลุดเส้น MA 200 วันลงมาอีกครั้งได้ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,670/1,680 แนวรับบริเวณ 1,655/1,650 แนะนำ ถ้าเปิด Short ไว้ให้ปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ จากนั้นรอการยืนเหนือบริเวณ 1,650 — 1,655 ได้ค่อยเปิด Long เล่นรอบใหม่ หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

Spot Gold

 

Technical Analysis

 

ภาพกราฟราย 4 ช.ม. มีแรงขายทำกำไรหลังจากการทะยานขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,680 ได้ ราคาหลุดเส้น MA 200 วันลงมาอีกครั้ง คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,670/1,680 แนวรับบริเวณ 1,655/1,650 แนะนำ ถ้าเปิด Short ไว้ ให้ปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ จากนั้นรอการยืนเหนือบริเวณ 1,650 — 1,655 ได้ค่อยเปิด Long เล่นรอบใหม่ หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

Key Point in Precious Market

 

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง (+) ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ( + ) ราคาน้ำมันปรับลดลง ( - ) เงินบาทแข๊งค่าขึ้น ( - ) เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ และอัดฉีดเงินเข้าระบบ ( + )

 

- ประเด็นที่ต้องติดตาม การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และ ญี่ปุ่น การประชุมของธนาคารกลางยุโรป 7 ก.พ.

 

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันศุกร์ ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ม.ค., อัตราการว่างงาน เดือน ม.ค., ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อในภาคธุรกิจ เดือน ม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อในภาคธุรกิจ ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง

 

- SPDR ถือทองจำนวน 1,328.09 ตัน

 

Spot Silver

 

ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.35 USDต่อออนซ์ลดลง 0.83 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.12 — 32.13 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาดีดตัวขึ้นแต่ติดแนวต้านบริเวณเส้น MA 400 วันและ 100 วัน ทำให้มีแรงขายทำกำไร และราคาปรับลดลงแรง วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 31.6/31.75 มีแนวรับบริเวณ 31.1/30.9 โดย ishares silver trust ขาย 64.67 ตันถือโลหะเงินจำนวน 10,378.52 ตัน แนะนำ ปิด Short ทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กุนซือศก.เสียงแตก!แก้บาทแข็ง(01/02/2556)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวภายหลังหารือร่วมกับทีมเศรษฐกิจและนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นซึ่งอาจส่งผลให้เอสเอ็มอีส่งออกบางส่วนได้รับความลำบากเพิ่มขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) รายงานว่าเป็นผลมาจากเงินทุนไหลเข้าช่วงสั้นๆ ที่หากเป็นการเข้ามาในระยะ 1 เดือนจึงเกิดความเสี่ยง

 

"ที่ประชุมมีความเป็นห่วงว่าเงินที่ไหลเข้ามาในตราสารหนี้และตลาดหุ้นทำให้ค่าเงินแข็ง และไม่มีหลักประกันว่าจะอยู่ในระยาว แม้จะมีมาตรการระยะกลางและยาวลดแรงกดดันได้ แต่นายวีระพงษ์ รามางกูร ประธาน ธปท. และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เห็นตรงกันว่าควรมีมาตรการหรือนโยบายทางการเงินเพื่อดูแลการไหลเข้าของเงินทุนในช่วงสั้นๆ นี้หรือไม่ แต่ผมยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีความคิดจะใช้มาตรการควบคุมการไหลเข้าออกของเงินทุนโดยเฉพาะมาตรการภาษี หลังจากนี้ผมคงต้องหารือกับธปท.อีกครั้งในฐานะที่ทำหน้าที่กำกับดูแลนโยบายการเงิน” นายกิตติรัตน์กล่าว

 

ด้านนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท. กล่าวว่า การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศอาจสร้างปัญหาฟองสบู่ในหลายๆ ตลาด โดยเงินทุนที่เข้ามานั้นเป็นผลจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยที่สูงกว่าดอกเบี้ยต่างประเทศ ดังนั้นวิธีที่จะลดการไหลเข้าของเงินทุนได้ดีที่สุดคือ การลดดอกเบี้ยนโยบายลงแต่ที่กังวลคือเกรงว่า ธปท.จะเห็นสัญญาณเศรษฐกิจเติบโตร้อนแรงแล้วยิ่งไปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น

 

ขณะที่นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานคณะกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้านั้น อาจไปสร้างปัจจัยเสี่ยงในอีกด้าน โดยเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น ดังนั้นเครื่องมือในการดูแลจึงควรต้องใช้เครื่องมือต่างๆ ที่ผสมผสานกัน ซึ่งแบงก์ชาติเคยผ่านเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง จึงเชื่อว่าครั้งนี้ก็น่าจะผ่านไปได้เช่นกัน

 

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างมาก เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ 8.9 นั้น สรท.มองไว้ที่ระดับ 6.9% หากค่าเงินยังแข็งต่อเนื่องก็ยิ่งทำให้การส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการคาดการณ์ที่ระดับ 29.731.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยทั้งปีที่ 30.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 31.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยสศค.ประเมินว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1% จะกระทบกับการส่งออก 0.4% กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2.3% แต่ส่งผลดีให้เงินเฟ้อลดลง 0.2% ซึ่งขณะนี้มองว่ายังไม่กระทบกับจีดีพีปีนี้ที่คาดไว้ขยายตัวในระดับ 5% ส่วนไตรมาส 4 ปีก่อนเชื่อว่าขยายตัวไม่น้อยกว่า 15.9% ส่งผลให้ทั้งปี 2555 น่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5.7%

 

ที่มา : คมชัดลึก(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์ขึ้นเล็กน้อย หลังต่างชาติไม่ได้ขายต่อเนื่อง (01/02/2556)

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ขึ้นได้เล็กน้อย ซึ่งโดยรวมคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้อยู่ในลักษณะทรงตัว เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติจะเห็นได้ว่าไม่ได้ขายต่อเนื่อง

 

แม้ว่าตลาดฯจะอยู่ในเขต Overbought แต่ก็ลดน้อยลง ทำให้อาจมีการเก็งกำไรเข้ามาในตลาดฯได้ โดยเชื่อว่านักลงทุนคงจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวอยู่ เนื่องจากทิศทางของตลาดบ้านเรายังเป็นขาขึ้นอยู่ โดยมองจากสภาพคล่องที่ยังมีอยู่มาก เพียงแต่ระหว่างทางอาจจะเจอแรงขายทำกำไรบ้าง

 

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,470 จุด แนวต้าน 1,487 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 29.83/85 ทรงตัวจากวานนี้ นลท.รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ (01/02/2556)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.83/85 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.81/83 บาท/ดอลลาร์

 

 

"ระหว่างวันมองแกว่งๆ นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ" นักบริหารเงินกล่าว

 

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 91.74/76 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากระดับ 91.02/04 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3614/3616 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากระดับ 1.3562/3566 ดอลลาร์/ยูโร

 

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 29.81-29.90 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยามบ่าย ฝรั่งตื่นนอนมาวิเคราะห์วิเดา ก็ยังมองว่า 50:50 ขึ้นอยู่กับกองทุนฯ ขาใหญ่จะเข้าหรือไม่ จังหวะจะเกิดสลับกับเมื่อวานนี้ ขอให้เห็น 1666 สิ่งนี้ก็อาจจะกลับมาเดินไปข้างหน้าได้ ถ้ายังยืนเพียงเท่านี้ 1662-1665 ความเสี่ยงที่จะย่อมีตลอดเวลา

 

ปล. สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่ออยู่เสมอ คือ 1. วันหวยออก ราคาทองมักจะขึ้น. 2. เมื่อนักลงทุนพื้นฐานกลัวหนีตาย ทองมักจะ Rebound 3. เมื่อเส้นสัญญานฯออกมาทับกัน จนเสี่ยงเพื่อให้ได้ลาภก้อนใหญ่ 4. ผิดหลักการมากๆ ที่ดอลล์อ่อนแล้วราคาทองลง ต้องกลับมาให้ถูกทาง. 5. ราคาทองลงมาสู่ 1657 แล้วไม่หลุด

 

หุหุ ถ้าผิดพลาด ก็อย่าด่ากรูเยอะ สำนึกผิดไม่ทัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Futures for the German DAX 30 (+0.02%) and the French CAC 40 (+0.14%) ahead of Markit PMI data, and EMU CPI and unemployment rate. WTI crude oil is up to $97.65 (+0.14%) and Gold eases to $1664 (-0.66%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ​เยอรมนีมั่น​ใจประชุมอียูราบรื่น ขณะนายกฯอิตาลีหนุนยู​โร​โซน​เติบ​โต(01/02/2556)

นางอัง​เกลา ​แมร์​เคิล นายกรัฐมนตรี​เยอรมนี​แสดงมุมมองที่​เป็นบวกต่อ​การประชุมสุดยอดของอียู​ใน​ เรื่องงบประมาณ​ในระยะยาวที่จะมีขึ้น​โดยระบุว่า จะต้อง​เกิดผลอย่าง​แน่นอน

 

นาง​แมร์​เคิลกล่าวก่อน​เข้าประชุมร่วมกับนายมาริ​โอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี​ในกรุง​เบอร์ลินว่า “ดิฉันมีมุมมองที่​เป็นบวกต่อข้อสงสัย​ใน​เรื่องงบประมาณ​ในระยะยาวของอียู ว่า​เราจะประสบ​ความสำ​เร็จ ​และ​เราจะสามารถบรรลุข้อตกลง​ได้"

 

​ทั้งอิตาลี​และ​เยอรมนีต่าง​ก็​เป็น​ผู้จ่าย​เงินสมทบสุทธิ​และมีผลประ​ โยชน์ร่วมกัน ​แต่ธรรมชาติของ​การประชุม​ใน​เรื่องดังกล่าว​ไม่​ใช่​เรื่องง่าย​เนื่องจาก อิตาลีจะต้องอธิบายกรณีของตัว​เอง​ให้ชัด​เจน" นาง​แมร์​เคิลกล่าว

 

นายมอนติ ​ซึ่งกำลังล็อบบี้ประ​เทศยุ​โรปด้วยข้อ​เสนอที่มุ่ง​ไปที่​การขยายตัว​และ​ การ​ทำงานร่วมกัน กล่าวว่า​การจ่าย​เงินสมทบงบประมาณอียูตามกำหนดของอิตาลีถือ​เป็นจำนวนที่ สูง​เกิน​ไป​เมื่อ​เทียบกับประ​เทศของ​เขา​ซึ่งมียอดหนี้สินจำนวนมาก

 

“​เป็น​เรื่องสำคัญที่​การจ่าย​เงินสมทบของอิตาลีจะต้องมีสัดส่วนที่​ เหมาะสม​และยุติธรรม​เมื่อ​เปรียบ​เทียบกับประ​เทศ​ผู้จ่าย​เงินสมทบสุทธิ อื่นๆ" นายมอนติกล่าว พร้อมกับ​เสริมว่า ​เป็น​เรื่องที่​ไม่ยุติธรรมที่อิตาลีจ่าย​เงินสมทบ​เพิ่มขึ้น​เนื่องจากประ ​เทศค่อนข้างมี​ความมั่งคั่ง หลังจากที่​เขา​ได้​เรียกร้อง​ให้ระบบ​การจ่ายคืน​เงิน​ให้กับบางประ​เทศจะ ต้องมี​ความ​โปร่ง​ใส​และยุติธรรมมากขึ้น

 

​ทั้งนี้ ​ผู้นำประ​เทศอียูมีกำหนดจะประชุมกันที่กรุงบรัส​เซลส์​ในสัปดาห์หน้า​เพื่อ หารือ​ใน​เรื่องงบประมาณสำหรับปี 2557-2563 ของ​ทั้ง 27 ประ​เทศ ​ซึ่งยัง​ไม่สามารถตกลงกัน​ได้​ใน​การประชุมครั้งก่อน​เมื่อ​เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

นายมอนติกล่าวย้ำว่า อิตาลีกำลังห่วงว่า จำ​เป็นที่​โครง​การด้าน​การ​เงินต่างๆที่อียู​ได้กำหนดขึ้น​เพื่อ​การขยาย ตัวทาง​เศรษฐกิจ​และ​การจ้างงานอย่างยั่งยืน จะต้องมี​ความพอดีกับ​ความทะ​เยอทะยาน​และ​ความ​เป็นปึก​แผ่นของภูมิภาค สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

ไอเอ็มเอฟเล็งปรับรูปแบบลงมติ(01/02/2556)

ไอเอ็มเอฟ เตรียมปรับรูปแบบการลงมติใหม่ ภายใต้เงื่อนไขการปฎิรูปโควต้าและการจัดระบบภายใน

 

องค์กรกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ กล่าวถึงความคืบหน้าครั้งสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจการลงมติรูปแบบใหม่ สำหรับประเทศสมาชิก

 

แต่ยังคงมีความเห็นต่างในหลักเกณฑ์ดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขของการปฏิรูปโควต้าและระบบการจัดการภายในองค์กรที่มีมา ตั้งแต่ปี 2553 คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟมีเวลาถึงสิ้นเดือนมกราคม เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์ดังกล่าวซึ่งจะมีผลต่ออำนาจการลงมติของสมาชิก 188 ประเทศ

 

สำหรับหลักเกณฑ์นี้ ยึดหลักของขนาดเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ โดยประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือจีดีพีและการมีส่วนร่วมกับ เศรษฐกิจโลก

 

ที่ผ่านมา ประเทศตลาดเกิดใหม่รวมถึงประเทศกำลังพัฒนา เรียกร้องมาเป็นเวลาหลายปีให้ปรับโครงสร้างการลงมติให้กับประเทศตน ซึ่งมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจโลก

 

ข้อสรุป ของการแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนมกราคม 2557 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทโดยเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนในครั้งนี้

 

ที่มา : money channel (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัตราการว่างงานสหรัฐเดือนม.ค.ลดลงเล็กน้อย(01/02/2556)

วันนี้ ( 1 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า อัตราการว่างงานของชาวอเมริกันประจำเดือนม.ค.ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้านี้ ด้านนักวิเคราะห์มองว่า อาจถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุอัตราการว่างงานของชาวอเมริกันประจำเดือนม.ค. ว่าอยู่ที่ 7.7% ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับสถิติประจำเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 7.8% ขณะที่อัตราการจ้างงานใหม่ประจำเดือนอยู่ที่ 180,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นถึง 25,000 ตำแหน่งจากเมื่อเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 155,000 ตำแหน่ง ถือเป็นจำนวนที่อยู่ในระดับค่อนข้างน่าพอใจและเป็นไปตามเกณฑ์เฉลี่ยตำแหน่ง งานใหม่รายเดือน ระหว่างปี 2554-2555 ซึ่งอยู่ที่ 153,000 ตำแหน่งต่อเดือน

 

 

ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยรายงานที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 อยู่ที่ 3.0% ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับตัวเลข 3.1% ในไตรมาสที่ 3 ของปีเดียวกัน แม้จะถือเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจครั้งแรกในรอบ 4 ปี แต่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.2% เพิ่มขึ้น 0.4% จากเมื่อปี 2554

 

 

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์มองว่า อัตราการว่างงานที่ลดลง และจำนวนตำแหน่งงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นไปตามนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) ที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่มีอัตราต่ำเป็นพิเศษ ไว้ที่ระหว่าง 0-0.25% ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 ( คิวอี 4 ) ที่บังคับใช้เมื่อเดือนธ.ค. ซึ่งตั้งเป้าดึงอัตราการว่างงานของชาวอเมริกันให้ลดลงต่ำกว่า 6.5% โดยเร็วที่สุด

 

ที่มา : เดลินิวส์(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

ดอลลาร์​แข็งค่าสูงสุด​ในรอบกว่า 2 ปี รับข้อมูล​เศรษฐกิจสหรัฐสด​ใส(01/02/2556)

ดอลลาร์​แข็งค่าสูงสุด​ในรอบ 2 ปี 8 ​เดือน ​แตะกรอบบนของ 91 ​เยน​ใน​การซื้อขาย​เช้านี้ที่ตลาดปริวรรต​เงิน​เตรา​โต​เกียว ​ซึ่งขยายช่วงบวกต่อ​เนื่องจาก​เมื่อคืนนี้ที่ตลาดนิวยอร์กจากข้อมูล​ เศรษฐกิจสหรัฐที่​แข็ง​แกร่ง

 

​เมื่อ​เที่ยงวันนี้ตาม​เวลา​ในญี่ปุ่น ดอลลาร์​เคลื่อน​ไหวอยู่ที่ 91.78-91.79 ​เยน ​เมื่อ​เทียบกับ 91.65-91.75 ​เยนที่ตลาดนิวยอร์ก ​และ 90.91-90.92 ​เยนที่ตลาด​โต​เกียว​เมื่อ​เวลา 17.00 น. วานนี้

 

สำหรับยู​โรอยู่ที่ 1.3605-1.3609 ดอลลาร์ ​และ 124.87-124.90 ​เยน ​เมื่อ​เทียบกับ 1.3576-1.3586 ดอลลาร์ ​และ 124.47-124.57 ​เยนที่ตลาดนิวยอร์ก ​และ 1.3551-1.3552 ดอลลาร์ ​และ 123.19-123.23 ​เยนที่ตลาด​โต​เกียว​ใน​เย็นวานนี้

 

ค่า​เงินดอลลาร์พุ่งขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ​เปิด​เผยว่า ราย​ได้ส่วนบุคคล​เดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.6% ​ซึ่ง​เป็น​การปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้ง​แต่​เดือนธ.ค. ปี 2547 ​และมากกว่าที่นักวิ​เคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น​เพียง 0.8%

 

ขณะที่ตัว​เลข​การ​ใช้จ่ายส่วนบุคคล​เดือนธ.ค.ปรับตัว​เพิ่มขึ้น 0.2% ​ซึ่งสอดคล้องกับ​การคาด​การณ์ของนักวิ​เคราะห์ส่วน​ใหญ่ สะท้อน​ให้​เห็นว่าตัว​เลข​การ​ใช้จ่าย​ผู้บริ​โภคจะยังคง​เป็น​แรงขับ​ เคลื่อนหลักของ​เศรษฐกิจสหรัฐ​ในช่วงต้นปีนี้ สำนักข่าว​เกียว​โดรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันก่อนซื้อทองแท่งเข้าที่ 23,510 บาท เมื่อวานเช้า ถ้าขายก็ได้ 23,630 บาท กำไรบาทละ 120 บาท หุหุ เสือ(ก) ไม่ขาย วันนี้ราคาประกาศครั้งที่ 1 ไปดูว่า อาแปะ นาย จ. ขายเท่าไหร่ หุหุ 23,510 บาท แหม่งเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ เสียจังหวะไปฟรีๆๆ กำไรอยู่เห็นๆ โบยบินไปเพราะ ความงก จำใส่กะโหลกไว้ว่า ช่วงนี้ ใส่ขาสั้นอย่างเดียว ห้ามใส่ขายาว มันร้อนจริงๆๆ แหวะๆๆ อยากบ่นให้หายอึดอัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาดหุ้นยุโรปดีดตัววันนี้ หวังข้อมูลจ้างงานสหรัฐสร้างเซอร์ไพรส์คืนนี้

 

 

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า หุ้นยุโรปจะเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่ นักลงทุนคาดว่าข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะออกมาดีเกินคาด ในวันนี้ และการพุ่งขึ้นของราคาโลหะจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมือง

 

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นอังกฤษจะเปิดตลาด เพิ่มขึ้น 6-13 จุด หรือ 0.2%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีจะเปิดตลาดเพิ่มขึ้น 8-19 จุด หรือ 0.2% และดัชนี CAC ตลาดหุ้นฝรั่งเศสจะเปิดตลาดทรงตัว

 

เมื่อวานนี้ ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรป ปิดปรับตัวลง 0.56% สู่ระดับ 1,164.53

นักลงทุนจะรอดูข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 155,000 ตำแหน่ง ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อย แต่อัตราว่างงานจะทรงตัว ที่ 7.8%

 

"แม้ตลาดหุ้นปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ช่วงขาขึ้น ก็ไม่ได้ถูกทำลายไปมากเกินไป" นายโจนาธาน ซูดาเรีย ดีลเลอร์จากแคปิตอล สเปรดส์ กล่าว

 

"เทรดเดอร์กำลังมีความหวังว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะสามารถกระตุ้นให้ตลาดมีความเชื่อมั่นอีกครั้งด้วยการเปิดเผยตัวเลขที่มากเกิน คาดเหมือนกับข้อมูลของ ADP ในสัปดาห์นี้"

 

ADP Employer Services เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ในเดือนธ.ค. และตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีปัจจัยพื้นฐาน ที่แข็งแกร่ง

 

อย่างไรก็ดี ตลาดอาจถูกสกัดช่วงบวก หลังการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งลดลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และตอกย้ำว่าเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เงินเยนอ่อนหนุนนิกเกอิปิดบวก 52.68 จุด

 

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ โดยดัชนีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 33 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 52.68 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 11,191.34 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันก่อนซื้อทองแท่งเข้าที่ 23,510 บาท เมื่อวานเช้า ถ้าขายก็ได้ 23,630 บาท กำไรบาทละ 120 บาท หุหุ เสือ(ก) ไม่ขาย วันนี้ราคาประกาศครั้งที่ 1 ไปดูว่า อาแปะ นาย จ. ขายเท่าไหร่ หุหุ 23,510 บาท แหม่งเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ เสียจังหวะไปฟรีๆๆ กำไรอยู่เห็นๆ โบยบินไปเพราะ ความงก จำใส่กะโหลกไว้ว่า ช่วงนี้ ใส่ขาสั้นอย่างเดียว ห้ามใส่ขายาว มันร้อนจริงๆๆ แหวะๆๆ อยากบ่นให้หายอึดอัด

 

กร๊ากกกกกกกกกกกกกก

อยากหัวเราะเฮีย. อึดอัดเหมือนกันเลย หลายครั้งแระตัดสินใจผิดตลอด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...